Chapter 4
“ภาม แขนนายไปโดนอะไร?” พี่ภีม พี่ชายของผมเอ่ยถาม มันเป็นแผลที่ตรงข้อมือลามมาถึงฝ่ามือ ตอนที่ไปช่วยยัยนางมารน้อยที่เกือบจะโดนรถชน ผู้หญิงที่ดูถูกคนอื่นเห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ต้องดัดนิสัยซะให้เข็ด
“ผมหกล้มครับ” ผมดึงปลายเสื้อเชิร์ตลงมาปิดแผลไว้ กลัวพ่อกับแม่จะเห็นแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ ท่านยิ่งคัดค้านที่ผมไปทำร้านอาหารในช่วงเลิกงานอยู่ด้วย ถ้าเกิดรู้ว่าผมได้รับอุบัติเหตุในช่วงที่ทำร้าน พวกท่านต้องห้ามไม่ให้ทำงานที่ผมรักไปตลอดแน่
“ภาม ช่วงนี้ไม่มานอนที่บ้านเลย แม่คิดถึงลูกมาก” คุณแม่เดินตรงเข้าสวมกอดผมด้วยความคิดถึง
“แม่เราบ่นตลอดเลยลูก ถ้าว่างก็เข้ามากินข้าวที่บ้านบ้างนะ” คุณพ่อในชุดสูทสีน้ำเงินเต็มยศส่งยิ้มบางๆให้ผม
“ครับพ่อ” ผมตอบรับ ช่วงนี้งานที่ร้านเริ่มลงตัว ผมกับเชฟพริกทำงานเข้าขากันแล้ว จึงไม่ต้องเหนื่อยเหมือนตอนที่เพิ่งเริ่มทำงาน
“ภาม พ่ออยากให้เราไปบริหารโรงแรมที่ภูเก็ต ถ้าเราพร้อม..” คุณพ่อเกริ่นขึ้นมา
“ขอเวลาผมอีกสักปีนะครับ ผมขอทำงานที่ผมชอบก่อน” ผมค่อนข้างจะโชคดีอย่างหนึ่ง ในฐานะที่เป็นลูกชายคนรองของตระกูลเรืองภวัตกุล เจ้าของโรงแรมหรูที่มีสาขาทั่วโลกอย่างโรงแรม once moment in time ผมสามารถเลือกใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองอยากทำได้ เพราะภาระที่หนักอึ้งนั้นตกไปอยู่กับพี่ภีมเป็นหลัก ซึ่งพี่ชายของผมก็น้อมรับและมีความสุขกับงานบริหารที่ตัวเองได้รับช่วงต่อจากคุณพ่อ แต่สุดท้ายผมก็ต้องกลับไปบริหารโรงแรมสักแห่งตามที่ครอบครัวอยากให้ทำอยู่ดี
“อย่าหักโหมมากละกันลูก ถ้าเหนื่อยก็จ้างเชฟ พ่อกับแม่จะหาโอกาสไปชิม” คุณพ่อส่งยิ้มให้พลางตบไหล่ผมเบาๆ
“ขอบคุณที่เข้าใจผมนะครับพ่อ” ผมยิ้มตอบและเดินตามหลังทุกคนเข้าไปในห้องประชุมขนาดใหญ่ของโรงแรม once moment in time กิจการของครอบครัวที่มีมายาวนานหลายสิบปี
Florence talks
“เล่ามา หล่อนปิดบังอะไรฉัน” พี่บีบี๋เอ่ยถามเมื่อเราเข้ามาในห้องของฉันแล้ว ดวงตาสีอ่อนแค่ปรายตามองก็รู้ลึกถึงจิตใจของฉันไปถึงไหนต่อไหน แล้วแบบนี้ฉันจะปิดบังเขาได้ยังไง ฉันลอบกลืนน้ำลายมองหน้าผู้จัดการหนุ่มอย่างลำบากใจที่สุดในชีวิต
“ว่าจะถามต่อหน้าผู้ชายคนนั้น แต่กลัวหล่อนจะอับอาย”
“อับอาย?” พี่บีบี๋เป็นหมอดูหรือยังไงกันนะ ฉันคว้าขวดน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มเพื่อดับกระหายและบรรเทาอาการปวดหัวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์นานาชนิดที่ดื่มไปเกือบค่อนคืน
“ได้กันแล้วใช่ไหม?”
“แค่กๆ” ฉันสำลักน้ำ จนพี่บี๋ต้องมาลูบหลังเบาๆ
“เฮ้อ..ไม่เหลือแล้วสิน้องฉัน” คนข้างๆถอนหายใจแบบปลงๆ
“ฟลอเมามาก แล้วเค้าบอกให้ฟลอไปทำงานที่ร้านเค้าเดือนนึง ไม่งั้นจะเผยแพร่คลิปที่เรามีอะไรกันลงโซเชียล” พูดไปน้ำตาก็พาลจะไหลด้วยความคับแค้นใจ
“ก็บอกว่าอย่าดื่มมาก เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ตอนได้กันไม่เห็นจะชวน พอเกิดปัญหาต้องให้ฉันตามแก้ ยัยเด็กน้อยเอ้ย!!” นิ้วขาวเรียวยาวจิ้มที่หน้าผากของฉัน คล้ายจะเอ็นดูมากกว่าที่จะซ้ำเติม เพราะนี่ไงฉันถึงรักพี่บี๋เหมือนญาติคนสำคัญ ตั้งแต่รู้จักกันมาแกก็คอยรับฟัง ดูแลทุกอย่าง คอยให้กำลังใจฉันมาตลอด วินาทีนั้น..ฉันโผเข้ากอดพี่บี๋อย่างแนบแน่น มันอัดอั้นตันใจหาทางออกไม่เจอ รู้สึกมืดแปดด้านไปหมด
“เค้าบอกว่าจะเอาคลิปลงโซเชียล ฟลอกลัว ครอบครัวของฟลอจะผิดหวังแค่ไหน เพราะทุกวันนี้ฟลอก็ไม่เคยมีตัวตนในสายของคนที่บ้านอยู่แล้ว”
“ใจเย็นๆนะ แก้ปัญหาทีละอย่าง เดี๋ยวฉันจะไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้ก่อน กินก่อนหนึ่งเม็ดแล้วตั้งนาฬิกาปลุกอีกสิบสองชั่วโมงก็กินอีกเม็ด อาบน้ำกินข้าวแล้วนอนพัก ถ้าเค้าให้ทำอะไรก็ทำไปก่อน ฉันจะหาทางเจรจากับเค้าอีกที” พี่บีบี๋บอก มือหนาลูบไปตามแผ่นหลังของฉันอย่างแผ่วเบาคล้ายจะปลอบโยน
