1
เขาเป็นรักแรก
เหนือนที รพีสุวิวัฒน์ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โชคดีเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเพอร์เฟคเหมือนเป็นลูกรักเทพเจ้า แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ไก่ทอดที่ขายไปทั่วประเทศ น้อยคนที่จะส่ายหน้าบอกว่าไม่เคยได้ลองชิมรพีไก่ทอดที่วางขายอยู่ทุกหนทุกแห่งมานับสิบปี ขายดิบขายดีจนเจ้าของนั้นเหลือกินเหลือใช้ ก็ใช่เขารวยแต่ก็ไม่ได้รวยอะไรมากมาย ก็ใช่เขาหล่อ…แต่หล่อมันกินไม่ได้ เพราะนิสัยของเขามันเหลือจะทน เขาทั้งหยิ่งยโส ปากหมาไม่รับประทานแถมยังมั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน ที่สำคัญคือได้ยินว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ถึงจะหยิ่งแต่ก็กินไม่ค่อยเลือก เหมือนไม่ง่ายแต่ก็ได้ไม่ยาก
บรรดาเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่พากันออกมารีวิวว่าของเขาดียังไง เดี๋ยวว่าแซ่บ เดี๋ยวเด็ดสะระตี่ บ้างก็ว่าเวลาถูกเขาลากขึ้นเตียงล่ะแหม…ฟินจนต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง แต่พอเขามีแฟนข่าวความคาวก็หายเงียบ ได้ยินว่าถึงจะเป็นพวกบ้าเซ็กส์มั่วผู้หญิงแต่เหนือนทีเป็นคนรักใครรักจริง พอมีตัวจริงเป็นตัวเป็นตนก็หยุดนิสัยเจ้าชู้ในทันที เห็นว่าผู้หญิงที่สามารถมัดใจเสือผู้หญิงอย่างเหนือนทีได้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นมิรินทร์ อำพลคุณากร ไฮโซสาวที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนเมืองนอกของเขา ก็อย่างว่า…คนหล่อมักคู่กับคนสวย คนรวยก็ดองกับคนรวย สมน้ำสมเนื้อกันดี…นักธุรกิจแต่งงานกับไฮโซ เกื้อหนุนกันทุกอย่าง
อินทิรา อินทรเกียรติคิดแบบนั้นในตอนที่ได้เห็นการ์ดเชิญงานแต่งงานของเหนือนทีกับมิรินทร์ ตอนอยู่หน้าคนอื่นเธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ออกมา แต่พอลับหลังกลับแอบขึ้นห้องมาร้องไห้ อย่างที่บอก…เหนือนทีเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร แต่เขาเป็นรักแรกของเธอ รักแรกที่เธอเฝ้ารอ รักวัยเด็กที่เหมือนจะดับสลายเมื่อได้รับการ์ดเชิญ พอได้ยินว่าเขากำลังจะแต่งงานน้ำตาก็ดันไหล
