2. อ้อมกอดที่แสนอบอุ่น
Dao talks
“พาย ทำไมพี่ซายน์ไม่มาซะทีสองชั่วโมงกว่าแล้วนะ” ฉันนั่งรอพี่ชายของเพื่อนรักที่ทางออกหมายเลขสิบสองนานจนรากจะงอกแล้ว แต่ไม่มีวี่แววพี่ซายน์จะมารับเลย ฉันนึกเกรงใจจึงเอาเบอร์โทรพี่ซายน์ที่ยัยพายให้มาโทรไปแค่สายเดียวแต่ไม่มีใครรับสาย
[ ฉันก็โทรไปตั้งยี่สิบสาย พี่ซายน์นะพี่ซายน์ถ้าเจอหน้าฉันดีดหน้าผากซักที หงุดหงิดโว้ย ] เสียงเพื่อนสาวดูไม่สบอารมณ์มากๆ
“ไม่เป็นไรแก เดี๋ยวพี่ซายน์คงมาแหละ อาจจะติดงานเลยมาช้า” ฉันมองโลกในแง่ดีพี่ซายน์คงทำงานติดพันเลยออกมาช้า หมอก็แบบนี้แหละไม่มีเวลาตายตัว
[ ติดหญิงน่ะสิไม่ว่า อุ้ย!! ]
“ติดหญิงอะไรแก” ฉันฟังไม่ชัดเลยสงสัยสัญญาณไม่ดี
[ คนไข้หญิงน่ะแก งั้นก็รอหน่อยละกัน ขอโทษแทนพี่ด้วย ] พอยัยพายวางสาย ฉันก็เริ่มหิวขณะที่กำลังจะไปหาอะไรกินรองท้อง หนุ่มตาน้ำข้าวตัวโตยืนอยู่ตรงหน้า เขาสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะสบายๆ เหมือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายๆคน
“Hey girl ! you are so cute. What’s your name? (คุณน่ารักจัง ชื่ออะไร)” ฉันไม่ชอบภาษาอังกฤษการสื่อสารอยู่ในระดับแย่มากถึงมากที่สุดแต่ประโยคง่ายๆก็พอได้บ้าง แล้วคนต่างชาติก็ชอบพุ่งตัวเข้าถามทางฉันเป็นประจำหน้าตาฉันคงเหมือนคนพูดภาษาอังกฤษเก่งล่ะมั้ง โชคดีมียัยพายอยู่ใกล้ๆ ยัยนี่เหมือนกินวุ้นแปลภาษาสำเนียงของนางเทียบเท่าเจ้าของภาษาเลยทีเดียว ฉันมองหน้าชายหนุ่มผมทองตาสีฟ้าตรงหน้า อะไรคิ้วๆ แต่อันหลังน่าจะถามชื่อนะ
“My name is Dao Star อ่ะ ดาว รู้จักมั้ย?” ฉันพูดแถมใช้มือประกอบชี้ไปบนฟ้า
“Can I sleep with you? (ผมขอนอนกับคุณได้ไหม)” หนุ่มตรงหน้ามองด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
“ไม่มีทาง” ฉันพยายามเดินหนี แต่นายคนนี้ก็มายืนขวางไว้ทุกทาง ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆสูงแค่ร้อยหกสิบกับผู้ชายตัวโตสูงเข้าไปตั้งเกือบร้อยเก้าสิบ ฉันชักเริ่มจะกลัวอยู่ดีๆก็มาขอนอนกับฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆนะเว้ย
“How much? (เท่าไหร่)” อีตาฝรั่งหน้ามึนล้วงกระเป๋าเงินออกมาโชว์แบงค์ดอลล่าร์หนาเป็นปึกในกระเป๋า
“ฉันไม่ได้ขายโว้ย” ฉันมองไปรอบๆหาคนที่พอจะช่วยได้ แต่ไม่มีใครสนใจทุกคนคงจะนึกว่าฉันมากะสามีฝรั่ง มือหนาหยาบกร้านคว้าหมับที่ข้อมือฉัน ฉันพยายามดิ้น น้ำตาคลอพาลจะไหล
“That’s enough! (พอได้แล้ว)” น้ำเสียงทุ้มของใครคนหนึ่งพูด ร่างสูงสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีเข้มดึงฉันเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองผู้มีพระคุณ นะ..นี่มันพี่ซายน์...
“Mind your business! (ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของแก)” ฝรั่งร่างยักษ์ชี้หน้าพี่ซายน์
“She is my wife. Get out!! (เธอเป็นภรรยาของผม ไสหัวไป)” พี่ซายน์พูดเสียงดังพอประมาณ คู่กรณีชี้หน้าเหมือนจะบอกว่าฝากไว้ก่อนเถอะแล้วเดินหนีไปทันที ตะกี้พี่ซายน์บอกว่าฉันเป็นภรรยาเลยเหรอ? แอบเขินเบาๆ ถึงจะพูดเพื่อไล่อีตาฝรั่งขี้หลีก็เถอะ
“รถจอดทางโน้นไปกันเถอะ” พี่ซายน์เดินนำไปที่รถสปอร์ตสีขาวคันหรูที่จอดอยู่ริมถนน เขาแย่งกระเป๋าในมือฉันไปถือ พอขึ้นรถแล้วฉันยังรู้สึกกลัวไม่หายถ้าพี่ซายน์มาช้ากว่านี้ไม่อยากนึกเลยอยู่ๆน้ำตาก็ไหลควบคุมไม่ได้
“พี่ขอโทษที่มาช้า กลัวมากใช่มั้ย?” พี่ซายน์ทำหน้าตกใจที่เห็นฉันร้องไห้ จึงคว้าฉันไปกอด มือหนาลูบหลังฉันเบาๆ กลิ่นน้ำหอมจางๆของผู้ชายอบอวลอยู่ใกล้ๆ หัวใจฉันเต้นแรงนี่เป็นครั้งแรกที่อยู่ใกล้เพศตรงข้าม ใกล้จนหัวใจแนบหัวใจ...รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะเคลิ้มไปมากกว่านี้ สติฉันบอกว่ายังไงซะพี่ชายเพื่อนก็เป็นชายแปลกหน้าอยู่ดี อยู่ๆเราจะมากอดกันได้ยังไง
“พี่ซายน์คะ..ไม่ต้องกอดก็ได้ค่ะ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้น
