“ไม่จริ๊ง! มันต้องฆ่าลูกฉัน พวกมัน แม่มัน ยายมัน ร่วมมือกันฆ่าตาวิช ไม่มีทางที่ตาวิชจะตายเอง ไม่มีทาง! ไม่จริ๊ง! เอิ้ก...”
เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดังออกมาจากแม่ของทวิช ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเรอเอิ้กอ้ากเพราะลมตีขึ้นฉับพลัน พร้อมๆ กับเหล่าญาติพี่น้องที่วิ่งวุ่นหายาลมยาหอมอีกครั้ง
“ทำไมผลชันสูตรถึงออกมาว่าพี่วิชหัวใจวายล่ะครับคุณตำรวจ ไม่มีใครสงสัยครอบครัวเจ้าสาวเลยเหรอครับ ผมทราบว่าสามีอีก 2 คนของเธอก็หัวใจวายตายเหมือนกัน” เขาถามเพราะเริ่มไม่แน่ใจกับผลชันสูตรที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาบอกว่าบางอาชีพเงินก็ซื้อได้อย่างง่ายดาย
“ทางเรามีประวัติที่คุณทวิชไปพบแพทย์เมื่อ 3 เดือนก่อนนะครับ”
“พบแพทย์” หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ดวงตาจับจ้องมองนายตำรวจเจ้าของคดีแทบจะไม่กะพริบ เขาต้องการคำตอบที่กระจ่างชัดเจนกว่านี้
“ครับ คุณทวิชไปพบแพทย์เพราะมีอาการเจ็บหน้าอกและหัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อ 3 เดือนที่แล้วนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่ทราบว่าคุณทวิชได้บอกญาติๆ ไว้บ้างหรือไม่” นายตำรวจวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“พี่วิชน่ะเหรอครับป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาทั้งออกกำลังกายทั้งดูแลตัวเองอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้น แล้วจะป่วยเป็นโรคหัวใจได้ยังไง” มันเหลือเชื่อเกินไปที่เขาจะเชื่อ เพราะหากทวิชมีอาการอย่างนั้นจริงทำไมไม่ปรึกษาพวกเขา
“ตรงนี้ผมก็ไม่ทราบครับ ผมบอกได้แค่ผลการชันสูตรออกมาแบบนี้จริงๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรจะบ่งชี้ว่าทางคุณธนิษฐาเป็นคนทำให้คุณทวิชเสียชีวิตเลยนะครับ”
“แล้วสาเหตุการตายของสามีคนอื่นๆ ของเธอล่ะครับ”
“ตรงนั้นผมไม่ได้เป็นเจ้าของคดีนะครับเพราะอยู่คนละพื้นที่ แต่ข้อมูลที่ได้มาก็คือ คุณสราวุฒิหัวใจวายขณะอยู่บนเวที ส่วนคุณอุเทนนั้นเสียชีวิตก่อนที่จะไปเข้าพิธีแต่งงานในตอนเช้าอีกครับ เท่ากับว่าเขายังไม่ได้เจอหน้าเจ้าสาวเลย ยังไม่ได้ออกจากบ้านตัวเองด้วยซ้ำไปครับ และทั้งคุณสราวุฒิ คุณอุเทน หรือว่าคุณทวิชเองก็มีประวัติการป่วยเป็นโรคหัวใจหรือมีอาการเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจทุกคนด้วยครับ”
“แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าเธอจะไม่เกี่ยวข้อง อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนั้น เธออาจจะ... หวังสมบัติของพวกเขาก็ได้”
“ตรงนั้นผมคงแสดงความคิดเห็นไม่ได้เพราะอาจกลายเป็นหมิ่นประมาทเธอ ที่ผมทราบก็คือ เธอจดทะเบียนสมรสกับสามีคนแรกในวันหมั้น ส่วนสามีคนที่ 2 นั้นพาเธอไปจดทะเบียนสมรสก่อนหน้าจะถึงวันแต่งงานเป็นเดือน ส่วนกับคุณทวิชนั้นยังไม่ทันได้จดเลยครับ อย่างนี้เธอคงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์สินของคุณทวิช”
ภาพแม่คนตายที่ร้องไห้จนเป็นลมแล้วเป็นลมอีกจนต้องมีญาติคอยประคบประหงมไม่ห่าง กับสีหน้าญาติพี่น้องที่ดูท่าจะไม่พอใจกับผลการชันสูตรที่เขาเพิ่งแจ้งให้ทราบ ทำให้นายตำรวจค่อนข้างจะหนักใจ แต่เขาต้องแจ้งตามหลักฐานที่พิสูจน์ออกมาได้ แม้จะขัดหัวใจใครหลายๆ คนก็ตาม