ไอ้พี่เหนือกับยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่เด็ก คนพี่นั้นก็เป็นแค่คนขี้แกล้งที่เห็นเด็กอ้วนแล้วชอบแกล้งให้ร้องไห้ พอน้องร้องไห้ก็ล้อเลียนเรียกน้องว่ายัยขี้มูกเปียกบ้าง ยัยอิงค์อ้วนบ้าง แต่พอน้องร้องไห้ไม่ยอมหยุดก็จะรีบเข้ามาโอ๋ เข้ามากอดแล้วเอาไอติมยัดปาก อีน้องมันก็ใสซื่อพอเขากอดก็หยุดร้อง พอได้กินไอติมก็ดีใจ เด็กสองทั้งสองเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่ที่จันทบุรี พ่อแม่สนิทสนมกันดีมีอะไรก็แบ่งปันกันมาตลอด แต่พอธุรกิจรพีไก่ทอด เติบโตจนต้องขยายกิจการ ต้นคิดกับทิพย์นารีก็พาลูกชายย้ายจากบ้านหลังขนาดกลางที่จันท์ไปอยู่บ้านหลังใหญ่ที่กรุงเทพ นับแต่นั้นยัยขี้มูกเปียกก็ไม่ได้เจอหน้าไอ้พี่เหนืออีก ได้แต่แอบส่องเขาตามโซเชียล ได้รับรู้เรื่องราวในชีวิตของเขาผ่านคำบอกเล่าของคนอื่น
แม้ไม่ได้อยากแต่ก็ต้องมาเพราะต้องขับรถจากจันท์พาแม่กับย่ามาร่วมงานแต่งงานสุดหรูหราอลังการงานสร้างที่กรุงเทพ งานแต่งงานจัดที่โรงแรมในเมือง คนที่มาร่วมงานก็มีมากหน้าหลายตา จากในวงสังคมไฮโซ พวกนักธุรกิจ แถมยังมีดารากับนักการเมือง มองไปมองมาอินทิราเริ่มคิดว่านี่มันงานสภากาชาดหรืองานแต่งงานกันแน่
“ได้ยินว่าแฟนของเหนือเขาเป็นลูกหลานคนมีเงิน เป็นพวกไฮโซในกรุงเทพ ตอนแรกก็คิดว่ารวย…แต่ดูจากงานแต่งแล้วนี่มันเศรษฐีชัดๆ” นวลจันทร์พูดกับแม่สามีที่นั่งอยู่ข้างๆ ในงานแต่งงานแสนหรูหรา สายตากวาดมองผู้คนที่เดินเข้ามาในงานแม้จะไม่รู้จักแต่ดูจากเครื่องเพชรที่ประโคมใส่กันมาก็เชื่อแล้วว่าบ้านรพีสุวิวัฒน์เติบโตเป็นอย่างมาก จากที่เมื่อก่อนเป็นแค่สองผัวเมียที่กระเตงลูกชายตัวน้อยขับมอเตอร์ไซค์ขายไก่ทอดอยู่ในเมืองจันท์ ตอนนี้กลายเป็นคนสำคัญไปแล้ว
“ถ้าตอนนั้นแม่รู้ว่าต้นคิดจะพาลูกพาเมียมาได้ไกลถึงจุดนี้ แม่คงคิดดอกเบี้ยสักหน่อย” พิสมัยเจ้าของสวนอินทร สวนผลไม้ใหญ่ของเมืองจันท์ ที่เขาล่ำลือกันว่าเป็นเศรษฐีตัวจริงไม่อิงนิยาย หากแต่ไม่เคยใส่เพชรใส่ทองมาอวดความมากมีของตัวเอง เอ่ยถามกับลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงติดตลก ยังจำได้แม่นว่าพ่อของเหนือนทีเคยสัญญาอะไรเอาไว้ในตอนที่เข้ามาขอยืมเงินสิบห้าล้านไปขยายธุรกิจไก่ทอดเมื่อสิบห้าปีก่อน “ขอดอกเบี้ยตอนนี้ยังทันไหมนะ?”
