หน้าหลัก / รักโบราณ / กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน / บทที่ 2 แผนการณ์ฆ่าคนอย่างไร้เมตตา

แชร์

บทที่ 2 แผนการณ์ฆ่าคนอย่างไร้เมตตา

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-03 16:45:38

แม้แต่เงินเบี้ยเลี้ยงของนางที่จะต้องได้รับทุกๆเดือนแม่เลี้ยงนั้นก็เก็บงำเอาไว้เสียเอง และจะมอบให้ก็ต่อเมื่อท่านคหบดีบังเอิญอยู่ที่จวนเท่านั้น และข้าวของเครื่องใช้และอาภรณ์ที่ต้องซื้อหาของคุณหนูใหญ่นั้นก็แทบจะไม่มีของใหม่ นางเป็นบุตรสาวคนโตแต่ต้องรับช่วงอาภรณ์ที่น้องสาวใส่จนเบื่อแล้วมาใส่ หากไม่รับก็ไม่มีจะใส่ ของเดิมที่มีอยู่นั้นก็เก่าปอนเต็มทีและขนาดตัวก็คับแน่นไปหมดแล้ว

แต่ความอัตคัตนี้ไม่สามารถบดบังความงดงามเมื่อเริ่มย่างเข้าวัยสาวได้ ความงามของนางนั้นก็เข้าตาแม่ทัพหนุ่มอนาคตไกลที่เป็นเพื่อนบ้าน จวนติดกันเข้าอย่างเต็มที่ เขาจึงได้เทียวไล้เทียวขื่ออยู่นานจนนางยอมตกลงรับรักเขา แม่ทัพหนุ่มหมายใจว่าอีกไม่นานเขาจะสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขา 

และเมื่อหวังฟางหลิวน้องสาวต่างมารดาที่นิสัยเหมือนมารดาตนเองไม่ผิดเพี้ยนเพราะการอบรมบุตรีให้มีนิสัยริษยาผู้อื่นและไร้เมตตาต่อพี่น้องเห็นแก่ตัวจนไม่คิดถึงใจคนอื่น นางบอกมารดาว่านางหลงรักแม่ทัพหยางอี้เทียนเข้าแล้ว เพราะเขานั้นหล่อเหลาเหลือเกินแถมยังมีอนาคตไกลอีกด้วย หากนางได้แต่งงานเป็นฮูหยินของเขาฐานะพวกเราก็จะยิ่งมั่นคงยิ่งไปกว่านี้ นับจากนั้นมารดาของนางก็หมั่นไปมาหาสู่ฮูหยินหยางที่เป็นมารดาของแม่ทัพหยาง ตีสนิทจนได้รับการไว้ใจให้เป็นสหาย นางไปมาหาสู่และนำของกำนัลของฝากไปให้อย่างสม่ำเสมอนับเป็นการวางแผนกรุยทางให้บุตรสาวของตนเองในระยะยาว โดยใส่ไฟลูกเลี้ยงของตนเองไม่ได้ขาด เพราะอยากจะเป่าหูฮูหยินหยางให้เกลียดชังและไม่ชอบหมิ่นเอ๋อลูกเลี้ยงของนางที่เป็นคนรักของแม่ทัพหยาง 

และเมื่อน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันก็กร่อน ในที่สุดฮูหยินหยางที่ถูกคนที่นับว่าเป็นสหายเป่าหูอยู่บ่อยๆก็หลงเชื่อว่าหมิ่นเอ๋อบุตรสาวคนโตของท่านคหบดีหวังนั้น   มีนิสัยที่เกียจคร้านไม่เอาการเอางาน และใช้เงินฟุ่มเฟือย แถมยังขี้อิจฉารักษาน้องสาวของตนเอง ชอบประจบประแจงเอาใจบิดาจนเขาลำเอียงเข้าข้างนาง จนทำให้น้องสาวนั้นน้อยใจอยู่บ่อยๆ ซึ่งฮูหยินหวังเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งๆที่รู้ว่าลูกเลี้ยงนั้นนิสัยไม่ค่อยดีนัก แต่นางก็อดสงสารเมตตาไม่ได้เพราะเห็นว่าไม่มีแม่ และฮูหยินหยางนั้นก็หลงเชื่ออย่างสนิทใจ หลงคิดไปว่าสหายที่พูดจาอ่อนหวานและหมั่นนำของมาฝากอยู่เสมอนั้น มีจิตใจเมตตากรุณาและสิ่งที่พูดนั้นคือเรื่องจริง

