หน้าหลัก / รักโบราณ / กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน / บทที่ 3 หากท่านจะแต่งงานแล้วมาหลอกข้าทำไม

แชร์

บทที่ 3 หากท่านจะแต่งงานแล้วมาหลอกข้าทำไม

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-03 17:18:26

ร่างบางของหมิ่นเอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อกลางดึก นางตกใจอย่างยิ่งที่บัดนี้ตัวเองมานอนอยู่บนพื้นหินเย็นเฉียบ และเมื่อเอามือบางควานไปรอบๆก็พบเพียงฝุ่นหนาทึบที่อยู่บนพื้นหิน แถมยังมีเสียงหนูร้องจี๊ดๆอยู่ไม่ไกลนัก หมิ่นเอ๋อกลัวมากเพราะมองไม่เห็นว่ารอบข้างมีสิ่งใดบ้าง นางร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังก้องไปห้องนั้น เมื่อไม่มีแสงใดๆเลยนางเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใดกัน นางได้แต่นั่งกอดเข่าคุดคู้ด้วยความหวาดกลัวเหลือแสนอยู่บนพื้นนั้น และร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เมื่อร้องของความช่วยเหลือก็ไม่มีเสียงใดๆตอบรับและนางเองก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆด้านนอกเลย ได้ยินแต่เสียงหนูร้องภายในนี้เท่านั้น 

จนเมื่อเช้าอีกวันหนึ่ง เมื่อแสงแดดส่องลงมาบนพื้นดินในสวนที่กว้างใหญ่ของจวนหวัง นางดีใจนักที่เห็นแสงแดดส่องลงมาเป็นลำ ทำให้นางพอมองเห็นบริเวณรอบๆแล้ว แต่นี่มันคือห้องเก็บฟืนสำหรับเอาไว้ใช้ในฤดูหนาว  นางเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้เมื่อครั้งยังเด็กเมื่อหลายปีก่อน  ตอนที่เรือนแถวที่ทำจากหินที่ท่านพ่อจ้างช่างมาสร้างเอาไว้อย่างแข็งแรงเพราะต้องเอาไว้เก็บสเบียงและฟืนที่จะต้องใช้ในยามฤดูหนาว  และบัดนี้มันมีฟืนเรียงเอาไว้ด้านหนึ่งของผนัง   แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ใครกันที่ใจร้ายกลั่นแกล้งลากเธอมานอนไว้ที่บนพื้นที่เรือนแถวแห่งนี้

เมื่อหมิ่นเอ๋อทบทวนความทรงจำของเธอ เมื่อวานนี้คนรักของเธอแม่ทัพหยางได้ฝากจดหมายมากับสาวใช้เพื่อนัดพบกัน และสิ่งเหล่านี้เขาเคยทำมาก่อนเธอจึงได้ไม่ได้สงสัยอะไร แต่เหตุใดตอนนั้นเขาจึงไม่มาตามนัดเล่า ขณะที่เธอกำลังนั่งงงงันว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับตนเองนั้น อยู่ๆประตูฝาไม้หนาทึบที่ปิดเอาไว้ก็พลันเปิดแง้มขึ้น เมื่อหมิ่นเอ๋อเห็นแสงสว่างที่ลอดเข้ามาเธอก็รีบผุดลุกขึ้นก้าวพยายามก้าวอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อไปที่บันไดหินสามขั้นที่เห็นตรงหน้า  เพื่อจะก้าวขึ้นไปที่ประตูไม้หนาหนักด้านบน  แต่อยู่ๆ ก็มีห่อผ้าร่วงหล่นลงมา และประตูไม้หนาหนักนั่นก็พลันปิดลงทันที 

หมิ่นเอ๋อที่ยังไม่ทันได้ก้าวขึ้นบันไดหิน  ก็ร้องขอความช่วยเหลือดังลั่นแต่ด้านหลังประตูนั้น  ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เธอร้องเรียกจนหยุดร้องไปเองเพราะแสบคอเหลือเกิน และกระหายน้ำยิ่งนัก หมิ่นเอ๋อทรุดนั่งลงที่บันไดหินที่พอมองเห็นได้ลางๆจากแสงสว่างที่สาดลงมาเป็นลำที่ยังคงอยู่ หมิ่นเอ๋อเปิดห่อผ้านั้นออก ก็พบกับกระบอกน้ำดื่ม และหอเสี่ยวหลงเปาสามลูก เธอดีใจมากเพราะหิวมากเช่นกัน ไม่รู้ใครกันที่โยนห่อผ้านี้ลงมา ตอนแรกเธอก็ไม่กล้าจะกินแต่เมื่อความหิวมันไม่ปราณีใครเธอจึงได้กัดกินเสี่ยวหลงเปานั้นไปหนึ่งลูก และที่เหลือก็เก็บเอาไว้ก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีคนมาเปิดประตูให้เธออีกเมื่อไหร่ และเธอก็เห็นซองสีแดงซองหนึ่งหล่นร่วงลงมาจากห่อผ้านั้น เธอจึงได้เปิดออกดูและแกะซองสีแดงนั้นออกอ่าน ก็พบว่ามันคือเทียบเชิญไปงานแต่งงาน ของแม่ทัพหยางอี้เทียนกับคุณหนูหวังฟางหลิว 

