“อื้อ~ พอก่อนค่ะ”มิลลิผลักตัวยีนส์ออกห่าง ใบหน้าหล่อที่เอาแต่คลอเคลียเธอไม่หยุด ทั้งจูบ ทั้งหอม ทั้งบีบเค้นเต้าอวบเธอผ่านชุดนักศึกษา เมื่อรถมาจอดตรงลานจอดรถคณะบริหาร เขาเลือกตรงที่มีรถจอดน้อย เมื่อคืนเขานอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงร่างกายเธอ
“ตอนเย็นไปคอนโดฉันนะ” มือเล็กจัดชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ยออกมา ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างงอน ๆ ก็ชุดมันยับหมดแล้ว“ไปทำไมคะ หรือว่าอยากกินอาหารฝีมือมิลแล้ว” “อยากกินเธอมากกว่า”นัยน์ตาคมเข้มที่ส่งมาให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้ล้อเล่นกับประโยคนั้น “ไม่คิดเลยว่าพี่จะหื่นขนาดนี้ วันนี้ไม่ได้ค่ะ พี่โซลจะมานอนด้วย”ใบหน้าหล่อขบกรามเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ ขนาดนี้มันยังเป็นมารขวางความสุขเขา “พี่เธอจะมานอนด้วยทำไม เขาไม่มีคอนโดอยู่หรือไง” “มีค่ะ...แต่ทุกวันพฤหัสจะมานอนด้วย พี่ฟรินท์ทุกวันอังคาร เป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ” เป็นสิ่งที่มิลลิชินและเข้าใจได้ว่าความเป็นห่วงของพ่อกับแม่เป็นยังไง เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เธอได้มาอยู่คอนโดเอง ไม่งั้นพ่อกับแม่คงไม่ยอม“ไว้พรุ่งนี้นะคะ” “แล้วแบบนี้เขาไม่ต้องเฝ้าเธอไปจนแต่งงานหรือไง มันไม่ยุติธรรมกับแฟนแบบฉันนะ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่พอ ตอนอยากเอายังไม่ได้เอาอีก”เสียงทุ้มแกล้งทำเป็นน้อยใจ ที่จริงเขาทนได้อยู่แล้ว ไม่ได้ติดใจเธออะไรขนาดนั้น แต่ของฟรีให้เอา ทำไมจะไม่อยากเอา ยิ่งเป็นของฟรีแบบพรีเมี่ยมแบบนี้ ยังไม่คิดเบื่อตอนนี้แน่ “อดทนหน่อยนะคะ มิลก็อยากอยู่กับพี่เหมือนกัน แต่อาทิตย์เดียวแค่สองวันเอง ที่เหลือมิลยกให้พี่หมดเลย” ท่าทางน่ารักของเธอที่ออดอ้อนออเซาะเขาอย่างเป็นธรรมชาติ ทำเอานัยน์ตาสีเข้มวูบไหว ก่อนจะสลัดความรู้สึกออกไป เขาต้องไม่หลงไปกับผู้หญิงคนนี้ ใจเขาต้องแข็งกว่านี้อีก “งั้นตอนเย็นมารอฉันตรงนี้นะ” “มิลเถลไถลไม่ได้นะคะบอกก่อน ต้องกลับตรงเวลา”เธอพูดดักทางความคิดเขา “หึ ไปได้แล้ว“มิลลิเปิดประตูลงจากรถ เธอหันมองซ้ายขวา ก่อนจะรีบเดินตรงไปยังใต้ตึกคณะ ที่ประจำของกลุ่มเธอ โดยตอนนี้มีคาเทียร์กับปลายฝนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “ออกมาก่อนกูอีก ทำไมมาถึงช้า”ปลายฝนหรี่ตามองอย่างจับผิด ใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “ไม่ใช่ว่าไปแวะข้างทางอยู่นะ เสื้อยับซะขนาดนี้” ใบหน้าสวยก้มมองดูเสื้อนักศึกษาที่มีรอยยับเหมือนเพื่อนว่าจริง ๆ“ก็ไม่ได้ยับมากเท่าไหร่” “นี่มึงแวะข้างทางมาจริงเหรอ?”