“ตามหลักวิทยาศาสตร์ผมก็ว่ามันเป็นไปได้นะครับที่สามีของคุณธนิษฐาจะป่วยเป็นโรคหัวใจเหมือนๆ กัน เพราะเดี๋ยวนี้คนไทยก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็งเลยนะครับ และปัจจัยเสี่ยงก็อยู่รอบๆ ตัวเรานี่แหละ ทั้งอาหารการกิน หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากคุณจะเปิดใจว่าบางเรื่องมันก็เป็นไปได้”
สีหน้าเคร่งเครียดของญาติผู้ตายทำให้นายตำรวจต้องพ่นลมหายใจออกจากปากเบาๆ เพราะในหน้าที่ของตำรวจนั้นเขาปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วนแล้ว แต่สำหรับหน้าที่ของเพื่อนมนุษย์ที่เกิดก่อนและเห็นโลกมาก็มาก กลับร้องสั่งให้เขาก้าวเข้าใกล้ญาติคนตายที่จ้องมองมาราวกับจะบอกว่า ‘ไม่อาจเชื่อ’ ในสิ่งที่เขาพูดออกไปทั้งหมด ก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างที่ทำให้ญาติผู้ตายถึงกับอึ้ง เพราะนั่นมันคือความเชื่อส่วนบุคคลล้วนๆ
.
.
ดวงตาคมเข้มมองเถ้ากระดูกที่สัปเหร่อนำมาเรียงต่อกันเพื่อจำลองให้เป็นรูปร่างคนก่อนที่จะบอกให้ญาติๆ นำดอกไม้และน้ำอบมาประพรมเพื่อหวังผลให้ดวงวิญญาณนี้อยู่เย็นเป็นสุข ก่อนจะแยกบางส่วนเก็บใส่โกฐเพื่อนำไปบรรจุไว้ที่เจดีย์ของกลุ่มเครือญาติ ส่วนเถ้าที่เหลือจะนำไปลอยอังคารในแม่น้ำสายใหญ่ โดยหวังให้พระแม่คงคาโปรดนำทางดวงวิญญาณนี้ไปสู่สัมปรายภพและได้รับแต่ความร่มเย็นเฉกเช่นสายน้ำ
สายน้ำเย็นใจอาจช่วยนำพาให้ดวงวิญญาณของทวิชไปสู่ที่ที่ดียิ่งขึ้น แต่คนที่ยังอยู่นี้กลับไม่สามารถทำจิตใจให้เยือกเย็นได้เลย ยิ่งคิดถึงสิ่งที่นายตำรวจเจ้าของคดีบอกเมื่อวันวาน เขายิ่งทวีความเคร่งเครียดมากขึ้น กรอปกับเสียงร้องไห้ที่ดังระงมอยู่รอบตัวตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงรุ่งเช้ายังไม่มีทีท่าว่าจะจางลง ความทุกข์ครั้งนี้สำหรับเขามันหนักหนาจริงๆ เขาไม่มีทางเชื่อเรื่องประหลาดที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
‘คุณเชื่อเรื่อง ‘ดวงกินผัว’ มั้ยครับ เธออาจเป็นแบบนั้นก็ได้นะครับ แถวบ้านผมที่บ้านนอกก็มีอย่างนี้อยู่คนหนึ่ง มีกี่ผัวก็ตายหมด จนสุดท้ายต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่บอกใครล่ะครับ พอมีลูกคนแรกก็เลยหาย สรุปผัวคนนั้นไม่ตาย’
ใครจะไปบ้าเชื่อเรื่องพรรค์นั้นกันล่ะ หากจะเป็นอย่างนั้นจริงเขาก็คิดว่าไอ้ตัวผัวที่หลบๆ ซ่อนๆ นั่นแหละที่วางแผนฆ่าผัวคนที่แล้วๆ มาของหล่อน หรือดีไม่ดีก็อาจเป็นหล่อนเองที่วางแผนฆ่าผัวเพื่อหวังอะไรสักอย่าง และสำหรับเจ้าสาวของทวิชเองก็คงไม่ต่างกัน
เขาจะไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าเธอเป็น ‘ผู้หญิงกินผัว’ และก็ไม่เชื่อด้วยว่าทวิชจะตายเพราะไปถูกอาถรรพ์ของเธอเข้า เธอจะต้องมีอะไรซ่อนเร้นเอาไว้ และเขาจะพิสูจน์ให้ได้ว่าทวิชไม่ได้หัวใจล้มเหลวตายเอง แต่ต้องมีใครหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ทวิชมีอันเป็นไป
