7. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (1)
ฉันกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยาพร้อมยัยพาย วันนี้มีการประชุมประจำเดือนมีนาคม ยัยพายเสนอว่าให้แจกการ์ดแต่งงานหลังการประชุมเสร็จสิ้น ฉันรู้สึกประหม่าที่ต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าจะแต่งงานถ้ามีคนถามว่ารู้จักกันได้ยังไง? เจอกันครั้งแรกที่ไหน? ฉันก็ยังไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงมันเป็นคำถามพื้นฐานที่ทุกคนต้องถามอยู่แล้ว
“เรื่องอื่นๆมีไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอปิดการประชุม” ท่าน ผ.อ.ชนินทร์กล่าวปิดการประชุม ยัยครูพายยกมือรัวๆ
“ครูมนต์พระพายมีเรื่องอะไรครับ”
“ครูเดือนเด่นเป็นสง่ามีเรื่องจะพูดค่ะ” นางโบ้ยหน้ามาทางฉัน สายตาทุกคนในที่ประชุมจับจ้องมาที่ฉันราวกับมีไฟสปอทไลท์บนเวทีส่องมาที่ฉันคนเดียว ยิ่งทุกคนเงียบฉันยิ่งเกร็ง
“ว่าไงครับครูดาว” ท่าน ผ.อ.คงขี้เกียจเรียกชื่อจริงที่แสนจะยาวของฉันเลยเรียกชื่อเล่นแทน
“พูดสิแก” ยัยครูดาวล้วงปึกซองสีชมพูออกจากถุงผ้า
“วันที่ ยี่สิบมีนาคม ดิฉันจะ...เอ่อ..” บทจะพูดก็พูดไม่ออกซะงั้น...
“ขึ้นบ้านใหม่เหรอคะน้องดาว?” ครูพี่ลี่ ครูสาวโสดวัยสามสิบปลายเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
“หรือน้องชายจะบวช” ทุกคนเดาไปต่างๆนานา ฉันมีน้องชายที่ไหนกันเล่า..ไม่มีใครคิดว่าฉันกำลังจะแต่งงานแน่ๆ เพราะตั้งแต่มาบรรจุรับราชการครูที่โรงเรียนนี้ฉันไม่เคยมีข่าวเรื่องผู้ชายมาก่อน จนหลายคนจับฉันกับยัยครูพายเป็นคู่จิ้นกัน โชคดีที่เพื่อนสาวที่หลังเลิกเรียนบางวันมีหมอหนุ่มหล่อมารับที่โรงเรียนทุกคนถึงเลิกจับคู่ฉันกับยัยครูพาย ยัยพายจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิด ไม่ใช่พูดไม่ออกแต่กำลังคิดถึงสเตปต่อไป ถ้าบอกว่าแต่งงาน ทุกคนก็ต้องถามแต่งกับใคร เรื่องราวเป็นมายังไงคือฉันยังไม่ได้เตรียมจะตอบอะไรทั้งนั้น
“ครูดาวจะแต่งงานค่ะ นี่ค่ะซองเชิญทุกคนเลยนะคะ” เป็นครูพายที่เอาการ์ดเดินแจกทุกคน ครูพี่นัท ครูหนุ่มที่ทำงานหน้าที่โสตทัศนูปกรณ์ของโรงเรียน ฉายภาพการ์ดงานแต่งงานขึ้นจอโปรเจคเตอร์
“ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรส นายแพทย์มหาสมุทร จึงรุ่งเรืองสกุล และ นางสาวเดือนเด่นเป็นสง่า พัฒนพงศ์”ชื่อของพี่ซายน์และฉันโชว์หราในการ์ดใบนั้น ฉันเองก็เพิ่งรู้ชื่อจริงของพี่ซายน์วันที่ได้รับการ์ดแต่งงานนั่นแหละ
ครูทุกคนในห้องประชุมต่างพากันฮือฮาและส่งยิ้มด้วยความยินดีให้ฉัน
“โห เป็นหมอด้วยนามสกุลคุ้นๆ เหมือนนามสกุลครูน้องพาย เป็นญาติน้องพายเหรอคะ?” ครูพี่ลี่ถามขึ้น
“เป็นพี่ชายพายเองค่ะ”
“น้องพายมีพี่ชายเป็นหมอไม่แนะนำให้พี่รู้จักเลยนะ แนะนำให้แต่น้องดาวสองมาตรฐานนะเนี่ย” ครูพี่ลี่ทำปากคว่ำแบบน่ารักๆ ยัยพายหัวเราะเสียงใส
“พี่ชายของพายเจอดาวครั้งแรกก็ตกหลุมรักเลยค่ะ เร่งงานแต่งกลัวดาวเปลี่ยนใจ” ยัยครูพายโกหกคำโต นางส่งสายตามาทางฉันพลางยกนิ้วแสดงสัญลักษณ์โอเค
“ดาวจัดงานที่กรุงเทพฯ ถ้าครูท่านไหนสะดวกเชิญนะคะ” ฉันพูดสรุปสั้นๆ ท่านผู้อำนวยการจึงกล่าวปิดการประชุม
“ครูดาวยินดีด้วยนะครับ ผมเห็นซองที่ครูพายถือ นึกว่าครูพายจะแต่งงานใจหายแว่บเลย” ครูเอจิที่ตอนนี้ก็ยังพูดหยอดพูดแซวยัยครูพายเป็นครั้งคราวแต่น้อยลงจากที่เพื่อนสาวของฉันเปิดตัวคบกับหมอฟินเป็นแฟนจริงจัง
“พายก็อยากแต่งค่ะ แต่ตี๋ฟินยังไม่มาขอเลย รอนานจะแต่งกับคนอื่นซะเลย”
“แต่งกับผมก็ได้นะครับผมพร้อม” ครูเอจิยิ้มพรายสายตามองมาที่ยัยครูพายเหมือนแทบจะกลืนกิน
“ช่วยหลีกทางหน่อยค่ะ” เสียงแข็งๆของครูน้องแอนที่มีคนเม้ากันว่าแอบกิ๊กกับครูเอจิพูดขึ้น นางกระแทกรองเท้าส้นสูงแถมเดินชนไหล่ยัยครูพายอย่างจงใจ
“ครูเอจิ เลิกหยอดยัยพายซะทีเถอะค่ะ รังสีอำมหิตเริ่มเปล่งแสงแล้ว” ฉันกลัวว่าวันหนึ่งครูน้องแอนอาจจะเอามีดมาแทงเพื่อนรักของฉันเข้าสักวัน...
