หน้าหลัก / โรแมนติก / กลรติรส / แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

แชร์

แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-24 01:28:04

นางดารินมองคนขี้อ้อนอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ฉลองทำงานวันแรกด้วยแกงส้มชะอมไข่ หมูทอด ปลานึ่งบ๊วย แล้วก็ตบท้ายด้วยบัวลอยไข่หวานของโปรดลูกสาวคนเก่งของแม่เป็นยังไง”

“หูย...นี่แม่กะจะขุนลูกสาวให้อ้วนเป็นหมูเลยเหรอคะ เกิดหนูอ้วนจนใส่ชุดทำงานไม่ได้ขึ้นมาใครจะรับผิดชอบละคะเนี่ย”

“จะยากอะไร แม่ก็แค่ตัดชุดใหม่ให้ลูกใส่เองก็เท่านั้น” รุจารินหัวเราะกิ๊ก

“งั้นก็เตรียมตัดไว้เลยสิบชุดค่ะ เพราะวันนี้จ๋าจะทานข้าวสองจาน แถมบัวลอยอีกสองชามด้วย” คนพูดหอมแก้มมารดาอีกฟอดด้วยความรักใคร่ ก่อนเดินไปช่วยหยิบถ้วยจานมาจัดแจงตั้งโต๊ะเหมือนเช่นทุกวัน

“แล้วเริ่มงานใหม่วันแรกเป็นยังไงบ้างล่ะลูก เหนื่อยไหม”

“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ จ๋าสบายมาก เห็นพี่ที่ทำงานบอกว่ากว่าเจ้านายโดยตรงของจ๋าจะกลับจากเมืองนอกก็ปลายๆ เดือนนู่น ตอนนี้จ๋าก็เลยต้องเรียนรู้งานทุกอย่างไปก่อน แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกสาวคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก งานแค่นี้สบายมาก”

“จ้า...คนเก่ง กลับมาเหนื่อยๆ ก็ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไปลูก แล้วค่อยมากินข้าวกัน ที่เหลือแม่จัดการเอง”

“ก็ได้ค่ะ” เจ้าของร่างโปร่งระหงยอมรามือเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว หากยังไม่ทันได้ทำตามที่แม่บอก จู่ๆ ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นที่หน้าบ้านเสียก่อน

“เอ๊ะ ใครกันมาเวลานี้ หรือว่าคุณนายวารีมาเอาเสื้อที่ฝากซ่อมไว้”

“เดี๋ยวจ๋าไปดูให้เองค่ะแม่”

หน้าบ้านของเธอมีรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่จอดขวางอยู่หน้าบ้าน ทำให้รุจารินต้องเขม่นมองอย่างแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปี บ้านหลังนี้ไม่เคยมีแขกที่ไหนมาเยี่ยมเยียน นอกจากลูกค้าของแม่แค่ไม่กี่รายที่จะนัดมารับเสื้อผ้า หรือไม่ก็ขนมที่สั่งทำไว้เอง

รถคันนี้ก็คงเป็นลูกค้าแม่ที่เอาผ้ามาให้ซ่อมตามที่บอกกระมัง...

ยังไม่ทันได้คำตอบ เจ้าของรถคันนั้นก็ก้าวลงจากรถมายืนเกาะรั้วชะเง้อมองเข้าไปในบ้านเสียก่อน

“ลูกจ๋า! ลูกอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”

รุจารินชะงักกึก ยืนตัวแข็งทื่อตกตะลึงไปชั่วอึดใจ เมื่อเห็นว่าแขกผู้นั้นคือบิดาของตน ใจนึกอยากจะถอยกลับแล้ววิ่งหนีเข้าบ้านไป แต่ร่างกายมันไม่ยอมทำตาม ดวงตาคู่งามทอดมองชายมากวัยตรงหน้านิ่งนาน ก่อนที่จะรวบรวมสติถามอย่างเย็นชา

“ขอโทษค่ะ มาหาใครมิทราบ”

แขกผู้ไม่ได้รับเชิญสะดุ้งสุดตัวกับการต้อนรับที่แสนจะห่างเหินหมางเมินของลูกสาว

“ลูกจ๋า! พ่อมาหาลูกกับแม่ เปิดประตูหน่อยได้ไหมลูก”

คนฟังยังคงยืนนิ่ง พิจารณาแขกที่ไม่ได้รับเชิญตรงหน้า หลังจากที่พบกันเมื่อวันรับปริญญา ดูเหมือนวันนี้สภาพบิดาของเธอจะดูโทรมกว่าวันนั้นจนผิดตา เธออาจคิดมากไป