“เวลาที่พายร้องไห้พี่ก็กอดปลอบใจเขาบ่อยๆน่ะ พี่ก็นึกว่า..เอ่อ..พี่ขอโทษที่กอดเรานะ” พี่ซายน์ขับรถออกจากสนามบินมาที่คฤหาสน์หรู แม่พั้นซ์ยืนรอต้อนรับที่หน้าบ้าน
“มาแล้วเหรอหนูดาว แม่เตรียมห้องให้แล้ว” แม่พั้นซ์ให้แม่บ้านเอากระเป๋าฉันไปเก็บและพาฉันไปทานข้าวที่โต๊ะอาหารในบ้าน พ่อไพรซ์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว พี่ซายน์เดินตามมาเข้าไปนั่งที่นั่งประจำ
“แม่ขอโทษนะที่ลูกสาวแม่ทำให้หนูลำบากต้องมาอบรมแทนอย่างนี้” แม่พั้นซ์พูดถึงยัยพายลูกสาวสุดที่รักที่ไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มจนฉันต้องมาปฏิบัติราชการแทน
“พรุ่งนี้อบรมอะไรล่ะหนูดาว” พ่อไพรซ์ถาม
“อบรมทำความเข้าใจเรื่องการรับอาสาสมัครชาวต่างชาติค่ะถึงตอนเที่ยง ตอนบ่ายทางบริษัทจะอบรมครูอาสาสมัครค่ะ” พรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปพบปะชาวต่างชาติอีกสินะ..ยัยพายนะยัยพายป่านนี้ไปเที่ยวมีความสุขสนุกสนานที่ไหน จะรู้มั้ยนะว่าเพื่อนเกือบโดนฝรั่งร่างยักษ์ลากไปกิน
“พรุ่งนี้ซายน์ไปส่งแล้วรอรับน้องด้วยนะ พาน้องไปกินข้าวด้วย” แม่พั้นซ์บอกลูกชายที่นั่งเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่พูดไม่ไม่จา
“ครับแม่” จากนั้นฉันก็ไม่ได้ยินเสียงพี่ซายน์อีกเลยตลอดระยะเวลาที่ร่วมโต๊ะอาหาร
ตอนเช้าพอแต่งตัวทานอาหารเช้าเสร็จ พี่ซายน์ก็พาฉันไปอบรมที่โรงแรมเจเอ็มซึ่งเป็นโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ พี่ซายน์จอดรถเสร็จแล้วจึงเดินตามฉันเข้าไปในโรงแรมด้วย
“เดี๋ยวพี่จะเปิดห้องนอนรอละกัน เสร็จแล้วโทรหานะ” เปิดห้องนอนรอฉันแค่ครึ่งวันเนี่ยนะ โรงแรมนี้หรูมากห้องธรรมดาก็น่าจะหลักหลายพันแล้ว
“ขอห้องสวีทครับ” ขุ่นพระ!! ห้องสวีทคือห้องที่แพงที่สุด พนักงานโรงแรมสาวสวยส่งยิ้มให้พี่ซายน์ พี่ซายน์ไม่ยิ้มตอบทำหน้าง่วงๆรับกุญแจและเดินขึ้นลิฟท์ไปทันที สาวสวยนางนั้นหน้าจ๋อยไปเลยคงจะรู้สึกเสียความมั่นใจ จริงอย่างที่พายว่าพี่ซายน์หน้าเดียวจริงๆ หายใจเข้าเข้าเวรหายใจออกคือนอน เรื่องผู้หญิงไม่มีในสารบบ
พออบรมเสร็จฉันก็โทรหาพี่ซายน์ หมอหนุ่มทำเสียงงัวเงียเหมือนนอนไม่เต็มตื่น ประมาณสิบนาทีร่างสูงก็เดินออกจากลิฟท์ตรงมาที่ล๊อบบี้ที่ฉันนั่งรออยู่ พี่ซายน์สวมเสื้อเชิร์ตสีขาวแขนสั้นธรรมดากับกางเกงยีนส์สีเข้ม สวมรองเท้ากีฬายี่ห้อดัง นาฬิกาหรูรุ่นลิมิเตดอิดิชั่นที่มีไม่กี่เรือนในโลก คนที่เพิ่งตื่นนอนผมชี้ไม่เป็นระเบียบแต่ดูดีมีออร่า ครูสาวสายภาษาที่มาอบรมด้วยกันมองตาไม่กระพริบ
“หล่อจังเธอ ดารารึเปล่า” สองสาวที่นั่งโซฟาตรงข้ามฉันกระซิบกระซาบกันเสียงดังพอดู
“หล่อกว่าดาราบางคนอีกนะ ผิวงี้ขาวเนียนออร่า คนแบบนี้เค้าเคยรู้จักการทำไร่ทำนาบ้างไหมนะ” พี่ซายน์กับยัยพายขาวเนียนออร่าจริงๆ ยิ่งถ้าเห็นพี่ซายน์ใส่เสื้อกาวน์เดินอยู่โรงพยาบาลยิ่งมีเสน่ห์ ยัยพายพาฉันเอาของไปให้พี่ซายน์ที่โรงพยาบาล หมอหนุ่มผิวขาวใสหน้าเกาหลีกำลังเดินราวน์วอร์ดผู้ป่วย ตอนนั้นฉันคิดว่าตัวเองแอบชอบพี่ซายน์แหละ แต่ก็ได้แค่นั้นไม่มีอะไรคืบหน้าเหมือนเราปลื้มดาราเพราะพี่ซายน์เหมือนดวงดาวที่อยู่บนฟ้าต่อให้เอื้อมคว้าแค่ไหนก็ไม่อาจเอื้อมถึง..ฉันเป็นแค่ลูกสาวแม่ค้าขายของชำจะไปคู่ควรกับผู้ชายที่ทั้งหล่อ ฉลาดและฐานะดีมากคนนั้นได้ไง
“ดาว รอพี่นานไหม พอดีพี่เผลอหลับลึก” พี่ซายน์เดินเข้ามาหาฉัน สาวๆรอบข้างต่างมองด้วยความอิจฉาเพราะเข้าใจว่าฉันเป็นแฟนพี่ซายน์และฉันรอโอกาสนี้มานานแล้ว ขอใช้ความเข้าใจผิดนี้สร้างความสุขให้ตัวเองสักหน่อย
“รอไม่นานค่ะ เราจะไปกินอะไรกันดีคะ” ฉันพยายามยิ้มหวานเท่าที่จะทำได้
“พี่จองร้านไว้แล้ว ไม่ไกลจากที่นี่” ร่างสูงไม่ได้ยิ้มตอบ สมฉายาพี่ซายน์หน้าเดียว พี่ซายน์เดินนำฉันไปก่อน
“รอด้วยค่ะที่รัก” ฉันไม่ได้พูดเสียงดังมากแต่ตั้งใจให้สาวๆแถวนั้นได้ยิน ขอยืมพี่ชายหน่อยนะพาย...
