3
เป้าหมายที่ต้องพิชิต
‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’
อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆ
เจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่
“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว่านี่คือโอกาสคืออะไร?”
“โอ๊ย! ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! ก็ไม่ได้มีใครบังคับสักหน่อย! อยู่ๆ ทำไมไปแต่งงานซะได้?!”
“ก็เพราะเรารักเขาไง แต่มันใช่เหรอวะ?! ไอ้ที่คิดว่าแต่งงานกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองมันจะโลกสวยเกินไปไหม? สมัยนี้สิ่งเร้ามันเยอะจะตาย…ไม่ได้รักกันง่ายเหมือนคนรุ่นย่าหรอก!”
“อิงค์คุยกับใครน่ะลูก?”
“แม่?!” ลูกสาวรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียง เพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้ปิดประตูห้องนอน แม่คงได้ยินหมดแล้วทั้งหมดที่คุยกับตัวเอง
“แม่คุยกับป้าทิพย์เขาแล้วนะ” นวลจันทร์เข้ามานั่งข้างๆ ลูกสาว ดึงมือเล็กมาดูแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางข้างซ้าย ตอนที่เจ้าบ่าวสวมมัน…เขาไม่มีสติด้วยซ้ำ “ป้าทิพย์เขาไม่ได้อยากให้มีการหย่ากันหลังจากนี้ วันมะรืนเขาอยากให้เราขึ้นกรุงเทพไปจดทะเบียนสมรส แล้วก็…สินสอดที่เขาให้คือบ้านที่พี่เหนือเขาสร้างขึ้นมาจะกลายเป็นชื่อลูกแต่เพียงผู้เดียว กับเงินแล้วก็ทอง รวมๆ แล้วห้าสิบล้านเลยนะลูก”
“ห้าสิบล้าน?”
“ป้าทิพย์เขาอยากให้แม่กับย่าเชื่อมั่นว่าลูกจะไม่เสียเปรียบ และจะได้รับสิ่งที่สมควรจะต้องได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับแม่น่ะ…” นวลจันทร์ถอนหายใจออกมาช้าๆ “แม่อยากให้อิงค์คิดดีๆ อีกสักครั้ง แม่เข้าใจว่าตอนนั้นอิงค์แค่อยากช่วยป้าทิพย์ให้การแต่งงานผ่านพ้นไปก่อน”
“…” มันไม่ใช่แค่นั้น มีเพียงอินทิราคนเดียวที่รู้ว่าเธอไม่ได้แค่อยากช่วย แต่เธอรักเหนือนทีมาตั้งแต่เด็กๆ เธอมองว่าการแต่งงานคือโอกาสที่ดีที่เธอจะได้อยู่ใกล้ๆ ความรักครั้งแรก
“แต่ถ้าอิงค์ยืนยันว่าตัวเองต้องการแบบนี้ แม่จะเรียกให้คนงานที่สวนมาช่วยกันเก็บของ เพราะมะรืนนี้อิงค์ต้องย้ายไปอยู่กับพี่เขา”
“แม่ว่าอิงค์คิดถูกหรือคิดผิดที่แต่งงาน?”
“มันไม่มีผิดมีถูกหรอกลูก ไม่มีใครตอบได้เลยว่าหนูคิดผิดหรือเปล่า เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่มันคงจะดีกว่านี้หากมันเริ่มต้นด้วยความรัก” ได้ยินคำตอบจากแม่ อินทิราก็ได้แต่ถามอยู่ในใจว่าหากมันเริ่มต้นด้วยรักข้างเดียวล่ะ แบบนั้นมันจะดีกว่าเหมือนที่แม่บอกหรือเปล่า
อินทิรานอนกระสับกระส่ายคิดไม่ตกอยู่ค่อนคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่วี่แววของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ไม่รู้นอนจมกองขวดเหล้าอยู่หรือว่ายังไม่ตื่นกันแน่ นี่เขารู้ตัวว่าแต่งงานกับเธอแล้วหรือยังก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ ให้ตายยังไงคืนนี้อินทิราก็นอนไม่หลับ แล้วก็ทนเพิกเฉยต่อคำถามมากมายกับสายเรียกเข้าที่ดังไม่หยุดได้แล้ว คืนนี้เป็นคืนวันเสาร์ เธอรู้ว่าค่ำคืนแบบนี้เพื่อนๆ ของเธอจะไปรวมกลุ่มกันอยู่ที่ไหน
พอมาถึงร้านเหล้าของฟองเบียร์ รุ่นพี่เพศทางเลือกที่เป็นเพื่อนของเหนือนที อินทิราก็ได้คำตอบว่าเธอไม่จำเป็นต้องเล่าอะไรมากมาย เพื่อนทั้งสามของเธอคงได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากปากฟองเบียร์แล้ว
“พล็อตนิยายชัดๆ แต่มึงใช่นางเอกแน่เหรอวะไอ้อิงค์?” ลูกเป็ด เพื่อนรักตั้งแต่อนุบาลคนที่หนึ่งเลิกคิ้วถาม มองยังไงก็ดูไม่ออกว่าอินทิราจะเป็นนางเอกของพล็อตนิยายน้ำเน่าที่เกลื่อนกลาดอยู่ตามเว็บไซต์ออนไลน์ สวมรอยเป็นเจ้าสาวสายฟ้าแลบแล้วได้แต่งงานกับรักแรก ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในชีวิตจริง
“งานนี้อีอิงค์มันต้องเป็นนางร้าย เชื่อกูไหมว่าเดี๋ยวเจ้าสาวตัวจริงจะกลับมา…” กะทิ เพื่อนรักอีกคนเสริมพลางหยิบปลาหมึกมาเคี้ยว เธอคนนี้เป็นนักอ่านตัวยง เห็นด้วยกับกะทิว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับอินทิรามันไม่ต่างอะไรจากพล็อตนิยายตลาด
