“กรี๊ดดดดด...”
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังลั่นทำให้บรรดาแขกเหรื่อที่กำลังจะเดินทางกลับและเจ้าภาพที่ยืนส่งแขกอยู่หน้างานพร้อมใจกันมองไปยังที่มาของเสียงอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่เจ้าภาพทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจะวิ่งตรงไปยังทิศทางซึ่งก็คือ ห้องหอที่เพิ่งส่งตัวบ่าวสาวเข้าไปได้ไม่ถึง 5 นาทีดี แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูคนจากด้านในก็เปิดออกมาเสียก่อน ใบหน้าสวยตื่นตระหนกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาร่ำร้องเรียกหาให้คนช่วยเจ้าบ่าวของเธอ
“ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย ช่วยเขาด้วย อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะ ช่วยด้วย... ฮือ...”
ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวดูบอบบางน่าทะนุถนอมทรุดลงแทบพื้นพลางสั่นสะอื้น เพราะเธอไร้เรี่ยวแรงใดๆ ที่จะพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นได้อีกแล้ว ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาได้แต่มองบรรดาญาติของฝ่ายชายและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่ต่างพยายามช่วยปฐมพยาบาลเจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธออย่างต่อเนื่อง
ความโกลาหลเกิดขึ้นรอบตัว ทว่าไม่ว่าในห้องหอรอรักที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามนี้จะมากมายไปด้วยผู้คนเข้าออก ทั้งญาติของเจ้าบ่าวที่เดินไปมา ทั้งเจ้าหน้าที่ของรถบริการฉุกเฉินที่รีบเร่งเข้ามาพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพอย่างเร่งด่วน แต่เธอกลับไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว ในหัวสมองมีเพียงเสียงหวีดหวิวแปลกๆ ปะปนมากับเสียงกรีดร้องในโชคชะตาของใครบางคน ก่อนที่แสงไฟสว่างเจิดจ้าจะค่อยๆ หรี่แสงและมืดดับลง
.
.
แค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง บรรยากาศความสุขอบอวลไปด้วยความหวานของงานวิวาห์ก็กลับกลายเป็นความทุกข์ระทม ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ถูกผลัดเปลี่ยนเป็นชุดเดรสลูกไม้สีดำยาวคลุมเข่า ‘ธนิษฐา’ มองตรงไปยังโลงศพสีขาวประดับลวดลายเทพพนมและตัวหงส์สีทองขนาบซ้ายขวา อีกทั้งยังประดับประดารอบด้านด้วยดอกไม้สีขาวหลากชนิดเสมือนประหนึ่งว่าผู้ที่หลับใหลอยู่ด้านในของโลงนั้นกำลังนอนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่งดงามแห่งนี้
และเธอคงจะมองเห็นโลกสวยงามมากกว่านี้หากว่าคนที่นอนอยู่ด้านในนั้นจะไม่ใช่ ‘ทวิช’ เจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธอ ที่เกิดอาการหัวใจล้มเหลวฉับพลันทั้งที่เพิ่งส่งตัวเข้าหอได้ไม่ทันถึง 5 นาทีด้วยซ้ำไป
ดวงตาสวยหวานที่ฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตามองเลยไปที่รูปภาพขนาดใหญ่ เขายังคงมองตรงมายังเธอด้วยรอยยิ้มเหมือนในทุกๆ ครั้งที่ได้พบ เธออาจไม่มีทางเลือกในชีวิตได้มากนัก เพราะความจำเป็นในครอบครัวและเหตุผลของบุพการีที่เธอปฏิเสธไม่ได้ ทำให้เธอแต่งงานกับใครก็ได้ที่พร้อมจะรับในเงื่อนไข แต่เธอก็ไม่เคยอยากให้ใครต้องตายจากไป เมื่อแต่งงานแล้วเธอก็อยากเป็นภรรยาที่ดีของเขาเหล่านั้น ไม่ได้อยากเป็นม่ายทั้งที่ยังไม่ข้ามวัน
“แกมาทำไม๊! อีคนกินผัว ฮือ... ลูกฉันไม่น่าซวยมาเจอแกเล๊ย! อีกากี อีผู้หญิงกินผัว อีผู้หญิง 3 ผัว ฮือ... ออกไปเลยนะ ออกไปจากงานลูกฉัน และอย่าเอาหน้าของแกมาให้พวกฉันเห็นอีก อีเสนียด อีจัญไร ไป๊! ใครมาเอาอีนี่ไปโยนทิ้งที เอาออกไป๊! ออกไป๊!”