Sine talks
“ดาว รอพี่นานไหม พอดีพี่เผลอหลับลึก” ผมเผลอหลับจนเกือบจะไม่ตื่นตอนที่ดาวเพื่อนน้องสาวผมโทรมา
“รอไม่นานค่ะ เราจะไปกินอะไรกันดีคะ” ผู้หญิงตรงหน้ายิ้มให้ผม พอยิ้มแล้วก็น่ารักดีเหมือนกัน ดวงตากลมโตคู่นั้นทอประกายเหมือนมีดวงดาวอยู่ในนั้น
“พี่จองร้านไว้แล้ว ไม่ไกลจากที่นี่”
“รอด้วยค่ะที่รัก” ผมทันได้ยินคำนั้นพอดี ผมมันพวกหูผีจมูกมดอยู่แล้ว นึกขำเพื่อนน้องสาวคงมีอารมณ์อยากอวดแฟนอะไรประมาณนั้น ผมชินกับสายตาของผู้หญิงหลายๆคน ที่มองผมด้วยความสนใจ ยอมรับว่าตัวเองหน้าดีถึงดีมาก ฉลาด บ้านรวย จนเพื่อนในรุ่น MD 63 ให้คำนิยามผมว่า หมอซายน์ผู้สมบูรณ์แบบ ผู้หญิงหลายคนเข้าหาผมแต่ผมไม่เคยสนใจใคร นอกจากหมอพลอยคนเดียว ผมอยากคบกับเธออย่างจริงจังอยากจะบอกทุกคนว่าเธอคือแฟนของผม แต่เธอขอเวลาเพื่อที่จะจัดการเรื่องครอบครัวให้เรียบร้อยก่อน ตอนนี้ผมจึงเป็นแค่คนรักในความลับของเธอ..เท่านั้น...
ผมพาน้องดาวมาที่ร้านประจำของผม ซึ่งต้องโทรจองที่นั่งก่อน ร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรูใจกลางกรุง ร้านตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของโรงแรมหรู รอบๆร้านกรุด้วยกระจก จำกัดแค่สิบโต๊ะต่อวัน ค่าอาหารไม่ต้องพูดถึงแต่ผมรวยไงและผมไม่มีเวลาใช้เงิน ถ้ามีเวลาก็ขอใช้เงินสร้างความสุขให้ตัวเองให้มากที่สุด...
“น้องดาวอยากทานอะไรสั่งเลยครับ” บริกรหนุ่มวางเมนูอาหารไว้บนโต๊ะ เพื่อนน้องสาวมองเมนูอาหารแล้วทำหน้าแปลกๆ เหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง
“พี่ซายน์คะ ไม่มีกะเพราไก่ไข่ดาวเหรอคะ?” เธอพูดเสียงเบาราวกับกระซิบ ผมกลั้นยิ้ม เธอคงไม่เคยมากินอาหารแบบนี้ ที่สำคัญเมนูมีแต่ภาษาอังกฤษทั้งนั้น
“เอาแบบเป็นคอร์สละกันครับ” ผมเองก็ขี้เกียจสั่งเป็นอย่างๆ ให้ร้านจัดเซทมาเลยละกัน
“เป็นคอร์สสองท่านราคาอยู่ที่ประมาณท่านละสองหมื่นนะครับ” พนักงานแจ้งราคา น้องดาวทำตาโตด้วยความตกใจ
“ดาวไม่เอาเป็นคอร์สนะคะ ดาวกินแค่น้ำเปล่าก็พอ” น้องดาวจะรู้มั้ย? น้ำแร่ฝรั่งเศสที่กำลังดื่มขวดละห้าร้อย
“เอาเป็นคอร์สสองที่ครับ ถือว่าพี่เลี้ยงขอโทษเรื่องเมื่อคืนละกัน” นึกถึงดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำตาแล้วผมอดรู้สึกผิดไม่ได้ ถ้าผมมาช้าแค่นิดเดียวผมต้องรู้สึกบาปไปตลอดชีวิตแน่ๆ ที่ทำให้เพื่อนน้องสาวโดนลากไปกับฝรั่งร่างยักษ์...
“ดาวเกรงใจค่ะ” น้องดาวทำหน้าลำบากใจ
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับที่รัก” ผมแกล้งเรียกเธอที่รักเหมือนที่เธอเรียกผม
“พี่ซายน์ได้ยินเหรอคะ?” หญิงสาวหน้าแดง ก้มหน้าลงมองโต๊ะอาหาร..ผมอมยิ้ม ทำไมผู้หญิงคนนี้น่าแกล้งจริงๆ...