“พี่บี๋ ฟลอขอโทษ สร้างปัญหาให้พี่อีกแล้ว” ฉันยกมือไหว้ขอโทษพี่บี๋พลางใช้ทิชชูเปียกเช็ดน้ำตา
“หล่อนโตแล้วนะยัยฟลอ เข้มแข็งเลิกขี้แยร้องไห้ฟูมฟายได้แล้ว เวลามีปัญหาหล่อนต้องมีสติ สติเท่านั้น” พี่บี๋จัดการสั่งอาหารการกินและออกไปซื้อยาให้ฉันตามที่ได้บอกก่อนหน้านี้ ฉันมองอย่างซาบซึ้งถ้าไม่มีพี่บี๋สักคน ชีวิตของฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง
“เลิกทำหน้าซึ้งได้แล้ว บ้านหล่อนจ่ายเงินเดือนให้ฉันแพงย่ะ ฉันเลยต้องทำงานให้สมกับเงินค่าจ้าง” คนตัวสูงพูดปนขำ พอกินข้าวกินยาเม็ดแรกฉันก็นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงลั่นตั้งแต่ตีสี่ เวลาเข้างานเจ็ดโมงที่เผื่อไว้เกือบสามชั่วโมงก็เพราะฉันต้องนอนกลิ้งเกลือกบนเตียงเกือบยี่สิบนาที อาบน้ำทำธุระส่วนตัวอีกสามสิบนาที แต่งตัวแต่งหน้าหนึ่งชั่วโมง ที่เหลือคือเวลาที่ใช้ขับรถไปที่ร้านของอีตาเชฟภาม ฉันสวมแว่นดำและสวมแมสค์ปิดบังใบหน้าเพราะกลัวจะมีใครจำฉันได้ ว่าแต่เวลาเช้าขนาดนี้ในร้านมีเพียงเชฟภามเจ้าของร้านและเชฟพริกผู้ช่วยเพียงเท่านั้น ฉันได้ข้อมูลมาว่าร้านเปิดเวลาหกโมงเย็น รับจองแค่เพียงวันละสิบที่เท่านั้น แบ่งออกเป็นสองรอบรอบละห้าโต๊ะ เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะขายให้รวยทำกำไรเยอะๆ หากแต่ทำอาหารขายแบบเอาสนุกคนทำซะมากกว่า
“อ้าว คุณฟลอเรนซ์ มาแล้วเหรอครับ” ดวงตาเรียวรีตามแบบฉบับหนุ่มตี๋เบิกกว้างอย่างดีใจที่เจอฉัน ฉันเองก็ไม่ได้เป็นสาวใสไร้เดียงสาอะไร พอจะรู้ว่าใครรู้สึกชื่นชอบตัวเอง
“ค่ะ ฟลอมาลองฝึกงานที่นี่ เรื่องหน้าจะไปแคสติ้ง ละครเรื่องแม่ครัวหัวป่าก์” ฉันกล่าวอ้างไปส่งๆไม่รู้ว่าอีตาเชฟภามไปบอกเหตุผลที่ฉันต้องมาทำงานที่นี่ว่าอะไร
“อ้าวเหรอครับ นึกว่าเรื่องสาวน้อยร้อยรัก” ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมรอยยิ้มฉบับแบดบอยหันมามองสบตาฉัน เขากดยิ้มมุมปาก โชคดีที่เขาไม่ได้พูดประโยคนี้เสียงดังนัก ทว่าพอให้ฉันได้ยินเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น..
‘สาวน้อยร้อยรัก’ มันเป็นชื่อหนังไทยเรตอาร์ที่คนกำลังกล่าวถึงกันในตอนนี้ ฉันก็พอเคยเห็นผ่านตามาบ้าง พอนึกจินตนาการตามใบหน้าจึงแดงจัดรู้สึกขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก
‘อีตาบ้า’ ฉันมองกลับและก่นด่าในใจ คอยดูนะ ฉันจะแช่งชักหักกระดูกเขาทุกวัน คนชั่วคนเลวฉวยโอกาสกับคนเมา
“เชฟภาม เมนูพิเศษวันนี้ผมเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้วนะครับ” เชฟพริกบอก เขาบอกฉันว่าอาหารสดที่จะเอามาทำอาหารของวันนี้ จะซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานเป็นแบบนี้ทุกวัน ของที่สั่งจากต่างประเทศจะแยกฟรีซไว้ ส่วนผสมที่หาซื้อในไทยจะซื้อวันต่อวันเพื่อความสดใหม่และรสชาติที่ได้มาตรฐาน
“ทำความสะอาดได้แล้ว ยืนบื๊ออะไร” เสียงทุ้มนุ่มปลายเสียงติดจะแข็งเอ่ยขึ้น ฉันมองอุปกรณ์ที่เชฟหนุ่มเตรียมไว้แล้วกัดปากแน่นเพื่อระงับความโกรธแค้นในใจ ฉันสาบานว่าหาทางลบคลิปที่ว่านั่นให้เร็วที่สุด แต่จะทำยังไงในเมื่อฉันยังไม่รู้เลยว่าเขาเก็บมือถือไว้ที่ไหนด้วยซ้ำ เอาน่า..วันนี้เป็นวันแรก หาลู่ทางไปพลางๆก่อน
“ผมช่วยครับคุณฟลอ” เชฟพริกที่ออกอาการปลื้มปริ่มฉันอย่างชัดเจนพยายามจะแย่งผ้าเช็ดโต๊ะจากมือฉัน
“จะลงคลิปที่เวบไหนดีนะเชฟพริก” ดวงตาคู่คมฉายแววเจ้าเล่ห์ หัวใจของฉันเต้นรัวด้วยความกลัว แค่จินตนาการถึงใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ที่มองมาอย่างผิดหวัง ฉันจึงรีบแย่งผ้าผืนนั้นกลับมา
“ฟลอทำเองค่ะ สบายมาก เช็ดโต๊ะแค่นี้เอง” ฉันฝืนยิ้มทำหน้าร่าเริงระดับสิบดูล้นๆจนเกินเบอร์
“ลงหน้าเพจร้านเราเหมือนเดิมครับ ตอนนี้คนกดไลค์กดแชร์เกือบแสน ยอดจองแต่ละวันยาวไปถึงสัปดาห์หน้าแล้ว ถ้าลงรูปเชฟภามหน้าเพจ คิวคงยาวไปถึงปีหน้า” เชฟพริกทำตาวาวล้อคนตรงหน้า
“คิวทานอาหารเหรอครับ?”