นางจึงทำท่าไม่อยากต้อนรับหมิ่นเอ๋อที่มาเยี่ยมพร้อมกับบุตรชายหลายๆครั้งแล้ว และมักจะพูดจากระทบกระเทียบให้หมิ่นเอ๋อไม่สบายใจกลับไปแทบทุกครั้ง จนนางเริ่มท้อใจและครุ่นคิดถึงอนาคตของตนเองกับแม่ทัพหยางแล้วเริ่มกังวลว่าสิ่งที่เขาบอกว่าจะมาสู่ขอนางไปเป็นฮูหยินนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน เพราะมารดาของเขานั้นแสดงออกนอกหน้าอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการรับนางเป็นคนรักของบุตรชาย เพียงแค่คนรักฮูหยินหยางก็ยังไม่พอใจถึงเพียงนี้ แล้วอนาคตจะแต่งงานเข้าตระกูลหยางนั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน  หมิ่นเอ๋อครุ่นคิดอย่าท้อแท้ใจ 

แต่แม่ทัพหยางไม่ได้สนใจคำห้ามปรามของมารดา เขารู้ว่าหมิ่นเอ๋อเป็นคนเช่นไร และไม่ใช่คนอย่างท่ี่มารดาเข้าใจ และเขารู้ว่ามารดานั้นหลงเชื่อฮูหยินหวังเข้าเสียแล้ว และเขาเองก็มองออกว่าสองแม่ลูกนั่นไม่ได้หวังดีกับหมิ่นเอ๋อเลย เขารู้สึกเป็นห่วงนางไม่น้อย แต่ก็จนใจเพราะตอนนี้เขายังไม่สามารถสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินได้ เพราะมารดาก็ประวิงเวลาอยู่นั่นแล้ว แถมยังคอยพูดส่งเสริมให้เขาเปลี่ยนใจไปเลือกแต่งงานกับฟางหลิวแทน หากเขาเปลี่ยนใจมารดาก็ยินดีจะไปหมั้นหมายให้เขาทันที แม่ทัพหยางลำบากใจเหลือเกิน ฝ่ายหนึ่งก็มารดา อีกฝ่ายก็คนรักที่เขารักนางไปแล้วจนหมดใจ เขาจะทำอย่างไรดี ที่จะไม่ให้ต้องเสียใจกันทุกฝ่าย 

วันหนึ่งสองแม่ลูกที่ปรึกษากันว่าหากปล่อยให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพหนุ่มจะต้องหาทางแต่งงานกับหมิ่นเอ๋อให้ได้อย่างแน่นอน ยิ่งฟางหลิวมาฟ้องมารดาว่าเห็นทั้งคู่จูบกันอยู่หน้าจวนอย่างไม่เกรงว่าจะมีผู้ใดมาเห็นเข้า ทำให้ฮูหยินหวังนั้นกังวลว่าหากแม่ทัพหยางตัดสินใจรวบหัวรวบหางหมิ่นเอ๋อเข้า ฮูหยินหยางคงจะต้องจำใจยอมให้เขาแต่งงานกับนางอย่างแน่นอน และอีกไม่นานท่านคหบดีหวังจะกลับมาแล้ว หากเขารู้เรื่องที่ทั้งสองมีอะไรเกินเลยก็คงจะยอมให้บุตรสาวแต่งงานออกไปอย่างแน่นอน และฮูหยินหวังอดีตนางโลมที่จิตใจดำยิ่งกว่าอีกานั้น ก็คิดแผนการณ์ที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดกับลูกเลี้ยงของตนเอง 

นางจึงให้ฮูหยินหยางหาจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของแม่ทัพหนุ่มมาให้ ฮูหยินหยางหลงเชื่อจึงได้หาจดหมายนั้นมาให้  วันนั้นฮูหยินหวังจ้างบัณฑิตยากจนคนหนึ่งปลอมลายมือของแม่ทัพหยางจนเหมือนมากแทบจะแยกไม่ออก แล้วจ้างสาวใช้ในจวนคนหนึ่งให้นำมาส่งให้กับหมิ่นเอ๋อ 

เมื่อเปิดจดหมายอ่านแล้ว หลังอาหารเย็นวันนั้นหมิ่นเอ๋อก็ไปยืนรอเพื่อพบแม่ทัพหยางที่จุดนัดพบที่เขาและนางเคยได้นัดพบกันมาก่อน  โดยแม่ทัพหนุ่มเข้ามาที่จวนหวังทางประตูเล็กข้างๆกำแพงที่บ่าวมักจะเปิดเข้าออกกัน และมักพลอดรักกันอยู่ครู่ใหญ่แล้วเขาจึงจะแอบออกไป หลายครั้งแล้ว แต่คราวนี้แม่ทัพหนุ่มนั้นไม่อยู่ที่จวนเขามีราชการด่วนไปต่างเมืองและฮูหยินหวังรู้มาจากมารดาของเขา จึงได้เลือกที่จะลงมือในวันนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป 

หมิ่นเอ๋อมายืนอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่เห็นคนรักของตนเองมาเหมือนเช่นดังเคย นางหันมองไปมาขณะนั้น   เองอยู่ๆก็มีลำไม้ไผ่เล็กๆยื่นออกมาจากพุ่มไม้และมีควันสีเขียวพวยพุ่งออกมาจากปลายของลำไม้ไผ่กระบอกเล็กนั่น แล้วครู่หนึ่งหมิ่น เอ๋อที่อยู่ๆก็รู้สึกว่ามีกลิ่นแปลกๆ ลอยมาตามลม นางหันไปตามกลิ่นนั้นแล้วครู่หนึ่งก็ล้มลงไปหมดสติทันที 

ครู่หนึ่งฮูหยินหวังและฟางหลิวและสาวใช้ร่างใหญ่ที่เป็นต้นห้องของฮูหยินหวังก็ก้าวออกมาจากพุ่มไม้ทั้งหมดคาดผ้าปิดจมูกของตนเองเอาไว้ แล้วก้มลงช่วยกันลากร่างบางของหมิ่นเอ๋อไปตามพื้นดินอย่างไม่ปราณีจนถึงหน้าห้องเก็บฟืนที่เป็นเรือนแถวสร้างจากหินหนาหนักไม่ให้อากาศเข้าได้  เพื่อใช้เก็บไม้ฟืนแห้งๆ เอาไว้ใช้สำหรับฤดูหนาว  สาวใช้ร่างใหญ่และนายทั้งสองช่วยกันเปิิดประตูที่ทำจากไม้หนาหนักออก  แล้วทั้งหมดก็ช่วยกันพยุ่งร่างอวบอิ่มของหมิ่นเอ๋อเข้าไปด้านใน แล้วทิ้งร่างที่หมดสติของนางเอาไว้กับพื้นหินที่เย็นชื้นนั้น  โดยไม่ได้จุดตะเกียงที่มีแขวนเอาไว้ที่ผนังเลยแม้แต่ดวงเดียว 

