หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พูดต่อไปว่า “ลูกเขยของคุณเป็นคนตรงไปตรงมา และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เขาไม่มีความโลภในตัวเขาเลย ทันทีที่เขาได้รับบัตรธนาคารนี้ และพบยอดเงินคงเหลือในบัตรธนาคารนี้ เขาก็แจ้งความกับตำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราบอกเขาว่าอย่าทำตัวเร่งรีบเกินไป แต่คุณกลับขโมยบัตรธนาคารของเขา และตรงไปที่ซิตี้แบงก์เพื่อถอนเงิน!”เอเลนอุทานด้วยความเสียใจ “โอ้! ถ้าฉันรู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่ขโมยบัตรธนาคารของเขาไปหรอก แม้ว่าคุณจะฆ่าฉันก็ตาม!”ขณะที่เอเลนพูด เธอไม่สามารถหยุดร้องไห้อย่างขมขื่นได้ เธอไม่คิดว่าจะเดินเข้าไปในกับดักแบบนี้จริง ๆ !ปรากฎว่าองค์กรอาชญากรรมได้ขโมยข้อมูลส่วนตัวของชาร์ลี ปลอมแปลงบัตรธนาคารก่อนที่จะส่งตรงไปยังชาร์ลี!พวกเขาเพียงแค่ทำสิ่งนี้เพื่อล่อชาร์ลี และหลอกให้เขาโลภเงินจำนวน 2.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในบัตรธนาคาร!หลังจากนั้นชาร์ลีก็จะไปที่ธนาคารเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเขาเอง!ด้วยวิธีนี้ ชาร์ลีจะช่วยให้พวกเขาเข้าสู่กระบวนการฉ้อโกงธนาคารได้สำเร็จทั้งหมด และพวกเขาก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ทั้งหมดและรับเงินในมือมาได้อย่างง่ายดาย!หลังจากโอนเ
เอเลนเชื่อเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเธออย่างหมดใจสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกักขังเธอไว้ในศูนย์กักกันต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้เธอเผยแพร่ข่าวลือใด ๆ หากเป็นแบบนั้นล่ะก็ เธอก็จะไม่รู้ว่าเธอจะได้อิสรภาพกลับคืนมาเมื่อไหร่เอเลนมองเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยสายตาอ้อนวอนขณะที่เธอร้องไห้และพูดว่า “คุณเจ้าหน้าที่ ฉันจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้กับใครเลยจริง ๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป หากคุณยังคงขังฉันไว้ในสถานกักขัง ฉันจะต้องตายในห้องขังอย่างแน่นอน…”เจ้าหน้าที่ตำรวจส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “คุณเอเลน ผมไม่อยากเชื่อคุณเลย เพราะผมเคยเจอคนแบบคุณมาเยอะ เพราะคุณจะบอกเราว่าคุณจะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทันทีที่เราปล่อยคุณไป คุณจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอนเพราะปากของคุณ”หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พูดต่อไปว่า “นอกจากนี้ คุณไม่ควรคิดว่าเหตุผลที่เราขังคุณไว้ในศูนย์กักขังก็เพราะว่าเราต้องการคลี่คลายคดี เพราะอันที่จริงที่เราทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง!”“ถ้าเราปล่อยคุณออกไป และคุณไปพูดเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับเรื่องนี้ องค์กรอาชญากรรมจะรู้ทันเรื่องนี้อย่าง
ในเวลาเดียวกันนี้ เอเลนถามคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อว่า “เจ้า… เจ้าหน้าที่… ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับลูกเขยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวที่บ้านเลยเหรอคะ?”เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นวายร้ายตบโต๊ะอย่างโกรธจัด ก่อนที่เขาจะมองดูเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นพระเอก และพูดว่า “ผมบอกไปแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อใจผู้หญิงโง่คนนี้! นี่คุณอยากจะปล่อยเธอออกจากศูนย์กักกันอีกงั้นเหรอ? ได้ยินที่เธอพูดไหม? เธอต้องการไปคุยกับชาร์ลีเกี่ยวกับเรื่องนี้! เธอจะไม่เพียงทำลายคดีของเรา แต่ยังทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยไม่ใช่เหรอ?”สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเล่นเป็นพระเอกมืดลงในทันที เขาจ้องที่เอเลนก่อนจะตอบอย่างเย็นชาว่า “คุณเอเลน คุณทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ ผมคิดว่าคุณจะสามารถเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวได้โดยไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณคิดที่จะไปพูดคุยกับลูกเขยของคุณเพื่อแก้แค้นเขา! นี่เราพยายามคุยกับคุณและอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังโดยไม่มีเหตุผลเลยงั้นเหรอ?”เอเลนเริ่มตื่นตระหนกในตอนนี้ เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เจ้าหน้าที่ พูดตามตรง เหตุผลที่ฉันต้อง
เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าสิ้นหวังบนใบหน้าของเอเลน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ชำเลืองมองกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นพระเอกก็ถามว่า “เอเลน ทางเราพิจารณาปล่อยคุณไปได้แล้ว แต่มีบางประเด็นที่เราจะต้องคุยกับคุณก่อน ก่อนอื่น หากเราอนุญาตให้คุณกลับบ้านได้ในวันนี้ คุณจะบอกอะไรกับครอบครัวของคุณหากพวกเขาถามคุณเกี่ยวกับที่อยู่ของคุณในช่วงสองวันที่ผ่านมา?”เอเลนรีบตอบ “ฉัน… ฉันจะบอกพวกเขาว่า…ในสองวันที่ผ่านมา…ในสองวันนี้…”เอเลนลังเลอยู่นานโดยไม่พูดอะไรเลย เป็นเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรหรือจะอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้สามี และลูกสาวฟังเมื่อกลับถึงบ้านได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม เธอก็ได้หายตัวไปเป็นเวลาสองวันสองคืนโดยไม่มีเหตุผลเลย สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือไม่มีจุดไหนบนร่างกายของเธอที่ไม่มีรอยฟกช้ำเลยนอกจากนี้ เอเลนยังสูญเสียฟันหน้าสองซี่ของเธอ และเธอดูเศร้าหมองมากในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เล่นเป็นพระเอกมองไปที่เอเลนก่อนจะพูดอย่างเฉยเมยว่า “ทำไมไม่ทำอย่างนี้ล่ะ? ผมจะให้แนวคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรบอกกับครอบครัวของคุณ หลังจากนั้นเราจะหารือเรื่องนี้ และตัดสินใจว่าเราต้องการปล่อยคุณไปหล
จาค็อบรีบอาบน้ำ และแต่งตัวทันที เขากินอะไรไม่ลงด้วยซ้ำเพราะเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อแคลร์เห็นเขา เธอก็ถามเขาทันทีว่า “พ่อคะ พ่อจะไปไหนตั้งแต่เช้า?”จาค็อบตอบอย่างร่าเริงว่า “พ่อนัดอาฮอลล์ไว้ วันนี้เราสองคนจะไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าด้วยกันเพราะเธอไม่ได้กลับมาที่โอลรัส ฮิลล์ มากว่ายี่สิบปีแล้ว!”เมื่อแคลร์ได้ยินเรื่องนี้ เธอก็โกรธ และโพล่งออกมาว่า “แม่หายตัวไปนานกว่าสองวันสองคืนแล้ว และไม่มีข่าวเกี่ยวกับแม่เลย ทำไมพ่อถึงยังออกไปเที่ยวกับอาฮอลล์ในเวลาแบบนี้? ไม่ออกไปช่วยตามหาแม่หน่อยเหรอ?”“ก็…” จาค็อบหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “ก็ลูกกับชาร์ลีกำลังตามหาแม่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ลูกทั้งสองยังเด็กอยู่ คงจะดีกว่าถ้าพวกลูกจะออกไปตามหาแม่เองแทนที่จะพึ่งพาคนแก่อย่างพ่อ! พ่อจะรออย่างอดทนสำหรับข่าวดีของลูกแล้วกันนะ!”แคลร์ตอบอย่างโกรธเคืองว่า “พ่อคะ ถ้าพ่อยังทำแบบนี้ต่อไป หนูจะโกรธพ่อจริง ๆ แล้วนะ! ทำไมพ่อถึงยังแยกแยะลำดับความสำคัญไม่ได้แม้กระทั่งในเวลาแบบนี้ การไปกับคุณอาฮอลล์มีความสำคัญกับพ่อมากกว่าความปลอดภัยของแม่ในตอนนี้อีกหรือคะ? วันนี้การไปเยี่ยมมหาลัยเก่าของพ่อสำคัญหรือเร่งด่วนขนาดนั้น
