3. แผนลับแผนร้าย (1)
Mommy Punch talks
ฉันมองภาพถ่ายของหมอซายน์ลูกคนโตของฉันซึ่งถ่ายบนเตียงกับหญิงสาวสวยนางหนึ่ง ผิวที่โผล่พ้นผ้าห่มไม่มีเสื้อผ้าคลุมกาย เป็นภาพที่ลูกชายฉันเป็นคนถ่ายเอง น้องพายลูกสาวคนเล็กเป็นคนเอาให้ฉันดู
“แม่พั้นซ์ นี่แฟนพี่ซายน์” น้องพายแทนที่จะดีใจที่พี่ชายหน้าเดียว ผู้ไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องงานมีแฟนกะเขาจนได้ กลับทำหน้าอมทุกข์
“สาวที่ไหนน้องพาย แม่จะไปขออยากอุ้มหลานเต็มที” ฉันถือแก้วน้ำส้มคั้นมาจิบอย่างอารมณ์ดีที่ลูกชายคนเดียวมีคนรักซะที โครงการหล่อเสาคานให้หมอซายน์คงต้องยุติการก่อสร้าง
“หมอพลอย ภรรยาของหมอต่อพงษ์ อาจารย์หมอที่ทำงานที่เดียวกันกับพี่ซายน์” พอลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนพูดจบมือที่ถือแก้วน้ำส้มก็ร่วงผล็อยจากมือกระทบพื้นแตกกระจายด้วยความตกใจ หมอซายน์ที่ถึงแม้จะเป็นคนที่เงียบขรึมสนใจแต่งานแต่ก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่หนักใจสักครั้ง ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ได้นะ
“วะ..ว่าไงน้องพาย แม่หูฝาดใช่มั้ย” ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ลูกสาวลูกชายที่ฉันพร่ำสอนตั้งแต่เด็กว่าให้เป็นคนดีมีคุณธรรม ทำไมซายน์ถึงผิดลูกผิดเมียชาวบ้านซะได้
“พายกลัวค่ะแม่ ถ้าหมอต่อรู้อาจจะมาทำร้ายพี่ซายน์หรือร้ายแรงอาจฆ่าเผานั่งยาง หมอต่อยิ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโรงพยาบาลอยู่ด้วย” ฉันกับน้องพายมองหน้ากันต่างฝ่ายต่างมีสีหน้าไม่สู้ดี
“ถ้าบอกให้ซายน์เลิก แม่คิดว่าเค้าไม่ยอมเลิกแน่” คนกำลังหลงยิ่งเราไปห้ามเค้าอาจจะต่อต้านแล้วย้ายไปอยู่กับหมอพลอยหรือพากันหนีก็เป็นได้ ฉันจะทำยังไงดีถึงจะดึงลูกชายลงมาจากต้นงิ้วได้
“หาใครสักคนให้พี่ซายน์แต่งงานด้วยค่ะแม่” ยัยพายเสนอ
“เดี๋ยวนะ น้องพายหมายถึงดูตัวอะไรแบบนี้เหรอลูก?”
“โห แม่น้ำเน่าไปไหม ถ้าบังคับพี่ซายน์คลุมถุงชน แม่บังคับพายเหอะค่ะ เห็นนิ่งๆบทจะไม่ยอม แม่เอาพี่ซายน์ไม่อยู่หรอก”
“ลองแม่บังคับแกสิ หมอฟินมาเผาบ้านแม่แน่นอน” หมอหนุ่มหน้าตี๋แฟนยัยพายหวงลูกสาวฉันยังกะอะไรดี
“ตี๋ไม่เผาบ้านเราหรอก แค่พาพายหนีงานแต่งเท่านั้นแหละค่ะ” ยัยพายหัวเราะเสียงใส พอพูดถึงแฟนตัวเองดวงตาก็ทอประกาย คนมีความรักก็คงประมาณนี้ ลูกสาวเจอคนที่เหมาะสม แต่ลูกชายนี่สิ...ฉันต้องทำยังไงดี
“เอาแบบนี้ไหมน้องพาย เราบอกว่าธุรกิจเรามีปัญหา ซายน์ต้องแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของบริษัทใหญ่เพื่อกอบกู้กิจการของเรา” ยัยพายมองหน้าฉันแล้วถอนหายใจ
“แม่คะ น่าเอาไปแต่งเป็นนิยายมากค่ะ น้ำเน่าได้ใจสุดๆ” ลูกสาวตัวดีปรบมือไว้อาลัยกับแผนการของฉัน
“แล้วเราจะทำยังไง น้องพายช่วยแม่คิดที แม่เหนื่อยใจจัง”
“แม่จำครูดาวได้ไหมคะ?” ครูดาวเพื่อนของลูกสาวที่มาค้างที่บ้านเมื่อปิดเทอมที่แล้ว ผู้หญิงยิ้มเก่งคุยสนุกท่าทางเรียบร้อยคนนั้น
“จำได้สิ คนอะไรน่ารักน่าเอ็นดู แม่ยังอยากได้เป็นลูกสะใภ้เลย” ลูกสะใภ้? หรือว่า.....
