แชร์

กลรติรส
กลรติรส
ผู้แต่ง: พิมพ์พิรดา

บทนำ

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-24 01:21:00

ช่วงเย็นของร้านชาบูแบบบุฟเฟ่ต์ใจกลางห้างดังเนืองแน่นด้วยลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามารับประทาน โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีการเลี้ยงฉลองรับปริญญาของเหล่าบัญฑิตจบใหม่จึงทำให้บรรยากาศของร้านคึกคักเป็นพิเศษ

“ต้องรอคิวนานไหมคะ”

พนักงานหน้าร้านเงยหน้ามองลูกค้าสาวที่คงเป็นหนึ่งในเหล่าบัณฑิตจบใหม่เพราะเธอสวมชุดนักศึกษาและมีชุดครุยพาดที่แขนเรียวสวย ใบหน้าหมดจดสะดุดตาแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆ แต่กลับดูงามผุดผ่อง ที่โดดเด่นคือดวงตากลมโตที่คมกริบดูเฉลียวฉลาดและเอาเรื่องคู่นั้น

“ไม่ทราบว่ามากี่ท่านคะ”

“สองค่ะ”

“ถ้าเป็นแบบโต๊ะรวมก็อีกสามคิวเท่านั้นค่ะ แต่ถ้านั่งแบบเดี่ยวๆ แยกหม้อ ก็รออีกหกคิวค่ะ สนใจแบบไหนดีคะ”

“โต๊ะรวมค่ะ ลงชื่อจองคือรุจารินนะคะ” บัณฑิตสาวหน้าใสเอ่ย พร้อมกับรอรับบัตรจองคิว และเดินกลับไปหาหญิงวัยกลางคนที่ยืนรอบริเวณหน้าร้าน

“แม่นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ รออีกสามคิวเท่านั้นเอง”

“คนเยอะแบบนี้ไว้เราค่อยมาวันหลังไม่ดีหรือลูก หรือไปกินที่ร้านอื่นก็ได้ ร้านหมูกะทะแถวบ้านเราไงลูก ราคาไม่แพงด้วย”

รุจาริน พิชารักษ์ หรือ จ๋า ส่งยิ้มหวานให้มารดา เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดคำนวนค่าอาหารในใจด้วยความเสียดายเงินทั้งที่เธอยืนยันว่าจะเป็นคนรับผิดชอบออกค่าอาหารมื้อพิเศษนี้เองก็ตาม

“โธ่...แม่ขา กินหมูกะทะมันหัวเหม็นนี่คะแม่ วันนี้แม่ของจ๋าแต่งตัวสวยขนาดนี้ เดินหัวเหม็นหึ่งมันจะดีเหรอคะ กินที่นี่แหละ แอร์เย็นๆ อาหารดีๆ ถือว่านานๆ ทีนะคะ”

“แต่ราคามันแพงนะลูก เก็บเงินไม่ดีกว่าเหรอ”

“แหม เลี้ยงแม่แค่คนเดียวเองจะสิ้นเปลืองอะไรนักหนาล่ะคะ ทีแม่เย็บผ้าทำขนมจนมือจะหงิกเลี้ยงดูจ๋าแถมส่งเรียนจนจบปริญญาตั้งกี่ปี หมดเปลืองไปตั้งเท่าไหร่ อีกอย่างตอนนี้จ๋าก็เรียนจบแถมยังได้งานแล้วด้วย ต่อไปนี้จะพาแม่มากินของอร่อยๆ ทุกอาทิตย์ก็ยังได้เลย”

“เก็บเงินไว้ดีกว่าลูก อนาคตหนูยังอีกยาวไกล ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีกหน่อยจะลำบาก”

“โถ...คุณนายดารินเจ้าขา เท่าที่ผ่านมาเราก็ลำบากกันจนชินอยู่แล้วนี่คะ ตอนนี้จ๋าก็แค่อยากให้แม่สบายขึ้นบ้าง อยากกินอะไร อยากเที่ยวที่ไหนก็บอกได้เลยนะคะ ถ้าจ๋าทำงานได้เงินมาก็จะให้แม่ไว้ใช้เยอะๆ เลย แม่จะได้ไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำขนมให้เหนื่อยไงคะ ต่อไปลูกสาวคนนี้จะเลี้ยงดูแม่เองนะคะ”