จาค็อบแต่งตัวเหมือนเพิ่งกลับจากต่างประเทศ วันนี้เขาดูหล่อและมีสไตล์มากคราวนี้ทั้งจาค็อบและมาทิลด้ามีความเข้าใจกันโดยปริยาย จาค็อบไม่ได้พาชาร์ลีไปด้วย และมาทิลด้าก็ไม่ได้พาพอลลูกชายของเธอมาด้วยเช่นกันเจคอบขับรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5ของเขาเองไปที่แชงกรีลาเพื่อรับมาทิลด้า เพื่อที่พวกเขาจะได้ไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าด้วยกันมาทิลด้าสวมเสื้อโค้ทขนสัตว์สีเทาตัวยาว วันนี้เธอดูมีระดับและสง่างามมาก จาค็อบรู้สึกทึ่งมากเมื่อเห็นมาทิลด้ายืนอยู่ที่ทางเข้าโรงแรมแชงกรีลาเขารีบลงจากรถเพื่อเปิดประตูรถให้มาทิลด้า ในเวลานี้ เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาว่า “มาทิลด้า วันนี้เธอแต่งตัวสวยมากเลย!”มาทิลด้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ฉันแก่แล้ว แล้วฉันจะสวยได้ขนาดนั้นได้ยังไงกันล่ะ? วันนี้ฉันเลยตัดสินใจดูแลตัวเอง และแต่งตัวให้สวยขึ้นอีกนิดเพราะเราจะกลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่าของเราในวันนี้ ฉันไม่ต้องการนำความอับอายมาสู่โรงเรียนเก่าของฉันหรอกนะ!”หลังจากนั้น มาทิลด้าพูดต่อว่า “นอกจากนี้ วันนี้เราจะมีเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเราด้วย”“ใช่ จริงด้วย!” จาค็อบแตะหน้าผากเบา ๆ ก่อนพูดว่า “ลองดูที่ความทรงจำของ
จาค็อบพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่นึกถึงงานเลี้ยงรุ่นในครั้งก่อน ในระหว่างงานเลี้ยงรุ่นนั้น เพื่อนร่วมชั้นเก่าหลายคนล้อจาค็อบเกี่ยวกับรักสามเส้าระหว่างเขากับมาทิลด้า และเอเลนในเวลานี้ จาค็อบจึงบอกมาทิลด้าอย่างจริงจังว่า “มาทิลด้า เพื่อนร่วมชั้นเก่าบางคนของเราจะหยอกล้อเราอย่างแน่นอนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นระหว่างงานเลี้ยงรุ่นในวันนี้ ฉันหวังว่าเธอจะไม่คิดมากนะ และเธอก็ไม่ควรเก็บเอามาคิดมากด้วย พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มคนที่หยาบคายและแก่เท่านั้นแหละ!”มาทิลด้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่รังเกียจถ้าพวกเขาจะล้อเล่น ตราบใดที่พวกเขาไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ถ้าฉันกลัวจริง ๆ ว่าพวกเขาจะมาพูดถึงเรื่องของฉัน ฉันคงไม่จัดให้มีการเลี้ยงรุ่นในวันนี้! เพื่อนร่วมชั้นเก่าของเราทุกคนไม่ได้เจอฉันมากว่ายี่สิบปีแล้ว! จะมาแกล้งฉันตอนนี้เพื่ออะไรกันล่ะ?”***เมื่อพวกเขามาถึงมหาวิทยาลัยเนชันแนล เบลล์ไฮท์ จาค็อบจอดรถไว้ที่ลานจอดรถใกล้ทางเข้าโรงเรียน หลังจากนั้นจาค็อบ และมาทิลด้าเดินเคียงข้างกันขณะมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยเนื่องจากชั้นเรียนได้เริ่มขึ้นแล้ว มันจึงเงียบมากในเวลานี้ทั้งสองเดินบนถนนคอ
จาค็อบจงใจพูดถึงป่าเพราะเขาอยากเห็นมาทิลด้าหน้าแดงแม้ว่าเธอจะเป็นคนที่สงบและสำรวมมาก แต่เธอก็ยังคงเขินอายเมื่อนึกถึงความไร้เดียงสาอันเกินควรและอดีตอันหวานชื่นของพวกเขา ที่ทั้งคู่มีร่วมกันจาค็อบรู้สึกว่าเขาจะต้องทำให้มาทิลด้าคิดถึงอดีตให้มากขึ้น หากเขาเตือนเธอถึงอดีตที่ทำให้ใจเธอรู้สึกว้าวุ่นใจได้ เขาก็จะสามารถจุดไฟในใจเธอได้อย่างแน่นอน ไฟที่รอเขามานานกว่ายี่สิบปีมาทิลด้าเข้าใจเจตนาของจาค็อบอยู่แล้ว เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยความเขินอาย ในเวลานี้ เธอโพล่งออกมาว่า “แล้วอาจารย์ใหญ่ของพวกเราเป็นยังไงบ้าง?”จาค็อบตอบว่า “เขาสบายดี แต่ตอนนี้ขยับขาไม่ค่อยสะดวก ในตอนการรวมตัวเพื่อนร่วมชั้นเรียนครั้งสุดท้ายของเรา เราเชิญเขากลับมาที่โรงเรียนเพื่อให้เขาสอนบรรยายให้พวกเราฟังในห้อง!"จริงหรือ?" มาทิลด้าถอนหายใจขณะที่เธอพูดว่า “น่าเสียดายจริง ๆ ที่ฉันไม่สามารถไปรวมตัวกับเพื่อน ๆ ได้!”จาค็อบยิ้มก่อนจะพูดว่า “วันนั้นเป็นการรวมตัวกันเล็ก ๆ เราได้เจอแค่เพื่อนร่วมชั้นเก่าบางคนที่ยังอยู่ในโอลรัส ฮิลล์ หรืออยู่ใกล้ โอลรัส ฮิลล์ เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ในวันนั้นมีแต่กลุ่มผู้ชายเท่านั้นที่เจอกัน!”