ดอกไม้แสนสวยมากมายสยายกลีบสีชมพูหวานรอรับหยาดน้ำในรัตติกาลสงบงามทว่าไร้ความสงัดและน่ากลัวนักสำหรับหญิงสาว เซอร์เรนัล์ฟหยุดเดินและกระชากร่างแน่งน้อยมาไว้ในอ้อมแขนเมื่อเขาพาเธอมาหยุดอยู่กลางดงกุหลาบอาบสายฝน“คุณชอบบรรยากาศแบบนี้ไม่ใช่หรืออีฟ แต่คืนนี้ไม่มีแสงจันทร์ จะมีก็แต่ความทรมานที่คุณต้องเจ็บจำไปจนวันตาย!”“อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะคะ ไคลน์ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ ได้ยินมั้ยคะ!” อิสลินใช้ฝ่ามือบางดันอกแกร่งเอาไว้แต่ไม่มีจังหวะจะผละออกห่างจากอ้อมแขนหนาที่ยังกอดรัด ยิ่งฝนกระหน่ำเทก็ยิ่งทำให้ตัวเขาและเธอเปียกปอน เซอร์เรนัล์ฟนั้นยิ่งร้อนรุ่มหนักด้วยเพลิงโทสะและเปลวราคะที่กำลังเผาไหม้ เมื่ออาการหอบสะท้อนยิ่งทำให้อกนุ่มใต้เสื้อเปียกโชกเสียดสีกับแผ่นอกกว้างโดยไม่ได้ตั้งใจ ทว่าหญิงสาวมองเห็นก็แต่ดวงตาดุกร้าวราวกับราชสีห์จ้องเหยื่อก็ไม่ปาน“ทำไมผมจะทำไม่ได้ อีฟ! ผมมีสิทธิ์ทำทุกอย่างที่ผมอยากทำ ส่วนคุณก็มีหน้าที่ทำตามความต้องการของผมเท่านั้น!”“แต่ไม่ใช่แบบนี้...ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันอยากกลับค่ะไคลน์...ได้โปรด”“เมื่อกี๊เสียงของคุณมันไม่ใช่แบบนี้ ทั้งอวดดีและอวดเก่ง คุณยั่วให้ผมโกรธแล้วคิดว่ามันจะหายง่าย ๆ
“ปล่อยฉัน...ปล่อยฉัน” ร่างเล็กร่ำร้องออกมาทันทีที่ริมฝีปากร้ายเคลื่อนออกไปเม้มขบที่ปลายคางมน ชายหนุ่มรู้สึกถึงกำลังฮึกเหิมเพราะยิ่งร่างงามดีดดิ้นไปมาเท่ากับยิ่งยั่วยุให้ไฟปรารถนาโหมแรงขึ้น ในความเคียดแค้นชายหนุ่มกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด เขาฝังจมูกโด่งไปตามลำคอและดูดซับหยาดน้ำที่เกาะพราวบนเนียนผิวจนหญิงสาวขนลุกซู่“ไคลน์...คุณมันปิศาจ คุณทำร้ายฉัน ฉันเกลียดคุณ”“อีฟ...” เซอร์เรนัล์ฟครางลึกเมื่ออิสลินบริภาษเขาด้วยน้ำเสียงผะแผ่ว ร่างหนากดจูบแรง ๆ ก่อนผงกศีรษะขึ้นมองใบหน้าหวานอีกครั้งชัด ๆ“ใช่...ผมมันปิศาจ ซาตาน หรืออะไรก็ได้ที่คุณอยากจะเรียก” เสียงห้าวเริ่มหอบสะท้านขึ้นมาบ้างขณะใช้ท่อนขากดเรียวขางามใต้ร่างที่ดึงดันไม่ยอมแพ้“คุณมันอสูรร้าย...ฉันเกลียดคุณ...ฉันเกลียดคุณ” / “คุณต้องการผมต่างหาก อีฟ...เวลานี้ และเดี๋ยวนี้” / “ไม่...ไม่....”น้ำเสียงผะแผ่วหลุดหายไปอีกครั้ง คราวนี้ยาวนานเมื่อลิ้นร้อนแทรกซอนเข้าไปในปากเล็ก เธอไม่อาจขัดขืนสัมผัสของเขาทุกครั้งแม้ปากจะก่นว่าเกลียดชังแค่ไหน มือเรียวทั้งสองข้างที่ถูกตรึงไว้กำหมัดแน่นเมื่อความรุมร้อนเริ่มแล่นไหลลงไปสู่ใจกลางร่างกายที่เขาบดเบี
