“เซจ...นั่นคุณกำลังจะไปไหนหรือคะ?” เรเน่ต์ก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์อันโอ่อ่าหลังมาที่นี่หลายต่อหลายครั้งแต่ไม่พบผู้เป็นเจ้าของ ทว่าเช้าวันนี้ที่เธอตั้งใจมาแต่กลับพบเซอร์เรนัล์ฟในชุดลำลองและหนูน้อยในชุดกระโปรงสีหวานกับแม่บ้านซึ่งอยู่ในชุดโค้ตบางและลูกสุนัขบีเกิ้ลตัวเล็กวิ่งซุกซนไปมาใกล้ ๆ ทว่าสิ่งที่ผิดสังเกตุคือกระเป๋าเดินทางหลายใบที่วางอยู่บนพื้นพรม“ผมกำลังจะเดินทางไปโมนาโก อาจอยู่ที่นั่นหลายวันถึงจะกลับ ถ้ามีธุระอะไรเร่งด่วนเกี่ยวกับงานของบริษัทก็ฝากเรื่องไว้ที่เลขาของผมก็แล้วกัน” เซอร์เรนัล์ฟเดินเข้ามาหาหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีครีมซึ่งวันนี้เรเน่ต์แต่งตัวมิดชิดผิดไปจากวันก่อน ๆ แต่สำหรับเธอแล้วน้ำเสียงของคนพูดช่างราบเรียบยิ่งกว่าเสียจนน่าหงุดหงิดใจ“เซจ...ฉันไม่ได้มาหาคุณเรื่องงานนะคะ ฉันพยายามโทรหาคุณหลายครั้งคุณก็ไม่รับสายเพราะมาที่นี่ฉันไม่เคยเจอคุณเลยสักครั้ง”ทั้งแววตาและคำพูดตัดพ้อทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบายขึ้นมาในทันที ร่างสูงใหญ่หันไปทางแม่บ้านก่อนออกคำสั่ง“ป้าลิลลี่พาอีวี่ไปที่รถก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะตามไป”“คุณน้าคะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เด็กหญิงเดินเข้ามาเกาะแขนชายหนุ่มและฉีกยิ
“ค่ะ...ป้าซิลวี่” ร่างบอบบางภายใต้เสื้อเชิ้ตขาวกางเกงเดนิมรัดรูปตอบรับเสียงที่ดังมาจากห้องด้านหน้าของร้านตัดชุดซึ่งเป็นตึกทรงโบราณตั้งอยู่บนถนนสายเล็ก ๆ อันเงียบสงบในแถบโมนาโก-วิลล์ ของนครรัฐเล็ก ๆ ทว่าหรูหรานาม โมนาโก อิสลินวางฝ่ามือลงบนตัวหุ่นที่ใช้ขึ้นโครงชุดผ้าไหมจับเดรปสีงาช้างแสนสวยของเหล่าสาวสังคมชั้นสูง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลบนวงหน้างามใต้กรอบเรือนผมที่ถูกขมวดมวยหลวม ๆ ด้านหลังจับจ้องไปยังงานฝีมือที่ตัวเองไม่ได้มีความถนัดแต่แค่มาช่วยญาติสนิทของบิดาที่เธอหลีกลี้หนีมาอยู่ด้วย แน่นอนว่าซิลวี่ เจ้าของร้าน ลา เบล ซึ่งอยู่ที่นี่เพียงลำพังเพราะสามีและลูก ๆ อยู่ต่างเมืองไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมอิสลินจึงตัดสินใจมาขอพักอยู่ด้วยกะทันหัน หญิงสาวให้เหตุผลว่าเธอหย่ากับเดเรกและตอนนี้อีวี่ก็อยู่ในความปกครองของผู้เป็นพ่อ ญาติของเธอไม่ถามอะไรและยินดีให้อยู่ช่วยเป็นลูกมือทำผ้าแทนลูกจ้างคนเก่าที่ลาออกไปพอดี ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวแต่อิสลินก็ยังมีแผนลึก ๆ ในใจ เธอหนีเซอร์เรนัล์ฟมาก็จริงแต่ไม่ได้คิดจะทอดทิ้งอีวี่ หญิงสาวคิดว่าเธอต้องตัดใจจากลูกไปสักพักและรอกระทั่งเซอร์เรนัล์ฟแต่งงานกับเรเน่ต์ก็จะห