สายตาที่แสดงความไม่พอใจของผู้เป็นแม่ที่จ้องมองมาในทันทีที่เธอเหยียบย่างเข้าสู่คฤหาสน์หลังงามที่ปลูกสร้างบนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ในย่านชานเมือง ทำให้ธนิษฐาต้องพยายามข่มใจไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ ‘เหนื่อยใจ’ ซึ่งก็คืออารมณ์ที่แท้จริงในขณะนี้ออกไปร่างงามระหงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ พ่นออกจากปากเบาๆ ราวกับอยากให้ความหนักใจทั้งหลายนั้นมลายหายไปพร้อมกับลมหายใจออก เพราะยิ่งนานวัน ความอึดอัดที่เธอแบกรับมาตลอดเกือบ 5 ปี มันก็ยิ่งเติมเต็มจนแทบจะทะลักออกมาจากหัวใจของเธออยู่แล้วเธออยากให้ความอึดอัดนี้มันจบลงเสียที อย่างน้อยที่สุดก็ให้จบไปพร้อมๆ กับ ‘ตราบาป’ ครั้งล่าสุดที่เพิ่งประทับไว้บนหน้าผากของเธอ เพราะต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกล ขอเพียงมีคนรู้จักและจดจำเธอได้ ฉายา ‘หญิงกินผัว’ ‘ม่ายผัว 3’ หรือว่า ‘หญิง 3 ผัว’ คงจะอยู่คู่กับเธอไปจนวันตาย เพราะเรื่องแบบนี้แหละที่คนชอบพูดกันนัก ดีไม่ดีเธออาจกลายเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ได้“ถอนหายใจทำไมยัยดาว อย่ามามองแม่แบบนี้นะ แม่บอกเราแล้วว่าไม่ให้ไป เราก็ไม่เชื่อแม่ แล้วยังไงล่ะ เจอเขาด่าหรือว่าไล่ตะเพิดมาอีกล่ะ ถึงได้มามองแ
“กรี๊ดดดดด...”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังลั่นทำให้บรรดาแขกเหรื่อที่กำลังจะเดินทางกลับและเจ้าภาพที่ยืนส่งแขกอยู่หน้างานพร้อมใจกันมองไปยังที่มาของเสียงอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่เจ้าภาพทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจะวิ่งตรงไปยังทิศทางซึ่งก็คือ ห้องหอที่เพิ่งส่งตัวบ่าวสาวเข้าไปได้ไม่ถึง 5 นาทีดี แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูคนจากด้านในก็เปิดออกมาเสียก่อน ใบหน้าสวยตื่นตระหนกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาร่ำร้องเรียกหาให้คนช่วยเจ้าบ่าวของเธอ “ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย ช่วยเขาด้วย อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะ ช่วยด้วย... ฮือ...”ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวดูบอบบางน่าทะนุถนอมทรุดลงแทบพื้นพลางสั่นสะอื้น เพราะเธอไร้เรี่ยวแรงใดๆ ที่จะพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นได้อีกแล้ว ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาได้แต่มองบรรดาญาติของฝ่ายชายและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่ต่างพยายามช่วยปฐมพยาบาลเจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธออย่างต่อเนื่องความโกลาหลเกิดขึ้นรอบตัว ทว่าไม่ว่าในห้องหอรอรักที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามนี้จะมากมายไปด้วยผู้คนเข้าออก ทั้งญาติของเจ้าบ่าวที่เดินไปมา ทั้งเจ้าหน้าที่ของรถบริการฉุกเฉินที่รีบเร่งเข้ามาพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพอย่างเร่งด่