Sine talks
“ซายน์ ช่วงนี้ไม่ว่างเลยนะ” เสียงหวานๆของหมอพลอยเอ่ยถาม ขณะที่เราราวน์วอร์ดช่วงเช้าเสร็จและพักกลางวันอยู่ในห้องพักแพทย์สองคน
“ช่วงนี้ผมเข้าเวร ผมจะลายาวห้าวัน” ผมถอนหายใจหนักๆ ไม่รู้จะบอกคนรักยังไง
“ลาทำไมเหรอซายน์หรือว่าที่เรานัดกันไปเที่ยวญี่ปุ่น แอบเซอร์ไพร้พลอยใช่ไหม? ทำไมไม่บอกดีๆพลอยจะได้ลาด้วย” ดวงหน้าหวานคมยิ้มพราย นิ้วเรียวแตะแก้มผมเบาๆ
“ซายน์จะแต่งงาน” ผมตัดสินใจบอกหมอพลอย หญิงสาวทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
“โห นี่มันเรื่องสยองหนึ่งบรรทัดเลยนะ ล้อพลอยเล่นใช่ไหม?” ผมหยิบซองสีชมพูออกมาจากกระเป๋า
“เชิญนะครับยี่สิบมีนาคมที่บ้านซายน์” หมอพลอยล้วงการ์ดข้างในมาอ่าน ใบหน้าแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น หัวใจผมชาหนึบ แต่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ผมจำเป็นต้องแต่งงานตามคำสั่งของครอบครัว
“ซายน์ทำแบบนี้กับพลอยได้ยังไง นังนั่นเป็นใครดีกว่าพลอยรึเปล่า” เสียงหวานที่คุ้นเคยเริ่มจะเป็นเสียงตะคอก ผมตกใจเพราะไม่เคยเห็นคนรักแสดงท่าทางแบบนี้มาก่อน แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของเธอ การที่คนรักต้องไปแต่งงานกับใครไม่รู้มันเจ็บปวดแค่ไหน
“ผมต้องแต่ง แต่ผมไม่ได้รักเธอ คนที่ผมรักคือพี่พลอยคนเดียว” ผมกุมมือหมอพลอยแน่น ใบหน้าหวานคมเต็มไปด้วยน้ำตาจนผมอยากคว้าเธอมากอดถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาล
“ถึงซายน์จะแต่งงานเราก็ไม่เลิกกันใช่ไหม?” ดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำใสๆเอ่ยถามพลางสะอื้นไห้
“ไม่มีวัน..ซายน์จะหย่าให้เร็วที่สุด” ผมบอกอย่างมั่นใจ ถ้าดาวอยากแต่งงานกับผมก็แต่งไป ผมจะร้ายให้เธอทนไม่ไหว ยอมเดินออกไปจากชีวิตผมไป...
“ไอ้ซายน์ แม่พั้นซ์จอดรถรอที่หน้าโรงพยาบาล” ไอ้หมอตามเดินเข้ามาในห้องพักแพทย์ มันเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงจนผมปล่อยมือที่กุมหมอพลอยแทบไม่ทัน
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ช่วงนี้ผมไม่ได้อยู่ตามลำพังกับพลอยเลย วันๆ ต้องเข้าเวร พอวันว่างอย่างวันนี้ก็ต้องไปลองชุดแต่งงาน ผมเปลี่ยนเสื้อกาวน์และสวมเสื้อเชิร์ตเดินขึ้นมานั่งในรถ ในนั้นนอกจากแม่พั้นซ์ยังมียัยพายกับ..เจ้าสาวของผมนั่งอยู่ด้านใน ผมแทบไม่อยากมองหน้าเธอเลยเรียกว่าเกลียดยันเงาก็ว่าได้
Dao talks
ร้านแต่งงานแบรนด์จุนิตาอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก พวกเราทั้งหมดเดินเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านสาวสองวัยกลางคนที่ยังสวยอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงออกมาต้อนรับ
“เชิญค่ะคุณพั้นซ์ ชุดที่สั่งตัดเรียบร้อยแล้ว”
“หนูดาวไปลองชุดเลยจ้า จะได้มาถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง” แม่พั้นซ์รุนหลังให้ฉันเดินไปกับคุณจุนิตาด้านใน มีพนักงานสาวสองคนช่วยฉันแต่งตัว ชุดแต่งงานที่ปักด้วยคริสตัลแทบทุกตารางนิ้วสวยงามอลังการสมราคาสองล้าน ฉันใช้เวลาแต่งหน้าและแต่งตัวเกือบสองชั่วโมง พอเดินลงมาจากบันไดชั้นบน แม่พั้นซ์ยัยพายมองด้วยแววตาชื่นชม
“สวยมากดาว ยังกะเจ้าหญิงแหน่ะ” ยัยดาวหยิบมือถือมาถ่ายรูป ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวนอนหลับอยู่ที่โซฟาตัวยาว
ร่างสูงในชุดสูทสีขาวนอนหลับลึกสังเกตได้จากลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอ แม่พั้นซ์เขย่าตัวพี่ซายน์แรงๆ
“ตื่นได้แล้ว มาดูเจ้าสาวคนสวยเร็วเข้า” พี่ซายน์งัวเงียตื่นขึ้นมา ดวงตาสีเข้มชะงักมองฉันแค่ไม่กี่วินาทีจากนั้นจึงเบือนหน้าไปทางอื่น ที่ร้านมีบริการถ่ายพรีเวดดิ้งในสตูดิโอ ร่างสูงในชุดสูทสีขาวดูดีราวกับเจ้าชายเสียแต่ที่เขาไม่ยอมยิ้มและมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชาเหมือนโดนบังคับให้แต่งงาน ใช่แล้วก็โดนบังคับให้แต่งงานจริงๆนี่นา
“เจ้าบ่าวช่วยยิ้มด้วยครับ” พี่ซายน์ทำหน้าตึงจนช่างกล้องต้องบอก เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายและยิ้มตามที่ช่างกล้องร้องขอและฉันเพิ่งเคยเห็นพี่ซายน์หน้าเดียวยิ้มเป็นครั้งแรก ตึกตักตึกตัก หัวใจฉันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เพิ่งจะรู้ว่าพี่ซายน์มีลักยิ้มด้วย
“เจ้าสาวโอบคอเจ้าบ่าวนะครับ เจ้าบ่าวมองเจ้าสาวเอาจมูกมาชนกัน” นี่ฉันต้องทำแบบนี้จริงๆเหรอ? ฉันทำตัวไม่ถูกยืนนิ่งไปนาน จนพี่ซายน์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน
“รีบๆทำจะได้เสร็จไวๆ เหนื่อย..” พี่ซายน์พูดเสียงเบาราวกับกระซิบ ดวงตาสีเข้มมองฉันอย่างไม่ชอบใจ ฉันค่อยๆใช้มือโอบรอบคอพี่ซายน์ เขาค่อยๆ โน้มตัวลงมาจนจมูกเราชนกัน ใกล้มาก..จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่กำลังเป่ารดใบหน้าของฉัน...แล้วหัวใจเจ้ากรรมก็เต้นรัวอีกครั้ง..
8. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (2)Sine talksผมมองแขกผู้มีเกียรติที่เข้าคิวรดน้ำสังข์และอวยพรให้คู่บ่าวสาวแล้วหันไปมองเจ้าสาวซึ่งอยู่ในชุดไทยจักรีสีชมพูอ่อนเปลือยไหล่ขาวนวลเนียน ทรงผมแสกกลางปล่อยเรือนผมดำสนิทประดับผมด้วยดอกไม้สีขาว สวมต่างหูรูปดอกไม้เข้าชุดกัน ใบหน้าตกแต่งด้วยช่างมืออาชีพทำให้ดูสวยกว่าปกติ ถึงผมจะไม่ชอบน้องดาวแต่ก็ต้องยอมรับว่า น้องดาวเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับใบหน้า แก้มเนียนที่มีเลือดฝาดธรรมชาติในยามที่ไม่แต่งหน้า ผิวขาวเนียนละเอียดที่โผล่พ้นผ้าสไบนั้นน่าสัมผัส ผมสะบัดหน้าพรืดที่รู้ว่าตัวเองเผลอนั่งมองเจ้าสาวมาเกือบห้านาที ตลอดเวลาที่เข้าพิธีน้องดาวเอาแต่ยิ้ม ยิ้มและยิ้ม คงดีใจมากสินะที่ได้แต่งงานกับผม แล้วเธอจะได้เห็นว่านรกมีจริงผมจะเอาคืนให้สาสมกับเงินที่บ้านของผมจ่ายไป“ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ หมอซายน์ ครูดาว” ไอ้หมอฟินเดินเคียงคู่มากับยัยพายน้องสาวผมที่สวมชุดไทยสีคล้ายกับเจ้าสาวแต่ดูเรียบกว่าในฐานะเพื่อนเจ้าสาว“พี่ซายน์ยิ้มหน่อยสิ ทำยังกะโดนบังคับให้แต่งงาน” ยัยพายจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก็ใช่ไง..โดนบังคับให้แต่งงา
9. เกลียดตัวกินไข่...เกลียดปลาไหล....แต่อยากกินเธอทั้งๆที่เพิ่งจะได้นอนตอนตีห้า แต่ตีห้าครึ่งฉันก็ลุกมาที่ห้องครัวเพราะตอนที่อยู่กับแม่ฉันก็ตื่นตีสี่มาช่วยแม่ทำกับข้าวขายอยู่แล้ว แม่พั้นซ์กับแม่บ้านกำลังช่วยกันทำกับข้าวเพื่อเตรียมใส่บาตรตอนเช้า“หนูดาวรีบตื่นทำไมลูก แม่ว่าอีกเดี๋ยวจะให้แม่บ้านไปปลุก”“ดาวอยากมาช่วยทำกับข้าวค่ะ” ฉันมองไปรอบๆห้องครัว แม่บ้านกำลังตักข้าวสวยลงในภาชนะสีเงินและตักแกงใส่ถุงร้อน “ลูกสะใภ้แม่นี่ช่างขยันจริงๆ แต่หนูดาวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไทยที่เตรียมไว้ในตู้ดีกว่าจ้ะ อ้อ..อย่าลืมปลุกซายน์ด้วยนะ วันแรกที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำบุญร่วมชาติใส่บาตรร่วมขันจะได้ใช้ชีวิตคู่นานๆ ไม่มีมารมาผจญ” แม่พั้นซ์เน้นคำว่ามารผจญชัดเจน ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันภาวนาขอแค่หาเงินห้าล้านมาคืนพี่ซายน์ จะได้ออกจากชีวิตพี่ซายน์เร็วๆเท่านั้นเอง ฉันเดินย้อนกลับมาที่ห้องนอน ร่างสูงกำลังนอนหลับสนิท เสียงหายใจดังสม่ำเสมอ ฉันเผลอมองร่างขาวเนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มอย่างเผลอไผล ใบหน้าเรียวได้รูปดวงตาที่ปิดสนิทล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางระเรื่อ พี
10. แสดงตัวตน“ซายน์ นี่จะไปทำงานแล้วเหรอ?” แม่พั้นซ์พูดขึ้นเสียงดังและแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นลูกชายคนโตใส่ชุดเสื้อกาวน์พร้อมไปปฏิบัติงาน หมอหนุ่มบอกทุกคนว่าเขาลาห้าวันแต่เพิ่งใช้สิทธิ์วันลาวันแรกไปกับงานแต่งงานวันที่สองพอใส่บาตรเสร็จ นอกจากทำเรื่องอย่างว่าร่างสูงก็เอาแต่นอน ข้าวปลาแทบไม่ค่อยแตะ เช้าวันที่สามก็ขอออกไปทำงานทันที“ครับ..”หมอซายน์ตอบสั้นๆ“แม่โทรบอกแม่บ้านทำความสะอาดบ้านพักที่หัวหินให้แล้วนะ” แม่พั้นซ์เสนอให้เราไปฮันนีมูนที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวที่หัวหิน หลังจากงานแต่งงานเสร็จสิ้นแต่ทว่าฉันกลับรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้อยู่กับพี่ซายน์สองต่อสองที่หัวหิน ขนาดอยู่ที่บ้านมีคนอยู่ด้วยตั้งหลายคน เขายังจ้องที่จะรังแกฉัน ถ้าอยู่กันตามลำพังฉันอาจจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาก็เป็นได้“ซายน์ไม่อยากไป อยากไปทำงาน ใครอยากไปก็ไปคนเดียว” พี่ซายน์หันมามองฉันแล้วยกยิ้มที่มุมปาก ดวงตาสีเข้มคู่นั้นไม่เคยมองฉันด้วยความรู้สึกที่ดีอยู่แล้ว“รีบไปทำงานอยากไปเจอใครรึเปล่า?” ยัยพายตวัดสายตามองพี่ชายคนเดียวอย่างไม่พอใจ พี่ซายน์นิ่งไปนิดนึงก่อนจะไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“ก็ต้องไปเจอคนไข้สิ คิดว่าพี่อยากเจ