“แม่ก็จัดเลยค่ะ พายก็อยากให้ยัยดาวเป็นพี่สะใภ้ เหมาะกับพี่ซายน์ด้วยประการทั้งปวง”
“เดี๋ยวน้องพาย มันจะง่ายขนาดนั้นเหรอ? อยู่ดีๆจับใครก็ไม่รู้มาแต่งงานกัน ถึงเราจะไม่แคร์ความรู้สึกของซายน์ก็ควรแคร์ความรู้สึกหนูดาวไหมลูก” ตอนนี้ฉันไม่สนใจความรู้สึกของลูกชาย แค่กลัวหมอซายน์จะตายก่อนวัยอันควรเพราะโดนลูกปืนหมอต่อพงษ์ซะมากกว่า
“แม่ก็ต้องทำให้มันแนบเนียนสิคะ ลองคิดดูค่ะว่าอะไรที่ทำให้พี่ซายน์ต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนหนึ่ง” ถึงจะรู้ว่ามันไม่ดีที่ดึงหนูดาวเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ฉันมั่นใจว่าถ้าแต่งงานกันไปหมอซายน์ต้องเป็นผู้นำครอบครัวได้ดีแน่ๆและลูกชายฉันก็ต้องเลิกกับหมอพลอยโดยปริยาย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว
“น้องพายมีแผนยังไงบ้าง” พวกเราสองแม่ลูกวางแผนให้หนูดาวมาอบรมแทนยัยพายที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็จัดฉากเล่นละครโรงใหญ่....หนูดาวมาถึงบ้านช่วงเย็นและจะค้างที่บ้านอีกหนึ่งคืนตอนเช้าหมอซายน์จะไปส่งที่สนามบิน ฉันนัดหมอตามเพื่อนสนิทหมอซายน์ ซึ่งหมอตามก็ไม่ใช่ใครที่ไหนลูกชายหมอชายเพื่อนสนิทของหมอไพรซ์สามีฉันเอง
“หมอตามช่วยแม่ด้วยนะ ถือว่าช่วยซายน์ด้วย” ฉันเล่าความเป็นมาและแผนการคร่าวๆให้หมอตามฟัง
“ผมยินดีช่วยครับ ไม่อยากเชื่อเลยว่าหมอพลอยกับไอ้ซายน์จะทำแบบนี้ ถ้าเกิดมีคนไปฟ้องหมดอนาคตทั้งคู่แน่ครับ”
“แม่ก็ว่าอย่างนั้นล่ะหมอตาม” เรื่องชู้สาวคนชอบสอดรู้กันดีนักล่ะ อนาคตที่สดใสของหมอซายน์ลูกชายคนดีคงดับวูบฉันไม่อยากคิดถึงวันนั้นเลยเพราะฉะนั้นในฐานะแม่ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกชายที่รัก
Sine talks
พอผมกลับมาถึงบ้านก็เจอไอ้หมอตามนั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำ สงสัยวันนี้ไม่ได้เข้าเวรดึก มันกำลังนั่งจิบไวน์
“ไอ้ซายน์มาๆวันนี้กูว่างมาดื่มกัน” ไอ้หมอตามลูกชายหมอชายเป็นคอดื่มไวน์เหมือนผู้เป็นพ่อ บ้านมันสะสมไวน์ชั้นดีหลากหลายยี่ห้อ
“นึกไงมาดื่ม มึงว่างเหรอวะ?”
“ว่าง กูเอาไวน์มาจากบ้านหลายขวดอยากดื่มกับมึง” มันชี้ชวนให้ดูไวน์อีกสามสี่ขวดที่มันถือมาจากบ้านด้วย
“มึงก็รู้ว่ากูคออ่อน หกแก้วกูก็น็อกแล้ว” ผมไม่ใช่นักดื่มที่ดี เคยดื่มกับไอ้หมอตามฉลองสอบปีหกผ่าน ดื่มแค่ไม่กี่แก้วก็คอพับไปเลย
“มึงน็อกตอนไหนกูก็พาไปนอนตอนนั้นแหละ ดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อย” ผมเดินไปนั่งตรงข้ามกับมัน มันรินไวน์ให้ผมอย่างกระตือรือร้น ผมจิบคำแรกรสชาติขมอมหวานไม่บาดคอดื่มง่ายจึงหมดแก้วแรกไปอย่างรวดเร็ว
“ดื่มอีกไอ้ซายน์ ไม่เมาไม่เลิก” ไอ้หมอตามรินแก้วที่สอง ผมไม่แน่ใจว่าลิ้นกับหน้าอันไหนชากว่ากัน จนแก้วที่เจ็ดวันนี้ผมทำสถิติใหม่แก้วที่เจ็ดยังไม่คอพับ
“เอาอีกไอ้ตาม รินมาๆ” หน้าไอ้หมอตามเริ่มจะแดงก่ำ ผมมองหน้าเพื่อนรักเหมือนไอ้ตามจะแยกร่างเป็นสองคนได้ นั่นคือสติสุดท้าย..จากนั้นผมก็รู้สึกปวดหัวลืมตาขึ้นในความมืด กลิ่นตัวหอมหวานเจือกลิ่นแอลกอฮอล์บดเบียดร่างอยู่ใกล้ๆผม หรือว่าผมนอนอยู่กับหมอพลอย
“พลอยเหรอ?”
“อื้อ..”เสียงของร่างเล็กที่นอนเบียดอยู่ข้างๆดังขึ้น
Dao talks
“ไวน์นี่สำหรับผู้หญิงดื่มง่าย ทานกับสเต็กเนื้อมีเดียมแรร์นี่เข้ากันมาก หนูดาวลองดูสิ” ฉันค่อยๆจิบไวน์แดงซึ่งมีรสชาติเปรี้ยวนิดขมอมหวานไม่บาดลิ้นและหั่นสเต็กเนื้อทานคู่กัน เป็นบุญปากฉันยิ่งนักที่ลูกสาวแม่ค้าได้กินไวน์ชั้นดีกับสเต็กเนื้อพรีเมียม
“ทานเยอะๆนะ แม่อยากขอบคุณที่ช่วยดูแลยัยพายด้วย แถมยังลำบากมาอบรมแทนเพื่อนอีก” แม่พั้นซ์รินไวน์ให้ฉัน จากแก้วแรกแก้วที่สองแก้วที่สามฉันเริ่มลิ้นชาพูดไม่รู้เรื่อง
“หนูดาวไหวมั้ย แม่พาไปนอนนะ” แม่พั้นซ์กับแม่บ้านพาฉันไปนอนในห้อง ฉันรู้สึกมึนหัวนิดๆ พอหัวถึงหมอนก็นอนหลับสนิท จนกระทั่งกลางดึก กลิ่นน้ำหอมที่ฉันคุ้นเคยเจือกลิ่นแอลกอฮอล์ ร่างหนาของใครบางคนนอนเบียดอยู่ข้างๆ
“พลอยเหรอ?” เสียงทุ้มถามเบามาก