เมื่อประตูที่ทำจากไม้แผ่นใหญ่หนาหนักนั้นปิดสนิทลง ห้องเก็บฟืนที่ทำจากหินก้อนใหญ่ทั้งหลังนั้น ก็พลันมืดสนิทแทบไม่มีแสงใดๆลอดเข้าไป   นอกจากช่องลมเล็กๆ ที่ทำเอาไว้เล็กน้อยให้พอมีแสงสว่างจากด้านนอกลอดเข้าไปได้แค่เพียงลำเดียว จิตใจคนที่ทำเช่นนี้ได้ช่างโหดร้ายไร้ความเมตตาเสียจริงๆ และหญิงทั้งสามก็กลับไปยังเรือนของตนเอง หลังจากที่ได้ตรวจสอบดูรอบๆนั้นแล้วว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ และไม่คิดว่าจะมีใครคิดขึ้นได้ว่าคุณหนูใหญ่ของจวนจะอุตริไปนอนอยู่ในห้องเก็บฟืน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 3 หากท่านจะแต่งงานแล้วมาหลอกข้าทำไม

    ร่างบางของหมิ่นเอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อกลางดึก นางตกใจอย่างยิ่งที่บัดนี้ตัวเองมานอนอยู่บนพื้นหินเย็นเฉียบ และเมื่อเอามือบางควานไปรอบๆก็พบเพียงฝุ่นหนาทึบที่อยู่บนพื้นหิน แถมยังมีเสียงหนูร้องจี๊ดๆอยู่ไม่ไกลนัก หมิ่นเอ๋อกลัวมากเพราะมองไม่เห็นว่ารอบข้างมีสิ่งใดบ้าง นางร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังก้องไปห้องนั้น เมื่อไม่มีแสงใดๆเลยนางเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใดกัน นางได้แต่นั่งกอดเข่าคุดคู้ด้วยความหวาดกลัวเหลือแสนอยู่บนพื้นนั้น และร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เมื่อร้องของความช่วยเหลือก็ไม่มีเสียงใดๆตอบรับและนางเองก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆด้านนอกเลย ได้ยินแต่เสียงหนูร้องภายในนี้เท่านั้น จนเมื่อเช้าอีกวันหนึ่ง เมื่อแสงแดดส่องลงมาบนพื้นดินในสวนที่กว้างใหญ่ของจวนหวัง นางดีใจนักที่เห็นแสงแดดส่องลงมาเป็นลำ ทำให้นางพอมองเห็นบริเวณรอบๆแล้ว แต่นี่มันคือห้องเก็บฟืนสำหรับเอาไว้ใช้ในฤดูหนาว นางเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้เมื่อครั้งยังเด็กเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เรือนแถวที่ทำจากหินที่ท่านพ่อจ้างช่างมาสร้างเอาไว้อย่างแข็งแรงเพราะต้องเอาไว้เก็บสเบียงและฟืนที่จะต้องใช้ในยามฤดูหนาว และบัดนี้มันมีฟืนเรียงเอาไว้ด้านหนึ่งของผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 4 ข้าสาบานจะกลับมาทวงแค้น

    จนเมื่อร่างกายที่อ่อนระโหยของหมิ่นเอ๋อที่บัดนี้แทบจะไร้เรี่ยวแรง นางค้นพบว่าเสี่ยวหลงเปาถูกหนูกินไปจนหมดแล้ว เหลือไว้เพียงกระบอกน้ำดื่มที่หล่นอยู่บนพื้น นางจึงได้พยายามลุกไปหยิบมาดื่ม นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผนังที่มองเห็นลางๆเพราะบัดนี้คงจะเริ่มเช้าวันใหม่ของอีกวันหนึ่งแล้ว นางพยายามจะจุดตะเกียงแต่ไม่สามารถจุดได้ เพราะไม่มีที่จุุดไฟ มีแต่ตะเกียงแขวนเอาไว้บนผนังเท่านั้นนางค้นหาจนทั่วเท่าที่แสงสว่างมันจะส่องไปถึง เพราะมันมีแสงสว่างลอดเข้ามาแค่ลำเดียวเท่านั้น หมิ่นเอ๋อเขี่ยห่อผ้าขาดวิ่นนั้นไปที่มุมห้องเพราะกลัวว่าหนูจะกลับมาอีก นางยกกระบอกน้ำที่ยังคงเหลือน้ำอีกครึ่งกระบอกยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างน้อยน้ำที่เหลืออยู่นี้ก็ยังพอประทังความหิวไปได้อีกหลายวัน หลังจากนั้นหากนางยังไม่สามารถขึ้นไปจากที่นี่ได้ ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน หมิ่นเอ๋อครุ่นคิด บัดนี้ดวงตาของนางแห้งผากใบหน้านั้นมีแต่คราบฝุ่นผงจับเต็มไปหมด นางไม่ยกมือขึ้นเช็ดอีก เพราะทั้งมือและตัวก็เปรอะเปื้อนไปจนหมด หมิ่นเอ๋อนั่งที่บันไดนั้นอย่างอ่อนแรงและเอนกายพิงบันไดเอาไว้ ตอนนี้นางแทบจะไม่มีเสียงจะร้องอีกแล้ว ลำคอนั้นแห้งผากแสบไปหมด และที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 1 เมื่อยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน

    หวังหมิ่นเอ๋อครุ่นคิดขณะที่ยืนรอคนรักของตนเองอยู่ที่หน้าศาลเจ้าในตลาด เพราะวันนี้นัดกับแม่ทัพหยางที่เป็นคนรักของตนเองเพื่อมาไหว้เจ้าขอพรและเที่ยวชมตลาดกัน นางยืนรอคนรักครู่หนึ่งเขาก็เดินมาสมทบ วันนี้เขาแต่งกายด้วยชุดนอกเครื่องแบบ ทำให้ดูคล้ายคุณชายในตระกูลใหญ่และหล่อเหลาดังเคย “ หมิ่นเอ๋อ พี่มาแล้ว เจ้ารอนานหรือไม่ ” เขาเดินยิ้มอย่างเบิกบานมาหานาง“ ไม่นานหรอกเจ้าค่ะ เราเข้าไปในวัดกันเลยนะเจ้าค่ะ ” ทั้งสองจูงมือพากันเดินเข้าไปในวัดที่ตอนนี้มีผู้คนคราคร่ำ เมื่อเดินเข้าไปไหว้พระในวัดแม่ทัพหนุ่มคุกเข่าลงข้างๆคนรัก แล้วขอพรดังๆให้นางได้ยิน “ ข้าแม่ทัพหยางอี้เทียน ขอพรต่อท่านเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ความรักของพวกเราทั้งคู่มั่นคงยืนนาน และรักกันไปตลอดจนแก่เฒ่าไปด้วยกันและหากข้าเกิดชาติใหม่ก็จะขอรักเพียงหมิ่นเอ๋อคนนี้เท่านั้น ” หมิ่นเอ๋อจึงได้อธิษฐานขอพรเช่นเดียวกับเขา ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น พากันไปทำบุญตามจุดต่างๆในวัด และให้ทานคนขอทานที่มาขอเรี่ยไรเงินอยู่หน้าวัด แล้วก็จูงมือกันเดินออกมาจากวัดมุ่งหน้าไปเดินเล่นที่ตลาดในเมืองเกาสงที่ตอนนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย แม่ทัพหยางแวะร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03