“ใช่...ความหนาวอาจฆ่าคนให้ตายได้ แต่ไม่ใช่ผมกับคุณ...ตอนนี้แน่” เซอร์เรนัล์ฟเสียงขาดออกเป็นห้วงก่อนจะดึงมือออกจากเนินเนื้อสามเหลี่ยมเย้ายวนที่เขาดึงแพนตี้ตัวน้อยลงไปถึงขาอ่อนของหญิงสาว ร่างสูงหยัดกายขึ้นและรั้งเสื้อเปียกปอนออกไปทิ้งไว้ข้าง ๆ โดยไม่หวั่นต่อสายฝนทั้งไม่สนใจว่ามันจะเปื้อนเปรอะดินทรายจนหมด ท่ามกลางม่านฝนและกระไอน้ำเธอยังเห็นเรือนร่างล่ำสันของความเป็นบุรุษเพศเคร่งเครียดไปด้วยความแข็งแรงบนไหล่และอกเรื่อยไปถึงกล้ามเนื้อเป็นลอนบนหน้าท้องผ่านแสงสปอร์ตไลต์ที่อาบลงมากลางดงกุหลาบ อิสลินนอนราบอยู่ใต้ร่างนั้นเพราะหมดแรงจะดีดดิ้นและหนีไปทางไหนอีก ร่างนั้นแหงนหงายขณะลมหายใจสะท้อนบนเรือนกายเย้ายวนหัวใจชายที่กำลังจะบังคับเพื่อครอบครอง“ฉันหนาวเหลือเกินค่ะ ไคลน์” เสียงแผ่วลอดผ่านกลีบปากฉ่ำเคลือบด้วยหยาดน้ำฝนที่เธอกลืนเข้าไปหลายอึก เซอร์เรนัล์ฟโน้มกายเปลือยเปล่าท่อนบนเหลือเพียงกางเกงเดนิมหนาหนักลงมาหาร่างเล็กเพื่อดึงรั้งอาภรณ์ชุ่มน้ำออกจากสัดส่วนโค้งเว้าโดยไม่สนใจการทัดทานจากปลายเล็บที่จิกลงบนมือหนา อิสลินกำลังร้องไห้หากแต่น้ำตานั้นหลั่งไหลไปกับสายน้ำ เธอทำอะไรจอมซาตานไม่ได้เลยและยิ่งรู้
“ไคลน์...อา ...อา”“อีฟ...คุณคิดว่าผมจะเจอใคร ในเมื่อผมไม่เคยเจอใคร...แม้แต่คนเดียว” เซอร์เรนัล์ฟแนบแก้มระคายลงกับเนินทรวงอ่อนนุ่มที่ไหวกระเพื่อมด้วยลมหายใจแรง อิสลินคลี่เรียวปากราวแย้มยิ้มรับความสุขและความขมขื่นที่แล่นขึ้นมาจุกอกในเวลาเดียวกัน ความหนาวเยือกกร่อนหญิงสาวจนชาไปหมดทั้งปลายมือและเท้า ทางเดียวที่จะสกัดมันได้คือยึดร่างสูงใหญ่ไว้แนบแน่น“ไคลน์...ฉันหนาวค่ะ...ฉันหนาว” อิสลินครางคล้ายคนละเมอขณะที่เซอร์เรนัล์ฟยังบดเคล้าริมฝีปากไปบนเนินเนื้ออวบนุ่มสลับกับการใช้มือเบียดคลึงราวมันเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล ความเย็นจากหยาดน้ำแทรกซึมเข้าไปทุกอณูของเนียนผิวและทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนจับไข้ทว่าภายในกลับรุ่มร้อนด้วยเพลิงพิศวาสลุกช่วง นิ้วเรียวที่จิกปลายเล็บแสดงการต่อต้านเปลี่ยนเป็นไล้ลูบและสอดเข้าไปใต้ท้ายทอยของใบหน้าคร้ามคมเพื่อกดศรีษะให้เขาครอบครองยอดถันสีชมพูเข้มด้วยเรียวปากหยักที่กำลังดูดกลืนทุกอย่างด้วยความกระหายหิว เซอร์เรนัล์ฟกระชับอ้อมแขนแกร่งรัดแผ่นหลังบางขณะเบียดร่างที่กำลังจะแตกระเบิดเข้าหา“อีฟ...อา” เสียงห้าวลึกดังอยู่ในลำคอเมื่อรับรู้ถึงความเครียดเกร็งที่กำลังดันตัวเองให้พ้นจา