“คิวเป็นลูกสะใภ้คุณแม่เชฟภามครับ” เชฟผู้ช่วยหัวเราะ ยอมรับว่าเชฟภามหล่อแหละ แต่แล้วยังไงล่ะ นิสัยไม่ดีปากเสีย จอมวางแผนฉวยโอกาสกับผู้หญิงไม่มีทางสู้ใช้วิธีสกปรกข่มขู่แบล็คเมล์ฉัน
“เธอกำลังด่าฉันในใจรึเปล่า?” เขายื่นใบหน้าเข้ามาถามใกล้ๆฉันในขณะที่เชฟพริกเข้าไปทำงานในครัว
“ว้าย เป็นหมอดูเหรอคะ สู่รู้ด้วย” ฉันทำทีป้องปากหัวเราะแบบนางร้ายในละครหลังข่าว ในเมื่อชีวิตจริงจะไม่ได้เป็นนางเอกแล้ว เล่นบทนางร้ายไปเลยดีกว่า
“ยัยนางมารน้อย” ใบหน้าหล่อใสแบบฟูลเอชดียังไม่ได้ขยับไปไหน? ฉันรู้สึกหนาวๆร้อนๆถึงเราจะเคยมีซัมติงกันมาแล้ว แต่ตอนนั้นมันเมาไม่ได้สติ ทว่าตอนนี้พอต้องมาอยู่ใกล้ชิดเขา หัวใจของฉันมันก็เต้นแรงแปลกๆ
‘เขินเหรอ?’ ม่ายยย..มีทาง ฉันไม่มีวันชอบผู้ชายปากร้ายเย็นชาแบบนี้ได้หรอก เพราะผู้ชายที่ฉันชอบต้องลุคอบอุ่น ฉายาพ่อไมโครเวฟเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เนื้อคู่เป็นคนต่างชาติ ปล.ชาติหน้า..
Chapter 5“นี่นาย ฉันเช็ดโต๊ะถูพื้นเสร็จแล้ว พักได้หรือยัง” อย่างที่รู้ ฉัน..คุณหนูฟลอเรนซ์ แห่งบ้านธนานุกูลเวช เคยทำงานบ้านซะที่ไหนกัน ตั้งแต่เกิดมาฉันก็ถูกยกย่องเชิดชูในฐานะคุณหนูผู้สูงศักดิ์มาตลอด เป็นครั้งแรกที่เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด ความแค้นในใจมันอัดแน่นรอวันเอาคืน นิ้วเรียวขาวนวลเนียนสวยราวกับมือของผู้หญิงถูไปตามเคาท์เตอร์“ตรงนี้ฝุ่นจับเยอะ มาเช็ดตรงนี้ด้วย” เหมือนโดนเชฟหนุ่มแกล้งเพราะฉันถูตรงนั้นตั้งสองรอบ ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างพึงพอใจ‘ทนไว้ฟลอเรนซ์ ลบคลิปนั่นได้เมื่อไหร่ค่อยแก้แค้นก็ไม่สาย’“ได้เลยคร้าเชฟ” ฉันยิ้มกว้างแต่น้ำเสียงประชดประชันอย่างชัดเจน“เชฟภามครับ มื้อเที่ยงมีสปาเกตตี้ซอสครีมเห็ดกับซีซาร์สลัด” เชฟพริกโผล่หน้าออกมาจากห้องครัว เขาร้องบอกและหันมาส่งยิ้มให้ฉัน โอโห..ตอนนี้เกือบได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว นี่ฉันทำความสะอาดเกือบสามชั่วโมงเศษๆแล้วเหรอเนี่ย..แค่ได้กลิ่นอาหารกระเพาะก็ร้องโครกคราก“มีสเต็กเนื้อวากิวไหมคะเชฟพริก” ฉันยิ้มหวานๆให้เชฟผู้ช่วย เจอรอยยิ้มการตลาดของฉันเข้าไปน้อยคนนักที่จะปฏิเสธฉัน“คนงานอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เลือกกิน เชฟพริกกินแค่นั้นพอไม่ต้องทำเพิ่ม
Chapter 6หลังจากไปช็อปปิ้งผักสดๆจากสวนคุณยาย เชฟทั้งสองก็จัดการเตรียมวัตถุดิบในครัว ส่วนฉันได้รับหน้าที่ในการจัดคิวของลูกค้าที่จะมารับประทานอาหารในค่ำคืนนี้ ลูกค้าที่ได้รับคิวในรอบแรกมีจำนวนห้าโต๊ะ จะมาถึงร้านในเวลาหกโมงถึงสองทุ่ม ส่วนกลุ่มที่สองเวลาสองทุ่มถึงสี่ทุ่ม อาหารจะจัดเป็นเซ็ทตามใจของเชฟไม่มีการเสิร์ฟเพิ่มหรือร้องขอเมนูพิเศษใดๆ แต่ทางร้านได้รับการการันตีจากนักชิมมากมายว่าอาหารอร่อยสดสะอาดได้มาตรฐานและลูกค้าที่เคยมาทานก็มักจะแวะเวียนกลับมาที่ร้าน จนคิวที่จองยาวไปถึงสามเดือนข้างหน้าทีเดียว ราวๆห้าโมงเศษๆ ฉันต้องอยู่ในครัวกับเชฟภามเพื่อช่วยเขาเตรียมอาหาร เนื่องจากหน้าร้านมีเชฟพริกเป็นคนเชิญลูกค้าเข้านั่งที่โต๊ะ เนื่องจากฉันก็ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าสักเท่าไหร่ เดี๋ยวแฟนคลับจะแห่มาที่ร้านทำให้เจ้าของร้านวุ่นวาย จึงขอช่วยงานหรือจะเรียกว่าป่วนอีตาเชฟภาม“ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยนั่งอยู่เฉยๆละกัน” เชฟหนุ่มพ่นลมหายใจออกมายาวๆ เพื่อแสดงให้ฉันเห็นว่าเขาเบื่อหน่ายฉันแค่ไหน คงเพราะฉันเดินไปมาถามโน่นนี่นั่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น‘ไอ้นี่เรียกว่าอะไร ฉันเคยเห็นผักนี่มาก่อน’‘เส้นสปาเกตตี้ต้อง