“ป้าจะให้หนูช่วยวัดตัวคุณเซอร์เรนัล์ฟ ดูซี ใจลอยจนลืมไปหมดแล้วว่าป้าพูดอะไร...ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณเซอร์เรนัล์ฟ พอดีว่าอีฟเป็นหลานที่เพิ่งมาช่วยงานเมื่อไม่นานนี้เองค่ะ” ซิลวี่ออกตัวกับชายหนุ่มทว่าเขากลับยิ้มเย็นกับอิสลินที่ทำแอบค้อนใส่“ไม่เป็นไรหรอกครับ...อืม...จะวัดตัวให้ผมเลยไหมครับ คุณอีฟ” เซอร์เรนัล์ฟปั้นหน้าราวกับว่าเพิ่งรู้จักหญิงสาวที่ยืนเม้มปากแน่น“ค่ะ...คุณเซอร์เรนัล์ฟ” อิสลินจำต้องรับปาก ไม่ต้องบอกชายหนุ่มก็รู้ว่าเธอตกใจมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ที่นี่ ร่างแน่งน้อยเดินไปหยิบสายวัดพร้อมกระดาษและปากกาบนโต๊ะด้านหนึ่งขณะที่ซิลวี่รับโทรศัพท์มือถือซึ่งส่งสัญญาณเตือนขึ้นมา“ตามสบายนะคะคุณเซอร์เรนัล์ฟ...อีฟช่วยรับรองลูกค้าหนุ่มหล่อของเราทีนะจ๊ะ ดูซี...คุณแคทเธอรีนลูกค้าคนสำคัญโทรมาตามป้าพอดี...เดี๋ยวมานะจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนทำมือบุ้ยบ้ายกับหลานสาวพลางก็เดินคุยโทรศัพท์ออกไปจากร้าน เหลือแต่อิสลินที่ยืนตาค้างกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน หญิงสาวเหมือนลอยเท้งเต้งกลางทะเลและเบื้องหน้าคือเงามัจจุราชที่คอยกลืนกิน“ว่าอย่างไรล่ะครับ คุณอีฟ...จะให้ลูกค้ายืนคอยคุณมาวัดตัวแบบนี้อีกนานไหมครับ?” เซอร์เรนัล์ฟ
และเร็วกว่าความคิดที่อิสลินปักมันลงบนต้นแขนหนาใหญ่เต็มแรง การตอบโต้ของเธอได้ผล ร่างสูงใหญ่หยุดรุกรานและถอนริมฝีปากออกทั้งยังคลายวงแขนจากการกอดรัด อิสลินคิดว่าเธอทำสำเร็จกระทั่งเห็นหยดเลือดซึมออกมาบนแขนเสื้อของชายหนุ่มที่มีรอยขาดจากคมปากกา“ไคลน์!” ร่างบางปล่อยอุปกรณ์ลงพื้นก่อนยกมือขึ้นปิดปากอย่างตระหนก เธอแค่อยากให้เซอร์เรนัล์ฟหยุดแต่ไม่คิดว่ารอยแผลบนต้นแขนนั้นลึกและมีเลือดไหลออกมาจนน่าตกใจ“ไคลน์!” เรียวปากสีกุหลาบสั่นระริก ร่างเล็กขมวดเกร็งในช่องท้องและพาลจะทรงไม่อยู่ แต่เซอร์เรนัล์ฟกลับยืนนิ่งไม่ขยับ เขาจับจ้องดวงหน้าซีดในโดยไม่รู้สึกขุ่นแค้นแม้แต่น้อย เวลาราวหยุดไปชั่วขณะก่อนที่ประตูด้านหน้าจะถูกผลักเข้ามา“เป็นอย่างไรบ้างคะ...คุณเซอร์เรนัล์ฟ...ว้าย!...เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมแขนคุณมีเลือดออกมากอย่างนั้น!” เสียงเอ็ดอึงของซิลวี่ทำให้อิสลินยิ่งตื่นตกใจ หญิงวัยกลางคนปรี่เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็หน้าเสียเมื่อเห็นหยาดโลหิตซึมออกมาบนต้นแขนของชายหนุ่ม“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณซิลวี่ ผมซุ่มซ่ามเองแต่ไม่ได้เจ็บอะไรมาก ก็แค่อุบัติเหตุเล็กน้อยครับ”“ตายแล้ว! เลือดออกมากขนาดนี้ไม่เรียกว่าเล็กน้อยแล้วล่ะค่ะ อ