“อื้อ..” พลอยไหนอ่ะ..มือหนาคว้าฉันไปกอด เชยคางฉันขึ้นประทับริมฝีปากทาบทับริมฝีปากของฉัน บดเน้นริมฝีปากบนของฉันเบาๆ ลิ้นร้อนชื้นแทรกเข้ามา กวาดต้อนสติที่มีอันน้อยนิดของฉันให้เคลิบเคลิ้มไปกับจูบแรกของฉันกับ...เอ่อใคร? ฉันมองอะไรไม่เห็นห้องมืดมาก มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวโคร่งปลดตะขอชุกชั้นในของฉันอย่างเบามือ เสื้อยืดถูกดึงขึ้นมาจนถึงคอฉันสัมผัสได้ถึงความเย็นที่มาปะทะผิวกายท่อนบน ลิ้นร้อนชื้นปาดป่ายไปทั่วหน้าอกแถมเม้มยอดอกจนฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้นะ..มันไม่ถูกต้องฉันต้องขัดขืน มือฉันปัดป่ายไปตามอกเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้าม
“อย่าค่ะ” เสียงที่พูดออกไปมันเบามาก ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้คนเราขาดสติตอนนี้ก็เช่นกัน ความอยากรู้อยากเห็นและความรู้สึกแปลกใหม่ตรงหน้าทำให้ฉันไม่มีแรงจะขัดขืนและรู้สึกคล้อยตาม ฉันเกร็งตัวขึ้นมาทันทีเมื่อมีอะไรบางถูไถตรงจุดที่อ่อนไหว สิ่งนั้นแทรกเข้าได้นิดเดียวฉันก็รู้สึกเจ็บจนเหมือนร่างจะแยกออกเป็นสองส่วน จนเผลอผลักอกร่างหนาที่ทาบทับอยู่ข้างบนออก
“จะ..เจ็บ” รู้สึกเหมือนหางตามีน้ำตาซึมออกมาด้วย เขาหยุดชะงักไปนิดนึงแล้วก้มลงมาจูบฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นจึงดันตัวตนเข้าไปจนสุด ฉันหวีดร้องอย่างตกใจแต่ก็ถูกริมฝีปากร้อนชื้นนั้นครอบครอง ร่างหนาขยับช้าๆและขยับสะโพกเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากความรู้เจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บที่มีความหวานแหลม รู้สึกดีมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนลอยอยู่บนฟ้าแล้วหล่นลงมาจากที่สูง อารมณ์ฉันถูกกระชากขึ้นไปสูงสุด ฉันเผลอจิกเล็บไปที่หลังของเขา พอทุกอย่างสงบลงฉันก็ผล็อยหลับอย่างอ่อนเพลีย....
4. แผนลับแผนร้าย (2)ในความฝันฉันเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ หายใจไม่ออก ชูมือไขว่คว้าหาใครสักคนให้ช่วยฉันให้พ้นจากอันตรายนี้ ร่างของฉันจมลงไปในน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ฉันกำลังจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ปล่อยร่างตัวเองจมลงสู่แม่น้ำอันดำมืดหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ หมับ!! มือฉันคว้าไปโดนมือหนาของใครสักคน มือที่แสนจะอบอุ่นนั้นดึงฉันให้โผล่พ้นจากพื้นน้ำเฮือก!! ฉันหายใจเข้าเต็มปอดอย่างแรง สะดุ้งเฮือก ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ในห้องมืดมากมองไม่เห็นอะไรเลย ฉันพยายามขยับร่างกายที่ปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะแก่นกลางกาย ที่พอขยับตัวแต่ละทีความปวดแปลกๆแถมยังแสบส่วนนั้นอีกด้วย เมื่อคืนก่อนที่จะฝันว่าจมน้ำยังฝันว่ากำลังมีอะไรกับผู้ชายสักคน บ้าบอดีแท้..ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นมายังรู้สึกเจ็บจริงอีกด้วย ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะผิวกายเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นจากผ้าห่ม เมื่อคืนจำได้ว่าดื่มไวน์กับสเต็กเนื้อ จากนั้นความทรงจำก็เลือนลางจำอะไรไม่ได้ สงสัยจะเมาจนถอดเสื้อตัวเองแถมยังถอดเสื้อชั้นในอีกด้วย ที่สำคัญรู้สึกว่าท่อนล่างก็โล่งๆ ฉันมองหาสวิตช์โคมไฟที่หัวเตียงจะหาเสื้อผ้ามาใส่เพราะรู้สึกหนาว พอมือแตะไปที่สวิทช์ ไฟสีน
5. แผนลับแผนร้าย (3)“ซายน์ขอคุยกับน้องดาวสองคนได้ไหมครับ?” พี่ซายน์กลับมาบ้านช่วงเย็น ร่างสูงเดินนำฉันไปนั่งข้างๆสระว่ายน้ำ ดวงตาสีเข้มมองฉันอย่างรู้สึกผิด“พี่ขอโทษเรื่องเมื่อคืนจริงๆ”“พี่ซายน์ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่ความผิดของพี่ซายน์หรอกค่ะ” ฉันไม่อยากให้พี่ชายของเพื่อนรักรู้สึกผิดต่อฉันจนให้อภัยตัวเองไม่ได้ พี่ซายน์ไม่ได้ข่มขืนฉัน เขาทำไปเพราะไม่มีสติ ฉันไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดเขาเลย“ดาวจะตบจะตีพี่ก็ได้นะ พี่รู้สึกแย่จริงๆ” พี่ซายน์ถอนหายใจหนักๆ อย่างกลัดกลุ้ม“ดาวบอกแล้วว่าไม่โทษพี่ซายน์”“ถ้าจะให้พี่แต่งงานกับดาวพี่ก็จะแต่ง” เจ้าของดวงตาสีเข้มพูด หัวใจฉันเต้นตึกตักตึกตัก ยัยดาวพี่ซายน์ไม่ได้ขอเธอแต่งงาน เขาพูดแบบนั้นเพราะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น จะมารู้สึกดีทำไมเนี่ย ฉันเตือนตัวเองในใจ“พี่ซายน์ไม่ต้องแต่งงานกับดาวเพื่อรับผิดชอบหรอกค่ะ เราสองคนไม่ได้รักกันแต่งกันไปก็ไม่มีความสุข ไม่ใช่ดาวไม่ถือเรื่องนั้นนะคะ แต่ดาวจะพยายามลืมมันและใช้ชีวิตต่อไปค่ะ พี่ซายน์ต้องเลิกโทษตัวเองนะคะ” ฉันพูดออกมาจากใจจริงๆ ฉันไม่ได้อยากให้พี่ซายน์แต่งงานกับฉันเพื่อรับผิดชอบเพราะฉันไม่อยากทำลายชีวิตของพ
