พัศวีหยิบแส้หางม้าขึ้นมา ใช้ด้ามจับสอดไปที่ใต้กระโปรงสั้นแค่คืบตรงหว่างขาเขาถูมันไปมา จนพรีมถึงกับคราง เพราะเนื้อแข็งของวัตถุที่สัมผัสถูเนื้ออ่อนนุ่ม มันทำให้รับรู้ถึงความเสียวซ่านได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เจ็บแสบไปพร้อมกัน
เขากดร่างพรีมลงบนโต๊ะตัวกว้างที่เก็บข้าวของที่ไม่ได้ใช้ออกจนหมด พรีมนอน คว่ำ มือถูกไพ่หลังพร้อมใส่กุญแจมือ ทำให้พรีมใจเต้นแรงและเริ่มกลัว ก่อนที่พัศวีจะใช้ขาเตะเท้าของเธอ วาดออกให้กว้าง พร้อมถกกระโปรงเปิดเผยสะโพกเย้ายวน
เขาใช้แส้ฟาดลงบนเนื้อขาวของพรีมเบาๆ จนพรีมร้องออกมา
“เจ็บใช่ไหม”
“พรีมเจ็บนะวี”
พัศวีวางแส้ และนำวัตถุบางอย่างที่สามารถเคลื่อนไหวได้มาจ่อตรงปากปล่องทั้งที่ยังมีชั้นในบางขวางกั้น มันทำให้ร่างของพรีมกระตุก
“เสียวไหม”
“มันคืออะไร”
“เซ็กซ์ทรอย แบบเดียวกับในหนังอย่างว่า วีรู้ ว่าพรีมต้องเคยสงสัยว่ามันรู้สึกยังไง ลองดูนะ”
พัศวีดึงชั้นในออกพร้อมสอดมันเข้าไป ปุ่มถูกกดให้ทำงาน ทำให้เธอเสียว
คงทรัพย์นั่งดูโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกไปมา ให้แห้งอย่างรวดเร็ว เขาดูข่าวที่ตีสีใส่ไข่เกี่ยวกับเขาและอังคณา ที่เกินเลยออกรสชาติเกินบรรยาย จินตนาการมากมายผุดมาตามกระแส เสียงวิพากษ์วิจารณ์และการขุดคุ้ยประวัติและพฤติกรรม ที่น่ารังเกียจของอังคณา ทำให้เขายังสนใจ หลายๆ เรื่องเกี่ยวกับอังคณาที่เขาไม่เคยรู้ แค่ภาพไม่กี่ภาพที่เขาปล่อยออกไป กลับรู้เรื่องราวอื่นๆ ของเธออีกมากมาย สายตาและรอยยิ้มเหยียดที่มองอังคณา แม้เธอไม่รู้ว่าเขาอ่านหรือดูอะไรอยู่ แต่เชื่อว่ามันล้วนแต่เกี่ยวกับเธอ แม้คงทรัพย์ไม่ใช่ผู้ชายหน้าตาดีอะไรมากมาย แต่รูปร่างของเขากลับทำให้คนหน้าธรรมดาดูหล่อเหลาขึ้นมาได้ ร่างกายที่แข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ อกผาย ไหล่ผึ่ง หน้าท้องแบนราบเป็นสันนูนตามริ้วมัดกล้ามเนื้อที่ท้อง อังคณาแอบรอบมองเขาอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปาก “ฉันปวดท้อง” คงทรัพย์เหลือบมอง แต่กลับไม่สนใจและนิ่งเฉย อาการปวดท้องจนขนลุกทำให
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ อังคณาที่ไม่สามารถเดินไปไหนได้ เพราะบาดแผลที่หนักหนาสาหัสที่เท้าของเธอ ทุกย่างก้าวแสนเจ็บแสบและทรมาน เธอคงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารนั้น มองดูหญิงกลางคนที่เข้ามาเก็บจานอย่างมีความหวัง หากแต่ป้าศรกลับไม่ยอมมองหรือสบตากับเธอ และจากไปอย่างรวดเร็วอังคณาพอมีความหวังอยู่บ้าง เธอมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีเม็ดฝนโปรยปรายอยู่ เธอและคงทรัพย์ทรัพย์โชคดีที่เดินทางมาถึงที่นี่ก่อนที่พายุฝนจะมา เรือนหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมผา สวยงามแต่ดูน่ากลัว เพราะเป็นเรือนไม้ทั้งหลังดูถมึงทึงมืดดำท่ามกลางป่าเขา ปิดตายจะเปิดใช้เฉพาะเวลาที่เจ้าของมาพักผ่อน ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาก็สิบกว่าปีที่พัศวีพาเกศิตาไปที่นั่นแต่เรือนที่เธอและคงทรัพย์พักอยู่ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนเรือนหลังนั้น แต่ก็กว้างขวางและสะดวกสบายเช่นกัน ที่สำคัญมันหลบอยู่อีกมุมหนึ่งที่ไม่สามารถมองเห็นจากประตูทางเข้าด้านหน้าที่ติดกับถนนหลัก จึงไม่มีทางที่บุคคลภายนอกจะรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขา“เราจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน
หลังจากที่นายวิกรมและพวกได้กลับไปแล้ว คงทรัพย์เอาแต่นั่งดื่มด้วยความโกรธ ที่พวกของวิกรมอุกอาจมาบุกผับของเขาอย่างไม่ยำเกรงเช่นนี้ เขาจะต้องเอาคืนให้ได้ อาชานั่งดื่มเป็นเพื่อน หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย“พี่จะให้ผมกลับไปส่งที่เขาใหญ่ไหม”“ไม่ต้อง ในเมื่อมันเปิดหน้ากับฉันแบบ นี้จะเอาคืนซึ่งหน้าเหมือนกัน”“แล้วจะปล่อยคุณอังคณาไว้ที่นั่นแบบนั้นจะดีหรือ”“ยายนั่นหนีไปไหนไม่รอดหรอก ทิ้งไว้นั่นแหละ”คำตอบของคงทรัพย์ เป็นการจบประโยคสนทนา เกี่ยวกับอังคณาโดยสิ้นเชิงอาชาไปส่งคงทรัพย์ที่บ้านของคงกระพัน เขาต้องไปอยู่ที่บ้านพ่อก่อน เพราะพวกของนายวิกรมยังไม่ยอมเลิกตอแยกับเขาได้โดยง่าย ยิ่งเขาหักหน้านายวิกรมเช่นนั้นทั้งที่อุตส่าห์พานายตำรวจใหญ่มาข่มขู่เขาให้เกรงกลัวแท้ๆ การอยู่คนเดียวลำพังเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย อีกทั้งร่างกายเขาเองก็ยังไม่สมบูรณ์พอ“ไอ้วิกรมมันพาพวกไปบุกผับแกงั้นหรือ”“
มินตราที่นอนหลับสนิท ลืมตาตื่น เมื่อรู้สึกว่าใครสักคนกำลังจับมือเธออยู่ ตรีวิทย์กุมเมือเธอแนบที่หน้าผากของเขา เพราะความเครียดและคิดหนัก สับสนและเป็นห่วงเธอ ทันทีที่รู้ว่าเป็นเขา มินตรารีบดึงมันออกจากการเกาะกุมของเขา“ตื่นแล้วหรือ”ตรีวิทย์ยิ้ม และรีบถามเมื่อเธอดึงมือออก นั่นเพราะเธอเพิ่งรู้สึกตัว“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”“วันนี้ที่บริษัทมีประชุม เจ้านายคุณบอกว่าคุณนอนโรงพยาบาล”“คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่เป็นไร”“ไม่เป็นไร ผมจะอยู่ดูแลคุณเอง”“เราเลิกกันแล้ว”“แต่ผมก็ยังเป็นพ่อเด็กอยู่ อีกอย่างคุณคงไม่อยากให้คนอื่นสงสัย”มินตราเงียบไป มันจุกแน่นที่หน้าอก“แต่สักวันพวกเขาก็ต้องรู้”“มันไม่เร็วไปหรือ”คำถามของเขามาพร้อมกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่“มันก็เร็วพอๆ กับที่คุณขอเลิก เมื่อเจอแฟนเก่านั่นแหละ”
ตรีวิทย์กลับเข้ามาในห้องเมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เขามองโทรศัพท์ที่ตกอยู่ที่พื้น หน้าจอแตกกระจายชิ้นส่วนชิ้นเล็กๆกระจายไปคนละมุม ก่อนจะหยิบมันขึ้น มินตรานั่งมองด้วยสีหน้าเฉยชา เธอไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาสติแตก แต่เขาไม่ใช่ตรีวิทย์ที่เธอรู้จักอีกแล้ว เด็กหนุ่มอารมณ์ดี ยิ้มสดใส ตลกอยู่ตลอดเวลา ขี้เล่น รอยยิ้มสดใสร่าเริงที่ยิ้มให้เธอเสมอไม่มีอีกแล้ว “คุณกลับไปเถอะ มินอยากอยู่คนเดียว คุณเองก็ไม่พร้อม” “ทำไมมีแต่คนคอยปฏิเสธผม” เขากระชากเสียง จนมินตราตกใจ แต่เธอต้องเก็บอารมณ์นั้นเอาไว้มันทั้งเจ็บและขมขื่น “คุณเองก็ปฏิเสธมินไม่ใช่หรือ” ตรีวิทย์มองหน้ามินตรา มันจุกจนพูดไม่ออก เขายอมรับที่เป็นฝ่ายขอเลิกกับเธอก่อน แต่เธอไม่ยอมรับมันก็ได้ แต่ทำไมเธอถึงยอมรับมันง่ายดายนัก เพราะเธอไม่เคยคิดจะรักเขา เธอก็แค่ผู้หญิงรักสนุกที่ไม่ต้องการผูกมัดตั้งแต่แรก เธอไม่คิดจะเก็บเด็กไว้เสียด้วยซ้ำ “การที่มีลูกกับผมมันผิดพลาดมากใช่ไหมมินตรา” “ที่ฉันพยายาม