“ค่ะ...ป้าซิลวี่” ถึงจะขัดอกขัดใจแค่ไหนอิสลินก็ต้องจำใจรับปากเช่นทุกครั้ง ร่างบางก้าวขึ้นรถเก๋งคนใหญ่เพื่อนั่งข้างคนขับที่กำลังซับรอยเลือดสด ๆ บนต้นแขน“ป้าของคุณน่ารักมาก ท่านมีมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ” “ค่ะ...ท่านดีกับทุกคนจนไม่รู้ว่าใครประสงค์ร้ายกับท่านบ้าง”เซอร์เรนัล์ฟเหลือบมองหญิงสาวที่จ้องเขาเหมือนจะกินเลือดเนื้อก่อนยักไหล่น้อย ๆ และอมยิ้ม“คุณยิ้มอะไรคะ ถ้าไม่เป็นอะไรมากฉันจะบอกทางให้คุณไปคลินิกเอง”“ลืมไปแล้วหรือว่าป้าซิลวี่สั่งอะไรคุณ หันไปข้างหลังสิ ท่านกำลังมองอยู่นะ” อิสลินเลื่อนสายตาไปยังกระจกมองข้างก็เห็นป้าซิลวี่ของเธอยืนมองดังเขาว่า ร่างเล็กรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้ว่าเซอร์เรนัล์ฟมีแผนอะไรอีก“ไคลน์...อีวี่ล่ะคะ บอกมาเดี๋ยวนี้นะคะว่าตอนนี้แกอยู่ที่ไหน” หญิงสาวตัดใจถามสิ่งที่อยากรู้มากที่สุดเมื่อเซอร์เรนัล์ฟขับรถออกมาได้สักพัก เธออาจตกใจที่เขามาพบหากก็อยากรู้ว่าแม่หนูน้อยจะเป็นอย่างไรด้วยเช่นกัน“แกก็อยู่กับผม แต่อีวี่กำลังคิดถึงแม่ที่จากแกไปโดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ” อิสลินอึ้งไปชั่วครู่ รอบเบ้าตารื้นด้วยหยาดน้ำใส เธอคิดถึงลูกสาวใจจะขาดแต่อีกใจกำลังตรึกตรองว่าหากพ
“คุณอยูที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ ไคลน์” อิสลินกล่าวเสียงแผ่วเบาขณะที่เซอร์เรนัล์ฟชลอความเร็วรถกระทั่งจอดนิ่งหน้าตึกทรงโบราณไม่ห่างจากร้านลา เบล“ทำไมผมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้” เขายังติดเครื่องยนต์ไว้และหันมาถามเสียงต่ำ “เพราะคุณต้องกลับไปหาครอบครัวของคุณที่อเมริกาอย่างไรล่ะคะ”ร่างเล็กไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไปซึ่งมันอาจเป็นแรงผลักจากความเจ็บปวดข้างในเกินจะต้านรับ เธอยังเจ็บปวดกับเรื่องระหว่างเขาและเรเน่ต์ แต่แม้ไม่ได้กลั่นเป็นน้ำคำทั้งหมดก็เหมือนอีกฝ่ายจะมองทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้ง“อีฟ...คุณกำลังทำผิดข้อตกลงรู้ไหม” “ฉันไม่ได้ขัดใจคุณค่ะ ไคลน์ ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้น”“อีฟ...” ร่างสูงขยับเข้าใกล้หญิงสาว เขาเอนเข้าหาร่างอรชรที่ดวงตาคู่งามยังสบประสานกับเขาแน่วนิ่ง / “คะ”“ผมอยากจูบคุณ” ม่านตาของหญิงสาวขยายกว้างเล็กน้อย ร่างเล็กราวถูกสะกดด้วยคำร้องขออันเว้าวอนนั่น เรียวปากสีชมพูกุหลาบสั่นระริกเมื่อใบหน้าคร้ามเข้มทว่าทรงเสน่ห์โน้มลงมาชิดใกล้ จวบจนกระทั่งริมฝีปากหนาได้รูปเบียดแนบลงที่มุมปากอ่อนเบาและค่อย ๆ ไล้เลียดบนปากนวลนุ่มที่อ่อนไหวราวกลีบดอกไม้สดสะพรั่ง เซอร์เรนัล์ฟบรรจงจูบซับไปบนรอยหยักของนิ่มเนื