6. แต่งงานกันครอบครัวของพี่ซายน์มาถึงบ้านฉันในช่วงเช้า พี่ซายน์สวมเสื้อเชิร์ตพับแขนสีขาวกางเกงยีนส์สีเข้มผมที่ปกติเซททรงเปิดหน้าผากวันนี้ปล่อยหน้าม้าเป็นธรรมชาติดูอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มนักศึกษา ดวงตาสีเข้มยังคงมองฉันด้วยความรู้สึกผิด บ้านฉันถึงจะเก่าและโทรมแต่เราสองแม่ลูกทำความสะอาดอยู่เสมอ หน้าบ้านปลูกต้นมะม่วง ต้นมะยม มีดอกลีลาวดีและดอกไม้หลากชนิดสร้างความร่มรื่น ฉันพาแขกทุกคนไปนั่งอยู่ระเบียงหลังบ้านซึ่งมีคลองที่ผู้คนใช้สัญจรไปมา“บ้านหนูดาวน่าอยู่นะ ด้านหลังติดคลองไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจมองไปทางไหนก็มีแต่พื้นที่สีเขียว” แม่พั้นซ์ชี้ชวนให้พ่อไพรซ์ผู้เป็นสามีดูผู้คนที่ใช้เรือสัญจรไปมา มีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหาร ผลไม้ หรือขนมโดยใช้เรือเป็นยานพาหนะ แม่เดือนนั่งเกร็งบีบมือแน่นอาจเพราะครอบครัวพี่ซายน์เป็นมหาเศรษฐีส่วนครอบครัวฉันเป็นแค่แม่ค้าทำอาชีพขายข้าวแกง วันนี้แม่ไม่ได้ไปขายของและฉันกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มไว้จ่ายหนี้นอกระบบให้แม่เป็นที่เรีนบร้อยแล้ว ฉันกำลังคิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกแต่ฉันจะไม่ยอมให้แม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว“ที่เรามาวันนี้ จะมาคุยเรื่องหมอซายน์กับหนูดา
7. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (1)ฉันกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยาพร้อมยัยพาย วันนี้มีการประชุมประจำเดือนมีนาคม ยัยพายเสนอว่าให้แจกการ์ดแต่งงานหลังการประชุมเสร็จสิ้น ฉันรู้สึกประหม่าที่ต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าจะแต่งงานถ้ามีคนถามว่ารู้จักกันได้ยังไง? เจอกันครั้งแรกที่ไหน? ฉันก็ยังไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงมันเป็นคำถามพื้นฐานที่ทุกคนต้องถามอยู่แล้ว“เรื่องอื่นๆมีไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอปิดการประชุม” ท่าน ผ.อ.ชนินทร์กล่าวปิดการประชุม ยัยครูพายยกมือรัวๆ“ครูมนต์พระพายมีเรื่องอะไรครับ”“ครูเดือนเด่นเป็นสง่ามีเรื่องจะพูดค่ะ” นางโบ้ยหน้ามาทางฉัน สายตาทุกคนในที่ประชุมจับจ้องมาที่ฉันราวกับมีไฟสปอทไลท์บนเวทีส่องมาที่ฉันคนเดียว ยิ่งทุกคนเงียบฉันยิ่งเกร็ง“ว่าไงครับครูดาว” ท่าน ผ.อ.คงขี้เกียจเรียกชื่อจริงที่แสนจะยาวของฉันเลยเรียกชื่อเล่นแทน“พูดสิแก” ยัยครูดาวล้วงปึกซองสีชมพูออกจากถุงผ้า“วันที่ ยี่สิบมีนาคม ดิฉันจะ...เอ่อ..” บทจะพูดก็พูดไม่ออกซะงั้น...“ขึ้นบ้านใหม่เหรอคะน้องดาว?” ครูพี่ลี่ ครูสาวโสดวัยสามสิบปลายเอ่ยขึ้นยิ้มๆ“หรือน้องชายจะบวช” ทุกคนเดาไปต่างๆนานา ฉันมีน้องชายที่ไหนกันเล่
8. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (2)Sine talksผมมองแขกผู้มีเกียรติที่เข้าคิวรดน้ำสังข์และอวยพรให้คู่บ่าวสาวแล้วหันไปมองเจ้าสาวซึ่งอยู่ในชุดไทยจักรีสีชมพูอ่อนเปลือยไหล่ขาวนวลเนียน ทรงผมแสกกลางปล่อยเรือนผมดำสนิทประดับผมด้วยดอกไม้สีขาว สวมต่างหูรูปดอกไม้เข้าชุดกัน ใบหน้าตกแต่งด้วยช่างมืออาชีพทำให้ดูสวยกว่าปกติ ถึงผมจะไม่ชอบน้องดาวแต่ก็ต้องยอมรับว่า น้องดาวเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับใบหน้า แก้มเนียนที่มีเลือดฝาดธรรมชาติในยามที่ไม่แต่งหน้า ผิวขาวเนียนละเอียดที่โผล่พ้นผ้าสไบนั้นน่าสัมผัส ผมสะบัดหน้าพรืดที่รู้ว่าตัวเองเผลอนั่งมองเจ้าสาวมาเกือบห้านาที ตลอดเวลาที่เข้าพิธีน้องดาวเอาแต่ยิ้ม ยิ้มและยิ้ม คงดีใจมากสินะที่ได้แต่งงานกับผม แล้วเธอจะได้เห็นว่านรกมีจริงผมจะเอาคืนให้สาสมกับเงินที่บ้านของผมจ่ายไป“ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ หมอซายน์ ครูดาว” ไอ้หมอฟินเดินเคียงคู่มากับยัยพายน้องสาวผมที่สวมชุดไทยสีคล้ายกับเจ้าสาวแต่ดูเรียบกว่าในฐานะเพื่อนเจ้าสาว“พี่ซายน์ยิ้มหน่อยสิ ทำยังกะโดนบังคับให้แต่งงาน” ยัยพายจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก็ใช่ไง..โดนบังคับให้แต่งงา
