3
เป้าหมายที่ต้องพิชิต
‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’
อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆ
เจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่
“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว่านี่คือโอกาสคืออะไร?”
“โอ๊ย! ทำอะไรลงไปวะเนี่ย! ก็ไม่ได้มีใครบังคับสักหน่อย! อยู่ๆ ทำไมไปแต่งงานซะได้?!”
“ก็เพราะเรารักเขาไง แต่มันใช่เหรอวะ?! ไอ้ที่คิดว่าแต่งงานกันไปเดี๋ยวก็รักกันเองมันจะโลกสวยเกินไปไหม? สมัยนี้สิ่งเร้ามันเยอะจะตาย…ไม่ได้รักกันง่ายเหมือนคนรุ่นย่าหรอก!”
“อิงค์คุยกับใครน่ะลูก?”
“แม่?!” ลูกสาวรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียง เพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้ปิดประตูห้องนอน แม่คงได้ยินหมดแล้วทั้งหมดที่คุยกับตัวเอง
“แม่คุยกับป้าทิพย์เขาแล้วนะ” นวลจันทร์เข้ามานั่งข้างๆ ลูกสาว ดึงมือเล็กมาดูแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางข้างซ้าย ตอนที่เจ้าบ่าวสวมมัน…เขาไม่มีสติด้วยซ้ำ “ป้าทิพย์เขาไม่ได้อยากให้มีการหย่ากันหลังจากนี้ วันมะรืนเขาอยากให้เราขึ้นกรุงเทพไปจดทะเบียนสมรส แล้วก็…สินสอดที่เขาให้คือบ้านที่พี่เหนือเขาสร้างขึ้นมาจะกลายเป็นชื่อลูกแต่เพียงผู้เดียว กับเงินแล้วก็ทอง รวมๆ แล้วห้าสิบล้านเลยนะลูก”
“ห้าสิบล้าน?”
“ป้าทิพย์เขาอยากให้แม่กับย่าเชื่อมั่นว่าลูกจะไม่เสียเปรียบ และจะได้รับสิ่งที่สมควรจะต้องได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับแม่น่ะ…” นวลจันทร์ถอนหายใจออกมาช้าๆ “แม่อยากให้อิงค์คิดดีๆ อีกสักครั้ง แม่เข้าใจว่าตอนนั้นอิงค์แค่อยากช่วยป้าทิพย์ให้การแต่งงานผ่านพ้นไปก่อน”
“…” มันไม่ใช่แค่นั้น มีเพียงอินทิราคนเดียวที่รู้ว่าเธอไม่ได้แค่อยากช่วย แต่เธอรักเหนือนทีมาตั้งแต่เด็กๆ เธอมองว่าการแต่งงานคือโอกาสที่ดีที่เธอจะได้อยู่ใกล้ๆ ความรักครั้งแรก
“แต่ถ้าอิงค์ยืนยันว่าตัวเองต้องการแบบนี้ แม่จะเรียกให้คนงานที่สวนมาช่วยกันเก็บของ เพราะมะรืนนี้อิงค์ต้องย้ายไปอยู่กับพี่เขา”
“แม่ว่าอิงค์คิดถูกหรือคิดผิดที่แต่งงาน?”