“เป็นกู กูก็แต่งวะ พวกมึงลองคิดดูนะ…จะมีสักกี่คนที่ได้จะแต่งงานกับรักแรก? จะเป็นนางเอกหรือนางร้ายแล้วต้องสนด้วยเหรอ?” ใบพลู เพื่อนรักคนที่สี่ของกลุ่มมองว่าอินทิราคิดถูก แน่นอนว่าทั้งสามรู้ดีว่าเหนือนทีเป็นรักแรกและรักเดียวของอินทิรา
“ไอ้ที่ว่าแต่งกันไปเดี๋ยวก็รัก…พวกมึงว่าจริงไหม?” เงยหน้าจากแก้วเบียร์แล้วไล่สายตาถามเพื่อนสาวทั้งสาม เธอนั้นรักเขาอยู่แล้ว…ก็อย่างที่รู้เขาเป็นรักแรกของเธอ แต่เขานั้นก็คงมองว่าเธอเป็นแค่เด็กอ้วนน่าแกล้งเพียงเท่านั้น ร้อยทั้งร้อย…เหนือนทีไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่อะไรเธอเลย แล้วเมื่อคืนเขาก็ยังพูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่าจะไม่รักเธอ
“อย่าใช้คำว่ารัก ต้องบอกว่าแต่งงานกันไป อยู่ด้วยกันไปเดี๋ยวก็ผูกพันกันเอง แล้วความผูกพันมันจะยึดเหนี่ยวคนสองคนเอาไว้ มันก็แค่นั้นแหละว่ะ บางทีพวกผู้ใหญ่ก็โลกสวยไปหน่อย คนมันไม่ได้รักกัน…จะให้แต่งงานกันเพราะไม่อยากอับอายขายขี้หน้าแขกที่มางานแค่นั้นเองเหรอวะ? ถามจริงมีแขกในงานคนบ้างที่ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตัวเจ้าสาวก่อนงานเริ่มแค่ไม่กี่นาที?” ลูกเป็ดคือคนที่อยู่กับความเป็นจริงมากที่สุด
“แต่ไอ้อิงค์มันรักพี่เหนือไง แล้วนี่คือโอกาสที่ดีที่สุด มันตามส่องชีวิตพี่เขามากี่ปีแล้ว…งานนี้แต่งงานกันไปก็ได้สัมผัสของจริงแบบไม่ต้องส่องเลยนะ แล้วไอ้ที่ว่าแต่งกันไปเดี๋ยวก็รักกัน…นี่แหละคือมิชชันเว้ย! อีอิงค์มึงอะไม่ต้องคิดอะไรมาก มึงมีมิชชันแล้ว! พี่เหนือคือเป้าหมายที่มึงต้องพิชิต ล่าหัวใจผัวตัวเองแล้วทำให้เขารักเขาหลังมึงแบบหัวปักหัวปำไปเลยค่ะ!” ใบพลูคือแผนกเชียร์อัพเพื่อนมาตลอด
“คนที่โลกสวยคือมึงค่ะใบพลู ถ้าทำยังไงไอ้พี่เหนือมันก็ไม่รักอีอิงค์อะ? คนที่ต้องเสียใจคือเพื่อนเราไม่ใช่เหรอ? ถ้าเกิดแต่งกันไปสักพักพี่เหนือมันนอกใจเพื่อนเราหรือไม่แฟนเก่าก็กลับมาเหมือนในนิยายอะ? คนที่เสียน้ำตาคืออีนี่ค่ะ!” กะทิที่อ่านนิยายแนวนี้มาหลายต่อหลายเรื่องเกิดคำถามขึ้นมาพร้อมกับเฉลยด้วยการชี้หน้าอินทิราว่าคนที่ต้องเสียน้ำตาจะไม่ใช่ใครที่ไหนไกล
“สองปี” ในเวลานั้นอินทิราก็เอ่ยขึ้นมา “กูให้เวลาตัวเองสองปี ถ้ากูทำให้ไอ้พี่เหนือมันรักไม่ได้ แล้วถ้ามันไปเอากับคนอื่น ทำตัวเจ้าชู้เหมือนที่เห็นๆ กัน หรือถ้ายัยไฮโซคนนั้นย้อนกลับมาแล้วไอ้พี่เหนือมันโง่เป็นหมาย้อนกลับไปหานาง กูจะหย่า แต่ก่อนหย่ากูจะทำให้ไอ้พี่เหนือได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวด”
“นี่แหละหนาผู้หญิง…คิดกันเยอะ คิดไปไกลถึงไหนต่อไหน เต้าทุกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เท่าที่ฟังมานี่มีแต่เรื่องที่พวกแกคิดกันไปเองทั้งนั้น” ที่จริงแล้วในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวจากอนุบาลศรีจันทร์วิทยาคมอย่างเดียว แต่ยังมีเจ๊ฟองเบียร์เจ้าของร้านเหล้าฟองเบียร์นั่งอยู่ด้วย “ฟังเจ๊นะอิงค์ ที่แกแต่งงานเพราะอยากช่วยไอ้เหนือมัน เพราะแกรักมัน แค่นั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย แต่งกันแล้วไปไม่รอดก็แค่เลิก อย่าทำชีวิตให้มันยากนักเลย…แล้วจะบอกให้นะ ผู้ชายอย่างเหนือน่ะ ถ้าจะรักเดี๋ยวมันรักเอง ไม่ต้องพยายามไปทำให้มันรักหรอก รู้ใช่ไหมว่าที่เจ๊กล้าพูดก็เพราะเจ๊เป็นเพื่อนมันตั้งแต่อนุบาลเหมือนพวกแกๆ นั่นแหละ”
“เออว่ะ ลืมไปเลยว่าเจ๊ฟองเป็นเพื่อนไอ้พี่เหนือ แล้วพวกเพื่อนๆ เจ๊เขาไม่พูดถึงเรื่องนี้กันเลยเหรอ?” กะทิอดที่จะอยากรู้ไม่ได้
“เพื่อนมันก็งงกันหมด ส่งไอ้เจตน์ที่ซี้กับไอ้เหนือที่สุดไปถามมาแล้ว แต่ก็อย่างที่อิงค์มันเห็นแหละ เหนือแม่งเมาไม่เอาอะไรเลย ไม่พูดอะไรกับใครทั้งนั้น แถมแม่งยังล้มตึงคาเวทีอีก”
“น่าส่งสัยว่ะ แฟนที่คบกันมาตั้งสามปี…อยู่ๆ ทำไมมาหนีไปก่อนวันแต่งงานแค่คืนเดียว?”