9. เกลียดตัวกินไข่...เกลียดปลาไหล....แต่อยากกินเธอทั้งๆที่เพิ่งจะได้นอนตอนตีห้า แต่ตีห้าครึ่งฉันก็ลุกมาที่ห้องครัวเพราะตอนที่อยู่กับแม่ฉันก็ตื่นตีสี่มาช่วยแม่ทำกับข้าวขายอยู่แล้ว แม่พั้นซ์กับแม่บ้านกำลังช่วยกันทำกับข้าวเพื่อเตรียมใส่บาตรตอนเช้า“หนูดาวรีบตื่นทำไมลูก แม่ว่าอีกเดี๋ยวจะให้แม่บ้านไปปลุก”“ดาวอยากมาช่วยทำกับข้าวค่ะ” ฉันมองไปรอบๆห้องครัว แม่บ้านกำลังตักข้าวสวยลงในภาชนะสีเงินและตักแกงใส่ถุงร้อน “ลูกสะใภ้แม่นี่ช่างขยันจริงๆ แต่หนูดาวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไทยที่เตรียมไว้ในตู้ดีกว่าจ้ะ อ้อ..อย่าลืมปลุกซายน์ด้วยนะ วันแรกที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำบุญร่วมชาติใส่บาตรร่วมขันจะได้ใช้ชีวิตคู่นานๆ ไม่มีมารมาผจญ” แม่พั้นซ์เน้นคำว่ามารผจญชัดเจน ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันภาวนาขอแค่หาเงินห้าล้านมาคืนพี่ซายน์ จะได้ออกจากชีวิตพี่ซายน์เร็วๆเท่านั้นเอง ฉันเดินย้อนกลับมาที่ห้องนอน ร่างสูงกำลังนอนหลับสนิท เสียงหายใจดังสม่ำเสมอ ฉันเผลอมองร่างขาวเนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มอย่างเผลอไผล ใบหน้าเรียวได้รูปดวงตาที่ปิดสนิทล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางระเรื่อ พี
10. แสดงตัวตน“ซายน์ นี่จะไปทำงานแล้วเหรอ?” แม่พั้นซ์พูดขึ้นเสียงดังและแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นลูกชายคนโตใส่ชุดเสื้อกาวน์พร้อมไปปฏิบัติงาน หมอหนุ่มบอกทุกคนว่าเขาลาห้าวันแต่เพิ่งใช้สิทธิ์วันลาวันแรกไปกับงานแต่งงานวันที่สองพอใส่บาตรเสร็จ นอกจากทำเรื่องอย่างว่าร่างสูงก็เอาแต่นอน ข้าวปลาแทบไม่ค่อยแตะ เช้าวันที่สามก็ขอออกไปทำงานทันที“ครับ..”หมอซายน์ตอบสั้นๆ“แม่โทรบอกแม่บ้านทำความสะอาดบ้านพักที่หัวหินให้แล้วนะ” แม่พั้นซ์เสนอให้เราไปฮันนีมูนที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวที่หัวหิน หลังจากงานแต่งงานเสร็จสิ้นแต่ทว่าฉันกลับรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้อยู่กับพี่ซายน์สองต่อสองที่หัวหิน ขนาดอยู่ที่บ้านมีคนอยู่ด้วยตั้งหลายคน เขายังจ้องที่จะรังแกฉัน ถ้าอยู่กันตามลำพังฉันอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาก็เป็นได้“ซายน์ไม่อยากไป อยากไปทำงาน ใครอยากไปก็ไปคนเดียว” พี่ซายน์หันมามองฉันแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ดวงตาสีเข้มคู่นั้นไม่เคยมองฉันด้วยความรู้สึกที่ดีอยู่แล้ว“รีบไปทำงานอยากไปเจอใครรึเปล่า?” ยัยพายตวัดสายตามองพี่ชายคนเดียวอย่างไม่พอใจ พี่ซายน์นิ่งไปนิดนึงก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“ก็ต้องไปเจอคนไข้สิ คิดว่าพี่อยากเจ
11. คนดีที่เธอ (ไม่) รัก“สวัสดีค่ะพี่หมอตาม ดาวนะคะ” ฉันกรอกเสียงไปตามสาย[ ครับน้องดาว ]“ดาวอยากจะรบกวนพี่หมอตาม ช่วยไลน์ตารางเข้าเวรของพี่ซายน์ให้ดาวด้วยค่ะ” ในเมื่อฉันรับปากแม่พั้นซ์กับยัยพายว่าจะดูแลและช่วยพี่ซายน์ให้รอดพ้นจากการปีนต้นงิ้ว ฉันจึงคิดแผนการคร่าวๆในใจ[ ได้ครับน้องดาว ]ฉันได้ยินจากยัยพายมาว่าพี่หมอตามเป็นสายให้แม่พั้นซ์อยู่แล้ว จึงส่งข้อมูลที่ฉันต้องการให้โดยไม่ถามอะไรมากความ ไม่ถึงสองนาทีตารางเวรพี่ซายน์ก็ถูกส่งเข้ามาในไลน์ของฉัน วันนี้พี่ซายน์ไม่มีเวรดึกเลิกงานสี่โมงเย็นโดยประมาณ ตั้งแต่ที่ย้ายมาบ้านใหม่พี่ซายน์ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เขาเข้าเวรดึกติดกันสองวันแล้ว ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเอาไปให้พี่ซายน์ที่โรงพยาบาลโดยฝากไปกับพี่หมอตาม จากนั้นฉันก็ทำความสะอาดห้องนอน ซักผ้าและงานบ้านอื่นๆ“คุณดาวไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าทำเอง” ป้าสมใจทำหน้าลำบากใจเมื่อเห็นฉันทำงานบ้านแทบจะทุกอย่างด้วยตัวเอง“ไม่เป็นไรค่ะป้าสมใจ ดาวอยู่บ้านเฉยๆ เหงาน่ะค่ะ” อยู่ที่บ้านฉันก็ตื่นแต่เช้าทำงานบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว พอให้อยู่บ้านเฉยๆจึงไม่ค่อยชิน อาหารทุกอย่างที่เอาไปให้พี่ซายน์ที่โรงพย