“แม่ก็พูดไปนั่น…” ลูกสะใภ้ยกยิ้มให้แม่ผัว ก่อนจะหันมองอินทิราที่นั่งก้มหน้าสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถือ “ขับรถมาตั้งแต่เช้า เหนื่อยจนไม่พูดไม่จาเลยเหรออิงค์”
“ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นหรอกจ่ะแม่ อิงค์ก็แค่เบื่อๆ นี่มันเลยเวลาเริ่มงานมาพักใหญ่แล้วไม่ใช่เหรอทำไมเจ้าบ่าวเจ้าสาวเขายังไม่มากันอีก?” จะว่าไปก็แปลก ตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในงานอินทิรายังไม่เห็นแม้แต่เงาของคู่บ่าวสาวเลย
“นั่นสิ…สงสัยพิธีคนกรุงเทพจะไม่เหมือนกับพิธีบ้านเราล่ะมั้ง”
“จะคนกรุงเทพหรือคนจันทร์ พิธีก็เหมือนกันหมดนั่นล่ะ คงมีเรื่องขัดข้องอะไรสักอย่าง บ่าวสาวถึงไม่ออกมารับแขก ว่าแต่เหนือเขาอายุเท่าไหร่แล้วนะ แม่ไม่ได้เจอนานก็ลืมๆ”
“เหนือแก่กว่าอิงค์สามปี ปีนี้ก็น่าจะสามสิบได้แล้วล่ะแม่”
“แบบนี้ก็แสดงว่าอิงค์ยี่สิบเจ็ดแล้วล่ะสิ” พิสมัยแกล้งพูด ส่งสายตาชำเลืองมองหลานสาวคนเดียวที่ยังคงเล่นโทรศัพท์มือถือไม่ยอมวาง “ยี่สิบเจ็ดแล้วแต่ก็ยังหาแฟนไม่ได้ แล้วแบบนี้จะได้แต่งเมื่อไหร่?”
“อิงค์ได้ยินนะย่า” อินทิราพูดกับย่าทั้งๆ ที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เธอคนนี้ก็แปลกคน ถึงเมื่อก่อนจะอ้วนตุ๊ต๊ะแต่พอโตเป็นสาวขึ้นมากลับสวยสะพรั่ง ตาโตกลมประดับด้วยขนตางอน ปากอวบอิ่มทว่าเล็กนิดเดียว จมูกก็น่ารักน่าจูบ ไม่รู้ไขมันตอนเด็กหายไปอยู่ที่ไหนหมด ยิ่งโตก็ยิ่งเพรียว ยิ่งขาวทั้งๆ ที่เดินตากแดดอยู่กลางสวน เธอสวย…พูดได้เต็มปากว่าสวยแบบที่เลื่องชื่อไปทั้งเมืองจันท์ แต่กลับไม่คิดอยากจะหาแฟน ไม่รู้เป็นเพราะยังไม่เจอคนที่ถูกใจหรือเพราะยังจ้องจะรักแค่พี่เหนือคนนั้น
อุตส่าห์ไปเรียนปริญญากราฟิก ดีไซน์ไกลถึงญี่ปุ่น แต่สุดท้ายก็กลับมานั่งนับมังคุด นับทุเรียนอยู่ที่สวน กลับมาเที่ยวเล่นกับเพื่อนตอนเด็ก ทั้งแม่ทั้งย่าไล่ให้ไปหางานทำอยู่กรุงเทพก็ไม่ยอมไป หลอกล่อด้วยรถกับคอนโดมิเนียมแล้วก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ นี่แหละหนาที่เขาเรียกว่าเด็กติดบ้าน
“ได้ยินแล้วก็หัดคิดตามบ้างสิ ย่าน่ะแก่ลงทุกวันแล้วนะ ย่าอยากใส่ชุดผ้าไหมไปงานแต่งงานอิงค์” ได้ทีพิสมัยก็หาเรื่องบ่นหลานสาวคนเดียว
“ก็นี่ไง ย่าจะได้ใส่ชุดผ้าไหมมางานแต่งงานไอ้พี่เหนือแล้ว”
“อิงค์ ทำไมเรียกพี่เขาแบบนั้นล่ะลูก?” นวลจันทร์ทำเสียงต่ำ หันมองลูกสาวเป็นเชิงว่าเธอทำตัวไม่น่ารัก
“ก็แล้วจะให้อิงค์เรียกว่าอะไร…คุณพี่เหนืองี้เหรอ? ก็ใช่สิ…เขาเป็นพวกไฮโซไปแล้วนี่ เดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็เห็นแต่รพีไก่ทอด รายได้ตกเดือนละหลายสิบล้าน ได้ไปออกรายการโน้นรายการนี้ แถมยังมีเมียเป็นไฮโซอีกต่างหาก” อินทิราประชดประชันอย่างออกรสออกชาติ ก็เธอตามส่องความเคลื่อนไหวเขาอยู่ตลอด ไม่แปลกเลยที่รู้เรื่องเขาเป็นอย่างดี ก็แอบรักแอบชอบเขามาตั้งแต่เด็ก ถึงเขาจะชอบแกล้งชอบว่าก็เถอะ แล้วไหนใครว่าผู้ชายแกล้งแปลว่าผู้ชายชอบไง ไอ้พี่เหนือแกล้งเธออยู่ทุกวัน แกล้งมาตั้งแต่เด็กจนเข้ามัธยมต้น ไหงอยู่ดีๆ ไปแต่งงานซะได้ล่ะ? ทฤษฎีนี้มันห่วยแตกฉิบเป๋ง!
