2
สปอนเซอร์ใหญ่
“โคตรอายเลยว่ะ” ซานพูดกับอบอุ่นหลังจากเดินออกมาจากส่วนต้อนรับของโรงแรม
“ก็บอกแล้วว่าอย่าทำๆ “ ชายร่างเล็กกว่าบ่นอุบ
เมื่อสักครู่ พวกเขาได้เข้าไปพูดคุยแนะนำตัวกับพนักงานต้อนรับ โดยได้ฝากข้อมูลเกี่ยวกับ Blog, YouTube channel และประวัติการทำงานที่ผ่านมาคร่าวๆ ไว้ เผื่อทางโรงแรมจะสนใจให้พวกเขาช่วยประชาสัมพันธ์โดยการให้สิทธิ์ที่พักฟรีสำหรับเอาไปแจกแฟนคลับ หรืออาจจะให้สิทธิสำหรับใช้บริการอื่นๆ ของรีสอร์ทให้พวกเขาได้รีวิว
จริงๆ แล้วอบอุ่นไม่อยากจะทำแบบนี้เลย แน่นอนล่ะว่าสมัยนี้พวกนักรีวิวมีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เยอะแยะยั้วเยี้ยยิ่งกว่ามด พวกที่ได้รับความนิยมเพราะมีเกมมาให้เล่น มีของมาแจกบ่อยๆ ก็เยอะ พวกที่ดังแล้วหายเงียบไปก็มี หรือพวกที่รีวิวอวยมากเกินเหตุก็เยอะ ไหนจะพวกที่หน้าด้านไปขอสนับสนุนที่พักจากคนอื่น แล้วรีวิวแบบขอไปทีบ้างล่ะ
วงการนี้มันเริ่มเละเทะจนอบอุ่นตั้งปณิธานไว้ว่าเขาจะรับงานแค่เวลามีสปอนเซอร์ติดต่อมาเท่านั้น จะไม่หน้าด้านไปของานจากที่พักต่างๆ ด้วยตัวเองเด็ดขาด
แต่สุดท้ายด้วยทนการรบเร้าจากซานไม่ได้ เลยต้องบากหน้ามาเป็นเพื่อน ปล่อยให้ซานเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างเอาเอง โดยที่มันบอกว่า ถ้าได้แพ็คเกจที่พักฟรีมาหลายอันล่ะก็... จะเก็บไว้ใช้กับแฟนอันนึง แล้วที่เหลือถึงจะเอาไว้แจกแฟนคลับ
เหอะๆ ... ไม่ค่อยจะเห่อแฟนเลย
แน่ล่ะ ก็แฟนมันสวยหวานมาก แต่เป็นสวยหวานแบบทันคน ไม่จืดชืด และมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ได้ตลอด จนบางทีอบอุ่นยังแอบอิจฉาไอ้ซานที่ได้แฟนดีมากเลย
ถ้าหากเขามีแฟนบ้างล่ะก็...
อืม... คงต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ เสียงเจื้อยแจ้วน่าฟังล่ะมั้ง
“แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาโอเคดีนี่หว่า” เสียงของซานดึงให้อบอุ่นหลุดออกจากภวังค์
“เออ ดี! ดีที่เขาไม่ปาของไล่แกออกมาไงล่ะ! “
“พูดเว่อร์ไปละ ไม่เห็นหรือไงว่าพนักงานยังพูดคุยยิ้มแย้มอยู่เลย”
อบอุ่นได้แต่กลอกตาใส่อีกฝ่าย ที่พนักงานคอยรับฟังอย่างใจดีและบอกว่าจะรับเรื่องไว้ให้เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขาต่างหากเล่า! รีสอร์ทห้าดาวที่ไหนเขาก็ต้องทำกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ แต่เรื่องที่รับไปจะไปถึงฝ่ายมาร์เก็ตติ้งหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
แม้จะมั่นใจว่าฝ่ายนั้นคงจะไม่ตอบรับอะไร แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกขนลุกแปลกๆ รู้สึกเหมือนกำลังจะมีเรื่องอะไรสักอย่างเกิดขึ้น...