“นี่เราทำบาปทำกรรมกับคนพวกนั้นจริงๆ เหรอเนี่ย เราเป็นสาเหตุให้พวกเขาตาย เราเป็นผู้หญิง...”คำนั้นละไว้ฐานที่เข้าใจเพราะไม่กล้าแม้แต่จะพูดมันออกมา แค่คิดก็เจ็บปวดหัวใจเสียจนหยาดน้ำตาต้องทะลักไหลออกมาอีก“ฮือ... เราเป็นอย่างที่เขาว่า ฮือ...” ใบหน้าฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตาซบลงที่พวงมาลัย ไหล่เล็กสั่นไหวจากแรงสะอื้นที่มีแต่จะถาโถมเพิ่มขึ้นจากหัวใจที่สั่นสะท้าน เมื่อหวนนึกถึงครั้งแรกที่ต้องเผชิญหน้ากับคำว่า ‘ม่ายผัวตาย’เริ่มจาก ‘สราวุฒิ’ สามีคนแรกของเธอ พ่อม่ายเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ แม้จะไม่ได้รักชอบในเชิงชู้สาว เพราะสราวุฒินั้นอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับพ่อของเธอ ทั้งครอบครัวก็ยังสนิทสนมกันตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่ความสม่ำเสมอช่างเอาอกเอาใจ ตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยจนเรียนจบ ก็ทำให้แม่และยายอยากให้เธอรับปากแต่งงานกับเขา เพื่อเธอจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาและมีคนดูแลปกป้องแทนพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเขา เพื่อตอบแทนบุญคุณแม่กับยายที่อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูเธอจนเรียนจบ แม้ว่าพ่อจะจากไปกว่า 5 ปีแล้วก็ตาม อีกอย่างฐานะร่ำรวยของสราวุฒิก็จะทำให้แ
‘หนูดาว... คิดให้ดีนะลูก แม่เข้าใจว่าไม่มีใครหรอกที่อยากจะแต่งงานหลายครั้ง แต่แม่ก็อยากให้หนูตรองดูให้ดี คุณทวิชเขาดีกับแม่กับยายมาก จะมีผู้ชายคนไหนล่ะลูกที่เขาจะมาสนใจแม่ม่ายอย่างหนู นี่มัน 2 ปีแล้วนะลูก ที่เขาเทียวไปเทียวมาแบบนี้ หนูจะไม่ลองให้โอกาสตัวเองและให้โอกาสเขาดูสักครั้งหรือลูก จะมีผู้ชายคนไหนที่จะดีกับแม่กับยายได้เท่าพ่อวิชอีกล่ะลูก’‘ยายก็อยากเห็นหนูดาวมีความสุขนะลูก อยากให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขเหมือนเดิม ยายอยากอุ้มเหลนสักครั้งก่อนที่ยายจะหมดลม หนูดาว... ลืมเรื่องที่ผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเถอะลูก นะหนูดาวของยาย ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ยายจะได้เห็นหนูแต่งงาน ขอให้ยายได้เห็นหนูมีความสุข ให้พ่อธนินเขาหมดห่วง ยายก็จะได้นอนตายตาหลับซะที’‘รับปากแต่งงานกับพ่อวิชเถอะนะลูก ถือว่าแม่กับยายขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายนะหนูดาว ทำเพื่อแม่กับยายอีกครั้งได้มั้ย’น้ำตาของยายที่เอ่อคลอยามเอ่ยถึงพ่อของเธอและน้ำเสียงสั่นเครือของแม่ นั่นคือเหตุผลที่เธอตกลงปลงใจแต่งงานครั้งที่ 3 กับทวิช แม้จะไม่ได้รักเขาก็ตาม อาจเพราะว่าเธอก็อยากจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ ‘ผู้หญิงกินผัว’ อย่างที่ผู้
สายตาที่แสดงความไม่พอใจของผู้เป็นแม่ที่จ้องมองมาในทันทีที่เธอเหยียบย่างเข้าสู่คฤหาสน์หลังงามที่ปลูกสร้างบนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ในย่านชานเมือง ทำให้ธนิษฐาต้องพยายามข่มใจไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ ‘เหนื่อยใจ’ ซึ่งก็คืออารมณ์ที่แท้จริงในขณะนี้ออกไปร่างงามระหงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ พ่นออกจากปากเบาๆ ราวกับอยากให้ความหนักใจทั้งหลายนั้นมลายหายไปพร้อมกับลมหายใจออก เพราะยิ่งนานวัน ความอึดอัดที่เธอแบกรับมาตลอดเกือบ 5 ปี มันก็ยิ่งเติมเต็มจนแทบจะทะลักออกมาจากหัวใจของเธออยู่แล้วเธออยากให้ความอึดอัดนี้มันจบลงเสียที อย่างน้อยที่สุดก็ให้จบไปพร้อมๆ กับ ‘ตราบาป’ ครั้งล่าสุดที่เพิ่งประทับไว้บนหน้าผากของเธอ เพราะต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกล ขอเพียงมีคนรู้จักและจดจำเธอได้ ฉายา ‘หญิงกินผัว’ ‘ม่ายผัว 3’ หรือว่า ‘หญิง 3 ผัว’ คงจะอยู่คู่กับเธอไปจนวันตาย เพราะเรื่องแบบนี้แหละที่คนชอบพูดกันนัก ดีไม่ดีเธออาจกลายเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ได้“ถอนหายใจทำไมยัยดาว อย่ามามองแม่แบบนี้นะ แม่บอกเราแล้วว่าไม่ให้ไป เราก็ไม่เชื่อแม่ แล้วยังไงล่ะ เจอเขาด่าหรือว่าไล่ตะเพิดมาอีกล่ะ ถึงได้มามองแ
“ไม่จริ๊ง! มันต้องฆ่าลูกฉัน พวกมัน แม่มัน ยายมัน ร่วมมือกันฆ่าตาวิช ไม่มีทางที่ตาวิชจะตายเอง ไม่มีทาง! ไม่จริ๊ง! เอิ้ก...”เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดังออกมาจากแม่ของทวิช ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเรอเอิ้กอ้ากเพราะลมตีขึ้นฉับพลัน พร้อมๆ กับเหล่าญาติพี่น้องที่วิ่งวุ่นหายาลมยาหอมอีกครั้ง“ทำไมผลชันสูตรถึงออกมาว่าพี่วิชหัวใจวายล่ะครับคุณตำรวจ ไม่มีใครสงสัยครอบครัวเจ้าสาวเลยเหรอครับ ผมทราบว่าสามีอีก 2 คนของเธอก็หัวใจวายตายเหมือนกัน” เขาถามเพราะเริ่มไม่แน่ใจกับผลชันสูตรที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาบอกว่าบางอาชีพเงินก็ซื้อได้อย่างง่ายดาย“ทางเรามีประวัติที่คุณทวิชไปพบแพทย์เมื่อ 3 เดือนก่อนนะครับ”“พบแพทย์” หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ดวงตาจับจ้องมองนายตำรวจเจ้าของคดีแทบจะไม่กะพริบ เขาต้องการคำตอบที่กระจ่างชัดเจนกว่านี้“ครับ คุณทวิชไปพบแพทย์เพราะมีอาการเจ็บหน้าอกและหัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อ 3 เดือนที่แล้วนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่ทราบว่าคุณทวิชได้บอกญาติๆ ไว้บ้างหรือไม่” นายตำรวจวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“พี่วิชน่ะเหรอครับป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาทั้งออกกำลังกายทั้งดู
‘หนูดาว... คิดให้ดีนะลูก แม่เข้าใจว่าไม่มีใครหรอกที่อยากจะแต่งงานหลายครั้ง แต่แม่ก็อยากให้หนูตรองดูให้ดี คุณทวิชเขาดีกับแม่กับยายมาก จะมีผู้ชายคนไหนล่ะลูกที่เขาจะมาสนใจแม่ม่ายอย่างหนู นี่มัน 2 ปีแล้วนะลูก ที่เขาเทียวไปเทียวมาแบบนี้ หนูจะไม่ลองให้โอกาสตัวเองและให้โอกาสเขาดูสักครั้งหรือลูก จะมีผู้ชายคนไหนที่จะดีกับแม่กับยายได้เท่าพ่อวิชอีกล่ะลูก’‘ยายก็อยากเห็นหนูดาวมีความสุขนะลูก อยากให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขเหมือนเดิม ยายอยากอุ้มเหลนสักครั้งก่อนที่ยายจะหมดลม หนูดาว... ลืมเรื่องที่ผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเถอะลูก นะหนูดาวของยาย ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ยายจะได้เห็นหนูแต่งงาน ขอให้ยายได้เห็นหนูมีความสุข ให้พ่อธนินเขาหมดห่วง ยายก็จะได้นอนตายตาหลับซะที’‘รับปากแต่งงานกับพ่อวิชเถอะนะลูก ถือว่าแม่กับยายขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายนะหนูดาว ทำเพื่อแม่กับยายอีกครั้งได้มั้ย’น้ำตาของยายที่เอ่อคลอยามเอ่ยถึงพ่อของเธอและน้ำเสียงสั่นเครือของแม่ นั่นคือเหตุผลที่เธอตกลงปลงใจแต่งงานครั้งที่ 3 กับทวิช แม้จะไม่ได้รักเขาก็ตาม อาจเพราะว่าเธอก็อยากจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ ‘ผู้หญิงกินผัว’ อย่างที่ผู้