“เพิ่งกลับจากทำงานหรือลูก” นายปิยะถามเสียงอ่อน พลางกวาดมองเครื่องแต่งกายที่เธอสวมอย่างสนอกสนใจ

“คุณมาที่นี่ทำไม แล้วรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่” คำถามห่างเหินทำให้คนถูกถามแอบสะอึกไปนิดๆ

“พ่อคิดถึงหนูกับแม่ วันก่อนที่พบกันยังไม่ได้คุยกันเลย แล้วนี่แม่ของหนูไปไหนเสียล่ะ”

“ไม่อยู่ค่ะ” รุจารินตัดบทเสียงเรียบ ทำใจแข็งไม่ยอมเปิดประตูเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้เข้าบ้าน ในใจภาวนาให้แม่อย่าเพิ่งออกมาตอนนี้ แต่คำขอของเธอกลับไม่เป็นผล เมื่อร่างผอมบางของนางดารินเดินตามออกมา

“ใครมาน่ะลูก”

“ดาริน!”

ร่างผอมบางนิ่งงันไปอย่างตกตะลึง เมื่อเห็นอดีตสามีมายืนชะเง้ออยู่หน้าบ้าน

“แม่เข้าบ้านไปก่อนค่ะ เดี๋ยวทางนี้จ๋าจัดการเอง” คนเป็นลูกรีบหันไปบอกพลางเอาตัวเองบังผู้เป็นมารดาไว้ เธอยังจำภาพในวันนั้นได้แม่น วันที่พ่อตบแม่ของเธอ แถมยังตะคอกใส่หน้าสองแม่ลูกอย่างเลือดเย็น

‘จองหองนักทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าตกระกำลำบากจนทนไม่ไหวก็อย่าได้ซมซานกลับมาพึ่งฉันอีกก็แล้วกัน จะไปไหนก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเลย ไปเลย ไป๊’

ทุกคำล้วนติดแน่นฝังในหัวใจ แม้อยากจะสลัดทิ้งแค่ไหนเธอก็ไม่อาจทำได้สักครั้ง หากวันนี้คนตรงหน้าเข้ามาหาเรื่องแม่เธอถึงในบ้านล่ะก็ ลูกสาวคนนี้เป็นไม่ยอมแน่

“เดี๋ยวก่อนดาริน อย่าเพิ่งไป ผมมีเรื่องจะพูดด้วย ธุระสำคัญ”

นายปิยะรีบดักทางอดีตภรรยาก่อนที่อีกฝ่ายจะชิงเข้าบ้านไปเสียก่อน ด้วยสีหน้าร้อนรนท่าทางกระวนกระวาย

“แม่คะ...” คนเป็นลูกรีบกระตุกแขนมารดาไว้ พร้อมส่ายหน้า สายตามองมาด้วยความห่วงใย

“แม่ไม่เป็นไรจ้ะลูก คุณมีอะไรก็พูดตรงนี้เถอะค่ะ”

ชายมากวัยปรายตามองไปทางใบหน้าบึ้งตึงของลูกสาวอย่างอึดอัด เขาไม่คิดว่าลูกสาวตัวน้อยจะโตมาเป็นคนใจแข็ง โทษใครได้นอกจากพ่ออย่างเขาที่ทำให้หญิงสาวตรงหน้าเป็นเช่นนี้

“แต่ลูก...”

“ฉันไม่เคยมีความลับกับลูก”

“งั้นขอพี่เข้าไปด้านในได้ไหม คุยตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกหรอก” ผู้มาเยือนต่อรอง

“ลูกจ๋าเปิดประตูให้เขา”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลรติรส    บทนำ