ซิลวี่กวักมือเรียกให้อิสลินที่คิดว่าโล่งใจแล้วต้องเดินกลับมารับโทรศัพท์เพื่อฟังเสียงปลายสายด้วยสีหน้าไม่ใคร่สู้ดีนัก“คุณอิสลินหรือครับ?” / “ค่ะ”“ต้องขอโทษทีที่เมื่อวานนี้ผมยังไม่ทันดูแบบชุดสูทที่จะสั่งตัด ช่วยเตรียมมาให้มเลือกดูหน่อยจะได้ไหมครับ อีกสักครู่จะให้คนไปรับคุณที่ร้าน”“ไคลน์คะ” น้ำเสียงหวานแปรเปลี่ยนทันควันที่ป้าของเธอหันหลังกลับไปสนใจกุหลาบช่อนั้น“ฉันไม่...” / “ห้ามปฏิเสธ! บางทีถ้าคุณยอมตามใจผมวันนี้ ผมอาจให้คุณได้พบแม่หนูน้อย”“คุณไม่ต้องเอาลูกมาต่อรองกับฉันหรอกนะคะ ไคลน์”“ผมไม่ได้ต่อรองอะไร แต่ถือว่าคุณตอบรับก็แล้วกัน อีกสิบนาทีคนของผมจะไปถึง”“ไคลน์! อย่าเพิ่งวางสายนะคะ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย ไคลน์!” อิสลินพยายามเรียกแต่เขากลับวางสายไปเสียก่อน หญิงสาวจำต้องวางโทรศัพท์ลงและพบว่าป้าของเธอเตรียมแบบชุดสูทมาวางไว้ให้เสร็จสรรพ“อีฟจ๊ะ ป้าต้องรบกวนหนูอีกแล้วล่ะ ช่วยเอาแบบชุดนี่ไปให้คุณเซอร์เรนัล์ฟเลือกทีนะจ๊ะ เพราะป้าไม่ว่างจริง ๆ ““คุณป้าคะ จริง ๆ แล้วเขามาที่นี่เองได้นะคะ ไม่เห็นจะต้องให้เราไปบริการถึงที่”“คุณเซอร์เรนัล์ฟเป็นนักธุรกิจนะจ๊ะ งานของเขาคงเยอะมากจนไม่มีเวลา
“แต่ผมอยากดูแบบสูทตอนนี้เลย” ชายหนุ่มออกคำสั่งขณะที่หญิงสาวกำลังจะหันหลังให้ อิสลินหันมาถอนใจหากก็จำต้องเข้าไปหาเขาอีกตามเคย ภาพของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อบนอกและลอนหน้าท้องตลอดจนแขนหนาในอ่างอาบน้ำที่ฟูฟ่องไปด้วยฟองสบู่ทำหัวใจของร่างแน่งน้อยเต้นระส่ำ เซอร์เรนัล์ฟมีพลังดึงดูดเสมอไม่ว่ายามอยู่ในชุดสูทภูมิฐานอย่างนักธุรกิจหรือยามปราศจากอาภรณ์ใด ๆ บนเรือนกายสมส่วนความเป็นชายนั้น อิสลินนึกในใจว่าทำไมเขาถึงไม่อาบน้ำให้เสร็จเสียก่อนแล้วรีบดูแบบสูทเพื่อที่เธอจะได้รีบกลับไปที่ร้านป้าซิลวี่ไว ๆ เพราะเวลาที่อยู่กันลำพังในสถานที่แบบนี้หญิงสาวก็ให้หวั่นเกรงต่อทีท่าของจอมซาตาน“อืม...ข้างนอกอากาศร้อนมากจริง ๆ “ เจ้าของใบหน้าคร้ามเข้มกล่าวพลางหันออกไปด้านนอกที่แสงแดดส่องผ่านบานกระจกหน้าต่างเข้ามา รอยยิ้มทรงเสน่ห์ระบายบนโครงหน้าหล่อเหลา เขาทำเหมือนไม่มีอะไรรีบเร่งเลยกระนั้น“ไหนล่ะ แบบสูทที่คุณเอามาให้ผมดู” เขาถามร่างบอบบางที่ยืนห่าง ๆ และกำลังยื่นเอกสารมาให้“ถ้าคุณชอบแบบไหนค่อยบอกฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะไปรอข้างนอก”“เข้ามาใกล้หน่อยซี ผมเอื้อมไม่ถึง” อิสลินหันมองเซอร์เรนัล์ฟที่วางแขนบนขอบอ่าง น