คาเทียร์ทำเสียงสูงอย่างตกใจ “ไม่ได้ข้างทาง ที่ลานจอดรถในคณะนี่แหละ” “อีมิล นี่มึงไม่กลัวพี่ ๆ มึงเห็นเหรอ ตาย ๆ ๆ เพิ่งคบกันได้สองวัน เป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอ” “ธรรมดานะกูว่า คู่รักข้าวใหม่ปลามันก็เป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวตื่น เดี๋ยวตื่น ฮ่า ฮ่า ใกล้กันหน่อยเหมือนโดนไฟช็อต” “มึงนี่พูดเหมือนมีคนมีประสบการณ์หลายครั้งแล้วนะ หรือมึงแอบชอบใครไม่บอกพวกกูเหรอปลายฝน” “มีที่ไหน กูอยู่กับมึงตลอดเวลา จะเอาเวลาไหนไปชอบใคร ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้ากูมีจริง พวกมึงต้องรู้เป็นคนแรกอยู่แล้ว”เพื่อนสองคนยังคงทำสีหน้าไม่เชื่อ “กูแค่ได้ยินพวกในคลาสมันเล่าอ่ะ ตอนมีแฟนใหม่ ๆ คิดว่าอีมิลคงไม่ต่างกันหรอก ยิ่งมันคลั่งไคล้พี่เขาขนาดนั้น ว่าแต่มึงเล่าให้ฟังบ้างดิ ว่าลีลาพี่เขาเด็ดขนาดไหน” “อืมใช่ เหมือนในคลิปที่เราเคยดูกันไหมว่ะ” หัวเล็กของผู้หญิงสามคนก้มลงจนชิดกัน ก่อนที่มิลลิจะพูดออกมา“ลีลาดีไม่พอ แรงยังดีอีกต่างหาก” “อร้ายยย อิจฉาเว่อร์ มึงเสียตัวก่อนพวกกูสองคนอีก” ด้านยีนส์หลังจากไปส่งมิลลิที่คณะ เขาก็ขับรถมาจอดในที่ประจำของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าตัวอาคารเรียน ระหว่างกำลังเดินไปหาเพื่อนสองคน เขาเดินสวนกับอดีตเพื่อนรัก สายตามองสบกันอย่างไม่ลดละ เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกอยากเจอมันเท่านี้มาก่อนเลย ตอนนี้อยากจะให้มันเห็นภาพเขากับน้องสาวมันเร็ว ๆ แต่ทว่าโซลก็ทำเพียงปลายตามามองเขาเท่านั้น “มึงไปไหนมาไอ้ยีนส์”คีรินที่เห็นเพื่อนรักสองคนเดินสวนกัน ตอนแรกเขาก็กลัวจะมีเรื่อง แต่ก็แค่เดินผ่านหน้ากัน“ไม่ได้ไปส่งมิลลิมาใช่ไหม” ยีนส์พยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อช้อปสีแดง แล้วเดินไปสูบห่างจากเก้าอี้ตรงนี้ โดยมีตะวันเดินมาสูบด้วยกัน “มึงกับน้องมิลลิยังไงกันว่ะ วันนั้นมึงไปส่งน้องนิ” “ได้กันแล้ว” “เหี้ยย!!! ทำไมมันเร็วแบบนี้ว่ะ”ตะวันอุทานเสียงดัง ขนาดคีรินยังไม่รู้แบบเขา ตั้งแต่เช้ามามันเอาแต่บ่นเรื่องนี้ให้เขาฟังไม่หยุด แล้วถ้ามันรู้ว่าถลำลึกไปไกลขนาดนี้จะเป็นยังไง “แล้วเป็นอะไรกัน” “แฟน” “แฟนมึงหรือแฟนไอ้โซล?” “น้องไอ้โซล” “เหี้ยย!!! จริงเหรอว่ะ” “…..” “มิลลิน้องไอ้โซลเหรอ ทำไมพวกเราไม่เคยรู้มาก่อน ว่ามันมีน้อง” มือหนาโยนบุหรี่ที่เพิ่งสูบได้แปปเดียวลงพื้น ใช้เท้าบี้มันจนดับ“มันหวงน้องมันมาก” “ทำแบบนี้มึงสบายใจไหมว่ะ กูถามจริง ๆ”ตะวันมองหน้าเพื่อนสนิท ที่ทำหน้าแบบที่เขาเดาอะไรไม่ได้เลย แต่ไหนแต่ไรมา เพื่อนเขาก็เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งมากอยู่แล้ว ตั้งแต่คบกันมา มีแค่ตอนที่มันคบกับจูเน่ ที่ดูมีความสุขที่สุด ไม่แปลกที่มันจะแค้นไอ้โซลขนาดนั้น เพราะเป็นคนทำให้ความสุขมันหายไป