1. ความรักที่มาพร้อมกับความลับ
“พาย ฉันไม่ไปนะแก” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธเป็นรอบที่หนึ่งร้อย เมื่อเพื่อนสาวให้ไปราชการที่กรุงเทพฯแทน ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเองจะไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้
“ดาว แกก็รู้ว่าหมอหาวันหยุดยาก แล้วฟินก็แลกเวรกับหมอพีแล้ว เครื่องบินที่พักร้านอาหารก็จองไว้หมดแล้ว แกจะใจร้ายกับเพื่อนได้ลงคอเหรอ?” ยัยครูพายเพื่อนสาวที่กำลังคบกับหมอฟิน หมอหนุ่มหน้าตี๋สุดหล่อประจำโรงพยาบาลประจำจังหวัด เจ้าตัวประกาศปาวๆว่าชอบหนุ่มตาน้ำข้าวหรือลูกครึ่งแต่ไปๆมาๆ หมอฟินกลาย พ่อหนุ่มตี๋สุดหล่อของพายไปซะงั้น
“แต่ฉันไม่เคยไปกรุงเทพฯ คนเดียว” ใครจะว่าบ้านนอกก็ช่าง ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นอกจากเชียงใหม่กับสุโขทัยก็ไม่ได้ไปจังหวัดไหนคนเดียวเลย ยิ่งกรุงเทพฯ ก็ไปกับยัยพายตลอด ฉันไม่เคยขึ้นเครื่องบินนั่งแต่รถทัวร์ รถแท็กซี่ยิ่งไม่กล้านั่งคนเดียว เพราะญาติสนิทฉันโดนแท็กซี่ฆ่าชิงทรัพย์เมื่อหลายปีก่อน รถเมล์ไม่ต้องพูดถึงถ้าไม่รู้เส้นทางมีแต่หลงกับหลง
“ฉันจะให้พี่ซายน์มารับที่สนามบิน ไปค้างบ้านฉัน ตอนเช้าจะให้พี่ซายน์ไปส่ง อบรมเสร็จจะให้พี่ซายน์ไปรับ นะๆดาวช่วยหน่อย” ยัยพายกระพริบตาปริบๆ แถมทำเสียงสองอ้อน
“พี่ซายน์ว่างขนาดนั้นเหรอ?” พี่ซายน์เป็นหมออินเทิร์นงานยุ่งจะตาย หายใจเข้าเข้าเวรหายใจออกคือนอน ฉันเจอพี่ซายน์ครั้งแรกเมื่อปิดเทอมที่แล้ว พี่ซายน์หน้าตาไม่เหมือนยัยพายน้องสาวฝาแฝดสักนิดนอกจากผิวขาวนวลเนียนเหมือนกัน ร่างสูงราวๆร้อยแปดสิบอัพ ใบหน้าเรียวได้รูป ดวงตาสีเข้ม คิ้วเข้ม จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางสีชมพูเรื่อๆ ถอดแบบมาจากหมอไพรซ์ผู้เป็นพ่อ ส่วนยัยพายถอดแบบมาจากแม่พั้นซ์ผู้เป็นแม่ ใบหน้าเรียวมีแก้มพองาม ตาโต จมูกโด่งได้รูป น่ารักน่าทะนุถนอม นางชอบบอกว่าตัวเองไม่สวย ทั้งๆ ที่ยัยพายน่ารักมากขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังชอบแอบมองและเป็นคนที่ใส่แบรนด์เนมแล้วดูดีไม่ดูปลอม บ้านของยัยพายรวยมากแต่ทำตัวติดดินเป็นกันเองกับฉันซึ่งเป็นแค่ลูกสาวแม่ค้าขายข้าวแกงธรรมดาๆ
“ฉันจะให้พี่ซายน์แลกเวร ตรวจ OPD เสร็จให้ไปรับแกเลย ลาป่วยอีกวันนึง” ยัยพายขยิบตาให้ฉันแบบมีเลศนัย
“เอาจริงๆนะ ฉันไม่ได้ปลื้มพี่ซายน์ขนาดนั้นหรอก ฉันแค่พูดแบบขำๆกับแก” ฉันชอบบอกว่าคนโน้นหล่อคนนี้หล่อ แต่เชื่อไหม ฉันก็พูดสร้างสีสันไปงั้นเอง จริงๆฉันไม่ได้ปลื้มขนาดนั้น แล้วนี่ยัยพายคงหาทางจับคู่ให้ฉันกับพี่ชายตัวเองแน่ๆ
“แกไม่ชอบพี่ฉันก็ไม่เป็นไร พี่ฉันมันก็แค่ทายาทโรงพยาบาลเอกชนเอง หน้าตาก็หล่อแบบไอดอลเกาหลี แล้วก็เป็นหมอหนุ่มไฟแรงสุดฮ็อตประจำโรงพยาบาล ไม่คู่ควรกับครูเดือนเด่นเป็นสง่าแห่งโรงเรียนท่ามะแว้งวิทยาหรอก ดาวคือดาวที่อยู่บนฟ้า พี่ซายน์คงไม่กล้าอาจเอื้อม” ยัยพายยกยิ้มที่มุมปาก เรื่องยกยอพี่ชายเป็นที่หนึ่ง
“พูดแบบกลับกันได้มั้ย? พี่ซายน์คือเพอร์เฟคขนาดนั้น ฉันไม่กล้าอาจเอื้อมอ่ะ”
“ถ้าใครต้องมาเป็นพี่สะใภ้ฉันสักคน ขอให้เป็นแกได้ไหม แกเป็นคนดีมีน้ำใจ ฉันอยากได้พี่สะใภ้แบบนี้” ยัยพายพูดแบบจริงจัง
“แกถามพี่ซายน์รึยัง? อยากได้ฉันเป็นภรรยาไหม คิดว่าตัวเองเป็นคิวปิดรึไง จับคู่ให้คนโน้นคนนี้” ความรักมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ไม่งั้นใครๆบนโลกก็รักกันได้ ยัยพายคงแต่งงานกับแซม คลาฟินไปแล้ว
“ทำไมต้องถาม แกลองมองพี่ซายน์นะดาว เผื่อพี่ฉันอาจจะเป็นคนที่ใช่สำหรับแก” ยัยพายมาแปลก อยู่ดีๆก็มานำเสนอพี่ชายให้ฉัน ปกติฉันพูดแซวก็ไม่เห็นจะแทบใส่พานถวายแบบนี้
“พอๆ ฉันไปอบรมแทนแกก็ได้ นั่งรถทัวร์ไปนะ ฉันไม่นั่งเครื่องบิน” ไปรถทัวร์ประหยัดกว่าเครื่องบินฉันยอมเสียเวลา
“ไม่ได้ฉันจองเครื่องให้แกแล้ว”
“เดี๋ยวนะ แกจองก่อนที่จะมาขอร้องฉันเนี่ยนะ” ยัยครูพายตัวร้าย นางจัดแจงทุกอย่างไว้แล้ว รอแต่ฉันตอบรับเท่านั้น
