นางแก้วผกาแม่ของแดนดินเฝ้ามองกลุ่มคนที่นั่งอยู่เต็มโถงเรือนเล็ก ซึ่งเป็นที่พักของลูกชายคนกลางอย่างไม่ไว้ใจนัก ในขณะที่แดนดินเดินตรงมาทางประตูหลังบ้านที่สามารถเลื่อนบานกระจกเปิดโล่ง ชมทิวทัศน์บึงบัว สำหรับพักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว เขาวางร่มคันใหญ่ไว้ที่ระเบียงไม้ และเปิดประตูเลื่อนเข้ามาภายใน
“ปลอดภัยแน่เหรอตาดิน”
“ผมว่าพวกเขาไม่มีพิษมีภัยหรอกครับแม่ ดูจะกลัวผมเสียมากกว่า”
เขาตอบแม่อย่างใจเย็น แถมหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงสายตาของลายน้ำที่ดูหวาดระแวงต่อเขา
“แล้วเป็นใครกันล่ะ ถามไถ่กันดีหรือยัง”
“ไม่ทราบเหมือนกันครับแม่ รู้แต่ชื่อเล่น กับเป็นนักท่องเที่ยวมาจากกรุงเทพฯ ทำไมมาเดินตากฝนเรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้ถาม ผู้หญิงสามคนผู้ชายสี่คน”
แม่ของเขาตีที่ต้นแขน ที่เขาชะล่าใจเกินไป ไม่ถามไถ่คนแปลกหน้าให้ละเอียด แถมยังพาเข้าบ้าน และปล่อยให้อยู่กันตามลำพังอีก
“พี่เขตกับนายชนถึงไหนแล้วครับแม
เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง ธนัญญาก็นำเสื้อผ้าข้าวของออกจากระเป๋า เพื่อนำออกมาแขวนไว้ในตู้ รวมถึงของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ที่เตรียมมาด้วย และไม่ลืมที่จะจัดการข้าวของ ของเขตรัฐด้วยเช่นกัน“แม่คุณดูท่านจะชอบคุณอัญนะคะ”“คุณอัญเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่ายน่ะ”“แต่ท่านไม่ค่อยคุยกับฉันเลย”“น้อยใจแม่ผมเหรอ แม่ไม่รังเกียจคุณหรอก ไม่ต้องกังวล แม่อาจจะแค่เกร็ง เพราะคุณเป็นลูกสาวเศรษฐี”เขตรัฐปลอบใจ พร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่นให้ธนัญญา แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ธนัญญาอาจดูเข้าถึงยากสำหรับแม่ของเขาที่ใช้ชีวิตในชนบทมานาน“แล้วนัญควรทำยังไง”“ไม่ต้องทำอะไรมาก เป็นตัวคุณเองนั่นแหละ อย่าเสแสร้งหรือแกล้งทำ ไม่ต้องพยายามฝืนตัวเอง แม่ผมไม่ชอบคนที่ฝืนตัวเองเท่าไหร่หรอก ชอบก็บอกชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ แม่ผมเป็นคนตรงๆ เข้าใจง่าย”“ค่ะ”ธนัญญารับคำ ฉีกรอยยิ้มเรียกความมั่นใจให
ตรีวิทย์นั่งตัวเกร็ง ต่อหน้าพ่อ แม่ และยายของมินตรา เขาก้มหน้ารอรับคำตำหนิแต่โดยดี หากแต่ไม่มีคำตำหนิรุนแรงใดๆ ให้ระคายหูระคายใจแม้แต่น้อย“ท้องอ่อนๆ แบบนี้ใครเขาให้เดินทางไกลไม่รู้หรือ”แม่ของมินตราเอ่ยขึ้นมาก่อน ในขณะที่คนอื่นยังคงอึ้ง ที่มินตราและตรีวิทย์แจ้งว่าเธอท้องได้เกือบสามเดือนแล้ว ที่ตรีวิทย์มาในวันนี้เพื่อขอขมา และพูดจาเรื่องจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอต่อไป แต่ไม่ลืมที่จะบอกความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับแม่และ ตระกูลสินธรธนารักษ์“เอาหละไม่เป็นไรหรอก พวกเราไม่ได้เห็นแก่เงินทองหรือความมั่งคั่งอะไร แม่อย่างไรก็คือแม่ แม้ท่านไม่สนับสนุน แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีสิทธิ์ในการใช้ชีวิตของตัวเอง ในเมื่อตัดสินใจกันแล้ว มาถึงขนาดนี้จะถอยกลับมันคงไม่ได้แล้ว นอกจากอดทนกันให้มากที่สุด”ผู้เป็นพ่อกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง เห็นใจลูกและว่าที่สามีเป็นอย่างมาก เพราะครอบครัวของมินตราไม่ได้ยากจนข้นแค้น หากแต่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับครอบครัวของตรีวิ
ลายน้ำและแดนดินกลับมาถึงบ้าน ก็ล่วงเข้าเที่ยงคืน เพื่อนๆของเธอที่เมามายจนไม่สามารถครองสติได้ แยกย้ายไปนอนที่เรือนเล็กกันหมดแล้ว เหลือพวกผู้หญิงที่ช่วยกันเก็บข้าวของทำความสะอาด ในขณะที่ครอบครัวฝั่งของมินตรา ได้กลับบ้านของเธอแล้ว หากแต่บอกกับเขตรัฐให้ส่งข่าวให้ทราบด้วยว่าลายน้ำเป็นอย่างไรบ้างนางผกาแก้วยังไม่ไปไหน เฝ้ารอแดนดินและลายน้ำอย่าใจจดจ่อ และเป็นห่วงเธอมาก เมื่อเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน นางผกาแก้วรีบลุกขึ้นเดินกระโผลกกระเผลก เมื่อเห็นเช่นนั้นธนัญญาจึงรีบวิ่งเข้าไปประคอง นางผกาแก้วหันมามองเธอนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มขอบใจ“ขอบใจลูก”“คุณดินกลับมาแล้วค่ะ”แดนดินประคองลายน้ำเข้ามาในบ้าน โดยเธอเขย่งขาข้างหนึ่งไว้ เดินด้วยขาข้างเดียวอย่างทุลักทุเล โน้มแขนและน้ำหนักตัวลงไปที่แขนของแดนดิน“เป็นยังไงบ้างลูก แม่เป็นห่วง”“ทำไมแม่ยังไม่นอนล่ะครับ ดึกมากแล้วนะ”“แม่เป็นห่วง อยู่รอหน
แดนดินถือถาดขนมหวาน ของว่าง และผลไม้มาให้ลายน้ำ เมื่อคนอื่นๆ ออกไปจากบ้านใหญ่แล้ว ลายน้ำที่เพิ่งตากผ้าเสร็จ ยังมีอาการเขินอายอยู่บ้าง หากแต่พยายามทำหน้าเป็นปกติ“แม่ใช้ให้เอาขนมกับผลไม้มาให้ครับ”“ตายใจ ให้น้ำไปเอาเองก็ได้ค่ะทีหลัง”“พอดีที่บ้านไม่มีใครอยู่แล้ว เขาไปไหว้พระใหญ่กัน”แดนดินตอบพร้อมกับนำของว่างทั้งหมดไปที่ห้องนั่งเล่นด้านในแทน เพราะเธอจะได้นั่งได้สบายกว่า เพราะโถงด้านหน้าไม่มีเก้าอี้ ต้องนั่งกับพื้นไม่สะดวกสำหรับเธอแดนดินรับไม้เท้าค้ำยันไปพิงไว้ที่ข้างฝาใกล้ให้เธอ หลังจากที่ลายน้ำนั่งลงแล้ว เขาเปิดตู้เย็นในห้องนั่งเล่นออกกว้าง ให้เธอได้เห็นภายใน และถามเธอว่าอยากดื่มอะไร มีหลายอย่างให้เลือก รวมถึงน้ำผลไม้คั้นสด“ขอน้ำฝรั่งดีกว่าค่ะ”“ทำไมไม่เลือกน้ำส้ม”“เอ้า! ก็น้ำชอบน้ำฝรั่ง เห็นว่าคุณมีก็เลยเลือก”“ผู้หญิงส่วน
แดนดินพาลายน้ำไปพบผู้ใหญ่บ้านด้วยกัน ผู้ใหญ่เสือดูแลรับผิดชอบลูกบ้านในพื้นที่หมู่บ้านของเขา และมีศักดิ์เป็นลุงของเขา เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ของเขา เพื่อเป็นการแนะนำลายน้ำ ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวของเขา และเรื่องของวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มักจะก่อความวุ่นวายบุกรุกพื้นที่ไร่นาของชาวบ้าน ไปทำกิจกรรมเริงสวาทสร้างความอิดหนาระอาใจอยู่ตลอด“ลายน้ำครับลุง เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยพัฒนาพันธุ์พืชเพิ่งย้ายมาจากขุนวางเชียงใหม่”“ไหว้พระเถอะนะหนู แล้วนั่นขาไปโดนอะไรมาล่ะ ถึงกับเข้าเฝือกเลยหรือ”ลายน้ำยกมือไหว้ และยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับผู้ใหญ่เสือ และภรรยา“สะดุดล้มขาฟาดเหลี่ยมไม้อย่างแรง กระดูกร้าวเลยต้องเข้าเฝือกครับ”“โอ้! คงจะปวดมากสินั่น แค่ร้าวก็ดีกว่าหักหละนะ”“ไม่ต่างกันเลยครับลุง แค่รักษาง่ายกว่า เพราะมันแตกไปแล้วแต่ไม่หลุดออกจากกันเท่านั้น”“อย่างนั้นหรือ แย่เลยสิแล้วมาตะลอ