“มีชู้ชัวร์กูว่า แบบว่าผู้ชายคนนั้นรวยกว่าแถมแซ่บกว่าพี่เหนือไรงี้”
“เชี่ย! นี่แหละพล็อตนิยายของจริง!” กะทิตบเข่าฉาด อ่านนิยายมาเป็นร้อยเรื่อง ห้าสิบเรื่องมักมีพล็อตแบบนี้ พระเอกกับนางเอกแต่งงานกันโดยที่ไม่รักกัน แต่สุดท้ายก็จบแบบพระเอกวิ่งตามขอความรักจากนางเอกเหมือนไอ้โบ้ “แต่เหนือสิ่งอื่นใจพวกเราชนแก้วค่ะ! อิงค์อ้วนมันมีผัวแล้วโว้ย!”
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
6ผัวที่ดีจะไม่ปล่อยให้เมียหิวซ่า!!!น้ำถังใหญ่ถูกยกมาสาดใส่หน้าลูกชายที่เมาหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงในห้องหอของโรงแรมหรูที่จัดงานแต่งงานเมื่อคืน ต้นคิดเตือนภรรยาแล้วว่าอย่าทำ แต่สามีไม่อาจขัดใจคนเป็นภรรยาได้ บ้านอื่นทำได้หากแต่ไม่ใช่ที่บ้านหลังนี้ ทิพย์นารียกเรื่องธุรกิจให้ต้นคิดดูแล แต่พอเป็นเรื่องลูกชาย เรื่องในบ้านเธอต้องได้จัดการทุกอย่าง“เหนือ! ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”“คุณ…ก็เห็นอยู่ว่าลูกเพิ่งเจอกับอะไรมา ผมว่าเราปล่อยไปก่อนดีไหม?” ต้นคิดพยายามยับยั้ง แต่ก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มันไม่เคยเป็นผลอะไรทั้งนั้น“เจ้าเหนือ! ตื่นขึ้นมา!!!” ไม่เพียงตะโกนเรียกลูกชาย แต่คนเป็นแม่เข้าไปกระชากตัวคนที่ยังไม่สร่างเมาให้ลงมาจากเตียง กลีบกุหลาบยังอยู่ ชุดเจ้าสาวแขนอยู่ตรงนั้น ทว่าเจ้าตัวไม่อยู่แล้ว “ตั้งสติเดี๋ยวนี้เลยนะเจ้าเหนือ!”“อึก!” ลูกชายลืมตาขึ้นมองดูหน้าแม่ สะอึกเอากลิ่นละมุดออกจากปาก“จะว่าแม่ซ้ำเติมแกก็ได้นะ แต่เห็นแล้วใช่ไหมว่าคนที่แกเลือกสุดท้ายก็หันหลังใส่แล้วก็หนีแกไป! หนำซ้ำ…หนูอิงค์ที่แกไม่คิดจะไยดีกลับมาช่วยกู้หน้าแก หน้าพ่อกับแม่ขึ้นมา!”“ยัยอิงค์อ้วนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นึกย
7ไซซ์ห้าสิบหกอินทิราอิ่มจนจุก เอาเข้าจริงโอมากาเสะที่เห็นว่าเป็นคำเล็กๆ กินไปกินก็ทำเอาอิ่มจนแทบเดินไม่ไหว กินเสร็จคุณสามีก็พามาช็อปปิ้งของกินเข้าบ้าน รถเข็นคันใหญ่เต็มไปด้วยของสดและของใช้จำเป็น สองคนที่เป็นเหมือนพี่น้องวัยเด็กเดินไปคุยไป เถียงกันบ้าง ล้อเลียนกันบ้างตามประสาหนุ่มสามที่ยังไม่ได้เสน่หาต่อกัน ที่จริงหากจะพูดให้ถูก…มีฝ่ายหนึ่งที่เสน่หาอยู่ฝ่ายเดียวต่างหาก“เอารสไหน?” อินทิราหยิบคุกกี้ชนิดนิ่มสองรสชาติขึ้นมาถามเหนือนที เป็นรสวานิลลากับช็อกโกแลต ซึ่งเธอกินได้ทั้งสองรส ไม่ว่าเขาจะเลือกรสไหนเธอก็โอเคทั้งนั้น แต่ยังไงก็อยากจะถาม…มันเป็นคำถามอ้อมๆ ที่ทำให้เธอได้รู้จักเขามากขึ้น เพราะเอาเข้าจริงถึงจะเจอกันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้นมาก็ต่างแยกย้าย เธอแทบไม่รู้อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเลย“พี่ไม่ชอบกินคุกกี้ เธอชอบรสไหนก็เอารสนั้นแหละ” สามีไม่ได้รู้สึกสนุกกับการช็อปปิ้งของกินของใช้เข้าบ้าน ตอนนี้ใจเขากำลังจดจ่ออยู่กับบางสิ่งบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ“งั้นเอาช็อกโกแลต” ว่าแล้วก็วางคุกกี้รสช็อกโกแลตลงในรถเข็น ก่อนที่เดินหยิบขนมต่อไปเรื่อยๆ โดยมีคุณสามีทำหน้าที่เข็นรถเข็นตามมา“