“ใช่ และฉันบอกพี่ซายน์ พี่ซายน์โอเคแล้ว”
“โอ้ย ไปรบกวนพี่เค้าอีก” ฉันเกรงใจพี่ซายน์ที่ต้องมาวุ่นวายกับบ้านนอกเข้ากรุงอย่างฉัน ไม่ยอมนั่งรถเมล์ไม่ยอมนั่งแท็กซี่ แลดูเป็นคนเรื่องมากไปเลย
“เอาน่า ฉันตอบแทนที่แกไปอบรมแทน จัดคนขับรถหนุ่มหล่อตลอดทริปให้ ไม่ต้องเกรงใจพี่ซายน์ไปกับแกก็เหมือนไปพักผ่อน ใครอยู่กับแกก็คลายเครียดทั้งนั้นแหละ” ยัยพายบอกว่าฉันเป็นคนตลกบริโภคใครอยู่ใกล้ก็อารมณ์ดี ฉันไม่รู้ตัวเลยฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ? ฉันแค่เป็นคนมองโลกในแง่ดีและคิดว่าทำไมเราต้องพูดแต่เรื่องลบๆ คิดบวกไว้เท่านั้นเอง
Pie talks
[ เป็นไงบ้างพาย สำเร็จไหม? ] เสียงแม่พั้นซ์ถาม
“ค่ะแม่ เป้าหมายตกลง”
[ แม่ไม่คิดเลยว่าซายน์จะเป็นคนแบบนี้ ] เสียงแม่พั้นซ์ดูเป็นกังวลมาก
“เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันค่ะ”
[ แม่ภาวนาให้หนูดาวทำสำเร็จ ]
“มีหมอที่ไหนทำเสน่ห์ไหมคะ แม่พาพายไปขอน้ำมันพรายที สำรองไว้เผื่อยัยดาวทำไม่สำเร็จ”
[ ทำแบบนี้ดีแล้วใช่ไหม ถ้าหนูดาวรู้ทีหลังว่าเรา..]
“เราต้องทำแบบแนบเนียนค่ะแม่ อย่าให้สองคนนั้นรู้”
[ แม่เตรียมห้องให้ก่อน ] แม่พั้นซ์วางสาย
ฉันเปิดไฟล์ภาพในโทรศัพท์ ภาพพี่ซายน์นอนกอดหญิงสาวสวยคนหนึ่งบนเตียง ฉันแอบก๊อบมาจากโทรศัพท์ของพี่ชายตอนแรกแอบดีใจที่พี่มีแฟน พอมาสืบดูจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือหมอพลอย อาจารย์แพทย์ที่สอนงานและดูแลหมออินเทิร์นอาจเพราะความใกล้ชิดทั้งคู่จึงเลยเถิดขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ฉันไม่ได้ติเลยที่ว่าที่พี่สะใภ้จะอายุมากกว่าพี่ซายน์ถึงเจ็ดปี แต่สิ่งที่ครอบครัวฉันรับไม่ได้คือหมอพลอยแต่งงานมีสามีแล้ว ใช้สถานะคำนำหน้าว่านาง
ความรักมักจะมากับความใคร่และความลุ่มหลง เพราะฉะนั้นฉันจะต้องช่วยพี่ชายให้รอดพ้นจากการปีนต้นงิ้วให้ได้
การที่ดึงยัยดาวเข้ามา ฉันได้ไตร่ตรองดีแล้ว เพื่อนฉันคนนี้เป็นคนดี ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข ฉันอยากให้พี่ซายน์ได้เจอคนดีๆที่สำคัญสถานะของยัยดาวก็โสดสนิทมากๆ ดาวไม่เคยมีแฟนมาก่อน บอกตรงๆ ฉันพร้อมจะมอบพี่ชายคนเดียวใส่พานถวายให้เพื่อนรัก..
Sine talks
ร่างนวลเนียนบอบบางผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนบดเบียดร่างเข้ามาหาผม ริมฝีปากบางจูบที่แก้มผมเบาๆ ผมคว้าโทรศัพท์มือถือที่หัวเตียงมาดูเวลา ตอนนี้สองทุ่มแล้ว มีสายโทรเข้าประมาณยี่สิบสายจากพายน้องสาวผมและอีกสายเป็นเบอร์ที่ผมไม่คุ้น
“วันนี้ค้างไหม ไม่มีเวรดึกหนิ ได้ยินว่าพรุ่งนี้ก็ลาไม่ใช่เหรอ?” หญิงสาวใบหน้าคมสวยส่งยิ้มให้ผม เสียงหวานๆถามขึ้น
“พอดียัยพายไปเที่ยวกับแฟนเลยให้เพื่อนมาอบรมแทน แล้วก็ให้ซายน์ไปรับไปส่งเพราะเพื่อนไม่กล้านั่งแท็กซี่คนเดียว”
“ยังมีคนแบบนี้ในโลกอีกเหรอ? อายุตั้งยี่สิบกว่ายังเหมือนเด็กไม่กล้าออกโลกกว้าง” หมอพลอยหัวเราะเบาๆ
“ผมต้องไปรับเพื่อนน้องสาวนะ คงไม่ได้ค้าง” ผมลุกขึ้นนั่งติดกระดุมเสื้อเชิร์ต ผมเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียหลังจากที่มีอะไรกับหมอพลอย พายบอกว่าไปรับหกโมงนี่เลยเวลาตั้งสองชั่วโมงแล้ว หวังว่าน้องดาวอะไรนั่นคงรออยู่นะ เบอร์แปลกอีกสายน่าจะเป็นเบอร์ของน้องดาว ผมทำการเซฟเบอร์นั้นลงในโทรศัพท์
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ? กว่าซายน์จะว่างพี่คิดถึงนะ” ท่อนแขนเรียวสวยกลมกลึงโอบรอบเอวสอบของผมไว้แน่น ใบหน้าซบลงที่แผ่นหลังถูไปถูมาอย่างออดอ้อน ทำเอาอารมณ์ผมพลุ่งพล่านอีกครั้ง อีกสักสามสิบนาทีละกัน ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิร์ต ล้มตัวไปคร่อมทับร่างของหญิงสาวบนเตียงอีกครั้ง ริมฝีปากบางเฉียบประกบทับริมฝีปากของผม ลิ้นร้อนแทรกเข้ากวาดต้อนลิ้นของผม...สมองผมไม่รับรู้อะไรนอกจากเรื่องที่จะทำตรงหน้า ผมหลงรักหมอพลอย ไม่สนใจว่าเธอคือผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว..ผมรักเธอและรู้ว่าเธอก็รักผม..แค่นั้นก็พอแล้ว....
2. อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นDao talks“พาย ทำไมพี่ซายน์ไม่มาซะทีสองชั่วโมงกว่าแล้วนะ” ฉันนั่งรอพี่ชายของเพื่อนรักที่ทางออกหมายเลขสิบสองนานจนรากจะงอกแล้ว แต่ไม่มีวี่แววพี่ซายน์จะมารับเลย ฉันนึกเกรงใจจึงเอาเบอร์โทรพี่ซายน์ที่ยัยพายให้มาโทรไปแค่สายเดียวแต่ไม่มีใครรับสาย[ ฉันก็โทรไปตั้งยี่สิบสาย พี่ซายน์นะพี่ซายน์ถ้าเจอหน้าฉันดีดหน้าผากซักที หงุดหงิดโว้ย ] เสียงเพื่อนสาวดูไม่สบอารมณ์มากๆ“ไม่เป็นไรแก เดี๋ยวพี่ซายน์คงมาแหละ อาจจะติดงานเลยมาช้า” ฉันมองโลกในแง่ดีพี่ซายน์คงทำงานติดพันเลยออกมาช้า หมอก็แบบนี้แหละไม่มีเวลาตายตัว[ ติดหญิงน่ะสิไม่ว่า อุ้ย!! ]“ติดหญิงอะไรแก” ฉันฟังไม่ชัดเลยสงสัยสัญญาณไม่ดี[ คนไข้หญิงน่ะแก งั้นก็รอหน่อยละกัน ขอโทษแทนพี่ด้วย ] พอยัยพายวางสาย ฉันก็เริ่มหิวขณะที่กำลังจะไปหาอะไรกินรองท้อง หนุ่มตาน้ำข้าวตัวโตยืนอยู่ตรงหน้า เขาสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะสบายๆ เหมือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายๆคน“Hey girl ! you are so cute. What’s your name? (คุณน่ารักจัง ชื่ออะไร)” ฉันไม่ชอบภาษาอังกฤษการสื่อสารอยู่ในระดับแย่มากถึงมากที่สุดแต่ประโยคง่ายๆก็พอได้บ้าง แล้วคนต่างชาติก็ช
3. แผนลับแผนร้าย (1)Mommy Punch talksฉันมองภาพถ่ายของหมอซายน์ลูกคนโตของฉันซึ่งถ่ายบนเตียงกับหญิงสาวสวยนางหนึ่ง ผิวที่โผล่พ้นผ้าห่มไม่มีเสื้อผ้าคลุมกาย เป็นภาพที่ลูกชายฉันเป็นคนถ่ายเอง น้องพายลูกสาวคนเล็กเป็นคนเอาให้ฉันดู“แม่พั้นซ์ นี่แฟนพี่ซายน์” น้องพายแทนที่จะดีใจที่พี่ชายหน้าเดียว ผู้ไม่สนใจอะไรนอกจากเรื่องงานมีแฟนกะเขาจนได้ กลับทำหน้าอมทุกข์“สาวที่ไหนน้องพาย แม่จะไปขออยากอุ้มหลานเต็มที” ฉันถือแก้วน้ำส้มคั้นมาจิบอย่างอารมณ์ดีที่ลูกชายคนเดียวมีคนรักซะที โครงการหล่อเสาคานให้หมอซายน์คงต้องยุติการก่อสร้าง“หมอพลอย ภรรยาของหมอต่อพงษ์ อาจารย์หมอที่ทำงานที่เดียวกันกับพี่ซายน์” พอลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนพูดจบมือที่ถือแก้วน้ำส้มก็ร่วงผล็อยจากมือกระทบพื้นแตกกระจายด้วยความตกใจ หมอซายน์ที่ถึงแม้จะเป็นคนที่เงียบขรึมสนใจแต่งานแต่ก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่หนักใจสักครั้ง ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ได้นะ“วะ..ว่าไงน้องพาย แม่หูฝาดใช่มั้ย” ฉันแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ลูกสาวลูกชายที่ฉันพร่ำสอนตั้งแต่เด็กว่าให้เป็นคนดีมีคุณธรรม ทำไมซายน์ถึงผิดลูกผิดเมียชาวบ้านซะได้“พายกลัวค่ะแม่ ถ้าหมอต่อรู้อาจจะมาทำร้ายพี่ซายน์
4. แผนลับแผนร้าย (2)ในความฝันฉันเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ หายใจไม่ออก ชูมือไขว่คว้าหาใครสักคนให้ช่วยฉันให้พ้นจากอันตรายนี้ ร่างของฉันจมลงไปในน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ฉันกำลังจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ปล่อยร่างตัวเองจมลงสู่แม่น้ำอันดำมืดหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ หมับ!! มือฉันคว้าไปโดนมือหนาของใครสักคน มือที่แสนจะอบอุ่นนั้นดึงฉันให้โผล่พ้นจากพื้นน้ำเฮือก!! ฉันหายใจเข้าเต็มปอดอย่างแรง สะดุ้งเฮือก ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ในห้องมืดมากมองไม่เห็นอะไรเลย ฉันพยายามขยับร่างกายที่ปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะแก่นกลางกาย ที่พอขยับตัวแต่ละทีความปวดแปลกๆแถมยังแสบส่วนนั้นอีกด้วย เมื่อคืนก่อนที่จะฝันว่าจมน้ำยังฝันว่ากำลังมีอะไรกับผู้ชายสักคน บ้าบอดีแท้..ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นมายังรู้สึกเจ็บจริงอีกด้วย ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะผิวกายเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นจากผ้าห่ม เมื่อคืนจำได้ว่าดื่มไวน์กับสเต็กเนื้อ จากนั้นความทรงจำก็เลือนลางจำอะไรไม่ได้ สงสัยจะเมาจนถอดเสื้อตัวเองแถมยังถอดเสื้อชั้นในอีกด้วย ที่สำคัญรู้สึกว่าท่อนล่างก็โล่งๆ ฉันมองหาสวิตช์โคมไฟที่หัวเตียงจะหาเสื้อผ้ามาใส่เพราะรู้สึกหนาว พอมือแตะไปที่สวิทช์ ไฟสีน