บทล่าสุด

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 4 ข้าสาบานจะกลับมาทวงแค้น

    จนเมื่อร่างกายที่อ่อนระโหยของหมิ่นเอ๋อที่บัดนี้แทบจะไร้เรี่ยวแรง นางค้นพบว่าเสี่ยวหลงเปาถูกหนูกินไปจนหมดแล้ว เหลือไว้เพียงกระบอกน้ำดื่มที่หล่นอยู่บนพื้น นางจึงได้พยายามลุกไปหยิบมาดื่ม นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผนังที่มองเห็นลางๆเพราะบัดนี้คงจะเริ่มเช้าวันใหม่ของอีกวันหนึ่งแล้ว นางพยายามจะจุดตะเกียงแต่ไม่สามารถจุดได้ เพราะไม่มีที่จุุดไฟ มีแต่ตะเกียงแขวนเอาไว้บนผนังเท่านั้นนางค้นหาจนทั่วเท่าที่แสงสว่างมันจะส่องไปถึง เพราะมันมีแสงสว่างลอดเข้ามาแค่ลำเดียวเท่านั้น หมิ่นเอ๋อเขี่ยห่อผ้าขาดวิ่นนั้นไปที่มุมห้องเพราะกลัวว่าหนูจะกลับมาอีก นางยกกระบอกน้ำที่ยังคงเหลือน้ำอีกครึ่งกระบอกยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างน้อยน้ำที่เหลืออยู่นี้ก็ยังพอประทังความหิวไปได้อีกหลายวัน หลังจากนั้นหากนางยังไม่สามารถขึ้นไปจากที่นี่ได้ ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน หมิ่นเอ๋อครุ่นคิด บัดนี้ดวงตาของนางแห้งผากใบหน้านั้นมีแต่คราบฝุ่นผงจับเต็มไปหมด นางไม่ยกมือขึ้นเช็ดอีก เพราะทั้งมือและตัวก็เปรอะเปื้อนไปจนหมด หมิ่นเอ๋อนั่งที่บันไดนั้นอย่างอ่อนแรงและเอนกายพิงบันไดเอาไว้ ตอนนี้นางแทบจะไม่มีเสียงจะร้องอีกแล้ว ลำคอนั้นแห้งผากแสบไปหมด และที่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 3 หากท่านจะแต่งงานแล้วมาหลอกข้าทำไม

    ร่างบางของหมิ่นเอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อกลางดึก นางตกใจอย่างยิ่งที่บัดนี้ตัวเองมานอนอยู่บนพื้นหินเย็นเฉียบ และเมื่อเอามือบางควานไปรอบๆก็พบเพียงฝุ่นหนาทึบที่อยู่บนพื้นหิน แถมยังมีเสียงหนูร้องจี๊ดๆอยู่ไม่ไกลนัก หมิ่นเอ๋อกลัวมากเพราะมองไม่เห็นว่ารอบข้างมีสิ่งใดบ้าง นางร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังก้องไปห้องนั้น เมื่อไม่มีแสงใดๆเลยนางเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใดกัน นางได้แต่นั่งกอดเข่าคุดคู้ด้วยความหวาดกลัวเหลือแสนอยู่บนพื้นนั้น และร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เมื่อร้องของความช่วยเหลือก็ไม่มีเสียงใดๆตอบรับและนางเองก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆด้านนอกเลย ได้ยินแต่เสียงหนูร้องภายในนี้เท่านั้น จนเมื่อเช้าอีกวันหนึ่ง เมื่อแสงแดดส่องลงมาบนพื้นดินในสวนที่กว้างใหญ่ของจวนหวัง นางดีใจนักที่เห็นแสงแดดส่องลงมาเป็นลำ ทำให้นางพอมองเห็นบริเวณรอบๆแล้ว แต่นี่มันคือห้องเก็บฟืนสำหรับเอาไว้ใช้ในฤดูหนาว นางเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้เมื่อครั้งยังเด็กเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เรือนแถวที่ทำจากหินที่ท่านพ่อจ้างช่างมาสร้างเอาไว้อย่างแข็งแรงเพราะต้องเอาไว้เก็บสเบียงและฟืนที่จะต้องใช้ในยามฤดูหนาว และบัดนี้มันมีฟืนเรียงเอาไว้ด้านหนึ่งของผ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 2 แผนการณ์ฆ่าคนอย่างไร้เมตตา

