16.05น.
หลังเลิกเรียน มิลลิก็เดินมาหายีนส์ที่ลานจอดรถที่เดิม ระหว่างเดินก็คอยมองซ้ายขวาอยู่ตลอด แต่เธอก็ยังพลาดมองไม่เห็นพี่ชายคนโต ที่อยู่ ๆ ก็เดินมากอดคอเธอจากด้านหลัง “ไปไหนจ๊ะ น้องสาวคนสวยของพี่” “ไหนว่าไม่มาเรียนแล้วไง แล้วมาทำอะไรคะ” “ดูเหมือนเธอจะไม่ดีใจนะที่เจอพี่ แล้วอาการก็ดูแปลก ๆ”มิลลิพยายามเก็บสีหน้าเลิกลั่กของเธอไว้ พี่ชายคนนี้เป็นคนดูคนเก่งมาก เธอไม่เคยโกหกอะไรพี่คนนี้ได้เลย “ดีใจสิคะ แค่สงสัยว่าพี่มาทำอะไรต่างหาก” ฟรินท์ยังคงหรี่ตาจับผิดน้องสาวคนเดียว เขาหันมองลานจอดรถที่รถเริ่มบางตา ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาคนฟังใจกระตุกวูบ“ไม่เอารถมานิ แล้วเดินมาตรงนี้ทำไม” นั่นไง...ที่เธอบอกว่าพี่ชายคนนี้ฉลาด มันคือเรื่องจริง ตอนนี้ในหัวเธอคิดหาทางออกมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าต้องโกหกไปแบบไหนพี่ถึงจะเชื่อ แต่ทว่าสวรรค์ก็เหมือนจะเข้าข้างเธอ เมื่อคาเทียร์เดินตรงมาทางนี้พอดี “สวัสดีค่ะ พี่ฟรินท์สุดหล่อ”เสียงหวานสดใสของคาเทียร์ ทำให้ฟรินท์หันมาสนใจ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนน้องสาวเขาอีกคน “สวัสดีครับ คาเทียร์คนสวย” “แล้วรถกูจอดตรงนู้น กูไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวเดินเลยมาอีกแล้วมึงอ่ะ”มิลลิแอบดีใจที่มีเพื่อนฉลาดขนาดนี้ นึกขอบคุณพ่อกับแม่ ที่เป็นเพื่อนรักกัน จนทำให้เธอกับคาเทียร์รู้ใจกันมากกว่าเป็นพี่น้องแท้ ๆ เสียอีก “กูเดินเพลินไปหน่อย งั้นมิลไปนะคะพี่ชาย” มือหนาของคนเป็นพี่ ยกขึ้นลูบหัวน้องสาวเบา ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเอารถที่จอดไว้อีกฝั่ง เมื่อมิลลิเห็นพี่ชายเดินพ้นห่างออกไปแล้ว ก็หันมาออดอ้อนเพื่อนรักทันที “ขอบใจมึงมาก กูเกือบตาย” “กูว่าแล้ว เพราะเจอพี่ฟรินท์เดินลงมาจากตึกพอดี เลยรีบเดินมาหามึง แล้วไหนพี่ยีนส์ล่ะ” หันหน้าไปมองรถสีดำที่จอดอยู่ตรงที่เดิมเป๊ะ ๆ ภายในรถยีนส์นั่งเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้น เขากลับคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ยิ่งต่อไปถ้าอดีตเพื่อนรักเขารู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับน้องสาวของมัน คงยิ่งกว่าคำว่าสนุก ตอนนี้เขาเห็นคนตัวเล็กแยกกับเพื่อนสนิทของเธอ และรีบเดินตรงมาที่รถเขา“เมื่อกี้ใคร” “ใครคะ? อ๋อ…พี่ชายคนโตของมิลค่ะ” “ไหนว่าไปฝึกงาน” “คงจะเข้ามาหาอาจารย์ค่ะ นี่ดีนะคะมาไม่ทันตอนมิลเดินถึงรถพี่ ไม่งั้นมิลน่าจะได้กลับกับพี่ชายแทน” รถหรูขับออกจากมหาลัย เสียงเพลงที่เจ้าของรถเปิดก่อนหน้า ทำให้คนตัวเล็กดวงตาเริ่มปรือ วันนี้เรียนทั้งวัน ไม่มีพัก ตอนพักก็โดนคนหื่นจับกด ทำให้ตอนนี้อาการง่วงนอนเริ่มถามหา ยีนส์หันไปเห็นเธอเอนตัวนอนลง ก็ไม่ได้สนใจ เขาเร่งความเร็วมุ่งตรงไปยังคอนโดตัวเองทันที ดับเครื่องยนต์สนิทเมื่อถึงลานจอดรถ ร่างหนาก็ลงจากรถไปเปิดประตูอีกฝั่ง โอบอุ้มร่างเล็กแนบอก ก่อนจะพาเข้ามาในลิฟท์ กลิ่นตัวหอม ๆ ของเธอทำเขารู้สึกปั่นป่วนอีกแล้ว แต่เมื่อก้มมองใบหน้ายามหลับ ใบหน้าขาวใสจนเห็นเส้นเลือด เธอน่าจะไม่ได้แต่งหน้าเลย หรือถ้าแต่งก็น้อยมาก แต่ทว่ายังคงดูสวย น่ารัก เหมาะสมกับวัย ผู้หญิงอะไรแก้มใสมาก เมื่อคิดว่าเผลอมองนานไปหน่อย ยีนส์ก็สะบัดหัวไปมา ไล่ความคิดทุกอย่างออกไป เมื่อลิฟท์เปิดออก เขาก็รีบพาเธอเข้าไปในห้องนอนทันที เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ตัวเบาขนาดที่ว่า จะอุ้มได้นานกว่านี้ เพราะเมื่อวางก็ทำเอาแขนแกร่งเขาเมื่อยไปเหมือนกัน 17.40 น. ร่างสูงยืนสูบบุุหรี่อยู่ที่ระเบียง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงแล้ว แต่มิลลิยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ยีนส์กดสั่งอาหารเย็นให้มาส่ง ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ฟุ้งไปทั่วบริเวณ ติ้ง. นิ้วเรียวกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน แต่ทว่าชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ทำเขาต้องคว่ำหน้าจอไปอีกครั้ง จูเน่ คือคนที่ส่งข้อความมาหาเขา เป็นแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว หลังจากที่เลิกกัน นอกจากเดินสวนกันในมหาลัยบ้าง แต่ก็น้อยมาก นาน ๆ ครั้งเขาถึงจะเจอ แต่เรื่องการโทรหรือแชตนั้น เพิ่งมาช่วงนี้ที่เธอมักส่งข้อความแปลก ๆ มาหาเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจหรือจะเปิดอ่าน ความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้ผู้หญิงคนนี้มันหมดไปตั้งนานแล้ว หลงเหลือเพียงความเกลียดชัง ความเจ็บปวดที่เขาได้รับตอนนั้น ทำให้เขาเจ็บเจียนตายจริง ๆ ต่อให้เธอส่งมาบอกว่ายังรักเขาอยู่หรืออยากขอคืนดี เขาก็ไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงคนนี้แน่นอน สวบ!!! แขนเล็กโอบรอบลำตัวหนา มิลลิตื่นมาไม่เห็นใคร ก็คิดว่าเขาน่าจะมายืนอยู่ระเบียงตรงนี้ แล้วก็เป็นจริงอย่างเธอคิด“มิลหิวแล้วอ่ะ” “สั่งข้าวให้แล้ว”ควันบุหรี่พ่นออกมาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเขาจะดับมันกับกระถางที่ตั้งเอาไว้ หันกลับมาพาเธอมายืนข้างหน้าเขาแทน มองดูบรรยากาศยามเย็น ที่จากมุมนี้มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน “มิลนอนกับพี่นะ แต่พรุ่งนี้จะกลับบ้าน” “บ้านพ่อแม่?” “ใช่ค่ะ…ต้องกลับทุกวันเสาร์” “งั้นคืนนี้ ต้องชดเชยให้ฉันนะ” เสียงกระซิบแหบพร่า จงใจเป่าลมหายใจร้อนใส่ใบหูเธอจนขนกายลุกชัน “มิลกลัวว่าสักวันพี่จะเบื่อมิล” “….” “เรื่องของเรามันเริ่มเร็วไปหรือเปล่าคะ” “อะไรคือเร็ว” “ก็แบบว่ามิลยอมพี่ง่ายไปหรือเปล่า ต่อไปพี่จะเบื่อเอาได้ง่าย ๆ” เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ ที่เราสองคนกำลังเป็นอยู่ อาจเป็นเพียงความลุ่มหลงชั่วคราว พอหมดความตื่นเต้นเรื่องนี้ เขาอาจจะไปหาผู้หญิงคนใหม่ ถึงตอนนั้นน่าจะเป็นเธอที่เจ็บอยู่ฝ่ายเดียว “คิดมาก”นิ้วเรียวยาวเคาะหน้าผากเธอเบา ๆ ก่อนจะจับใบหน้าเธอให้หันมารับจูบแสนหวาน