แต่การไปเล่นกับความรู้สึกของคน ๆ หนึ่งเขามองว่ามันแรงไป “ตอนไอ้โซลทำกับกู ทำไมพวกมึงไม่ไปถามมันบ้าง ตอนทำกูเจ็บไม่เห็นมีใครสนใจ กูรู้มึงสองคนก็ไม่ได้โกรธเหี้ยอะไรมันหรอก” “พูดเหี้ยไรว่ะ ถ้ากูไม่เข้าข้างมึง จะยอมเลิกคบกับมันทำไม แค่อยากให้เลิกแล้วต่อกัน หรือแก้แค้นด้วยวิธีอื่นไหมว่ะ อย่าเล่นกับใจคนเลย มันไม่สนุกหรอก” “มึงรู้ได้ไงกูไม่สนุก สองวันมานี้กูมีความสุขจะตาย อีกอย่างถ้ายังเห็นกูเป็นเพื่อน อย่าพูดเรื่องนี้กับกูอีก บอกไอ้คีรินด้วย กูไม่อยากทะเลาะกับมันอีกคน” ยีนส์เดินหายเข้าไปในอาคารเรียนโดยไม่รอเพื่อนสองคน ตะวันเห็นแบบนั้นก็เดินกลับไปหาคีรินที่นั่งรออยู่ที่เดิม “มันไปไหน?” “เข้าเรียนไปแล้ว เราก็ไปเถอะ” “เรื่องมันกับมิลลิตกลงยังไง” “เป็นแฟนกันแล้ว”คีรินเอามือยีหัวแรง ๆ อย่างขัดใจ เขาไม่ชอบเรื่องอะไรแบบนี้เลย ไม่เห็นด้วยที่เพื่อนคิดจะแก้แค้นด้วยวิธีแบบนี้ “แล้วไอ้โซลล่ะ” “มิลลิเป็นน้องไอ้โซล” “แม่ง!!! หนักกว่าเป็นแฟนอีก สัด!!! ยีนส์มันทำลงได้ยังไงว่ะ” “รอดูมันไปก่อน บางทีมันอาจรักน้องเขาทีหลัง แล้วเลิกแก้แค้นไปเองก็ได้” ตะวันก็ได้แต่พูดไม่ให้เพื่อนสองคนต้องทะเลาะกันเรื่องนี้ ถึงเขาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งมากนัก เรื่องของเจ้าตัวต้องให้เขาจัดการเอง“ไปเรียนกันดีกว่า” 16.05น. มิลลิเลิกเรียนแล้ว เธอก็รีบเดินเร็ว ๆ มาที่รถคันสีดำคุ้นตาที่จอดอยู่ที่เดิมเมื่อเช้า มือเล็กเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านใน ก่อนจะได้ยินเสียงกดล็อคทันที พร้อมทั้งร่างสูงที่ดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตัก “อื้อ~ พี่ยีนส์ไม่ได้ค่ะ”ยีนส์ไม่ฟังที่เธอพูด เขาปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาเธอออก แหวกสาบเสื้อ ดันเสื้อชั้นใจขึ้นไปเหนือเนินอก ก้มลงซุกไซร้ตรงร่องอก กระดกลิ้นปาดเลียจุกสีหวานไปมา อีกข้างก็บีบเค้นรุนแรง จนมิลลิที่ตอนแรกไม่มีอารมณ์ ตอนนี้ความเสียวแล่นปราดไปทั่วร่าง เธอแหงยเงยใบหน้าสวย กลั้นเสียงครางสุดฤทธิ์ เอามือจับหัวเขาให้ปรนเปรออกอวบเธอแรงขึ้นอย่างลืมตัว “ฉันไม่ไหวแล้ว” “แต่ที่นี่ลานจอดรถนะคะ ไม่เหมาะ” ขนาดว่าท่อนบนล่อนจ้อน หัวนมยังคาปากเขาอยู่ แต่เธอก็ยังหลงเหลือสติด้านดี ร้องต่อต้านเขา แม้ว่าเสียงที่เปล่งออกมาจะเป็นเสียงที่แหบกระเส่าเต็มไปด้วยอารมณ์วาบหวาม “แต่มันปวด เธอจะไม่ช่วยฉันเหรอ”เสียงทุ้มออดอ้อน เขามองกระจกด้านหน้าเห็นร่างสูงคุ้นตาของโซลกำลังเดินมาทางนี้พอดี แต่คนตัวเล็กไม่เห็น“แปบเดียวนะ กระจกทึบไม่มีใครเห็นหรอก” กระโปรงนักศึกษาที่ร่นขึ้นไปจนถึงเอว ทำให้สะดวกต่อคนหื่น ที่ควักแก่นกายออกมาตั้งตรง เกี่ยวแพนตี้ตัวบางของเธอออก ก่อนจะจับเอวคอดขึ้นสอดใส่เอ็นร้อนเข้าไปทันทีสุดลำ “อื้อ~”รถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ "กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็ก