ธนิษฐาสะดุ้งตกใจลุกขึ้นในทันที ขนาดว่าเธอเลือกที่จะมานั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้เพราะไม่อยากให้ญาติทางฝ่ายเขาเห็นแต่ก็ยังหลบไม่พ้น เธอแค่อยากจะมากราบศพเขา อยากมาแสดงความเห็นใจต่อกันเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าทั้งแม่และยายจะเตือนแล้วว่าอย่ามาก็ตาม เพราะคงไม่วายที่เธอจะต้องเจอสภาพแบบนี้ เพราะนี่มันครั้งที่ 3 แล้วสินะ เหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เธอต้องผ่านไปให้ได้
“หนูขอโทษค่ะ หนูแค่อยากมากราบพี่วิชเขาเป็นครั้งสุดท้าย คุณแม่คะ หนูไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้”
ธนิษฐาพนมมือไหว้ขอโทษมารดาของทวิช ก่อนจะก้มหน้าซ่อนหยาดน้ำตาเพราะความแค้นเคืองจากดวงตาหญิงสูงวัยนั้น คือ เธอเป็นฆาตกรที่ฆ่าลูกชาย
“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ถ้าฉันรู้มาก่อนว่าแกมันคนกินผัว ฉันจะไม่ยอมให้ตาวิชไปแต่งงานกับแกแน่ ออกไปจากงานลูกฉันเดี๋ยวนี้นะ ถ้าแกไม่ไปฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอแก ออกไป! อีฆาตกร! แกฆ่าลูกฉัน อีกากี อีคนกินผัว ออกไป! ออกไป๊! เอิ๊ก...”
ธนิษฐาผวาจะเข้าไปประคองแม่ของทวิชที่ด่าว่าเธอจนเป็นลม แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจพร้อมรีบออกมาโดยเร็วเพราะบรรดาพี่ป้าน้าอาของทวิชที่เข้ามาร่วมสมทบด่า ทำท่าว่าจะลงไม้ลงมือกับเธอ ถ้าเธอยังไม่ออกไปจากงานตามคำไล่
“หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ หนูไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ หนูขอโทษ”
แม้ใบหน้าจะนองไปด้วยน้ำตาและหัวใจก็อ่อนล้าเสียจนไม่อยากจะสู้หน้าใครในขณะนี้ แต่ก็ต้องพยายามพาตัวเองเดินฝ่าฝูงชนที่มองเธอราวกับเป็นตัวประหลาด อีกทั้งเสียงด่าทอก็ยังลอยลมมาให้ได้ยินตลอดทางมาจนถึงลานจอดรถด้านนอก
ธนิษฐาก้าวขึ้นไปนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในรถ ดวงตาสวยหวานเอ่อช้ำไปด้วยหยาดน้ำตายังคงไหลอาบไม่ขาดสาย เธอยังคงมองตรงไปยังศาลาที่เห็นแสงไฟอยู่ไกลๆ นั่น เธอไม่โกรธแม่และญาติๆ ของเขาเลยสักนิดเพราะ ‘น้ำตา’ ของเธอไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับหยาดน้ำตาของพ่อแม่และญาติพี่น้องของเขาเหล่านั้น ของผู้ชายที่เธอเคยแต่งงานด้วยทุกคน
“นี่เราทำบาปทำกรรมกับคนพวกนั้นจริงๆ เหรอเนี่ย เราเป็นสาเหตุให้พวกเขาตาย เราเป็นผู้หญิง...”คำนั้นละไว้ฐานที่เข้าใจเพราะไม่กล้าแม้แต่จะพูดมันออกมา แค่คิดก็เจ็บปวดหัวใจเสียจนหยาดน้ำตาต้องทะลักไหลออกมาอีก“ฮือ... เราเป็นอย่างที่เขาว่า ฮือ...” ใบหน้าฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตาซบลงที่พวงมาลัย ไหล่เล็กสั่นไหวจากแรงสะอื้นที่มีแต่จะถาโถมเพิ่มขึ้นจากหัวใจที่สั่นสะท้าน เมื่อหวนนึกถึงครั้งแรกที่ต้องเผชิญหน้ากับคำว่า ‘ม่ายผัวตาย’เริ่มจาก ‘สราวุฒิ’ สามีคนแรกของเธอ พ่อม่ายเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ แม้จะไม่ได้รักชอบในเชิงชู้สาว