    ช่วงเย็นของร้านชาบูแบบบุฟเฟ่ต์ใจกลางห้างดังเนืองแน่นด้วยลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามารับประทาน โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีการเลี้ยงฉลองรับปริญญาของเหล่าบัญฑิตจบใหม่จึงทำให้บรรยากาศของร้านคึกคักเป็นพิเศษ“ต้องรอคิวนานไหมคะ”พนักงานหน้าร้านเงยหน้ามองลูกค้าสาวที่คงเป็นหนึ่งในเหล่าบัณฑิตจบใหม่เพราะเธอสวมชุดนักศึกษาและมีชุดครุยพาดที่แขนเรียวสวย ใบหน้าหมดจดสะดุดตาแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆ แต่กลับดูงามผุดผ่อง ที่โดดเด่นคือดวงตากลมโตที่คมกริบดูเฉลียวฉลาดและเอาเรื่องคู่นั้น“ไม่ทราบว่ามากี่ท่านคะ”“สองค่ะ”“ถ้าเป็นแบบโต๊ะรวมก็อีกสามคิวเท่านั้นค่ะ แต่ถ้านั่งแบบเดี่ยวๆ แยกหม้อ ก็รออีกหกคิวค่ะ สนใจแบบไหนดีคะ”“โต๊ะรวมค่ะ ลงชื่อจองคือรุจารินนะคะ” บัณฑิตสาวหน้าใสเอ่ย พร้อมกับรอรับบัตรจองคิว และเดินกลับไปหาหญิงวัยกลางคนที่ยืนรอบริเวณหน้าร้าน“แม่นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ รออีกสามคิวเท่านั้นเอง”“คนเยอะแบบนี้ไว้เราค่อยมาวันหลังไม่ดีหรือลูก หรือไปกินที่ร้านอื่นก็ได้ ร้านหมูกะทะแถวบ้านเราไงลูก ราคาไม่แพงด้วย”รุจาริน พิชารักษ์ หรือ จ๋า ส่งยิ้มหวานให้มารดา เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดคำนวนค่าอาหารในใจด้วยความเสียดายเงินท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    อดีตฝังจำ

    รุจาริน พิชารักษ์ ไม่เคยลบเลือนภาพในวันนั้นออกไปจากสมองและหัวใจได้ แม้เวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี เธอจำได้แม่นว่ามันคือวันเกิดปีที่ครบรอบสิบขวบ และยังเป็นวันที่ผลสอบปลายภาคออกอีกด้วยเด็กหญิงรุจาริน เปรมจิตติ ในวันนั้นเดินแกมวิ่งไปบนถนนที่ทอดไปสู่บ้านน้อยกลางซอยของเธอด้วยใจที่เบิกบานที่หนึ่งอีกครั้ง!ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มยิ้มร่า อันที่จริงก็ไม่ต่างจากทุกครั้งตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เด็กหญิงไม่เคยมีผลการเรียนต่ำกว่าที่หนึ่งของห้องเลยสักครั้ง แต่ที่พิเศษคือครั้งนี้พ่อของเธอสัญญาว่าจะซื้อจักรยานให้ลูกสาวคนเก่งไว้ขับไปโรงเรียน หลังจากที่เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัดอยู่นานกว่าสองปี และพ่อคงจะพาเธอและแม่ไปทานอะไรอร่อยๆ ฉลอง พร้อมกับมีขนมเค้กสวยๆ มาให้เธอเป่าเทียนวันเกิดด้วย ส่วนนางดารินแม่ของเธอนั้นให้ของขวัญก่อนล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มันคือชุดเดรสสีชมพูแสนหวานที่ตัดเย็บเองกับมือ ซึ่งเธอรบเร้าอยากได้ เพื่อใส่ไปงานฉลองปิดภาคเรียนที่เธอได้รับเลือกให้แสดงโชว์บนเวทีนั่นไง! รถเก๋งของพ่อเธอจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว เด็กหญิงยิ้มร่า หัวใจพองโต มันนานมากที่เธอไม่ได้เจอพ่อ ความคิดถึงท่วมท้นหัวใจ มือที่กำสมุดพกสั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จะให้อยู่กันแบบสามคนผัวเมียเนี่ยนะ