Chapter 7พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ภามก็เดินลงมาข้างล่าง เสียงพูดคุยหัวเราะดังลั่นจนไปถึงห้องนอนของเขา ยัยนางมารน้อยกำลังกินมื้อเช้า โดยมีเชฟพริกคอยเสิร์ฟทำราวกับในร้านอาหารญี่ปุ่นโอมากาเสะเจ้าดัง“เชฟภาม ทานมื้อเช้าครับ รับอะไรดีระหว่างญี่ปุ่นหรืออเมริกันเบรกฟาสท์” เชฟพริกเอ่ยถามเจ้านาย ที่สวมเสื้อเชิร์ตสีขาวพับแขนกับกางเกงสแล็คสีดำดูเรียบหรูเป็นทางการสมกับเป็นลูกชายคนรองเจ้าของธุรกิจโรงแรมดัง “ขอเป็นเซทญี่ปุ่น” ภามบอกพลางเดินเข้ามานั่งตรงเคาท์เตอร์ข้างๆกับดาราสาว หญิงสาวสวมชุดของเมื่อวาน ใบหน้าขาวนวลเนียนไร้ซึ่งเครื่องสำอางใดๆ แต่ยังดูน่ารักเป็นธรรมชาติ“นี่นาย วันนี้เชฟพริกบอกว่าร้านปิด ฉันขอกลับบ้านนะ” ฟลอเรนซ์จำเป็นต้องถามเชฟหนุ่มผู้ซึ่งกุมความลับของตัวเองไว้ เดี๋ยวไม่พอใจขึ้นมาคลิปอาจจะหลุดเผยแพร่ในโลกโซเชียลได้“อืม..” ภามตอบสั้นๆ เขาไม่กล้ามองหน้าผู้หญิงข้างๆตรงๆ เพราะภาพเมื่อคืนยังแจ่มชัดในความทรงจำ แต่เธอคงไม่มีความทรงจำนี้หลงเหลืออยู่แล้ว“เชฟภามจะกลับมานอนที่ร้านไหมครับ?” เชฟพริกรู้ว่าวันนี้เจ้านายหนุ่มมีประชุมที่โรงแรมทั้งวันและอาจไปกินอาหารกับครอบครัวที่บ้านใหญ่“ไม่แน่ใจ
Chapter 8“ไหนว่ากลับบ้านแล้วมาทำไม?” ภามถามคนตรงหน้าพลางคลายเนคไทให้หลวม คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความสงสัย ทว่าในใจกลับรู้สึกพอใจอย่างประหลาดที่เห็นหญิงสาวนั่งอยู่ในร้าน“วันนี้มาในฐานะลูกค้า ขอเหมาร้านละกันนะ” ใบหน้าเล็กๆน่ารักพยายามจะยิ้มกว้าง แต่มันช่างดูเศร้าเหลือเกิน“ถ้าเหมาร้านคิดแพงหน่อยนะ มีเงินจ่ายรึเปล่า?” ร่างสูงเดินอ้อมไปที่ห้องครัว เชฟพริกกำลังเตรียมอาหารอย่างขมักเขม้นสำหรับแขกพิเศษเพียงโต๊ะเดียวในค่ำคืนนี้“จ่ายไม่อั้นเลย” ฟลอเรนซ์ยกนิ้วเป็นสัญลักษณ์โอเคให้สองหนุ่ม หญิงสาวนั่งเขี่ยมือถือด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว เธออุตส่าห์กลับไปที่บ้านเพื่อจะพบว่า..‘คุณท่านกับคุณหนูเวนิสไปทานอาหารจีนกับครอบครัวภวัตเรืองกุลค่ะ’ หัวหน้าแม่บ้านบอก เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาในห้องรับแขก บ้านหลังใหญ่แต่คนที่เธอต้องการพบเจอกลับไม่อยู่‘คุณฟลอทานข้าวเย็นไหมคะ วันนี้มีปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว’ ขนาดเจ้าตัวไม่อยู่ ป้าจันทร์ยังทำอาหารจานโปรดของพี่เวไว้รอและที่สำคัญเธอไม่ชอบกินปลาเอาซะเลย ไม่ว่าจะเอามาทำเมนูที่เลิศรสแค่ไหน เธอก็ไม่อยากกินอยู่ดี ฟลอเรนซ์ตัดสินใจโทรหาพี่บีบี๋ อย่างน้อยผู้จัดการหนุ่มก็คงทำให้เธอคลายค
Chapter 9ฉันตื่นขึ้นมาด้วยอาการวิงเวียนศีรษะ พะอืดพะอมร่างกายต้องการขับอาหารที่กินเมื่อคืนออกมา ฉันจึงรีบลุกโผเผขึ้นมาจากเตียง วิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ทว่าสิ่งที่ออกมากลับมีแค่น้ำลายเหนียวๆและอาการที่ว่าก็ยังไม่หายไปแถมยังรู้สึกมวนในช่องท้อง“ทรมานจัง เป็นอะไรเนี่ย สงสัยจะดื่มเหล้าสาเกบ่อยไป” ฉันพึมพำกับตัวเอง ตั้งแต่รู้จักกับเชฟหนุ่มเจ้าของร้าน once moment in time ฉันก็ติดนิสัยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ตลอด คงต้องเลิกดื่มสักพักเพราะตื่นขึ้นมาทีไร อาการแฮงค์ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายตัวและทำให้ไม่สดชื่นไปตลอดทั้งวัน“นี่หล่อนเป็นอะไรรึเปล่าหน้าดูซีดๆนะ” พี่บีบี๋เอ่ยทักทาย ร่างสูงในชุดเสื้อเชิร์ตสีขาวกับกางเกงสแล็คสีดำกำลังจัดแจงแกะถุงอาหารสำหรับมื้อเช้าของเรา“สงสัยคงจะแฮงค์ค่ะพี่บี๋ ช่วงนี้ดื่มบ่อย” ฉันใช้มือนวดขมับเพื่อคลายความปวดพลางช่วยผู้จัดการหนุ่มแกะโจ๊กหมูร้านดังใส่ถ้วย“หืม โจ๊กคุณขุน น่ากินจังค่ะ” ฉันตักหมูบะช่อใส่ปากเคี้ยวหยับๆ แค่รับรสอาหารยังไม่ทันได้กลืนอาการคลื่นไส้ก็จู่โจมอีกครั้ง ไม่บอกก็รู้ว่าฉันต้องรีบวิ่งไปอาเจียนที่อ่างล้างจาน มือหนาของพี่บีบี๋ลูบไปตามแผ่นหลัง