“ทำไมจะไม่ได้คะไคลน์ ฉันบอกว่าให้คุณออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้”“คุณจะสั่งผมได้ยังไง เพราะแม้แต่ร่างกายของคุณ คุณก็ยังสั่งมันไม่ได้เลย” / “ไม่จริง!...คุณพูดเอาแต่ได้รู้ตัวไหมคะไคลน์”“ถ้าไม่เชื่อผมจะพิสูจน์ให้คุณได้รู้ว่าที่ผมพูด...มันเป็นความจริง” ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่ยังขยับสะโพกภายใต้เดนิมเนื้อหนาขณะกดไหล่หญิงสาวกับพื้น เขาตั้งใจจะบังคับเธอด้วยกำหนัดร้อนแรงและดูเหมือนมันใกล้บรรลุผล อิสลินเองก็ปั่นป่วนไปหมดเมื่อความปรารถนาระอุร้อนกำลังแทรกตัวขึ้นมาแทนที่สำนึกอันตื้นเขิน หญิงสาวกำลังเผชิญกับความรู้สึกใหม่เมื่อความเจ็บแสบทุเลาลงจนบางเบา ส่วนซ่อนเร้นอันแห้งผากก็เริ่มเปิดรับความเครียดตึงด้วยการขับความฉ่ำชื้นออกมาหล่อเลี้ยง แล้วความรักก็มีชัยเหนือทุกสิ่งเพราะธรรมชาติแห่งความเป็นจริงคือเธอสั่งตัวเองให้ ปฏิเสธเขาไม่ลง”อีฟ...โอ...พระเจ้า!...นี่คุณจริง ๆ หรือ” เซอร์เรนัล์ฟพลั้งเผยความรู้สึกที่ยังฝังอยู่ในหุบลึกแห่งห้วงเสน่หา ขณะขยับความเป็นชายที่เครียดเขม็งเข้าออกก็นึกไปถึงครั้งแรกที่ได้ครอบครองหญิงสาว อิสลินในเวลานั้นเต็มไปด้วยความตื่นกลัวและกระหายได้เรียนรู้รสชาติอันหวานหอมแห่งวิถีทางเพศ ทว
“มามี้ขา...มามี้ขา” เสียงกังวานดุจระฆังเล็ก ๆ ปลุกให้อิสลินค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมารับภาพลูกสาวตัวน้อยด้วยความรู้สึกหนักอึ้งไปหมด อีวี่ในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายยื่นหน้าเล็กที่ผมสีน้ำตาลประกายทองรวบเป็นหางม้าเข้ามาใกล้เพื่อพินิจดูร่างบางใต้ผ้านวมผืนใหญ่ด้วยแววตาไร้เดียงสา“อีวี่” หญิงสาวขานรับเสียงแหบผ่านลำคอแห้งเป็นผง เรียวปากซีดระริกสั่นพยายามขานให้ดังกว่าเก่า / “อีวี่”“มามี้ตื่นซีคะ...มามี้คิดถึงอีวี่มั้ย เมื่อคืนอีวี่ไปนอนกับแด๊ดดี้”“จ้ะ...มามี้รู้แล้ว” อิสลินคลี่ยิ้มอย่างยากลำบากขะคู้ตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม แสงแดดที่ส่องเข้ามาไม่ได้ช่วยคลายหนาวได้แม้แต่น้อย หญิงสาวสั่นสะท้านและเจ็บร้าวเข้าไปถึงกระดูก เธอกำลังนึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนที่ต้องนอนตากฝนให้คนใจหินข่มเหงร่างกายกลางดินเปียกแฉะและกลับมาที่นี่ตอนไหน อย่างไรไม่รู้ได้“มามี้ตื่น...อีวี่จะไปเก็บดอกกุหลาบ เอามาให้บาร์บี้” อีวี่รุกเร้าตามประสาเด็ก แต่คำพูดนั่นทำเอามารดาน้ำตาซึม เธอไม่อยากนึกถึงที่นั่นอีกและแทบไม่อยากจะย่างกรายเข้าไปในดงดอกไม้แสนงามที่กลับกลายเป็นอเวจีกลางสายฝน มันเหมือนลานประหารของเซอร์เรนัล์ฟ จอมซาตานในคราบเทพบุตรหล่อเหลาผู
“ผมจะโทรเรียกหมอให้มาดูอาการของเธอก็แล้วกัน ป้าลิลลี่กลับไปดูแลเธอเถอะครับ ถ้ามีอะไรก็บอกผมได้ทันที”“เอ้อ...ค่ะ...เอ้อ...” แม่บ้านรับคำทว่าก็ยังมีสีหน้าลังเล / “มีอะไรอีกหรือครับ?”“คะ...เอ้อ...