จิตแพทย์หญิงวัยกลางคนที่ให้คำปรึกษากับเกศิตา มองดูเธอและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นสหัสวรรษโอบกอดเธอเพื่อปลอบประโลมให้คลายความตื่นเต้น
“ให้เขาอยู่ด้วยได้ไหมคะ”
“ขึ้นอยู่กับคุณเลยค่ะ ว่าคุณไว้ใจให้เขารู้เรื่องของคุณได้มากแค่ไหน ช่วงแรกไม่ได้มีความลับอะไร แค่ให้คุณทำแบบทดสอบนิดๆ หน่อยเพื่อเป็นการประเมินเบื้องต้นเท่านั้นค่ะ”
คำตอบของแพทย์หญิงทำให้เกศิตาคลายกังวลลงมาก ขณะที่มีการทำแบบทดสอบนั้น การพูดคุยเรื่องทั่วไปให้ผ่อนคลาย จนเธอไม่พยายามปิดกั้นตัวเองจนเกินไป แม้จะใช้เวลาไม่นาน แต่ทางคุณหมอกลับพบบางอย่างที่น่าสนใจ และเก็บเป็นข้อมูลสำหรับการรักษาและบำบัดต่อไป
“เดี๋ยวหมอจะทำนัดให้มาพบคราวหน้า แต่หมอมีการบ้านให้คุณเกศิตาไปทำด้วยนะคะ อยากทำก็ค่อยทำ ไม่อยากทำก็เก็บไว้ให้สบายใจก่อนค่อยนำออกมาทบทวนก็ได้ค่ะ หมอไม่ได้บังคับ”
คุณหมอยิ้ม และมอบชุดแบบทดสอบชุดหนึ่งให้กับเธอ ด้วยใบหน้าที่อบอุ่นและยิ้มแย้มเช่นเคย เกศิตารับมันมา
ปารวัตรมีสีหน้าครุ่นคิด เขากำลังนึกถึงภาพถ่ายสหัสวรรษกับเกศิตาที่ปกรณ์นำมาให้เขาดู“คิดอะไรอยู่คะ”ณัฐการสังเกตเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของปารวัตร ขณะที่รับประทานอาหารเย็น“คุณโตมากับหัส ทำไมจนป่านนี้ เขาถึงยังไม่แต่งงาน”“พี่หัสมีโลกส่วนตัวสูง ชอบอิสระ อีกทั้งพี่หัสเองก็ป่วย”ถึงจุดนี้ ณัฐการหยุดพูดไป ทำให้ปารวัตรเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ“ป่วยหรือ”“เรื่องนี้ อิ๋งอยากให้คุณถามพี่หัสเองดีกว่า อิ๋งพูดไม่ได้”ณัฐการยิ้มให้เขา แม้ไม่อยากมีความลับ หรือปิดบังเรื่องใดกับเขา แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เธอก็ไม่อาจเล่าให้เขาฟังได้เช่นกันผ่านไปเกือบสองสัปดาห์ ปารวัตรเอาแต่ครุ่นคิดและกังวลเรื่องของเกศิตา จนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่า สหัสวรรษจะบอกเขาเรื่องที่ติดต่อมีสัมพันธ์กับเธอให้เขารู้เลยสักนิด เขาไม่แน่ใจว่าสหัสวรรษมีเจตนาดีหรือไม่ดีต่อเธอกันแน่ แม้เขาจะกลับมาคบกับเพื่อนที่เคยบาดหมางกันมานาน อย่างสหัสว
ปารวัตรมองหน้าของสหัสวรรษและนิ่งงันไป เขาคบกับสหัสวรรษมาตั้งแต่สมัยเรียนมาด้วยกันที่อังกฤษ แต่เขากลับไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาป่วย แต่คำพูดของเขา ทำให้ปารวัตรนึกย้อนไปในอดีต ที่เขามีท่าทีแปลกๆ ตอนที่รู้ว่าเขากับอัญชิสาตกลงปลงใจที่จะคบกันเป็นคู่รัก“ทำไมนายถึงป่วย”ปารวัตรถามสหัสวรรษด้วยความรู้สึกยากที่จะเชื่อ เพราะเขาแทบจะไม่เห็นความผิดปกติใดๆจากสหัสวรรษมาก่อน จนกระทั่งวันที่อัญชิสา ขอกลับมาคืนดีกับเขา ที่สหัสวรรษโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ราวกับคนเสียสติ แต่เพียงชั่วครู่เขาก็สามารถควบคุมสติของตัวเองได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เด็กที่โต กว่าแย่ง หุ่นยนต์ตัวโปรดที่ฉันรักมากไป แล้วเขาก็ใช้เท้าเหยียบมันจนพัง ฉันโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนที่ถูกแย่งของ ฉันได้แต่กรีดร้องแทบขาดใจ และช็อคไปในที่สุด ฉันป่วยอยู่หลายวัน จิตใจฉันต่อต้านคนรอบข้าง ฉันไม่ยอมพูดกับใคร เอาแต่เก็บตัวเงียบ ไม่ออกไปเล่น เวลาเห็นใครที่มีของรัก ม