3. แผนลับแผนร้าย (1)Mommy Punch talksฉันมองภาพถ่ายของหมอซายน์ลูกคนโตของฉันซึ่งถ่ายบนเตียงกับหญิงสาวสวยนางหนึ่ง ผิวที่โผล่พ้นผ้าห่มไม่มีเสื้อผ้าคลุมกาย เป็นภาพที่ลูกชายฉันเป็นคนถ่ายเอง น้องพายลูกสาวคนเล็กเป็นคนเอาให้ฉันดู“แม่พั้นซ์ นี่แฟนพี่ซายน์” น้องพายแทนที่จะดีใจที่พี่ชายหน้าเดียว ผู้ไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องงานมีแฟนกะเขาจนได้ กลับทำหน้าอมทุกข์“สาวที่ไหนน้องพาย แม่จะไปขออยากอุ้มหลานเต็มที” ฉันถือแก้วน้ำส้มคั้นมาจิบอย่างอารมณ์ดีที่ลูกชายคนเดียวมีคนรักซะที โครงการหล่อเสาคานให้หมอซายน์คงต้องยุติการก่อสร้าง“หมอพลอย ภรรยาของหมอต่อพงษ์ อาจารย์หมอที่ทำงานที่เดียวกันกับพี่ซายน์” พอลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนพูดจบมือที่ถือแก้วน้ำส้มก็ร่วงผล็อยจากมือกระทบพื้นแตกกระจายด้วยความตกใจ หมอซายน์ที่ถึงแม้จะเป็นคนที่เงียบขรึมสนใจแต่งานแต่ก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่หนักใจสักครั้ง ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ได้นะ“วะ..ว่าไงน้องพาย แม่หูฝาดใช่มั้ย” ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ลูกสาวลูกชายที่ฉันพร่ำสอนตั้งแต่เด็กว่าให้เป็นคนดีมีคุณธรรม ทำไมซายน์ถึงผิดลูกผิดเมียชาวบ้านซะได้“พายกลัวค่ะแม่ ถ้าหมอต่อรู้อาจจะมาทำร้ายพี่ซายน์
4. แผนลับแผนร้าย (2)ในความฝันฉันเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ หายใจไม่ออก ชูมือไขว่คว้าหาใครสักคนให้ช่วยฉันให้พ้นจากอันตรายนี้ ร่างของฉันจมลงไปในน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ฉันกำลังจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ปล่อยร่างตัวเองจมลงสู่แม่น้ำอันดำมืดหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ หมับ!! มือฉันคว้าไปโดนมือหนาของใครสักคน มือที่แสนจะอบอุ่นนั้นดึงฉันให้โผล่พ้นจากพื้นน้ำเฮือก!! ฉันหายใจเข้าเต็มปอดอย่างแรง สะดุ้งเฮือก ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ในห้องมืดมากมองไม่เห็นอะไรเลย ฉันพยายามขยับร่างกายที่ปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะแก่นกลางกาย ที่พอขยับตัวแต่ละทีความปวดแปลกๆแถมยังแสบส่วนนั้นอีกด้วย เมื่อคืนก่อนที่จะฝันว่าจมน้ำยังฝันว่ากำลังมีอะไรกับผู้ชายสักคน บ้าบอดีแท้..ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นมายังรู้สึกเจ็บจริงอีกด้วย ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะผิวกายเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นจากผ้าห่ม เมื่อคืนจำได้ว่าดื่มไวน์กับสเต็กเนื้อ จากนั้นความทรงจำก็เลือนลางจำอะไรไม่ได้ สงสัยจะเมาจนถอดเสื้อตัวเองแถมยังถอดเสื้อชั้นในอีกด้วย ที่สำคัญรู้สึกว่าท่อนล่างก็โล่งๆ ฉันมองหาสวิตช์โคมไฟที่หัวเตียงจะหาเสื้อผ้ามาใส่เพราะรู้สึกหนาว พอมือแตะไปที่สวิทช์ ไฟสีน
5. แผนลับแผนร้าย (3)“ซายน์ขอคุยกับน้องดาวสองคนได้ไหมครับ?” พี่ซายน์กลับมาบ้านช่วงเย็น ร่างสูงเดินนำฉันไปนั่งข้างๆสระว่ายน้ำ ดวงตาสีเข้มมองฉันอย่างรู้สึกผิด“พี่ขอโทษเรื่องเมื่อคืนจริงๆ”“พี่ซายน์ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่ความผิดของพี่ซายน์หรอกค่ะ” ฉันไม่อยากให้พี่ชายของเพื่อนรักรู้สึกผิดต่อฉันจนให้อภัยตัวเองไม่ได้ พี่ซายน์ไม่ได้ข่มขืนฉัน เขาทำไปเพราะไม่มีสติ ฉันไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดเขาเลย“ดาวจะตบจะตีพี่ก็ได้นะ พี่รู้สึกแย่จริงๆ” พี่ซายน์ถอนหายใจหนักๆ อย่างกลัดกลุ้ม“ดาวบอกแล้วว่าไม่โทษพี่ซายน์”“ถ้าจะให้พี่แต่งงานกับดาวพี่ก็จะแต่ง” เจ้าของดวงตาสีเข้มพูด หัวใจฉันเต้นตึกตักตึกตัก ยัยดาวพี่ซายน์ไม่ได้ขอเธอแต่งงาน เขาพูดแบบนั้นเพราะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น จะมารู้สึกดีทำไมเนี่ย ฉันเตือนตัวเองในใจ“พี่ซายน์ไม่ต้องแต่งงานกับดาวเพื่อรับผิดชอบหรอกค่ะ เราสองคนไม่ได้รักกันแต่งกันไปก็ไม่มีความสุข ไม่ใช่ดาวไม่ถือเรื่องนั้นนะคะ แต่ดาวจะพยายามลืมมันและใช้ชีวิตต่อไปค่ะ พี่ซายน์ต้องเลิกโทษตัวเองนะคะ” ฉันพูดออกมาจากใจจริงๆ ฉันไม่ได้อยากให้พี่ซายน์แต่งงานกับฉันเพื่อรับผิดชอบเพราะฉันไม่อยากทำลายชีวิตของพ