    แม้แต่เงินเบี้ยเลี้ยงของนางที่จะต้องได้รับทุกๆเดือนแม่เลี้ยงนั้นก็เก็บงำเอาไว้เสียเอง และจะมอบให้ก็ต่อเมื่อท่านคหบดีบังเอิญอยู่ที่จวนเท่านั้น และข้าวของเครื่องใช้และอาภรณ์ที่ต้องซื้อหาของคุณหนูใหญ่นั้นก็แทบจะไม่มีของใหม่ นางเป็นบุตรสาวคนโตแต่ต้องรับช่วงอาภรณ์ที่น้องสาวใส่จนเบื่อแล้วมาใส่ หากไม่รับก็ไม่มีจะใส่ ของเดิมที่มีอยู่นั้นก็เก่าปอนเต็มทีและขนาดตัวก็คับแน่นไปหมดแล้วแต่ความอัตคัตนี้ไม่สามารถบดบังความงดงามเมื่อเริ่มย่างเข้าวัยสาวได้ ความงามของนางนั้นก็เข้าตาแม่ทัพหนุ่มอนาคตไกลที่เป็นเพื่อนบ้าน จวนติดกันเข้าอย่างเต็มที่ เขาจึงได้เทียวไล้เทียวขื่ออยู่นานจนนางยอมตกลงรับรักเขา แม่ทัพหนุ่มหมายใจว่าอีกไม่นานเขาจะสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขา และเมื่อหวังฟางหลิวน้องสาวต่างมารดาที่นิสัยเหมือนมารดาตนเองไม่ผิดเพี้ยนเพราะการอบรมบุตรีให้มีนิสัยริษยาผู้อื่นและไร้เมตตาต่อพี่น้องเห็นแก่ตัวจนไม่คิดถึงใจคนอื่น นางบอกมารดาว่านางหลงรักแม่ทัพหยางอี้เทียนเข้าแล้ว เพราะเขานั้นหล่อเหลาเหลือเกินแถมยังมีอนาคตไกลอีกด้วย หากนางได้แต่งงานเป็นฮูหยินของเขาฐานะพวกเราก็จะยิ่งมั่นคงยิ่งไปกว่านี้ นับจากนั้นมารดาของ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 1 เมื่อยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน

    หวังหมิ่นเอ๋อครุ่นคิดขณะที่ยืนรอคนรักของตนเองอยู่ที่หน้าศาลเจ้าในตลาด เพราะวันนี้นัดกับแม่ทัพหยางที่เป็นคนรักของตนเองเพื่อมาไหว้เจ้าขอพรและเที่ยวชมตลาดกัน นางยืนรอคนรักครู่หนึ่งเขาก็เดินมาสมทบ วันนี้เขาแต่งกายด้วยชุดนอกเครื่องแบบ ทำให้ดูคล้ายคุณชายในตระกูลใหญ่และหล่อเหลาดังเคย “ หมิ่นเอ๋อ พี่มาแล้ว เจ้ารอนานหรือไม่ ” เขาเดินยิ้มอย่างเบิกบานมาหานาง“ ไม่นานหรอกเจ้าค่ะ เราเข้าไปในวัดกันเลยนะเจ้าค่ะ ” ทั้งสองจูงมือพากันเดินเข้าไปในวัดที่ตอนนี้มีผู้คนคราคร่ำ เมื่อเดินเข้าไปไหว้พระในวัดแม่ทัพหนุ่มคุกเข่าลงข้างๆคนรัก แล้วขอพรดังๆให้นางได้ยิน “ ข้าแม่ทัพหยางอี้เทียน ขอพรต่อท่านเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ความรักของพวกเราทั้งคู่มั่นคงยืนนาน และรักกันไปตลอดจนแก่เฒ่าไปด้วยกันและหากข้าเกิดชาติใหม่ก็จะขอรักเพียงหมิ่นเอ๋อคนนี้เท่านั้น ” หมิ่นเอ๋อจึงได้อธิษฐานขอพรเช่นเดียวกับเขา ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น พากันไปทำบุญตามจุดต่างๆในวัด และให้ทานคนขอทานที่มาขอเรี่ยไรเงินอยู่หน้าวัด แล้วก็จูงมือกันเดินออกมาจากวัดมุ่งหน้าไปเดินเล่นที่ตลาดในเมืองเกาสงที่ตอนนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนมากมาย แม่ทัพหยางแวะร้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status