นางดารินมองใบหน้างามผุดผาดของบุตรีอย่างภาคภูมิใจ ถึงชีวิตที่ผ่านมาจะเหน็ดเหนื่อยลำบากยากเข็ญแค่ไหน นางก็เต็มใจทำเพื่อลูกได้เสมอ ในเมื่อรุจารินคือความหวังเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของนาง

“คิวที่สามเชิญค่ะ”

“ไปกันเถอะแม่ ได้เวลาอิ่มพุงแตกแล้ว” ว่าพลางฉุดแขนมารดาให้เดินเข้าร้านอย่างร่าเริง โดยไม่ทันเห็นใครคนหนึ่งที่ก้าวพรวดสวนออกจากร้านมาจนชนเข้าเต็มรัก ร่างระหงเซถอยหลังไปเพียงสองสามก้าว ในขณะที่คนชนนั้นล้มก้นจ้ำเบ้าไปกองกับพื้น

“อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” ความเคยชินทำให้หญิงสาวเอ่ยไปโดยอัตโนมัติโดยไม่คิดอะไรมาก พลางยื่นมือไปหมายช่วยฉุดอีกฝ่ายลุกขึ้น

“ตาบอดหรือไงยะ ถึงเดินไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้” เสียงแหลมชวนแสบแก้วหูแหวสวนกลับมาแบบเอาเรื่อง มือที่ยื่นไปจึงหดกลับอย่างเสียความรู้สึก หากยังไม่ทันที่รุจารินจะได้โต้กลับคู่กรณี ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

“เป็นไงบ้างคุณณี เจ็บหรือเปล่า” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาช่วยประคองหญิงผู้นั้นลุกขึ้น

เมื่อมองเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ รุจารินก็ถึงกับเย็นวาบไปทั้งร่าง หัวใจแทบหยุดเต้นในวินาทีนั้น

“เจ็บสิพี่ยะถามได้ แหม...เล่นชนมาซะแรงเลย ไม่รู้ตายอดตายอยากจากไหนถึงได้รีบร้อนกันนัก สงสัยไม่เคยกินชาบู”

คำนั้นทำให้คนฟังถึงกับหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ ดีที่มารดาคอยดึงแขนปรามเธอไว้กลัวจะมีเรื่อง แต่เมื่อนางดารินได้เห็นคนตรงหน้าทั้งสองก็ถึงกับนิ่งงันไปไม่ต่างกับลูกสาว

“พี่ยะ!”

ชายกลางคนผู้นั้นชะงักกึกก่อนเงยหน้าขึ้นมองมาที่พวกเธออย่างตกตะลึง

“ดาริน...ลูกจ๋า...”

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านมาถึงสิบสามปีเต็ม รุจารินไม่คิดเลยว่าจะได้พบคนพวกนี้อีกครั้ง!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลรติรส    อดีตฝังจำ

    รุจาริน พิชารักษ์ ไม่เคยลบเลือนภาพในวันนั้นออกไปจากสมองและหัวใจได้ แม้เวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี เธอจำได้แม่นว่ามันคือวันเกิดปีที่ครบรอบสิบขวบ และยังเป็นวันที่ผลสอบปลายภาคออกอีกด้วยเด็กหญิงรุจาริน เปรมจิตติ ในวันนั้นเดินแกมวิ่งไปบนถนนที่ทอดไปสู่บ้านน้อยกลางซอยของเธอด้วยใจที่เบิกบานที่หนึ่งอีกครั้ง!ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มยิ้มร่า อันที่จริงก็ไม่ต่างจากทุกครั้งตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เด็กหญิงไม่เคยมีผลการเรียนต่ำกว่าที่หนึ่งของห้องเลยสักครั้ง แต่ที่พิเศษคือครั้งนี้พ่อของเธอสัญญาว่าจะซื้อจักรยานให้ลูกสาวคนเก่งไว้ขับไปโรงเรียน หลังจากที่เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัดอยู่นานกว่าสองปี และพ่อคงจะพาเธอและแม่ไปทานอะไรอร่อยๆ ฉลอง พร้อมกับมีขนมเค้กสวยๆ มาให้เธอเป่าเทียนวันเกิดด้วย ส่วนนางดารินแม่ของเธอนั้นให้ของขวัญก่อนล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มันคือชุดเดรสสีชมพูแสนหวานที่ตัดเย็บเองกับมือ ซึ่งเธอรบเร้าอยากได้ เพื่อใส่ไปงานฉลองปิดภาคเรียนที่เธอได้รับเลือกให้แสดงโชว์บนเวทีนั่นไง! รถเก๋งของพ่อเธอจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว เด็กหญิงยิ้มร่า หัวใจพองโต มันนานมากที่เธอไม่ได้เจอพ่อ ความคิดถึงท่วมท้นหัวใจ มือที่กำสมุดพกสั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จะให้อยู่กันแบบสามคนผัวเมียเนี่ยนะ