มือบางของหมิ่นเอ๋อสั่นจนแทบจะจับเทียบเชิญสีแดงสดนั้นเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาเม็ดโตๆไหลรินลงมาจนเปรอะเปื้อนเทียบเชิญนั้น หมายความว่าอย่างไรกัน เทียบเชิญแต่งงานที่จะจัดขึ้นในอีกสามวัน พี่อี้เทียน ท่านจะแต่งงานกับฟางหลิวอย่างนั้นหรือ มันเกิดเรื่องอะไรกัน แล้วที่ท่านนัดข้าไปพบนั่นเพื่อจะบอกข้าเรื่องนี้ใช่หรือไม่ แล้วอยู่ๆก็จับข้ามาขังที่ห้องใต้ดินนี่พวกท่านต้องการอะไรกัน หากไม่ต้องการแต่งงานกับข้าแล้ว ก็ควรจะบอกกับข้าตรงๆก็ได้ หญิงต่ำต้อยเช่นข้า หญิงที่บิดาไม่เคยเหลียวแลใส่ใจเช่นข้า ไม่มีอำนาจแม้จะออกคำสั่งบ่าวไพร่สักคนในจวนเช่นข้า จะขัดขวางพวกท่านไม่ให้แต่งงานกันได้อย่างไร ทำไมไม่บอกข้ามาตามตรงว่าไม่ต้องการข้าแล้ว เหตุใดท่านถึงจับข้ามาขังเอาไว้เช่นนี้ พวกท่านต้องการอะไรกัน 

น้ำตาของหมิ่นเอ๋อร่วงลงมาเป็นสาย นางนั่งพิงฝาหนังเย็นสนิทนั้นร้องไห้ออกมาจนตัวโยน ร้องจนหยุดไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าตนเองมีน้ำดื่มแค่ในกระบอกเล็กๆที่มีคนโยนมันลงมาให้นาง ยังอุตส่าห์มีน้ำใจให้น้ำดื่มและอาหารแก่นางอีก เพื่อที่นางจะได้มีชีวิตอยู่เพื่อรอดูวันสุขสมของพวกเขา ช่างเจ็บปวดใจเหลือเกิน ผู้อื่นนั้นปฏิบัติกับข้าไม่ดีอยู่แล้ว นั่นเป็นปกติของพวกเขา แต่ท่านแม่ทัพหยางอี้เทียน ท่านเคยบอกว่ารักข้า รักและอยากจะแต่งงานรับข้าเป็นฮูหยิน ท่านหลอกลวงข้าทำไมกัน หลอกลวงหญิงต่ำต้อยด้อยค่าเช่นข้าทำไมกัน หลอกให้ข้ามีความหวัง หลอกให้ข้ามีความฝันว่ามีคนผู้หนึ่งที่รักและต้องการข้าอย่างแท้จริง เพื่อที่จะพบในวันหนึ่งว่ามันคือการหลอกลวง 

หากท่านไม่ได้รักข้า ไม่ต้องการข้า ใยจึงมาหลอกลวงข้าเล่นๆให้มีความหวัง ให้ตกหลุมรักท่าน ทั้งๆที่ท่านเองก็ไม่ได้ปรารถนาในตัวของข้า และวันนี้ท่านกำลังจะแต่งงานกับฟางหลิวน้องสาวของข้า เรื่องพวกนี้ข้าพอจะให้อภัยท่านได้ ที่ท่านหลอกลวงไม่จริงใจกับข้า แต่ท่านควรจะบอกข้ามาตามตรงว่าใจของท่านนั้นเปลี่ยนไปแล้ว หรือว่าท่านไม่เคยมีใจให้กับข้าที่ผ่านมามันคือการเล่นสนุกของบุรุษที่มีฐานะสูงส่งเช่นท่าน และเมื่อท่านคิดจะจริงจังกับผู้ใดท่านก็จะเลือกสตรีที่คงจะดีกว่าข้า สตรีที่แทบจะไร้ค่าในจวนของบิดาตนเองเช่นนี้