เพราะสราวุฒินั้นอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับพ่อของเธอ ทั้งครอบครัวก็ยังสนิทสนมกันตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่ความสม่ำเสมอช่างเอาอกเอาใจ ตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยจนเรียนจบ ก็ทำให้แม่และยายอยากให้เธอรับปากแต่งงานกับเขา เพื่อเธอจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาและมีคนดูแลปกป้องแทนพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเขา เพื่อตอบแทนบุญคุณแม่กับยายที่อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูเธอจนเรียนจบ แม้ว่าพ่อจะจากไปกว่า 5 ปีแล้วก็ตาม อีกอย่างฐานะร่ำรวยของสราวุฒิก็จะทำให้แ
‘หนูดาว... คิดให้ดีนะลูก แม่เข้าใจว่าไม่มีใครหรอกที่อยากจะแต่งงานหลายครั้ง แต่แม่ก็อยากให้หนูตรองดูให้ดี คุณทวิชเขาดีกับแม่กับยายมาก จะมีผู้ชายคนไหนล่ะลูกที่เขาจะมาสนใจแม่ม่ายอย่างหนู นี่มัน 2 ปีแล้วนะลูก ที่เขาเทียวไปเทียวมาแบบนี้ หนูจะไม่ลองให้โอกาสตัวเองและให้โอกาสเขาดูสักครั้งหรือลูก จะมีผู้ชายคนไหนที่จะดีกับแม่กับยายได้เท่าพ่อวิชอีกล่ะลูก’‘ยายก็อยากเห็นหนูดาวมีความสุขนะลูก อยากให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขเหมือนเดิม ยายอยากอุ้มเหลนสักครั้งก่อนที่ยายจะหมดลม หนูดาว... ลืมเรื่องที่ผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเถอะลูก นะหนูดาวของยาย ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ยายจะได้เห็นหนูแต่งงาน ขอให้ยายได้เห็นหนูมีความสุข ให้พ่อธนินเขาหมดห่วง ยายก็จะได้นอนตายตาหลับซะที’‘รับปากแต่งงานกับพ่อวิชเถอะนะลูก ถือว่าแม่กับยายขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายนะหนูดาว ทำเพื่อแม่กับยายอีกครั้งได้มั้ย’น้ำตาของยายที่เอ่อคลอยามเอ่ยถึงพ่อของเธอและน้ำเสียงสั่นเครือของแม่ นั่นคือเหตุผลที่เธอตกลงปลงใจแต่งงานครั้งที่ 3 กับทวิช แม้จะไม่ได้รักเขาก็ตาม อาจเพราะว่าเธอก็อยากจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ ‘ผู้หญิงกินผัว’ อย่างที่ผู้
“ไม่จริ๊ง! มันต้องฆ่าลูกฉัน พวกมัน แม่มัน ยายมัน ร่วมมือกันฆ่าตาวิช ไม่มีทางที่ตาวิชจะตายเอง ไม่มีทาง! ไม่จริ๊ง! เอิ้ก...”เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดังออกมาจากแม่ของทวิช ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเรอเอิ้กอ้ากเพราะลมตีขึ้นฉับพลัน พร้อมๆ กับเหล่าญาติพี่น้องที่วิ่งวุ่นหายาลมยาหอมอีกครั้ง“ทำไมผลชันสูตรถึงออกมาว่าพี่วิชหัวใจวายล่ะครับคุณตำรวจ ไม่มีใครสงสัยครอบครัวเจ้าสาวเลยเหรอครับ ผมทราบว่าสามีอีก 2 คนของเธอก็หัวใจวายตายเหมือนกัน” เขาถามเพราะเริ่มไม่แน่ใจกับผลชันสูตรที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาบอกว่าบางอาชีพเงินก็ซื้อได้อย่างง่ายดาย“ทางเรามีประวัติที่คุณทวิชไปพบแพทย์เมื่อ 3 เดือนก่อนนะครับ”“พบแพทย์” หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ดวงตาจับจ้องมองนายตำรวจเจ้าของคดีแทบจะไม่กะพริบ เขาต้องการคำตอบที่กระจ่างชัดเจนกว่านี้“ครับ คุณทวิชไปพบแพทย์เพราะมีอาการเจ็บหน้าอกและหัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อ 3 เดือนที่แล้วนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่ทราบว่าคุณทวิชได้บอกญาติๆ ไว้บ้างหรือไม่” นายตำรวจวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“พี่วิชน่ะเหรอครับป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาทั้งออกกำลังกายทั้งดู
สายตาที่แสดงความไม่พอใจของผู้เป็นแม่ที่จ้องมองมาในทันทีที่เธอเหยียบย่างเข้าสู่คฤหาสน์หลังงามที่ปลูกสร้างบนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ในย่านชานเมือง ทำให้ธนิษฐาต้องพยายามข่มใจไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ ‘เหนื่อยใจ’ ซึ่งก็คืออารมณ์ที่แท้จริงในขณะนี้ออกไปร่างงามระหงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ พ่นออกจากปากเบาๆ ราวกับอยากให้ความหนักใจทั้งหลายนั้นมลายหายไปพร้อมกับลมหายใจออก เพราะยิ่งนานวัน ความอึดอัดที่เธอแบกรับมาตลอดเกือบ 5 ปี มันก็ยิ่งเติมเต็มจนแทบจะทะลักออกมาจากหัวใจของเธออยู่แล้วเธออยากให้ความอึดอัดนี้มันจบลงเสียที อย่างน้อยที่สุดก็ให้จบไปพร้อมๆ กับ ‘ตราบาป’ ครั้งล่าสุดที่เพิ่งประทับไว้บนหน้าผากของเธอ เพราะต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกล ขอเพียงมีคนรู้จักและจดจำเธอได้ ฉายา ‘หญิงกินผัว’ ‘ม่ายผัว 3’ หรือว่า ‘หญิง 3 ผัว’ คงจะอยู่คู่กับเธอไปจนวันตาย เพราะเรื่องแบบนี้แหละที่คนชอบพูดกันนัก ดีไม่ดีเธออาจกลายเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ได้“ถอนหายใจทำไมยัยดาว อย่ามามองแม่แบบนี้นะ แม่บอกเราแล้วว่าไม่ให้ไป เราก็ไม่เชื่อแม่ แล้วยังไงล่ะ เจอเขาด่าหรือว่าไล่ตะเพิดมาอีกล่ะ ถึงได้มามองแ
สายตาที่แสดงความไม่พอใจของผู้เป็นแม่ที่จ้องมองมาในทันทีที่เธอเหยียบย่างเข้าสู่คฤหาสน์หลังงามที่ปลูกสร้างบนพื้นที่เกือบ 10 ไร่ในย่านชานเมือง ทำให้ธนิษฐาต้องพยายามข่มใจไม่ให้เผลอแสดงอารมณ์ ‘เหนื่อยใจ’ ซึ่งก็คืออารมณ์ที่แท้จริงในขณะนี้ออกไปร่างงามระหงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ พ่นออกจากปากเบาๆ ราวกับอยากให้ความหนักใจทั้งหลายนั้นมลายหายไปพร้อมกับลมหายใจออก เพราะยิ่งนานวัน ความอึดอัดที่เธอแบกรับมาตลอดเกือบ 5 ปี มันก็ยิ่งเติมเต็มจนแทบจะทะลักออกมาจากหัวใจของเธออยู่แล้วเธออยากให้ความอึดอัดนี้มันจบลงเสียที อย่างน้อยที่สุดก็ให้จบไปพร้อมๆ กับ ‘ตราบาป’ ครั้งล่าสุดที่เพิ่งประทับไว้บนหน้าผากของเธอ เพราะต่อแต่นี้ไปไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ใกล้หรือไกล ขอเพียงมีคนรู้จักและจดจำเธอได้ ฉายา ‘หญิงกินผัว’ ‘ม่ายผัว 3’ หรือว่า ‘หญิง 3 ผัว’ คงจะอยู่คู่กับเธอไปจนวันตาย เพราะเรื่องแบบนี้แหละที่คนชอบพูดกันนัก ดีไม่ดีเธออาจกลายเป็นตำนานที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็ได้“ถอนหายใจทำไมยัยดาว อย่ามามองแม่แบบนี้นะ แม่บอกเราแล้วว่าไม่ให้ไป เราก็ไม่เชื่อแม่ แล้วยังไงล่ะ เจอเขาด่าหรือว่าไล่ตะเพิดมาอีกล่ะ ถึงได้มามองแ