และเป็นเรื่องที่ชวนให้ไม่สบายใจเอามากๆ
“คุณธันวาครับ ผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของ The Diamond Pearl สาขานี้ ต้องการเข้าพบครับ”
“อืม ให้เข้ามา”
หลังสิ้นคำตอบรับของร่างใหญ่ หัวหน้าฝ่ายมาร์เก็ตติ้งซึ่งแต่งตัวใส่สูทผูกเน็กไทอย่างเรียบร้อย ก็เปิดประตูห้องทำงานส่วนหลังของบ้านพักซึ่งมองเห็นวิวภูเขาและน้ำตกจำลองเข้ามา เพื่อพบกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเมืองไทย ซึ่งรวมไปถึงอาณาเขตอันกว้างใหญ่อย่าง The Diamond Pearl Hotel & Resort สาขากระบี่แห่งนี้ด้วย
เศรษฐีวัยเพียงสามสิบห้าปีนั่งเอนหลังอ่านไอแพดในมือ เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตฮาวายและกางเกงขาสามส่วนสบายๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนเป็นการส่วนตัว
รอยสักอันเป็นเอกลักษณ์บนกล้ามแขนขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง และขนาดรูปร่างอันใหญ่โตเหมือนลูกครึ่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ประกอบกับเสื้อผ้าแบบสบายๆ นั้น หากไม่มีใครบอกว่าเขาคือผู้บริหารและเจ้าของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทุกอย่างล่ะก็...ทุกคนคงนึกว่าเขาคนนี้เป็นนักกีฬาหรือมาเฟียที่ไหนเสียมากกว่า
“สวัสดีครับ นายหัว”
ตอนนี้ธันวาอยู่ที่ภาคใต้ จึงไม่แปลกที่จะถูกพนักงานเรียกว่า ‘นายหัว’ อีกหนึ่งฉายาที่เสริมสร้างความยำเกรงและน่าเคารพนับถือ
“ว่ามาเถอะ” ธันวาผายมือชวนอีกฝ่ายให้นั่งลง ก่อนจะวางไอแพดในมือ
“พอดีแขกสองคนนั้นเขาได้มาติดต่อกับแผนกต้อนรับเพื่อขอรับการสนับสนุนจากทางเราครับ นี่เป็นเอกสารคร่าวๆ ที่ผมจัดทำขึ้นให้นายหัวได้เห็นภาพ”
สมกับที่เป็นผู้จัดการ เขาเข้าเรื่องทันทีไม่มีการเวิ่นเว้อ สรุปทุกอย่างออกมาอย่างกระชับและรวดเร็ว
ธันวารับแฟ้มเอกสารขนาดเล็กไปเปิดดูคร่าวๆ สีหน้านิ่งเฉย ไม่มีใครสามารถเดาความคิดของเขาได้ แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มวาบขึ้นชั่วขณะเมื่อเห็นภาพของคนที่เขาจับตามองอยู่เมื่อวาน
ร่างหนากวาดตาอ่านคร่าวๆ ก่อนจะส่งแฟ้มคืนอีกฝ่ายไป
“ขอบใจมาก เดี๋ยวฉันจะสั่งการผ่านมาร์คไปอีกทีแล้วกัน” ธันวาหมายถึงบอดี้การ์ดคนสนิท
“ครับ นายหัว” รับคำเสร็จ ก็จากไปทันที แทนที่ด้วยบอดี้การ์ดที่เดินเข้ามาหาอย่างรู้หน้าที่
“วันนี้อบอุ่นทำอะไรบ้าง”
“ไม่รู้ครับ”
แววตาคมปลาบตวัดขึ้นมองอีกฝ่ายทันทีจนคนเป็นลูกน้องต้องโอดครวญ
“โธ่~ ก็คุณธันวาให้ผมรับรองเขาแบบปกตินี่ครับ ผมเลยไม่ได้สนใจอะไร” ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นหนักขนาดนี้ ถึงแม้เขาจะแจ้งให้ทางโรงแรมคอยมารายงานข่าวเวลาสองคนนั้นมาติดต่อขอความช่วยเหลือหรือมีปัญหาอะไรก็เถอะ แต่ใครเขาจะบ้าไปคอยตามติดพฤติกรรมอีกฝ่ายขนาดนั้นกันล่ะ
“อ้อออ จะบอกว่าฉันพูดไม่เคลียร์สินะ”
“ไม่เลยครับ ไม่ ผมผิดเองครับ”
“อย่าทำให้ฉันผิดหวังอีกล่ะ ไปหาข้อมูลมาภายในสิบนาที”
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งนั้น ลูกน้องคนสนิทที่ต้องคอยเดาใจ คอยรู้ใจนายอยู่เสมอ ก็รีบจรลีออกไปหาข้อมูลอย่างเร่งด่วน ปล่อยให้เจ้านายหยิบไอแพดขึ้นมาเล่นต่ออย่างสุขสบายใจ
สิบนาทีผ่านไป
มาร์คเดินอ้อมตัวบ้านพักมาที่ห้องทำงานข้างหลังบ้านซึ่งขณะนี้ผนังกระจกด้านหนึ่งถูกเปิดโล่งต่างจากตอนแรก เผยให้เห็นร่างหล่อเหลาสมส่วนของเจ้านายซึ่งกำลังนอนหันหน้าออกมาทางน้ำตก แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่หน้าจอไอแพด รอยยิ้มน้อยๆ ผุดออกมาแบบที่มาร์คแทบไม่เคยได้เห็นมาก่อน
โอ้มายโกสต์ เกิดอะไรขึ้นกับคุณธันวา!