“พอเลย ทำไมชอบกระแนะกระแหนพี่เขานัก ลับหลังเขาก็ยังไม่เว้น นี่ขนาดไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีก็ยังไม่วายจะแขวะเขา”
“อึก!” ไม่ทันที่อินทิราจะได้ตอบอะไรคนเป็นแม่ อยู่ๆ ทิพย์นารีแม่เจ้าบ่าวก็รีบร้องเดินมาหยุดหอบที่โต๊ะของบ้านอินทรเกียรติ “คุณป้าพิส นวล หนูอิงค์ลูก…”
“มีอะไรกันทิพย์ หน้าตาตื่นมาแบบนี้…มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” พิสมัยเริ่มสังหรณ์ใจพิกล ก่อนออกจากบ้านก็บอกตาอ้น ลูกชายคนเดียว พ่อของอินทิราที่จากไปเมื่อเจ็ดปีก่อนว่าขอให้มีแต่เรื่องดีๆ สงสัยว่าสารจะส่งไปไม่ถึงลูกชาย
“ไปคุยกันที่ห้องแต่งตัวเจ้าสาวนะคะ ทั้งสามคน…ช่วยเดินตามกันออกไปเงียบๆ นะ” พูดจบทิพย์นารีก็หันหลังเดินออกไป ทำเอาสามสาวจากสวนอินทรต้องหันมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจถึงสถานการณ์
ช่างหน้าช่างผมยืนหน้าเสียอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ชุดเจ้าสาวสีขาวแขวนอยู่ตรงนั้น ทุกอย่างอยู่ครบขาดอย่างเดียวที่หันมองทางไหนก็หาไม่เจอนั่นคือเจ้าสาว อินทิราลอบสังเกตสถานการณ์ตั้งแต่ที่เดินตามแม่กับย่าเข้ามาในห้องแต่งตัวเจ้าสาว พล็อตนิยายเรื่องหนึ่งชัดๆ ไม่ได้อยากจะคิดไม่ดี แต่นี่มันเลยเวลางานมาสิบนาทีแล้ว เจ้าสาวยังมาไม่ถึงงานหรือหนีไปกันแน่
“ตกลงมีเรื่องอะไรกันแน่แม่ทิพย์?” พิสมัยรบเร้าถาม
“รบกวนพวกคุณออกไปก่อนได้ไหม?” ทิพย์นารีไล่เหล่าช่างหน้าช่างผมอย่างคนมีมารยา พอสี่สาวเดินออกไปเหลือเพียงคนกันเองทิพย์นารีก็ทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ ยกมือขึ้นกุมขมับ “เจ้าสาวของเหนือเขาหนีไปแล้ว ทิพย์เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เอง”
“หมายความว่ายังไงคะป้าทิพย์ ที่บอกว่าเจ้าสาวหนีไปแล้ว?” อินทิราถามด้วยความตกใจ
“มิรินทร์แฟนเจ้าเหนือไม่อยากแต่งงาน บินไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อคืน…เจ้าเหนือมันก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้เอง ตอนนี้มันเมาหัวทิ่มหัวตำอยู่ที่ห้องแต่งตัวเจ้าบ่าว งานมันเริ่มขึ้นแล้ว…แต่เจ้าสาวหายไปส่วนเจ้าบ่าวก็ไม่เหลือสติแล้ว ป้าไม่มีทางออกอื่นเลยหนูอิงค์ แขกในงานมีแต่คนใหญ่คนโตทั้งนั้น พวกเขาเตรียมตัวมางานนี้กันไม่น้อย ป้าไม่มีหน้าไปบอกพวกเขาว่างานแต่งงานนี้ถูกล้มเลิก” ทิพย์นารีตาแดงก่ำย้ายมือที่กุมขมับมาปิดปากตัวเอง พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ร้องไห้ออกมา
“ไม่มีทางออกอื่นที่ว่านั้นคืออะไรแม่ทิพย์?” พิสมัยกำสร้อยพระเหลี่ยมทองที่อกแน่น ตาอ้นลูกชายกำลังจะส่งหลานเขยมาให้เธออย่างนั้นหรือ หลังจากที่ขอเรื่องนี้อยู่ห้าปีเต็ม ในที่สุดเธอจะได้มีหลานเขยแล้วใช่หรือไม่?