ทรงกลดอารมณ์ฉุนเฉียว ที่พยายามโทรตามน้ำริน แต่เธอไม่ยอมรับสาย เพราะมัวทำกิจกรรมอยู่กับสองหนุ่ม จนไม่ได้สนใจโทรศัพท์ ชนาธิปมาส่งเธอที่คอนโด แต่ต้องผิดหวังที่เธอปฏิเสธไม่ให้เขาขึ้นไป เพราะเพิ่งเห็นสายเรียกเข้ามากมายจากทรงกลด เกรงว่าเขาจะมีงานด่วนเพื่อตามเธอให้ไปหาที่ไหนสักแห่ง“มัวทำอะไรอยู่ ฉันโทรหาเป็นร้อยสาย”“รินทำงานค่ะ”“ยังมีงานอื่นที่สำคัญกว่างานของฉันงั้นหรือ”น้ำรินเงียบเสียง พยายามสกัดกั้นอารมณ์ไว้ ที่เขานับวันจะทำตัวเป็นเจ้านาย เอาแต่ฉุนเฉียวใส่เธอ“มีอะไรหรือคะ”“ฉันได้ข่าวมาว่า มีดาราตกกระป๋องเข้าไปหาท่านอักษะถึงบ้านเมื่อหัวค่ำ ถ้าเธอไม่รีบทำคะแนน จะอดขึ้นแท่นเอาได้ง่าย ดารานั่นสวยและหุ่นดีกว่าเธอมาก”“ใครหรือคะ”“อริศรา เลวิส”“สวยและหุ่นดีงั้นหรือ แต่อร่อยไหมมันอีกเรื่องนะคะ”น้ำรินยิ้มเยาะ และอดขำไม่ได้ที
เมื่อเข้ามาในห้อง อาการช็อคของน้ำรินทำให้เมืองนายยิ้ม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องทำขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเขาเป็นพวกต้องการเอาชนะ ชอบความท้าทาย หรือไม่ก็รวยมากจนมองว่าเงินที่จ่ายมา เป็นเพียงแค่เศษเงินเพียงเล็กน้อย “คุณทำแบบนี้ทำไมคะ” “ผมเห็นว่าคุณคิดถึงแต่เงิน ถ้าเงินมันซื้ออะไรได้ทุกอย่างจริง เงินแค่นี้ทำให้ผมไม่ต้องเหนื่อยไปที่อื่น ผมก็จ่ายให้ได้ ไม่ชอบหรือ” น้ำรินจุกอยู่ที่คอ เขากำลังมองเธอเป็นผู้หญิงหิวเงิน ใช้เงินซื้อก็ยอมได้หมด “คุณตามฉันหรือ ถึงได้รู้ว่าฉันกลับมาแล้ว และมาที่นี่เร็วขนาดนี้” “ว้าว! คุณให้ค่าตัวเองสูงขนาดนั้นเลยหรือ ที่คนอย่างผมถึงกับต้องตามเฝ้า” ราวกับถูกตบหน้า เขาเหยียดเธอด้วยคำพูดติดตลกพวกนั้น เธอยืนนิ่ง เมื่อเขาเดินมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจห้องของเธอ เหตุเพราะเมื่อคืนและช่วงเช้าไม่ทันได้มีเวลาสำรวจ เขาอยากเห็นว่ามันดีระดับไหน ที่ทำให้เธอต้องเร่งหาเงิน ในเมื่อเป็นห้องราคาธรรมดาที่จ่ายเด
น้ำรินมาพบพัศวีและเพื่อนๆตามนัด เธอเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียว ที่ได้รับการต้องรับและดูแลเป็นอย่างดีจากหนุ่มหล่อทั้งสี่คนเป็นอย่างดี จนสาวๆคนอื่นแอบอิจฉา“ขอโทษที่มาช้าค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ พวกเราอยู่ที่นี่อยู่แล้ว ยังไงก็อยู่กันทั้งคืนนั่นแหละครับ”พัศวียิ้มให้เธอ ด้วยความรู้สึกดีใจที่ได้พบ เพราะพวกเขาไม่ได้เจอน้ำรินและอัญชิสามาพักหนึ่งแล้ว แม้วันนี้อัญชิสาจะไม่ได้มากับน้ำริน เพราะพัศวีไม่อยากให้อัญชิสาต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เขาก็ดีใจที่น้ำรินไม่ปฏิเสธหรือถามถึงเหตุผลเลยสักนิด แก้วเครื่องดื่มถูกจัดไว้รอน้ำรินนานแล้ว เมื่อมาถึงสืบสายจึงยื่นให้เธอเมื่อผสมเรียบร้อย“ขอบคุณค่ะ วันนี้พวกคุณดูเอาใจใส่รินเป็นพิเศษ มีอะไรให้รับใช้คะเนี่ย”“คุณรินรู้ทันอีกแล้ว”พัศวียิ้ม น้ำรินเป็นคนฉลาด เธอมักจะคาดเดาความต้องการของชายหนุ่มได้ถูกต้องเสมอ โดยยังไม่ทันได้เอ่ยปาก สมแล้วที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความต้อ