“ไม่จริ๊ง! มันต้องฆ่าลูกฉัน พวกมัน แม่มัน ยายมัน ร่วมมือกันฆ่าตาวิช ไม่มีทางที่ตาวิชจะตายเอง ไม่มีทาง! ไม่จริ๊ง! เอิ้ก...”เสียงกรีดร้องคร่ำครวญดังออกมาจากแม่ของทวิช ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเรอเอิ้กอ้ากเพราะลมตีขึ้นฉับพลัน พร้อมๆ กับเหล่าญาติพี่น้องที่วิ่งวุ่นหายาลมยาหอมอีกครั้ง“ทำไมผลชันสูตรถึงออกมาว่าพี่วิชหัวใจวายล่ะครับคุณตำรวจ ไม่มีใครสงสัยครอบครัวเจ้าสาวเลยเหรอครับ ผมทราบว่าสามีอีก 2 คนของเธอก็หัวใจวายตายเหมือนกัน” เขาถามเพราะเริ่มไม่แน่ใจกับผลชันสูตรที่เจ้าหน้าที่เอามาให้ เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาบอกว่าบางอาชีพเงินก็ซื้อได้อย่างง่ายดาย“ทางเรามีประวัติที่คุณทวิชไปพบแพทย์เมื่อ 3 เดือนก่อนนะครับ”“พบแพทย์” หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ดวงตาจับจ้องมองนายตำรวจเจ้าของคดีแทบจะไม่กะพริบ เขาต้องการคำตอบที่กระจ่างชัดเจนกว่านี้“ครับ คุณทวิชไปพบแพทย์เพราะมีอาการเจ็บหน้าอกและหัวใจเต้นผิดปกติ เมื่อ 3 เดือนที่แล้วนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมไม่ทราบว่าคุณทวิชได้บอกญาติๆ ไว้บ้างหรือไม่” นายตำรวจวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“พี่วิชน่ะเหรอครับป่วยเป็นโรคหัวใจ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาทั้งออกกำลังกายทั้งดู
‘หนูดาว... คิดให้ดีนะลูก แม่เข้าใจว่าไม่มีใครหรอกที่อยากจะแต่งงานหลายครั้ง แต่แม่ก็อยากให้หนูตรองดูให้ดี คุณทวิชเขาดีกับแม่กับยายมาก จะมีผู้ชายคนไหนล่ะลูกที่เขาจะมาสนใจแม่ม่ายอย่างหนู นี่มัน 2 ปีแล้วนะลูก ที่เขาเทียวไปเทียวมาแบบนี้ หนูจะไม่ลองให้โอกาสตัวเองและให้โอกาสเขาดูสักครั้งหรือลูก จะมีผู้ชายคนไหนที่จะดีกับแม่กับยายได้เท่าพ่อวิชอีกล่ะลูก’‘ยายก็อยากเห็นหนูดาวมีความสุขนะลูก อยากให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขเหมือนเดิม ยายอยากอุ้มเหลนสักครั้งก่อนที่ยายจะหมดลม หนูดาว... ลืมเรื่องที่ผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเถอะลูก นะหนูดาวของยาย ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ยายจะได้เห็นหนูแต่งงาน ขอให้ยายได้เห็นหนูมีความสุข ให้พ่อธนินเขาหมดห่วง ยายก็จะได้นอนตายตาหลับซะที’‘รับปากแต่งงานกับพ่อวิชเถอะนะลูก ถือว่าแม่กับยายขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายนะหนูดาว ทำเพื่อแม่กับยายอีกครั้งได้มั้ย’น้ำตาของยายที่เอ่อคลอยามเอ่ยถึงพ่อของเธอและน้ำเสียงสั่นเครือของแม่ นั่นคือเหตุผลที่เธอตกลงปลงใจแต่งงานครั้งที่ 3 กับทวิช แม้จะไม่ได้รักเขาก็ตาม อาจเพราะว่าเธอก็อยากจะพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่ ‘ผู้หญิงกินผัว’ อย่างที่ผู้
