หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาอยู่นาน เป็นมิลลิเองที่ทนสายตาคมที่ส่งมาไม่ไหว ใบหน้าเธอร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"หน้ามึงแดงมากเลย เก็บอาการหน่อย" "กูทำไม่ได้ ทำไงดีอ่ะ พี่เขาต้องรู้แล้วแน่เลยว่ากูชอบ"มิลลิลนลาน พยายามหันใบหน้าหนีเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงสายตาคมอยู่ตลอด แบบนี้หัวใจเธอก็ทำงานหนัก เพราะตอนนี้มันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ "อยากรู้ไหม? พี่เขาชื่ออะไร" "มึงจะไปถามเหรอ" "เปล่า แต่กูคิดว่าผู้หญิงในคาเฟ่รู้จักพี่เขาหลายคน มึงดูสิ แต่ละคนจ้องพี่เขาตาเป็นมัน" มิลลิหันมองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ปลายฝนพูดเป็นเรื่องจริง แสดงว่าพี่เขาน่าจะฮอตมาก แต่เธอก็ไม่สงสัย เพราะจากรูปร่าง หน้าตาแล้ว จะเป็นคนดังของคณะวิศวะ ก็ไม่น่าแปลกใจ "คู่แข่งมึงเพียบเลย แต่มั่น ๆ เข้าไว้นะ" "...." "เพราะกูว่าเขาตามมึงมาชัวร์ ไม่งั้นไม่มานั่งส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มหามึงแบบนี้หรอก" พนักงานกำลังเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะถูกพวกรุ่นพี่สามคนเรียกตัวไว้ก่อน มิลลิสังเกตุเห็นว่าพวกพี่สามคนนั้น หันมามองกลุ่มเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะเดินตรงมาโต๊ะเธอ "เอ่อ...คือว่าน้องกลุ่มนั้น เขาจ่ายค่าเครื่องดื่มพวกนี้ให้แล้วนะคะ และฝากบอกว่าให้น้องคนที่ผมลอนสีดำ ทานให้อร่อยค่ะ" พนักงานยิ้มให้ ก่อนจะเดินกลับไปทันที มิลลิไม่ได้จะเข้าข้างตัวเอง แต่ในบรรดาเราสามคน มีเธอคนเดียวที่ทำผลลอนใหญ่ตรงปลาย และสีผมก็คือสีดำ ยิ่งเขาทำแบบนี้ มิลลิยิ่งคิดว่าเขาต้องรู้ว่าเธอชอบเขาแน่ เลยยิ่งหันหน้าหนีเขา กลบเกลื่อนความเขินอายที่มากขึ้นเรื่อย ๆ "อุ๊ย...ชัดเลย" คาเทียร์ยิ้มแซวอย่างชอบใจ โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ข้าง ๆ นอกจากจะต้องเขินสายตาคมของรุ่นพี่คนนั้นแล้ว ยังต้องมาเขินเพื่อนสองคนที่เอาแต่แซวเธอไม่หยุด "แบบนี้เพื่อนกูจะมีแฟนแล้วป่าวว่ะ" "พวกมึงหยุดนะ รีบกินรีบไปเรียน" เมื่อเขินจนทำอะไรไม่ถูก ก็ได้แต่แกล้งตวาดเพื่อนออกไป "เขินก็บอกมาเถอะ" ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว มิลลิจะรอให้รุ่นพี่กลุ่มนั้นออกจากร้านไปก่อน แต่ทว่ารอเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าพี่เขาจะลุกขึ้น เธอเลยจำเป็นต้องลุกขึ้นก่อน เพราะคาบต่อไปเป็นวิชาอาจารย์สุดโหด ที่เช็คชื่อตั้งแต่เริ่มเรียน และหากใครมาสาย จะเช็คขาดทันที "มีทางอื่นไหมว่ะ" "แอบชอบเขามาตั้งนาน พอเขาเริ่มสนใจมึงกลับกลัวเขาซะงั้น" "กูเข้าใจมันนะ คนไม่เคยมีความรัก อาการมันเป็นแบบนี้แหละ" "พูดเหมือนมึงเคยมี เคยคุยหรือเปล่าก่อนเถอะ พี่เตอร์เองก็หวงมึงไม่ใช่น้อยนะ" เมื่อยืนเถียงกันไปก็ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ คาเทียร์เลยเป็นคนเดินนำไปก่อน ปลายฝนเดินตาม ส่วนเธอต้องหันใบหน้าไปอีกทางตอนเดินผ่านโต๊ะนั้น แต่ทว่ามีเสียงทุ้มพูดโพล่งออกมา "ชื่ออะไรครับ น้องคนสวย" ถ้าไม่มีคำว่าสวย มิลลิก็คงไม่หันไปสบตาคมที่ห่างกับเธอนิดเดียว จะเรียกว่าเธอหลงตัวเองก็ได้ แต่คนที่ถามไม่ใช่เขา