แล้วคุณเซอร์เรนัล์ฟกลับจากเดย์ตันเมื่อไหร่กันคะเพราะป้าเห็นคุณอยู่ที่นี่ตั้งแต่ตอนเช้ามืด”ป้าลิลลี่ยิ้มเจื่อนด้วยเกรงคำถามซอกแซกจะทำให้เจ้านายหนุ่มรำคาญใจทว่ายิ้มจางกลับจุดประกายบนรอยปากหยัก“ผมกลับมาที่นี่ตอนดึกครับ ฝนตกหนักตลอดคืนเลยเปลี่ยนกำหนดการณ์ทุกอย่างกะทันหัน”“ค่ะ” ป้าลิลลี่ไม่ซักไซ้ต่อเพราะเริ่มคุ้นเคยกับบุคลิกอันเรียบเฉยของนายคนใหม่ เซอร์เรนัล์ฟเป็นคนเงียบขรึมและไม่พูดมาก ถ้าเขาอยากจะทำอะไรก็จะทำในทันที และสิ่งหนึ่งที่แสดงความเป็นตัวตนของประธานบริษัทใหญ่ได้เป็นอย่างดีคือ เขาเป็นคนไม่ชอบผิดคำพูด“เซจคะ” เมื่อเสียงหนึ่งที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้ป้าลิลลี่หยุดชะงักขะกำลังจะถอยออกไป เรเน่ต์ในชุดกระโปรงสั้นสีทับทิมเดินเข้าไปถึงตัวชายหนุ่มและก็ไม่ลืมที่จะเหลือบมองแม่บ้านวัยกลางคนที่เดินกลับเข้าไปในสวนอันเงียบเชียบ“มีธุระอะไรหรือ เรเน่ต์?” นอกจากบรรยากาศแปลก ๆ ในสวนไคกัตนี่แล้ว คำถามและน้ำเสี
ไม่มีความคิดเห็นใดจากบุรุษตรงหน้า เรเน่ต์เจ็บจี๊ดในใจเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าเข้มที่เคยแทบจะหลอมละลายเธอได้บัดนี้สะท้อนเพียงความเฉยเมยเฉื่อยชา เกิดอะไรขึ้น...เขายกเลิกการเดินทางไปเดย์ตันก็เพราะแม่ม่ายแสนสวยคนนั้นใช่หรือไม่ คิดมาถึงแค่นี้ก็แทบจะทนไม่ไหว ถ้าไม่คิดทำอะไรสักอย่างเซอร์เรนัล์ฟต้องหลุดมือเธอไปในสักวัน๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐อิสลินรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อความมืดโรยตัวลงมาห่มคลุมท้องฟ้าจนมืดหมองไปหมด ก่อนนิทราอันยาวนานหญิงสาวรับรู้ว่ามีนายแพทย์เข้ามาดูอาการและจัดยาให้ท่ามกลางความเป็นห่วงเป็นใยของป้าลิลลี่และอีวี่ที่คอยเฝ้าไม่ห่าง ทว่าไม่เห็นเงาของเซอร์เรนัล์ฟที่เธอรับรู้จากแม่บ้านว่าเขาไม่มีแม้แต่เวลาว่างเพราะติดว่าต้องคอยดูแลเพื่อนสาวคนใหม่ที่ชื่อเรเน่ต์ซึ่งมาหาเขาเมื่อตอนสาย ตอนที่เธอช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้เพราะไข้ขึ้นสูง เธอเห็นแต่ป้าลิลลี่เดินเข้าออกภายในห้องเพื่อเช็ดตัวให้และเห็นอีวี่หอบตุ๊กตาหมีกับบาร์บี้มาให้กำลังใจมามี้ของหนูน้อยบนเตียง ถึงแม้ตอนลืมตาตื่นในความง่วงงุนขณะความร้อนได้ทุเลาลงแล้วก็ยังเห็นลูกสาวในชุดนอนกำลังนั่งแต่งตัวให้ตุ๊กตาอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหน“อีวี่...” / “มามี้ขา...มาม
“มามี้ขา...มามี้ขา” อีวี่ร้องเรียกขณะวิ่งกลับมาหาแม่ อิสลินที่นั่งใจลอยราวกับภวังค์กระตุกวูบ เธออ้าแขนรับแม่หนูน้อยที่โผเข้าซบอกและจูบเรือนผมสีน้ำตาลทองที่อวลไอด้วยกลิ่นหอมแบบเด็ก ๆ“อะไรจ๊ะลูก...