    “เอ่อ...”“อุ๊ยต๊าย...นี่คงเป็นหนูจ๋าลูกสาวคุณใช่ไหมคะ หน้าตาสวยน่ารักจริง” น้ำเสียงแหลมใสเอ่ยทักเป็นคำแรก หากนัยน์ตาคนพูดกลับไม่ได้ยิ้มแย้มเท่าปากของนาง “ฉันชื่อปราณีนะ ส่วนนี่ก็คือปิยะดาหรือหนูแป้ง น้องสาวของหนูไงละจ๊ะ”“น้องสาว!” รุจารินทวนคำอย่างฉงน เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอรับรู้ว่าเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เคยคิดว่าอยากมีน้องเหมือนกัน แต่แม่เธอไม่ค่อยแข็งแรงนัก ตอนเธอคลอดก็ลำบากจนแทบจะเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกด้วยซ้ำ แล้วน้องสาวตรงหน้านี่โผล่มาจากไหน “แต่จ๋าเป็นลูกคนเดียว! ไม่เคยมีน้องสาว”“ยายจ๋า! ฟังพ่อก่อนลูก”“หยุดนะ! พี่ยะ อย่าได้เอาเรื่องรกหูนี่มาพูดกับลูกสาวคนเดียวของฉัน พี่จะไปทำตัวเหลวไหลเละเทะหรือไปมั่วกับใครยังไงมาก็อย่าได้ทำให้ลูกฉันต้องมารับรู้เรื่องเลวๆ นี่” นางดารินตวาดใส่เสียงสั่นเครือ นางพยายามประคองตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลโดยมีลูกสาวตัวน้อยช่วยประคับประคอง แม้จะข่มใจให้เข้มแข็งทั้งๆ ที่ภายในหัวใจมันแหลกราญด้วยฝีมือคนที่รักจนชาไปหมดแล้ว เมื่อต้องเป็นหลักให้ลูกสาวสุดที่รัก เธอจะอ่อนแอไม่ได้“นี่ดา พี่บอกแล้วไงว่าให้พูดกันดีๆ คุณณีกับลูกเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกันกับเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จะไปไหนก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเลย

    “ถ้าไม่ยอม เธอก็ต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วละ เพราะบ้านนี้คุณณีจ่ายเงินไถ่ถอนมาเป็นชื่อเขาเสียแล้ว”“แปลว่า...พี่เลือกผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ” นางดารินแผดเสียงใส่สามีชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อน น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มด้วยความผิดหวังสุดขีด“พี่เสียใจ...แต่พี่ทิ้งคุณณีกับลูกแป้งไม่ได้”สองแม่ลูกรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางหัวใจ รุจารินมองหน้าพ่อสุดที่รักของเธออย่างไม่เชื่อหู ผู้ชายเห็นแก่ตัวตรงหน้านี่คือพ่อของเธอจริงๆ งั้นหรือ ทำไมเขาช่างพูดง่ายเหลือเกิน นี่เป็นบ้านที่เธอกับแม่อาศัยมาตั้งแต่เธอเกิด แต่จู่ๆ ก็มากลายเป็นของคนอื่น ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยมาทีหลัง และมาแย่งพ่อไปจากเธอกับแม่ หัวใจเด็กหญิงวัยเพียงสิบปีแทบแตกสลาย เสียพ่อ เสียบ้าน ทุกอย่างพังทลายไปเพราะน้ำมือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด“ไปกันเถอะลูกจ๋า...” นางดารินหันมาเอ่ยด้วยเสียงเครือแต่เด็ดขาด “ลำบากหน่อยแต่แม่จะไม่ยอมทิ้งให้ลูกต้องอยู่กับคนทรยศพวกนี้ให้ถูกรังแก เราไปตายเอาดาบหน้าก็ได้นะลูกนะ”“ดาริน! ทำไมสิ้นคิดแบบนี้ จะเอาลูกไปลำบากทำไม” นายปิยะต่อว่าภรรยาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตอย่างหัวเสีย “ถ้าเธอจะไปก็ไปคนเดียว ทิ้งให้ลูกจ๋าอยู่ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้าน

    หากไม่เห็นภรรยาเก่าที่เดินตามมา เขาคงไม่รู้ว่าเป็นลูกสาว“เอ๊ะ! นั่นชุดครุยนี่นา” ชายกลางคนอุทานด้วยสุ้มเสียงตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายภูมิใจจนปิดไม่มิด“นี่หนูเรียนจบปริญญาแล้วหรือลูก”รุจารินตอบกลับคำถามนั้นด้วยสายตาเย็นชาหมางเมิน ก่อนหันมาเอ่ยกับผู้เป็นมารดาที่ยังคงอึ้งไม่หายเพราะไม่ได้คิดเตรียมใจมาก่อน“แม่คะ จ๋าไม่อยากกินร้านนี้แล้ว เราไปที่อื่นดีกว่านะคะ”“ต๊าย! ยังจองหองเหมือนแม่ไม่มีผิด” ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ยามตวัดมองคนสาระแนพูดแทรกอย่างไม่พอใจ พอรับรู้ได้ถึงอาการมือสั่นของมารดาที่คงตกใจไม่น้อย ทำให้เธอกระชับมือข้างนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย วันนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกแม่ได้อีก ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ!“หึ! จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้านไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวลอยหน้าเอ่ยหน้าตาเฉย ปกติเธอไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ยอมอยู่เฉยหากโดนใครมาหาเรื่อง“เอ๊ะ! แก...”นางปราณีชักสีหน้าใส่ รู้สึกขัดตาเมื่อเห็นความสำเร็จของลูกติดสามี พอนึกเปรียบเทียบกับลูกสาวตนที่หัวไม่ค่อยดีจนเกือบเรียนซ้ำชั้นก็รู้สึกอิจฉา ยิ่งความงามนั้นยิ่งไม่ต้องเทียบกัน เพราะปิยะดาดูจืดสนิทยามยืนเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า ไม่บอก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • กลรติรส    จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย

    “แม่คะ...” หญิงสาวกระชับมือมารดามากุมไว้แน่น “แม่ยังมีจ๋าทั้งคนนะคะ ทุกวันนี้เรามีกันแค่สองคนก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือคะ”“จ้ะ...จ้ะลูก” นางดารินข่มเสียงไม่ให้สั่นพลางฝืนยิ้มตอบลูกสาว ทั้งที่กระบอกตาปวดแสบปวดร้อนจนแทบจะกลั้นความชอกช้ำไม่ไหว“จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย”“ประจบขนาดนี้อยากได้ของขวัญอะไรว่ามาซิ”“โหย...แม่น่ะ รู้ทันอีกแล้ว” หญิงสาวก้มลงหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ก่อนยิ้มออดอ้อน “จ๋าไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ วันนี้เสียฤกษ์อดกินชาบูในห้างหรูแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งกินหมูกะทะแถวปากซอยบ้านดีกว่า วันนี้จ๋าเป็นเจ้ามือเอง”“ก็ไหนว่ากลัวหัวเหม็น” คนเป็นแม่เย้า“หัวเหม็นก็ดีกว่าหัวร้อนนะคะ ไปเถอะค่ะ นั่นแท็กซี่มาแล้ว” คนพูดยิ้มหวานประจบก่อนหันมาดักคอ “อ๊ะ! อย่ามาบอกให้นั่งรถเมล์เชียว เมื่อยขบมาทั้งวันแล้ว วันนี้หนูขอสบายบ้างซักวันนะคะ”นางดารินยิ้มอย่างรู้ทันว่าแท้จริงแล้วลูกสาวไม่อยากให้ตนต้องลำบากต่างหากโดยสองแม่ลูกหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบมองพวกเธออยู่ห่างๆ ด้วยจุดประสงค์บางอย่างที่แอบซุกซ่อนภายในใจ/////////////ร่างสูงระหงของหญิงสาววัยยี่สิบสามปีเดินแกมวิ่งไปบนถนนเส้นใหม่ที่พาเธอไปสู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24

บทล่าสุด

  • กลรติรส    แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

    นางดารินมองคนขี้อ้อนอย่างเอ็นดูรักใคร่ “ฉลองทำงานวันแรกด้วยแกงส้มชะอมไข่ หมูทอด ปลานึ่งบ๊วย แล้วก็ตบท้ายด้วยบัวลอยไข่หวานของโปรดลูกสาวคนเก่งของแม่เป็นยังไง”“หูย...นี่แม่กะจะขุนลูกสาวให้อ้วนเป็นหมูเลยเหรอคะ เกิดหนูอ้วนจนใส่ชุดทำงานไม่ได้ขึ้นมาใครจะรับผิดชอบละคะเนี่ย”“จะยากอะไร แม่ก็แค่ตัดชุดใหม่ให้ลูกใส่เองก็เท่านั้น” รุจารินหัวเราะกิ๊ก“งั้นก็เตรียมตัดไว้เลยสิบชุดค่ะ เพราะวันนี้จ๋าจะทานข้าวสองจาน แถมบัวลอยอีกสองชามด้วย” คนพูดหอมแก้มมารดาอีกฟอดด้วยความรักใคร่ ก่อนเดินไปช่วยหยิบถ้วยจานมาจัดแจงตั้งโต๊ะเหมือนเช่นทุกวัน“แล้วเริ่มงานใหม่วันแรกเป็นยังไงบ้างล่ะลูก เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะแม่ จ๋าสบายมาก เห็นพี่ที่ทำงานบอกว่ากว่าเจ้านายโดยตรงของจ๋าจะกลับจากเมืองนอกก็ปลายๆ เดือนนู่น ตอนนี้จ๋าก็เลยต้องเรียนรู้งานทุกอย่างไปก่อน แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ลูกสาวคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก งานแค่นี้สบายมาก”“จ้า...คนเก่ง กลับมาเหนื่อยๆ ก็ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไปลูก แล้วค่อยมากินข้าวกัน ที่เหลือแม่จัดการเอง”“ก็ได้ค่ะ” เจ้าของร่างโปร่งระหงยอมรามือเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว หากยังไม่ทันได้ทำตา

