และเร็วกว่าความคิดที่อิสลินปักมันลงบนต้นแขนหนาใหญ่เต็มแรง การตอบโต้ของเธอได้ผล ร่างสูงใหญ่หยุดรุกรานและถอนริมฝีปากออกทั้งยังคลายวงแขนจากการกอดรัด อิสลินคิดว่าเธอทำสำเร็จกระทั่งเห็นหยดเลือดซึมออกมาบนแขนเสื้อของชายหนุ่มที่มีรอยขาดจากคมปากกา“ไคลน์!” ร่างบางปล่อยอุปกรณ์ลงพื้นก่อนยกมือขึ้นปิดปากอย่างตระหนก เธอแค่อยากให้เซอร์เรนัล์ฟหยุดแต่ไม่คิดว่ารอยแผลบนต้นแขนนั้นลึกและมีเลือดไหลออกมาจนน่าตกใจ“ไคลน์!” เรียวปากสีกุหลาบสั่นระริก ร่างเล็กขมวดเกร็งในช่องท้องและพาลจะทรงไม่อยู่ แต่เซอร์เรนัล์ฟกลับยืนนิ่งไม่ขยับ เขาจับจ้องดวงหน้าซีดในโดยไม่รู้สึกขุ่นแค้นแม้แต่น้อย เวลาราวหยุดไปชั่วขณะก่อนที่ประตูด้านหน้าจะถูกผลักเข้ามา“เป็นอย่างไรบ้างคะ...คุณเซอร์เรนัล์ฟ...ว้าย!...เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมแขนคุณมีเลือดออกมากอย่างนั้น!” เสียงเอ็ดอึงของซิลวี่ทำให้อิสลินยิ่งตื่นตกใจ หญิงวัยกลางคนปรี่เข้ามาดูใกล้ ๆ ก็หน้าเสียเมื่อเห็นหยาดโลหิตซึมออกมาบนต้นแขนของชายหนุ่ม“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณซิลวี่ ผมซุ่มซ่ามเองแต่ไม่ได้เจ็บอะไรมาก ก็แค่อุบัติเหตุเล็กน้อยครับ”“ตายแล้ว! เลือดออกมากขนาดนี้ไม่เรียกว่าเล็กน้อยแล้วล่ะค่ะ อ
“ค่ะ...ป้าซิลวี่” ถึงจะขัดอกขัดใจแค่ไหนอิสลินก็ต้องจำใจรับปากเช่นทุกครั้ง ร่างบางก้าวขึ้นรถเก๋งคนใหญ่เพื่อนั่งข้างคนขับที่กำลังซับรอยเลือดสด ๆ บนต้นแขน“ป้าของคุณน่ารักมาก ท่านมีมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ” “ค่ะ...ท่านดีกับทุกคนจนไม่รู้ว่าใครประสงค์ร้ายกับท่านบ้าง”เซอร์เรนัล์ฟเหลือบมองหญิงสาวที่จ้องเขาเหมือนจะกินเลือดเนื้อก่อนยักไหล่น้อย ๆ และอมยิ้ม“คุณยิ้มอะไรคะ ถ้าไม่เป็นอะไรมากฉันจะบอกทางให้คุณไปคลินิกเอง”“ลืมไปแล้วหรือว่าป้าซิลวี่สั่งอะไรคุณ หันไปข้างหลังสิ ท่านกำลังมองอยู่นะ” อิสลินเลื่อนสายตาไปยังกระจกมองข้างก็เห็นป้าซิลวี่ของเธอยืนมองดังเขาว่า ร่างเล็กรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้ว่าเซอร์เรนัล์ฟมีแผนอะไรอีก“ไคลน์...อีวี่ล่ะคะ บอกมาเดี๋ยวนี้นะคะว่าตอนนี้แกอยู่ที่ไหน” หญิงสาวตัดใจถามสิ่งที่อยากรู้มากที่สุดเมื่อเซอร์เรนัล์ฟขับรถออกมาได้สักพัก เธออาจตกใจที่เขามาพบหากก็อยากรู้ว่าแม่หนูน้อยจะเป็นอย่างไรด้วยเช่นกัน“แกก็อยู่กับผม แต่อีวี่กำลังคิดถึงแม่ที่จากแกไปโดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ” อิสลินอึ้งไปชั่วครู่ รอบเบ้าตารื้นด้วยหยาดน้ำใส เธอคิดถึงลูกสาวใจจะขาดแต่อีกใจกำลังตรึกตรองว่าหากพ
“คุณอยูที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ ไคลน์” อิสลินกล่าวเสียงแผ่วเบาขณะที่เซอร์เรนัล์ฟชลอความเร็วรถกระทั่งจอดนิ่งหน้าตึกทรงโบราณไม่ห่างจากร้านลา เบล“ทำไมผมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้” เขายังติดเครื่องยนต์ไว้และหันมาถามเสียงต่ำ “เพราะคุณต้องกลับไปหาครอบครัวของคุณที่อเมริกาอย่างไรล่ะคะ”ร่างเล็กไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไปซึ่งมันอาจเป็นแรงผลักจากความเจ็บปวดข้างในเกินจะต้านรับ เธอยังเจ็บปวดกับเรื่องระหว่างเขาและเรเน่ต์ แต่แม้ไม่ได้กลั่นเป็นน้ำคำทั้งหมดก็เหมือนอีกฝ่ายจะมองทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้ง“อีฟ...คุณกำลังทำผิดข้อตกลงรู้ไหม” “ฉันไม่ได้ขัดใจคุณค่ะ ไคลน์ ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้น”“อีฟ...” ร่างสูงขยับเข้าใกล้หญิงสาว เขาเอนเข้าหาร่างอรชรที่ดวงตาคู่งามยังสบประสานกับเขาแน่วนิ่ง / “คะ”“ผมอยากจูบคุณ” ม่านตาของหญิงสาวขยายกว้างเล็กน้อย ร่างเล็กราวถูกสะกดด้วยคำร้องขออันเว้าวอนนั่น เรียวปากสีชมพูกุหลาบสั่นระริกเมื่อใบหน้าคร้ามเข้มทว่าทรงเสน่ห์โน้มลงมาชิดใกล้ จวบจนกระทั่งริมฝีปากหนาได้รูปเบียดแนบลงที่มุมปากอ่อนเบาและค่อย ๆ ไล้เลียดบนปากนวลนุ่มที่อ่อนไหวราวกลีบดอกไม้สดสะพรั่ง เซอร์เรนัล์ฟบรรจงจูบซับไปบนรอยหยักของนิ่มเนื
ซิลวี่กวักมือเรียกให้อิสลินที่คิดว่าโล่งใจแล้วต้องเดินกลับมารับโทรศัพท์เพื่อฟังเสียงปลายสายด้วยสีหน้าไม่ใคร่สู้ดีนัก“คุณอิสลินหรือครับ?” / “ค่ะ”“ต้องขอโทษทีที่เมื่อวานนี้ผมยังไม่ทันดูแบบชุดสูทที่จะสั่งตัด ช่วยเตรียมมาให้มเลือกดูหน่อยจะได้ไหมครับ อีกสักครู่จะให้คนไปรับคุณที่ร้าน”“ไคลน์คะ” น้ำเสียงหวานแปรเปลี่ยนทันควันที่ป้าของเธอหันหลังกลับไปสนใจกุหลาบช่อนั้น“ฉันไม่...” / “ห้ามปฏิเสธ! บางทีถ้าคุณยอมตามใจผมวันนี้ ผมอาจให้คุณได้พบแม่หนูน้อย”“คุณไม่ต้องเอาลูกมาต่อรองกับฉันหรอกนะคะ ไคลน์”“ผมไม่ได้ต่อรองอะไร แต่ถือว่าคุณตอบรับก็แล้วกัน อีกสิบนาทีคนของผมจะไปถึง”“ไคลน์! อย่าเพิ่งวางสายนะคะ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย ไคลน์!” อิสลินพยายามเรียกแต่เขากลับวางสายไปเสียก่อน หญิงสาวจำต้องวางโทรศัพท์ลงและพบว่าป้าของเธอเตรียมแบบชุดสูทมาวางไว้ให้เสร็จสรรพ“อีฟจ๊ะ ป้าต้องรบกวนหนูอีกแล้วล่ะ ช่วยเอาแบบชุดนี่ไปให้คุณเซอร์เรนัล์ฟเลือกทีนะจ๊ะ เพราะป้าไม่ว่างจริง ๆ ““คุณป้าคะ จริง ๆ แล้วเขามาที่นี่เองได้นะคะ ไม่เห็นจะต้องให้เราไปบริการถึงที่”“คุณเซอร์เรนัล์ฟเป็นนักธุรกิจนะจ๊ะ งานของเขาคงเยอะมากจนไม่มีเวลา
