เวหาขับรถกลับเข้าเมืองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จนอนิลรู้สึกอึดอัด เขาพาเธอไปในที่ของเขา แทนที่จะปล่อยให้เธอไปเที่ยวเล่นของเธอเองลำพัง แล้วยังมาทำสีหน้าไม่พอใจเธออีก เธอจะรู้ไหมว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น “คุณโกรธฉันเหรอ” “ผมบอกให้คุณรอบนรถ” “ก็ฉันเบื่อ อยากยืดเส้นยืดสาย” “ต่อหน้านักข่าว” “ฉันจะรู้ไหม” คำตอบของอนิลทำให้เขาหงุดหงิด ใบหน้าหล่อเหลาเช่นเขา แทนที่จะยิ้มแย้ม แต่กลับเอาแต่เคร่งเครียด ดูไม่สบายหูสบายตาเอาเสียเลย “ฉันจะไปเที่ยว ไม่ได้อยากไปดูคุณทำงานเสียหน่อย” “ก็จะพาไปอยู่นี่ไง” “มืดค่ำป่านนี้ เที่ยวแบบไหนกัน” เมื่อพูดจบ ด้วยความตกใจ อนิลรีบหันขวับมองหน้าเขาอย่างไม่ไว้วางใจ จ้องเขาเขม็ง ทำให้เวหาถึงกับหันมามอง “คิดอะไรอยู่ พี่ชายคุณบอกให้ไปหาที่อินดีสผับ” อนิลค่อยโล่งใจที่เขาพูดถึงพี่ชาย เวหาบอกกับพนักงานต้อนรับด้านหน้า ว่าเขาเป็นแขกของธนญ เธอจึงรีบนำเขาเข้าไปในทันที สถานที่ทำให้อนิลสนใจ ที่นี่มีผับที่ดูใหญ่โตอลังการมาก และดูดีมีระดับ อนิลเดินตามเวหาเข้าไปราวกับคู่รัก เวหาที่หล่อเนี้ยบด้วยรูปร่างหน้าตาและเครื่องแต่งกาย ทำให้เป็นที่จับตามมอง อีก
เมื่อรู้สึกตัวในเช้าของวันถัดไป อาการปวดตึบที่ศีรษะแทบทำให้เวหาไม่อยากลุกจากเตียง แต่เพราะเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ ที่ดังถี่อยู่หลายครั้งต่อเนื่อง แรงสั่นในกระเป๋าเสื้อสูทที่ว่างอยู่ข้างตัว เขาควานหามัน “ครับ” เขารับโทรศัพท์ด้วยอาการงัวเงีย และปวดตึบที่ศีรษะ “แกอยู่ไหน” “อืม” เวหาลืมตาและมองไปรอบๆ ก่อนจะตกใจดีดตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว “คอนโดครับ” “กลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้” เมื่อได้รับคำสั่ง เวหารีบลุกจากเตียงทันที เขาตรงไปที่ห้องน้ำมองหน้าตัวเองในกระจก ก่อนจะล้างหน้าล้างตาและรีบออกไปทันที เขาลงมาชั้นล่างในชุดเดิมพร้อมสูทพาดแขน เพราะคำสั่งให้รีบกลับบ้านด่วนจึงไม่มีเวลาที่จะจัดการกับตัวเอง เขาตรงไปที่เคาน์เตอร์ และถามพนักงานสาวทันทีว่าใครมาส่งเขาที่นี่ เพราะเขาจำอะไรไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนกะเข้ามาเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนจึงตอบไม่ได้ แต่เพราะมีโน้ตติดไว้ที่ส่งมอบงาน เธอจึงบอกเขาได้แค่ว่า มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ของคนที่มาส่งเขาเมื่อคืนทิ้งไว้ให้กรณีฉุกเฉิน และยื่นส่งให้เวหา เวหารับกระดาษแผ่นนั้น และมองดูมัน เป็นหมายเลขโทรศั
อาหารสำหรับสองคน ที่วางอยู่บนโต๊ะ มากมายจนอนิลไม่รู้ว่าจะทานหมดไหม แต่ทุกอย่างล้วนแต่น่ากินทั้งนั้น โดยเฉพาะกุ้งเผาตัวใหญ่ทที่ผ่าครึ่งแบะออกพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด มันกุ้งสีเข้มเยิ้มอยู่ที่หัว จนแทบกลืนน้ำลายไม่ทัน เวหาหาใช้ช้อนตักให้เธอ เพื่อเป็นการประเดิมอาหารบนโต๊ะที่เป็นจานเด็ดสำหรับมื้อนี้ ที่อนิลรอคอย “ขอบคุณค่ะ” “น้ำจิ้มนี่อาจจะเผ็ดสักหน่อย คุณลองชิมก่อนนิดหนึ่ง ถ้าเผ็ดผมจะให้เขาปรุงให้ใหม่” อนิลลองตักมานิดหนึ่งหยดลงบนเนื้อกุ้งขาวที่มีไอระอุ ก่อนจะนำเข้าปาก และต้องรีบเป่าปากและดื่มน้ำตามทันที “เผ็ดใช่ไหม” “ค่ะ” เวหายกเมือเรียกพนักงานทันที “ขอโทษครับ ช่วยทำน้ำจิ้มให้ใหม่สักถ้วยได้ไหม คุณผู้หญิงทานเผ็ดไม่ได้ ขอพริกแค่เม็ดเดียวพอ” “ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” อนิลยิ้มให้เขา การดูแลผู้หญิงของเขา ยากที่ผู้หญิงคนไหนจะไม่ตกหลุมรัก แต่ทำไมเขาถึงไม่เคยให้ความสนใจหญิงสาวพวกนั้น นั่นทำให้อนิลคาใจ และสงสัยเพิ่มไปอีก ที่เขาทำดีกับเธอเป็นพิเศษเช่นนี้ ไม่น่าจะใช่เพราะว่าเขาชอบเธอหรอก เปิดใจให้เธอตามคำสั่งพ่อแม่ เพราะหากเป็นอย่างนั้น เขาควรจะทำมันตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะหล
อนิลหลับอยู่บนโซฟายาว โดยมีสูทของเวหาห่มคลุมกันหนาวจากแอร์คอนดิชั่น เมื่อออกจากอยุธยา เวหาตั้งใจจะพาเธอกลับไปยังโรงแรมที่พัก แต่เพราะมีสายด่วนจากศูนย์วิจัยอาหารจากโปรตีนพืชทดแทนโปรตีนจากสัตว์ เพื่อการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ พบปัญหาจากการจัดเก็บที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตามมาตรฐาน ส่งผลให้เกิดสารก่อให้เกิดโทษต่อผู้บริโภค จึงมีการเรียกประชุมด่วน ทำให้เขาต้องพาอนิลมาที่สำนักงานการวิจัยฯด้วย แต่เนื่องจากการประชุมที่ไม่สามารถสรุปแนวทางแก้ไขได้ เพราะต้องมีการถกกันอีกหลายประเด็น ทำให้การประชุมนั้นยืดเยื้ออกไปมาก อนิลเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว จนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง เพราะอากาศที่เย็นสบายและร่างกายที่เหนื่อยล้าจากค่ำคืนก่อน ทำให้เธอนอนหลับสบายโดยไม่มีสะดุ้งตื่นเลยสักนิด หลังจากเลิกประชุม เวหามองนาฬิกาที่ข้อมือ มันล่วงเลยเกือบเที่ยงคืน มันทำให้เขาตกใจ ก่อนจะรีบขอตัวเพราะทิ้งอนิลไว้ลำพังนานมาก แต่เมื่อเปิดประตูห้องรับรองเข้าไป พบว่าเธอนอนหลับอยู่ นั่นทำให้เวหาอดไม่ได้ที่จะยืนมองเธออยู่อย่างนั้น ก่อนจะตรงเข้าไปนั่งลง ใช้หลังมือแก้วเธอเบาๆ เพราะมันเย็นเฉียบ อนิลลืมตาขึ้