คณะบริหาร "เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้" คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน "มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา" "พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ" คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น "อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย" ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก "แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ" "ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก" "เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคน
"ทีหลังไม่ต้องมากินถึงที่นี่ ถ้าโรงอาหารที่คณะเต็ม ก็ออกไปกินข้างนอก เข้าใจหรือเปล่า" มิลลิยังคงถูกคนเป็นพี่ชายบ่นไม่หยุด ขนาดว่ากินข้าวจะเสร็จแล้ว ก็ยังทำหน้าไม่พอใจ "หรือว่าแอบชอบใครที่คณะนี้"สายตาคมของโซลหรี่มองน้องสาวอย่างจับผิด "แค่ก! แค่ก!" มิลลิสำลักออกมาทันที เมื่อคนเป็นพี่พูดแทงใจดำ พูดราวกับมานั่งอยู่ในใจเธอ หันหาเพื่อนสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงพี่ชายของเพื่อนจะหวงน้องสาวเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่ชายเธอทั้งสองคน "เอ่อ...คือ ไม่มีหรอกค่ะพี่โซล ทีหลังเราจะไม่มาอีกแล้วนะคะ จะไปกินคณะนิติฯ แทน" ปลายฝนแกล้งบอกออกไปแบบนั้น เพื่อให้โซลเห็นว่า ไม่ว่าจะคณะไหนก็มีผู้ชายทั้งนั้น "ไม่ต้อง บอกว่าให้ออกไปกินข้างนอก" "กินข้างนอกอะไร บางวันพักแค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ทัน ไม่รู้แหละต่อไปมิลจะมากินที่นี่แหละ ใกล้กว่าคณะอื่นด้วย" "อย่าดื้อได้ไหมมิล เดี๋ยวฟ้องพ่อนะ หรือพี่ฟรินท์ดี หรือแม่" เมื่อถูกเอ่ยขู่ ด้วยคนที่เธอกลัวทั้งนั้น ก็ทำให้ร่างเล็กหุบปากลงไปได้ทันที "เราก็เหมือนกันเทียร์ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายคณะนี้ เถื่อนอย่างนั้น เถื่อนอย่างนี้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อน" "แล้วทำไมเทียร์ต้องห้าม เร
หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาอยู่นาน เป็นมิลลิเองที่ทนสายตาคมที่ส่งมาไม่ไหว ใบหน้าเธอร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน "หน้ามึงแดงมากเลย เก็บอาการหน่อย" "กูทำไม่ได้ ทำไงดีอ่ะ พี่เขาต้องรู้แล้วแน่เลยว่ากูชอบ"มิลลิลนลาน พยายามหันใบหน้าหนีเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงสายตาคมอยู่ตลอด แบบนี้หัวใจเธอก็ทำงานหนัก เพราะตอนนี้มันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ "อยากรู้ไหม? พี่เขาชื่ออะไร" "มึงจะไปถามเหรอ" "เปล่า