“แต่ผมอยากดูแบบสูทตอนนี้เลย” ชายหนุ่มออกคำสั่งขณะที่หญิงสาวกำลังจะหันหลังให้ อิสลินหันมาถอนใจหากก็จำต้องเข้าไปหาเขาอีกตามเคย ภาพของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อบนอกและลอนหน้าท้องตลอดจนแขนหนาในอ่างอาบน้ำที่ฟูฟ่องไปด้วยฟองสบู่ทำหัวใจของร่างแน่งน้อยเต้นระส่ำ เซอร์เรนัล์ฟมีพลังดึงดูดเสมอไม่ว่ายามอยู่ในชุดสูทภูมิฐานอย่างนักธุรกิจหรือยามปราศจากอาภรณ์ใด ๆ บนเรือนกายสมส่วนความเป็นชายนั้น อิสลินนึกในใจว่าทำไมเขาถึงไม่อาบน้ำให้เสร็จเสียก่อนแล้วรีบดูแบบสูทเพื่อที่เธอจะได้รีบกลับไปที่ร้านป้าซิลวี่ไว ๆ เพราะเวลาที่อยู่กันลำพังในสถานที่แบบนี้หญิงสาวก็ให้หวั่นเกรงต่อทีท่าของจอมซาตาน“อืม...ข้างนอกอากาศร้อนมากจริง ๆ “ เจ้าของใบหน้าคร้ามเข้มกล่าวพลางหันออกไปด้านนอกที่แสงแดดส่องผ่านบานกระจกหน้าต่างเข้ามา รอยยิ้มทรงเสน่ห์ระบายบนโครงหน้าหล่อเหลา เขาทำเหมือนไม่มีอะไรรีบเร่งเลยกระนั้น“ไหนล่ะ แบบสูทที่คุณเอามาให้ผมดู” เขาถามร่างบอบบางที่ยืนห่าง ๆ และกำลังยื่นเอกสารมาให้“ถ้าคุณชอบแบบไหนค่อยบอกฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะไปรอข้างนอก”“เข้ามาใกล้หน่อยซี ผมเอื้อมไม่ถึง” อิสลินหันมองเซอร์เรนัล์ฟที่วางแขนบนขอบอ่าง น
“ไคลน์...อย่าค่ะ...ได้โปรด” หญิงสาวได้แต่ร้องขอทั้งที่ต้านทานร่างแกร่งกำยำนั้นไม่ไหว เขาทำให้เธอร้อนรน เขาปลุกเร้าผ่านเนื้อผ้าบางเบาเปียกชุ่มที่หลุดร่นลงไปกองใต้ฟองลื่น ลิ้นหนายังทำงานไม่หยุดหย่อน ทั้งโลมเล้าดูดกลืนและตวัดชิมความหวานจากปากเล็ก กระทั่งใบหน้าคร้ามคมเลื่อนออกไปร่างอรชรจึงยกแขนขึ้นปิดป้องเต้าอิ่มกลมแสนสวยเมื่อกายสาวถูกเปิดเปลือยจนหมดด้วยเช่นกัน“อีฟ...คุณจะปกปิดไปทำไมกัน ในเมื่อผมก็เห็นจนหมดแล้ว” เสียงทุ้มทว่านุ่มนวลนั้นวอนเว้าพร้อมกับที่มือแกร่งดันแขนเรียวทั้งสองให้พ้นจากเนินเนื้ออวบใหญ่จนมันดีดเด้งออกมาอวดสายตา เขามองอยู่นานจนอิสลินเขินอายตัวเอง“พอใจหรือยังคะ ไคลน์...ฉันไม่ให้คุณทำอะไรมากไปกว่านี้นะคะ และที่สำคัญคุณต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับฉันด้วย”“ผมไม่บิดพลิ้วคุณหรอก อีฟ แต่...” เซอร์เรนัล์ฟยังเบียดความใหญ่โตเข้าหาจนทุกสัดส่วนบนกายแข็งแกร่งแนบชิดกับร่างอ่อนนุ่มในอ่างน้ำที่ฟองสบู่เริ่มบางเบาลง“แต่อะไรคะ?” “คุณไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหนถ้าจะให้แค่กอดคุณไว้แบบนี้”“ไคลน์...อย่าสิคะ...ฉันไม่....” อิสลินร้องปฏิเสธแต่ไม่ทันเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ฝังจมูกโด่งลงบนแก้มนวลแ