6. แต่งงานกันครอบครัวของพี่ซายน์มาถึงบ้านฉันในช่วงเช้า พี่ซายน์สวมเสื้อเชิร์ตพับแขนสีขาวกางเกงยีนส์สีเข้มผมที่ปกติเซททรงเปิดหน้าผากวันนี้ปล่อยหน้าม้าเป็นธรรมชาติดูอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มนักศึกษา ดวงตาสีเข้มยังคงมองฉันด้วยความรู้สึกผิด บ้านฉันถึงจะเก่าและโทรมแต่เราสองแม่ลูกทำความสะอาดอยู่เสมอ หน้าบ้านปลูกต้นมะม่วง ต้นมะยม มีดอกลีลาวดีและดอกไม้หลากชนิดสร้างความร่มรื่น ฉันพาแขกทุกคนไปนั่งอยู่ระเบียงหลังบ้านซึ่งมีคลองที่ผู้คนใช้สัญจรไปมา“บ้านหนูดาวน่าอยู่นะ ด้านหลังติดคลองไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจมองไปทางไหนก็มีแต่พื้นที่สีเขียว” แม่พั้นซ์ชี้ชวนให้พ่อไพรซ์ผู้เป็นสามีดูผู้คนที่ใช้เรือสัญจรไปมา มีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหาร ผลไม้ หรือขนมโดยใช้เรือเป็นยานพาหนะ แม่เดือนนั่งเกร็งบีบมือแน่นอาจเพราะครอบครัวพี่ซายน์เป็นมหาเศรษฐีส่วนครอบครัวฉันเป็นแค่แม่ค้าทำอาชีพขายข้าวแกง วันนี้แม่ไม่ได้ไปขายของและฉันกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มไว้จ่ายหนี้นอกระบบให้แม่เป็นที่เรีนบร้อยแล้ว ฉันกำลังคิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกแต่ฉันจะไม่ยอมให้แม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว“ที่เรามาวันนี้ จะมาคุยเรื่องหมอซายน์กับหนูดา
7. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (1)ฉันกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยาพร้อมยัยพาย วันนี้มีการประชุมประจำเดือนมีนาคม ยัยพายเสนอว่าให้แจกการ์ดแต่งงานหลังการประชุมเสร็จสิ้น ฉันรู้สึกประหม่าที่ต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าจะแต่งงานถ้ามีคนถามว่ารู้จักกันได้ยังไง? เจอกันครั้งแรกที่ไหน? ฉันก็ยังไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงมันเป็นคำถามพื้นฐานที่ทุกคนต้องถามอยู่แล้ว“เรื่องอื่นๆมีไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอปิดการประชุม” ท่าน ผ.อ.ชนินทร์กล่าวปิดการประชุม ยัยครูพายยกมือรัวๆ“ครูมนต์พระพายมีเรื่องอะไรครับ”“ครูเดือนเด่นเป็นสง่ามีเรื่องจะพูดค่ะ” นางโบ้ยหน้ามาทางฉัน สายตาทุกคนในที่ประชุมจับจ้องมาที่ฉันราวกับมีไฟสปอทไลท์บนเวทีส่องมาที่ฉันคนเดียว ยิ่งทุกคนเงียบฉันยิ่งเกร็ง“ว่าไงครับครูดาว” ท่าน ผ.อ.คงขี้เกียจเรียกชื่อจริงที่แสนจะยาวของฉันเลยเรียกชื่อเล่นแทน“พูดสิแก” ยัยครูดาวล้วงปึกซองสีชมพูออกจากถุงผ้า“วันที่ ยี่สิบมีนาคม ดิฉันจะ...เอ่อ..” บทจะพูดก็พูดไม่ออกซะงั้น...“ขึ้นบ้านใหม่เหรอคะน้องดาว?” ครูพี่ลี่ ครูสาวโสดวัยสามสิบปลายเอ่ยขึ้นยิ้มๆ“หรือน้องชายจะบวช” ทุกคนเดาไปต่างๆนานา ฉันมีน้องชายที่ไหนกันเล่
8. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (2)Sine talksผมมองแขกผู้มีเกียรติที่เข้าคิวรดน้ำสังข์และอวยพรให้คู่บ่าวสาวแล้วหันไปมองเจ้าสาวซึ่งอยู่ในชุดไทยจักรีสีชมพูอ่อนเปลือยไหล่ขาวนวลเนียน ทรงผมแสกกลางปล่อยเรือนผมดำสนิทประดับผมด้วยดอกไม้สีขาว สวมต่างหูรูปดอกไม้เข้าชุดกัน ใบหน้าตกแต่งด้วยช่างมืออาชีพทำให้ดูสวยกว่าปกติ ถึงผมจะไม่ชอบน้องดาวแต่ก็ต้องยอมรับว่า น้องดาวเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับใบหน้า แก้มเนียนที่มีเลือดฝาดธรรมชาติในยามที่ไม่แต่งหน้า ผิวขาวเนียนละเอียดที่โผล่พ้นผ้าสไบนั้นน่าสัมผัส ผมสะบัดหน้าพรืดที่รู้ว่าตัวเองเผลอนั่งมองเจ้าสาวมาเกือบห้านาที ตลอดเวลาที่เข้าพิธีน้องดาวเอาแต่ยิ้ม ยิ้มและยิ้ม คงดีใจมากสินะที่ได้แต่งงานกับผม แล้วเธอจะได้เห็นว่านรกมีจริงผมจะเอาคืนให้สาสมกับเงินที่บ้านของผมจ่ายไป“ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ หมอซายน์ ครูดาว” ไอ้หมอฟินเดินเคียงคู่มากับยัยพายน้องสาวผมที่สวมชุดไทยสีคล้ายกับเจ้าสาวแต่ดูเรียบกว่าในฐานะเพื่อนเจ้าสาว“พี่ซายน์ยิ้มหน่อยสิ ทำยังกะโดนบังคับให้แต่งงาน” ยัยพายจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก็ใช่ไง..โดนบังคับให้แต่งงา
9. เกลียดตัวกินไข่...เกลียดปลาไหล....แต่อยากกินเธอทั้งๆที่เพิ่งจะได้นอนตอนตีห้า แต่ตีห้าครึ่งฉันก็ลุกมาที่ห้องครัวเพราะตอนที่อยู่กับแม่ฉันก็ตื่นตีสี่มาช่วยแม่ทำกับข้าวขายอยู่แล้ว แม่พั้นซ์กับแม่บ้านกำลังช่วยกันทำกับข้าวเพื่อเตรียมใส่บาตรตอนเช้า“หนูดาวรีบตื่นทำไมลูก แม่ว่าอีกเดี๋ยวจะให้แม่บ้านไปปลุก”“ดาวอยากมาช่วยทำกับข้าวค่ะ” ฉันมองไปรอบๆห้องครัว แม่บ้านกำลังตักข้าวสวยลงในภาชนะสีเงินและตักแกงใส่ถุงร้อน “ลูกสะใภ้แม่นี่ช่างขยันจริงๆ แต่หนูดาวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไทยที่เตรียมไว้ในตู้ดีกว่าจ้ะ อ้อ..อย่าลืมปลุกซายน์ด้วยนะ วันแรกที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำบุญร่วมชาติใส่บาตรร่วมขันจะได้ใช้ชีวิตคู่นานๆ ไม่มีมารมาผจญ” แม่พั้นซ์เน้นคำว่ามารผจญชัดเจน ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันภาวนาขอแค่หาเงินห้าล้านมาคืนพี่ซายน์ จะได้ออกจากชีวิตพี่ซายน์เร็วๆเท่านั้นเอง ฉันเดินย้อนกลับมาที่ห้องนอน ร่างสูงกำลังนอนหลับสนิท เสียงหายใจดังสม่ำเสมอ ฉันเผลอมองร่างขาวเนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มอย่างเผลอไผล ใบหน้าเรียวได้รูปดวงตาที่ปิดสนิทล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางระเรื่อ พี