5. แผนลับแผนร้าย (3)“ซายน์ขอคุยกับน้องดาวสองคนได้ไหมครับ?” พี่ซายน์กลับมาบ้านช่วงเย็น ร่างสูงเดินนำฉันไปนั่งข้างๆสระว่ายน้ำ ดวงตาสีเข้มมองฉันอย่างรู้สึกผิด“พี่ขอโทษเรื่องเมื่อคืนจริงๆ”“พี่ซายน์ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่ความผิดของพี่ซายน์หรอกค่ะ” ฉันไม่อยากให้พี่ชายของเพื่อนรักรู้สึกผิดต่อฉันจนให้อภัยตัวเองไม่ได้ พี่ซายน์ไม่ได้ข่มขืนฉัน เขาทำไปเพราะไม่มีสติ ฉันไม่ได้โทษว่าเป็นความผิดเขาเลย“ดาวจะตบจะตีพี่ก็ได้นะ พี่รู้สึกแย่จริงๆ” พี่ซายน์ถอนหายใจหนักๆ อย่างกลัดกลุ้ม“ดาวบอกแล้วว่าไม่โทษพี่ซายน์”“ถ้าจะให้พี่แต่งงานกับดาวพี่ก็จะแต่ง” เจ้าของดวงตาสีเข้มพูด หัวใจฉันเต้นตึกตักตึกตัก ยัยดาวพี่ซายน์ไม่ได้ขอเธอแต่งงาน เขาพูดแบบนั้นเพราะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น จะมารู้สึกดีทำไมเนี่ย ฉันเตือนตัวเองในใจ“พี่ซายน์ไม่ต้องแต่งงานกับดาวเพื่อรับผิดชอบหรอกค่ะ เราสองคนไม่ได้รักกันแต่งกันไปก็ไม่มีความสุข ไม่ใช่ดาวไม่ถือเรื่องนั้นนะคะ แต่ดาวจะพยายามลืมมันและใช้ชีวิตต่อไปค่ะ พี่ซายน์ต้องเลิกโทษตัวเองนะคะ” ฉันพูดออกมาจากใจจริงๆ ฉันไม่ได้อยากให้พี่ซายน์แต่งงานกับฉันเพื่อรับผิดชอบเพราะฉันไม่อยากทำลายชีวิตของพ
6. แต่งงานกันครอบครัวของพี่ซายน์มาถึงบ้านฉันในช่วงเช้า พี่ซายน์สวมเสื้อเชิร์ตพับแขนสีขาวกางเกงยีนส์สีเข้มผมที่ปกติเซททรงเปิดหน้าผากวันนี้ปล่อยหน้าม้าเป็นธรรมชาติดูอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มนักศึกษา ดวงตาสีเข้มยังคงมองฉันด้วยความรู้สึกผิด บ้านฉันถึงจะเก่าและโทรมแต่เราสองแม่ลูกทำความสะอาดอยู่เสมอ หน้าบ้านปลูกต้นมะม่วง ต้นมะยม มีดอกลีลาวดีและดอกไม้หลากชนิดสร้างความร่มรื่น ฉันพาแขกทุกคนไปนั่งอยู่ระเบียงหลังบ้านซึ่งมีคลองที่ผู้คนใช้สัญจรไปมา“บ้านหนูดาวน่าอยู่นะ ด้านหลังติดคลองไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจมองไปทางไหนก็มีแต่พื้นที่สีเขียว” แม่พั้นซ์ชี้ชวนให้พ่อไพรซ์ผู้เป็นสามีดูผู้คนที่ใช้เรือสัญจรไปมา มีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหาร ผลไม้ หรือขนมโดยใช้เรือเป็นยานพาหนะ แม่เดือนนั่งเกร็งบีบมือแน่นอาจเพราะครอบครัวพี่ซายน์เป็นมหาเศรษฐีส่วนครอบครัวฉันเป็นแค่แม่ค้าทำอาชีพขายข้าวแกง วันนี้แม่ไม่ได้ไปขายของและฉันกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มไว้จ่ายหนี้นอกระบบให้แม่เป็นที่เรีนบร้อยแล้ว ฉันกำลังคิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกแต่ฉันจะไม่ยอมให้แม่ลำบากอีกต่อไปแล้ว“ที่เรามาวันนี้ จะมาคุยเรื่องหมอซายน์กับหนูดา
7. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (1)ฉันกลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยาพร้อมยัยพาย วันนี้มีการประชุมประจำเดือนมีนาคม ยัยพายเสนอว่าให้แจกการ์ดแต่งงานหลังการประชุมเสร็จสิ้น ฉันรู้สึกประหม่าที่ต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าจะแต่งงานถ้ามีคนถามว่ารู้จักกันได้ยังไง? เจอกันครั้งแรกที่ไหน? ฉันก็ยังไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงมันเป็นคำถามพื้นฐานที่ทุกคนต้องถามอยู่แล้ว“เรื่องอื่นๆมีไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอปิดการประชุม” ท่าน ผ.อ.