จากการที่วิกรมรายงานเรื่องที่ทรงกลดอ้างชื่อของอักษะ เพื่อหวังข่มเวหาและรังแกอนิล ทำให้อักษะโกรธจนแทบฆ่าเขา นั่นเพราะเขานำชื่อของอักษะข่มคนที่ไม่สมควรถูกข่มอย่างเวหาและอนิล โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเวหาเป็นลูกชายของรัฐมนตรีมานิต นั่นยิ่งทำให้นายอักษะแทบคลั่ง นายอักษะให้โอกาสเขาอีกครั้งในการหาทางกำจัดสืบสายให้ได้ ถ้าไม่สำเร็จ หากเกิดอะไรขึ้นกับทรงกลด พวกเขาจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว แต่ถ้าสำเร็จ แม้แต่รัฐมนตรีมานิตก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องทรงกลด ซึ่งนั่นเป็นข้อเสนอที่ดูคุ้มเกินกว่าคุ้ม และยากที่จะปฏิเสธได้ ทำให้ทรงกลดรีบตบปากรับคำทันที เมื่อกลับมาถึงที่พัก ข้าวของต่างๆ ถูกเขวี้ยงปากระจัดกระจายด้วยโทสะ เขาต้องระบายมันออกมา เพราะต่อหน้านายอักษะ เขาต้องเก็บมันไว้ ความเคืองแค้นที่เขามีต่อวิกรมและเมืองนายไม่ได้จบแค่นั้น เมืองนายที่มารู้จักกับอักษะเพราะเขา แต่กลับทำตัวอยู่เหนือกว่าและนิ่งเฉยราวกับเจ้านาย แม้แต่อักษะยังต้องเกรงใจ ในขณะที่วิกรมที่จ้องเล่นงานเขาจากเรื่องนี้ เพื่อลิดรอนความไว้วางใจของนายอักษะที่มีต่อเขา น้ำรินถูกเรียกตัวทันที แม้จะไม่อยากมาพบทรงกลดแต่ก็จำใจ เพราะพักหลังมาน
อังคณาถูกนำตัวส่งกลับยังคฤหาสน์ของนายอักษะในช่วงสาย โดยที่ไม่มีใครคาดคิด หญิงสาวในชุดเสื้อผ้าแสนธรรมดากางเกงขาก๊วยผ้าฝ้ายทอมือ และเสื้อม่อฮ่อมแหวกอก ผูกเชือก จะมายืนอยู่หน้าประตูเกาะรั้ว รอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ทำท่าจะไล่เธอแต่ต้องชะงักไปห่างออกไปไม่ไกล คนของอาชาที่คงทรัพย์ใช้ให้มาส่งเธอที่บ้าน ซุ่มดูว่าเธอได้เข้าไปในบ้านเรียบร้อย ก่อนจะโทรรายงานอาชาให้ทราบ “คุณอังคณาเข้าบ้านแล้วครับพี่”“อืม ขอบใจ บอกให้คนของเรากลับมาได้”“ครับ”คงทรัพย์ที่กลับมาที่บ้านแล้ว ถูกนายคงกระพันเรียกตัวมาสอบถาม ว่าได้จัดการเรื่องของนายทรงกลดไปถึงไหนแล้ว“รอจังหวะอยู่ครับพ่อ เมื่อวานมันอยู่ที่บ้านนายอักษะเกือบทั้งวัน ตอนออกมาก็ตรงกลับไปที่คอนโดทันที ไม่มีทีว่าว่าจะออกไปไหน นี่ก็ยังให้คนของเราซุ่มดูอยู่”“อืม จัดการให้เรียบร้อย อย่าให้ท่านทวงถามหลายรอบ”“ครับพ่อ”คงทรัพย์แยกตัวจากนายคงกระพัน ก่อนจะโทรศัพท์หาอาชาอีกครั้ง เพื่อกำชับเรื่องของทรงกลด เพราะผู้ใหญ่ตำหนิมาว่าทำงานช้าหลังมื้ออาหารเช้า คนสนิทของท่านมานิตยื่นแท็บเล็ตที่มีข่าวด่วนของเวหาขึ้นโรงพัก ถูกปล้นเพราะแอบควงสาวไ