ร่างที่สอดส่ายร่ายรับ ภายใต้เงาจันทร์ที่สาดส่องหน้าต่างกระจกใส กรองแสงผ่านม่านบางเข้ามาภายในห้อง เสียงครืดคราด หายใจอย่างเร่าร้อน สะโพกที่กำลังโยกไหวโจนจ้วง หว่างขาที่อ้าแอ่นท้าแสงเงาจันทร์ที่เฉิดฉาย กงเล็บแหลมจิกผิวเนื้อของชายหนุ่มราวกับจะฉีกมันออกจากกัน ทางยาวนูนแดงเป็นเส้นราวแมวข่วน“อ่า อ่า อ่า กดอีกหน่อย เน้นกว่านี้”“อยากได้มากใช่ไหมแบบนั้น”ชนแดนกดเน้นๆตามคำขอของอัญชิสา เมื่อบรรยากาศเป็นใจแสงอ่อนละมุนของแสงจันทร์ชวนให้เขาอยากโยกไหวบนตัวเธอ อัญชิสาไม่รั้งรอ แอ่นอ้าท้าทาย ทุกท่วงทำนองสัมผัสของเขา เขาดูดเม็ดบัวที่เต่งตึงหนุบหนับ พร้อมทั้งกัดทึ้งตามแรงกระสัน หากแต่เป็นที่ถูกอกถูกใจอัญชิสาอย่างมากเธอดันศีรษะของเขาให้ต่ำลง เพื่อให้เขาดูดกลืนเม็ดแตงที่เพิ่งกะเทาะเปลือก หลังจากที่ถอนด้ามลำปืนใหญ่ออกจากปากปล่อง อัญชิสากดจิกศีรษะ ดึงทึ้ง จนเส้นผมหลุดติดมือ แต่ไม่อาจทำให้ชนแดนระคายเลยสักนิด ยิ่งสร้างแรงกำหนัดให
ลายน้ำถูกอุ้มขึ้นรถอย่างรวดเร็ว เขาสตาร์ทรถเปิดแอร์ให้ความเย็น ก่อนจะหายาดมที่แม่ของเขามักจะทิ้งไว้ในรถให้เธอได้สูดดม หน้าขาวซีด เหงื่อที่แตกพลั่กทำให้เขาตกใจ แดนดินใช้กระดาษซับเหงื่อที่หน้าออกให้เธอ ระหว่างที่รอให้ความเย็นทำงานยาดมที่ถูกจ่ออยู่ที่โพรงจมูก ทำให้ลายน้ำเริ่มรู้สึกตัว เธอเวียนศีรษะและอ่อนเพลีย แดนดินจึงตัดสินใจพาเธอไปหาหมอที่โรงพยาบาล เธอถูกต่อสายให้น้ำเกลือ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ระหว่างที่นอนให้น้ำเกลืออยู่นั้น แดนดินแทบจะไม่ห่างเธอไปไหนอีก เพราะกลัวว่าเธอจะแอบหนีกลับเอง และจะเกิดอันตรายลายน้ำค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอมองไปรอบๆ พบแดนดินนั่งเฝ้าเธออยู่ที่เก้าอี้ มีฉากกั้นแยกระหว่างเตียงคนไข้ มองไปฝั่งตรงข้ามก็มีคนไข้อีกเตียงนอนอยู่แดนดินที่กำลังจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือ เงยหน้าขึ้นมองเมื่อหางตาของเขาพบการเคลื่อนไหว เขาหันไปมองลายน้ำ“ฟื้นแล้วหรือ เป็นยังไงบ้าง”“ฉันอยู่ที่ไหน”“โรงพย
แดนดินนอนกอดร่างที่คดคู้ของลายน้ำอยู่ใต้ผ้าห่ม เขาและเธอหลับไปนาน จนแสงอาทิตย์เริ่มสาดเข้าผ่านช่องหน้าต่างที่ปิดม่านทึบ มีช่องที่ปิดไม่สนิทแหวกออกนิดหนึ่งแต่มีม่านกรองแสงบางเบาซ้อนอยู่อีกชั้น เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำทำให้พวกเขาหลับสบาย แดนดินลืมตาขึ้นก่อนอย่างช้าๆ เขาโอบกอดเธอจากด้านหลัง แผ่นหลังเนียนของลายน้ำแนบอยู่กับแผ่นอกของเขา ศีรษะของลายน้ำทับอยู่บนต้นแขนของเขาจนชา คางที่เกยอยู่เหนือศีรษะขยับออก เขาผงกศีรษะขึ้นมองนอกหน้าต่างที่แสงแดดจ้าการขยับตัวของเขาทำให้ลายน้ำขยับตัวเช่นกัน หากแต่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาในทันที เขามองร่างดุกดิกของเธอใต้ผ้าห่ม สะโพกของเธอแนบชิดเขา จนรู้สึกสะท้านวูบวาบภายใน จนต้องขยับออกห่าง แขนข้างที่โอบตัวเธอพาดตกอยู่ช่วงอก มือของเขายังกุมกระเปาะเต้าเต่งตึงไว้ เมื่อปลายนิ้วของเขาขยับ ทำให้เธอครางอย่างละเมอ ออกมาเบาๆ จนเขาต้องหยุดนิ่งอาการคุดคู้ ของลายน้ำที่ยังไม่อยากตื่น ทำให้เขายิ้มออกมาอย่างเอ็นดู แต่ก็จำเป็นต้องรีบลุก