8รักอิงค์สิ…พี่เหนือรักอิงค์ได้นะเวลาผ่านไปพักใหญ่…สองคนผัวเมียยังคงนั่งดื่มด้วยกันแต่ย้ายจากที่บาร์เครื่องดื่มมาเป็นที่โซฟาหนังสีขาวตัวยาวในห้องนั่งเล่น เขาและเธอคุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสมัยเด็ก เรื่องเรียนลามไปถึงเรื่องงาน เป็นค่ำคืนที่ยาวนานทว่าต่างฝ่ายกับไม่รู้สึกเบื่อ เหนือนทีเพิ่งจะได้รู้ว่าอินทิราเป็นคนคุยสนุก เธอรับมุกเขาได้ตลอด แล้วก็หัวเราะมุกของเขาแทบทุกมุก นานแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะจนสุดเสียง และไม่คิดว่าจะหัวเราะได้ง่ายๆ อีกครั้งหลังจากที่มีเรื่องให้ต้องเจ็บช้ำมาหยกๆอินทิราดูหนังแนวเดียวกับที่เหนือนทีดู ฟังเพลงใกล้เคียงกับที่เขาฟัง ตลกมุกเดียวกับเขาโดยไม่ต้องพยายาม มุมมองต่างๆ ก็ค่อนข้างไปในทางเดียวกัน มันเป็นความบังเอิญที่เหมาะเจาะ เพราะถ้าให้พูดกันตรงๆ เขาและเธอไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนกัน น่าแปลกใจที่ทำไมถึงมีรสนิยมใกล้เคียงกันแบบนี้“ฮะๆๆ ใช่ๆ อิงค์ก็ชอบหนังโจว ซิง ฉือ แล้วก็ต้องดูพากย์ไทยที่พันธมิตรพากย์ด้วยนะ เรื่องที่ชอบที่สุดคือ…อะไรนะ เรื่องนั้นอะที่มีวลี ‘เจ๊สี่น้ำหดอดล้างตูด’ อะ” อินทิราพูดไปก็หัวเราะไป“คนเล็กหมัดเทวดา”“ใช่ๆ ฉากนี้คือฮามากเลย อิงค์ดูเรื่องนี
*WARNING*มีฉากและบทพูดชวนคลื่นไส้ ไม่เหมาะสมในการอ่านระหว่างทานอาหารนะคะ9เมียต้องช่วยผัวหาเงินจูบไม่ประสีประสาก็ทำให้รู้สึกได้ เหนือสิ่งอื่นใดเหนือนทีก็คือผู้ชายคนหนึ่ง ต่อให้กำลังเสียใจแต่เมื่อถูกจู่โจมด้วยสัมผัสนุ่มนิ่มมีหรือที่เขาจะทนไหว ยิ่งเป็นคนที่ชอบเรื่องใต้สะดืออยู่แล้ว ยิ่งมีความเมามายมาเคลือบคลอเอาไว้ รีบคว้าลำคอเล็กของอีกฝ่ายมาควบคุม จูบตอบด้วยจังหวะที่เร่าร้อนและลึกซึ้ง ครั้งนี้เขาเปิดปากเธอได้สำเร็จ จากที่เป็นฝ่ายตั้งรับในตอนแรก เวลานี้เขากำลังรุกสอดลิ้นอุ่นร้องเข้าโพรงปากเล็ก ตวัดเกี่ยวแล้วดูดดุน ขณะที่วาดลวดลายความร้อนแรงเขาก็สอนอินทิราไปในครางเดียวกัน สลับจังหวะเดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า เอียงใบหน้าไปมาเพื่อปรับเปลี่ยนมุมจูบ ในตอนที่หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทัน เขาก็ถอนจูบให้เธอได้กอบโกยอากาศ แต่ก็ไม่ปล่อยไว้นาน…ประกบปากจูบขบกลีบปากล่าง ดูดกลีบปากบนอย่างต่อเนื่องแค่จูบคงไม่เพียงพอ ความต้องการของเหนือนทีพุ่งไปไกลเกินกว่านี้ คว้าคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก…มือหนาเริ่มล้วงลึกเข้าใต้เสื้อ คว้าตรงไหนได้ก็ขย้ำขยำอย่างมันมือ เธอคนนี้ซ่อนรูป…มองด้วยตาจากภายนอกดูเหมือนไม่มีอะไร
10ไม่ใช่ตัวแทน!อินทิรานั่งมองกระดาษแผ่นในมือที่มีชื่อของเธอและเหนือนที มันคือกระดาษใบเดียวที่บ่งบอกว่าเธอนั้นได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาแล้ว รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก วันนี้ทั้งวันหมดไปกับการจดทะเบียนสมรส มอบสินสอดเป็นเงินสด ทองแท่ง สุดท้ายก็จบที่การโอนบ้านหลังใหญ่จากชื่อเหนือนทีมาเป็นชื่อเธอ ซึ่งทางกฎหมายแล้วทุกอย่างที่อินทิราได้รับในวันนี้จะเป็นของเธอเพียงแต่ผู้เดียว ไม่นับว่าเป็นสินสมรส มันหมายความว่าในอนาคตหากทั้งสองต้องหย่าร้าง เหนือนทีไม่อาจเรียกร้องอะไรคืนได้แม้เพียงเศษเสี้ยว ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาพบปะและพูดคุยรับรู้ถึงการเป็นสามีภรรยากันของทั้งคู่ มอบหลักค้ำประกันว่านับจากนี้พี่เหนือจะต้องดูแลหนูอิงค์ในฐานะสามีอย่างดีที่สุด เสร็จสิ้นเรื่องสำคัญก็ร่วมโต๊ะอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาสองครอบครัวก่อนที่พิสมัยกับนวลจันทร์จะเดินทางกลับจันทบุรีให้เงินให้ทองรวมถึงบ้านยังไม่พอ เหนือนทียังพาอินทิราไปซื้อรถ…ซึ่งรถที่เขาเลือกให้เธอนั้นเป็นรถยนต์สี่ประตูยี่ห้อหรูจากฝั่งยุโรป ตัวท็อปออกมาใหม่ล่าสุด เปิดตัวด้วยโฉมใหม่ที่ล้ำสมัยสมรรถนะดีสมราคาเจ็ดล้านห้าแสนบาท ระบบนิรภัยแบบดีเยี่ยม จ่ายด้วย