“นี่เราทำบาปทำกรรมกับคนพวกนั้นจริงๆ เหรอเนี่ย เราเป็นสาเหตุให้พวกเขาตาย เราเป็นผู้หญิง...”คำนั้นละไว้ฐานที่เข้าใจเพราะไม่กล้าแม้แต่จะพูดมันออกมา แค่คิดก็เจ็บปวดหัวใจเสียจนหยาดน้ำตาต้องทะลักไหลออกมาอีก“ฮือ... เราเป็นอย่างที่เขาว่า ฮือ...” ใบหน้าฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตาซบลงที่พวงมาลัย ไหล่เล็กสั่นไหวจากแรงสะอื้นที่มีแต่จะถาโถมเพิ่มขึ้นจากหัวใจที่สั่นสะท้าน เมื่อหวนนึกถึงครั้งแรกที่ต้องเผชิญหน้ากับคำว่า ‘ม่ายผัวตาย’เริ่มจาก ‘สราวุฒิ’ สามีคนแรกของเธอ พ่อม่ายเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ แม้จะไม่ได้รักชอบในเชิงชู้สาว เพราะสราวุฒินั้นอยู่ในวัยไล่เลี่ยกับพ่อของเธอ ทั้งครอบครัวก็ยังสนิทสนมกันตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่ความสม่ำเสมอช่างเอาอกเอาใจ ตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยจนเรียนจบ ก็ทำให้แม่และยายอยากให้เธอรับปากแต่งงานกับเขา เพื่อเธอจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาและมีคนดูแลปกป้องแทนพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกับเขา เพื่อตอบแทนบุญคุณแม่กับยายที่อุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูเธอจนเรียนจบ แม้ว่าพ่อจะจากไปกว่า 5 ปีแล้วก็ตาม อีกอย่างฐานะร่ำรวยของสราวุฒิก็จะทำให้แ
“กรี๊ดดดดด...”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังลั่นทำให้บรรดาแขกเหรื่อที่กำลังจะเดินทางกลับและเจ้าภาพที่ยืนส่งแขกอยู่หน้างานพร้อมใจกันมองไปยังที่มาของเสียงอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่เจ้าภาพทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจะวิ่งตรงไปยังทิศทางซึ่งก็คือ ห้องหอที่เพิ่งส่งตัวบ่าวสาวเข้าไปได้ไม่ถึง 5 นาทีดี แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูคนจากด้านในก็เปิดออกมาเสียก่อน ใบหน้าสวยตื่นตระหนกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาร่ำร้องเรียกหาให้คนช่วยเจ้าบ่าวของเธอ “ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย ช่วยเขาด้วย อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะ ช่วยด้วย... ฮือ...”ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวดูบอบบางน่าทะนุถนอมทรุดลงแทบพื้นพลางสั่นสะอื้น เพราะเธอไร้เรี่ยวแรงใดๆ ที่จะพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นได้อีกแล้ว ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาได้แต่มองบรรดาญาติของฝ่ายชายและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่ต่างพยายามช่วยปฐมพยาบาลเจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธออย่างต่อเนื่องความโกลาหลเกิดขึ้นรอบตัว ทว่าไม่ว่าในห้องหอรอรักที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามนี้จะมากมายไปด้วยผู้คนเข้าออก ทั้งญาติของเจ้าบ่าวที่เดินไปมา ทั้งเจ้าหน้าที่ของรถบริการฉุกเฉินที่รีบเร่งเข้ามาพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพอย่างเร่งด่