ไม่อยู่คุยกับแด๊ดดี้แล้วหรือจ๊ะ” / “อีวี่อยากนอนค่ะ มามี้”“หืม...” อิสลินเงยหน้ามองท้องฟ้า อาจถึงเวลาที่อีวี่จะนอนแล้วจริง ๆ / “มามี้ร้องเพลงให้อีวี่ฟังหน่อยซีคะ”อีวี่ออดอ้อนและอิสลินก็ไม่คิดปฏิเสธ หญิงสาวจับร่างเล็กขึ้นนั่งบนตักและโอบกอดด้วยอ้อมแขนอุ่นราวอุ้มเด็กทารก แสงนวลของจันทราสาดส่องลงมากระทบนัยน์ตาสีฟาสดใส สำหรับเธอแล้วอีวี่เป็นของขวัญจากสรวงสวรรค์ที่งดงามมากกว่าสิ่งใดในโลก เจ้าของร่างแน่งน้อยเริ่มขยับเรียวปากขับลำนำเสียงเพลงเห่กล่อมคลอเสียงคลื่นและสายลมอ่อนShule, shule, shule-a-roo, Shule-a-rak-shak, shule-a-ba-ba-coo. When I saw my sally babby beal, Come bibble in the boo shy lorey. บทเพลงนุ่มนวลอ่อนหวานถูกขับกล่อมเบา ๆ อยู่เช่นนั้นกระทั่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสงัด“อีวี่จ๊ะ...อีวี่จ๋า” อิสลินหยุดร้องและก้มลงมองนางฟ้าในอ้อมแขนที่หลับตาพริ้ม“อะไรกัน...หลับไปเสียแล้ว” อิสลิน
“บอกมาเถอะที่รักว่าจะให้ผมทำอะไร ผมยอมคุณหมดแล้วนะทูนหัว”หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนหันไปมองร่างเล็กที่กำลังก่อปราสาททรายอย่างขะมักเขม้น“คุณไม่ต้องทำอะไรให้ฉันหรอกค่ะ ขอแค่ทำให้ลูกของเรามีความสุขที่สุดในวันเกิดของแก...เป็นพอ”เซอร์เรนัล์ฟยิ้มพลางเกลี่ยปอยผมบนขมับของอิสลินทว่าก็สังเกตเห็นความผิดปกติบนวงหน้างามของผู้อยู่ในอ้อมแขน“อีฟ...ผมว่าหน้าคุณดูซีดไปนะ คุณไม่สบายหรือเปล่า”“ไม่นี่คะ ฉันสบายดีค่ะ ฉันคงตื่นเต้นมากไปที่ได้เห็นหน้าลูก”หญิงสาวหรุบสายตาลงต่ำเพื่อเก็บซ่อนอะไรบางอย่างที่ยังติดค้างในใจก่อนเปลี่ยนเรื่องพูด“นี่ก็เย็นมากแล้วนะคะ ฉันยังไม่ได้บอกป้าซิลวี่เลยว่าจะกลับบ้านผิดเวลาแบบนี้ ท่านคงเป็นห่วงฉันแย่แล้ว””ป้าซิลวี่รู้แล้วว่าคืนนี้คุณจะไม่กลับบ้าน”“คะ...คุณว่ายังไงนะคะ?” อิสลินขมวดคิ้วมุ่น เธอช้อนสายตาขึ้นมองเขาอีกครั้งก็เห็นประกายวิบวับในดวงตาสีฟ้าคมเข้ม เซอร์เรนัล์ฟดันแผ่นหลังให้ร่างบอบบางแนบชิดอกกว้างอีกครั้ง“นับจากวันนี้ป้าซิลวี่คงต้องหาลูกมือคนใหม่ช่วยงานที่ร้านแล้วล่ะ เพราะผมบอกเรื่องของเรากับท่านหมดแล้วตอนเดินทางมาถึงโมนาโก”“ไคลน์...นี่คุณ” อิสลินเริ่มหน้าง
“คุณจะแน่ใจได้อย่างไรคะว่าอีวี่เป็นสายเลือดของคุณ แกอาจเป็นลูกของใครก็ได้ที่ผู้หญิงร่านอย่างฉันเคยมีความสัมพันธ์ด้วย!”“คุณไม่เคยมีใคร” เซอร์เรนัล์ฟแย้งเบา ๆ ก่อนจับไหล่บางทั้งสองและรั้งเข้าหาตัว“ผมเชื่อว่าอีวี่เป็นลูกของผมโดยไม่จำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอด้วยซ้ำ! ทำไมน่ะหรือ...มองตาผมสิ อีฟ ผมรู้ว่าคุณเห็นผมตลอดเวลาที่อยู่กับอีวี่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นลูกก็คือผม ในตัวของแกมีหัวใจของผู้ชายที่คุณรักมากที่สุดซึ่งคุณเคยคิดว่าเขาตายไปแล้ว”อิสลินเม้มเรียวปากบางไว้แน่นเมื่อรู้สึกว่าไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไปเฉกเดียวกับร่างสูงใหญ่ที่เลื่อนมือหนาขึ้นมาสัมผัสแก้มเนียนเพื่อเกลี่ยหยดน้ำใสที่ร่วงหล่นลงมา“ไคลน์คะ...