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ความจริงยิ่งถูกเปิดเผย เมื่อเสียงแหบพร่าแบบชายหนุ่มแต่ค่อนข้างนุ่มนวลดังออกมาจากลำโพงของไอแพดเครื่องนั้น
‘หนาวโคตรรร หนาวจนแข็งไปหมดแล้วครับ ใครจะนึกว่าอุณหภูมิแค่หกองศาบนยอดดอยจะทำให้รู้สึกหนาวได้ขนาดนี้ นี่ขนาดเดินตั้งเยอะแล้วยังไม่ค่อยช่วยให้หายหนาวเลยครับ โหย ใครจะมาก็อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวดีๆ มาล่ะ อย่าเป็นคนขี้เกียจแบกของแบบผม... ฯลฯ ‘
เสียงที่ดังออกมานั้นฟังไม่คุ้นหูเลยสักนิด แต่หากจะให้เดาคงไม่พ้นเป็นวีดีโอของ vlogger นามว่าอบอุ่น คนที่เจ้านายกำลังสนใจอยู่แน่ๆ
“คุณธันวาครับ”
มาร์คส่งเสียกเรียก ทำให้ธันวากดหยุดคลิปวีดีโอนั่นไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ แตกต่างจากเมื่อสิบนาทีก่อนลิบลับ
“ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณธันวามานานแล้วนะครับ”
“ฉันก็ยิ้มเป็นปกติ จะให้ฉันยิ้มให้แกหรือไง? “
มาร์คลองนึกภาพตาม ก่อนจะส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่ดีกว่าครับ คงจะขนลุกน่าดู”
ธันวาหยิบแก้วน้ำมะพร้าวขึ้นมาจิบ รอให้ลูกน้องรายงานข่าวที่ตัวเองสั่งการไป
“ขณะนี้คุณอบอุ่นกับคุณซานกำลังล่องเรือไปตามเกาะย่อยต่างๆ เพื่อดำน้ำชมปะการังครับ และจะกลับมาในตอนเย็นเพื่อร่วมปาร์ตี้บาร์บีคิวอาหารทะเลริมหาดของโรงแรมเรา”
“ต่อสิ...”
“ทั้งสองคนจะพักที่นี่ถึงวันพรุ่งนี้เท่านั้น แล้วจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดกระบี่ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพครับ ส่วนนี่เป็นประวัติต่างๆ ของทั้งคู่ รวมถึงประวัติครอบครัวของคุณอบอุ่นด้วย”
มาร์คยื่นไอแพดของตนให้อีกฝ่าย
“ข้อมูลทั้งหมดผมส่งเข้าอีเมลล์ของคุณธันวาเรียบร้อยแล้วครับ”
เมื่อรายงานเสร็จ มาร์คก็ยืนนิ่ง มองเจ้านายที่กำลังจ้องไปทางผีเสื้อที่บินวนเวียนอยู่รอบดอกไม้ป่าข้างน้ำตก
ชั่วอึดใจหนึ่ง ธันวาก็เริ่มพูดขึ้น
“จัดการส่งแพ็คเกจกิจกรรมแอดแวนเจอร์ทั้งทางน้ำและทางอากาศทุกอย่างให้สองคนนั้น และให้แพ็คเกจที่พัก อาหาร สปา ฟรีไปด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเริ่มใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เท่านั้น อ้อ... ให้แพ็คเกจที่พักฟรีให้สองคนนั้นได้ไปแจกเหล่าแฟนคลับด้วยล่ะ อันนั้นจะเข้าพักเมื่อไหร่ก็ได้”
มาร์คจดทุกอย่างที่เจ้านายบอกลงในโทรศัพท์มือถือของตน
“เรื่องที่พักนี่คือ? “
“ไม่เอาที่เดิม ให้ที่พักที่วิลลาเชิงเขา เห็นวิวทะเลและเกาะ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่หนึ่งคืน อีกคืนให้พักที่เกาะส่วนตัวของฉัน...”