31. ตอนพิเศษ เอเธนส์ & บอสตัน“พี่ซายน์ ดาวฝากซื้อของหน่อยค่ะ” ฉันหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ซอกคอกับไหล่ สองมือกำลังใช้ครีมอาบน้ำเด็กถูไปตามลำตัวป้อมสั้นแต่ทว่าจ่ำม่ำกว่าเด็กวัยเกือบสามขวบกว่าทั่วไป“แม่ดาว อาบให้บอสมั่งฮะ” เสียงใสๆของเด็กชายตัวน้อยอีกคนดังขึ้น“ได้ครับ จัดไปทั้งคู่เลย” ฉันจัดการอาบน้ำเด็กแฝดทั้งสองหลังจากที่สองพี่น้องไปเล่นดินหลังบ้าน โดยมีคุณยายเดือนคอยดูอย่างห่างๆ เสื้อผ้าของเอเธนส์กับบอสตันเปื้อนดินโคลน ใบหน้ามอมแมมจนฉันแทบจะจำลูกตัวเองไม่ได้“คุณดาวคะ เดี๋ยวป้าช่วยนะคะ” ป้าสมใจคงเห็นว่าฉันทั้งคุยโทรศัพท์ทั้งอาบน้ำเด็กๆทั้งสองดูทุลักทุเลจนเกินไป“น้องไนท์หลับแล้วเหรอคะ?” ฉันถามถึงเด็กหญิงวัยสองขวบลูกของน้องมิ้นท์ ซึ่งพลาดพลั้งตั้งท้องตอนกำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เด็กสาวเกิดอาการครรภ์เป็นพิษพอคลอดลูกสาวตัวน้อยคือน้องไนท์ก็เสียชีวิตทันที ฉันรู้สึกเวทนาจึงรับลูกสาวของน้องมิ้นท์เป็นลูกบุญธรรม น้องไนท์วัยสองขวบกำลังหัดพูด ผิวขาวเนียนละเอียดจ่ำม่ำน่ารักน่าเอ็นดูแถมยังบังเอิญหน้าคล้ายฉันอีกด้วย ถ้าพาเด็กๆทั้งสามคนออกไปเที่ยว คนรู้จักยังคิดว่าเป็นลูกของฉันกับพี่ซายน์ทั้งหมด “
30. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (2)ในความฝันที่กึ่งๆเหมือนความเป็นจริง ฉันยืนอยู่ที่มืดๆ พี่ซายน์ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาดูเศร้าเขายืนมองหน้าฉัน อยู่ๆก็หันหลังและเดินหนีฉันไป“พี่ซายน์จะไปไหนคะ” ฉันร้องตะโกนถาม ทว่าร่างสูงยังคงก้าวเท้าห่างฉันออกไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังตามเขาไปอย่างไม่ลดละ จากเดินเร็วๆกลายเป็นวิ่งตาม เสื้อเชิร์ตสีขาวของพี่ซายน์มีสีแดงเป็นจุดเล็กๆจากนั้นสีเข้มของเลือดกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากเสื้อเชิร์ตสีขาวกลายเป็นสีแดงช้ำเลือดจนน่ากลัว พี่ซายน์หยุดเดินและหันหน้ากลับมา“ดาวไม่ต้องตามพี่มา”“ทำไมคะ พี่ซายน์จะไปไหน”“ไปที่ๆไกลมาก ดาวดูแลลูกๆของเราด้วยนะ” จากนั้นร่างของพี่ซายน์ก็โปร่งแสงและแตกกระจายกลายเป็นผีเสื้อนับพันนับหมื่นบินขึ้นไปบนท้องฟ้า...ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น พยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตากับแสงสว่างในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองฝันร้าย เลือดที่อยู่บนเสื้อของพี่ซายน์กระจายตัวเป็นวงกว้าง มันคงไม่ใช่เรื่องจริง ฉันรู้สึกเหนื่อยหอบเพราะในความฝันฉันทั้งเดินทั้งวิ่งตามเขา“ดาวฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงของแม่เดือนดังขึ้น แม่กำลังนั่งกุมมือฉันอยู่ข้างๆเตียง“ดาวเป็นลมอีกแล้วใช่ไหมคะ
29. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (1)ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเวียนหัวพอยืนขึ้นก็รู้สึกเหมือนบ้านหมุน คิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคเกี่ยวกับความดันแน่ๆ แต่ก็ยังฝืนเดินลงมาทำอาหารตามปกติ ป้าสมใจกำลังย่างกะปิเพื่อตำน้ำพริก ฉันย่นจมูกทันทีที่ได้กลิ่นกะปิ“คุณดาวหน้าซีดนะคะ” ป้าสมใจทัก“เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ น่าจะเป็นความดัน เดี๋ยวป้าสมใจย่างกะปิค่อยเรียกดาวนะคะ” ยิ่งได้กลิ่นกะปิยิ่งเวียนหัว อาการคลื่นไส้ตีรวนขึ้นมาอีก รู้สึกกลืนไม่เข้าและไม่น่าจะคายอะไรออกมาได้ ทั้งๆที่ยังไม่กินข้าวเช้าแต่เหมือนร่างกายอยากจะขับอะไรออกมา ฉันวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและอาเจียนออกมา ซึ่งมีแต่น้ำลายเหนียวๆใสๆ ป้าสมใจรีบตามมาลูบหลัง“คุณดาวไหวมั้ยคะ ไปหาหมอไหมคะ” และในตอนนั้น..ฉันรู้แล้วว่าอาการที่ว่ามันคืออะไร..ฉันรีบไปที่ร้านขายยาและซื้อที่ตรวจครรภ์มาทุกแบบ ทั้งแบบหยดแบบจุ่มและแบบปากกา ครั้งแรกลองตรวจด้วยที่ตรวจแบบหยดก่อน แค่หยดปัสสาวะลงไปสี่หยดผลก็ปรากฏชัดแบบไม่ต้องสงสัย พอตรวจครบทุกแบบฉันก็จัดการเอาที่ตรวจทุกอันใส่กล่องและห่อด้วยกระดาษสีหวาน จากนั้นก็รอเวลา ราวๆหกโมงเย็นเสียงรถก็มาจอดที่โรงรถ ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์แขน