ฉัน...” หญิงสาวตีบตันทบเท่าทวีคูณเมื่อเห็นหยดน้ำถั่งออกมาจากดวงตาที่เคยแข็งกร้าวของจอมซาตาน เธอได้แต่นิ่งงันและรอบตัวได้ยินเพียงเสียงคลื่นซัดผสานสายลมอ่อนไหวและเสียงเล็ก ๆ ของลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัวเราะหัวใคร่กับลูกสุนัขแสนซน“หยุดร้องไห้เถอะนะ ที่รัก...ผมขอโทษที่ทำให้คุณทุกข์ใจในเวลาที่ผ่านมา ตอนคุณหนีไปจากผมกับลูก อีวี่บอกว่ามักจะเห็นคุณร้องไห้เสมอ”“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้ลูกเห
อิสลินส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตาก็ไหลไม่หยุด เธอกอดลูกสาวไว้อีกครั้งก่อนจะได้ยินเสียงลูกสุนัขตัวเดิมมายืนเห่าข้าง ๆ“โยกี้...นี่มามี้ของฉันนะ มามี้กลับมาหาฉันแล้ว” อีวี่ยิ้มออกมาซึ่งมันทำให้อิสลินแปลกใจ“โยกี้หรือคะ?”“ช่ายค่ะ มันชื่อโยกี้ แด๊ดดี้ซื้อมาให้อีวี่ แด๊ดดี้กลัวอีวี่จะเหงา”ร่างเล็กหันไปยกมือส่งสัญญาณกับหมาตัวน้อยในขณะที่คนเป็นแม่นิ่งไป อิสลินรู้สึกเหมือนเกิดใหม่เมื่อเห็นหน้าอีวี่ แต่แล้วหญิงสาวกลับนึกขึ้นมาได้ว่าเธอพบหน้าลูกแล้ว เธอได้อีวี่กลับคืนมาและยังไม่ลืมแผนการที่คิดไว้ในใจ ร่างบางหันไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นเงาของใคร เซอร์เรนัล์ฟคงดีได้ประเดี๋ยวประด๋าวเพราะหลังจากนี้ไปเขาจะเป็นอย่างไรก็สุดจะคาดเดา“อีวี่จ๊ะ เราไปกันเถอะ” อิสลินยืดตัวขึ้นยืนและจับมือเล็กให้เดินตามแต่หนูน้อยกลับเป็นฝ่ายยื้อเธอไว้“มามี้ขา มามี้จะไปไหนคะ?”“ไปจากที่นี่อย่างไรล่ะคะ ตามมามี้มาเถอะค่ะ”“อย่าเพิ่งไปค่ะ มามี้” หนูน้อยเข้าไปเกาะขามารดาไว้แน่นและเงยหน้ามองคล้ายจะอ้อนวอนอะไรสักอย่าง“ทำไมล่ะคะ อีวี่...เราต้องรีบไปนะคะ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้”“แต่อีวี่ไม่อยากไป มามี้อยู่ก่อนนะคะ แด๊ดดี้บอกว่าจะจัดงานวันเกิดให้
“ไคลน์คะ อ๊ะ” “พระเจ้า...อีฟ”ต่างฝ่ายต่างครวญครางดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อความสุขสมสอดประสานไปกับสายลมแสนหวานและเสียงคลื่นขับกล่อม ระยับแดดสาดส่องเข้ามาภายในห้องกว้างทาบทาลงบนร่างทั้งสองที่กอดก่ายและดื่มด่ำกับเรือนร่างของกันและกันด้วยเพลิงปรารถนาอันน่ากระหายใคร่เป็นเวลาเนิ่นนาน บางครั้งร่างอรชรเป็นฝ่ายควบคุมเขาและหลายคราวกลับเป็นฝ่ายปลดปล่อยให้เซอร์เรนัล์ฟเป็นผู้ควบขับและดูเหมือนร่างงามยินดีเป็นฝ่ายตั้งรับพลังอันล้นเหลือจากชายหนุ่มซึ่งไม่มีทีท่าเหนื่อยอ่อนแม้แต่นิดเดียว“ที่รัก...”“ไคลน์คะ” อิสลินจิกปลายเล็บลงบนผ้าคลุมเตียงที่ยับยู่ยี่และขมวดมันไว้ในมือแน่นขณะบิดร่างชื้นเหงื่อใต้ร่างสูงใหญ่ เซอร์เรนัล์ฟยังคงแข็งแกร่งและขยับสะโพกโดยไม่หยุดพักซึ่งหญิงสาวก็ปราศจากทีท่าจะหยุดตัวเองด้วยเช่นกัน ใบหน้าคร้ามเข้มก้มลงจูบหนักเมื่อรับรู้เวลาว่าใกล้ถึงฝั่งฝัน“บอกผมหน่อยได้ไหมที่รัก...ว่าคุณมีความสุขหรือเปล่า?” คนถามหอบหายใจหนักเมื่อรู้สึกถึงหยาดหยดแห่งรักเริ่มซึมซาบออกมา อิสลินแก้มแดงซ่านแม้คำถามนั้นก่อเกิดความประหลาดใจหากก็ตอบออกไปหาใช่ด้วยอารมณ์ที่กำลังทะยานใกล้ถึงขีดสุด“ค่ะ...ไคลน์ วันนี้ฉัน