“...”
“และที่สำคัญ... ทำให้ทั้งสองคนนั้นแยกห้องกันให้ได้ด้วยล่ะ”
ธันวาสั่งทิ้งท้ายด้วยแววตานุ่มลึก มุมปากกระดกขึ้นน้อยๆ อย่างหมายมาด
3ลงทัณฑ์เด็กดื้อ ขึ้นชื่อว่าทะเล กิจกรรมที่ให้ทำก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการล่องเรือ เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง กินอาหารทะเล หรือชมพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก แผนการท่องเที่ยวของอบอุ่นก็ไม่มีอะไรพิเศษไปจากนั้น เขาเพียงจอง One-day trip สำหรับล่องเรือชมเกาะเล็กๆ ทั้งสามเกาะ และดำน้ำชมปะการังเท่านั้น เป็นกิจกรรมที่เรียกได้ว่า หากจะเอาไปรีวิวก็ดูจะธรรมดาเกินไป แต่ด้วยคอนเซ็ปของ vlog คือท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ได้ตะบี้ตะบันสรรหาแหล่งท่องเที่ยวลับๆ หรือสถานที่ที่มันหายากอะไร เขาเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ โชคก้อนใหญ่ก็หล่นลงตรงหน้า ระหว่างที่กำลังกินอาหารเที่ยงบนเรือเฟอร์รี่กันอยู่ พวกเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของโรงแรม พร้อมกับข่าวดีน่าเหลือเชื่อมากมาย ทำเอารีบตอบรับไปอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น เพิ่งมานึกถึงปัญหาอื่นๆ ได้ก็เอาเมื่อวางสายไปแล้ว “ซาน เราลืมไปว่าเราอยู่ต่อไม่ได้อ่ะ มะรืนนี้ต้องไปค่ายอาสาของคณะวิศวะด้วยสิ” ถึงช่วงนี้จะปิดเทอมอยู่ก็จริง แต่แน่นอนว่านักกิจกรรมอย่างอบอุ่นไม่เคยปล่อยเวลาว่างให้เปล่าป
4คร่อมขี่ “ทำไมวันนี้มึงดูเนือยๆ จังวะ” ซาน เจ้าของร่างสูงโปร่งถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินตามพนักงานของรีสอร์ทไป เขาสังเกตมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้วว่าวันนี้เพื่อนสนิทของตนดูจะเงียบและใจลอยเป็นพิเศษ “คงเพราะนอนน้อยล่ะมั้ง” “นอนน้อยอะไร มึงเป็นคนหนีเข้าห้องไปนอนก่อนเราอีกไม่ใช่หรือไง” “ช่างมันเถอะน่า” ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันจะชวนให้สับสนและน่าอึดอัดใจแค่ไหน แต่เขาไม่มีทางเอาเรื่องเหล่านี้ไปบอกกับเพื่อนของตนแน่ ให้บอกว่าตัวเองโดนตาลุงที่ไหนก็ไม่รู้ปล้นจูบเนี่ยนะ!? โคตรน่าขายหน้าเลย “นี่ไม่ตื่นเต้นที่จะได้เล่นพาราเซลลิ่งเลยเหรอ” “ก็ตื่นเต้นแหละ” แต่มันมีเรื่องอื่นคอยผุดขึ้นมารบกวนอยู่ตลอดนี่สิ “ตื่นเต้นแต่ยังนิ่งอยู่ได้ โคตรน่านับถือเลยว่ะ โอ๊ะ! “ จู่ๆ ซานก็อุทานขึ้น “นั่นไง มีคนกำลังเล่นอยู่ด้วย โอ้ยยย ขนาดเห็นไกลๆ ยังหวาดเสียวแทนเลย มือเราสั่นไปหมดแล้วเนี่ยยย” อบอุ่นมองตามสายตาของเพื่อนขึ้นไปยังท้องฟ้าเหนือน้ำทะเล เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังลอยอยู่บนฟ้าด้วยร่มชูชีพ ในขณะที่ปลายเชือกขนาด