11ง้อไม่เป็น“คุยกันหน่อย”เสร็จจากงานคุณสามีก็เข้ามาในห้องนอน ทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมส่งสายตามองดูภรรยาสาวที่กำลังเช็ดผมที่อยู่โต๊ะเครื่องแป้ง เห็นชุดนอนที่เธอใส่แล้วเขาก็อยากจะหลุดขำ เสื้อยืดเก่า ๆ กับกางเกงขายาวย้วย ๆ อดคิดไม่ได้ว่าเธอไม่คิดจะหาชุดนอนเซ็กซี่เย้ายวนมายั่วอารมณ์หื่นของเขาสักนิดเลยหรือยังไง? สงสัยว่าเธอคนนี้จะไม่เสน่หาอะไรในตัวเขาเลยอย่างนั้นสินะ“มีอะไรก็พูดมา” อินทิราทำเสียงแข็ง มองหน้าชายหนุ่มผ่านกระจกใส ขณะเดียวกันก็แอบรู้สึกประหม่าแล้วก็โกรธเขาในคราวเดียวกัน เขาคงไม่แคร์อะไรเธอเลยจริง ๆ ถึงได้กล้าเรียกเธอเป็นชื่อแฟนเก่าแบบนั้น อีกอย่าง…ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ตอนเก็บของต้องรีบขนาดไหนกันเธอถึงได้หยิบเอาชุดนอนเก่า ๆ แบบนี้ออกมา! พรุ่งนี้จะเอาแบล็กการ์ดที่เขาให้ไปรูดถลุงซื้อเสื้อผ้าแพง ๆ มาให้หมด!“นั่นพูดกับผัวเหรอ? แม่เธอไม่ได้สอนหรือไงว่าพูดกับผู้ใหญ่ต้องพูดเพราะ ๆ โดยเฉพาะกับผัวที่แก่กว่าตั้งห้าปี แต่ไม่แน่…แม่อาจจะสอนแล้วแต่แมวดื้อมันเคยจำอะไรซะที่ไหน”“มีอะไรก็พูดมาสิคะพี่เหนือ!”“ประชด?”“จะเอายังไงกันแน่? พูดไม่พอก็บ่น…พอพูดเพราะก็หาว่าประชด อิงค์ตามใจ
49รัก! เมีย! ที่! สุด! เลย!ท่าทีของภรรยาออกจะเคอะเขินอยู่สักนิด เพราะคุณสามเอาแต่นอนนิ่งปลดปล่อยออกมาเพียงเสียงลมหายใจที่ถี่แรงพร้อมกับกระตุกเล็กน้อยในตอนที่โดนเรียวลิ้นเล็กแตะสัมผัสไปทั่วตัว ตอนที่บอกเขาว่าเธอนั้นจะเป็นเสือสาวที่พร้อมจะขย้ำเขาทั้งตัว เขาก็รีบถอดทั้งเสื้อทั้งกางเกงร้องขอให้เธอโกยกินกิน ยิ้มชอบใจเมื่อคนที่คอยเป็นฝ่ายรับมาตลอดตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตารุกใส่เขา เธอละเมียดละไมเลียที่หัวนม ค่อย ๆ ดูดเบา ๆ พอให้เขาได้เสียว ช้อนสายตาขึ้นมองแล้วส่งรอยยิ้ม“เวลาอิงค์เลียแบบนี้พี่เหนือชอบไหม?” เอ่ยถามพร้อมน้ำเสียงแผ่วเบาแฝงเอาไว้ด้วยความกระเส่าสั่น “เวลาโดนดูดที่หัวนม…ผู้ชายเสียวเหมือนกันไหมคะ?”“อื้อ! เสียวสิ…ก็คงจะเหมือนของผู้หญิงนั่นแหละ ดูสิว่ามันแข็งไปหมดแล้ว แค่เธอเลียนิดเดียวพี่ก็แข็งไปทั้งตัว” เหมือนว่าเมียจงใจใช้ความไร้เดียงสา อยากรู้อยากเห็นมายั่วให้เขายิ่งมีอารมณ์ เวลาที่เธอเคลื่อนไหวช้า ๆ อยู่บนตัวเขา เขาสั่นไหวมีอารมณ์ความต้องการ ที่จริงอยากจะจับเธอกดให้จมกับเตียง แล้วกระหน่ำบรรเลงเพลงรักให้รู้แล้วรู้รอด แต่จำต้องทน ต้องอดกลั้นมันไว้เพราะเขาอยากลองเป็นฝ่ายรับดูบ้
48คนติดเมีย“เราไปฮันนิมูนกันจริง ๆ ดีไหม?”เหนือนทีเอ่ยขึ้นมาในตอนที่เขากำลังนอนโอบกอดให้อินทิราหนุนแขนอยู่บนเตียง ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอย่างเป็นทางการ เคลียร์หมดทุกปัญหาที่เคยเกิดขึ้น ต่างคนต่างรู้ว่ารัก ต่างคนก็ต่างเป็นทั้งผู้ให้และผู้ได้รับ เป็นสิ่งที่ภรรยาสาวต้องการตลอด“เราก็ไปฮันนิมูนกันมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” หญิงสาวถามกลับ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่นอนอยู่สูงกว่าเธอ“เอาฮันนิมูนจริง ๆ สิ ครั้งก่อนที่ไปเกาหลีพี่ไปทำงาน ไม่มีเวลาได้พาเธอไปเที่ยวเลย ครั้งนี้พี่อยากให้เราได้ไปเที่ยวกันจริง