10. แสดงตัวตน“ซายน์ นี่จะไปทำงานแล้วเหรอ?” แม่พั้นซ์พูดขึ้นเสียงดังและแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นลูกชายคนโตใส่ชุดเสื้อกาวน์พร้อมไปปฏิบัติงาน หมอหนุ่มบอกทุกคนว่าเขาลาห้าวันแต่เพิ่งใช้สิทธิ์วันลาวันแรกไปกับงานแต่งงานวันที่สองพอใส่บาตรเสร็จ นอกจากทำเรื่องอย่างว่าร่างสูงก็เอาแต่นอน ข้าวปลาแทบไม่ค่อยแตะ เช้าวันที่สามก็ขอออกไปทำงานทันที“ครับ..”หมอซายน์ตอบสั้นๆ“แม่โทรบอกแม่บ้านทำความสะอาดบ้านพักที่หัวหินให้แล้วนะ” แม่พั้นซ์เสนอให้เราไปฮันนีมูนที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวที่หัวหิน หลังจากงานแต่งงานเสร็จสิ้นแต่ทว่าฉันกลับรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้อยู่กับพี่ซายน์สองต่อสองที่หัวหิน ขนาดอยู่ที่บ้านมีคนอยู่ด้วยตั้งหลายคน เขายังจ้องที่จะรังแกฉัน ถ้าอยู่กันตามลำพังฉันอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาก็เป็นได้“ซายน์ไม่อยากไป อยากไปทำงาน ใครอยากไปก็ไปคนเดียว” พี่ซายน์หันมามองฉันแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ดวงตาสีเข้มคู่นั้นไม่เคยมองฉันด้วยความรู้สึกที่ดีอยู่แล้ว“รีบไปทำงานอยากไปเจอใครรึเปล่า?” ยัยพายตวัดสายตามองพี่ชายคนเดียวอย่างไม่พอใจ พี่ซายน์นิ่งไปนิดนึงก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“ก็ต้องไปเจอคนไข้สิ คิดว่าพี่อยากเจ
31. ตอนพิเศษ เอเธนส์ & บอสตัน“พี่ซายน์ ดาวฝากซื้อของหน่อยค่ะ” ฉันหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ซอกคอกับไหล่ สองมือกำลังใช้ครีมอาบน้ำเด็กถูไปตามลำตัวป้อมสั้นแต่ทว่าจ่ำม่ำกว่าเด็กวัยเกือบสามขวบกว่าทั่วไป“แม่ดาว อาบให้บอสมั่งฮะ” เสียงใสๆของเด็กชายตัวน้อยอีกคนดังขึ้น“ได้ครับ จัดไปทั้งคู่เลย” ฉันจัดการอาบน้ำเด็กแฝดทั้งสองหลังจากที่สองพี่น้องไปเล่นดินหลังบ้าน โดยมีคุณยายเดือนคอยดูอย่างห่างๆ เสื้อผ้าของเอเธนส์กับบอสตันเปื้อนดินโคลน ใบหน้ามอมแมมจนฉันแทบจะจำลูกตัวเองไม่ได้“คุณดาวคะ เดี๋ยวป้าช่วยนะคะ” ป้าสมใจคงเห็นว่าฉันทั้งคุยโทรศัพท์ทั้งอาบน้ำเด็กๆทั้งสองดูทุลักทุเลจนเกินไป“น้องไนท์หลับแล้วเหรอคะ?” ฉันถามถึงเด็กหญิงวัยสองขวบลูกของน้องมิ้นท์ ซึ่งพลาดพลั้งตั้งท้องตอนกำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เด็กสาวเกิดอาการครรภ์เป็นพิษพอคลอดลูกสาวตัวน้อยคือน้องไนท์ก็เสียชีวิตทันที ฉันรู้สึกเวทนาจึงรับลูกสาวของน้องมิ้นท์เป็นลูกบุญธรรม น้องไนท์วัยสองขวบกำลังหัดพูด ผิวขาวเนียนละเอียดจ่ำม่ำน่ารักน่าเอ็นดูแถมยังบังเอิญหน้าคล้ายฉันอีกด้วย ถ้าพาเด็กๆทั้งสามคนออกไปเที่ยว คนรู้จักยังคิดว่าเป็นลูกของฉันกับพี่ซายน์ทั้งหมด “
30. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (2)ในความฝันที่กึ่งๆเหมือนความเป็นจริง ฉันยืนอยู่ที่มืดๆ พี่ซายน์ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาดูเศร้าเขายืนมองหน้าฉัน อยู่ๆก็หันหลังและเดินหนีฉันไป“พี่ซายน์จะไปไหนคะ” ฉันร้องตะโกนถาม ทว่าร่างสูงยังคงก้าวเท้าห่างฉันออกไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังตามเขาไปอย่างไม่ลดละ จากเดินเร็วๆกลายเป็นวิ่งตาม เสื้อเชิร์ตสีขาวของพี่ซายน์มีสีแดงเป็นจุดเล็กๆจากนั้นสีเข้มของเลือดกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากเสื้อเชิร์ตสีขาวกลายเป็นสีแดงช้ำเลือดจนน่ากลัว พี่ซายน์หยุดเดินและหันหน้ากลับมา“ดาวไม่ต้องตามพี่มา”“ทำไมคะ พี่ซายน์จะไปไหน”“ไปที่ๆไกลมาก ดาวดูแลลูกๆของเราด้วยนะ” จากนั้นร่างของพี่ซายน์ก็โปร่งแสงและแตกกระจายกลายเป็นผีเสื้อนับพันนับหมื่นบินขึ้นไปบนท้องฟ้า...ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น พยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตากับแสงสว่างในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองฝันร้าย เลือดที่อยู่บนเสื้อของพี่ซายน์กระจายตัวเป็นวงกว้าง มันคงไม่ใช่เรื่องจริง ฉันรู้สึกเหนื่อยหอบเพราะในความฝันฉันทั้งเดินทั้งวิ่งตามเขา“ดาวฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงของแม่เดือนดังขึ้น แม่กำลังนั่งกุมมือฉันอยู่ข้างๆเตียง“ดาวเป็นลมอีกแล้วใช่ไหมคะ
29. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (1)ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเวียนหัวพอยืนขึ้นก็รู้สึกเหมือนบ้านหมุน คิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคเกี่ยวกับความดันแน่ๆ แต่ก็ยังฝืนเดินลงมาทำอาหารตามปกติ ป้าสมใจกำลังย่างกะปิเพื่อตำน้ำพริก ฉันย่นจมูกทันทีที่ได้กลิ่นกะปิ“คุณดาวหน้าซีดนะคะ” ป้าสมใจทัก“เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ น่าจะเป็นความดัน เดี๋ยวป้าสมใจย่างกะปิค่อยเรียกดาวนะคะ” ยิ่งได้กลิ่นกะปิยิ่งเวียนหัว อาการคลื่นไส้ตีรวนขึ้นมาอีก รู้สึกกลืนไม่เข้าและไม่น่าจะคายอะไรออกมาได้ ทั้งๆที่ยังไม่กินข้าวเช้าแต่เหมือนร่างกายอยากจะขับอะไรออกมา ฉันวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและอาเจียนออกมา ซึ่งมีแต่น้ำลายเหนียวๆใสๆ ป้าสมใจรีบตามมาลูบหลัง“คุณดาวไหวมั้ยคะ ไปหาหมอไหมคะ” และในตอนนั้น..ฉันรู้แล้วว่าอาการที่ว่ามันคืออะไร..ฉันรีบไปที่ร้านขายยาและซื้อที่ตรวจครรภ์มาทุกแบบ ทั้งแบบหยดแบบจุ่มและแบบปากกา ครั้งแรกลองตรวจด้วยที่ตรวจแบบหยดก่อน แค่หยดปัสสาวะลงไปสี่หยดผลก็ปรากฏชัดแบบไม่ต้องสงสัย พอตรวจครบทุกแบบฉันก็จัดการเอาที่ตรวจทุกอันใส่กล่องและห่อด้วยกระดาษสีหวาน จากนั้นก็รอเวลา ราวๆหกโมงเย็นเสียงรถก็มาจอดที่โรงรถ ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์แขน
28. รักแท้แพ้อะไร (2)ฉันเดินตามร่างสูงเข้ามาในห้องนอน สามีของฉันปิดไฟมืดเอาผ้าห่มคลุมตัว เขานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาผนังห้อง“พี่ซายน์เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ฉันนั่งลงที่เตียงใช้หลังมือแตะหน้าผากเขาเบาๆ อุณหภูมิก็ปกติตัวไม่ได้ร้อน“พี่ปวดหัว” คนที่ใช้ผ้าห่มคลุมตัวพูดเสียงเรียบ“แค่ปวดหัวใช่ไหมคะ มีอะไรจะบอกดาวไหม?” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นความผิดปกติของเขาตั้งแต่อยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว พี่ซายน์ไม่พอใจที่น้องต้นพูดจากับฉันอย่างสนิทสนม“......” เขายังเงียบ..“งั้นดาวลงไปหาเพื่อนๆนะคะ” ฉันทำทีจะออกจากห้องนอน“ดาว...พี่ไม่ชอบครูต้นเลย” แล้วพี่ซายน์ก็คายความในใจออกมาจนได้“พี่ว่ามันชอบดาว พี่กลัว...”“พี่ซายน์กลัวดาวจะไปชอบครูต้นเหรอคะ?” ฉันแอบกลั้นยิ้มแต่พี่ซายน์คงไม่เห็นเพราะห้องมืดมาก“ก็ดาวทำงานกับครูต้นทุกวัน ส่วนพี่อยู่กรุงเทพฯแถมยังไม่มีเวลามาหาดาวบ่อยๆ พี่กลัวว่าดาวจะชอบคนอื่น” น้ำเสียงที่พูดดูจริงจังและคนตัวสูงก็ถอนหายใจ ฉันล้มตัวลงไปนอนข้างๆ เอื้อมมือไปสวมกอดพี่ซายน์จากทางด้านหลัง“ลองคิดกลับกันนะคะ พี่ซายน์ทำงานใกล้ชิดกับหมอ พยาบาลสาวๆสวยๆ ดาวก็ต้องคิดใช่ไหมคะว่าพี่ซายน์อาจจะไปชอบคนอื่นเพ
27. รักแท้แพ้อะไร (1)พอฉันตื่นขึ้นในตอนเช้าร่างสูงที่นอนกอดตลอดคืนก็หายไปแล้ว พี่ซายน์ผู้ที่ชอบนอนขี้เซาและคอยให้ปลุกตลอดหายไปไหนกันนะ พอเดินลงมาด้านล่างก็พบว่า หมอหนุ่มกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว กลิ่นของทอดลอยมาเตะจมูก เขาคงได้ยินเสียงฝีเท้าของฉันที่กำลังเดินลงจากบันได ใบหน้าขาวเนียนยิ้มอวดลักยิ้ม ผมหน้าม้าที่ยุ่งไม่เป็นทรงแต่กลับทำให้คนตรงหน้าดูหล่อเหลาไปอีกแบบ “ดาวตื่นแล้วเหรอ?” คงเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันตื่นสายตอนนี้หกโมงเช้าแล้วถือว่าสายสำหรับฉัน ปกติวันทำงานฉันจะตื่นตีห้าลุกมารดน้ำต้นไม้และพวกพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รอบๆบริเวณบ้าน เมื่อคืนคนตัวสูงก่อกวนตลอดทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอนจึงรู้สึกเพลียจนตื่นนอนตามเวลาปกติไม่ได้“พี่ซายน์ทำอะไรกินคะ” ฉันเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พี่ซายน์กำลังทอดไส้กรอก ในจานที่ทอดเสร็จแล้วมีไข่ดาวทั้งแบบสุกและไม่สุกหลายฟอง มือหนาจูงมือฉันมานั่งที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋และมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง“ดาวนั่งเฉยๆ พี่จะบริการดาวเอง สลับกันบ้างดาวดูแลพี่มามากพอแล้ว” ฉันอมยิ้ม คุณชายแห่งบ้านจึงรุ่งเรืองสกุลเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?“พี่ซายน์ให้ใครไปซื้ออ
26. ไตหาหัวจาม (2)เลิกเรียนฉันก็รีบกลับบ้านพักทันทีปกติจะนั่งคุยชิลๆกับครูพี่ลี่ก่อน ช่วงบ่ายฉันมัวแต่เป็นห่วงว่าพี่ซายน์จะอยู่ได้ไหมเพราะอากาศร้อนมาก แต่พอถึงบ้านฉันเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้าน บนหลังคามีคนกำลังติดจานดาวเทียมสีส้มและตรงระเบียงห้องนอนมีช่างกำลังติดแอร์และไม่ได้ติดแค่จุดเดียว พี่ซายน์ติดแอร์ทั้งบ้าน ห้องนอนที่ฉันนอนห้องเดียวอีกห้องใช้เก็บของเขาก็ติดมันหมดทั้งสองห้อง ห้องนั่งเล่นชั้นล่างก็ติดแอร์ รวมไปถึงครัวเล็กๆนั้น ทีวีจอแบนจอใหญ่ถูกนำมาตั้งแทนทีวีจอเล็กๆอันเก่า ตู้เย็นสี่ประตูเครื่องใหญ่ตั้งอยู่ในครัว ร่างสูงยืนชื่นชมผลงานพอเห็นเจ้าของบ้านมาถึง ก็ทำแบบสอบถามความพึงพอใจ“ดาวชอบไหม สมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดบลูทูธต่อกับมือถือได้เลย เผื่อดาวอยากดูหนังฟังเพลง” หมอหนุ่มอวดอ้างสรรพคุณของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคซึ่งเจ้าตัวภูมิใจนำเสมอมาก“ตู้เย็น พี่ซื้อเครื่องดื่มกับผลไม้ไว้ให้แล้ว”“พี่ซายน์ เกินไปไหมคะ ดาวว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป” ฉันไม่เห็นด้วยกับของแต่ละอย่างที่เขาซื้อให้ฉันเลย“พี่อยากให้ดาวอยู่สบายๆ ดาวไม่ใช่คนอื่นคนไกล ดาวเป็นเมียพี่ถึงดาวจะไม่ยอมรับ แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นสามีภร