ข้าไม่โทษท่านที่ไม่คิดจะจริงจังกับข้า แต่ท่านควรจะบอกกับข้าตามตรง ไม่ควรจะจับข้ามาขัง หรือว่าท่านกลัวว่าข้าจะขัดขวางงานวิวาห์ของพวกท่าน ท่านแม่ทัพหยาง ท่านไม่รู้หรือว่าสตรีต่ำต้อยเช่นข้าจะมีปัญญาอะไรไปขัดขวางพวกท่านกัน ข้าจะมีปัญญาทำอะไรได้กัน……ฮื้อ…ฮื้อ….ฮื้อ…ฮื้อ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หมิ่นเอ๋อร้องไห้คร่ำครวญออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ นางเสียใจเหลือเกิน เสียใจที่ถูกคนที่นางรักมาหักหลังนางเช่นนี้ มันเจ็บปวดแทบขาดใจ นางไม่ได้เสียใจที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ขอเพียงแค่เขาบอกกับนางตามตรงไม่หลอกให้นางมีความหวัง และไม่ควรจะจับนางมาขังไว้เช่นนี้ มันเจ็บปวดเกินไป เขาทำร้ายจิตใจและร่างกายของนางจนเกินไปแล้ว

หมิ่นเอ๋อเข้าใจว่าแม่ทัพหยางและน้องสาวของนางร่วมมือกันจับนางมาขังเอาไว้เพื่อไม่ให้ขัดขวางพิธีแต่งงานของพวกเขาที่กำลังจะจัดขึ้น ไม่ให้นางอยู่เป็นเสี้ยนหนามหัวใจของพวกเขา ช่างโหดร้ายเหลือเกิน โหดร้ายกับนางอย่างยิ่ง……….

หมิ่นเอ๋อร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล จึงได้หยุดไป และนางเหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว  และคืนนั้นเมื่อหนูหลายๆตัวได้กลิ่นเสี่ยวหลงเปาไส้หมูสับในห่อผ้านั้น พวกมันก็พากันมารุมกินจนหมด ห่อผ้านั้นฉีดขาด เหลือทิ้งไว้เพียงกระบอกน้ำที่กลิ้งหล่นอยู่บนพื้นเพียงเท่านั้น 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 4 ข้าสาบานจะกลับมาทวงแค้น

    จนเมื่อร่างกายที่อ่อนระโหยของหมิ่นเอ๋อที่บัดนี้แทบจะไร้เรี่ยวแรง นางค้นพบว่าเสี่ยวหลงเปาถูกหนูกินไปจนหมดแล้ว เหลือไว้เพียงกระบอกน้ำดื่มที่หล่นอยู่บนพื้น นางจึงได้พยายามลุกไปหยิบมาดื่ม นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผนังที่มองเห็นลางๆเพราะบัดนี้คงจะเริ่มเช้าวันใหม่ของอีกวันหนึ่งแล้ว นางพยายามจะจุดตะเกียงแต่ไม่สามารถจุดได้ เพราะไม่มีที่จุุดไฟ มีแต่ตะเกียงแขวนเอาไว้บนผนังเท่านั้นนางค้นหาจนทั่วเท่าที่แสงสว่างมันจะส่องไปถึง เพราะมันมีแสงสว่างลอดเข้ามาแค่ลำเดียวเท่านั้น หมิ่นเอ๋อเขี่ยห่อผ้าขาดวิ่นนั้นไปที่มุมห้องเพราะกลัวว่าหนูจะกลับมาอีก นางยกกระบอกน้ำที่ยังคงเหลือน้ำอีกครึ่งกระบอกยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างน้อยน้ำที่เหลืออยู่นี้ก็ยังพอประทังความหิวไปได้อีกหลายวัน หลังจากนั้นหากนางยังไม่สามารถขึ้นไปจากที่นี่ได้ ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน หมิ่นเอ๋อครุ่นคิด บัดนี้ดวงตาของนางแห้งผากใบหน้านั้นมีแต่คราบฝุ่นผงจับเต็มไปหมด นางไม่ยกมือขึ้นเช็ดอีก เพราะทั้งมือและตัวก็เปรอะเปื้อนไปจนหมด หมิ่นเอ๋อนั่งที่บันไดนั้นอย่างอ่อนแรงและเอนกายพิงบันไดเอาไว้ ตอนนี้นางแทบจะไม่มีเสียงจะร้องอีกแล้ว ลำคอนั้นแห้งผากแสบไปหมด และที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 1 เมื่อยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน

    หวังหมิ่นเอ๋อครุ่นคิดขณะที่ยืนรอคนรักของตนเองอยู่ที่หน้าศาลเจ้าในตลาด เพราะวันนี้นัดกับแม่ทัพหยางที่เป็นคนรักของตนเองเพื่อมาไหว้เจ้าขอพรและเที่ยวชมตลาดกัน นางยืนรอคนรักครู่หนึ่งเขาก็เดินมาสมทบ วันนี้เขาแต่งกายด้วยชุดนอกเครื่องแบบ ทำให้ดูคล้ายคุณชายในตระกูลใหญ่และหล่อเหลาดังเคย “ หมิ่นเอ๋อ พี่มาแล้ว เจ้ารอนานหรือไม่ ” เขาเดินยิ้มอย่างเบิกบานมาหานาง“ ไม่นานหรอกเจ้าค่ะ เราเข้าไปในวัดกันเลยนะเจ้าค่ะ ” ทั้งสองจูงมือพากันเดินเข้าไปในวัดที่ตอนนี้มีผู้คนคราคร่ำ เมื่อเดินเข้าไปไหว้พระในวัดแม่ทัพหนุ่มคุกเข่าลงข้างๆคนรัก แล้วขอพรดังๆให้นางได้ยิน “ ข้าแม่ทัพหยางอี้เทียน ขอพรต่อท่านเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ความรักของพวกเราทั้งคู่มั่นคงยืนนาน และรักกันไปตลอดจนแก่เฒ่าไปด้วยกันและหากข้าเกิดชาติใหม่ก็จะขอรักเพียงหมิ่นเอ๋อคนนี้เท่านั้น ” หมิ่นเอ๋อจึงได้อธิษฐานขอพรเช่นเดียวกับเขา ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น พากันไปทำบุญตามจุดต่างๆในวัด และให้ทานคนขอทานที่มาขอเรี่ยไรเงินอยู่หน้าวัด แล้วก็จูงมือกันเดินออกมาจากวัดมุ่งหน้าไปเดินเล่นที่ตลาดในเมืองเกาสงที่ตอนนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย แม่ทัพหยางแวะร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 2 แผนการณ์ฆ่าคนอย่างไร้เมตตา

    แม้แต่เงินเบี้ยเลี้ยงของนางที่จะต้องได้รับทุกๆเดือนแม่เลี้ยงนั้นก็เก็บงำเอาไว้เสียเอง และจะมอบให้ก็ต่อเมื่อท่านคหบดีบังเอิญอยู่ที่จวนเท่านั้น และข้าวของเครื่องใช้และอาภรณ์ที่ต้องซื้อหาของคุณหนูใหญ่นั้นก็แทบจะไม่มีของใหม่ นางเป็นบุตรสาวคนโตแต่ต้องรับช่วงอาภรณ์ที่น้องสาวใส่จนเบื่อแล้วมาใส่ หากไม่รับก็ไม่มีจะใส่ ของเดิมที่มีอยู่นั้นก็เก่าปอนเต็มทีและขนาดตัวก็คับแน่นไปหมดแล้วแต่ความอัตคัตนี้ไม่สามารถบดบังความงดงามเมื่อเริ่มย่างเข้าวัยสาวได้ ความงามของนางนั้นก็เข้าตาแม่ทัพหนุ่มอนาคตไกลที่เป็นเพื่อนบ้าน จวนติดกันเข้าอย่างเต็มที่ เขาจึงได้เทียวไล้เทียวขื่ออยู่นานจนนางยอมตกลงรับรักเขา แม่ทัพหนุ่มหมายใจว่าอีกไม่นานเขาจะสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขา และเมื่อหวังฟางหลิวน้องสาวต่างมารดาที่นิสัยเหมือนมารดาตนเองไม่ผิดเพี้ยนเพราะการอบรมบุตรีให้มีนิสัยริษยาผู้อื่นและไร้เมตตาต่อพี่น้องเห็นแก่ตัวจนไม่คิดถึงใจคนอื่น นางบอกมารดาว่านางหลงรักแม่ทัพหยางอี้เทียนเข้าแล้ว เพราะเขานั้นหล่อเหลาเหลือเกินแถมยังมีอนาคตไกลอีกด้วย หากนางได้แต่งงานเป็นฮูหยินของเขาฐานะพวกเราก็จะยิ่งมั่นคงยิ่งไปกว่านี้ นับจากนั้นมารดาของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03