ๆ ตั้งแต่ที่แต่งงานกันมา พี่ทำแต่งานจนไม่มีเวลาได้สนใจเธอเลย”“เพิ่งรู้ตัวเหรอ?” แกล้งถามพร้อมรอยยิ้ม ได้แต่สงสัยว่าจุดไหนกันที่ทำให้เหนือนทีมองทุกอย่างรอบด้านแล้วก็เป็นช่องโหว่ขึ้นมา“รู้ตัวช้าก็ดีกว่าไม่รู้ตัวเลยไม่ใช่เหรอ? พี่อยากใช้เวลากับเธอ…อยากไปเที่ยวด้วย พี่อยากให้เรามีเวลาคุยกันเยอะ ๆ”“แต่งานพี่เหนือก็เยอะไม่ใช่หรือไง? เรื่องไปเที่ยวน่ะจะไปตอนไหนก็ได้ แต่มันหลายวันแล้วนะที่อิงค์ไม่เห็นพี่เหนือออกไปทำงาน”“ก็พี่อยากอยู่กับเธอ พี่ไม่รู้สึกอยากออกจากบ้านเลย…แค่เธอไปเข้าห้องน้ำพี่ก็คิดถึงแล้ว
47เผชิญหน้าและแล้วเวลาที่อินทิรากลัวมากที่สุดก็มาถึง มันคือวันที่มิรินทร์คนรักเก่าของเหนือนทีกลับมา และมาแสดงตัวอยู่ตรงหน้าเธอ ที่บอกสามีว่ามีนัด…นั่นก็คือนัดของมิรินทร์ ทั้งสองคนมาเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พอมาถึงต่างคนก็ต่างเงียบเอาแต่จ้องมองกันและกันด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ อินทิรานั้นเคยเห็นมิรินทร์แต่เพียงในรูปถ่าย พอได้เจอตัวจริงก็ยอมรับเลยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนสวย รูปลักษณ์ภายนอกดูไฮโซอย่างที่ใครเขาว่ากัน ทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้าและรองเท้า เป็นของแบรนด์เนมด้วยกันทั้งนั้น“เริ่มกันเลยดีไหมคะ? คุณมิรินทร์นัดฉันออกมาทำไมคะ?” สุดท้ายก็เป็นอินทิราที่เริ่มเปิดบทสนทนา กาแฟพร่องจนเหลือแค่ก้นแก้วแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้เหตุผลว่าทำไมมิรินทร์ถึงต้องการจะเจอเธอ“ขอแบบไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกันนะ แล้วก็ขอแทนตัวเองว่าพี่…เพราะพี่น่าจะอายุเยอะกว่าอิงค์”“ค่ะ”“อิงค์เองก็คงรู้จักพราวฟ้า แล้วก็คงรู้แล้วด้วยว่าที่พี่ต้องหนีไปในคืนวันก่อนงานแต่งงานมันเป็นเพราะอะไร พี่แค่อยากจะบอกว่า…พี่อยากได้โอกาสน่ะ พี่กลับมาเพื่อขอโอกาสจากเหนือ พี่ผิดเอง…พี่ยอมรับความผิดทั้งหมด ที่หนีไปตอนนั้นเป็นเพราะพี่เชื่อใจเหนือไ
46ขอโทษและขอบคุณเสร็จจากมื้อเย็นอินทิราก็ขึ้นมานั่งพักบนห้องนอน รอให้อาหารย่อยอย่างเต็มที่แล้วค่อยอาบน้ำ ระหว่างที่รอก็เปิดโซเชียลดูความเคลื่อนไหวของผู้คนไปเรื่อย กระทั่งอยู่ ๆ ก็มีสายเรียกเข้าจากเบอร์แปลกโทรเข้ามา เธอรับสายนั้นโดยไม่คิดอะไร ทว่าพอได้ยินชื่อของอีกฝ่ายตัวก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที[นี่มิรินทร์นะ]“ค่ะ มีธุระอะไรเหรอคะ?”[รู้จักอยู่แล้วสินะคะ เพราะงั้นเข้าเรื่องแบบไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกัน…ฉันอยากเจอคุณเป็นการส่วนตัวค่ะ ขอเป็นพรุ่งนี้…]“เจอเพื่ออะไรคะ? ถึงฉันจะรู้จักคุณ…ถึงจะรู้ว่าคุณเป็นใครแต่เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันจนต้องมาเจอกันเป็นการส่วนตัวนี่คะ”[ทำไมเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันล่ะ? ก็ตอนนี้คุณอินทิรากำลังแต่งงานกับแฟนของฉันอยู่นะคะ ฉันกับเหนือ…เราสองคนยังไม่ได้เลิกกันเลย]“…”[ขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ แล้วฉันก็ไม่อยากให้คุณคิดว่าฉันจะมาหาเรื่องทะเลาะด้วย ฉันแค่…อยากเจอคุณสักครั้ง มาเจอกันนะคะ แล้วฉันจะส่งสถานที่นัดเจอไปให้]มิรินทร์ทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะวางสายไป ซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับที่เหนือนทีเข้ามาในห้องนอนพอดี แน่นอนว่าเขาได้ยิน…และต่อให้ไม่ได้ยินที่ปลายสายพูด