25. ไตหาหัวจาม (1)เช้าวันจันทร์ฉันกลับมาทำงานที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยา เมื่อวานพี่ซายน์มาส่งฉันที่สนามบินเขานั่งรอจนกระทั่งฉันเข้าไปในเกท หยอดมุกเสี่ยวๆ ประมาณสองร้อยมุกถ้วนและฉันก็นั่งยิ้มคนเดียวตั้งแต่บนเครื่องบินจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ถึงแม้เขาจะทำทีมาง้อฉันแต่ว่าฉันก็ยังไม่ได้ใจอ่อนบอกเบอร์มือถือเบอร์ใหม่กับเขาเพราะฉันยังไม่แน่ใจตัวเองอยู่หลายเรื่อง แต่ว่าอย่างน้อยในตอนนี้ฉันก็แอบแง้มหัวใจตัวเองนิดนึงให้พี่ซายน์เข้ามา วันนี้ฉันมีสอนสี่คาบรวดคือตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงตอนสิบเอ็ดโมงห้าสิบ เด็กๆชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นวัยที่กำลังน่ารักช่างพูดและห้องจะดูวุ่นวายในบางครั้ง ขณะที่ออดเตือนหมดเวลาคาบที่สี่ นักเรียนในห้องส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว“เย้ หมดคาบแล้ว”“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ” หัวหน้าห้องสั่งให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้น นักเรียนทำความเคารพพร้อมกัน“ขอบคุณค่ะคุณครู” เด็กๆแทบจะพุ่งตัวออกจากห้องเพราะช่วงพักเที่ยงจะมีการแย่งชิงโต๊ะที่โรงอาหาร ฉันหนีจากความวุ่นวายนั้นโดยการให้นักเรียนออกไปก่อน ทำทีถ่วงเวลาโดยการเก็บอุปกรณ์การสอนลงในกระเป๋า พายเพิ่งจะลาคลอดได้สองวันอาทิตย์หน้าถึงจะกลับมาที่บ
24. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (2)Sine talksผมขับรถกลับมาจากสุโขทัยถึงกรุงเทพในช่วงหนึ่งทุ่ม มุ่งตรงมาที่บ้านใหญ่เพราะอย่างน้อยก็ยังมีพ่อกับแม่หรือบางทีก็มีนกแก้วอย่างยัยพายพอได้พูดได้คุยกันทำให้ไม่รู้สึกอ้างว้างจนเกินไป ผมเดินเข้ามาในบ้านทุกคนกำลังทานอาหารเย็น ที่โต๊ะกินข้าวมีอาหารหลายอย่างอาจเพราะวันนี้น้องสาวผมกลับมาบ้านแม่พั้นซ์เลยจัดเต็มอาหารการกินบำรุงหลานชายในท้องยัยพาย“ซายน์มากินข้าว” แม่พั้นซ์กวักมือเรียกผมให้เข้าไปนั่ง ผมเดินเข้าไปนั่งทำหน้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิต อุตส่าห์ไปตามเมีย โดนเมียตบแถมไล่อีกตะหาก“กลับมาเป็นพี่ซายน์หน้าเดียวอีกแล้ว” ยัยพายแซว ผมมองพุงป่องของน้องสาวคงใกล้จะคลอดแล้วเพราะตามนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มจะบวมขึ้นมานิดหน่อย“คลอดตอนไหนอ่ะพาย”“น่าจะอาทิตย์หน้า ตอนนี้พายลาคลอด เดินขึ้นตึกไปสอนไม่ไหวแล้ว” น้องสาวนั่งพิงกับเก้าอี้มือลูบที่ท้องเบาๆ“ดิ้นแรงอีกแล้ว สงสัยอาหารฝีมือคุณยายพั้นซ์คงอร่อยมาก” ผมอดที่จะเอามือไปลูบท้องน้องสาวไม่ได้ ถ้าผมไม่ให้ดาวกินยาคุมกำเนิดป่านนี้ดาวคงจะท้องก่อนยัยพายอีกเพราะผมขยันซะขนาดนั้น ถ้าดาวท้องเธออาจจะไม่ทิ้งผมไป“อยากมีลูกเหรอพี่ซายน์” ยั
23. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (1)Tam talks“ตาม กูรักน้องดาวว่ะ” ตั้งแต่น้องดาวออกจากชีวิตของไอ้ซายน์ พอมีเวลาว่างเพื่อนรักของผมก็เอาแต่นั่งกอดขวดแอลกอฮอล์ทุกชนิด แล้วมันก็กลับมาเป็นหมอซายน์หน้าเดียวคนเดิม ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ“รอบที่สามสิบ” ผมมองไอ้ซายน์แล้วอดสงสารไม่ได้ แค่อาทิตย์เดียวหมอซายน์ก็ซูบลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะกินข้าวยิ่งกว่าแมวดม บ่นแต่ว่ากินไม่ลง คงเป็นเพราะมันติดรสชาติอาหารของน้องดาว ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปอาทิตย์หน้าแม่พั้นซ์อาจจะได้จองศาลาและเตรียมบวชชีพราหมณ์จริงๆ ก็เป็นได้ “กูคิดถึงน้องดาว น้องดาวจะคิดถึงกูไหมวะ” คนเมายังเพ้อไปเรื่อย ผมเองก็ช่วยอะไรมันไม่ได้มากได้แต่นั่งฟังมันพูดระบายอารมณ์ไปเรื่อยๆ“ก็คงจะคิดอยู่มั้ง อยู่ด้วยกันตั้งนาน” ผมดูออกว่าน้องดาวก็รักไอ้ซายน์ เธออาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ต้องทำแบบนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะต้องเข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวของคนอื่น ช่วยเท่าที่ทำได้ก็พอ “กูอยากไปหาน้องดาว”“ไปสิ พรุ่งนี้กูราวน์เช้าให้” ผมตบไหล่มันเบาๆ ดวงตาของมันทอประกายด้วยความดีใจ“ขอบใจมากตาม กูรักมึงว่ะ” มันทำท่าจะเข้ามากอดผม“อย่าเข้ามานะเว้ย กูมีพระ” ผม