ความตึงเครียดระหว่างเขตรัฐกับธนญ ทำให้คนอื่นพลอยเกร็งไปด้วย แม้จะพยายามหาเรื่องอื่นๆมาชวนคุยแล้วก็ตาม“ผมกำลังจะขยายกำลังการผลิตและตลาดเครื่องดื่มของเราไปที่เวียดนาม”“ว้าว! ต่อไปรุ่งเรืองกรุ๊ปคงเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคในไม่ช้าแน่”ปารวัตรยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ คำพูดของธนญ คือเป้าหมายภายใต้การนำของเขา“ใจจริงผมอยากให้เขตรัฐเป็นคนดูแลการก่อสร้างและควบคุมการผลิตที่โรงงานในเวียดนาม ผมกับคุณทวีปมีแผนผลักดันเขาให้แทนตำแหน่งคุณทวีปที่ใกล้จะเกษียณในอีกสามปีข้างหน้า แต่เขตรัฐกลับปฏิเสธ”ธนญหันไปมองหน้าเขตรัฐที่เงียบขรึม วางสีหน้าปกติ มองต่ำหลบสายตาของเขา ก่อนจะเอ่ยถาม“ทำไมนายถึงปฏิเสธล่ะ”“ผมอยากเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้สมัครร่วมโครงการนี้ด้วย เพราะการบังคับไปไม่ใช่ผลดีกับคนที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่”“นายไม่เต็มใจไปอย่างนั้นหรือ”ธนญถาม“เปล่าครับ”“ในเมื่อเป็นโอกาส ทำไ
อาการคลื่นเหียน อาเจียน จนรับประทานอาหารไม่ได้ของมินตราเพิ่มมากขึ้น จนเธอวิตกกังวล ไม่เป็นอันทำงาน เพราะสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายตอนนี้มันมีสัญญาณมาจากการที่รอบเดือนของเธอขาดหายไปกว่าสัปดาห์ จากวันที่กำหนดคร่าวๆ ที่บันทึกรอบเดือนก่อนของเธอมินตราพยายามปกปิดอาการเหม็นกลิ่นน้ำหอมของนับหนึ่ง แต่ในที่สุดเธอก็ทนมันไม่ได้อีกต่อไป มินตราวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน เธออาเจียนจนหมดไส้หมดพุงหมดเรี่ยวแรง ก่อนจะออกมาล้างปาก ล้างหน้าตาให้ตัวเองสดชื่นขึ้น เสียงซุบซิบและแอบมองมินตรา ทำให้เธอหมดความมั่นใจ ซึ่งนับหนึ่งก็สังเกตุเห็นเช่นกัน“คุณไม่สบายหรือเปล่ามินตรา”“พอดีนอนน้อยไปหน่อยค่ะ ผอ. ก็เลยเวียนศีรษะ”เย็นวันศุกร์ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน มินตราตัดสินใจซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์จากร้านขายยาแห่งหนึ่ง ก่อนจะตรงกลับห้องพัก ผิดจากทุกครั้งที่วันสุดสัปดาห์ของการทำงานเช่นนี้ เธอจะไม่พลาดที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆของเธอเหมือนเช่นเคยมือของมินตราสั่น
หลังจากที่ชนแดนออกไปไม่นานนัก พยาบาลสาวคนเดิม ก็กลับเข้าพร้อมเสื้อยืดและกางเกงผ้าฝ้ายของชมรมรักษ์โลกที่มาเปิดบูทที่ด้านหน้าโรงพยาบาล และเครื่องดื่มธัญพืชอุ่นๆ อัญชิสายิ้มรับและกล่างขอบคุณ“ขอบคุณมากค่ะคุณพยาบาล”“ไม่เป็นไรค่ะ เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว”พยาบาลสาวปล่อยให้เธอได้อยู่ลำพัง เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะคิดว่าชนแดนคงออกไปตรวจคนไข้แล้วและคงไม่กลับมาอีก หลังจากได้ไออุ่นจากธัญพืชร้อนๆ ทำให้อัญชิสารู้สึกมีแรงและสดชื่นขึ้น เธอจึงถอดกลางเกงกีฬาออกและสวมกางเกงผ้าฝ้ายห้าส่วนแทน แต่ยังไม่ทันได้ดึงมันขึ้นมาที่เอวติดอยู่ที่สะโพก ชนแดนกลับเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะสักนิด ทำให้อัญชิสาตกใจร้องเสียงหลง“ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อน”“ใครจะคิดว่าคุณจะแก้ผ้าตรงนี้”“บ้าที่สุด”ชนแดนหยุดตรงหน้า และดึงผ้าห่มผืนบางที่เธอดึงมาปิดไว้ออก ก่อนจะช่วยดึงกางเกงขึ้นจากสะโพกของเธอ“เห็นมามากกว่านี้ จะต