45พี่มีเวลาทั้งชีวิตความรักคือการกระทำไม่ใช่คำพูดเหนือนทีท่องประโยคนั้นอยู่ในใจมาตั้งแต่เช้า ไม่แน่ใจว่าเวลานี้ภรรยาเชื่อบ้างไหมว่าเขารู้ตัวแล้วว่ารักเธอจริง ๆ เขาหันหลังใส่งานที่ออฟฟิศ ไม่สนใจการประชุมใด ๆ ทั้งสิ้น ที่ทำอยู่ตอนนี้คือเก็บกวาดบ้านทั้งหลัง เริ่มตั้งแต่ปัดฝุ่น กวาดบ้าน ตามด้วยการถูพื้น จบท้ายด้วยเช็ดกระจกบานใหญ่ในบ้านทั้งหลัง นี่ไม่ใช่ตัวเขาเลย ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะมีวันที่คนอย่างเขามาตั้งหน้าตั้งตาทำงานบ้านเพื่อง้อเมียแบบนี้โทรศัพท์ของเขามีสายเรียกเข้าดังอยู่ไม่หยุดหย่อน แต่เขาไม่สนใจจะรับสายคนที่โทรเข้ามาเพื่อเรียกตัวให้เขาออกไปทำงาน ที่ออฟฟิศยังดำเนินงานต่อไปได้โดยไม่มีเขา แต่อินทิราอาจไม่รอเขาอีกต่อไปแล้ว เขาจะไม่เสียเธอ จะไม่ทำเธอหลุดมือไปกับแค่เพราะออกไปเซ็นเอกสารไม่กี่ใบแน่ พอเช็ดกระจกเสร็จก็ถึงเวลาที่ต้องเอาผ้าไปซัก เดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมสภาพชุ่มไปด้วยเหงื่อทั้งตัว เห็นภรรยากำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง เขาก็แอบยิ้ม…แปลกใจที่วันนี้เธอไม่ออกไปไหน ปกติไอ้พิชญ์จะต้องหาเรื่องชวนเธอออกไปข้างนอกไม่ใช่หรือยังไง?“วันนี้ไม่ไปไหนเหรอ?” เอ่ยถามขณะที่เอาต
44แค่เธอเท่านั้นอินทิรากลับบ้านมาในตอนเที่ยงคืน ภาพที่เห็นเป็นภาพแรกในตอนเดินเข้ามาในบ้านคือสามีที่นอนกอดขวดเหล้าอยู่ที่พื้น เป็นภาพเดียวกับที่เธอเคยเห็นเมื่อสองปีก่อน สภาพเขาสะบักสะบอม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เนื้อตัวเปียกปอนแถมยังมีรอยเลือด“พี่เหนือ?!” เห็นสภาพเขาแล้วก็ตกใจไม่น้อย รีบเข้าไปพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง “ทำไมสภาพเป็นแบบนี้?!”“อึก! อิงค์เหรอ?” เหนือนทีถูกการ์ดซ้อมมาอย่างหนัก ก็เพราะเขาต้องการจะเข้าไปหาอินทิราในร้านไวน์ มันเป็นการกระทำโง่ ๆ ของคนไร้สติ “อิงค์กลับมาหาพี่แล้วเหรอ?”“ไปมีเรื่องกับใครมา? ทำไมเมาแบบนี้? แล้วทำไม…เลือดเต็มไปหมดแบบนี้?! ตากฝนมาด้วยเหรอ?! พี่เหนือเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?!” เห็นสภาพเขาแบบนี้แล้วเธอจะทำใจแข็งเย็นชาใส่ได้ยังไงกัน?“อิงค์…” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่หมองเศร้าของคนเมา สายตาที่มองเธอมันชัดเจนแล้วว่าเขากำลังทรมาน “เธอมีความสุขไหมเวลาที่อยู่กับไอ้พิชญ์?”“มาถามอะไรตอนนี้? ลุกขึ้นมา…อิงค์จะพาไปทำแผล!”“ตอบพี่สิ…เธอมีความสุขหรือเปล่าที่เราต้องกลายเป็นแบบนี้? ผู้ชายคนอื่นให้ความสุขกับเธอได้มากกว่าพี่ใช่ไหม?” เหนือนทีไม่ยอมทำตามที่อินทิราบอก ทำตัวแข็
43อากาศหายใจด้วยเงินและคอนเนคชันของเพลิงกัลป์ทำให้เหนือนทีได้มานั่งอยู่ในคอนเสิร์ตดนตรีแจ๊ส เวลานี้ชายหนุ่มกำลังเพ่งสายตามองหน้าอินทิราอย่างจดจ่อ เขามองหาเธออยู่นาน จนในที่สุดก็ได้เห็นเธอกำลังที่กำลังนั่งอยู่ไกล ๆ โดยมีพิชญ์นั่งอยู่เคียงข้าง ไม่เคยคิดฝันว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในชีวิตเขา ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเขาจะมาวิ่งตามเมียที่ออกมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นยอมรับว่าเขาพลาดไปหลายเรื่อง ยอมรับว่าเขาทำตัวเอง เขารู้ว่าทำเธอเสียใจ…เขารู้ว่าสิ่งที่เธอต้องการคืออะไร อินทิราอยากได้ยินคำบอกรักจากปากเขา แต่เขากลับให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ เขาไม่เคยถามตัวเองเลยว่ารักเธอไหม ที่ผ่านมาไม่เคยตั้งคำถามเรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งวินาทีนี้…วินาทีที่เขาเกือบจะทำเธอหลุดมือ วินาทีที่กำลังนั่งมองเธอสนิทสนมนั่งยิ้มฟังเพลงแจ๊สอยู่เคียงข้างผู้ชายคนอื่นเขารักเธอไหม?