ชนินทร์กล่าวปิดการประชุม ยัยครูพายยกมือรัวๆ“ครูมนต์พระพายมีเรื่องอะไรครับ”“ครูเดือนเด่นเป็นสง่ามีเรื่องจะพูดค่ะ” นางโบ้ยหน้ามาทางฉัน สายตาทุกคนในที่ประชุมจับจ้องมาที่ฉันราวกับมีไฟสปอทไลท์บนเวทีส่องมาที่ฉันคนเดียว ยิ่งทุกคนเงียบฉันยิ่งเกร็ง“ว่าไงครับครูดาว” ท่าน ผ.อ.คงขี้เกียจเรียกชื่อจริงที่แสนจะยาวของฉันเลยเรียกชื่อเล่นแทน“พูดสิแก” ยัยครูดาวล้วงปึกซองสีชมพูออกจากถุงผ้า“วันที่ ยี่สิบมีนาคม ดิฉันจะ...เอ่อ..” บทจะพูดก็พูดไม่ออกซะงั้น...“ขึ้นบ้านใหม่เหรอคะน้องดาว?” ครูพี่ลี่ ครูสาวโสดวัยสามสิบปลายเอ่ยขึ้นยิ้มๆ“หรือน้องชายจะบวช” ทุกคนเดาไปต่างๆนานา ฉันมีน้องชายที่ไหนกันเล่
8. งานมงคลสมรส (ไม่) สมรัก (2)Sine talksผมมองแขกผู้มีเกียรติที่เข้าคิวรดน้ำสังข์และอวยพรให้คู่บ่าวสาวแล้วหันไปมองเจ้าสาวซึ่งอยู่ในชุดไทยจักรีสีชมพูอ่อนเปลือยไหล่ขาวนวลเนียน ทรงผมแสกกลางปล่อยเรือนผมดำสนิทประดับผมด้วยดอกไม้สีขาว สวมต่างหูรูปดอกไม้เข้าชุดกัน ใบหน้าตกแต่งด้วยช่างมืออาชีพทำให้ดูสวยกว่าปกติ ถึงผมจะไม่ชอบน้องดาวแต่ก็ต้องยอมรับว่า น้องดาวเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งรับกับใบหน้า แก้มเนียนที่มีเลือดฝาดธรรมชาติในยามที่ไม่แต่งหน้า ผิวขาวเนียนละเอียดที่โผล่พ้นผ้าสไบนั้นน่าสัมผัส ผมสะบัดหน้าพรืดที่รู้ว่าตัวเองเผลอนั่งมองเจ้าสาวมาเกือบห้านาที ตลอดเวลาที่เข้าพิธีน้องดาวเอาแต่ยิ้ม ยิ้มและยิ้ม คงดีใจมากสินะที่ได้แต่งงานกับผม แล้วเธอจะได้เห็นว่านรกมีจริงผมจะเอาคืนให้สาสมกับเงินที่บ้านของผมจ่ายไป“ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ หมอซายน์ ครูดาว” ไอ้หมอฟินเดินเคียงคู่มากับยัยพายน้องสาวผมที่สวมชุดไทยสีคล้ายกับเจ้าสาวแต่ดูเรียบกว่าในฐานะเพื่อนเจ้าสาว“พี่ซายน์ยิ้มหน่อยสิ ทำยังกะโดนบังคับให้แต่งงาน” ยัยพายจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก็ใช่ไง..โดนบังคับให้แต่งงา
9. เกลียดตัวกินไข่...เกลียดปลาไหล....แต่อยากกินเธอทั้งๆที่เพิ่งจะได้นอนตอนตีห้า แต่ตีห้าครึ่งฉันก็ลุกมาที่ห้องครัวเพราะตอนที่อยู่กับแม่ฉันก็ตื่นตีสี่มาช่วยแม่ทำกับข้าวขายอยู่แล้ว แม่พั้นซ์กับแม่บ้านกำลังช่วยกันทำกับข้าวเพื่อเตรียมใส่บาตรตอนเช้า“หนูดาวรีบตื่นทำไมลูก แม่ว่าอีกเดี๋ยวจะให้แม่บ้านไปปลุก”“ดาวอยากมาช่วยทำกับข้าวค่ะ” ฉันมองไปรอบๆห้องครัว แม่บ้านกำลังตักข้าวสวยลงในภาชนะสีเงินและตักแกงใส่ถุงร้อน “ลูกสะใภ้แม่นี่ช่างขยันจริงๆ แต่หนูดาวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไทยที่เตรียมไว้ในตู้ดีกว่าจ้ะ อ้อ..อย่าลืมปลุกซายน์ด้วยนะ วันแรกที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทำบุญร่วมชาติใส่บาตรร่วมขันจะได้ใช้ชีวิตคู่นานๆ ไม่มีมารมาผจญ” แม่พั้นซ์เน้นคำว่ามารผจญชัดเจน ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายเท่าไหร่ ตอนนี้ฉันภาวนาขอแค่หาเงินห้าล้านมาคืนพี่ซายน์ จะได้ออกจากชีวิตพี่ซายน์เร็วๆเท่านั้นเอง ฉันเดินย้อนกลับมาที่ห้องนอน ร่างสูงกำลังนอนหลับสนิท เสียงหายใจดังสม่ำเสมอ ฉันเผลอมองร่างขาวเนียนที่โผล่พ้นผ้าห่มอย่างเผลอไผล ใบหน้าเรียวได้รูปดวงตาที่ปิดสนิทล้อมกรอบด้วยขนตาหนาเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางระเรื่อ พี
31. ตอนพิเศษ เอเธนส์ & บอสตัน“พี่ซายน์ ดาวฝากซื้อของหน่อยค่ะ” ฉันหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ซอกคอกับไหล่ สองมือกำลังใช้ครีมอาบน้ำเด็กถูไปตามลำตัวป้อมสั้นแต่ทว่าจ่ำม่ำกว่าเด็กวัยเกือบสามขวบกว่าทั่วไป“แม่ดาว อาบให้บอสมั่งฮะ” เสียงใสๆของเด็กชายตัวน้อยอีกคนดังขึ้น“ได้ครับ จัดไปทั้งคู่เลย” ฉันจัดการอาบน้ำเด็กแฝดทั้งสองหลังจากที่สองพี่น้องไปเล่นดินหลังบ้าน โดยมีคุณยายเดือนคอยดูอย่างห่างๆ เสื้อผ้าของเอเธนส์กับบอสตันเปื้อนดินโคลน ใบหน้ามอมแมมจนฉันแทบจะจำลูกตัวเองไม่ได้“คุณดาวคะ เดี๋ยวป้าช่วยนะคะ” ป้าสมใจคงเห็นว่าฉันทั้งคุยโทรศัพท์ทั้งอาบน้ำเด็กๆทั้งสองดูทุลักทุเลจนเกินไป“น้องไนท์หลับแล้วเหรอคะ?” ฉันถามถึงเด็กหญิงวัยสองขวบลูกของน้องมิ้นท์ ซึ่งพลาดพลั้งตั้งท้องตอนกำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เด็กสาวเกิดอาการครรภ์เป็นพิษพอคลอดลูกสาวตัวน้อยคือน้องไนท์ก็เสียชีวิตทันที ฉันรู้สึกเวทนาจึงรับลูกสาวของน้องมิ้นท์เป็นลูกบุญธรรม น้องไนท์วัยสองขวบกำลังหัดพูด ผิวขาวเนียนละเอียดจ่ำม่ำน่ารักน่าเอ็นดูแถมยังบังเอิญหน้าคล้ายฉันอีกด้วย ถ้าพาเด็กๆทั้งสามคนออกไปเที่ยว คนรู้จักยังคิดว่าเป็นลูกของฉันกับพี่ซายน์ทั้งหมด “
30. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (2)ในความฝันที่กึ่งๆเหมือนความเป็นจริง ฉันยืนอยู่ที่มืดๆ พี่ซายน์ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาดูเศร้าเขายืนมองหน้าฉัน อยู่ๆก็หันหลังและเดินหนีฉันไป“พี่ซายน์จะไปไหนคะ” ฉันร้องตะโกนถาม ทว่าร่างสูงยังคงก้าวเท้าห่างฉันออกไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังตามเขาไปอย่างไม่ลดละ จากเดินเร็วๆกลายเป็นวิ่งตาม เสื้อเชิร์ตสีขาวของพี่ซายน์มีสีแดงเป็นจุดเล็กๆจากนั้นสีเข้มของเลือดกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากเสื้อเชิร์ตสีขาวกลายเป็นสีแดงช้ำเลือดจนน่ากลัว พี่ซายน์หยุดเดินและหันหน้ากลับมา“ดาวไม่ต้องตามพี่มา”“ทำไมคะ พี่ซายน์จะไปไหน”“ไปที่ๆไกลมาก ดาวดูแลลูกๆของเราด้วยนะ” จากนั้นร่างของพี่ซายน์ก็โปร่งแสงและแตกกระจายกลายเป็นผีเสื้อนับพันนับหมื่นบินขึ้นไปบนท้องฟ้า...ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น พยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตากับแสงสว่างในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองฝันร้าย เลือดที่อยู่บนเสื้อของพี่ซายน์กระจายตัวเป็นวงกว้าง มันคงไม่ใช่เรื่องจริง ฉันรู้สึกเหนื่อยหอบเพราะในความฝันฉันทั้งเดินทั้งวิ่งตามเขา“ดาวฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงของแม่เดือนดังขึ้น แม่กำลังนั่งกุมมือฉันอยู่ข้างๆเตียง“ดาวเป็นลมอีกแล้วใช่ไหมคะ
29. เพราะเธอคือดวงดาวของหัวใจ (1)ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการเวียนหัวพอยืนขึ้นก็รู้สึกเหมือนบ้านหมุน คิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคเกี่ยวกับความดันแน่ๆ แต่ก็ยังฝืนเดินลงมาทำอาหารตามปกติ ป้าสมใจกำลังย่างกะปิเพื่อตำน้ำพริก ฉันย่นจมูกทันทีที่ได้กลิ่นกะปิ“คุณดาวหน้าซีดนะคะ” ป้าสมใจทัก“เวียนหัวนิดหน่อยค่ะ น่าจะเป็นความดัน เดี๋ยวป้าสมใจย่างกะปิค่อยเรียกดาวนะคะ” ยิ่งได้กลิ่นกะปิยิ่งเวียนหัว อาการคลื่นไส้ตีรวนขึ้นมาอีก รู้สึกกลืนไม่เข้าและไม่น่าจะคายอะไรออกมาได้ ทั้งๆที่ยังไม่กินข้าวเช้าแต่เหมือนร่างกายอยากจะขับอะไรออกมา ฉันวิ่งไปห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและอาเจียนออกมา ซึ่งมีแต่น้ำลายเหนียวๆใสๆ ป้าสมใจรีบตามมาลูบหลัง“คุณดาวไหวมั้ยคะ ไปหาหมอไหมคะ” และในตอนนั้น..ฉันรู้แล้วว่าอาการที่ว่ามันคืออะไร..ฉันรีบไปที่ร้านขายยาและซื้อที่ตรวจครรภ์มาทุกแบบ ทั้งแบบหยดแบบจุ่มและแบบปากกา ครั้งแรกลองตรวจด้วยที่ตรวจแบบหยดก่อน แค่หยดปัสสาวะลงไปสี่หยดผลก็ปรากฏชัดแบบไม่ต้องสงสัย พอตรวจครบทุกแบบฉันก็จัดการเอาที่ตรวจทุกอันใส่กล่องและห่อด้วยกระดาษสีหวาน จากนั้นก็รอเวลา ราวๆหกโมงเย็นเสียงรถก็มาจอดที่โรงรถ ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์แขน