5นวด ตอนนี้ซานกำลังเผชิญอยู่กับอาการโกรธเงียบของอบอุ่น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาแอบไปอ้วกกันแน่ พอกลับมาเจอกันที่ที่พักใหม่ ดันเจออีกฝ่ายทำท่าทางปั้นปึ่งใส่ซะงั้น หรือว่ามันจะเซ็งที่ไม่ได้อยู่เอ็นจอยกับวิลล่าขนาดใหญ่นี้กันฟระ? "เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เราไปห้องน้ำกันแน่วะ" ในที่สุดก็ทนความอึดอัดไม่ไหวจนต้องทำลายความเงียบออกไป แต่ปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่ายกลับเป็นเพียงแค่การถอนหายใจยาว และสะพายกระเป๋าเป้ที่จัดไว้เรียบร้อยตั้งแต่เช้า เตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง "ไม่ถามแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งรีบกลับดิ อยู่สปาเป็นเพื่อนกันก๊อนนน" ซานฉุดแขนเพื่อนไว้แทบจะไม่ทัน "เราอยากรีบไปรอที่สนามบินน่ะ ถ้าออกเย็นเดี๋ยวรถติด" ฟังดูก็รู้ว่ามันเป็นข้อแก้ตัว อบอุ่นต้องมีเรื่องอะไรที่บอกเขาไม่ได้แน่ๆ สงสัยคงจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายน่าดู "ไหนๆ มึงก็จะทิ้งเราให้นอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจแล้ว ช่วยอยู่เป็นเพื่อนกันอีกสักหน่อยไม่ได้เหรอวะ" ชายหนุ่มทำท่าทางออดอ้อน ดูน่าขนลุกขนพองซะจนอบอุ่นต้องรีบสะบัดแขนหนีก่อนที่มันจะลวนลามตนไปมากกว่
6นาบ "ลุงอีกแล้วเหรอ! " อุทานอย่างตกใจเสร็จ ก็พยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอีกฝ่าย แต่ลำขาใหญ่ที่กดทับขาทั้งสองข้างของเขาไว้ ทำให้ร่างเล็กถูกกักขังโดยสมบูรณ์ "พูดจาได้น่าขัดใจอีกแล้วนะ" ธันวาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะปิดปากเล็กๆ นั่นลงด้วยปากของตน ขบเม้มแรงๆ เป็นการลงโทษเสียหนึ่งที "ทีนี้จะเรียกให้ถูกได้หรือยัง" "แกมัน! ฮึ่ย! " อบอุ่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขัดใจที่ทำอะไรร่างใหญ่ข้างบนไม่ได้ ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งเจ็บไปหมด "อ๊ะๆ ไม่สุภาพเลยนะ" สายตาคมปลาบที่จ้องมาทำให้อบอุ่นรู้สึกเย็นยะเยือก เมื่อเห็นว่าอบอุ่นเงียบลง ธันวาก็เริ่มใช้สายตาโลมเลียไปทั่วร่างข้างใต้ พลอยให้อบอุ่นสำนึกได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยกายอยู่ นอกจากนี้สายตาอันแผดเผานั่นยังทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนแทบไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป "คุณธันวา..." เสียงสั่นๆ เอ่ยออกไป แต่มันเบาซะจนแทบไม่ได้ยิน "หืม..." "ปล่อยผมเถอะนะ... นะครับ" สายตาออดอ้อนที่ใช้เป็นประจำกับคุณแม่ถูกขุดขึ้นมาใช้ แต่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่ามันกลับเป็นตัวเร่งเชื้อเพลิงให้โหมกระหน่ำยิ่งข