เป็นเพื่อนที่นั่งตรงข้ามเขา "พี่ถามใครคะ" "ถามน้องนั่นแหละ" ตะวันเป็นคนถามชื่อให้ยีนส์ ถึงเขาจะรู้ว่าเพืิ่อนกำลังจะทำอะไร แต่ด้วยความเป็นเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนดูจะสนใจรุ่นน้องคนนี้ เลยเป็นหน่วยกล้าตายถามให้ "มิลลิค่ะ" "เพื่อนพี่ชื่อยีนส์นะครับ" ยีนส์ยังคงจ้องมองใบหน้าสวยของเธอคนนี้ ยิ่งได้มองใกล้ ๆ เขายอมรับอย่างไม่อายว่าไอ้โซลตาถึงมาก เป็นผู้หญิงที่สวยไม่มีที่ติเลย ไหนจะร่างสมส่วน ที่ใส่ชุดนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงก็ไม่ได้สั้นมากนัก แต่กลับมองได้ไม่เบื่อ ดูมีอะไรน่าค้นหา แถมยังได้กลิ่นตัวหอม ๆ ของเธออีก "ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ"เมื่อได้สบตาเขาในระยะประชิดก็ยอมรับว่าดวงตาคมคู่นั้นกำลังสะกดเธอ ในแววตามันดูมีอะไรบางอย่าง แต่เธอบอกไม่ได้ว่ามันมีอะไร "แหม...ยืนจ้องตากันซะ" "รีบไปเรียนเหอะ จะไม่ทันอยู่แล้ว" แล้วสามสาวก็กึ่งเดิน กึ่งวิ่งไปให้ทันวิชาเรียนสุดโหด "มึงคิดจะทำอะไร" เมื่อรุ่นน้องสามคนออกจากร้านไปแล้ว ตะวันก็ซักเพื่อนทันที ถึงจะพอเดาออก แต่ก็ยังอยากได้ยินจากปากเพื่อนชัด ๆ "น้องเขาไม่เกี่ยวกับความแค้นของมึงนะ ไอ้ยีนส์ กูขอเตือน" ยีนส์หันมองหน้าคีริน เพื่อนคนนี้ของเขาเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในกลุ่ม ต่างจากเขากับตะวันมากนัก "แค่เห็นว่าน้องเขาน่ารักดี หรือมึงไม่เห็น" "กูจะไม่ว่าอะไรเลยนะ ถ้ามึงจะชอบเขา หรืออยากมีความรักอีกครั้ง กูเองก็อยากสนับสนุนมึงเต็มที่ ถ้าไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องไอ้โซล และเป็นความรู้สึกของมึงจริง ๆ" นัยน์ตาคมของคีริน รวมถึงคำพูดไม่ได้มีแววล้อเล่น"ถึงน้องเขาจะดูชอบมึง กูขอร้องอย่าไปยุ่ง" พรึบ!!! ยีนส์ลุกขึ้นยืนไปจ่ายเงินหน้าเคาท์เตอร์ทันที โดยไม่ฟังเสียงเตือนของคีรินอีก ใครจะรู้ดีกว่าตัวเขาว่าคิดจะทำอะไร "แล้วถ้าน้องเขาชอบมันจริง ๆ ล่ะว่ะ" "มึงก็เห็นว่าก่อนหน้านี้ เพื่อนมึงมันไม่ได้สนใจ" "รอดูไปก่อนเหอะว่ะ มันอาจไม่เป็นอย่างที่มึงคิดก็ได้" ตะวันตบบ่าเพื่อนไม่ให้คิดมาก ก่อนจะเดินตามยีนส์ออกจากร้านไป 16.30 น. หลังอาจารย์ปล่อยเรียนคาบสุดท้าย สามสาวเพื่อนรัก ก็เดินตรงไปลานจอดรถ คาเทียร์กลับกับปลายฝน ส่วนมิลลิวันนี้เอารถมา เพราะตื่นไม่ทันเพื่อนสองคน "ค่อยไปเจอกันที่คอนโดเลยแล้วกัน กูจอดรถไกลอ่ะ เมื่อเช้าไม่มีที่จอด" ร่างบอบบางของมิลลิเดินตรงไปลานจอดรถของคณะบริหารจนสุด มันไกลถึงขนาดว่าอีกนิดเดียวจะถึงลานจอดรถของคณะวิศวะ ขณะกำลังยกกุญแจขึ้นกดปลดล็อครถ ก็มีโทรศัพท์ยื่นมาตรงหน้าเธอ ร่างบางชะงัก เงยหน้าไปมองเจ้าของท่อนแขนแกร่ง ก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของรุ่นพี่คนนั้น "ขอเบอร์หน่อย" "บะ เบอร์ฉันเหรอคะ" "หึ...