บทล่าสุด

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 4 ข้าสาบานจะกลับมาทวงแค้น

    จนเมื่อร่างกายที่อ่อนระโหยของหมิ่นเอ๋อที่บัดนี้แทบจะไร้เรี่ยวแรง นางค้นพบว่าเสี่ยวหลงเปาถูกหนูกินไปจนหมดแล้ว เหลือไว้เพียงกระบอกน้ำดื่มที่หล่นอยู่บนพื้น นางจึงได้พยายามลุกไปหยิบมาดื่ม นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผนังที่มองเห็นลางๆเพราะบัดนี้คงจะเริ่มเช้าวันใหม่ของอีกวันหนึ่งแล้ว นางพยายามจะจุดตะเกียงแต่ไม่สามารถจุดได้ เพราะไม่มีที่จุุดไฟ มีแต่ตะเกียงแขวนเอาไว้บนผนังเท่านั้นนางค้นหาจนทั่วเท่าที่แสงสว่างมันจะส่องไปถึง เพราะมันมีแสงสว่างลอดเข้ามาแค่ลำเดียวเท่านั้น หมิ่นเอ๋อเขี่ยห่อผ้าขาดวิ่นนั้นไปที่มุมห้องเพราะกลัวว่าหนูจะกลับมาอีก นางยกกระบอกน้ำที่ยังคงเหลือน้ำอีกครึ่งกระบอกยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างน้อยน้ำที่เหลืออยู่นี้ก็ยังพอประทังความหิวไปได้อีกหลายวัน หลังจากนั้นหากนางยังไม่สามารถขึ้นไปจากที่นี่ได้ ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน หมิ่นเอ๋อครุ่นคิด บัดนี้ดวงตาของนางแห้งผากใบหน้านั้นมีแต่คราบฝุ่นผงจับเต็มไปหมด นางไม่ยกมือขึ้นเช็ดอีก เพราะทั้งมือและตัวก็เปรอะเปื้อนไปจนหมด หมิ่นเอ๋อนั่งที่บันไดนั้นอย่างอ่อนแรงและเอนกายพิงบันไดเอาไว้ ตอนนี้นางแทบจะไม่มีเสียงจะร้องอีกแล้ว ลำคอนั้นแห้งผากแสบไปหมด และที่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 3 หากท่านจะแต่งงานแล้วมาหลอกข้าทำไม

    ร่างบางของหมิ่นเอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อกลางดึก นางตกใจอย่างยิ่งที่บัดนี้ตัวเองมานอนอยู่บนพื้นหินเย็นเฉียบ และเมื่อเอามือบางควานไปรอบๆก็พบเพียงฝุ่นหนาทึบที่อยู่บนพื้นหิน แถมยังมีเสียงหนูร้องจี๊ดๆอยู่ไม่ไกลนัก หมิ่นเอ๋อกลัวมากเพราะมองไม่เห็นว่ารอบข้างมีสิ่งใดบ้าง นางร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังก้องไปห้องนั้น เมื่อไม่มีแสงใดๆเลยนางเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใดกัน นางได้แต่นั่งกอดเข่าคุดคู้ด้วยความหวาดกลัวเหลือแสนอยู่บนพื้นนั้น และร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เมื่อร้องของความช่วยเหลือก็ไม่มีเสียงใดๆตอบรับและนางเองก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆด้านนอกเลย ได้ยินแต่เสียงหนูร้องภายในนี้เท่านั้น จนเมื่อเช้าอีกวันหนึ่ง เมื่อแสงแดดส่องลงมาบนพื้นดินในสวนที่กว้างใหญ่ของจวนหวัง นางดีใจนักที่เห็นแสงแดดส่องลงมาเป็นลำ ทำให้นางพอมองเห็นบริเวณรอบๆแล้ว แต่นี่มันคือห้องเก็บฟืนสำหรับเอาไว้ใช้ในฤดูหนาว นางเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้เมื่อครั้งยังเด็กเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เรือนแถวที่ทำจากหินที่ท่านพ่อจ้างช่างมาสร้างเอาไว้อย่างแข็งแรงเพราะต้องเอาไว้เก็บสเบียงและฟืนที่จะต้องใช้ในยามฤดูหนาว และบัดนี้มันมีฟืนเรียงเอาไว้ด้านหนึ่งของผ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 2 แผนการณ์ฆ่าคนอย่างไร้เมตตา