กับบรรยากาศยามเย็น จูบที่หลอมละลายคนตัวเล็กให้อ่อนระทวยในอ้อมแขนของเขา ลิ้นร้อนเกี่ยวพันลิ้นเล็กกวาดต้อนความหวานในโพลงปากนุ่ม พาความเปียกชื้นไปทั่ว เมื่ออารมณ์กระสันเริ่มมากขึ้น คนตัวสูงก็อุ้มเธอเขาสู่อ้อมกอด พาเข้าไปห้องนอน แล้วบทรักเร่าร้อนก็เริ่มต้นขึ้นทันที 20.20 น. มิลลิกับยีนส์กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ หลังจากพายุสวาทจบลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพอ แค่ตอนเย็น เพราะตอนนี้เธอกับเขายังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำกันอยู่อีก “กินเสร็จแล้วไปอาบน้ำกันนะ” “มิลแสบจิ๋มแล้วอ่ะ”คนตัวสูงระบายยิ้มออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะรีบปรับให้เป็นปกติ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอยิ้มกว้างเกินไป “เพิ่งสามรอบเอง เธอไม่สู้แล้ว?” คำว่าสามรอบเองของเขา ทำให้เธอต้องถลึงตาใส่เขาทันที “ฉันใช้แรงยังไม่บ่น เธอนอนเฉย ๆ บ่น” “มิลไม่ได้นอนเฉย ๆ นะ มิลก็กระแทกสวนพี่ไปเหมือนกัน อีกอย่างของพี่มันก็ใหญ่จนมิลแสบ มิลเคยเห็นขนาดของพี่นี่ มันไม่ใช่ของคนไทยใช่ไหมคะ” “เคยเห็นจากไหน?”นัยน์ตาคมหรี่มองอย่างจับผิด “ในหนังผู้ใหญ่ไง”เมื่อเธอตอบ เขาก็ผ่อนลมหายใจได้ทันที สับสนตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าการที่เธอจะเห็นที่ไหน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา “เปิดให้ดูหน่อย”มือหนายื่นรีโมทมาตรงหน้าเธอ ทำเอาคนตัวเล็กหัวคิ้วขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจว่าให้เปิดอะไรให้เขาดู “หนังโป๊ที่เธอดู”เมื่อเขาเฉลย เธอถึงกับตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ “อะไรของพี่อ่ะ ทำไมต้องดู” “ก็ที่เธอว่าของฉันกับของพระเอกหนังโป๊เท่ากันไง ฉันอยากดู” สุดท้ายเธอก็ต้องกดเปิดหนังอย่างว่าที่เคยดู ให้เขาดูในขณะที่เรายังนั่งกินข้าวกันอยู่ ดูไปได้สักพัก เสียงทุ้มก็พึมพำออกมาเบา ๆ “ไม่เห็นเท่ากัน ของฉันใหญ่กว่าตั้งเยอะ”มิลลิหันขวับไปมองเขา นี่เขาไม่พอใจที่เธอเปรียบเทียบอันนั้นของเขากับพระเอกหนังเอวีเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบเขาจะมีมุมนี้ด้วย มันดู…น่ารักดี “ค่ะ มิลก็คิดว่าของพี่ใหญ่กว่า” “ทีหลังไม่ต้องไปดูนะ อยากดูมาดูของฉัน” “แล้วถ้าเกิดมิลเบื่อ…” “เบื่อ!! เบื่ออะไร”เสียงทุ้มพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ มิลลิที่เห็นแบบนั้นก็ชะงักปากตัวเองไว้ทันที “เบื่อว่าพี่ไม่อยู่กับมิลไง จะให้มิลดูที่ไหน”มิลลิรู้ว่าเขาเหมือนไม่พอใจที่เธอพูด เลยเข้ามาออดอ้อนเขาทันที ทำให้คนตัวสูงคลายหัวคิ้วลง เธอจะมาพูดว่าเบื่อไม่ได้ เพราะเขาต่างหากที่ต้องเป็นคนเบื่อและทิ้งเธอไปก่อน ไม่ใช่ให้เธอเป็นฝ่ายเบื่อเขาวันเสาร์ช่วงบ่าย ยีนส์มาส่งมิลลิที่คอนโด วันนี้เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ก่อนจะลงจากรถก็อิดออดกันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เธอยอมรับอย่างเต็มอกเลยว่าหลงผู้ชายคนนี้อย่างหนัก ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เธอเป็นมากขนาดนี้ มันอยากจะหอม อยากจะกอดเขาอยู่ตลอดเวลา “มิลไม่อยากกลับเลยอ่ะ” “หึ งั้นก็ไม่ต้องกลับ” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่รอ วันนี้นัดกินข้าวพร้อมกันด้วย ถ้ามิลไม่กลับ พี่โซลต้องมาตามแน่ ๆ”เสียงหวานออดอ้อน ยังคงเกาะแขนแกร่งซบหัวเล็กตรงบ่า ก่อนจะตัดใจลงจากรถ ยืนโบกมือให้ยีนส์ออกรถไปก่อนเธอถึงจะเดินเข้าคอนโด “มึงนี่หนักนะ หลงพี่เขาขนาดนี้เลย” เดินมาขึ้นลิฟท์ก็เจอกับคาเทียร์ยืนรอลิฟท์เหมือนกัน ในมือถือของพะรุงพะรัง“มึงมาจากไหน” “กูหิวค่ะ อีฝนก็นอนยังไม่ตื่น ไม่รู้นอนหรือซ้อมตาย กูไปเรียกตั้งนาน” “ไม่กลับบ้านกันเหรอว่ะ” “ไม่ว่ะ อาทิตย์นี้เหนื่อย อยากพักผ่อน”มิลลิแอบอิจฉาเพื่อนสองคน ที่นึกจะทำอะไรก็ได้ มีพี่ชายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หวงเท่าพี่ชายสองคนของเธอ “เมื่อไหร่มึงจะบอกพี่มึงล่ะ ว่ามีแฟนแล้ว” “เป็นมึงกล้าหรือเปล่า พี่กูเหมือนคนอื่นที่ไหนกัน” “ก็จริง หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก
รถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ "กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็ก
คณะบริหาร "เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้" คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน "มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา" "พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ" คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น "อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย" ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก "แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ" "ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก" "เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคน
"ทีหลังไม่ต้องมากินถึงที่นี่ ถ้าโรงอาหารที่คณะเต็ม ก็ออกไปกินข้างนอก เข้าใจหรือเปล่า" มิลลิยังคงถูกคนเป็นพี่ชายบ่นไม่หยุด ขนาดว่ากินข้าวจะเสร็จแล้ว ก็ยังทำหน้าไม่พอใจ "หรือว่าแอบชอบใครที่คณะนี้"สายตาคมของโซลหรี่มองน้องสาวอย่างจับผิด "แค่ก! แค่ก!" มิลลิสำลักออกมาทันที เมื่อคนเป็นพี่พูดแทงใจดำ พูดราวกับมานั่งอยู่ในใจเธอ หันหาเพื่อนสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงพี่ชายของเพื่อนจะหวงน้องสาวเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่ชายเธอทั้งสองคน "เอ่อ...คือ ไม่มีหรอกค่ะพี่โซล ทีหลังเราจะไม่มาอีกแล้วนะคะ จะไปกินคณะนิติฯ แทน" ปลายฝนแกล้งบอกออกไปแบบนั้น เพื่อให้โซลเห็นว่า ไม่ว่าจะคณะไหนก็มีผู้ชายทั้งนั้น "ไม่ต้อง บอกว่าให้ออกไปกินข้างนอก" "กินข้างนอกอะไร บางวันพักแค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ทัน ไม่รู้แหละต่อไปมิลจะมากินที่นี่แหละ ใกล้กว่าคณะอื่นด้วย" "อย่าดื้อได้ไหมมิล เดี๋ยวฟ้องพ่อนะ หรือพี่ฟรินท์ดี หรือแม่" เมื่อถูกเอ่ยขู่ ด้วยคนที่เธอกลัวทั้งนั้น ก็ทำให้ร่างเล็กหุบปากลงไปได้ทันที "เราก็เหมือนกันเทียร์ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายคณะนี้ เถื่อนอย่างนั้น เถื่อนอย่างนี้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อน" "แล้วทำไมเทียร์ต้องห้าม เร
หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาอยู่นาน เป็นมิลลิเองที่ทนสายตาคมที่ส่งมาไม่ไหว ใบหน้าเธอร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน "หน้ามึงแดงมากเลย เก็บอาการหน่อย" "กูทำไม่ได้ ทำไงดีอ่ะ พี่เขาต้องรู้แล้วแน่เลยว่ากูชอบ"มิลลิลนลาน พยายามหันใบหน้าหนีเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงสายตาคมอยู่ตลอด แบบนี้หัวใจเธอก็ทำงานหนัก เพราะตอนนี้มันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ "อยากรู้ไหม? พี่เขาชื่ออะไร" "มึงจะไปถามเหรอ" "เปล่า แต่กูคิดว่าผู้หญิงในคาเฟ่รู้จักพี่เขาหลายคน มึงดูสิ แต่ละคนจ้องพี่เขาตาเป็นมัน" มิลลิหันมองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ปลายฝนพูดเป็นเรื่องจริง แสดงว่าพี่เขาน่าจะฮอตมาก แต่เธอก็ไม่สงสัย เพราะจากรูปร่าง หน้าตาแล้ว จะเป็นคนดังของคณะวิศวะ ก็ไม่น่าแปลกใจ "คู่แข่งมึงเพียบเลย แต่มั่น ๆ เข้าไว้นะ" "...." "เพราะกูว่าเขาตามมึงมาชัวร์ ไม่งั้นไม่มานั่งส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มหามึงแบบนี้หรอก" พนักงานกำลังเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะถูกพวกรุ่นพี่สามคนเรียกตัวไว้ก่อน มิลลิสังเกตุเห็นว่าพวกพี่สามคนนั้น หันมามองกลุ่มเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะเดินตรงมาโต๊ะเธอ "เอ่อ...คือว่าน้องกลุ่มนั้น เขาจ่ายค่
ยีนส์กลับมาถึงคอนโดสุดหรูของเขา ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดัง อันที่จริงคนเป็นแม่อยากให้เขาไปอยู่ที่โรงแรมมากกว่า แต่ทว่าเขาไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ในสายตาครอบครัวมากเกินไป หากไม่ได้ไปมหาลัย หรือเพื่อนสองคนชวนไปผับ เขาก็ไม่เคยออกไปไหน นิสัยจริง ๆ คือค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว นอกจากคีรินกับตะวัน เขาก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก ยกเว้นเมื่อก่อน ที่เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดคือโซล เราสองคนคบกันตั้งแต่มัธยมต้น เรียนห้องเดียวกันมาตลอด เข้ามาเรียนมหาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละสาขา แต่ก็ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยมีความลับต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเกือบสองปีก่อน ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนคณะนิเทศศาสตร์ปีเดียวกัน ตามจีบอยู่สักพัก ยอมรับว่าเธอคือรักแรกของเขา เป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกทุกอย่าง จนกระทั่งได้คบกันเป็นแฟน เพื่อนทุกคนต่างรู้จักเธอ เพราะเขาพาไปไหนมาไหนด้วยกัน ในมหาลัยก็นั่งกินข้าวด้วยกันตลอด เราสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหลังจากตกลงเป็นแฟนกันทันที บางครั้งเธอก็มานอนกับเขาที่คอนโด แต่ไม่เคยให้เขาไปนอนที่คอนโดของเธอ เราคบกันได้ประมาณห
มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด "อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
วันเสาร์ช่วงบ่าย ยีนส์มาส่งมิลลิที่คอนโด วันนี้เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ก่อนจะลงจากรถก็อิดออดกันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เธอยอมรับอย่างเต็มอกเลยว่าหลงผู้ชายคนนี้อย่างหนัก ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เธอเป็นมากขนาดนี้ มันอยากจะหอม อยากจะกอดเขาอยู่ตลอดเวลา “มิลไม่อยากกลับเลยอ่ะ” “หึ งั้นก็ไม่ต้องกลับ” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่รอ วันนี้นัดกินข้าวพร้อมกันด้วย ถ้ามิลไม่กลับ พี่โซลต้องมาตามแน่ ๆ”เสียงหวานออดอ้อน ยังคงเกาะแขนแกร่งซบหัวเล็กตรงบ่า ก่อนจะตัดใจลงจากรถ ยืนโบกมือให้ยีนส์ออกรถไปก่อนเธอถึงจะเดินเข้าคอนโด “มึงนี่หนักนะ หลงพี่เขาขนาดนี้เลย” เดินมาขึ้นลิฟท์ก็เจอกับคาเทียร์ยืนรอลิฟท์เหมือนกัน ในมือถือของพะรุงพะรัง“มึงมาจากไหน” “กูหิวค่ะ อีฝนก็นอนยังไม่ตื่น ไม่รู้นอนหรือซ้อมตาย กูไปเรียกตั้งนาน” “ไม่กลับบ้านกันเหรอว่ะ” “ไม่ว่ะ อาทิตย์นี้เหนื่อย อยากพักผ่อน”มิลลิแอบอิจฉาเพื่อนสองคน ที่นึกจะทำอะไรก็ได้ มีพี่ชายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หวงเท่าพี่ชายสองคนของเธอ “เมื่อไหร่มึงจะบอกพี่มึงล่ะ ว่ามีแฟนแล้ว” “เป็นมึงกล้าหรือเปล่า พี่กูเหมือนคนอื่นที่ไหนกัน” “ก็จริง หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก
16.05น. หลังเลิกเรียน มิลลิก็เดินมาหายีนส์ที่ลานจอดรถที่เดิม ระหว่างเดินก็คอยมองซ้ายขวาอยู่ตลอด แต่เธอก็ยังพลาดมองไม่เห็นพี่ชายคนโต ที่อยู่ ๆ ก็เดินมากอดคอเธอจากด้านหลัง “ไปไหนจ๊ะ น้องสาวคนสวยของพี่” “ไหนว่าไม่มาเรียนแล้วไง แล้วมาทำอะไรคะ” “ดูเหมือนเธอจะไม่ดีใจนะที่เจอพี่ แล้วอาการก็ดูแปลก ๆ”มิลลิพยายามเก็บสีหน้าเลิกลั่กของเธอไว้ พี่ชายคนนี้เป็นคนดูคนเก่งมาก เธอไม่เคยโกหกอะไรพี่คนนี้ได้เลย “ดีใจสิคะ แค่สงสัยว่าพี่มาทำอะไรต่างหาก” ฟรินท์ยังคงหรี่ตาจับผิดน้องสาวคนเดียว เขาหันมองลานจอดรถที่รถเริ่มบางตา ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาคนฟังใจกระตุกวูบ“ไม่เอารถมานิ แล้วเดินมาตรงนี้ทำไม” นั่นไง...ที่เธอบอกว่าพี่ชายคนนี้ฉลาด มันคือเรื่องจริง ตอนนี้ในหัวเธอคิดหาทางออกมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าต้องโกหกไปแบบไหนพี่ถึงจะเชื่อ แต่ทว่าสวรรค์ก็เหมือนจะเข้าข้างเธอ เมื่อคาเทียร์เดินตรงมาทางนี้พอดี “สวัสดีค่ะ พี่ฟรินท์สุดหล่อ”เสียงหวานสดใสของคาเทียร์ ทำให้ฟรินท์หันมาสนใจ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนน้องสาวเขาอีกคน “สวัสดีครับ คาเทียร์คนสวย” “แล้วรถกูจอดตรงนู้น กูไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวเดินเลยมาอีกแล้วมึงอ่ะ”มิลลิแอบดีใ