เมื่อรถที่มาส่งเวหาขับออกไปจากหน้าคอนโดแล้ว เวหาที่พอจะมีสติอยู่นิดหน่อย เดินโซซัดโซเซเข้าไปในลิฟท์เพื่อจะขึ้นไปยังห้องพักของเขา เขาเองกลับมาที่นี่ด้วยสัญชาตญาณ ตัวเองก็ลืมไปว่าได้ยกห้องนี้ให้กับอนิลไปแล้ว เมื่อถึงหน้าห้องเขาใช้การ์ดที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์แตะไปที่ล็อคประตูห้องก็เปิดออกอย่างง่ายดาย ในความมืดมิด ร่างที่นอนสงบอยู่บนเตียงไม่ได้รับรู้การเข้ามาของผู้บุกลุกเลยสักนิด เธอนอนหลับสนิท เวหาถอดเสื้อตัวนอก ปลดกระดุมและพับแขนเสื้อดึงชายออกจาการเกง ดึงเข็มขัดรวมถึงถอดกางเกงพาดทิ้งไว้ที่โซฟานั่งเล่น ก่อนจะปีนขึ้นเตียงนอน และหลับไป เมืองนายที่รู้สึกเสียอารมณ์นิดหน่อยที่เวหาจากไปก่อน เขาตั้งใจจะมาดื่มกับเวหาจนหัวทิ่ม แต่เพราะอริศราที่มาเป็นตัวขัดขวางความสุขจากการดื่มของพวกเขา แต่เพราะความเย้ายวนต่างๆ ที่เธอเอาอกเอาใจเขาอยู่ตลอดเวลา มันเลยทำให้เขาพอจะคลายความไม่พอใจลงได้บ้าง คงทรัพย์และสืบสาย ซุบซิบอะไรบางอย่าง ก่อนที่ธนญจะเดินกลับมาที่โต๊ะ หลังจากไปเข้าห้องน้ำ เขามองคงทรัพย์และสืบสาย ก่อนที่ทั้งสองจะเงยหน้าขึ้น “ฉันให้อาชาเอาไอ้ทรงกลดไปทิ้งที่ลานจอดรถของคอนโดตามเดิ
เช้าที่สดใส แสงแดดอบอุ่นส่องเข้ามาภายในห้อง ผ่านกรองแสงด้วยม่านขาวบางเบา เวหากอดร่างของอนิลไว้ในอ้อมกอดโดยไม่รู้ตัว เพราะความเมาไม่ได้สติ สำหรับอนิลเธอคิดว่ามันคือความฝัน แม้จะรู้สึกเคลิบเคลิ้มและหลงใหลเวลาที่เขาสัมผัสเรือนกายที่เปลือยเปล่าอนิลติดนิสัยไม่ใส่เสื้อผ้ายามนอน เพราะรู้สึกสบายกว่าอีกทั้งเธอนอนคนเดียว และมีห้องนอนส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเข้าสู่วัยสาว ก็ไม่เคยถูกรบกวนจากพ่อแม่ เธอจึงทำมันโดยไม่คิดว่าจะมีใครมานอนร่วมเตียงกับเธอเช่นนี้เวหาที่ตื่นขึ้นมาก่อน เขารู้สึกปวดตึบที่ศีรษะ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขากำลังปรับสายตา เพราะใบหน้าซุกอยู่ที่แผ่นหลังขาวเนียนของใครคนหนึ่ง จนเมื่อชัดเจนและมั่นใจว่าไม่ใช่ฝัน เขาถึงกับตกใจผละออก แต่เพราะแขนอีกข้างที่ถูกทับอยู่ มันทำให้เขากลัวว่าเจ้าของร่างนั้นจะตื่น เขามองไปทั่วห้อง เมื่อจำได้ว่ามันคือห้องคอนโดของเขาที่ยกให้กับอนิลไปแล้วอนิลพลิกกายหันหน้ามากอดเขา เธอรู้สึกหนาว เพราะผ้าห่มเลื่อนออกจากไหล่ เพราะเวหาขยับตัวจะลุกออก เมื่อรู้ตัวว่าเขากำลังกอดอนิลอยู่ เวหาตัวเกร็งไปหมด เมื่ออกอวบอูมของอนิลกอดอยู่บนอกกว้างของเข