  • กลรติรส    จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย

    “แม่คะ...” หญิงสาวกระชับมือมารดามากุมไว้แน่น “แม่ยังมีจ๋าทั้งคนนะคะ ทุกวันนี้เรามีกันแค่สองคนก็มีความสุขแล้วไม่ใช่หรือคะ”“จ้ะ...จ้ะลูก” นางดารินข่มเสียงไม่ให้สั่นพลางฝืนยิ้มตอบลูกสาว ทั้งที่กระบอกตาปวดแสบปวดร้อนจนแทบจะกลั้นความชอกช้ำไม่ไหว“จ๋ารักแม่นะคะ รักที่สุดในโลกเลย”“ประจบขนาดนี้อยากได้ของขวัญอะไรว่ามาซิ”“โหย...แม่น่ะ รู้ทันอีกแล้ว” หญิงสาวก้มลงหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ก่อนยิ้มออดอ้อน “จ๋าไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ วันนี้เสียฤกษ์อดกินชาบูในห้างหรูแล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งกินหมูกะทะแถวปากซอยบ้านดีกว่า วันนี้จ๋าเป็นเจ้ามือเอง”“ก็ไหนว่ากลัวหัวเหม็น” คนเป็นแม่เย้า“หัวเหม็นก็ดีกว่าหัวร้อนนะคะ ไปเถอะค่ะ นั่นแท็กซี่มาแล้ว” คนพูดยิ้มหวานประจบก่อนหันมาดักคอ “อ๊ะ! อย่ามาบอกให้นั่งรถเมล์เชียว เมื่อยขบมาทั้งวันแล้ว วันนี้หนูขอสบายบ้างซักวันนะคะ”นางดารินยิ้มอย่างรู้ทันว่าแท้จริงแล้วลูกสาวไม่อยากให้ตนต้องลำบากต่างหากโดยสองแม่ลูกหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบมองพวกเธออยู่ห่างๆ ด้วยจุดประสงค์บางอย่างที่แอบซุกซ่อนภายในใจ/////////////ร่างสูงระหงของหญิงสาววัยยี่สิบสามปีเดินแกมวิ่งไปบนถนนเส้นใหม่ที่พาเธอไปสู่

  • กลรติรส    จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้าน

    หากไม่เห็นภรรยาเก่าที่เดินตามมา เขาคงไม่รู้ว่าเป็นลูกสาว“เอ๊ะ! นั่นชุดครุยนี่นา” ชายกลางคนอุทานด้วยสุ้มเสียงตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายภูมิใจจนปิดไม่มิด“นี่หนูเรียนจบปริญญาแล้วหรือลูก”รุจารินตอบกลับคำถามนั้นด้วยสายตาเย็นชาหมางเมิน ก่อนหันมาเอ่ยกับผู้เป็นมารดาที่ยังคงอึ้งไม่หายเพราะไม่ได้คิดเตรียมใจมาก่อน“แม่คะ จ๋าไม่อยากกินร้านนี้แล้ว เราไปที่อื่นดีกว่านะคะ”“ต๊าย! ยังจองหองเหมือนแม่ไม่มีผิด” ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ยามตวัดมองคนสาระแนพูดแทรกอย่างไม่พอใจ พอรับรู้ได้ถึงอาการมือสั่นของมารดาที่คงตกใจไม่น้อย ทำให้เธอกระชับมือข้างนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย วันนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกแม่ได้อีก ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ!“หึ! จองหอง...ก็ยังดีกว่าหน้าด้านไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวลอยหน้าเอ่ยหน้าตาเฉย ปกติเธอไม่ชอบหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ยอมอยู่เฉยหากโดนใครมาหาเรื่อง“เอ๊ะ! แก...”นางปราณีชักสีหน้าใส่ รู้สึกขัดตาเมื่อเห็นความสำเร็จของลูกติดสามี พอนึกเปรียบเทียบกับลูกสาวตนที่หัวไม่ค่อยดีจนเกือบเรียนซ้ำชั้นก็รู้สึกอิจฉา ยิ่งความงามนั้นยิ่งไม่ต้องเทียบกัน เพราะปิยะดาดูจืดสนิทยามยืนเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า ไม่บอก