วันต่อมา ยีนส์เดินผิวปากไปยังโต๊ะประจำ ที่มีเพื่อนสองคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เขามีเรียนตอนเก้าโมงเช้า เมื่อเดินมาถึง ก็เจอกับสายตาจับผิดของคีริน แต่ทว่าเขาไม่สนใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหามิลลิ ยีนส์:เที่ยงนี้มาเจอกันหน่อย “เดี๋ยวนี้มึงอารมณ์ดีจังนะ ไม่เห็นทำหน้าอมทุกข์เหมือนเมื่อก่อน” ตะวันเอ่ยแซว หากว่าเพื่อนเขาเกิดรักมิลลิขึ้นมาจริง ๆ เขามองว่าเป็นเรื่องดีมากกว่า “มึงนี่ก็แปลก ถ้ากูหน้าบูดมึงก็ด่า กูอารมณ์ดีมึงก็บ่น จะเอาไงกันแน่ว่ะ” “ก็ถ้ามึงอารมณ์ดีออกมาจากใจ มันคงไม่แซวมึงหรอก”คีรินเอ่ยออกมา เขาเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน เพราะเพื่อนเขานะดื้อ ถึงจะอยากห้าม แต่คงต้องปล่อยให้เพื่อนเจออะไร ๆ ด้วยตัวเอง “ทำไมว่ะ? มึงคิดว่ากูแกล้งเหรอ” “ใครจะกล้าคิดแบบนั้นกับมึง ขอแค่มึงมีความสุข กูสองคนก็ดีใจด้วยแล้ว ใช่ไหมว่ะ ไอ้คีริน” “เออ…พรุ่งนี้หยุดแล้ว คืนนี้ออกไหมว่ะ”ออกที่ว่าคือออกล่าเหยื่อในผับ ตามประสาหนุ่มโสด “กูดูก่อน”ยีนส์พูดก่อนจะสนใจกับโทรศัพท์ในมือ ที่สั่นแจ้งเตือนขึ้นมา มิลลิ:ที่ไหนคะ? ยีนส์:พักกี่โมง มิลลิ:พักเที่ยงครึ่งคะ ยีนส์:เจอกันที่ลานจอดรถ ย
มือหนาจับเอวเล็กไว้มั่น เป็นฝ่ายกระแทกเข้าหาเธออย่างรุนแรง นอกจากอารมณ์กระสันที่พุ่งสูงแล้ว เขาต้องการให้รถโยกแรงที่สุด จนคนที่ยืนมองอยู่ด้านนอกสงสัย หรือให้รู้ไปเลยว่ามีสงครามสวาทเกิดขึ้นในรถคันนี้ ซึ่งมองจากตรงนี้เขาคิดว่าได้ผล เพราะเห็นโซลยืนมองรถเขาไม่วางตา อีกทั้งหัวคิ้วก็เลิกขึ้นอย่างสงสัย รถคันนี้โซลจำได้ดี มันคือรถของเพื่อนสนิทเขา ที่เลิกคบกันไปแล้ว การโยกขยับของรถ คนประสบการณ์ช่ำชองแบบเขารู้ดี มันต้องมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นในรถแน่นอน แต่ทว่าที่เขาสงสัยคือเจ้าของรถคันนี้ ตั้งแต่เลิกกับแฟนมันไป เขาไม่เคยเห็นมันเอาผู้หญิงคนไหน แถมตอนนี้ยังมาเอากันในรถอีกต่างหาก อะไรจะอดใจไม่ไหวขนาดนั้น “มองอะไรไอ้โซล” เป็นคาเตอร์ที่เดินมาเอารถตรงนี้ เดินมาหาโซลที่ยืนมองรถหรูสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่ แต่เมื่อเพ่งมองดี ๆ กลับพบว่ามันขยับขึ้นลง“รถไอ้ยีนส์นิ” “เออ มันเอากับใครว่ะ” “ก็ช่างแม่งมันดิ เงี่ยนจัด” มิลลิที่ตอนนี้ความเสียวซ่านเข้าครอบงำ ได้แต่ร้องครางลั่นรถ เมื่อโดนกระแทกรุนแรง เธอฟุบลงบนอกแกร่ง สะบัดใบหน้าสวยไปมาอย่างสุดกลั้น “พี่เธออยู่หน้ารถ ซี้ดด"เอวสอบเร่งกระแทกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยก
“อื้อ~ พอก่อนค่ะ”มิลลิผลักตัวยีนส์ออกห่าง ใบหน้าหล่อที่เอาแต่คลอเคลียเธอไม่หยุด ทั้งจูบ ทั้งหอม ทั้งบีบเค้นเต้าอวบเธอผ่านชุดนักศึกษา เมื่อรถมาจอดตรงลานจอดรถคณะบริหาร เขาเลือกตรงที่มีรถจอดน้อย เมื่อคืนเขานอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงร่างกายเธอ “ตอนเย็นไปคอนโดฉันนะ” มือเล็กจัดชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ยออกมา ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างงอน ๆ ก็ชุดมันยับหมดแล้ว“ไปทำไมคะ หรือว่าอยากกินอาหารฝีมือมิลแล้ว” “อยากกินเธอมากกว่า”นัยน์ตาคมเข้มที่ส่งมาให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้ล้อเล่นกับประโยคนั้น “ไม่คิดเลยว่าพี่จะหื่นขนาดนี้ วันนี้ไม่ได้ค่ะ พี่โซลจะมานอนด้วย”ใบหน้าหล่อขบกรามเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ ขนาดนี้มันยังเป็นมารขวางความสุขเขา “พี่เธอจะมานอนด้วยทำไม เขาไม่มีคอนโดอยู่หรือไง” “มีค่ะ...แต่ทุกวันพฤหัสจะมานอนด้วย พี่ฟรินท์ทุกวันอังคาร เป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ” เป็นสิ่งที่มิลลิชินและเข้าใจได้ว่าความเป็นห่วงของพ่อกับแม่เป็นยังไง เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เธอได้มาอยู่คอนโดเอง ไม่งั้นพ่อกับแม่คงไม่ยอม“ไว้พรุ่งนี้นะคะ” “แล้วแบบนี้เขาไม่ต้องเฝ้าเธอไปจนแต่งงานหรือไง มันไม่ยุติธรรมกับแฟนแบบฉันนะ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง แข่งกับเสียงครางของคนสองคน ใบหน้าหล่อเหลาชื้นเหงื่อ แต่ช่วงล่างยังคงสาดซัดความปรารถนาอย่างดิบเถื่อน ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแล้วว่าเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาสนใจแค่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น มิลลิที่เพิ่งเคยเจอกับเรื่องแบบนี้ ได้แต่นอนอ้าขาให้เขาจ้วงแทงเข้ามาอย่างหนักหน่วง ลำตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก โดยที่เธอทำได้เพียงส่งเสียงครางออกมาเท่านั้น จวบจนจังหวะตอกอัดสุดท้าย ร่างหนาก็เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนเต็มเครื่องป้องกัน พร้อมกับคนตัวเล็กที่ครางออกมาอย่างเสร็จสม ยีนส์ถอดถอนแก่นกายออก ก่อนจะใส่ถุงยางชิ้นใหม่ เขายังไม่อิ่ม ได้กินของอร่อยทั้งที เขาขอกินให้เต็มที่ “อีกรอบนะ”เอ็นร้อนกระแทกเข้าไปทันทีสุดลำ มิลลิที่นอนตาเหลือกอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็โดนตอกอัดรุนแรงรัว ๆ อีกแล้ว คำว่าอีกรอบของเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าไปสิ้นสุดตรงไหน เพราะก่อนที่เธอจะสลบไป คนตัวสูงยังคงรัวเอวสอบกระแทกเธอไม่หยุด กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของมิลลิปลุกให้ยีนส์ที่อยู่ใกล้ตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะกดรับสายอย่างถือวิสาสะ“ฮัลโหล” (อะ เอ่อ พี่ยีนส์เหรอ มิลลิล่ะคะ) “นอ
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด "อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