Chapter 10ด้วยเพราะเชฟพริกลากลับบ้านจึงทำให้ในร้านมีแค่ผมกับยัยฟลอเรนซ์ หลังจากที่เล่นบทดราม่าเคล้าน้ำตาฟิตติ้งละครเรื่องใหม่เรื่อง Single mom เรียบร้อยแล้ว กว่าเรื่องจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผมต้องไปซื้อที่ตรวจครรภ์เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้ท้องจริงๆ อาการที่เป็นอยู่อาจเป็นเพราะยาคุมกำเนิดฉุกเฉินและการดื่มเหล้าสาเกถี่ไปหน่อยเท่านั้นเอง จากนั้นยัยตัวร้ายก็กลับมาอารมณ์ดีกวนประสาทผมได้ต่อ“เชฟภาม หิวแล้ว ทำอาหารให้กินหน่อยค่ะ” สรุปผมรับยัยนี่มาเป็นภาระมากกว่าจะช่วยงานได้จริงๆจังๆ พอถูพื้นเสร็จก็บ่นว่าเหนื่อย นอนเกลือกกลิ้งบนโซฟากดมือถือช็อปปิ้งออนไลน์ ทั้งยังมีน้ำใจจะซื้อเสื้อผ้าให้ผมด้วย“เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงครึ่ง หิวแล้วเหรอ? ไปเช็ดโต๊ะก่อน” ผมโบกมือไล่ร่างบางให้ไปไกลๆเพราะเธอเข้ามายืนเกาะขอบเคาท์เตอร์ห้องครัว ส่งสายตาวิบวับให้ผมได้ใจสั่นเล่นๆ คงเพราะผมไม่ได้อยู่ใกล้ชิดผู้หญิงคนไหนก็เลยรู้สึกหวั่นไหวไปกับยัยนางมารน้อยไปบ้าง ความเป็นจริงคือไม่ได้ชอบอะไรยัยนี่มากมายหรอก ผมบอกตัวเองในใจ“เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าว กินแล้วก็อ้วกเลย หิวแล้ว” ใบหน้าเล็กๆน่ารักซึมลงนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินหลบฉากไปเช็ดโต๊ะท
Chapter 11ภามทำทีหยิบจับวัตถุดิบสำหรับทำอาหารในค่ำคืนนี้ สายตาเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนังอยู่บ่อยครั้ง จนเชฟผู้ช่วยได้แต่อมยิ้ม เจ้าตัวอาจไม่รู้แต่เขามองออกว่าเจ้านายกำลังรอใครอยู่“จะแปดโมงแล้วทำไมยังไม่มา” ภามพูดกับตัวเอง แต่ทว่ามันดังจนเชฟพริกแอบได้ยิน“คุณฟลอเรนซ์ไม่ได้บอกเหรอครับ?”“บอกอะไร?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างงุนงง“จะไปถ่ายแบบชุดว่ายน้ำที่ภูเก็ตสองวัน แต่จะมาทำงานชดเชยจันทร์หน้า” สิ่งที่เชฟพริกบอกทำให้ภามรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที“อะไรนะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ หน้าอกไข่ดาวแบบนั้นจะไปโชว์ใครที่ไหน” ที่จริงสิ่งที่แอบเห็นวันนั้นมันไม่แค่ไข่ดาวนี่สิ มันใหญ่กว่านั้นเยอะ อยู่ดีๆ เสียงที่ผุดขึ้นมาในความคิดคือ..‘หวง’ แต่เขากับฟลอเรนซ์ยังไม่ได้คบหาอะไรกันเลย แล้วเขาจะรู้สึกหวงทำไมล่ะ อยากถ่ายก็ถ่ายไปใครจะสนใจ ภามบอกตัวเองแต่คืนนั้นเขาก็รู้สึกไม่มีสมาธิทำอาหารเพราะในใจมันวิ่งวนอยู่กับคำว่าถ่ายแบบชุดว่ายน้ำของดาราสาว โชคดีที่เชฟพริกเดินมาช่วยในครัวในระหว่างที่เสิร์ฟอาหารเรียบร้อย เขาจึงมีคนคอยเตือนสติในระหว่างปรุงอาหาร เชฟพริกมองเจ้านายหนุ่มที่เหม่อลอยถึงขั้นทำมีดบาดมือตัวเองแล้วครุ่นคิด บา
Chapter 12“คุณภามครับ ผมปิดห้องอาหารบนรูฟท็อปให้แล้ว โต๊ะพิเศษเตรียมไว้ให้เรียบร้อย เมนูอาหารไม่มีส่วนผสมของปลาแม้แต่อย่างเดียว แล้วก็ชุดดินเนอร์คืนนี้ผมแขวนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้านะครับ” ภามถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยในความรู้ใจของเชฟผู้ช่วย เดือนนี้อาจต้องขึ้นเงินเดือนให้เชฟพริกเสียแล้ว“ขอบใจมากเชฟพริก” ร่างสูงเดินเข้าไปอาบน้ำ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิร์ตสีขาวเรียบๆแบรนด์ดังกับกางเกงสแล็คสีดำ เขาขึ้นไปรอดาราสาวบนห้องอาหารรูฟท็อปก่อนเวลาเกือบสิบนาทีเพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งทั้งชั้นมีแค่เขากับฟลอเรนซ์เท่านั้น หญิงสาวมาถึงห้องอาหารเวลาสองทุ่มพอดิบพอดี เธอสวมชุดเดรสสีขาวที่เจ้าหน้าที่ของโรงแรมเอามาให้ถึงหน้าห้อง ผมปล่อยยาวสลวยทำลอนใหญ่ตรงปลายดูมีวอลุ่ม ใบหน้าตบแต่งเพียงบางเบาเทรนด์แต่งเหมือนไม่ได้แต่ง“ทำไมไม่มีโต๊ะอื่นเลยล่ะคะ” ฟลอเรนซ์มองไปรอบๆด้วยความงุนงง เพราะห้องอาหารบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม once moment in time ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ทำไมคืนนี้ไม่มีใครเลย มีเพียงโต๊ะของเธอกับเชฟภามเท่านั้น“ไม่รู้เหมือนกัน” ภามทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เขานั่งลงตรงข้ามหญิงสาว ใบหน้าที่ฟลอเรนซ์คิดว่าหล่อ