“อา...อีฟ” เซอร์เรนัล์ฟคำรามเสียงหนักอยู่ในลำคอก่อนพลิกตัวให้ร่างเล็กขึ้นมาทาบทับอยู่เบื้องบน เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อพวงเนื้ออิ่มงามทั้งสองข้างที่กำลังไหวกระเพื่อมเลื่อนมาอยู่ตรงกับริมฝีปากหนาได้รูป“ไคลน์...บอกฉันสิคะว่าเมื่อไหร่คุณจะให้ฉันพบอีวี่” ร่างเปลือยเย้ายวนบิดไปมาอยู่เหนือร่างกำยำกระซิบถามพลางไล้ปลายนิ้วไปบนกรามแกร่งสากระคายคล้ายจะเอาใจ“คุณจะได้พบลูกแน่ ผมรับประกัน” / “แล้วหลังจากนี้คุณจะปล่อยพวกเราไปใช่ไหมคะ”พอหญิงสาวถามต่อชายหนุ่มก็ขยับลูกขึ้นนั่งโดยใช้แขนแข็งแรงดันแผ่นหลังให้ร่างบอบบางที่ยังคร่อมบนตัวแนบกับอกกว้าง เซอร์เรนัล์ฟซุกใบหน้าเพื่อสูดดมกลิ่นหอมอวลจากหลือบร่องของสองเต้าที่ถูกเบียดชิดเข้าหากัน“ผมยังไม่มีแผนอะไรตอนนี้ แต่คิดว่าจะพาคุณกับลูกกลับอเมริกา”“เพื่อเป็นสักขีพยานในงานแต่งของคุณกับเรเน่ต์อย่างนั้นหรือคะ...ฉันขอปฏิเสธค่ะ ไคลน์” / “คุณหึงผมหรือ อีฟ”“ไม่ค่ะ...อ๊ะ! ไคลน์” อิสลินสะดุ้งเมื่อกายแกร่งเริ่มแทรกความเป็นเขาเข้าไปในกลีบอ่อนนุ่มโดยหญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ใจหนึ่งเธอก็อยากขยับหนีแต่ท่าที่นั่งอยู่บนหน้าตักของเขาไม่อำนวยให้ทำอย่างที่คิด“อุ๊ย! ไคลน์
“ไม่มีอะไรน่ากลัว ที่รัก” รอยยิ้มอันน่าเสน่หาจุดขึ้นบนมุมปากหยักพร้อมกันกับที่มือสากระคายลากไล้จากหัวไหล่กลมมนลงมาหยุดที่ยอดปทุมงามปริ่มบนผิวน้ำ ชายหนุ่มก้มลงจูบเม็ดโกเมนสีแดงเรื่อและขบด้วยฟันเบา ๆ จนร่างสาวสยิวซ่านก่อนผงกศีรษะขึ้นและจับจ้องดวงหน้าหวานสีชมพูเข้มที่มองทีไรก็ยังเย้ายวนใจราวกับเทพีกลางสายน้ำปลดปล่อยผมเปียกสยายลู่ลงมาเคลียบนสองเต้า“ที่รัก ผมคงต้องสอนคุณใหม่เสียแล้วกระมัง” น้ำเสียงเบาราวกระซิบทว่าเสียงหอบหายใจหนักจากใบหน้าคร้ามเข้มนั้นก็ยังชัดเจนกว่าเสียงคลื่นด้านนอก อิสลินขอบตาร้อนผ่าวเมื่อนึกถึง เขา ในคืนนั้น ราตรีแห่งฝันของนักเรียนสาวและอาจารย์หนุ่ม ร่างเล็กไล้นิ้วเรียวไปมาบนริมฝีปากล่างของเซอร์เรนัล์ฟเบา ๆ แลกกับจูบที่เขาบรรจงประทับลงบนปลายนิ้วสีเรื่อ“ไคลน์คะ คุณเคยสอนฉันแล้วนะคะ” “มันคงนานเกินไปจนคุณจำไม่ได้แล้วกระมัง”“ฉันจำมันได้เสมอค่ะ แต่คุณ...คงจะลืมนักเรียนคนนี้ไปแล้ว”“ไม่...” เซอร์เรนัล์ฟดูดนิ้วกลางของหญิงสาวก่อนตอบเสียงพร่า “ผมไม่เคยสอนบทเรียนนี้ให้ใคร...นอกจากคุณ”“ไคลน์...อืม” อิสลินหลับตาลงและรับรู้ถึงความอบอุ่นที่ฉายวาบขึ้นมาจากก้นบึ้ง หญิงสาวลืมเรื่อง