28. รักแท้แพ้อะไร (2)ฉันเดินตามร่างสูงเข้ามาในห้องนอน สามีของฉันปิดไฟมืดเอาผ้าห่มคลุมตัว เขานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาผนังห้อง“พี่ซายน์เป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ฉันนั่งลงที่เตียงใช้หลังมือแตะหน้าผากเขาเบาๆ อุณหภูมิก็ปกติตัวไม่ได้ร้อน“พี่ปวดหัว” คนที่ใช้ผ้าห่มคลุมตัวพูดเสียงเรียบ“แค่ปวดหัวใช่ไหมคะ มีอะไรจะบอกดาวไหม?” ฉันถามตรงๆเพราะเห็นความผิดปกติของเขาตั้งแต่อยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว พี่ซายน์ไม่พอใจที่น้องต้นพูดจากับฉันอย่างสนิทสนม“......” เขายังเงียบ..“งั้นดาวลงไปหาเพื่อนๆนะคะ” ฉันทำทีจะออกจากห้องนอน“ดาว...พี่ไม่ชอบครูต้นเลย” แล้วพี่ซายน์ก็คายความในใจออกมาจนได้“พี่ว่ามันชอบดาว พี่กลัว...”“พี่ซายน์กลัวดาวจะไปชอบครูต้นเหรอคะ?” ฉันแอบกลั้นยิ้มแต่พี่ซายน์คงไม่เห็นเพราะห้องมืดมาก“ก็ดาวทำงานกับครูต้นทุกวัน ส่วนพี่อยู่กรุงเทพฯแถมยังไม่มีเวลามาหาดาวบ่อยๆ พี่กลัวว่าดาวจะชอบคนอื่น” น้ำเสียงที่พูดดูจริงจังและคนตัวสูงก็ถอนหายใจ ฉันล้มตัวลงไปนอนข้างๆ เอื้อมมือไปสวมกอดพี่ซายน์จากทางด้านหลัง“ลองคิดกลับกันนะคะ พี่ซายน์ทำงานใกล้ชิดกับหมอ พยาบาลสาวๆสวยๆ ดาวก็ต้องคิดใช่ไหมคะว่าพี่ซายน์อาจจะไปชอบคนอื่นเพ
27. รักแท้แพ้อะไร (1)พอฉันตื่นขึ้นในตอนเช้าร่างสูงที่นอนกอดตลอดคืนก็หายไปแล้ว พี่ซายน์ผู้ที่ชอบนอนขี้เซาและคอยให้ปลุกตลอดหายไปไหนกันนะ พอเดินลงมาด้านล่างก็พบว่า หมอหนุ่มกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว กลิ่นของทอดลอยมาเตะจมูก เขาคงได้ยินเสียงฝีเท้าของฉันที่กำลังเดินลงจากบันได ใบหน้าขาวเนียนยิ้มอวดลักยิ้ม ผมหน้าม้าที่ยุ่งไม่เป็นทรงแต่กลับทำให้คนตรงหน้าดูหล่อเหลาไปอีกแบบ “ดาวตื่นแล้วเหรอ?” คงเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ฉันตื่นสายตอนนี้หกโมงเช้าแล้วถือว่าสายสำหรับฉัน ปกติวันทำงานฉันจะตื่นตีห้าลุกมารดน้ำต้นไม้และพวกพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รอบๆบริเวณบ้าน เมื่อคืนคนตัวสูงก่อกวนตลอดทั้งคืนจนแทบไม่ได้นอนจึงรู้สึกเพลียจนตื่นนอนตามเวลาปกติไม่ได้“พี่ซายน์ทำอะไรกินคะ” ฉันเดินเข้าไปดูใกล้ๆ พี่ซายน์กำลังทอดไส้กรอก ในจานที่ทอดเสร็จแล้วมีไข่ดาวทั้งแบบสุกและไม่สุกหลายฟอง มือหนาจูงมือฉันมานั่งที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋และมีข้าวเหนียวหมูปิ้ง“ดาวนั่งเฉยๆ พี่จะบริการดาวเอง สลับกันบ้างดาวดูแลพี่มามากพอแล้ว” ฉันอมยิ้ม คุณชายแห่งบ้านจึงรุ่งเรืองสกุลเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?“พี่ซายน์ให้ใครไปซื้ออ
26. ไตหาหัวจาม (2)เลิกเรียนฉันก็รีบกลับบ้านพักทันทีปกติจะนั่งคุยชิลๆกับครูพี่ลี่ก่อน ช่วงบ่ายฉันมัวแต่เป็นห่วงว่าพี่ซายน์จะอยู่ได้ไหมเพราะอากาศร้อนมาก แต่พอถึงบ้านฉันเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้าน บนหลังคามีคนกำลังติดจานดาวเทียมสีส้มและตรงระเบียงห้องนอนมีช่างกำลังติดแอร์และไม่ได้ติดแค่จุดเดียว พี่ซายน์ติดแอร์ทั้งบ้าน ห้องนอนที่ฉันนอนห้องเดียวอีกห้องใช้เก็บของเขาก็ติดมันหมดทั้งสองห้อง ห้องนั่งเล่นชั้นล่างก็ติดแอร์ รวมไปถึงครัวเล็กๆนั้น ทีวีจอแบนจอใหญ่ถูกนำมาตั้งแทนทีวีจอเล็กๆอันเก่า ตู้เย็นสี่ประตูเครื่องใหญ่ตั้งอยู่ในครัว ร่างสูงยืนชื่นชมผลงานพอเห็นเจ้าของบ้านมาถึง ก็ทำแบบสอบถามความพึงพอใจ“ดาวชอบไหม สมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดบลูทูธต่อกับมือถือได้เลย เผื่อดาวอยากดูหนังฟังเพลง” หมอหนุ่มอวดอ้างสรรพคุณของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคซึ่งเจ้าตัวภูมิใจนำเสมอมาก“ตู้เย็น พี่ซื้อเครื่องดื่มกับผลไม้ไว้ให้แล้ว”“พี่ซายน์ เกินไปไหมคะ ดาวว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป” ฉันไม่เห็นด้วยกับของแต่ละอย่างที่เขาซื้อให้ฉันเลย“พี่อยากให้ดาวอยู่สบายๆ ดาวไม่ใช่คนอื่นคนไกล ดาวเป็นเมียพี่ถึงดาวจะไม่ยอมรับ แต่ถึงตอนนี้เราก็ยังเป็นสามีภร