Chapter 31ฟลอเรนซ์อมยิ้มพลางยื่นกล่องของขวัญให้คนรัก เธอเลือกเป็นเนคไทด์ลายเรียบๆแต่ดูหรูหราให้กับคนรัก มือหนารับกล่องขนาดกลางมาถือไว้เขาค่อยๆแกะโบว์ออกช้าๆพร้อมกับกระดาษห่อสีหวานออก“พี่ภามต้องชอบของขวัญของฟลอแน่นอนค่ะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างมั่นใจแถมยังเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องของขวัญ ภามยิ้มกว้างเมื่อได้รับเนคไทด์ที่ฟลอเรนซ์เลือกให้ ไม่ว่าจะได้อะไรเขาก็ดีใจอยู่ดีเพราะมันคือของที่มาจากนางมารน้อย(ที่น่ารัก)ของเขานั่นเอง“ทานมื้อค่ำดีกว่า พี่ตั้งใจทำอาหารที่ฟลอชอบทุกอย่างเลยนะ” ภามกุมมือคนรักพาเดินมาที่โต๊ะอาหารซึ่งเป็นเมนูโปรดของฟลอเรนซ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสลัดเนื้อวากิวย่าง ข้าวหน้าเนื้อวากิว มีขนมหวานเป็นทาร์ตชีตผลไม้ ถึงจะยังแอบสงสัยว่าเชฟหนุ่มจะให้ของขวัญอะไรกับตัวเอง แต่ฟลอเรนซ์ก็ทนต่อความหิวไม่ไหวเพราะอาหารตรงหน้าช่างยั่วน้ำลายของเธอเหลือเกิน พอมื้อค่ำแสนอร่อยผ่านพ้นไป หญิงสาวก็นึกถึงเรื่องของขวัญทันที“พี่ภามยังไม่ได้ให้ของขวัญฟลอเลยค่ะ” อดีตดาราสาวท้วงขึ้นมา“งกนะเรา จำเก่งมาก พี่อุตส่าห์เอาอาหารมาล่อ” ภามยิ้มขำพลางขยี้ผมของคนรักด้วยความมันเขี้ยวระคนเอ็นดู“ไม่ได้งกค่ะ มันคือสิ่ง
Chapter 30หลังจากกลับมาปรับความเข้าใจกัน ภามก็แทบไม่ห่างจากฟลอเรนซ์เลย นอกจากการแสดงความรักแบบแนบเนื้อแล้ว เขาก็ยังทำตัวเป็นเชฟส่วนตัว สรรหาอาหารจานโปรดให้คนรักครบสามมื้อ ใช้ช่วงเวลาวันหยุดยาวราวกับโลกนี้มีกันแค่สองคน“น้องฟลอครับ มื้อเช้ามาเสิร์ฟแล้ว ตื่นทานข้าวก่อนนะครับ” ภามตื่นแต่เช้าไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะคนเดียว ใจจริงเขาอยากปลุกเจ้าหญิงนิทราขี้เซาไปวิ่งด้วย ทว่าเมื่อคืนเขาก่อกวนจนหญิงสาวแทบไม่ได้นอนและเธอก็เพิ่งจะได้นอนจริงๆช่วงตีสอง ภามจึงไม่กล้าขัดขวางเวลาพักผ่อนของฟลอเรนซ์ ปล่อยให้หญิงสาวนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ก็อย่างที่บอกพออยู่ใกล้ทีไรเขาก็อดใจไม่ไหวทุกที ก็น้องฟลอของเขาน่ารักขนาดนี้“พี่ภาม ฟลอเหนื่อยขอนอนต่อนะคะ” หญิงสาวพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา เปลือกตาของเธอกำลังต่อสู้กับความง่วงขั้นสูงสุด ฟลอเรนซ์ไม่เคยอยู่กับคนรักนานขนาดนี้มาก่อน ตอนที่อยู่ไทยช่วงเช้าเขาจะไปทำงานที่โรงแรม ตอนเย็นถึงจะว่างพาเธอไปทานอาหารที่ร้านดัง บางครั้งเขาก็ซื้อวัตถุดิบมาทำที่คอนโดของเธอ ทว่าในตอนนี้เธอกับคนรักแทบจะตัวติดกันยี่สิบสี่ชั่วโมงมาสองวันเต็มๆแล้ว ถ้าไม่พาเธอไปเดินเที่ยวข้างนอกหรือว่าทำ
Chapter 29“ฟลอเรนซ์จะหนีไปเรียนต่อที่อังกฤษ เพื่อเปิดโอกาสให้คุณภามกับคุณเวได้รักกัน” พออดีตผู้จัดการส่วนตัวของแฟนสาวพูดจบ ผมก็หลุดขำอย่างกลั้นไม่อยู่“น้องฟลอคิดแบบนั้นจริงๆเหรอครับ” ผมกลับมาคิดทบทวนตัวเอง ช่วงนี้ผมกำลังเข้าไปทำงานด้านบริหารในโรงแรม เพื่อที่สร้างความมั่นคงในชีวิตให้มากขึ้น เพราะอยากเริ่มวางแผนในอนาคต ด้วยอยากจะแต่งงานมีครอบครัว แล้วคนที่อยากจะใช้ชีวิตด้วยก็มีแพลนหนีไปเรียนต่อเมืองนอก เหตุผลคืออยากจะเสียสละผมให้กับพี่สาว คนที่ผมไม่มีทางคิดเป็นอื่นได้เลย ก็ถ้าผมจะรักพี่เวก็คงคบกันตั้งแต่ผมเจอกับพี่เวที่ฝรั่งเศสแล้วล่ะ คิดแล้วมันน่านัก..น้องฟลอมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่“ไม่ได้แค่คิดครับ ติดต่อที่เรียนที่พัก ทำเอกสารต่างๆเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่จะบินไปอีกสองอาทิตย์” พี่บีบี๋กล่าวด้วยใบหน้าจริงจัง คงเพราะห่วงความรู้สึกของฟลอเรนซ์ ซึ่งเขารักราวกับน้องสาวแท้ที่คลานตามกันมานั่นล่ะ“ขอบคุณที่บอกผมนะครับ”‘คิดจะหนีไปเหรอฟลอเรนซ์ ไม่มีทางหรอก!!’ คนอย่างผมถ้าได้รักใครแล้ว ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก เรียกได้ว่าเข้ามาในหัวใจของผมแล้ว ห้ามออกไปเด็ดขาด แล้วยิ่งจะไปเพราะเหตุผลบ้าบอแ