แต่กูคิดว่าผู้หญิงในคาเฟ่รู้จักพี่เขาหลายคน มึงดูสิ แต่ละคนจ้องพี่เขาตาเป็นมัน" มิลลิหันมองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ปลายฝนพูดเป็นเรื่องจริง แสดงว่าพี่เขาน่าจะฮอตมาก แต่เธอก็ไม่สงสัย เพราะจากรูปร่าง หน้าตาแล้ว จะเป็นคนดังของคณะวิศวะ ก็ไม่น่าแปลกใจ "คู่แข่งมึงเพียบเลย แต่มั่น ๆ เข้าไว้นะ" "...." "เพราะกูว่าเขาตามมึงมาชัวร์ ไม่งั้นไม่มานั่งส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มหามึงแบบนี้หรอก" พนักงานกำลังเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะถูกพวกรุ่นพี่สามคนเรียกตัวไว้ก่อน มิลลิสังเกตุเห็นว่าพวกพี่สามคนนั้น หันมามองกลุ่มเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะเดินตรงมาโต๊ะเธอ "เอ่อ...คือว่าน้องกลุ่มนั้น เขาจ่ายค่
ยีนส์กลับมาถึงคอนโดสุดหรูของเขา ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดัง อันที่จริงคนเป็นแม่อยากให้เขาไปอยู่ที่โรงแรมมากกว่า แต่ทว่าเขาไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ในสายตาครอบครัวมากเกินไป หากไม่ได้ไปมหาลัย หรือเพื่อนสองคนชวนไปผับ เขาก็ไม่เคยออกไปไหน นิสัยจริง ๆ คือค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว นอกจากคีรินกับตะวัน เขาก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก ยกเว้นเมื่อก่อน ที่เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดคือโซล เราสองคนคบกันตั้งแต่มัธยมต้น เรียนห้องเดียวกันมาตลอด เข้ามาเรียนมหาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละสาขา แต่ก็ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยมีความลับต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเกือบสองปีก่อน ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนคณะนิเทศศาสตร์ปีเดียวกัน ตามจีบอยู่สักพัก ยอมรับว่าเธอคือรักแรกของเขา เป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกทุกอย่าง จนกระทั่งได้คบกันเป็นแฟน เพื่อนทุกคนต่างรู้จักเธอ เพราะเขาพาไปไหนมาไหนด้วยกัน ในมหาลัยก็นั่งกินข้าวด้วยกันตลอด เราสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหลังจากตกลงเป็นแฟนกันทันที บางครั้งเธอก็มานอนกับเขาที่คอนโด แต่ไม่เคยให้เขาไปนอนที่คอนโดของเธอ เราคบกันได้ประมาณห
มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด "อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