“ไม่มีอะไรน่ากลัว ที่รัก” รอยยิ้มอันน่าเสน่หาจุดขึ้นบนมุมปากหยักพร้อมกันกับที่มือสากระคายลากไล้จากหัวไหล่กลมมนลงมาหยุดที่ยอดปทุมงามปริ่มบนผิวน้ำ ชายหนุ่มก้มลงจูบเม็ดโกเมนสีแดงเรื่อและขบด้วยฟันเบา ๆ จนร่างสาวสยิวซ่านก่อนผงกศีรษะขึ้นและจับจ้องดวงหน้าหวานสีชมพูเข้มที่มองทีไรก็ยังเย้ายวนใจราวกับเทพีกลางสายน้ำปลดปล่อยผมเปียกสยายลู่ลงมาเคลียบนสองเต้า“ที่รัก ผมคงต้องสอนคุณใหม่เสียแล้วกระมัง” น้ำเสียงเบาราวกระซิบทว่าเสียงหอบหายใจหนักจากใบหน้าคร้ามเข้มนั้นก็ยังชัดเจนกว่าเสียงคลื่นด้านนอก อิสลินขอบตาร้อนผ่าวเมื่อนึกถึง เขา ในคืนนั้น ราตรีแห่งฝันของนักเรียนสาวและอาจารย์หนุ่ม ร่างเล็กไล้นิ้วเรียวไปมาบนริมฝีปากล่างของเซอร์เรนัล์ฟเบา ๆ แลกกับจูบที่เขาบรรจงประทับลงบนปลายนิ้วสีเรื่อ“ไคลน์คะ คุณเคยสอนฉันแล้วนะคะ” “มันคงนานเกินไปจนคุณจำไม่ได้แล้วกระมัง”“ฉันจำมันได้เสมอค่ะ แต่คุณ...คงจะลืมนักเรียนคนนี้ไปแล้ว”“ไม่...” เซอร์เรนัล์ฟดูดนิ้วกลางของหญิงสาวก่อนตอบเสียงพร่า “ผมไม่เคยสอนบทเรียนนี้ให้ใคร...นอกจากคุณ”“ไคลน์...อืม” อิสลินหลับตาลงและรับรู้ถึงความอบอุ่นที่ฉายวาบขึ้นมาจากก้นบึ้ง หญิงสาวลืมเรื่อง
“อา...อีฟ” เซอร์เรนัล์ฟคำรามเสียงหนักอยู่ในลำคอก่อนพลิกตัวให้ร่างเล็กขึ้นมาทาบทับอยู่เบื้องบน เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อพวงเนื้ออิ่มงามทั้งสองข้างที่กำลังไหวกระเพื่อมเลื่อนมาอยู่ตรงกับริมฝีปากหนาได้รูป“ไคลน์...บอกฉันสิคะว่าเมื่อไหร่คุณจะให้ฉันพบอีวี่” ร่างเปลือยเย้ายวนบิดไปมาอยู่เหนือร่างกำยำกระซิบถามพลางไล้ปลายนิ้วไปบนกรามแกร่งสากระคายคล้ายจะเอาใจ“คุณจะได้พบลูกแน่ ผมรับประกัน” / “แล้วหลังจากนี้คุณจะปล่อยพวกเราไปใช่ไหมคะ”พอหญิงสาวถามต่อชายหนุ่มก็ขยับลูกขึ้นนั่งโดยใช้แขนแข็งแรงดันแผ่นหลังให้ร่างบอบบางที่ยังคร่อมบนตัวแนบกับอกกว้าง เซอร์เรนัล์ฟซุกใบหน้าเพื่อสูดดมกลิ่นหอมอวลจากหลือบร่องของสองเต้าที่ถูกเบียดชิดเข้าหากัน“ผมยังไม่มีแผนอะไรตอนนี้ แต่คิดว่าจะพาคุณกับลูกกลับอเมริกา”“เพื่อเป็นสักขีพยานในงานแต่งของคุณกับเรเน่ต์อย่างนั้นหรือคะ...ฉันขอปฏิเสธค่ะ ไคลน์” / “คุณหึงผมหรือ อีฟ”“ไม่ค่ะ...อ๊ะ! ไคลน์” อิสลินสะดุ้งเมื่อกายแกร่งเริ่มแทรกความเป็นเขาเข้าไปในกลีบอ่อนนุ่มโดยหญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ใจหนึ่งเธอก็อยากขยับหนีแต่ท่าที่นั่งอยู่บนหน้าตักของเขาไม่อำนวยให้ทำอย่างที่คิด“อุ๊ย! ไคลน์