“มันไม่มีผิดมีถูกหรอกลูก ไม่มีใครตอบได้เลยว่าหนูคิดผิดหรือเปล่า เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่มันคงจะดีกว่านี้หากมันเริ่มต้นด้วยความรัก” ได้ยินคำตอบจากแม่ อินทิราก็ได้แต่ถามอยู่ในใจว่าหากมันเริ่มต้นด้วยรักข้างเดียวล่ะ แบบนั้นมันจะดีกว่าเหมือนที่แม่บอกหรือเปล่า
อินทิรานอนกระสับกระส่ายคิดไม่ตกอยู่ค่อนคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่วี่แววของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ไม่รู้นอนจมกองขวดเหล้าอยู่หรือว่ายังไม่ตื่นกันแน่ นี่เขารู้ตัวว่าแต่งงานกับเธอแล้วหรือยังก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ ให้ตายยังไงคืนนี้อินทิราก็นอนไม่หลับ แล้วก็ทนเพิกเฉยต่อคำถามมากมายกับสายเรียกเข้าที่ดังไม่หยุดได้แล้ว คืนนี้เป็นคืนวันเสาร์ เธอรู้ว่าค่ำคืนแบบนี้เพื่อนๆ ของเธอจะไปรวมกลุ่มกันอยู่ที่ไหน
พอมาถึงร้านเหล้าของฟองเบียร์ รุ่นพี่เพศทางเลือกที่เป็นเพื่อนของเหนือนที อินทิราก็ได้คำตอบว่าเธอไม่จำเป็นต้องเล่าอะไรมากมาย เพื่อนทั้งสามของเธอคงได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากปากฟองเบียร์แล้ว
“พล็อตนิยายชัดๆ แต่มึงใช่นางเอกแน่เหรอวะไอ้อิงค์?” ลูกเป็ด เพื่อนรักตั้งแต่อนุบาลคนที่หนึ่งเลิกคิ้วถาม มองยังไงก็ดูไม่ออกว่าอินทิราจะเป็นนางเอกของพล็อตนิยายน้ำเน่าที่เกลื่อนกลาดอยู่ตามเว็บไซต์ออนไลน์ สวมรอยเป็นเจ้าสาวสายฟ้าแลบแล้วได้แต่งงานกับรักแรก ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในชีวิตจริง
“งานนี้อีอิงค์มันต้องเป็นนางร้าย เชื่อกูไหมว่าเดี๋ยวเจ้าสาวตัวจริงจะกลับมา…” กะทิ เพื่อนรักอีกคนเสริมพลางหยิบปลาหมึกมาเคี้ยว เธอคนนี้เป็นนักอ่านตัวยง เห็นด้วยกับกะทิว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับอินทิรามันไม่ต่างอะไรจากพล็อตนิยายตลาด
“เป็นกู กูก็แต่งวะ พวกมึงลองคิดดูนะ…จะมีสักกี่คนที่ได้จะแต่งงานกับรักแรก? จะเป็นนางเอกหรือนางร้ายแล้วต้องสนด้วยเหรอ?” ใบพลู เพื่อนรักคนที่สี่ของกลุ่มมองว่าอินทิราคิดถูก แน่นอนว่าทั้งสามรู้ดีว่าเหนือนทีเป็นรักแรกและรักเดียวของอินทิรา
“ไอ้ที่ว่าแต่งกันไปเดี๋ยวก็รัก…พวกมึงว่าจริงไหม?” เงยหน้าจากแก้วเบียร์แล้วไล่สายตาถามเพื่อนสาวทั้งสาม เธอนั้นรักเขาอยู่แล้ว…ก็อย่างที่รู้เขาเป็นรักแรกของเธอ แต่เขานั้นก็คงมองว่าเธอเป็นแค่เด็กอ้วนน่าแกล้งเพียงเท่านั้น ร้อยทั้งร้อย…เหนือนทีไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่อะไรเธอเลย แล้วเมื่อคืนเขาก็ยังพูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่าจะไม่รักเธอ