“คุณป้าพิส นวล…จะเป็นอะไรไหม มันคงจะน่าเกลียดและมองเหมือนเป็นการดูถูกดูแคลน แต่ขอให้เชื่อว่าทิพย์ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลย คือว่า…ทิพย์อยากจะสู่ขอหนูอิงค์ให้มาเป็นเจ้าสาวเจ้าเหนือมันตอนนี้เลย”
“คะ?!” สามสาวจากสวนอินทรทำตาโตอ้าปากหวอ ไม่ช็อกสิแปลก…อยู่ๆ จะมาสู่ขอกันดื้อๆ แบบนี้ก็ได้หรือ?
2งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม
3เป้าหมายที่ต้องพิชิต‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆเจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
บทนำ“ใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อย”คุณสามียื่นชุดนอนสีขาวให้ภรรยาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอม เธอมองชุดในมือเขาแล้วนึกขึ้นได้ เห็นมันเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่มีคนมาส่งของ มันคือชุดนอนไม่ได้นอน เป็นชุดลูกไม้ซีทรูสีขาวครีมที่ใส่ไปก็เหมือนไม่ได้ใส่ ที่จริงเธอคิดว่าเขาสั่งมันไปให้ผู้หญิงคนไหนสักคนซึ่งไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้“ยังไม่ได้ซักนี่” รับมันไว้ในมือจับเนื้อผ้าดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเอามันออกมาจากกล่อง“ก็แล้วทำไมตอนที่เปิดกล่องดูเธอไม่ซักล่ะ?” สามีถามกลับ มันแปลว่าเขารู้ว่าภรรยาได้แอบเปิดกล่องชุดนอนไม่ได้นอนตัดหน้าเขาไปแล้ว“ก็อิงค์ไม่รู้ว่าพี่เหนือจะเอามาให้อิงค์ใส่” เธองอนเขามาหลายวัน งอนตั้งแต่ที่เห็นชุดนอนไม่ได้นอนมาส่งที่หน้าบ้าน เขาไม่เคยรู้ตัวอะไรทั้งนั้น…เขาไม่เคยสนใจว่าเธอที่เป็นเมียรู้สึกยังไง“งอนอยู่จริงๆ สินะ ก็ว่าทำไมมื้อเช้าเค็มแปลกๆ มาหลายวันแล้ว ใส่เกลือเยอะไป…หรือแคะขี้มูกป้าย?” เขามันเป็นคนกวนประสาท ชอบแซะชอบแซว ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้ทั้งรู้ว่าเธองอน แทนที่จะง้อกับพูดจาสุนัขไม่รับประทาน“อิงค์ไม่ตลก!” คุณเมียช้อนสายตามองคุณผัวอย่างไ
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
3เป้าหมายที่ต้องพิชิต‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆเจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว
2งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม
1เขาเป็นรักแรกเหนือนที รพีสุวิวัฒน์ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โชคดีเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเพอร์เฟคเหมือนเป็นลูกรักเทพเจ้า แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ไก่ทอดที่ขายไปทั่วประเทศ น้อยคนที่จะส่ายหน้าบอกว่าไม่เคยได้ลองชิมรพีไก่ทอดที่วางขายอยู่ทุกหนทุกแห่งมานับสิบปี ขายดิบขายดีจนเจ้าของนั้นเหลือกินเหลือใช้ ก็ใช่เขารวยแต่ก็ไม่ได้รวยอะไรมากมาย ก็ใช่เขาหล่อ…แต่หล่อมันกินไม่ได้ เพราะนิสัยของเขามันเหลือจะทน เขาทั้งหยิ่งยโส ปากหมาไม่รับประทานแถมยังมั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน ที่สำคัญคือได้ยินว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ถึงจะหยิ่งแต่ก็กินไม่ค่อยเลือก เหมือนไม่ง่ายแต่ก็ได้ไม่ยากบรรดาเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่พากันออกมารีวิวว่าของเขาดียังไง เดี๋ยวว่าแซ่บ เดี๋ยวเด็ดสะระตี่ บ้างก็ว่าเวลาถูกเขาลากขึ้นเตียงล่ะแหม…ฟินจนต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง แต่พอเขามีแฟนข่าวความคาวก็หายเงียบ ได้ยินว่าถึงจะเป็นพวกบ้าเซ็กส์มั่วผู้หญิงแต่เหนือนทีเป็นคนรักใครรักจริง พอมีตัวจริงเป็นตัวเป็นตนก็หยุดนิสัยเจ้าชู้ในทันที เห็นว่าผู้หญิงที่สามารถมัดใจเสือผู้หญิงอย่างเหนือนทีได้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นมิรินทร์ อำพลคุณากร ไฮโซสาวที่เป็นเพื
บทนำ“ใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อย”คุณสามียื่นชุดนอนสีขาวให้ภรรยาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอม เธอมองชุดในมือเขาแล้วนึกขึ้นได้ เห็นมันเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่มีคนมาส่งของ มันคือชุดนอนไม่ได้นอน เป็นชุดลูกไม้ซีทรูสีขาวครีมที่ใส่ไปก็เหมือนไม่ได้ใส่ ที่จริงเธอคิดว่าเขาสั่งมันไปให้ผู้หญิงคนไหนสักคนซึ่งไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้“ยังไม่ได้ซักนี่” รับมันไว้ในมือจับเนื้อผ้าดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเอามันออกมาจากกล่อง“ก็แล้วทำไมตอนที่เปิดกล่องดูเธอไม่ซักล่ะ?” สามีถามกลับ มันแปลว่าเขารู้ว่าภรรยาได้แอบเปิดกล่องชุดนอนไม่ได้นอนตัดหน้าเขาไปแล้ว“ก็อิงค์ไม่รู้ว่าพี่เหนือจะเอามาให้อิงค์ใส่” เธองอนเขามาหลายวัน งอนตั้งแต่ที่เห็นชุดนอนไม่ได้นอนมาส่งที่หน้าบ้าน เขาไม่เคยรู้ตัวอะไรทั้งนั้น…เขาไม่เคยสนใจว่าเธอที่เป็นเมียรู้สึกยังไง“งอนอยู่จริงๆ สินะ ก็ว่าทำไมมื้อเช้าเค็มแปลกๆ มาหลายวันแล้ว ใส่เกลือเยอะไป…หรือแคะขี้มูกป้าย?” เขามันเป็นคนกวนประสาท ชอบแซะชอบแซว ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้ทั้งรู้ว่าเธองอน แทนที่จะง้อกับพูดจาสุนัขไม่รับประทาน“อิงค์ไม่ตลก!” คุณเมียช้อนสายตามองคุณผัวอย่างไ