    “เอ่อ...”“อุ๊ยต๊าย...นี่คงเป็นหนูจ๋าลูกสาวคุณใช่ไหมคะ หน้าตาสวยน่ารักจริง” น้ำเสียงแหลมใสเอ่ยทักเป็นคำแรก หากนัยน์ตาคนพูดกลับไม่ได้ยิ้มแย้มเท่าปากของนาง “ฉันชื่อปราณีนะ ส่วนนี่ก็คือปิยะดาหรือหนูแป้ง น้องสาวของหนูไงละจ๊ะ”“น้องสาว!” รุจารินทวนคำอย่างฉงน เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอรับรู้ว่าเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เคยคิดว่าอยากมีน้องเหมือนกัน แต่แม่เธอไม่ค่อยแข็งแรงนัก ตอนเธอคลอดก็ลำบากจนแทบจะเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกด้วยซ้ำ แล้วน้องสาวตรงหน้านี่โผล่มาจากไหน “แต่จ๋าเป็นลูกคนเดียว! ไม่เคยมีน้องสาว”“ยายจ๋า! ฟังพ่อก่อนลูก”“หยุดนะ! พี่ยะ อย่าได้เอาเรื่องรกหูนี่มาพูดกับลูกสาวคนเดียวของฉัน พี่จะไปทำตัวเหลวไหลเละเทะหรือไปมั่วกับใครยังไงมาก็อย่าได้ทำให้ลูกฉันต้องมารับรู้เรื่องเลวๆ นี่” นางดารินตวาดใส่เสียงสั่นเครือ นางพยายามประคองตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลโดยมีลูกสาวตัวน้อยช่วยประคับประคอง แม้จะข่มใจให้เข้มแข็งทั้งๆ ที่ภายในหัวใจมันแหลกราญด้วยฝีมือคนที่รักจนชาไปหมดแล้ว เมื่อต้องเป็นหลักให้ลูกสาวสุดที่รัก เธอจะอ่อนแอไม่ได้“นี่ดา พี่บอกแล้วไงว่าให้พูดกันดีๆ คุณณีกับลูกเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกันกับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จะไปไหนก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเลย

    “ถ้าไม่ยอม เธอก็ต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วละ เพราะบ้านนี้คุณณีจ่ายเงินไถ่ถอนมาเป็นชื่อเขาเสียแล้ว”“แปลว่า...พี่เลือกผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ” นางดารินแผดเสียงใส่สามีชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อน น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มด้วยความผิดหวังสุดขีด“พี่เสียใจ...แต่พี่ทิ้งคุณณีกับลูกแป้งไม่ได้”สองแม่ลูกรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางหัวใจ รุจารินมองหน้าพ่อสุดที่รักของเธออย่างไม่เชื่อหู ผู้ชายเห็นแก่ตัวตรงหน้านี่คือพ่อของเธอจริงๆ งั้นหรือ ทำไมเขาช่างพูดง่ายเหลือเกิน นี่เป็นบ้านที่เธอกับแม่อาศัยมาตั้งแต่เธอเกิด แต่จู่ๆ ก็มากลายเป็นของคนอื่น ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยมาทีหลัง และมาแย่งพ่อไปจากเธอกับแม่ หัวใจเด็กหญิงวัยเพียงสิบปีแทบแตกสลาย เสียพ่อ เสียบ้าน ทุกอย่างพังทลายไปเพราะน้ำมือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด“ไปกันเถอะลูกจ๋า...” นางดารินหันมาเอ่ยด้วยเสียงเครือแต่เด็ดขาด “ลำบากหน่อยแต่แม่จะไม่ยอมทิ้งให้ลูกต้องอยู่กับคนทรยศพวกนี้ให้ถูกรังแก เราไปตายเอาดาบหน้าก็ได้นะลูกนะ”“ดาริน! ทำไมสิ้นคิดแบบนี้ จะเอาลูกไปลำบากทำไม” นายปิยะต่อว่าภรรยาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตอย่างหัวเสีย “ถ้าเธอจะไปก็ไปคนเดียว ทิ้งให้ลูกจ๋าอยู่ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้าน