7ค่ำคืนอันเงียบงัน “เฮ้ย! นี่มึงจะกลับแล้วเหรอวะ” ซานถามอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนกำลังหยิบคีย์การ์ดห้อง กระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือออกจากล็อกเกอร์ โดยที่ผมยังคงเปียกอยู่เหมือนคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในขณะที่เขาเพิ่งจะนวดเสร็จเรียบร้อย เตรียมจะไปสครับผิวต่อ “อือ เราต้องกลับแล้วว่ะ ไว้เจอกันที่กรุงเทพนะเว้ย” อบอุ่นที่อยู่ในชุดลำลองแบบเดิมกับตอนแรกที่เข้ามารีบบอกลาเพื่อน ก่อนจะเดินหนีจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ซักต่อ ความจริงแล้วเขาไม่ได้อาบน้ำหรอก แค่ล้างตัวลวกๆ กะจะไปอาบน้ำอีกทีที่วิลล่า แล้วก็ไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าด้วย ชายหนุ่มเดินเข้าไปในวิลล่าแฝดขนาดใหญ่ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองหลัง แต่มีส่วนเชื่อมติดกันด้วยห้องทำงานที่อยู่ตรงกลาง เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้จัดการฝ่ายการตลาดถึงได้ให้ที่พักที่ใหญ่ขนาดนี้กับพวกเขา แถมยังให้คีย์การ์ดมาครบทั้งสองหลังอีก ทั้งที่คืนนี้จะมีคนที่มานอนพักเพียงคนเดียวก็คือไอ้ซาน ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องอาบน้้ำซึ่งเป็นกระจกขนาดใหญ่ และรู้ว่ามีเทคโนโลยีที่สามารถกด
8มอบความอบอุ่น "มาร์ค" "ครับ คุณธันวา" ร่างสูงใหญ่ของบอร์ดี้การ์ดโผล่ออกมาจากมุมมืดหลังจากที่เขาคอยเดินตามคุ้มกันเจ้านายอยู่ห่างๆ เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ห้องอาหารจนกระทั่งคุณธันวาเดินมาส่งคุณอบอุ่นถึงที่พัก ถึงแม้มันจะมืดมาก แต่แว่นตามองกลางคืนที่เขาสวมอยู่ ทำให้เห็นฉากที่น่าเหลือเชื่อนั่นอย่างชัดเจน มันน่าเหลือเชื่อมากที่เจ้านายตนจะมีมุมอบอุ่นแบบนี้ อืม... จริงๆ เขาก็เคยเห็นเจ้านายเทคแคร์สาวๆ บ้างเป็นบางครั้งแหละนะ แต่ส่วนใหญ่สาวๆ เหล่านั้นจะเป็นคนที่ทำให้เจ้านายพอใจ (เรื่องบนเตียง) จนยอมเทคแคร์ ตรงข้ามกับคนที่คอยหาเรื่องหนีเจ้านายตลอดเวลาแบบคุณอบอุ่นนี่สิ "นายแน่ใจนะว่ามันจะได้ผลจริงๆ" ธันวาที่กำลังเดินกลับไปยังที่พักของตนถามขึ้น "ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่หรอกครับ แหะๆ" เรื่องที่เจ้านายพูดถึงคงไม่พ้นเรื่องคุณอบอุ่นนั่นแหละ แต่เขาไม่ชัวร์ว่าคำถามของเจ้านายหมายถึงอะไรกันแน่ เลยต้องตอบแบบปลอดภัยไว้ก่อน "นายบอกให้ฉันเข้าหาเด็กนั่นแบบคนปกติ ฉันก็ทำแล้ว" "..." อ้อ... ที่เจ้านายทำตัวอ่อนโยนนี่เป็นเพราะคำแ
9เนื้อแนบเนื้อ กระป๋องน้ำอัดลมเย็นเฉียบถูกแนบเข้ากับข้างแก้มของชายหนุ่มซึ่งกำลังยืนเกาะขอบเรือเฟอร์รี่ขนาดเล็กอยู่ ทำให้ชายคนนั้นสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิดของตน พอหันไปเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็รับน้ำกระป๋องนั้นมาอย่างเต็มใจ แต่ไม่ลืมที่จะเอาคืนโดยการแตะกระป๋องเย็นๆ ลงบนแขนอีกฝ่ายแรงๆ เรียกเสียงร้องโอดโอยอย่างโอเวอร์จนทำให้คนแก้แค้นหลุดหัวเราะ “สมน้ำหน้า!” “โห คนเขาอุตส่าห์เอาน้ำมาให้ ใจร้ายว่ะ” อบอุ่นไม่สนเสียงโวยวายของซาน เปิดฝากระป๋อง