  • กลรติรส    จะไปไหนก็รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าฉันเลย

    “ถ้าไม่ยอม เธอก็ต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วละ เพราะบ้านนี้คุณณีจ่ายเงินไถ่ถอนมาเป็นชื่อเขาเสียแล้ว”“แปลว่า...พี่เลือกผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ” นางดารินแผดเสียงใส่สามีชนิดที่ไม่เคยทำมาก่อน น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มด้วยความผิดหวังสุดขีด“พี่เสียใจ...แต่พี่ทิ้งคุณณีกับลูกแป้งไม่ได้”สองแม่ลูกรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางหัวใจ รุจารินมองหน้าพ่อสุดที่รักของเธออย่างไม่เชื่อหู ผู้ชายเห็นแก่ตัวตรงหน้านี่คือพ่อของเธอจริงๆ งั้นหรือ ทำไมเขาช่างพูดง่ายเหลือเกิน นี่เป็นบ้านที่เธอกับแม่อาศัยมาตั้งแต่เธอเกิด แต่จู่ๆ ก็มากลายเป็นของคนอื่น ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยมาทีหลัง และมาแย่งพ่อไปจากเธอกับแม่ หัวใจเด็กหญิงวัยเพียงสิบปีแทบแตกสลาย เสียพ่อ เสียบ้าน ทุกอย่างพังทลายไปเพราะน้ำมือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด“ไปกันเถอะลูกจ๋า...” นางดารินหันมาเอ่ยด้วยเสียงเครือแต่เด็ดขาด “ลำบากหน่อยแต่แม่จะไม่ยอมทิ้งให้ลูกต้องอยู่กับคนทรยศพวกนี้ให้ถูกรังแก เราไปตายเอาดาบหน้าก็ได้นะลูกนะ”“ดาริน! ทำไมสิ้นคิดแบบนี้ จะเอาลูกไปลำบากทำไม” นายปิยะต่อว่าภรรยาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตอย่างหัวเสีย “ถ้าเธอจะไปก็ไปคนเดียว ทิ้งให้ลูกจ๋าอยู่ที่

  • กลรติรส    จะให้อยู่กันแบบสามคนผัวเมียเนี่ยนะ

    “เอ่อ...”“อุ๊ยต๊าย...นี่คงเป็นหนูจ๋าลูกสาวคุณใช่ไหมคะ หน้าตาสวยน่ารักจริง” น้ำเสียงแหลมใสเอ่ยทักเป็นคำแรก หากนัยน์ตาคนพูดกลับไม่ได้ยิ้มแย้มเท่าปากของนาง “ฉันชื่อปราณีนะ ส่วนนี่ก็คือปิยะดาหรือหนูแป้ง น้องสาวของหนูไงละจ๊ะ”“น้องสาว!” รุจารินทวนคำอย่างฉงน เพราะตั้งแต่เกิดมา เธอรับรู้ว่าเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เคยคิดว่าอยากมีน้องเหมือนกัน แต่แม่เธอไม่ค่อยแข็งแรงนัก ตอนเธอคลอดก็ลำบากจนแทบจะเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกด้วยซ้ำ แล้วน้องสาวตรงหน้านี่โผล่มาจากไหน “แต่จ๋าเป็นลูกคนเดียว! ไม่เคยมีน้องสาว”“ยายจ๋า! ฟังพ่อก่อนลูก”“หยุดนะ! พี่ยะ อย่าได้เอาเรื่องรกหูนี่มาพูดกับลูกสาวคนเดียวของฉัน พี่จะไปทำตัวเหลวไหลเละเทะหรือไปมั่วกับใครยังไงมาก็อย่าได้ทำให้ลูกฉันต้องมารับรู้เรื่องเลวๆ นี่” นางดารินตวาดใส่เสียงสั่นเครือ นางพยายามประคองตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลโดยมีลูกสาวตัวน้อยช่วยประคับประคอง แม้จะข่มใจให้เข้มแข็งทั้งๆ ที่ภายในหัวใจมันแหลกราญด้วยฝีมือคนที่รักจนชาไปหมดแล้ว เมื่อต้องเป็นหลักให้ลูกสาวสุดที่รัก เธอจะอ่อนแอไม่ได้“นี่ดา พี่บอกแล้วไงว่าให้พูดกันดีๆ คุณณีกับลูกเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกันกับเ

  • กลรติรส    อดีตฝังจำ

    รุจาริน พิชารักษ์ ไม่เคยลบเลือนภาพในวันนั้นออกไปจากสมองและหัวใจได้ แม้เวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี เธอจำได้แม่นว่ามันคือวันเกิดปีที่ครบรอบสิบขวบ และยังเป็นวันที่ผลสอบปลายภาคออกอีกด้วยเด็กหญิงรุจาริน เปรมจิตติ ในวันนั้นเดินแกมวิ่งไปบนถนนที่ทอดไปสู่บ้านน้อยกลางซอยของเธอด้วยใจที่เบิกบานที่หนึ่งอีกครั้ง!ริมฝีปากชมพูจิ้มลิ้มยิ้มร่า อันที่จริงก็ไม่ต่างจากทุกครั้งตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน เด็กหญิงไม่เคยมีผลการเรียนต่ำกว่าที่หนึ่งของห้องเลยสักครั้ง แต่ที่พิเศษคือครั้งนี้พ่อของเธอสัญญาว่าจะซื้อจักรยานให้ลูกสาวคนเก่งไว้ขับไปโรงเรียน หลังจากที่เขาไปทำงานที่ต่างจังหวัดอยู่นานกว่าสองปี และพ่อคงจะพาเธอและแม่ไปทานอะไรอร่อยๆ ฉลอง พร้อมกับมีขนมเค้กสวยๆ มาให้เธอเป่าเทียนวันเกิดด้วย ส่วนนางดารินแม่ของเธอนั้นให้ของขวัญก่อนล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มันคือชุดเดรสสีชมพูแสนหวานที่ตัดเย็บเองกับมือ ซึ่งเธอรบเร้าอยากได้ เพื่อใส่ไปงานฉลองปิดภาคเรียนที่เธอได้รับเลือกให้แสดงโชว์บนเวทีนั่นไง! รถเก๋งของพ่อเธอจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว เด็กหญิงยิ้มร่า หัวใจพองโต มันนานมากที่เธอไม่ได้เจอพ่อ ความคิดถึงท่วมท้นหัวใจ มือที่กำสมุดพกสั

  • กลรติรส    บทนำ

    ช่วงเย็นของร้านชาบูแบบบุฟเฟ่ต์ใจกลางห้างดังเนืองแน่นด้วยลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามารับประทาน โดยเฉพาะเป็นช่วงที่มีการเลี้ยงฉลองรับปริญญาของเหล่าบัญฑิตจบใหม่จึงทำให้บรรยากาศของร้านคึกคักเป็นพิเศษ“ต้องรอคิวนานไหมคะ”พนักงานหน้าร้านเงยหน้ามองลูกค้าสาวที่คงเป็นหนึ่งในเหล่าบัณฑิตจบใหม่เพราะเธอสวมชุดนักศึกษาและมีชุดครุยพาดที่แขนเรียวสวย ใบหน้าหมดจดสะดุดตาแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆ แต่กลับดูงามผุดผ่อง ที่โดดเด่นคือดวงตากลมโตที่คมกริบดูเฉลียวฉลาดและเอาเรื่องคู่นั้น“ไม่ทราบว่ามากี่ท่านคะ”“สองค่ะ”“ถ้าเป็นแบบโต๊ะรวมก็อีกสามคิวเท่านั้นค่ะ แต่ถ้านั่งแบบเดี่ยวๆ แยกหม้อ ก็รออีกหกคิวค่ะ สนใจแบบไหนดีคะ”“โต๊ะรวมค่ะ ลงชื่อจองคือรุจารินนะคะ” บัณฑิตสาวหน้าใสเอ่ย พร้อมกับรอรับบัตรจองคิว และเดินกลับไปหาหญิงวัยกลางคนที่ยืนรอบริเวณหน้าร้าน“แม่นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ รออีกสามคิวเท่านั้นเอง”“คนเยอะแบบนี้ไว้เราค่อยมาวันหลังไม่ดีหรือลูก หรือไปกินที่ร้านอื่นก็ได้ ร้านหมูกะทะแถวบ้านเราไงลูก ราคาไม่แพงด้วย”รุจาริน พิชารักษ์ หรือ จ๋า ส่งยิ้มหวานให้มารดา เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดคำนวนค่าอาหารในใจด้วยความเสียดายเงินท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status