    หากไม่เห็นภรรยาเก่าที่เดินตามมา เขาคงไม่รู้ว่าเป็นลูกสาว“เอ๊ะ! นั่นชุดครุยนี่นา” ชายกลางคนอุทานด้วยสุ้มเสียงตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายภูมิใจจนปิดไม่มิด“นี่หนูเรียนจบปริญญาแล้วหรือลูก”รุจารินตอบกลับคำถามนั้นด้วยสายตาเย็นชาหมางเมิน ก่อนหันมาเอ่ยกับผู้เป็นมารดาที่ยังคงอึ้งไม่หายเพราะไม่ได้คิดเตรียมใจมาก่อน“แม่คะ จ๋าไม่อยากกินร้านนี้แล้ว เราไปที่อื่นดีกว่านะคะ”“ต๊าย! ยังจองหองเหมือนแม่ไม่มีผิด” ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ยามตวัดมองคนสาระแนพูดแทรกอย่างไม่พอใจ พอรับรู้ได้ถึงอาการมือสั่นของมารดาที่คงตกใจไม่น้อย ทำให้เธอกระชับมือข้างนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย วันนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกแม่ได้อีก ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ!“หึ! จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้านไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวลอยหน้าเอ่ยหน้าตาเฉย ปกติเธอไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ยอมอยู่เฉยหากโดนใครมาหาเรื่อง“เอ๊ะ! แก...”นางปราณีชักสีหน้าใส่ รู้สึกขัดตาเมื่อเห็นความสำเร็จของลูกติดสามี พอนึกเปรียบเทียบกับลูกสาวตนที่หัวไม่ค่อยดีจนเกือบเรียนซ้ำชั้นก็รู้สึกอิจฉา ยิ่งความงามนั้นยิ่งไม่ต้องเทียบกัน เพราะปิยะดาดูจืดสนิทยามยืนเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า ไม่บอก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย

    “แม่คะ...” หญิงสาวกระชับมือมารดามากุมไว้แน่น “แม่ยังมีจ๋าทั้งคนนะคะ ทุกวันนี้เรามีกันแค่สองคนก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือคะ”“จ้ะ...จ้ะลูก” นางดารินข่มเสียงไม่ให้สั่นพลางฝืนยิ้มตอบลูกสาว ทั้งที่กระบอกตาปวดแสบปวดร้อนจนแทบจะกลั้นความชอกช้ำไม่ไหว“จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย”“ประจบขนาดนี้อยากได้ของขวัญอะไรว่ามาซิ”“โหย...แม่น่ะ รู้ทันอีกแล้ว” หญิงสาวก้มลงหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ก่อนยิ้มออดอ้อน “จ๋าไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ วันนี้เสียฤกษ์อดกินชาบูในห้างหรูแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งกินหมูกะทะแถวปากซอยบ้านดีกว่า วันนี้จ๋าเป็นเจ้ามือเอง”“ก็ไหนว่ากลัวหัวเหม็น” คนเป็นแม่เย้า“หัวเหม็นก็ดีกว่าหัวร้อนนะคะ ไปเถอะค่ะ นั่นแท็กซี่มาแล้ว” คนพูดยิ้มหวานประจบก่อนหันมาดักคอ “อ๊ะ! อย่ามาบอกให้นั่งรถเมล์เชียว เมื่อยขบมาทั้งวันแล้ว วันนี้หนูขอสบายบ้างซักวันนะคะ”นางดารินยิ้มอย่างรู้ทันว่าแท้จริงแล้วลูกสาวไม่อยากให้ตนต้องลำบากต่างหากโดยสองแม่ลูกหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบมองพวกเธออยู่ห่างๆ ด้วยจุดประสงค์บางอย่างที่แอบซุกซ่อนภายในใจ/////////////ร่างสูงระหงของหญิงสาววัยยี่สิบสามปีเดินแกมวิ่งไปบนถนนเส้นใหม่ที่พาเธอไปสู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