25. ไตหาหัวจาม (1)เช้าวันจันทร์ฉันกลับมาทำงานที่โรงเรียนท่ามะแว้งวิทยา เมื่อวานพี่ซายน์มาส่งฉันที่สนามบินเขานั่งรอจนกระทั่งฉันเข้าไปในเกท หยอดมุกเสี่ยวๆ ประมาณสองร้อยมุกถ้วนและฉันก็นั่งยิ้มคนเดียวตั้งแต่บนเครื่องบินจนกระทั่งเครื่องบินลงจอด ถึงแม้เขาจะทำทีมาง้อฉันแต่ว่าฉันก็ยังไม่ได้ใจอ่อนบอกเบอร์มือถือเบอร์ใหม่กับเขาเพราะฉันยังไม่แน่ใจตัวเองอยู่หลายเรื่อง แต่ว่าอย่างน้อยในตอนนี้ฉันก็แอบแง้มหัวใจตัวเองนิดนึงให้พี่ซายน์เข้ามา วันนี้ฉันมีสอนสี่คาบรวดคือตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงตอนสิบเอ็ดโมงห้าสิบ เด็กๆชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นวัยที่กำลังน่ารักช่างพูดและห้องจะดูวุ่นวายในบางครั้ง ขณะที่ออดเตือนหมดเวลาคาบที่สี่ นักเรียนในห้องส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว“เย้ หมดคาบแล้ว”“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ” หัวหน้าห้องสั่งให้นักเรียนทุกคนยืนขึ้น นักเรียนทำความเคารพพร้อมกัน“ขอบคุณค่ะคุณครู” เด็กๆแทบจะพุ่งตัวออกจากห้องเพราะช่วงพักเที่ยงจะมีการแย่งชิงโต๊ะที่โรงอาหาร ฉันหนีจากความวุ่นวายนั้นโดยการให้นักเรียนออกไปก่อน ทำทีถ่วงเวลาโดยการเก็บอุปกรณ์การสอนลงในกระเป๋า พายเพิ่งจะลาคลอดได้สองวันอาทิตย์หน้าถึงจะกลับมาที่บ
24. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (2)Sine talksผมขับรถกลับมาจากสุโขทัยถึงกรุงเทพในช่วงหนึ่งทุ่ม มุ่งตรงมาที่บ้านใหญ่เพราะอย่างน้อยก็ยังมีพ่อกับแม่หรือบางทีก็มีนกแก้วอย่างยัยพายพอได้พูดได้คุยกันทำให้ไม่รู้สึกอ้างว้างจนเกินไป ผมเดินเข้ามาในบ้านทุกคนกำลังทานอาหารเย็น ที่โต๊ะกินข้าวมีอาหารหลายอย่างอาจเพราะวันนี้น้องสาวผมกลับมาบ้านแม่พั้นซ์เลยจัดเต็มอาหารการกินบำรุงหลานชายในท้องยัยพาย“ซายน์มากินข้าว” แม่พั้นซ์กวักมือเรียกผมให้เข้าไปนั่ง ผมเดินเข้าไปนั่งทำหน้าหมดอาลัยตายอยากในชีวิต อุตส่าห์ไปตามเมีย โดนเมียตบแถมไล่อีกตะหาก“กลับมาเป็นพี่ซายน์หน้าเดียวอีกแล้ว” ยัยพายแซว ผมมองพุงป่องของน้องสาวคงใกล้จะคลอดแล้วเพราะตามนิ้วมือนิ้วเท้าเริ่มจะบวมขึ้นมานิดหน่อย“คลอดตอนไหนอ่ะพาย”“น่าจะอาทิตย์หน้า ตอนนี้พายลาคลอด เดินขึ้นตึกไปสอนไม่ไหวแล้ว” น้องสาวนั่งพิงกับเก้าอี้มือลูบที่ท้องเบาๆ“ดิ้นแรงอีกแล้ว สงสัยอาหารฝีมือคุณยายพั้นซ์คงอร่อยมาก” ผมอดที่จะเอามือไปลูบท้องน้องสาวไม่ได้ ถ้าผมไม่ให้ดาวกินยาคุมกำเนิดป่านนี้ดาวคงจะท้องก่อนยัยพายอีกเพราะผมขยันซะขนาดนั้น ถ้าดาวท้องเธออาจจะไม่ทิ้งผมไป“อยากมีลูกเหรอพี่ซายน์” ยั
23. ชีวิตที่ไม่มีเธอ (1)Tam talks“ตาม กูรักน้องดาวว่ะ” ตั้งแต่น้องดาวออกจากชีวิตของไอ้ซายน์ พอมีเวลาว่างเพื่อนรักของผมก็เอาแต่นั่งกอดขวดแอลกอฮอล์ทุกชนิด แล้วมันก็กลับมาเป็นหมอซายน์หน้าเดียวคนเดิม ไม่ยิ้มไม่หัวเราะ“รอบที่สามสิบ” ผมมองไอ้ซายน์แล้วอดสงสารไม่ได้ แค่อาทิตย์เดียวหมอซายน์ก็ซูบลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะกินข้าวยิ่งกว่าแมวดม บ่นแต่ว่ากินไม่ลง คงเป็นเพราะมันติดรสชาติอาหารของน้องดาว ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไปอาทิตย์หน้าแม่พั้นซ์อาจจะได้จองศาลาและเตรียมบวชชีพราหมณ์จริงๆ ก็เป็นได้ “กูคิดถึงน้องดาว น้องดาวจะคิดถึงกูไหมวะ” คนเมายังเพ้อไปเรื่อย ผมเองก็ช่วยอะไรมันไม่ได้มากได้แต่นั่งฟังมันพูดระบายอารมณ์ไปเรื่อยๆ“ก็คงจะคิดอยู่มั้ง อยู่ด้วยกันตั้งนาน” ผมดูออกว่าน้องดาวก็รักไอ้ซายน์ เธออาจมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ต้องทำแบบนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะต้องเข้าไปยุ่งเรื่องในครอบครัวของคนอื่น ช่วยเท่าที่ทำได้ก็พอ “กูอยากไปหาน้องดาว”“ไปสิ พรุ่งนี้กูราวน์เช้าให้” ผมตบไหล่มันเบาๆ ดวงตาของมันทอประกายด้วยความดีใจ“ขอบใจมากตาม กูรักมึงว่ะ” มันทำท่าจะเข้ามากอดผม“อย่าเข้ามานะเว้ย กูมีพระ” ผม