ยกขึ้นกระดก และเอี้ยวตัวกลับไปชมวิวทะเลเหมือนเดิม ขณะนี้พวกเขากำลังเดินทางไปยังเกาะขนาดเล็ก เพื่อไปดำน้ำดูปะการังและสัตว์ทะเลตรงจุดที่เขาว่ากันว่าสวยที่สุดในย่านนี้ แถมเมื่อเช้ายังมีข่าวชาวประมงหลายคนเจอฝูงปลาโลมาว่ายอยู่แถวๆ ทางที่จะไปเกาะด้วย หากโชคดีจริง พวกเขาคงจะได้เจอ จริงๆ เกาะนั้นอยู่ไม่ห่างจากเกาะส่วนตัวมากนัก จะนั่งเรือหางยาวลำใหญ่ไปแทนยังได้เลย แต่ด้วยความที่มีตาลุงมหาเศรษฐีอย่างธันวาไปด้วย ก็เลยต้องใช้เรือเฟอร์รี่โดยสารเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย “มึงสนิทกับคุณธันวาได้ไง
10เกินทน บรรยากาศอันเงียบผิดปกติทำให้ธันวาต้องขยับตัวเพื่อให้สามารถมองเห็นใบหน้าของคนในอ้อมกอดได้ และเปลือกตาที่ปิดสนิทเผยให้เห็นขนตายาวคือคำตอบของความเงียบนั้น ท่าทางจะเพลียจัดถึงได้หลับไปทั้งแบบนี้ ธันวายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว พิศดูใบหน้าแสนธรรมดาแต่สามารถมองได้ไม่รู้เบื่อนั้นอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเนิ่นนานเพียงใดที่เขาเอาแต่จ้องมองใบหน้านั่น “อบ” รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงเรียกหาอบอุ่นของซานที่ดังเข้ามาในห้องโดยสารเพียงหนึ่งเดียวของเรือ ทำให้ธันวาต้องรีบกดสัญญาณบนนาฬิกาข้อมือเพื่อเรียกบอร์ดี้การ์ดของตนมาสั่งงาน “สั่งให้เรือกลับเข้าฝั่งเลย ไม่ต้องไปที่ไหนต่อ แล้วก็จัดการเรื่องซานให้ด้วยล่ะ” ร่างเปลือยท่อนบนของผู้ชายสองคนที่กำลังกอดกันอยู่ และเสียงกระซิบสั่งการเบาซะจนแทบจะไม่ได้ยินเหมือนไม่อยากให้คนในอ้อมกอดตื่นขึ้นมา ประกอบกับการเกร็งตัว ไม่กล้าขยับของเจ้านาย ทำให้มาร์ครีบพยักหน้ารับคำ ก่อนจะออกไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว เปลือกตาของชายหนุ่มบนเตียงกว้างเปิดขึ้นนิดหนึ่งอย่างงัวเงีย มือบางควานหา
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว
21ท่ามกลางแสงจันทร์ “พอได้แล้วมึง จะรีบดื่มทำไมวะ” โอ๊ตเป็นคนเดียวที่พยายามจะห้ามอบอุ่นในเวลานี้ ในขณะที่คนอื่นเอาแต่ชวนให้เพื่อนตนดื่มจนตัวแดงไปหมด “ของอร่อยก็ต้องกินเยอะๆ ดิวะ” อบอุ่นปฏิเสธความหวังดีนั้น คำพูดของเด็กหนุ่มตรงกับความจริงเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น จริงอยู่ที่ว่าเหล้าในวงเหล้าคืนนี้อร่อยเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นเหล้าขาวที่ผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลมจนอร่อยเหมือนค็อกเทล แต่เพราะการพ่ายแพ้จากงานกีฬาสีในช่วงบ่ายจนเขาได้กินแต่เพียงข้าวกับผัก ประจวบกับวล๊อกที่เพิ่งอัพลงยูทูปโดยต้นกล้า คนที่ตัดต่อวีดีโอให้เขา แล้วปรากฏว่าผลตอบรับไม่ดีเท่าเมื่อก่อน อีกทั้งเพจเฟซบุ๊กก็โดนลดการเข้าถึง ทำให้อบอุ่นต้องดื่มเหล้าแก้อาการหงุดหงิดใจที่กำลังเป็นอยู่ โชคดีที่ธันวาไม่อยู่ เพราะต้องกลับไปทำงานอะไรสักอย่าง เขาเลยมีโอกาสได้ดื่มอย่างเต็มที่ จริงๆ แล้วมันอาจจะถือว่าเป็นโชคร้ายก็ได้ เพราะพอธันวาไม่อยู่ เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารสุดรันทดตอนมื้อเย็นไปได้ ถึงเขาจะไม่ชอบการใช้สิทธิพิเศษใดๆ แต่ลึกๆ แล้วก็อดคิดถึงความสะดวกสบายเมื่อมีคนตัว