    นางดารินมองคนขี้อ้อนอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ฉลองทำงานวันแรกด้วยแกงส้มชะอมไข่ หมูทอด ปลานึ่งบ๊วย แล้วก็ตบท้ายด้วยบัวลอยไข่หวานของโปรดลูกสาวคนเก่งของแม่เป็นยังไง”“หูย...นี่แม่กะจะขุนลูกสาวให้อ้วนเป็นหมูเลยเหรอคะ เกิดหนูอ้วนจนใส่ชุดทำงานไม่ได้ขึ้นมาใครจะรับผิดชอบละคะเนี่ย”“จะยากอะไร แม่ก็แค่ตัดชุดใหม่ให้ลูกใส่เองก็เท่านั้น” รุจารินหัวเราะกิ๊ก“งั้นก็เตรียมตัดไว้เลยสิบชุดค่ะ เพราะวันนี้จ๋าจะทานข้าวสองจาน แถมบัวลอยอีกสองชามด้วย” คนพูดหอมแก้มมารดาอีกฟอดด้วยความรักใคร่ ก่อนเดินไปช่วยหยิบถ้วยจานมาจัดแจงตั้งโต๊ะเหมือนเช่นทุกวัน“แล้วเริ่มงานใหม่วันแรกเป็นยังไงบ้างล่ะลูก เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ จ๋าสบายมาก เห็นพี่ที่ทำงานบอกว่ากว่าเจ้านายโดยตรงของจ๋าจะกลับจากเมืองนอกก็ปลายๆ เดือนนู่น ตอนนี้จ๋าก็เลยต้องเรียนรู้งานทุกอย่างไปก่อน แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกสาวคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก งานแค่นี้สบายมาก”“จ้า...คนเก่ง กลับมาเหนื่อยๆ ก็ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไปลูก แล้วค่อยมากินข้าวกัน ที่เหลือแม่จัดการเอง”“ก็ได้ค่ะ” เจ้าของร่างโปร่งระหงยอมรามือเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว หากยังไม่ทันได้ทำตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24

บทล่าสุด

  • กลรติรส    แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

    นางดารินมองคนขี้อ้อนอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ฉลองทำงานวันแรกด้วยแกงส้มชะอมไข่ หมูทอด ปลานึ่งบ๊วย แล้วก็ตบท้ายด้วยบัวลอยไข่หวานของโปรดลูกสาวคนเก่งของแม่เป็นยังไง”“หูย...นี่แม่กะจะขุนลูกสาวให้อ้วนเป็นหมูเลยเหรอคะ เกิดหนูอ้วนจนใส่ชุดทำงานไม่ได้ขึ้นมาใครจะรับผิดชอบละคะเนี่ย”“จะยากอะไร แม่ก็แค่ตัดชุดใหม่ให้ลูกใส่เองก็เท่านั้น” รุจารินหัวเราะกิ๊ก“งั้นก็เตรียมตัดไว้เลยสิบชุดค่ะ เพราะวันนี้จ๋าจะทานข้าวสองจาน แถมบัวลอยอีกสองชามด้วย” คนพูดหอมแก้มมารดาอีกฟอดด้วยความรักใคร่ ก่อนเดินไปช่วยหยิบถ้วยจานมาจัดแจงตั้งโต๊ะเหมือนเช่นทุกวัน“แล้วเริ่มงานใหม่วันแรกเป็นยังไงบ้างล่ะลูก เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ จ๋าสบายมาก เห็นพี่ที่ทำงานบอกว่ากว่าเจ้านายโดยตรงของจ๋าจะกลับจากเมืองนอกก็ปลายๆ เดือนนู่น ตอนนี้จ๋าก็เลยต้องเรียนรู้งานทุกอย่างไปก่อน แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกสาวคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก งานแค่นี้สบายมาก”“จ้า...คนเก่ง กลับมาเหนื่อยๆ ก็ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไปลูก แล้วค่อยมากินข้าวกัน ที่เหลือแม่จัดการเอง”“ก็ได้ค่ะ” เจ้าของร่างโปร่งระหงยอมรามือเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว หากยังไม่ทันได้ทำตา