11. คนดีที่เธอ (ไม่) รัก“สวัสดีค่ะพี่หมอตาม ดาวนะคะ” ฉันกรอกเสียงไปตามสาย[ ครับน้องดาว ]“ดาวอยากจะรบกวนพี่หมอตาม ช่วยไลน์ตารางเข้าเวรของพี่ซายน์ให้ดาวด้วยค่ะ” ในเมื่อฉันรับปากแม่พั้นซ์กับยัยพายว่าจะดูแลและช่วยพี่ซายน์ให้รอดพ้นจากการปีนต้นงิ้ว ฉันจึงคิดแผนการคร่าวๆในใจ[ ได้ครับน้องดาว ]ฉันได้ยินจากยัยพายมาว่าพี่หมอตามเป็นสายให้แม่พั้นซ์อยู่แล้ว จึงส่งข้อมูลที่ฉันต้องการให้โดยไม่ถามอะไรมากความ ไม่ถึงสองนาทีตารางเวรพี่ซายน์ก็ถูกส่งเข้ามาในไลน์ของฉัน วันนี้พี่ซายน์ไม่มีเวรดึกเลิกงานสี่โมงเย็นโดยประมาณ ตั้งแต่ที่ย้ายมาบ้านใหม่พี่ซายน์ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เขาเข้าเวรดึกติดกันสองวันแล้ว ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารเอาไปให้พี่ซายน์ที่โรงพยาบาลโดยฝากไปกับพี่หมอตาม จากนั้นฉันก็ทำความสะอาดห้องนอน ซักผ้าและงานบ้านอื่นๆ“คุณดาวไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าทำเอง” ป้าสมใจทำหน้าลำบากใจเมื่อเห็นฉันทำงานบ้านแทบจะทุกอย่างด้วยตัวเอง“ไม่เป็นไรค่ะป้าสมใจ ดาวอยู่บ้านเฉยๆ เหงาน่ะค่ะ” อยู่ที่บ้านฉันก็ตื่นแต่เช้าทำงานบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว พอให้อยู่บ้านเฉยๆจึงไม่ค่อยชิน อาหารทุกอย่างที่เอาไปให้พี่ซายน์ที่โรงพย
12. ทำดีให้ตายก็ไม่มีวันได้ใจฉันลืมตาขึ้นมาในความมืด มือควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง พอฉันขยับตัวร่างหนาที่กอดฉันอยู่ก็ขยับตาม“จะไปไหน?” เสียงทุ้มงึมงำฉันไม่แน่ใจว่าพี่ซายน์ตื่นแล้วหรือแค่ละเมอ“ดาวจะลงไปข้างล่างค่ะ” ตอนนี้น่าจะราวๆตีห้าแล้ว ฉันต้องทำอาหารเช้าให้พี่ซายน์ทานก่อนไปทำงาน“ไม่ต้องไป” เป็นประโยคคำสั่งและฉันก็ต้องทำตาม ฉันล้มตัวลงไปบนเตียงอีกครั้ง มือหนากอดเอวฉันไว้แน่น ศีรษะทุยได้รูปเข้าซุกมาตรงซอกคอของฉัน เพียงไม่นานพี่ซายน์ก็หลับสนิทเสียงหายใจของเขาดังสม่ำเสมอ บางทีตอนนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด เป็นช่วงเวลาที่พี่ซายน์ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามฉันด้วยคำพูด สายตาหรือการกระทำ ฉันเผลอใช้สองมือโอบรอบตัวของเขาและยังลืมตัวจรดริมฝีปากที่แก้มพี่ซายน์เบาๆ“ดาวรักพี่ซายน์นะคะ” ฉันค่อยๆ ดันร่างหนาออกอย่างเบามือและออกจากห้องนอนเพื่อลงไปทำอาหารเช้าป้าสมใจกับน้องมิ้นท์กำลังเตรียมของสดและล้างผักที่ฉันได้บอกไว้เมื่อตอนเย็น“คุณดาวไม่ต้องลงมาทำกับข้าวก็ได้นะคะ คุณหมอนานๆทีได้มาค้างที่บ้าน” ป้าสมใจพูดยิ้มๆ ฉันรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบเพราะเมื่อคืนที่ฉัน
13. สายลับจับชู้ (1)วันนี้พี่ซายน์เข้าเวรดึก ฉันจึงขนอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่ซื้อแบบขายส่งราคาถูกมาขายที่ตลาดนัดโต้รุ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ตอนออกมาฉันดูทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี ห้องป้าสมใจกับน้องมิ้นท์ปิดไฟมืดสนิทแล้ว รับรองว่าไม่มีใครรู้ว่าฉันออกมาขายเสื้อผ้าแน่นอน ฉันทำการตั้งร้านในพื้นที่ว่างที่ได้ติดต่อเช่ากับเจ้าของตลาดที่คิดค่าเช่าเป็นรายวันเสื้อผ้าที่เลือกมาขายก็เป็นเสื้อผ้าที่สาวๆทำงานออฟฟิสน่าจะชอบ มีกระโปรงทรงเอสีต่างๆ เสื้อเชิร์ตใส่ทำงานและเสื้อแฟชั่นใส่เที่ยวก็ได้ใส่ทำงานก็ดี“พี่คะ เสื้อตัวนี้ราคาเท่าไหร่คะ” ผู้หญิงน่าจะอายุราวๆยี่สิบ สวมชุดนักศึกษาเอ่ยถามพลางจับเสื้อแฟชั่นแขนยาวด้วยความสนใจ“ตัวนี้ร้อยเก้าเก้าค่ะ มีหลายสีนะคะ” ฉันชี้ชวนให้น้องศึกษาดูสีอื่นด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจ“แพงอ่า ร้อยเจ็ดสิบได้มั้ยคะ” เสื้อตัวนี้ฉันรับมาก็ตัวละร้อยสามสิบแล้ว ถ้าขายราคานี้ได้กำไรสี่สิบบาทเอง“เสื้อแบบนี้พี่รับมาแพง ร้อยแปดสิบละกันค่ะ” วิญญาณแม่ค้าชักจะเข้าสิงขึ้นมา“ร้อยเจ็บห้านะคะ พี่สาวคนสวย” น้องศึกษาทำตาวิ้งๆ ติดจะอ้อน“ก็ได้ค่ะ” ฉันปลดเสื้อออกมาจากไม้แขวนเอาใส่ถุงพลาสติกส่งใ