20อ้อน "คุณธันวาครับ" น้ำเสียงจริงจังของบอร์ดี้การ์ดคนสนิทเรียกให้เจ้านายที่กำลังยืนคิดอะไรบางอย่างอยู่หันไปมอง "หืม" ถึงแม้จะขับรถมาค่ายกันเพียงสองคน แต่ด้วยความที่สถานที่ในค่ายเป็นสถานที่เปิด ไม่มีการคุ้มกันหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยใดๆ บอร์ดี้การ์ดของธันวาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยตามอยู่ห่างๆ และในบางช่วง...อย่างเช่นตอนนี้ ธันวาเรียกมาร์คเพื่อให้มารายงานสถานการณ์หรืองานที่สั่งให้ไปทำ "เรื่องเอกสารที่จะต้องเซ็น..." "เดี๋ยวเย็นนี้ฉันกลับไปจัดการเอง" แค่แว๊บไปนิดเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะโรงแรมของเขาอยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น "เรื่องยาหยีที่ฉันให้นายคอยจัดการเป็นยังไงบ้าง" ธันวาหมายถึงคู่ขาคนล่าสุดของเขาที่ห่างหายกันไปนานเป็นเดือน จนคิดว่าน่าจะจบกันไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ก็ยาหยีก็กลับมาเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง ถึงจะเรียกว่าคู่ขา แต่ระดับความสัมพันธ์ของเขากับเธอค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว จนมาร์คเคยคิดว่ายาหยีจะได้ขึ้นเป็นตัวจริงของธันวาในเร็ววันนี้ แต่จู่ๆ คนทั้งคู่ก็ห่างเหินกัน จนในที่สุดธันวา
19ความผิดสามกระทง “เหล้าจะหมดแล้ว อบไปซื้อให้พวกพี่หน่อยนะ” ดินสั่งพร้อมกับยื่นแบงค์สีเทามาให้ ด้วยความที่ดื่มกันเพลินไปหน่อย ในที่สุดวิสกี้ขวดใหญ่ราคาเป็นหมื่นอีกขวดที่เพิ่งเปิดหลังจากอบอุ่นมานั่งก็หมดลงอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาพักกลางวัน “ไม่ต้อง พี่มีวอดก้าอยู่ในรถ เดี๋ยวไปเอาให้” ธันวารีบแทรกขึ้นมาก่อนที่คนข้างกายจะทันได้ขยับตัว ตั้งแต่ได้ฟังประโยคอันชวนน่ากังวลถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเขาเข้าไป อบอุ่นก็เก็บปากเก็บคอ นั่งขัดสมาธิคอยชงเหล้าให้เหล่าพี่ๆ ดื่มอย่างเรียบร้อย ไม่คิดจะดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มอีก ถึงแม้ว่ามันจะอร่อยสมกับราคาอันแพงหูฉี่แค่ไหนก็ตาม อบอุ่นเพิ่งจะรู้สึกตัว หลุดออกจากความคิดอันยุ่งเหยิงในหัว ก็เมื่อน้ำหนักของแขนใหญ่บนบ่าได้หายไป... เป็นธันวาที่ลุกขึ้นเดินไปเอาของในรถยนต์ที่จอดไว้หน้าอาคารนอน “พวกมิกซ์กับน้ำแข็งเหลือน้อยแล้ว เดี๋ยวผมไปซื้อให้ก็แล้วกันครับ” เขารีบอาสากับพวกพี่สองคนที่คนนึงเริ่มนอนเลื้อย ส่วนอีกคนนึงก็สับไพ่เล่นอย่างเบื่อๆ “เออ ดีเหมือนกัน เอารถพี่ไปเปล่า หรือว่าจะเดินไป?” ดินถาม