คงไม่อาจตอบได้ด้วยคำคำเดียว…เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครแม้กระทั่งกับมิรินทร์ เขาไม่เคยหวงแหนใครแต่กลับหวงอินทิราจนแทบบ้า เขาไม่เคยอยากเหนี่ยวรั้งใครไว้ชีวิตได้มากเท่านี้ เขาจำได้ดีว่าความเจ็บปวดตอนที่เสียมิรินทร์ไปมันเป็นยังไง แน่นอนว่ามันต่างจา
42เพราะกูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอิงค์!สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือจมปลักกับความเมามาย เหนือนทีหมดที่ไป…ที่เดียวที่นึกออกคือคลับของเพลิงกัลป์ เขามาเมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน นั่งดื่มอยู่ที่เดิมจนถึงเช้า ได้แต่คิดว่าเขาเกือบจะทำมันอีกครั้งแล้ว เขาเกือบทำรุนแรงกับผู้หญิงที่รักเขาซ้ำเป็นครั้งที่สอง หากเธอไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาเขาคงพลั้งมือทำมันจริง ๆ เวลานี้ไม่ใช่แค่เธอที่เกลียดเขา เขาเองก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน“เด็กบอกกูว่ามึงมาเมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน…นี่มันบ่ายของอีกวันแล้วนะไอ้เหนือ” เพลิงกัลป์เดินเข้ามานั่งข้างเพื่อนที่หน้าบาร์ ถอนหายใจออกมาเมื่อได้เห็นสภาพหนักเอาการของเพื่อน“หรือกูควรหย่าให้อิงค์จริง ๆ?” ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เมา ยิ่งดื่มก็ยิ่งคิดถึงแต่เมียที่วางแผนจะหย่ากับเขาให้ได้“อยู่ ๆ ทำไมคิดว่าควรต้องหย่า? หรือเพราะมึงกลัวว่าจะโดนเมียจ้างทนายมาฟ้องจริง ๆ?”“กูทนทรมานอิงค์ต่อไปไม่ได้แล้ว…พอเห็นน้ำตาเขา กูเหมือนจะบ้าอยู่แล้วไอ้เพลิง”“เมียมึงยกเลิกไปแล้ว…ที่ไปจ้างทนายฟ้องหย่ามึงอะ”“หมายความว่าไง?” เหนือนทีหันมองเพื่อน “นี่มึงยังไม่เลิกส่งคนตามเมียกูอีกเหรอ?”“ก็ถามกูไม่ตาม แล้วจะม
41ฝืนใจทำไม่ลงถ้าสิ่งที่ทำอยู่มันคือการกระทำของคนเห็นแก่ตัว ถ้าตอนนี้เขาก็คงกลายเป็นคนเลวในสายตาเธอแล้วจริง ๆ อย่างนั้นแล้วก็จะเลวให้ถึงที่สุดไปเลย ก็ถ้าเลวแล้วมีเธออยู่ข้างกาย เขาก็พร้อมใจที่จะเลว!“ฮึก! อิงค์เบื่อเป็นเมียที่ดีที่เชื่อฟังผัวเลวแบบพี่เหนือเหมือนหมาโง่ ๆ แล้ว!”“เธอไม่ใช่หมาโง่ พี่ไม่เอาหมามาทำเมียหรอก…เธอเป็นเด็กน้อยที่เฝ้ารักพี่ ต่อให้ตอนนี้จะทำเย็นชา ต่อให้ปากจะบอกว่าเกลียด…แต่เธอก็ยังรักอยู่ เธอยังรักพี่อยู่เต็มทั้งใจ”“…อย่าเอาความรักของอิงค์มาล้อเล่นนะ…”“ไม่ได้ล้อเล่น พี่กำลังจริงจังอยู่ จริงจังมากด้วย!”“อ๊ะ!” ภรรยาสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกคว้าตัวมาโยนลงบนเตียงนอนอย่างแรง สายตาสั่นสะท้านเมื่อคุณสามียกมือขึ้นเสยพี่ตัวเองตามด้วยการถอดเสื้อแล้วเข้ามาคร่อมเธอไว้ “พี่เหนือ…อิงค์ไม่ชอบแบบนี้! แก้มัดอิงค์เดี๋ยวนี้เลยนะ!”“เธอไม่ชอบแต่พี่ชอบ ถ้าเมียมันดื้อนักก็ต้องจับมัดแล้วเอาแรง ๆ นี่คือการลงโทษ” สิ้นคำนั้นคุณสามีก็ยัดเยียดจูบแสนดุดันให้กับภรรยา บดเบียดจูบแล้วสอดลิ้นเข้าตวัดดูด กวาดกลืนกินความหวานฉ่ำแล้วถอนออกมา…จ้องลึกเข้าในดวงตาสั่นไหวก่อนจะฉีกชุดนอนไม่ได้นอนของเธอ