Chapter 28ฉันใช้ชีวิตอยู่อังกฤษได้เกือบอาทิตย์กว่าๆ ในแต่ละวันฉันทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมอัตโนมัติเอาไว้ ช่วงเช้าไปเรียนการใช้ภาษาขั้นสูง ช่วงเที่ยงออกไปทานอาหารไทยที่ร้านประจำและตอนบ่ายก็ไปเดินช็อปปิ้งที่ห้างดัง ปิดท้ายด้วยการเดินเล่นที่สวนสาธารณะก่อนที่จะทำมื้อเย็นทานง่ายๆที่บ้านพัก คุณพ่อกับคุณแม่และพี่เวโทรมาบ่นจนหูชาที่ฉันไม่ยอมบอกเรื่องที่จะมาเรียนต่อในต่างประเทศ แต่ไม่กี่วันก็ปล่อยผ่านทำตัวปกติ อาจจะมีวิดิโอคอลมาถามไถ่เรื่องสุขภาพบ้าง แต่พวกท่านก็ดีใจที่ฉันมีความตั้งใจที่จะมาเรียนต่อเพื่อจะเอาความรู้กลับไปช่วยงานที่บริษัท ฉันทำการบล็อกการติดต่อจากพี่ภามทุกช่องทางพร้อมทั้งขอร้องที่บ้านว่าห้ามบอกเรื่องที่อยู่ของฉันกับเขา โดยให้เหตุผลว่าอยากจะโฟกัสเรื่องการเรียน ถ้าหากเขารอได้ก็ให้เขารอ แต่ถ้าทนรอไม่ไหวก็ให้มีคนอื่นได้เลย ถึงจะปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้เรื่องของเขา แต่พี่บี๋ก็ยังขยันส่งข่าวของอดีตคนรักของฉันมาแทบทุกวัน[ สวัสดีคุณน้อง ]“ว่าไงคะคุณพี่ คิดถึงน้องทุกวันเลย” ฉันพูดแกมประชดนิดหน่อยแต่ก็เพราะมีพี่บี๋ก็เลยไม่รู้สึกเหงา ก็พี่แกเล่นโทรมาบ่อยจนฉันนึกว่าพกพี่บี๋มาด้วย
Chapter 27“ว่าไงนะ!! จะไปเรียนต่อที่อังกฤษ” บีบี๋ที่กำลังจิบกาแฟร้อนถึงกับสำลัก ตอนนี้ฟลอเรนซ์เคลียร์งานในวงการที่ค้างไว้หมดแล้ว ส่วนมากจะเป็นงานเดินแบบ เกมโชว์หรือแม้แต่รายการอาหาร ซึ่งตอนนี้ดาราสาวกำลังจะหันหลังจากวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว“ใช่ค่ะ ว่าจะไปเรียนเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม” หลักจากที่ตัดสินใจแล้วว่าจะยุติความสัมพันธ์กับคนรัก เพื่อให้พี่เวได้คบหากับผู้ชายที่ตนเองหมายปอง ฟลอเรนซ์ก็เดินหน้าหาที่เรียนพร้อมกับที่พักในกรุงลอนดอน หญิงสาวแพลนว่าจะไปเรียนภาษาขั้นสูงเพิ่มสักหนึ่งคอร์สจากนั้นจะเริ่มเข้าเรียนอย่างจริงจัง โชคดีที่ว่าการใช้ภาษาอังกฤษของเธออยู่ในขั้นที่ดีมาก จึงไม่มีปัญหาด้านการสื่อสารและใช้ชีวิตในต่างบ้านต่างเมืองแต่อย่างใด“อ้าว..แล้วคุณภามจะยอมเหรอ? เค้าแทบไม่ให้หล่อนอยู่ห่างจากตัวไม่ใช่เหรอ?” ผู้จัดการหนุ่มซึ่งผันตัวมาทำธุรกิจส่วนตัวขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย เพราะภาม เรืองภวัตกุลลูกชายคนรองเจ้าของโรงแรมดัง แทบจะมาขอฟลอเรนซ์แต่งงานวันละหลายรอบ หากอดีตดาราสาวไม่ขอไว้ก่อนว่าอยากคบหาดูใจกันมากกว่านี้เสียก่อน“พี่ภามไม่ว่าหรอกค่ะ เพราะพี่ภามไม่รู้” ฟลอเรนซ์รู้สึกหน่วงใน
Chapter 26“พี่ภาม คิดถึงจังเลย” ร่างเล็กโผเข้าซบอกกว้างด้วยความคิดถึงอย่างที่ตัวเองบอก เกือบสองวันเต็มๆที่ฟลอเรนซ์ติดสอยห้อยตามพี่สาวไปเรียนรู้งานที่บริษัท ซึ่งกว่าจะถึงบ้านในแต่ละวันก็ดึกดื่น กว่าหัวจะถึงหมอนก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว เวลาที่จะโทรหาแฟนหนุ่มแทบจะไม่มีเลย ยิ่งข้อความไม่ต้องพูดถึง แค่ถึงบ้านเธอก็อยากนอนหลับบนเตียงนุ่มทันที“ถ้ารู้ว่าฟลอไปทำงานจะละเลยพี่ขนาดนี้ พี่คงให้ฟลอลาออกมาเป็นเลขาส่วนตัวของพี่ดีกว่า” ภามกดริมฝีปากที่หน้าผากนวลเนียนนั้นอย่างหลงใหล คิดถึงจนไม่เป็นอันทำอะไร อยากไปหาก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ต้องเข้าไปเคลียร์งานที่โรงแรมเหมือนกัน“พี่ภามเลี้ยงฟลอไหวเหรอคะ? ถ้าฟลอว่างงาน ต่ำๆในมือต้องถือแบล็คการ์ดไม่จำกัดวงเงิน กระเป๋า รองเท้าเสื้อผ้าคอลเลคชันใหม่ แล้วก็รถหรูเดือนละคันนะคะคุณภาม” ใบหน้าเล็กๆน่ารักยิ้มพราย ดวงตากลมโตทอประกายสุกใส หญิงสาวไม่ได้เป็นผู้หญิงขาช็อปอย่างที่ตัวเองกล่าวมาหรอก นานๆทีเขาถึงจะเห็นแฟนสาวซื้อของแบรนด์เนมราคาแพง เขารู้สึกว่าเธอเริ่มรู้จักประหยัดและใช้เงินทุกบาทอย่างรู้คุณค่ามากกว่าตอนแรกที่คบกัน ภามไม่ได้ตระหนี่ที่จะซื้อข้าวของราคาแพงให้ฟลอเรน
Chapter 25“คุณเวไม่ยอมกินอะไรเลยค่ะคุณผู้หญิง” หัวหน้าแม่บ้านส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ไม่ว่าจะทำเมนูที่คุณหนูคนโตของบ้านโปรดปรานแค่ไหน คนในห้องก็ไม่ยอมแตะอะไรอยู่ดี“ฉันควรทำยังไงดีจันทร์ ทำไมลูกของฉันถึงได้ทำร้ายกันขนาดนี้ เธอว่าฉันลำเอียงรักลูกไม่เท่ากันไหม? ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าเวจะร้ายได้ขนาดนี้” ลดาพึมพำกับตัวเอง ไม่มีอะไรจะเจ็บปวดเท่ากับการที่พี่น้องสายเลือดเดียวกันจะประหัตประหารฟาดฟันให้อีกฝ่ายย่อยยับไปด้วยมือตัวเองอีกแล้ว หัวใจของคนเป็นแม่ปวดร้าวจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ พร้อมจะทรุดลงทุกเมื่อ“เป็นเพราะเราๆไม่ยอมอธิบายถึงเหตุผลที่เรากำลังทำมากกว่าค่ะ ยกตัวอย่างที่คุณลดาไม่ยอมบอกว่าที่ต้องทำเมนูปลาเป็นประจำเพราะคุณฟลอท้องอืดบ่อยๆ ทำให้คุณฟลอคิดเป็นตุเป็นตะว่าเป็นของโปรดคุณเว แต่เรื่องอื่นๆ จันทร์ว่าคุณลดารักคุณฟลอมากกว่าจริงๆค่ะ” จันทร์สรุปไปตามความเป็นจริงเพราะบางอย่างคุณลดาตามใจคุณฟลอเรนซ์จริงๆ ให้ทำในสิ่งที่ชอบ ทั้งยังให้เลือกคู่ครองด้วยตัวเองและมีอิสระมากกว่า ส่วนคุณเวนิสต้องทำงานงกๆเป็นเสาหลักให้ครอบครัว ไม่เคยได้ทำในสิ่งที่ชอบเลย“มันจริงนะ ฟลอน่ะเค้าเกิดมาก็ไม่แข็งแรงตัวก็เล็กบอ
Chapter 24“ขอบคุณพี่ภามที่ช่วยฟลอไว้นะคะ ถ้าไม่ได้พี่ภาม..ฟลอก็คง..” เสียงของฉันสั่นพร่าอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยเพราะความรู้สึกเสียใจ ผิดหวังที่พี่สาวแท้ๆคิดร้ายกับตัวเอง ที่ผ่านมาถึงแม้ฉันจะมีความอิจฉาพี่เวแต่ก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายพี่เวเลยสักครั้ง ได้แต่เก็บความริษยาไว้ในใจและทำได้แค่ระบายมันกับคนสนิทเท่านั้น ทว่าเธอกลับถึงขั้นจ้างเทวาวางยาและถ่ายวิดิโอแบล็คเมล์เพื่อจะให้พี่ภามเลิกกับฉัน พี่บีบี๋เสียอีกที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันยังรักและหวังดีมากกว่าพี่เวด้วยซ้ำ“ไม่เป็นไรนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มเจือความห่วงใยของคนรักทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น พี่ภามยังคงกอดฉันไว้ในอ้อมแขน ไออุ่นจากอ้อมกอดนั้นช่วยเยียวยาสภาพจิตใจของฉันได้ดีเหลือเกิน“คุณภามจะให้ผมพาไปที่ไหนครับ” เชฟพริกเอ่ยถาม เขากำลังขับรถคันหรูออกจากบ้านของฉันออกสู่ถนนเส้นหลัก“ไปคอนโดของฟลอเรนซ์” พี่ภามตอบพร้อมกับกอดฉันแน่นขึ้น มือถือของฉันสั่นระรัวข้อความจากแชทสีเขียวนับสิบจากพี่บีบี๋พร้อมทั้งสายไม่ได้รับอีกหลายสาย ฉันจึงโทรเล่าเรื่องราวเมื่อคืนแบบคร่าวๆพร้อมทั้งบอกผู้จัดหนุ่มหัวใจสาวว่าฉันสบายดีไม่ได้เป็นอะไร[ ไม่ให้ไปหาแน่นะ ] พี่บี๋ถามย้ำ
Chapter 23“พี่ภามพาฟลอมาที่บ้านทำไมคะ” ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเราเพิ่งจะมาทานข้าวที่บ้านของฉันเมื่อวานนี้เอง พี่ภามกุมมือของฉันแน่นซึ่งเขาก็แทบไม่ได้ปล่อยมือของฉันเลยตั้งแต่เมื่อคืน เขาพาฉันเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารซึ่งทุกคนในครอบครัวของฉันนั่งทานมื้อเช้าอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา“สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่” พี่ภามยกมือไหว้พ่อแม่ของฉัน ทั้งยังเรียกว่าพ่อกับแม่อย่างสนิทสนม“ภาม วันนี้ป้าจันทร์ทำข้าวต้มปลากะพงที่ภามชอบกินด้วยนะ” พี่เวส่งยิ้มกว้างดวงตากลมโตฉายแววความดีใจที่เจอผู้ชายที่ตัวเองหลงรัก พี่สาวแท้ๆของฉันไม่ทักทายฉันแม้เพียงคำเดียว พี่ภามไม่ได้ตอบรับหรือยกมือไหว้พี่เวเหมือนอย่างเคย ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึง มือหนาบีบมือฉันเบาๆคล้ายจะส่งผ่านพลังงานบางอย่าง นั่นทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจเสมอเมื่อได้อยู่ใกล้เขา“ป้าจันทร์ทำน้ำอัญชันมะนาวด้วยนะ เวรู้ว่าภามชอบน้ำสมุนไพรรสเปรี้ยว มันทำให้ภามสดชื่น” พี่เวยังคงยิ้มไม่ได้รู้สึกเสียหน้าที่พี่ภามไม่ได้สนใจตัวเองเลยสักนิด พี่เวก็เป็นอย่างนี้แหละชอบเอาชนะ ทว่าฉันรู้สึกเชื่อมั่นในตัวของคนรักมากกว่าที่จะมาคิดอะไรหยุมหยิม ทำให้สติแตกตามเกมของพี่เว