14. สายลับจับชู้ (2)Sine talksผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ไม่เห็นร่างเล็กที่นอนข้างๆแล้ว ป้าสมใจเป็นคนมาปลุกผม“คุณดาวล่ะป้า”“คุณดาวไปทำธุระบ้านคุณพั้นซ์ค่ะ” ป้าสมใจบอกแค่นั้น ในใจก็รู้สึกผิดที่ทำรุนแรงกับน้องดาวเมื่อคืน ผมรีบอาบน้ำกินข้าวและไปทำงาน พอมาถึงวอร์ดผู้ป่วย ไอ้หมอตามก็เดินเข้ามาทัก“ไอ้ซายน์ เมื่อคืนมึงกลับบ้านเหรอ กูไปหาที่ห้องพัก พยาบาลว่ามึงกลับไปตอนตีหนึ่ง” ไอ้หมอตามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ใจผมมันไม่ปกติผมมองมันด้วยความหงุดหงิด“โชคดีที่กูกลับไป เลยได้เห็นอะไรดีๆ”“เห็นอะไรวะ เล่ากูฟังบ้างสิ” มันทำสายตาวิบวับด้วยความอยากรู้เหมือนเคย ผมกลับไม่ชอบอยากจะต่อยหน้ามันให้คว่ำเพราะเหตุผลอะไรก็ยังไม่รู้“กูมีเรื่องปรึกษามึง” ผมจ้องหน้ามัน“เรื่องอะไรวะ”“กูจะฟ้องหย่าดาว”“ห๊ะ!!” มันทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมพูด“เมียกูมีชู้” ผมเน้นคำว่าชู้และมองลึกเข้าไปในดวงตาของมัน แต่ไอ้ตามเก็บความรู้สึกเก่งมากมันไม่แสดงพิรุธอะไรออกมาเลย“ถ้ามึงไม่มีหลักฐาน น้องดาวอาจจะฟ้องกลับมึงข้อหาหมิ่นประมาทก็ได้นะ กูว่ามึงใจเย็นๆ ไปกินยาเม็ดไม่เขย่าขวดหรือยังไง” มันตบไหล่ผมเบาๆ“กูกำลังจะรวบรวมหลั
15. การเตือนครั้งที่หนึ่งเพล้ง!! เสียงจานกระเบื้องที่ฉันกำลังถือ อยู่ๆ มันก็ร่วงไปจากมือ แตกกระจายเต็มพื้น“หนูดาว ถอยมาค่ะเดี๋ยวป้าจะกวาดเศษจาน ประเดี๋ยวจะเผลอเหยียบ” ป้าสมใจเดินไปคว้าไม้กวาดกับที่ตักผงออกมาเพื่อจัดการทำความสะอาดพื้นที่เต็มไปด้วยเศษกระเบื้อง วันนี้ตั้งแต่เช้าฉันรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเหมือนจะเป็นลางบอกเหตุอะไรอย่างที่โบราณท่านว่าหรือเปล่านะ ฉันเตรียมอาหารกลางวันอันประกอบด้วยผัดยอดฟักแม้วหมูสับ ยำคะน้ากุ้งสด ของหวานเป็นมันเชื่อมและมีผลไม้อย่างมะละกอสุกและแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พอเตรียมอาหารเสร็จฉันก็เอาสัมภาระขึ้นรถ ระหว่างที่เดินผ่านห้องรับแขก รูปของพี่ซายน์ก็ตกลงมาจากตู้โชว์กรอบกระจกแตกละเอียด ฉันก้มลงไปเก็บรูปนั้น ภาพของหมอหนุ่มรับปริญญา ดวงตาสีเข้มคู่นั้นไม่มีรอยยิ้มแต่ทว่า..กลับดูหล่อเหลาในสายตาของฉันฉันมองภาพนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม“พี่ดาว ทำอะไรคะ” น้องมิ้นท์เดินเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ด้วยความตกใจฉันเผลอจับกรอบรูปที่แตกนั้นเป็นผลให้กรอบกระจกที่แตกบาดเข้ากับนิ้วเป็นแผลลึก“อู้ยยย!!” ฉันเผลอสูดปากด้วยความเจ็บ เลือดไหลออกมาราวกับท่อประปาแตก“พี่ดาวกดแผลไว้ก่
31. ตอนพิเศษ เอเธนส์ & บอสตัน“พี่ซายน์ ดาวฝากซื้อของหน่อยค่ะ” ฉันหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ซอกคอกับไหล่ สองมือกำลังใช้ครีมอาบน้ำเด็กถูไปตามลำตัวป้อมสั้นแต่ทว่าจ่ำม่ำกว่าเด็กวัยเกือบสามขวบกว่าทั่วไป“แม่ดาว อาบให้บอสมั่งฮะ” เสียงใสๆของเด็กชายตัวน้อยอีกคนดังขึ้น“ได้ครับ จัดไปทั้งคู่เลย” ฉันจัดการอาบน้ำเด็กแฝดทั้งสองหลังจากที่สองพี่น้องไปเล่นดินหลังบ้าน โดยมีคุณยายเดือนคอยดูอย่างห่างๆ เสื้อผ้าของเอเธนส์กับบอสตันเปื้อนดินโคลน ใบหน้ามอมแมมจนฉันแทบจะจำลูกตัวเองไม่ได้“คุณดาวคะ เดี๋ยวป้าช่วยนะคะ” ป้าสมใจคงเห็นว่าฉันทั้งคุยโทรศัพท์ทั้งอาบน้ำเด็กๆทั้งสองดูทุลักทุเลจนเกินไป“น้องไนท์หลับแล้วเหรอคะ?” ฉันถามถึงเด็กหญิงวัยสองขวบลูกของน้องมิ้นท์ ซึ่งพลาดพลั้งตั้งท้องตอนกำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เด็กสาวเกิดอาการครรภ์เป็นพิษพอคลอดลูกสาวตัวน้อยคือน้องไนท์ก็เสียชีวิตทันที ฉันรู้สึกเวทนาจึงรับลูกสาวของน้องมิ้นท์เป็นลูกบุญธรรม น้องไนท์วัยสองขวบกำลังหัดพูด ผิวขาวเนียนละเอียดจ่ำม่ำน่ารักน่าเอ็นดูแถมยังบังเอิญหน้าคล้ายฉันอีกด้วย ถ้าพาเด็กๆทั้งสามคนออกไปเที่ยว คนรู้จักยังคิดว่าเป็นลูกของฉันกับพี่ซายน์ทั้งหมด “
30. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (2)ในความฝันที่กึ่งๆเหมือนความเป็นจริง ฉันยืนอยู่ที่มืดๆ พี่ซายน์ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาดูเศร้าเขายืนมองหน้าฉัน อยู่ๆก็หันหลังและเดินหนีฉันไป“พี่ซายน์จะไปไหนคะ” ฉันร้องตะโกนถาม ทว่าร่างสูงยังคงก้าวเท้าห่างฉันออกไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังตามเขาไปอย่างไม่ลดละ จากเดินเร็วๆกลายเป็นวิ่งตาม เสื้อเชิร์ตสีขาวของพี่ซายน์มีสีแดงเป็นจุดเล็กๆจากนั้นสีเข้มของเลือดกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากเสื้อเชิร์ตสีขาวกลายเป็นสีแดงช้ำเลือดจนน่ากลัว พี่ซายน์หยุดเดินและหันหน้ากลับมา“ดาวไม่ต้องตามพี่มา”“ทำไมคะ พี่ซายน์จะไปไหน”“ไปที่ๆไกลมาก ดาวดูแลลูกๆของเราด้วยนะ” จากนั้นร่างของพี่ซายน์ก็โปร่งแสงและแตกกระจายกลายเป็นผีเสื้อนับพันนับหมื่นบินขึ้นไปบนท้องฟ้า...ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น พยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตากับแสงสว่างในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองฝันร้าย เลือดที่อยู่บนเสื้อของพี่ซายน์กระจายตัวเป็นวงกว้าง มันคงไม่ใช่เรื่องจริง ฉันรู้สึกเหนื่อยหอบเพราะในความฝันฉันทั้งเดินทั้งวิ่งตามเขา“ดาวฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงของแม่เดือนดังขึ้น แม่กำลังนั่งกุมมือฉันอยู่ข้างๆเตียง“ดาวเป็นลมอีกแล้วใช่ไหมคะ
29. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (1)ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเวียนหัวพอยืนขึ้นก็รู้สึกเหมือนบ้านหมุน คิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคเกี่ยวกับความดันแน่ๆ แต่ก็ยังฝืนเดินลงมาทำอาหารตามปกติ ป้าสมใจกำลังย่างกะปิเพื่อตำน้ำพริก ฉันย่นจมูกทันทีที่ได้กลิ่นกะปิ“คุณดาวหน้าซีดนะคะ” ป้าสมใจทัก“เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ น่าจะเป็นความดัน เดี๋ยวป้าสมใจย่างกะปิค่อยเรียกดาวนะคะ” ยิ่งได้กลิ่นกะปิยิ่งเวียนหัว อาการคลื่นไส้ตีรวนขึ้นมาอีก รู้สึกกลืนไม่เข้าและไม่น่าจะคายอะไรออกมาได้ ทั้งๆที่ยังไม่กินข้าวเช้าแต่เหมือนร่างกายอยากจะขับอะไรออกมา ฉันวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและอาเจียนออกมา ซึ่งมีแต่น้ำลายเหนียวๆใสๆ ป้าสมใจรีบตามมาลูบหลัง“คุณดาวไหวมั้ยคะ ไปหาหมอไหมคะ” และในตอนนั้น..ฉันรู้แล้วว่าอาการที่ว่ามันคืออะไร..ฉันรีบไปที่ร้านขายยาและซื้อที่ตรวจครรภ์มาทุกแบบ ทั้งแบบหยดแบบจุ่มและแบบปากกา ครั้งแรกลองตรวจด้วยที่ตรวจแบบหยดก่อน แค่หยดปัสสาวะลงไปสี่หยดผลก็ปรากฏชัดแบบไม่ต้องสงสัย พอตรวจครบทุกแบบฉันก็จัดการเอาที่ตรวจทุกอันใส่กล่องและห่อด้วยกระดาษสีหวาน จากนั้นก็รอเวลา ราวๆหกโมงเย็นเสียงรถก็มาจอดที่โรงรถ ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์แขน
28. รักแท้แพ้อะไร (2)ฉันเดินตามร่างสูงเข้ามาในห้องนอน สามีของฉันปิดไฟมืดเอาผ้าห่มคลุมตัว เขานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาผนังห้อง“พี่ซายน์เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ฉันนั่งลงที่เตียงใช้หลังมือแตะหน้าผากเขาเบาๆ อุณหภูมิก็ปกติตัวไม่ได้ร้อน“พี่ปวดหัว” คนที่ใช้ผ้าห่มคลุมตัวพูดเสียงเรียบ“แค่ปวดหัวใช่ไหมคะ มีอะไรจะบอกดาวไหม?” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นความผิดปกติของเขาตั้งแต่อยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว พี่ซายน์ไม่พอใจที่น้องต้นพูดจากับฉันอย่างสนิทสนม“......” เขายังเงียบ..