28. รักแท้แพ้อะไร (2)ฉันเดินตามร่างสูงเข้ามาในห้องนอน สามีของฉันปิดไฟมืดเอาผ้าห่มคลุมตัว เขานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาผนังห้อง“พี่ซายน์เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ฉันนั่งลงที่เตียงใช้หลังมือแตะหน้าผากเขาเบาๆ อุณหภูมิก็ปกติตัวไม่ได้ร้อน“พี่ปวดหัว” คนที่ใช้ผ้าห่มคลุมตัวพูดเสียงเรียบ“แค่ปวดหัวใช่ไหมคะ มีอะไรจะบอกดาวไหม?” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นความผิดปกติของเขาตั้งแต่อยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว พี่ซายน์ไม่พอใจที่น้องต้นพูดจากับฉันอย่างสนิทสนม“......” เขายังเงียบ..“งั้นดาวลงไปหาเพื่อนๆนะคะ” ฉันทำทีจะออกจากห้องนอน“ดาว...พี่ไม่ชอบครูต้นเลย” แล้วพี่ซายน์ก็คายความในใจออกมาจนได้“พี่ว่ามันชอบดาว พี่กลัว...”“พี่ซายน์กลัวดาวจะไปชอบครูต้นเหรอคะ?” ฉันแอบกลั้นยิ้มแต่พี่ซายน์คงไม่เห็นเพราะห้องมืดมาก“ก็ดาวทำงานกับครูต้นทุกวัน ส่วนพี่อยู่กรุงเทพฯแถมยังไม่มีเวลามาหาดาวบ่อยๆ พี่กลัวว่าดาวจะชอบคนอื่น” น้ำเสียงที่พูดดูจริงจังและคนตัวสูงก็ถอนหายใจ ฉันล้มตัวลงไปนอนข้างๆ เอื้อมมือไปสวมกอดพี่ซายน์จากทางด้านหลัง“ลองคิดกลับกันนะคะ พี่ซายน์ทำงานใกล้ชิดกับหมอ พยาบาลสาวๆสวยๆ ดาวก็ต้องคิดใช่ไหมคะว่าพี่ซายน์อาจจะไปชอบคนอื่นเพ
27. รักแท้แพ้อะไร (1)พอฉันตื่นขึ้นในตอนเช้าร่างสูงที่นอนกอดตลอดคืนก็หายไปแล้ว พี่ซายน์ผู้ที่ชอบนอนขี้เซาและคอยให้ปลุกตลอดหายไปไหนกันนะ พอเดินลงมาด้านล่างก็พบว่า หมอหนุ่มกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว กลิ่นของทอดลอยมาเตะจมูก เขาคงได้ยินเสียงฝีเท้าของฉันที่กำลังเดินลงจากบันได ใบหน้าขาวเนียนยิ้มอวดลักยิ้ม ผมหน้าม้าที่ยุ่งไม่เป็นทรงแต่กลับทำให้คนตรงหน้าดูหล่อเหลาไปอีกแบบ “ดาวตื่นแล้วเหรอ?” คงเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันตื่นสายตอนนี้หกโมงเช้าแล้วถือว่าสายสำหรับฉัน ปกติวันทำงานฉันจะตื่นตีห้าลุกมารดน้ำต้นไม้และพวกพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รอบๆบริเวณบ้าน เมื่อคืนคนตัวสูงก่อกวนตลอดทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอนจึงรู้สึกเพลียจนตื่นนอนตามเวลาปกติไม่ได้“พี่ซายน์ทำอะไรกินคะ” ฉันเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พี่ซายน์กำลังทอดไส้กรอก ในจานที่ทอดเสร็จแล้วมีไข่ดาวทั้งแบบสุกและไม่สุกหลายฟอง มือหนาจูงมือฉันมานั่งที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋และมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง“ดาวนั่งเฉยๆ พี่จะบริการดาวเอง สลับกันบ้างดาวดูแลพี่มามากพอแล้ว” ฉันอมยิ้ม คุณชายแห่งบ้านจึงรุ่งเรืองสกุลเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?“พี่ซายน์ให้ใครไปซื้ออ
26. ไตหาหัวจาม (2)เลิกเรียนฉันก็รีบกลับบ้านพักทันทีปกติจะนั่งคุยชิลๆกับครูพี่ลี่ก่อน ช่วงบ่ายฉันมัวแต่เป็นห่วงว่าพี่ซายน์จะอยู่ได้ไหมเพราะอากาศร้อนมาก แต่พอถึงบ้านฉันเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้าน บนหลังคามีคนกำลังติดจานดาวเทียมสีส้มและตรงระเบียงห้องนอนมีช่างกำลังติดแอร์และไม่ได้ติดแค่จุดเดียว พี่ซายน์ติดแอร์ทั้งบ้าน ห้องนอนที่ฉันนอนห้องเดียวอีกห้องใช้เก็บของเขาก็ติดมันหมดทั้งสองห้อง ห้องนั่งเล่นชั้นล่างก็ติดแอร์ รวมไปถึงครัวเล็กๆนั้น ทีวีจอแบนจอใหญ่ถูกนำมาตั้งแทนทีวีจอเล็กๆอันเก่า ตู้เย็นสี่ประตูเครื่องใหญ่ตั้งอยู่ในครัว ร่างสูงยืนชื่นชมผลงานพอเห็นเจ้าของบ้านมาถึง ก็ทำแบบสอบถามความพึงพอใจ“ดาวชอบไหม สมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดบลูทูธต่อกับมือถือได้เลย เผื่อดาวอยากดูหนังฟังเพลง” หมอหนุ่มอวดอ้างสรรพคุณของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคซึ่งเจ้าตัวภูมิใจนำเสมอมาก“ตู้เย็น พี่ซื้อเครื่องดื่มกับผลไม้ไว้ให้แล้ว”“พี่ซายน์ เกินไปไหมคะ ดาวว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป” ฉันไม่เห็นด้วยกับของแต่ละอย่างที่เขาซื้อให้ฉันเลย“พี่อยากให้ดาวอยู่สบายๆ ดาวไม่ใช่คนอื่นคนไกล ดาวเป็นเมียพี่ถึงดาวจะไม่ยอมรับ แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นสามีภร