“อื้อ~ พอก่อนค่ะ”มิลลิผลักตัวยีนส์ออกห่าง ใบหน้าหล่อที่เอาแต่คลอเคลียเธอไม่หยุด ทั้งจูบ ทั้งหอม ทั้งบีบเค้นเต้าอวบเธอผ่านชุดนักศึกษา เมื่อรถมาจอดตรงลานจอดรถคณะบริหาร เขาเลือกตรงที่มีรถจอดน้อย เมื่อคืนเขานอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงร่างกายเธอ “ตอนเย็นไปคอนโดฉันนะ” มือเล็กจัดชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ยออกมา ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างงอน ๆ ก็ชุดมันยับหมดแล้ว“ไปทำไมคะ หรือว่าอยากกินอาหารฝีมือมิลแล้ว” “อยากกินเธอมากกว่า”นัยน์ตาคมเข้มที่ส่งมาให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้ล้อเล่นกับประโยคนั้น “ไม่คิดเลยว่าพี่จะหื่นขนาดนี้ วันนี้ไม่ได้ค่ะ พี่โซลจะมานอนด้วย”ใบหน้าหล่อขบกรามเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ ขนาดนี้มันยังเป็นมารขวางความสุขเขา “พี่เธอจะมานอนด้วยทำไม เขาไม่มีคอนโดอยู่หรือไง” “มีค่ะ...แต่ทุกวันพฤหัสจะมานอนด้วย พี่ฟรินท์ทุกวันอังคาร เป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ” เป็นสิ่งที่มิลลิชินและเข้าใจได้ว่าความเป็นห่วงของพ่อกับแม่เป็นยังไง เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เธอได้มาอยู่คอนโดเอง ไม่งั้นพ่อกับแม่คงไม่ยอม“ไว้พรุ่งนี้นะคะ” “แล้วแบบนี้เขาไม่ต้องเฝ้าเธอไปจนแต่งงานหรือไง มันไม่ยุติธรรมกับแฟนแบบฉันนะ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง แข่งกับเสียงครางของคนสองคน ใบหน้าหล่อเหลาชื้นเหงื่อ แต่ช่วงล่างยังคงสาดซัดความปรารถนาอย่างดิบเถื่อน ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแล้วว่าเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาสนใจแค่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น มิลลิที่เพิ่งเคยเจอกับเรื่องแบบนี้ ได้แต่นอนอ้าขาให้เขาจ้วงแทงเข้ามาอย่างหนักหน่วง ลำตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก โดยที่เธอทำได้เพียงส่งเสียงครางออกมาเท่านั้น จวบจนจังหวะตอกอัดสุดท้าย ร่างหนาก็เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนเต็มเครื่องป้องกัน พร้อมกับคนตัวเล็กที่ครางออกมาอย่างเสร็จสม ยีนส์ถอดถอนแก่นกายออก ก่อนจะใส่ถุงยางชิ้นใหม่ เขายังไม่อิ่ม ได้กินของอร่อยทั้งที เขาขอกินให้เต็มที่ “อีกรอบนะ”เอ็นร้อนกระแทกเข้าไปทันทีสุดลำ มิลลิที่นอนตาเหลือกอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็โดนตอกอัดรุนแรงรัว ๆ อีกแล้ว คำว่าอีกรอบของเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าไปสิ้นสุดตรงไหน เพราะก่อนที่เธอจะสลบไป คนตัวสูงยังคงรัวเอวสอบกระแทกเธอไม่หยุด กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของมิลลิปลุกให้ยีนส์ที่อยู่ใกล้ตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะกดรับสายอย่างถือวิสาสะ“ฮัลโหล” (อะ เอ่อ พี่ยีนส์เหรอ มิลลิล่ะคะ) “นอ
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด "อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ
ยีนส์กลับมาถึงคอนโดสุดหรูของเขา ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ สมกับฐานะลูกชายเจ้าของโรงแรมหรูชื่อดัง อันที่จริงคนเป็นแม่อยากให้เขาไปอยู่ที่โรงแรมมากกว่า แต่ทว่าเขาไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ในสายตาครอบครัวมากเกินไป หากไม่ได้ไปมหาลัย หรือเพื่อนสองคนชวนไปผับ เขาก็ไม่เคยออกไปไหน นิสัยจริง ๆ คือค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว นอกจากคีรินกับตะวัน เขาก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนอีก ยกเว้นเมื่อก่อน ที่เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดคือโซล เราสองคนคบกันตั้งแต่มัธยมต้น เรียนห้องเดียวกันมาตลอด เข้ามาเรียนมหาลัยก็ยังเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละสาขา แต่ก็ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ไม่เคยมีความลับต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเกือบสองปีก่อน ตอนเข้าเรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ เขาชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เรียนคณะนิเทศศาสตร์ปีเดียวกัน ตามจีบอยู่สักพัก ยอมรับว่าเธอคือรักแรกของเขา เป็นผู้หญิงที่ตรงสเปกทุกอย่าง จนกระทั่งได้คบกันเป็นแฟน เพื่อนทุกคนต่างรู้จักเธอ เพราะเขาพาไปไหนมาไหนด้วยกัน ในมหาลัยก็นั่งกินข้าวด้วยกันตลอด เราสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหลังจากตกลงเป็นแฟนกันทันที บางครั้งเธอก็มานอนกับเขาที่คอนโด แต่ไม่เคยให้เขาไปนอนที่คอนโดของเธอ เราคบกันได้ประมาณห
หลังจากเล่นเกมส์จ้องตาอยู่นาน เป็นมิลลิเองที่ทนสายตาคมที่ส่งมาไม่ไหว ใบหน้าเธอร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน "หน้ามึงแดงมากเลย เก็บอาการหน่อย" "กูทำไม่ได้ ทำไงดีอ่ะ พี่เขาต้องรู้แล้วแน่เลยว่ากูชอบ"มิลลิลนลาน พยายามหันใบหน้าหนีเขา แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงสายตาคมอยู่ตลอด แบบนี้หัวใจเธอก็ทำงานหนัก เพราะตอนนี้มันเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ "อยากรู้ไหม? พี่เขาชื่ออะไร" "มึงจะไปถามเหรอ" "เปล่า แต่กูคิดว่าผู้หญิงในคาเฟ่รู้จักพี่เขาหลายคน มึงดูสิ แต่ละคนจ้องพี่เขาตาเป็นมัน" มิลลิหันมองรอบ ๆ ก็พบว่าที่ปลายฝนพูดเป็นเรื่องจริง แสดงว่าพี่เขาน่าจะฮอตมาก แต่เธอก็ไม่สงสัย เพราะจากรูปร่าง หน้าตาแล้ว จะเป็นคนดังของคณะวิศวะ ก็ไม่น่าแปลกใจ "คู่แข่งมึงเพียบเลย แต่มั่น ๆ เข้าไว้นะ" "...." "เพราะกูว่าเขาตามมึงมาชัวร์ ไม่งั้นไม่มานั่งส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มหามึงแบบนี้หรอก" พนักงานกำลังเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ ก่อนจะถูกพวกรุ่นพี่สามคนเรียกตัวไว้ก่อน มิลลิสังเกตุเห็นว่าพวกพี่สามคนนั้น หันมามองกลุ่มเธอเป็นตาเดียว ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะเดินตรงมาโต๊ะเธอ "เอ่อ...คือว่าน้องกลุ่มนั้น เขาจ่ายค่