ตรงนี้มีใครนอกจากเธอบ้าง" มิลลิหันมองไปรอบบริเวณ พบว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้จริง ๆ"อะ เอ่อคือ..." "จะให้หรือเปล่า ถ้าไม่ให้ฉันก็ไม่เอา" มือหนาทำท่าทางจะชักโทรศัพท์กลับไป จนเธอต้องคว้าเอาไว้ ทำให้มือเราสองคนสัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ กระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่างทันที ใบหน้าเธอเห่อร้อนขึ้นมา จนต้องรีบกดเบอร์ไปให้เขาอย่างเร็ว ๆ "ที่จริง แอดเฟซกันก็ได้นะคะ" "ฉันชอบโทรหาทางเบอร์มากกว่า มันดูมีความสำคัญดี" ยีนส์จงใจเน้นย้ำคำว่าความสำคัญ นัยน์ตาคมก็จ้องดวงตากลมโตของเธออย่างไม่ลดละ เพื่อสังเกตุอาการคนตัวเล็ก ตอนนี้เขายิ่งมั่นใจว่าผู้หญิงตรงหน้าเขา มีความรู้สึกบางอย่างให้เขาจริง "คืนนี้ฉันจะโทรหานะ" บอกก่อนจะเดินหันหลังจากเธอทันที ทิ้งให้มิลลิยืนงงในการกระทำดังกล่าวของเขา ทำไมเธอถึงคิดว่าเขาแปลก ๆ หรือเธอจะคิดมากไปเองยีนส์กลับมาถึงคอนโดสุดหรูของเขา ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดัง อันที่จริงคนเป็นแม่อยากให้เขาไปอยู่ที่โรงแรมมากกว่า แต่ทว่าเขาไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ในสายตาครอบครัวมากเกินไป หากไม่ได้ไปมหาลัย หรือเพื่อนสองคนชวนไปผับ เขาก็ไม่เคยออกไปไหน นิสัยจริง ๆ คือค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว นอกจากคีรินกับตะวัน เขาก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก ยกเว้นเมื่อก่อน ที่เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดคือโซล เราสองคนคบกันตั้งแต่มัธยมต้น เรียนห้องเดียวกันมาตลอด เข้ามาเรียนมหาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละสาขา แต่ก็ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยมีความลับต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเกือบสองปีก่อน ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนคณะนิเทศศาสตร์ปีเดียวกัน ตามจีบอยู่สักพัก ยอมรับว่าเธอคือรักแรกของเขา เป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกทุกอย่าง จนกระทั่งได้คบกันเป็นแฟน เพื่อนทุกคนต่างรู้จักเธอ เพราะเขาพาไปไหนมาไหนด้วยกัน ในมหาลัยก็นั่งกินข้าวด้วยกันตลอด เราสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหลังจากตกลงเป็นแฟนกันทันที บางครั้งเธอก็มานอนกับเขาที่คอนโด แต่ไม่เคยให้เขาไปนอนที่คอนโดของเธอ เราคบกันได้ประมาณห
มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด "อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
รถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ "กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็ก
คณะบริหาร "เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้" คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน "มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา" "พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ" คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น "อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย" ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก "แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ" "ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก" "เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคน
"ทีหลังไม่ต้องมากินถึงที่นี่ ถ้าโรงอาหารที่คณะเต็ม ก็ออกไปกินข้างนอก เข้าใจหรือเปล่า" มิลลิยังคงถูกคนเป็นพี่ชายบ่นไม่หยุด ขนาดว่ากินข้าวจะเสร็จแล้ว ก็ยังทำหน้าไม่พอใจ "หรือว่าแอบชอบใครที่คณะนี้"สายตาคมของโซลหรี่มองน้องสาวอย่างจับผิด "แค่ก! แค่ก!" มิลลิสำลักออกมาทันที เมื่อคนเป็นพี่พูดแทงใจดำ พูดราวกับมานั่งอยู่ในใจเธอ หันหาเพื่อนสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงพี่ชายของเพื่อนจะหวงน้องสาวเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่ชายเธอทั้งสองคน "เอ่อ...คือ ไม่มีหรอกค่ะพี่โซล ทีหลังเราจะไม่มาอีกแล้วนะคะ จะไปกินคณะนิติฯ แทน" ปลายฝนแกล้งบอกออกไปแบบนั้น เพื่อให้โซลเห็นว่า ไม่ว่าจะคณะไหนก็มีผู้ชายทั้งนั้น "ไม่ต้อง บอกว่าให้ออกไปกินข้างนอก" "กินข้างนอกอะไร บางวันพักแค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ทัน ไม่รู้แหละต่อไปมิลจะมากินที่นี่แหละ ใกล้กว่าคณะอื่นด้วย" "อย่าดื้อได้ไหมมิล เดี๋ยวฟ้องพ่อนะ หรือพี่ฟรินท์ดี หรือแม่" เมื่อถูกเอ่ยขู่ ด้วยคนที่เธอกลัวทั้งนั้น ก็ทำให้ร่างเล็กหุบปากลงไปได้ทันที "เราก็เหมือนกันเทียร์ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายคณะนี้ เถื่อนอย่างนั้น เถื่อนอย่างนี้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อน" "แล้วทำไมเทียร์ต้องห้าม เร
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด "อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ
ยีนส์กลับมาถึงคอนโดสุดหรูของเขา ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดัง อันที่จริงคนเป็นแม่อยากให้เขาไปอยู่ที่โรงแรมมากกว่า แต่ทว่าเขาไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ในสายตาครอบครัวมากเกินไป หากไม่ได้ไปมหาลัย หรือเพื่อนสองคนชวนไปผับ เขาก็ไม่เคยออกไปไหน นิสัยจริง ๆ คือค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว นอกจากคีรินกับตะวัน เขาก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก ยกเว้นเมื่อก่อน ที่เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดคือโซล เราสองคนคบกันตั้งแต่มัธยมต้น เรียนห้องเดียวกันมาตลอด เข้ามาเรียนมหาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละสาขา แต่ก็ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยมีความลับต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเกือบสองปีก่อน ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนคณะนิเทศศาสตร์ปีเดียวกัน ตามจีบอยู่สักพัก ยอมรับว่าเธอคือรักแรกของเขา เป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกทุกอย่าง จนกระทั่งได้คบกันเป็นแฟน เพื่อนทุกคนต่างรู้จักเธอ เพราะเขาพาไปไหนมาไหนด้วยกัน ในมหาลัยก็นั่งกินข้าวด้วยกันตลอด เราสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหลังจากตกลงเป็นแฟนกันทันที บางครั้งเธอก็มานอนกับเขาที่คอนโด แต่ไม่เคยให้เขาไปนอนที่คอนโดของเธอ เราคบกันได้ประมาณห
หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาอยู่นาน เป็นมิลลิเองที่ทนสายตาคมที่ส่งมาไม่ไหว ใบหน้าเธอร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน "หน้ามึงแดงมากเลย เก็บอาการหน่อย" "กูทำไม่ได้ ทำไงดีอ่ะ พี่เขาต้องรู้แล้วแน่เลยว่ากูชอบ"มิลลิลนลาน พยายามหันใบหน้าหนีเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงสายตาคมอยู่ตลอด แบบนี้หัวใจเธอก็ทำงานหนัก เพราะตอนนี้มันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ "อยากรู้ไหม? พี่เขาชื่ออะไร" "มึงจะไปถามเหรอ" "เปล่า แต่กูคิดว่าผู้หญิงในคาเฟ่รู้จักพี่เขาหลายคน มึงดูสิ แต่ละคนจ้องพี่เขาตาเป็นมัน" มิลลิหันมองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ปลายฝนพูดเป็นเรื่องจริง แสดงว่าพี่เขาน่าจะฮอตมาก แต่เธอก็ไม่สงสัย เพราะจากรูปร่าง หน้าตาแล้ว จะเป็นคนดังของคณะวิศวะ ก็ไม่น่าแปลกใจ "คู่แข่งมึงเพียบเลย แต่มั่น ๆ เข้าไว้นะ" "...." "เพราะกูว่าเขาตามมึงมาชัวร์ ไม่งั้นไม่มานั่งส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มหามึงแบบนี้หรอก" พนักงานกำลังเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะถูกพวกรุ่นพี่สามคนเรียกตัวไว้ก่อน มิลลิสังเกตุเห็นว่าพวกพี่สามคนนั้น หันมามองกลุ่มเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะเดินตรงมาโต๊ะเธอ "เอ่อ...คือว่าน้องกลุ่มนั้น เขาจ่ายค่
"ทีหลังไม่ต้องมากินถึงที่นี่ ถ้าโรงอาหารที่คณะเต็ม ก็ออกไปกินข้างนอก เข้าใจหรือเปล่า" มิลลิยังคงถูกคนเป็นพี่ชายบ่นไม่หยุด ขนาดว่ากินข้าวจะเสร็จแล้ว ก็ยังทำหน้าไม่พอใจ "หรือว่าแอบชอบใครที่คณะนี้"สายตาคมของโซลหรี่มองน้องสาวอย่างจับผิด "แค่ก! แค่ก!" มิลลิสำลักออกมาทันที เมื่อคนเป็นพี่พูดแทงใจดำ พูดราวกับมานั่งอยู่ในใจเธอ หันหาเพื่อนสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงพี่ชายของเพื่อนจะหวงน้องสาวเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่ชายเธอทั้งสองคน "เอ่อ...คือ ไม่มีหรอกค่ะพี่โซล ทีหลังเราจะไม่มาอีกแล้วนะคะ จะไปกินคณะนิติฯ แทน" ปลายฝนแกล้งบอกออกไปแบบนั้น เพื่อให้โซลเห็นว่า ไม่ว่าจะคณะไหนก็มีผู้ชายทั้งนั้น "ไม่ต้อง บอกว่าให้ออกไปกินข้างนอก" "กินข้างนอกอะไร บางวันพักแค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ทัน ไม่รู้แหละต่อไปมิลจะมากินที่นี่แหละ ใกล้กว่าคณะอื่นด้วย" "อย่าดื้อได้ไหมมิล เดี๋ยวฟ้องพ่อนะ หรือพี่ฟรินท์ดี หรือแม่" เมื่อถูกเอ่ยขู่ ด้วยคนที่เธอกลัวทั้งนั้น ก็ทำให้ร่างเล็กหุบปากลงไปได้ทันที "เราก็เหมือนกันเทียร์ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายคณะนี้ เถื่อนอย่างนั้น เถื่อนอย่างนี้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อน" "แล้วทำไมเทียร์ต้องห้าม เร
คณะบริหาร "เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้" คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน "มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา" "พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ" คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น "อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย" ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก "แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ" "ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก" "เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคน
รถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ "กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็ก