  • กลรติรส    จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย

    “แม่คะ...” หญิงสาวกระชับมือมารดามากุมไว้แน่น “แม่ยังมีจ๋าทั้งคนนะคะ ทุกวันนี้เรามีกันแค่สองคนก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือคะ”“จ้ะ...จ้ะลูก” นางดารินข่มเสียงไม่ให้สั่นพลางฝืนยิ้มตอบลูกสาว ทั้งที่กระบอกตาปวดแสบปวดร้อนจนแทบจะกลั้นความชอกช้ำไม่ไหว“จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย”“ประจบขนาดนี้อยากได้ของขวัญอะไรว่ามาซิ”“โหย...แม่น่ะ รู้ทันอีกแล้ว” หญิงสาวก้มลงหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ก่อนยิ้มออดอ้อน “จ๋าไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ วันนี้เสียฤกษ์อดกินชาบูในห้างหรูแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งกินหมูกะทะแถวปากซอยบ้านดีกว่า วันนี้จ๋าเป็นเจ้ามือเอง”“ก็ไหนว่ากลัวหัวเหม็น” คนเป็นแม่เย้า“หัวเหม็นก็ดีกว่าหัวร้อนนะคะ ไปเถอะค่ะ นั่นแท็กซี่มาแล้ว” คนพูดยิ้มหวานประจบก่อนหันมาดักคอ “อ๊ะ! อย่ามาบอกให้นั่งรถเมล์เชียว เมื่อยขบมาทั้งวันแล้ว วันนี้หนูขอสบายบ้างซักวันนะคะ”นางดารินยิ้มอย่างรู้ทันว่าแท้จริงแล้วลูกสาวไม่อยากให้ตนต้องลำบากต่างหากโดยสองแม่ลูกหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบมองพวกเธออยู่ห่างๆ ด้วยจุดประสงค์บางอย่างที่แอบซุกซ่อนภายในใจ/////////////ร่างสูงระหงของหญิงสาววัยยี่สิบสามปีเดินแกมวิ่งไปบนถนนเส้นใหม่ที่พาเธอไปสู่

  • กลรติรส    จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้าน

    หากไม่เห็นภรรยาเก่าที่เดินตามมา เขาคงไม่รู้ว่าเป็นลูกสาว“เอ๊ะ! นั่นชุดครุยนี่นา” ชายกลางคนอุทานด้วยสุ้มเสียงตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายภูมิใจจนปิดไม่มิด“นี่หนูเรียนจบปริญญาแล้วหรือลูก”รุจารินตอบกลับคำถามนั้นด้วยสายตาเย็นชาหมางเมิน ก่อนหันมาเอ่ยกับผู้เป็นมารดาที่ยังคงอึ้งไม่หายเพราะไม่ได้คิดเตรียมใจมาก่อน“แม่คะ จ๋าไม่อยากกินร้านนี้แล้ว เราไปที่อื่นดีกว่านะคะ”“ต๊าย! ยังจองหองเหมือนแม่ไม่มีผิด” ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ยามตวัดมองคนสาระแนพูดแทรกอย่างไม่พอใจ พอรับรู้ได้ถึงอาการมือสั่นของมารดาที่คงตกใจไม่น้อย ทำให้เธอกระชับมือข้างนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย วันนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกแม่ได้อีก ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ!“หึ! จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้านไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวลอยหน้าเอ่ยหน้าตาเฉย ปกติเธอไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ยอมอยู่เฉยหากโดนใครมาหาเรื่อง“เอ๊ะ! แก...”นางปราณีชักสีหน้าใส่ รู้สึกขัดตาเมื่อเห็นความสำเร็จของลูกติดสามี พอนึกเปรียบเทียบกับลูกสาวตนที่หัวไม่ค่อยดีจนเกือบเรียนซ้ำชั้นก็รู้สึกอิจฉา ยิ่งความงามนั้นยิ่งไม่ต้องเทียบกัน เพราะปิยะดาดูจืดสนิทยามยืนเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า ไม่บอก