25. ไตหาหัวจาม (1)เช้าวันจันทร์ฉันกลับมาทำงานที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยา เมื่อวานพี่ซายน์มาส่งฉันที่สนามบินเขานั่งรอจนกระทั่งฉันเข้าไปในเกท หยอดมุกเสี่ยวๆ ประมาณสองร้อยมุกถ้วนและฉันก็นั่งยิ้มคนเดียวตั้งแต่บนเครื่องบินจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ถึงแม้เขาจะทำทีมาง้อฉันแต่ว่าฉันก็ยังไม่ได้ใจอ่อนบอกเบอร์มือถือเบอร์ใหม่กับเขาเพราะฉันยังไม่แน่ใจตัวเองอยู่หลายเรื่อง แต่ว่าอย่างน้อยในตอนนี้ฉันก็แอบแง้มหัวใจตัวเองนิดนึงให้พี่ซายน์เข้ามา วันนี้ฉันมีสอนสี่คาบรวดคือตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงตอนสิบเอ็ดโมงห้าสิบ เด็กๆชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นวัยที่กำลังน่ารักช่างพูดและห้องจะดูวุ่นวายในบางครั้ง ขณะที่ออดเตือนหมดเวลาคาบที่สี่ นักเรียนในห้องส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว“เย้ หมดคาบแล้ว”“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ” หัวหน้าห้องสั่งให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้น นักเรียนทำความเคารพพร้อมกัน“ขอบคุณค่ะคุณครู” เด็กๆแทบจะพุ่งตัวออกจากห้องเพราะช่วงพักเที่ยงจะมีการแย่งชิงโต๊ะที่โรงอาหาร ฉันหนีจากความวุ่นวายนั้นโดยการให้นักเรียนออกไปก่อน ทำทีถ่วงเวลาโดยการเก็บอุปกรณ์การสอนลงในกระเป๋า พายเพิ่งจะลาคลอดได้สองวันอาทิตย์หน้าถึงจะกลับมาที่บ
24. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (2)Sine talksผมขับรถกลับมาจากสุโขทัยถึงกรุงเทพในช่วงหนึ่งทุ่ม มุ่งตรงมาที่บ้านใหญ่เพราะอย่างน้อยก็ยังมีพ่อกับแม่หรือบางทีก็มีนกแก้วอย่างยัยพายพอได้พูดได้คุยกันทำให้ไม่รู้สึกอ้างว้างจนเกินไป ผมเดินเข้ามาในบ้านทุกคนกำลังทานอาหารเย็น ที่โต๊ะกินข้าวมีอาหารหลายอย่างอาจเพราะวันนี้น้องสาวผมกลับมาบ้านแม่พั้นซ์เลยจัดเต็มอาหารการกินบำรุงหลานชายในท้องยัยพาย“ซายน์มากินข้าว” แม่พั้นซ์กวักมือเรียกผมให้เข้าไปนั่ง ผมเดินเข้าไปนั่งทำหน้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิต อุตส่าห์ไปตามเมีย โดนเมียตบแถมไล่อีกตะหาก“กลับมาเป็นพี่ซายน์หน้าเดียวอีกแล้ว” ยัยพายแซว ผมมองพุงป่องของน้องสาวคงใกล้จะคลอดแล้วเพราะตามนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มจะบวมขึ้นมานิดหน่อย“คลอดตอนไหนอ่ะพาย”“น่าจะอาทิตย์หน้า ตอนนี้พายลาคลอด เดินขึ้นตึกไปสอนไม่ไหวแล้ว” น้องสาวนั่งพิงกับเก้าอี้มือลูบที่ท้องเบาๆ“ดิ้นแรงอีกแล้ว สงสัยอาหารฝีมือคุณยายพั้นซ์คงอร่อยมาก” ผมอดที่จะเอามือไปลูบท้องน้องสาวไม่ได้ ถ้าผมไม่ให้ดาวกินยาคุมกำเนิดป่านนี้ดาวคงจะท้องก่อนยัยพายอีกเพราะผมขยันซะขนาดนั้น ถ้าดาวท้องเธออาจจะไม่ทิ้งผมไป“อยากมีลูกเหรอพี่ซายน์” ยั
23. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (1)Tam talks“ตาม กูรักน้องดาวว่ะ” ตั้งแต่น้องดาวออกจากชีวิตของไอ้ซายน์ พอมีเวลาว่างเพื่อนรักของผมก็เอาแต่นั่งกอดขวดแอลกอฮอล์ทุกชนิด แล้วมันก็กลับมาเป็นหมอซายน์หน้าเดียวคนเดิม ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ“รอบที่สามสิบ” ผมมองไอ้ซายน์แล้วอดสงสารไม่ได้ แค่อาทิตย์เดียวหมอซายน์ก็ซูบลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะกินข้าวยิ่งกว่าแมวดม บ่นแต่ว่ากินไม่ลง คงเป็นเพราะมันติดรสชาติอาหารของน้องดาว ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปอาทิตย์หน้าแม่พั้นซ์อาจจะได้จองศาลาและเตรียมบวชชีพราหมณ์จริงๆ ก็เป็นได้ “กูคิดถึงน้องดาว น้องดาวจะคิดถึงกูไหมวะ” คนเมายังเพ้อไปเรื่อย ผมเองก็ช่วยอะไรมันไม่ได้มากได้แต่นั่งฟังมันพูดระบายอารมณ์ไปเรื่อยๆ“ก็คงจะคิดอยู่มั้ง อยู่ด้วยกันตั้งนาน” ผมดูออกว่าน้องดาวก็รักไอ้ซายน์ เธออาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ต้องทำแบบนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะต้องเข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวของคนอื่น ช่วยเท่าที่ทำได้ก็พอ “กูอยากไปหาน้องดาว”“ไปสิ พรุ่งนี้กูราวน์เช้าให้” ผมตบไหล่มันเบาๆ ดวงตาของมันทอประกายด้วยความดีใจ“ขอบใจมากตาม กูรักมึงว่ะ” มันทำท่าจะเข้ามากอดผม“อย่าเข้ามานะเว้ย กูมีพระ” ผม