ชนแดนตกใจตื่น เมื่อแขนของอัญชิสาฟาดลงบนหน้าเขา เขาปรับสายตาอยู่ในความมืด เขานอนไปนานแค่ไหนแล้ว ภายในห้องมืดมิด มีเพียงแสงไฟสลัวจากด้านนอกส่องผ่านเข้ามาจากม่านบางกรองแสงบางเบา ร่างที่นอนอยู่เคียงข้างเขายังหลับอยู่ เธอแค่พลิกตัว ตะแคงเข้าหาเขา มือที่ฟาดลง ยังวางติดข้างแก้มอัญชิสาหายใจแผ่วเบา เสี้ยวหน้าคมคายที่กระทบแสงนวลเนียนละเอียดจนน่าสัมผัส แม้อายุจะเลยเลขสาม แต่เธอกลับดูแลตัวเองได้ดี แม้ในยามปราศจากเครื่องสำอางแต่ยังดูอ่อยเยาว์ราวกับเด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ คืนที่เธอซื้อเขามาจากสาวบริการที่เขาซื้อมานั้น เขาไม่มีเวลาที่จะสังเกตพินิจพิเคราะห์เหมือนค่ำคืนนี้ แม้เงามืดจะบดบัง แต่ความงามของเธอยังเจิดจรัสชนแดนค่อยๆ จับมือเธอยกออกจากใบหน้าเช้าๆ ก่อนจะวางลงบนหมอนของเขาแทน และลุกขึ้น เขาเปิดไฟที่หะวเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู บอกเวลาหนึ่งทุ่มเศษ มีสายเรียกเข้าไม่ได้รับอีกหนึ่งสาย จึงโทรกลับในทันที“ชนแดนครับ ไม่ทราบจากไ
หลังจากที่ธนญและนับหนึ่งจากไปแล้ว ชนแดนนั่งทำงานของตนอยู่เงียบๆ ในขณะที่อัญชิสาเอาแต่นั่งหน้างอ ไม่สบอารมณ์นักตั้งแต่พวกเขาจากไป เธอลุกจากรถเข็นไปนั่งบนเตียง เมื่อชนแดนเหลือบมอง เธอก็ดึงม่านกั้นที่เป็นฉากบังเตียงไม่ให้เห็นหน้าเขา“คุณอารมณ์ไม่ดีเพราะคุณธนญมากับแฟนของเขาอย่างนั้นหรือ”“ไม่ใช่ อย่ามาทำรู้ดี”อัญชิสาปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกระชากม่านกั้นออกมาจ้องเขาเขม็ง ชนแดนหันไปมองเธอนิ่ง กับปฏิกิริยาโจ่งแจ้งขนาดนี้ยังกล้าปฏิเสธ เธอคงกลัวเสียฟอร์มกับเขา“คุณซ่อนความรู้สึกไม่เก่ง คุณรู้ไหม”“รู้เหรอว่าฉันคิดอะไรอยู่”“รู้สิ”คำตอบของชนแดนทำอัญชิสานิ่งไปแป๊บหนึ่งก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น เธอล้มตัวลงนอน และหยิบมือถือขึ้นมาดูฆ่าเวลา รอให้เขาทำงานเสร็จจะได้พาเธอไปส่งเสียที“คุณดีขึ้นมาแล้ว คงไม่ต้องนั่งรถเข็ญแล้ว เพราะคุณสามารถเดินและพยุงตัวได้ดีขึ้นแล้ว คืนนี้ผมคงไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณ
ธนญ ที่ยังลืมตาอยู่ แม้นับหนึ่งหลับไปนานแล้ว เขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องเด็กในท้องของมินตรา ซึ่งเป็นหลานของเขา เขาเองก็ยังทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ตอนที่ความสัมพันธ์ของธนัญญากับเขตรัฐถูกเปิดเผย อาของเขาก็ตีโพยตีพายยกใหญ่ ทำราวกับโลกทั้งใบของสินธรธนารักษ์กำลังจะแตก เรียกทุกคนเข้าไปต่อว่ากันยกใหญ่ แถมยังประกาศกร้าว ว่าจะไม่มีวันยอมรับสะใภ้ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอีกด้วยส่วนตรีวิทย์น้องชายของเขา เติบโตมาด้วยความขัดแย้งของพ่อแม่ สุดท้ายต้องจบที่การหย่าร้างแยกทางกัน เขาเองคงไม่ต้องการให้ลูกของเขาต้องเติบโตมาแบบเดียวกันกับเขาอย่างแน่นอน ธนญเชื่อว่า หากตรีวิทย์รู้ว่าเด็กในท้องของมินตราคือลูกของเขา เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอกับลูกไปอย่างแน่นอนธนญถอนหายใจออกมา จนทำให้นับหนึ่งที่นอนแนบอกของเขารู้สึกตัวตื่น นับหนึ่งรับรู้ถึงความวิตกกังวลของธนญ ถึงแม้เขาจะได้ขึ้นชื่อว่า เป็นผู้นำคนใหม่ของสินธรธนารักษ์ มันก็แค่เรื่องของการบริหารและเรื่องของธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องในครอบครัวที่จะสาม