“อย่าใช้คำว่ารัก ต้องบอกว่าแต่งงานกันไป อยู่ด้วยกันไปเดี๋ยวก็ผูกพันกันเอง แล้วความผูกพันมันจะยึดเหนี่ยวคนสองคนเอาไว้ มันก็แค่นั้นแหละว่ะ บางทีพวกผู้ใหญ่ก็โลกสวยไปหน่อย คนมันไม่ได้รักกัน…จะให้แต่งงานกันเพราะไม่อยากอับอายขายขี้หน้าแขกที่มางานแค่นั้นเองเหรอวะ? ถามจริงมีแขกในงานคนบ้างที่ไม่รู้ว่าเปลี่ยนตัวเจ้าสาวก่อนงานเริ่มแค่ไม่กี่นาที?” ลูกเป็ดคือคนที่อยู่กับความเป็นจริงมากที่สุด
“แต่ไอ้อิงค์มันรักพี่เหนือไง แล้วนี่คือโอกาสที่ดีที่สุด มันตามส่องชีวิตพี่เขามากี่ปีแล้ว…งานนี้แต่งงานกันไปก็ได้สัมผัสของจริงแบบไม่ต้องส่องเลยนะ แล้วไอ้ที่ว่าแต่งกันไปเดี๋ยวก็รักกัน…นี่แหละคือมิชชันเว้ย! อีอิงค์มึงอะไม่ต้องคิดอะไรมาก มึงมีมิชชันแล้ว! พี่เหนือคือเป้าหมายที่มึงต้องพิชิต ล่าหัวใจผัวตัวเองแล้วทำให้เขารักเขาหลังมึงแบบหัวปักหัวปำไปเลยค่ะ!” ใบพลูคือแผนกเชียร์อัพเพื่อนมาตลอด
“คนที่โลกสวยคือมึงค่ะใบพลู ถ้าทำยังไงไอ้พี่เหนือมันก็ไม่รักอีอิงค์อะ? คนที่ต้องเสียใจคือเพื่อนเราไม่ใช่เหรอ? ถ้าเกิดแต่งกันไปสักพักพี่เหนือมันนอกใจเพื่อนเราหรือไม่แฟนเก่าก็กลับมาเหมือนในนิยายอะ? คนที่เสียน้ำตาคืออีนี่ค่ะ!” กะทิที่อ่านนิยายแนวนี้มาหลายต่อหลายเรื่องเกิดคำถามขึ้นมาพร้อมกับเฉลยด้วยการชี้หน้าอินทิราว่าคนที่ต้องเสียน้ำตาจะไม่ใช่ใครที่ไหนไกล
“สองปี” ในเวลานั้นอินทิราก็เอ่ยขึ้นมา “กูให้เวลาตัวเองสองปี ถ้ากูทำให้ไอ้พี่เหนือมันรักไม่ได้ แล้วถ้ามันไปเอากับคนอื่น ทำตัวเจ้าชู้เหมือนที่เห็นๆ กัน หรือถ้ายัยไฮโซคนนั้นย้อนกลับมาแล้วไอ้พี่เหนือมันโง่เป็นหมาย้อนกลับไปหานาง กูจะหย่า แต่ก่อนหย่ากูจะทำให้ไอ้พี่เหนือได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวด”
“นี่แหละหนาผู้หญิง…คิดกันเยอะ คิดไปไกลถึงไหนต่อไหน เต้าทุกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เท่าที่ฟังมานี่มีแต่เรื่องที่พวกแกคิดกันไปเองทั้งนั้น” ที่จริงแล้วในโต๊ะไม่ได้มีแค่เพื่อนสาวจากอนุบาลศรีจันทร์วิทยาคมอย่างเดียว แต่ยังมีเจ๊ฟองเบียร์เจ้าของร้านเหล้าฟองเบียร์นั่งอยู่ด้วย “ฟังเจ๊นะอิงค์ ที่แกแต่งงานเพราะอยากช่วยไอ้เหนือมัน เพราะแกรักมัน แค่นั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย แต่งกันแล้วไปไม่รอดก็แค่เลิก อย่าทำชีวิตให้มันยากนักเลย…แล้วจะบอกให้นะ ผู้ชายอย่างเหนือน่ะ ถ้าจะรักเดี๋ยวมันรักเอง ไม่ต้องพยายามไปทำให้มันรักหรอก รู้ใช่ไหมว่าที่เจ๊กล้าพูดก็เพราะเจ๊เป็นเพื่อนมันตั้งแต่อนุบาลเหมือนพวกแกๆ นั่นแหละ”
“เออว่ะ ลืมไปเลยว่าเจ๊ฟองเป็นเพื่อนไอ้พี่เหนือ แล้วพวกเพื่อนๆ เจ๊เขาไม่พูดถึงเรื่องนี้กันเลยเหรอ?” กะทิอดที่จะอยากรู้ไม่ได้
“เพื่อนมันก็งงกันหมด ส่งไอ้เจตน์ที่ซี้กับไอ้เหนือที่สุดไปถามมาแล้ว แต่ก็อย่างที่อิงค์มันเห็นแหละ เหนือแม่งเมาไม่เอาอะไรเลย ไม่พูดอะไรกับใครทั้งนั้น แถมแม่งยังล้มตึงคาเวทีอีก”
“น่าส่งสัยว่ะ แฟนที่คบกันมาตั้งสามปี…อยู่ๆ ทำไมมาหนีไปก่อนวันแต่งงานแค่คืนเดียว?”