“นี่เราทำบาปทำกรรมกับคนพวกนั้นจริงๆ เหรอเนี่ย เราเป็นสาเหตุให้พวกเขาตาย เราเป็นผู้หญิง...”คำนั้นละไว้ฐานที่เข้าใจเพราะไม่กล้าแม้แต่จะพูดมันออกมา แค่คิดก็เจ็บปวดหัวใจเสียจนหยาดน้ำตาต้องทะลักไหลออกมาอีก“ฮือ... เราเป็นอย่างที่เขาว่า ฮือ...” ใบหน้าฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตาซบลงที่พวงมาลัย ไหล่เล็กสั่นไหวจากแรงสะอื้นที่มีแต่จะถาโถมเพิ่มขึ้นจากหัวใจที่สั่นสะท้าน เมื่อหวนนึกถึงครั้งแรกที่ต้องเผชิญหน้ากับคำว่า ‘ม่ายผัวตาย’เริ่มจาก ‘สราวุฒิ’ สามีคนแรกของเธอ พ่อม่ายเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ แม้จะไม่ได้รักชอบในเชิงชู้สาว เพราะสราวุฒินั้นอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับพ่อของเธอ ทั้งครอบครัวก็ยังสนิทสนมกันตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่ความสม่ำเสมอช่างเอาอกเอาใจ ตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยจนเรียนจบ ก็ทำให้แม่และยายอยากให้เธอรับปากแต่งงานกับเขา เพื่อเธอจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาและมีคนดูแลปกป้องแทนพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเขา เพื่อตอบแทนบุญคุณแม่กับยายที่อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูเธอจนเรียนจบ แม้ว่าพ่อจะจากไปกว่า 5 ปีแล้วก็ตาม อีกอย่างฐานะร่ำรวยของสราวุฒิก็จะทำให้แ
“กรี๊ดดดดด...”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังลั่นทำให้บรรดาแขกเหรื่อที่กำลังจะเดินทางกลับและเจ้าภาพที่ยืนส่งแขกอยู่หน้างานพร้อมใจกันมองไปยังที่มาของเสียงอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่เจ้าภาพทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจะวิ่งตรงไปยังทิศทางซึ่งก็คือ ห้องหอที่เพิ่งส่งตัวบ่าวสาวเข้าไปได้ไม่ถึง 5 นาทีดี แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูคนจากด้านในก็เปิดออกมาเสียก่อน ใบหน้าสวยตื่นตระหนกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาร่ำร้องเรียกหาให้คนช่วยเจ้าบ่าวของเธอ “ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย ช่วยเขาด้วย อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะ ช่วยด้วย... ฮือ...”ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวดูบอบบางน่าทะนุถนอมทรุดลงแทบพื้นพลางสั่นสะอื้น เพราะเธอไร้เรี่ยวแรงใดๆ ที่จะพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นได้อีกแล้ว ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาได้แต่มองบรรดาญาติของฝ่ายชายและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่ต่างพยายามช่วยปฐมพยาบาลเจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธออย่างต่อเนื่องความโกลาหลเกิดขึ้นรอบตัว ทว่าไม่ว่าในห้องหอรอรักที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามนี้จะมากมายไปด้วยผู้คนเข้าออก ทั้งญาติของเจ้าบ่าวที่เดินไปมา ทั้งเจ้าหน้าที่ของรถบริการฉุกเฉินที่รีบเร่งเข้ามาพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพอย่างเร่งด่