“งั้นดาวลงไปหาเพื่อนๆนะคะ” ฉันทำทีจะออกจากห้องนอน“ดาว...พี่ไม่ชอบครูต้นเลย” แล้วพี่ซายน์ก็คายความในใจออกมาจนได้“พี่ว่ามันชอบดาว พี่กลัว...”“พี่ซายน์กลัวดาวจะไปชอบครูต้นเหรอคะ?” ฉันแอบกลั้นยิ้มแต่พี่ซายน์คงไม่เห็นเพราะห้องมืดมาก“ก็ดาวทำงานกับครูต้นทุกวัน ส่วนพี่อยู่กรุงเทพฯแถมยังไม่มีเวลามาหาดาวบ่อยๆ พี่กลัวว่าดาวจะชอบคนอื่น” น้ำเสียงที่พูดดูจริงจังและคนตัวสูงก็ถอนหายใจ ฉันล้มตัวลงไปนอนข้างๆ เอื้อมมือไปสวมกอดพี่ซายน์จากทางด้านหลัง“ลองคิดกลับกันนะคะ พี่ซายน์ทำงานใกล้ชิดกับหมอ พยาบาลสาวๆสวยๆ ดาวก็ต้องคิดใช่ไหมคะว่าพี่ซายน์อาจจะไปชอบคนอื่นเพ
27. รักแท้แพ้อะไร (1)พอฉันตื่นขึ้นในตอนเช้าร่างสูงที่นอนกอดตลอดคืนก็หายไปแล้ว พี่ซายน์ผู้ที่ชอบนอนขี้เซาและคอยให้ปลุกตลอดหายไปไหนกันนะ พอเดินลงมาด้านล่างก็พบว่า หมอหนุ่มกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว กลิ่นของทอดลอยมาเตะจมูก เขาคงได้ยินเสียงฝีเท้าของฉันที่กำลังเดินลงจากบันได ใบหน้าขาวเนียนยิ้มอวดลักยิ้ม ผมหน้าม้าที่ยุ่งไม่เป็นทรงแต่กลับทำให้คนตรงหน้าดูหล่อเหลาไปอีกแบบ “ดาวตื่นแล้วเหรอ?” คงเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันตื่นสายตอนนี้หกโมงเช้าแล้วถือว่าสายสำหรับฉัน ปกติวันทำงานฉันจะตื่นตีห้าลุกมารดน้ำต้นไม้และพวกพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รอบๆบริเวณบ้าน เมื่อคืนคนตัวสูงก่อกวนตลอดทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอนจึงรู้สึกเพลียจนตื่นนอนตามเวลาปกติไม่ได้“พี่ซายน์ทำอะไรกินคะ” ฉันเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พี่ซายน์กำลังทอดไส้กรอก ในจานที่ทอดเสร็จแล้วมีไข่ดาวทั้งแบบสุกและไม่สุกหลายฟอง มือหนาจูงมือฉันมานั่งที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋และมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง“ดาวนั่งเฉยๆ พี่จะบริการดาวเอง สลับกันบ้างดาวดูแลพี่มามากพอแล้ว” ฉันอมยิ้ม คุณชายแห่งบ้านจึงรุ่งเรืองสกุลเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?“พี่ซายน์ให้ใครไปซื้ออ
26. ไตหาหัวจาม (2)เลิกเรียนฉันก็รีบกลับบ้านพักทันทีปกติจะนั่งคุยชิลๆกับครูพี่ลี่ก่อน ช่วงบ่ายฉันมัวแต่เป็นห่วงว่าพี่ซายน์จะอยู่ได้ไหมเพราะอากาศร้อนมาก แต่พอถึงบ้านฉันเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้าน บนหลังคามีคนกำลังติดจานดาวเทียมสีส้มและตรงระเบียงห้องนอนมีช่างกำลังติดแอร์และไม่ได้ติดแค่จุดเดียว พี่ซายน์ติดแอร์ทั้งบ้าน ห้องนอนที่ฉันนอนห้องเดียวอีกห้องใช้เก็บของเขาก็ติดมันหมดทั้งสองห้อง ห้องนั่งเล่นชั้นล่างก็ติดแอร์ รวมไปถึงครัวเล็กๆนั้น ทีวีจอแบนจอใหญ่ถูกนำมาตั้งแทนทีวีจอเล็กๆอันเก่า ตู้เย็นสี่ประตูเครื่องใหญ่ตั้งอยู่ในครัว ร่างสูงยืนชื่นชมผลงานพอเห็นเจ้าของบ้านมาถึง ก็ทำแบบสอบถามความพึงพอใจ“ดาวชอบไหม สมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดบลูทูธต่อกับมือถือได้เลย เผื่อดาวอยากดูหนังฟังเพลง” หมอหนุ่มอวดอ้างสรรพคุณของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคซึ่งเจ้าตัวภูมิใจนำเสมอมาก“ตู้เย็น พี่ซื้อเครื่องดื่มกับผลไม้ไว้ให้แล้ว”“พี่ซายน์ เกินไปไหมคะ ดาวว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป” ฉันไม่เห็นด้วยกับของแต่ละอย่างที่เขาซื้อให้ฉันเลย“พี่อยากให้ดาวอยู่สบายๆ ดาวไม่ใช่คนอื่นคนไกล ดาวเป็นเมียพี่ถึงดาวจะไม่ยอมรับ แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นสามีภร