    แม้แต่เงินเบี้ยเลี้ยงของนางที่จะต้องได้รับทุกๆเดือนแม่เลี้ยงนั้นก็เก็บงำเอาไว้เสียเอง และจะมอบให้ก็ต่อเมื่อท่านคหบดีบังเอิญอยู่ที่จวนเท่านั้น และข้าวของเครื่องใช้และอาภรณ์ที่ต้องซื้อหาของคุณหนูใหญ่นั้นก็แทบจะไม่มีของใหม่ นางเป็นบุตรสาวคนโตแต่ต้องรับช่วงอาภรณ์ที่น้องสาวใส่จนเบื่อแล้วมาใส่ หากไม่รับก็ไม่มีจะใส่ ของเดิมที่มีอยู่นั้นก็เก่าปอนเต็มทีและขนาดตัวก็คับแน่นไปหมดแล้วแต่ความอัตคัตนี้ไม่สามารถบดบังความงดงามเมื่อเริ่มย่างเข้าวัยสาวได้ ความงามของนางนั้นก็เข้าตาแม่ทัพหนุ่มอนาคตไกลที่เป็นเพื่อนบ้าน จวนติดกันเข้าอย่างเต็มที่ เขาจึงได้เทียวไล้เทียวขื่ออยู่นานจนนางยอมตกลงรับรักเขา แม่ทัพหนุ่มหมายใจว่าอีกไม่นานเขาจะสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขา และเมื่อหวังฟางหลิวน้องสาวต่างมารดาที่นิสัยเหมือนมารดาตนเองไม่ผิดเพี้ยนเพราะการอบรมบุตรีให้มีนิสัยริษยาผู้อื่นและไร้เมตตาต่อพี่น้องเห็นแก่ตัวจนไม่คิดถึงใจคนอื่น นางบอกมารดาว่านางหลงรักแม่ทัพหยางอี้เทียนเข้าแล้ว เพราะเขานั้นหล่อเหลาเหลือเกินแถมยังมีอนาคตไกลอีกด้วย หากนางได้แต่งงานเป็นฮูหยินของเขาฐานะพวกเราก็จะยิ่งมั่นคงยิ่งไปกว่านี้ นับจากนั้นมารดาของ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 1 เมื่อยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน

    หวังหมิ่นเอ๋อครุ่นคิดขณะที่ยืนรอคนรักของตนเองอยู่ที่หน้าศาลเจ้าในตลาด เพราะวันนี้นัดกับแม่ทัพหยางที่เป็นคนรักของตนเองเพื่อมาไหว้เจ้าขอพรและเที่ยวชมตลาดกัน นางยืนรอคนรักครู่หนึ่งเขาก็เดินมาสมทบ วันนี้เขาแต่งกายด้วยชุดนอกเครื่องแบบ ทำให้ดูคล้ายคุณชายในตระกูลใหญ่และหล่อเหลาดังเคย “ หมิ่นเอ๋อ พี่มาแล้ว เจ้ารอนานหรือไม่ ” เขาเดินยิ้มอย่างเบิกบานมาหานาง“ ไม่นานหรอกเจ้าค่ะ เราเข้าไปในวัดกันเลยนะเจ้าค่ะ ” ทั้งสองจูงมือพากันเดินเข้าไปในวัดที่ตอนนี้มีผู้คนคราคร่ำ เมื่อเดินเข้าไปไหว้พระในวัดแม่ทัพหนุ่มคุกเข่าลงข้างๆคนรัก แล้วขอพรดังๆให้นางได้ยิน “ ข้าแม่ทัพหยางอี้เทียน ขอพรต่อท่านเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ความรักของพวกเราทั้งคู่มั่นคงยืนนาน และรักกันไปตลอดจนแก่เฒ่าไปด้วยกันและหากข้าเกิดชาติใหม่ก็จะขอรักเพียงหมิ่นเอ๋อคนนี้เท่านั้น ” หมิ่นเอ๋อจึงได้อธิษฐานขอพรเช่นเดียวกับเขา ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น พากันไปทำบุญตามจุดต่างๆในวัด และให้ทานคนขอทานที่มาขอเรี่ยไรเงินอยู่หน้าวัด แล้วก็จูงมือกันเดินออกมาจากวัดมุ่งหน้าไปเดินเล่นที่ตลาดในเมืองเกาสงที่ตอนนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย แม่ทัพหยางแวะร้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status