“ไคลน์...อย่าค่ะ...ได้โปรด” หญิงสาวได้แต่ร้องขอทั้งที่ต้านทานร่างแกร่งกำยำนั้นไม่ไหว เขาทำให้เธอร้อนรน เขาปลุกเร้าผ่านเนื้อผ้าบางเบาเปียกชุ่มที่หลุดร่นลงไปกองใต้ฟองลื่น ลิ้นหนายังทำงานไม่หยุดหย่อน ทั้งโลมเล้าดูดกลืนและตวัดชิมความหวานจากปากเล็ก กระทั่งใบหน้าคร้ามคมเลื่อนออกไปร่างอรชรจึงยกแขนขึ้นปิดป้องเต้าอิ่มกลมแสนสวยเมื่อกายสาวถูกเปิดเปลือยจนหมดด้วยเช่นกัน“อีฟ...คุณจะปกปิดไปทำไมกัน ในเมื่อผมก็เห็นจนหมดแล้ว” เสียงทุ้มทว่านุ่มนวลนั้นวอนเว้าพร้อมกับที่มือแกร่งดันแขนเรียวทั้งสองให้พ้นจากเนินเนื้ออวบใหญ่จนมันดีดเด้งออกมาอวดสายตา เขามองอยู่นานจนอิสลินเขินอายตัวเอง“พอใจหรือยังคะ ไคลน์...ฉันไม่ให้คุณทำอะไรมากไปกว่านี้นะคะ และที่สำคัญคุณต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับฉันด้วย”“ผมไม่บิดพลิ้วคุณหรอก อีฟ แต่...” เซอร์เรนัล์ฟยังเบียดความใหญ่โตเข้าหาจนทุกสัดส่วนบนกายแข็งแกร่งแนบชิดกับร่างอ่อนนุ่มในอ่างน้ำที่ฟองสบู่เริ่มบางเบาลง“แต่อะไรคะ?” “คุณไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหนถ้าจะให้แค่กอดคุณไว้แบบนี้”“ไคลน์...อย่าสิคะ...ฉันไม่....” อิสลินร้องปฏิเสธแต่ไม่ทันเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ฝังจมูกโด่งลงบนแก้มนวลแ
“แต่ผมอยากดูแบบสูทตอนนี้เลย” ชายหนุ่มออกคำสั่งขณะที่หญิงสาวกำลังจะหันหลังให้ อิสลินหันมาถอนใจหากก็จำต้องเข้าไปหาเขาอีกตามเคย ภาพของร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อบนอกและลอนหน้าท้องตลอดจนแขนหนาในอ่างอาบน้ำที่ฟูฟ่องไปด้วยฟองสบู่ทำหัวใจของร่างแน่งน้อยเต้นระส่ำ เซอร์เรนัล์ฟมีพลังดึงดูดเสมอไม่ว่ายามอยู่ในชุดสูทภูมิฐานอย่างนักธุรกิจหรือยามปราศจากอาภรณ์ใด ๆ บนเรือนกายสมส่วนความเป็นชายนั้น อิสลินนึกในใจว่าทำไมเขาถึงไม่อาบน้ำให้เสร็จเสียก่อนแล้วรีบดูแบบสูทเพื่อที่เธอจะได้รีบกลับไปที่ร้านป้าซิลวี่ไว ๆ เพราะเวลาที่อยู่กันลำพังในสถานที่แบบนี้หญิงสาวก็ให้หวั่นเกรงต่อทีท่าของจอมซาตาน“อืม...ข้างนอกอากาศร้อนมากจริง ๆ “ เจ้าของใบหน้าคร้ามเข้มกล่าวพลางหันออกไปด้านนอกที่แสงแดดส่องผ่านบานกระจกหน้าต่างเข้ามา รอยยิ้มทรงเสน่ห์ระบายบนโครงหน้าหล่อเหลา เขาทำเหมือนไม่มีอะไรรีบเร่งเลยกระนั้น“ไหนล่ะ แบบสูทที่คุณเอามาให้ผมดู” เขาถามร่างบอบบางที่ยืนห่าง ๆ และกำลังยื่นเอกสารมาให้“ถ้าคุณชอบแบบไหนค่อยบอกฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะไปรอข้างนอก”“เข้ามาใกล้หน่อยซี ผมเอื้อมไม่ถึง” อิสลินหันมองเซอร์เรนัล์ฟที่วางแขนบนขอบอ่าง น