"ทีหลังไม่ต้องมากินถึงที่นี่ ถ้าโรงอาหารที่คณะเต็ม ก็ออกไปกินข้างนอก เข้าใจหรือเปล่า" มิลลิยังคงถูกคนเป็นพี่ชายบ่นไม่หยุด ขนาดว่ากินข้าวจะเสร็จแล้ว ก็ยังทำหน้าไม่พอใจ "หรือว่าแอบชอบใครที่คณะนี้"สายตาคมของโซลหรี่มองน้องสาวอย่างจับผิด "แค่ก! แค่ก!" มิลลิสำลักออกมาทันที เมื่อคนเป็นพี่พูดแทงใจดำ พูดราวกับมานั่งอยู่ในใจเธอ หันหาเพื่อนสองคนเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงพี่ชายของเพื่อนจะหวงน้องสาวเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าพี่ชายเธอทั้งสองคน "เอ่อ...คือ ไม่มีหรอกค่ะพี่โซล ทีหลังเราจะไม่มาอีกแล้วนะคะ จะไปกินคณะนิติฯ แทน" ปลายฝนแกล้งบอกออกไปแบบนั้น เพื่อให้โซลเห็นว่า ไม่ว่าจะคณะไหนก็มีผู้ชายทั้งนั้น "ไม่ต้อง บอกว่าให้ออกไปกินข้างนอก" "กินข้างนอกอะไร บางวันพักแค่ชั่วโมงเดียวมันไม่ทัน ไม่รู้แหละต่อไปมิลจะมากินที่นี่แหละ ใกล้กว่าคณะอื่นด้วย" "อย่าดื้อได้ไหมมิล เดี๋ยวฟ้องพ่อนะ หรือพี่ฟรินท์ดี หรือแม่" เมื่อถูกเอ่ยขู่ ด้วยคนที่เธอกลัวทั้งนั้น ก็ทำให้ร่างเล็กหุบปากลงไปได้ทันที "เราก็เหมือนกันเทียร์ ไหนบอกไม่ชอบผู้ชายคณะนี้ เถื่อนอย่างนั้น เถื่อนอย่างนี้ ทำไมไม่ห้ามเพื่อน" "แล้วทำไมเทียร์ต้องห้าม เร
คณะบริหาร "เดินผ่านทุกวัน ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจเลย พรุ่งนี้กูไม่ไปแล้วนะ เบื่ออีตานั่น แซวอยู่ได้" คาเทียร์บ่นพึมพำ เธอไม่ชอบผู้ชายเรียนวิศวะเลย ถึงพ่อเธอจะเป็นศิษย์เก่ามาก่อนก็เถอะ ผู้ชายท่าทางเถื่อน ๆ พวกนั้น ไม่พ้นนิสัยก็คงเถื่อนไม่ต่างกัน "มึงก็นะมิลลิ ไปชอบพี่เขาได้ยังไง กูยังไม่เห็นเคยยิ้มให้มึงเลย แถมยังนั่งก้มหน้าอีกต่างหาก ทำราวกับไม่สนใจผู้หญิงงั้นแหละ หยิ่ง ๆ แบบนี้ มีไรให้ชอบหนักหนา" "พี่เขาหล่อนะ มึงเห็นหรือเปล่า สาว ๆ มองเขาเต็มเลย แต่เขาไม่เห็นเคยสนใจใคร กูอยากเป็นคนนั้น คนที่เขายิ้มให้กูอย่างเต็มใจ" คาเทียร์และปลายฝนหันมองหน้า อย่างรู้กันว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแบบไหน อยากได้อะไรต้องได้ ถึงจะไม่ได้เอาแต่ใจ แต่ก็เป็นคนมุ่งมั่น "อย่าให้พี่โซลกันพี่ฟรินท์รู้แล้วกัน กูสองคนไม่ช่วยนะ ตีนพี่มึงยิ่งหนัก ๆ อยู่ด้วย" ปลายฝนทำท่าขยาดขนลุก เพราะพี่ชายของมิลลิ เป็นประเภทหวงน้องสาวมาก "แต่ว่านะ พี่เขาเรียนปีเดียวกันกับพี่โซลนิ เขารู้จักกันป่าวว่ะ" "ไม่รู้...กูเคยเห็นเพื่อนพี่กูหมดทุกคน ไม่เคยเห็นพี่เขาเลย แต่ไม่กล้าถามหรอก" "เห้ออ...หนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นขบวนรถไฟ มึงกลับไปชอบคน