  • กลรติรส    จะไปไหนก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเลย

    “ถ้าไม่ยอม เธอก็ต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วละ เพราะบ้านนี้คุณณีจ่ายเงินไถ่ถอนมาเป็นชื่อเขาเสียแล้ว”“แปลว่า...พี่เลือกผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ” นางดารินแผดเสียงใส่สามีชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อน น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มด้วยความผิดหวังสุดขีด“พี่เสียใจ...แต่พี่ทิ้งคุณณีกับลูกแป้งไม่ได้”สองแม่ลูกรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางหัวใจ รุจารินมองหน้าพ่อสุดที่รักของเธออย่างไม่เชื่อหู ผู้ชายเห็นแก่ตัวตรงหน้านี่คือพ่อของเธอจริงๆ งั้นหรือ ทำไมเขาช่างพูดง่ายเหลือเกิน นี่เป็นบ้านที่เธอกับแม่อาศัยมาตั้งแต่เธอเกิด แต่จู่ๆ ก็มากลายเป็นของคนอื่น ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยมาทีหลัง และมาแย่งพ่อไปจากเธอกับแม่ หัวใจเด็กหญิงวัยเพียงสิบปีแทบแตกสลาย เสียพ่อ เสียบ้าน ทุกอย่างพังทลายไปเพราะน้ำมือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด“ไปกันเถอะลูกจ๋า...” นางดารินหันมาเอ่ยด้วยเสียงเครือแต่เด็ดขาด “ลำบากหน่อยแต่แม่จะไม่ยอมทิ้งให้ลูกต้องอยู่กับคนทรยศพวกนี้ให้ถูกรังแก เราไปตายเอาดาบหน้าก็ได้นะลูกนะ”“ดาริน! ทำไมสิ้นคิดแบบนี้ จะเอาลูกไปลำบากทำไม” นายปิยะต่อว่าภรรยาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตอย่างหัวเสีย “ถ้าเธอจะไปก็ไปคนเดียว ทิ้งให้ลูกจ๋าอยู่ที่

  • กลรติรส    จะให้อยู่กันแบบสามคนผัวเมียเนี่ยนะ

    “เอ่อ...”“อุ๊ยต๊าย...นี่คงเป็นหนูจ๋าลูกสาวคุณใช่ไหมคะ หน้าตาสวยน่ารักจริง” น้ำเสียงแหลมใสเอ่ยทักเป็นคำแรก หากนัยน์ตาคนพูดกลับไม่ได้ยิ้มแย้มเท่าปากของนาง “ฉันชื่อปราณีนะ ส่วนนี่ก็คือปิยะดาหรือหนูแป้ง น้องสาวของหนูไงละจ๊ะ”“น้องสาว!” รุจารินทวนคำอย่างฉงน เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอรับรู้ว่าเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เคยคิดว่าอยากมีน้องเหมือนกัน แต่แม่เธอไม่ค่อยแข็งแรงนัก ตอนเธอคลอดก็ลำบากจนแทบจะเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกด้วยซ้ำ แล้วน้องสาวตรงหน้านี่โผล่มาจากไหน “แต่จ๋าเป็นลูกคนเดียว! ไม่เคยมีน้องสาว”“ยายจ๋า! ฟังพ่อก่อนลูก”“หยุดนะ! พี่ยะ อย่าได้เอาเรื่องรกหูนี่มาพูดกับลูกสาวคนเดียวของฉัน พี่จะไปทำตัวเหลวไหลเละเทะหรือไปมั่วกับใครยังไงมาก็อย่าได้ทำให้ลูกฉันต้องมารับรู้เรื่องเลวๆ นี่” นางดารินตวาดใส่เสียงสั่นเครือ นางพยายามประคองตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลโดยมีลูกสาวตัวน้อยช่วยประคับประคอง แม้จะข่มใจให้เข้มแข็งทั้งๆ ที่ภายในหัวใจมันแหลกราญด้วยฝีมือคนที่รักจนชาไปหมดแล้ว เมื่อต้องเป็นหลักให้ลูกสาวสุดที่รัก เธอจะอ่อนแอไม่ได้“นี่ดา พี่บอกแล้วไงว่าให้พูดกันดีๆ คุณณีกับลูกเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกันกับเ

  • กลรติรส    อดีตฝังจำ

    รุจาริน พิชารักษ์ ไม่เคยลบเลือนภาพในวันนั้นออกไปจากสมองและหัวใจได้ แม้เวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี เธอจำได้แม่นว่ามันคือวันเกิดปีที่ครบรอบสิบขวบ และยังเป็นวันที่ผลสอบปลายภาคออกอีกด้วยเด็กหญิงรุจาริน เปรมจิตติ ในวันนั้นเดินแกมวิ่งไปบนถนนที่ทอดไปสู่บ้านน้อยกลางซอยของเธอด้วยใจที่เบิกบานที่หนึ่งอีกครั้ง!ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มยิ้มร่า อันที่จริงก็ไม่ต่างจากทุกครั้งตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เด็กหญิงไม่เคยมีผลการเรียนต่ำกว่าที่หนึ่งของห้องเลยสักครั้ง แต่ที่พิเศษคือครั้งนี้พ่อของเธอสัญญาว่าจะซื้อจักรยานให้ลูกสาวคนเก่งไว้ขับไปโรงเรียน หลังจากที่เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัดอยู่นานกว่าสองปี และพ่อคงจะพาเธอและแม่ไปทานอะไรอร่อยๆ ฉลอง พร้อมกับมีขนมเค้กสวยๆ มาให้เธอเป่าเทียนวันเกิดด้วย ส่วนนางดารินแม่ของเธอนั้นให้ของขวัญก่อนล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มันคือชุดเดรสสีชมพูแสนหวานที่ตัดเย็บเองกับมือ ซึ่งเธอรบเร้าอยากได้ เพื่อใส่ไปงานฉลองปิดภาคเรียนที่เธอได้รับเลือกให้แสดงโชว์บนเวทีนั่นไง! รถเก๋งของพ่อเธอจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว เด็กหญิงยิ้มร่า หัวใจพองโต มันนานมากที่เธอไม่ได้เจอพ่อ ความคิดถึงท่วมท้นหัวใจ มือที่กำสมุดพกสั

  • กลรติรส    บทนำ

    ช่วงเย็นของร้านชาบูแบบบุฟเฟ่ต์ใจกลางห้างดังเนืองแน่นด้วยลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามารับประทาน โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีการเลี้ยงฉลองรับปริญญาของเหล่าบัญฑิตจบใหม่จึงทำให้บรรยากาศของร้านคึกคักเป็นพิเศษ“ต้องรอคิวนานไหมคะ”พนักงานหน้าร้านเงยหน้ามองลูกค้าสาวที่คงเป็นหนึ่งในเหล่าบัณฑิตจบใหม่เพราะเธอสวมชุดนักศึกษาและมีชุดครุยพาดที่แขนเรียวสวย ใบหน้าหมดจดสะดุดตาแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆ แต่กลับดูงามผุดผ่อง ที่โดดเด่นคือดวงตากลมโตที่คมกริบดูเฉลียวฉลาดและเอาเรื่องคู่นั้น“ไม่ทราบว่ามากี่ท่านคะ”“สองค่ะ”“ถ้าเป็นแบบโต๊ะรวมก็อีกสามคิวเท่านั้นค่ะ แต่ถ้านั่งแบบเดี่ยวๆ แยกหม้อ ก็รออีกหกคิวค่ะ สนใจแบบไหนดีคะ”“โต๊ะรวมค่ะ ลงชื่อจองคือรุจารินนะคะ” บัณฑิตสาวหน้าใสเอ่ย พร้อมกับรอรับบัตรจองคิว และเดินกลับไปหาหญิงวัยกลางคนที่ยืนรอบริเวณหน้าร้าน“แม่นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ รออีกสามคิวเท่านั้นเอง”“คนเยอะแบบนี้ไว้เราค่อยมาวันหลังไม่ดีหรือลูก หรือไปกินที่ร้านอื่นก็ได้ ร้านหมูกะทะแถวบ้านเราไงลูก ราคาไม่แพงด้วย”รุจาริน พิชารักษ์ หรือ จ๋า ส่งยิ้มหวานให้มารดา เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดคำนวนค่าอาหารในใจด้วยความเสียดายเงินท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status