25. ไตหาหัวจาม (1)เช้าวันจันทร์ฉันกลับมาทำงานที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยา เมื่อวานพี่ซายน์มาส่งฉันที่สนามบินเขานั่งรอจนกระทั่งฉันเข้าไปในเกท หยอดมุกเสี่ยวๆ ประมาณสองร้อยมุกถ้วนและฉันก็นั่งยิ้มคนเดียวตั้งแต่บนเครื่องบินจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ถึงแม้เขาจะทำทีมาง้อฉันแต่ว่าฉันก็ยังไม่ได้ใจอ่อนบอกเบอร์มือถือเบอร์ใหม่กับเขาเพราะฉันยังไม่แน่ใจตัวเองอยู่หลายเรื่อง แต่ว่าอย่างน้อยในตอนนี้ฉันก็แอบแง้มหัวใจตัวเองนิดนึงให้พี่ซายน์เข้ามา วันนี้ฉันมีสอนสี่คาบรวดคือตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงตอนสิบเอ็ดโมงห้าสิบ เด็กๆชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นวัยที่กำลังน่ารักช่างพูดและห้องจะดูวุ่นวายในบางครั้ง ขณะที่ออดเตือนหมดเวลาคาบที่สี่ นักเรียนในห้องส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว“เย้ หมดคาบแล้ว”“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ” หัวหน้าห้องสั่งให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้น นักเรียนทำความเคารพพร้อมกัน“ขอบคุณค่ะคุณครู” เด็กๆแทบจะพุ่งตัวออกจากห้องเพราะช่วงพักเที่ยงจะมีการแย่งชิงโต๊ะที่โรงอาหาร ฉันหนีจากความวุ่นวายนั้นโดยการให้นักเรียนออกไปก่อน ทำทีถ่วงเวลาโดยการเก็บอุปกรณ์การสอนลงในกระเป๋า พายเพิ่งจะลาคลอดได้สองวันอาทิตย์หน้าถึงจะกลับมาที่บ
24. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (2)Sine talksผมขับรถกลับมาจากสุโขทัยถึงกรุงเทพในช่วงหนึ่งทุ่ม มุ่งตรงมาที่บ้านใหญ่เพราะอย่างน้อยก็ยังมีพ่อกับแม่หรือบางทีก็มีนกแก้วอย่างยัยพายพอได้พูดได้คุยกันทำให้ไม่รู้สึกอ้างว้างจนเกินไป ผมเดินเข้ามาในบ้านทุกคนกำลังทานอาหารเย็น ที่โต๊ะกินข้าวมีอาหารหลายอย่างอาจเพราะวันนี้น้องสาวผมกลับมาบ้านแม่พั้นซ์เลยจัดเต็มอาหารการกินบำรุงหลานชายในท้องยัยพาย“ซายน์มากินข้าว” แม่พั้นซ์กวักมือเรียกผมให้เข้าไปนั่ง ผมเดินเข้าไปนั่งทำหน้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิต อุตส่าห์ไปตามเมีย โดนเมียตบแถมไล่อีกตะหาก“กลับมาเป็นพี่ซายน์หน้าเดียวอีกแล้ว” ยัยพายแซว ผมมองพุงป่องของน้องสาวคงใกล้จะคลอดแล้วเพราะตามนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มจะบวมขึ้นมานิดหน่อย“คลอดตอนไหนอ่ะพาย”“น่าจะอาทิตย์หน้า ตอนนี้พายลาคลอด เดินขึ้นตึกไปสอนไม่ไหวแล้ว” น้องสาวนั่งพิงกับเก้าอี้มือลูบที่ท้องเบาๆ“ดิ้นแรงอีกแล้ว สงสัยอาหารฝีมือคุณยายพั้นซ์คงอร่อยมาก” ผมอดที่จะเอามือไปลูบท้องน้องสาวไม่ได้ ถ้าผมไม่ให้ดาวกินยาคุมกำเนิดป่านนี้ดาวคงจะท้องก่อนยัยพายอีกเพราะผมขยันซะขนาดนั้น ถ้าดาวท้องเธออาจจะไม่ทิ้งผมไป“อยากมีลูกเหรอพี่ซายน์” ยั
23. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (1)Tam talks“ตาม กูรักน้องดาวว่ะ” ตั้งแต่น้องดาวออกจากชีวิตของไอ้ซายน์ พอมีเวลาว่างเพื่อนรักของผมก็เอาแต่นั่งกอดขวดแอลกอฮอล์ทุกชนิด แล้วมันก็กลับมาเป็นหมอซายน์หน้าเดียวคนเดิม ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ“รอบที่สามสิบ” ผมมองไอ้ซายน์แล้วอดสงสารไม่ได้ แค่อาทิตย์เดียวหมอซายน์ก็ซูบลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะกินข้าวยิ่งกว่าแมวดม บ่นแต่ว่ากินไม่ลง คงเป็นเพราะมันติดรสชาติอาหารของน้องดาว ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปอาทิตย์หน้าแม่พั้นซ์อาจจะได้จองศาลาและเตรียมบวชชีพราหมณ์จริงๆ ก็เป็นได้ “กูคิดถึงน้องดาว น้องดาวจะคิดถึงกูไหมวะ” คนเมายังเพ้อไปเรื่อย ผมเองก็ช่วยอะไรมันไม่ได้มากได้แต่นั่งฟังมันพูดระบายอารมณ์ไปเรื่อยๆ“ก็คงจะคิดอยู่มั้ง อยู่ด้วยกันตั้งนาน” ผมดูออกว่าน้องดาวก็รักไอ้ซายน์ เธออาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ต้องทำแบบนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะต้องเข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวของคนอื่น ช่วยเท่าที่ทำได้ก็พอ “กูอยากไปหาน้องดาว”“ไปสิ พรุ่งนี้กูราวน์เช้าให้” ผมตบไหล่มันเบาๆ ดวงตาของมันทอประกายด้วยความดีใจ“ขอบใจมากตาม กูรักมึงว่ะ” มันทำท่าจะเข้ามากอดผม“อย่าเข้ามานะเว้ย กูมีพระ” ผม