“มีชู้ชัวร์กูว่า แบบว่าผู้ชายคนนั้นรวยกว่าแถมแซ่บกว่าพี่เหนือไรงี้”
“เชี่ย! นี่แหละพล็อตนิยายของจริง!” กะทิตบเข่าฉาด อ่านนิยายมาเป็นร้อยเรื่อง ห้าสิบเรื่องมักมีพล็อตแบบนี้ พระเอกกับนางเอกแต่งงานกันโดยที่ไม่รักกัน แต่สุดท้ายก็จบแบบพระเอกวิ่งตามขอความรักจากนางเอกเหมือนไอ้โบ้ “แต่เหนือสิ่งอื่นใจพวกเราชนแก้วค่ะ! อิงค์อ้วนมันมีผัวแล้วโว้ย!”
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
บทนำ“ใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อย”คุณสามียื่นชุดนอนสีขาวให้ภรรยาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอม เธอมองชุดในมือเขาแล้วนึกขึ้นได้ เห็นมันเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่มีคนมาส่งของ มันคือชุดนอนไม่ได้นอน เป็นชุดลูกไม้ซีทรูสีขาวครีมที่ใส่ไปก็เหมือนไม่ได้ใส่ ที่จริงเธอคิดว่าเขาสั่งมันไปให้ผู้หญิงคนไหนสักคนซึ่งไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้“ยังไม่ได้ซักนี่” รับมันไว้ในมือจับเนื้อผ้าดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเอามันออกมาจากกล่อง“ก็แล้วทำไมตอนที่เปิดกล่องดูเธอไม่ซักล่ะ?” สามีถามกลับ มันแปลว่าเขารู้ว่าภรรยาได้แอบเปิดกล่องชุดนอนไม่ได้นอนตัดหน้าเขาไปแล้ว“ก็อิงค์ไม่รู้ว่าพี่เหนือจะเอามาให้อิงค์ใส่” เธองอนเขามาหลายวัน งอนตั้งแต่ที่เห็นชุดนอนไม่ได้นอนมาส่งที่หน้าบ้าน เขาไม่เคยรู้ตัวอะไรทั้งนั้น…เขาไม่เคยสนใจว่าเธอที่เป็นเมียรู้สึกยังไง“งอนอยู่จริงๆ สินะ ก็ว่าทำไมมื้อเช้าเค็มแปลกๆ มาหลายวันแล้ว ใส่เกลือเยอะไป…หรือแคะขี้มูกป้าย?” เขามันเป็นคนกวนประสาท ชอบแซะชอบแซว ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้ทั้งรู้ว่าเธองอน แทนที่จะง้อกับพูดจาสุนัขไม่รับประทาน“อิงค์ไม่ตลก!” คุณเมียช้อนสายตามองคุณผัวอย่างไ
1เขาเป็นรักแรกเหนือนที รพีสุวิวัฒน์ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โชคดีเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเพอร์เฟคเหมือนเป็นลูกรักเทพเจ้า แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ไก่ทอดที่ขายไปทั่วประเทศ น้อยคนที่จะส่ายหน้าบอกว่าไม่เคยได้ลองชิมรพีไก่ทอดที่วางขายอยู่ทุกหนทุกแห่งมานับสิบปี ขายดิบขายดีจนเจ้าของนั้นเหลือกินเหลือใช้ ก็ใช่เขารวยแต่ก็ไม่ได้รวยอะไรมากมาย ก็ใช่เขาหล่อ…แต่หล่อมันกินไม่ได้ เพราะนิสัยของเขามันเหลือจะทน เขาทั้งหยิ่งยโส ปากหมาไม่รับประทานแถมยังมั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน ที่สำคัญคือได้ยินว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ถึงจะหยิ่งแต่ก็กินไม่ค่อยเลือก เหมือนไม่ง่ายแต่ก็ได้ไม่ยากบรรดาเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่พากันออกมารีวิวว่าของเขาดียังไง เดี๋ยวว่าแซ่บ เดี๋ยวเด็ดสะระตี่ บ้างก็ว่าเวลาถูกเขาลากขึ้นเตียงล่ะแหม…ฟินจนต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง แต่พอเขามีแฟนข่าวความคาวก็หายเงียบ ได้ยินว่าถึงจะเป็นพวกบ้าเซ็กส์มั่วผู้หญิงแต่เหนือนทีเป็นคนรักใครรักจริง พอมีตัวจริงเป็นตัวเป็นตนก็หยุดนิสัยเจ้าชู้ในทันที เห็นว่าผู้หญิงที่สามารถมัดใจเสือผู้หญิงอย่างเหนือนทีได้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นมิรินทร์ อำพลคุณากร ไฮโซสาวที่เป็นเพื
2งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
3เป้าหมายที่ต้องพิชิต‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆเจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว
2งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม
1เขาเป็นรักแรกเหนือนที รพีสุวิวัฒน์ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โชคดีเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเพอร์เฟคเหมือนเป็นลูกรักเทพเจ้า แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ไก่ทอดที่ขายไปทั่วประเทศ น้อยคนที่จะส่ายหน้าบอกว่าไม่เคยได้ลองชิมรพีไก่ทอดที่วางขายอยู่ทุกหนทุกแห่งมานับสิบปี ขายดิบขายดีจนเจ้าของนั้นเหลือกินเหลือใช้ ก็ใช่เขารวยแต่ก็ไม่ได้รวยอะไรมากมาย ก็ใช่เขาหล่อ…แต่หล่อมันกินไม่ได้ เพราะนิสัยของเขามันเหลือจะทน เขาทั้งหยิ่งยโส ปากหมาไม่รับประทานแถมยังมั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน ที่สำคัญคือได้ยินว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ถึงจะหยิ่งแต่ก็กินไม่ค่อยเลือก เหมือนไม่ง่ายแต่ก็ได้ไม่ยากบรรดาเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่พากันออกมารีวิวว่าของเขาดียังไง เดี๋ยวว่าแซ่บ เดี๋ยวเด็ดสะระตี่ บ้างก็ว่าเวลาถูกเขาลากขึ้นเตียงล่ะแหม…ฟินจนต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง แต่พอเขามีแฟนข่าวความคาวก็หายเงียบ ได้ยินว่าถึงจะเป็นพวกบ้าเซ็กส์มั่วผู้หญิงแต่เหนือนทีเป็นคนรักใครรักจริง พอมีตัวจริงเป็นตัวเป็นตนก็หยุดนิสัยเจ้าชู้ในทันที เห็นว่าผู้หญิงที่สามารถมัดใจเสือผู้หญิงอย่างเหนือนทีได้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นมิรินทร์ อำพลคุณากร ไฮโซสาวที่เป็นเพื
บทนำ“ใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อย”คุณสามียื่นชุดนอนสีขาวให้ภรรยาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอม เธอมองชุดในมือเขาแล้วนึกขึ้นได้ เห็นมันเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่มีคนมาส่งของ มันคือชุดนอนไม่ได้นอน เป็นชุดลูกไม้ซีทรูสีขาวครีมที่ใส่ไปก็เหมือนไม่ได้ใส่ ที่จริงเธอคิดว่าเขาสั่งมันไปให้ผู้หญิงคนไหนสักคนซึ่งไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้“ยังไม่ได้ซักนี่” รับมันไว้ในมือจับเนื้อผ้าดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเอามันออกมาจากกล่อง“ก็แล้วทำไมตอนที่เปิดกล่องดูเธอไม่ซักล่ะ?” สามีถามกลับ มันแปลว่าเขารู้ว่าภรรยาได้แอบเปิดกล่องชุดนอนไม่ได้นอนตัดหน้าเขาไปแล้ว“ก็อิงค์ไม่รู้ว่าพี่เหนือจะเอามาให้อิงค์ใส่” เธองอนเขามาหลายวัน งอนตั้งแต่ที่เห็นชุดนอนไม่ได้นอนมาส่งที่หน้าบ้าน เขาไม่เคยรู้ตัวอะไรทั้งนั้น…เขาไม่เคยสนใจว่าเธอที่เป็นเมียรู้สึกยังไง“งอนอยู่จริงๆ สินะ ก็ว่าทำไมมื้อเช้าเค็มแปลกๆ มาหลายวันแล้ว ใส่เกลือเยอะไป…หรือแคะขี้มูกป้าย?” เขามันเป็นคนกวนประสาท ชอบแซะชอบแซว ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้ทั้งรู้ว่าเธองอน แทนที่จะง้อกับพูดจาสุนัขไม่รับประทาน“อิงค์ไม่ตลก!” คุณเมียช้อนสายตามองคุณผัวอย่างไ