22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
1นายหัวเป็นอะไรไป ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ "โอ้โห ดูดีกว่าที่คิดว่ะ นึกว่าภาพจะหลอกลวงซะแล้ว" เสียงอุทานอย่างตื่นตาตื่นใจของชายหนุ่มร่างสูงดังขึ้นเมื่อพวกเขานั่งรถกอล์ฟเข้ามาถึงข้างในอาณาเขตรีสอร์ทขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ติดกับทะเล และเต็มไปด้วยบ้านพักมากมายที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่มีธีมต่างกันเล็กน้อย การใช้สีและตกแต่งก็เข้ากับธรรมชาติเป็นอย่างดีจนชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้แต่ละหลังยังอยู่ห่างกันพอสมควร ทำให้ผู้เข้าพักได้รับความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก "บอกแล้วว่าเราเลือกไม่พลาด" เสียงที่สองดังมาจากชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน ความสูงมาตรฐานชายไทย ใบหน้าเรียบเนียนจัดได้ว่าพอดูดี ก่อนที่เขาจะยกกล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดของตนขึ้นมาบันทึกภาพบรรยากาศเผื่อได้นำไปใช้ ทั้งคู่คือนักศึกษาชั้นปีที่สองที่สนิทกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย และยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ท่องเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ อบอุ่น คนที่จัดการจองที่พักแห่งนี้ไว้คือเจ้าของยูทูปแชนแนลยอดผู้ติดตามหลักหลายหมื่น ยอดวิวหลักแสนทุกคลิป เจ้าของคำเรียก 'น้องอบ' ของเหล่าป้าๆ และ 'พี่อบ' สุด
2สปอนเซอร์ใหญ่ “โคตรอายเลยว่ะ” ซานพูดกับอบอุ่นหลังจากเดินออกมาจากส่วนต้อนรับของโรงแรม “ก็บอกแล้วว่าอย่าทำๆ “ ชายร่างเล็กกว่าบ่นอุบ เมื่อสักครู่ พวกเขาได้เข้าไปพูดคุยแนะนำตัวกับพนักงานต้อนรับ โดยได้ฝากข้อมูลเกี่ยวกับ Blog, YouTube channel และประวัติการทำงานที่ผ่านมาคร่าวๆ ไว้ เผื่อทางโรงแรมจะสนใจให้พวกเขาช่วยประชาสัมพันธ์โดยการให้สิทธิ์ที่พักฟรีสำหรับเอาไปแจกแฟนคลับ หรืออาจจะให้สิทธิสำหรับใช้บริการอื่นๆ ของรีสอร์ทให้พวกเขาได้รีวิว จริงๆ แล้วอบอุ่นไม่อยากจะทำแบบนี้เลย แน่นอนล่ะว่าสมัยนี้พวกนักรีวิวมีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เยอะแยะยั้วเยี้ยยิ่งกว่ามด พวกที่ได้รับความนิยมเพราะมีเกมมาให้เล่น มีของมาแจกบ่อยๆ ก็เยอะ พวกที่ดังแล้วหายเงียบไปก็มี หรือพวกที่รีวิวอวยมากเกินเหตุก็เยอะ ไหนจะพวกที่หน้าด้านไปขอสนับสนุนที่พักจากคนอื่น แล้วรีวิวแบบขอไปทีบ้างล่ะ วงการนี้มันเริ่มเละเทะจนอบอุ่นตั้งปณิธานไว้ว่าเขาจะรับงานแค่เวลามีสปอนเซอร์ติดต่อมาเท่านั้น จะไม่หน้าด้านไปของานจากที่พักต่างๆ ด้วยตัวเองเด็ดขาด แต่สุดท้ายด้วยทนการรบเร้าจากซานไม่ได้ เลยต้อ
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว
21ท่ามกลางแสงจันทร์ “พอได้แล้วมึง จะรีบดื่มทำไมวะ” โอ๊ตเป็นคนเดียวที่พยายามจะห้ามอบอุ่นในเวลานี้ ในขณะที่คนอื่นเอาแต่ชวนให้เพื่อนตนดื่มจนตัวแดงไปหมด “ของอร่อยก็ต้องกินเยอะๆ ดิวะ” อบอุ่นปฏิเสธความหวังดีนั้น คำพูดของเด็กหนุ่มตรงกับความจริงเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น จริงอยู่ที่ว่าเหล้าในวงเหล้าคืนนี้อร่อยเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นเหล้าขาวที่ผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลมจนอร่อยเหมือนค็อกเทล แต่เพราะการพ่ายแพ้จากงานกีฬาสีในช่วงบ่ายจนเขาได้กินแต่เพียงข้าวกับผัก ประจวบกับวล๊อกที่เพิ่งอัพลงยูทูปโดยต้นกล้า คนที่ตัดต่อวีดีโอให้เขา แล้วปรากฏว่าผลตอบรับไม่ดีเท่าเมื่อก่อน อีกทั้งเพจเฟซบุ๊กก็โดนลดการเข้าถึง ทำให้อบอุ่นต้องดื่มเหล้าแก้อาการหงุดหงิดใจที่กำลังเป็นอยู่ โชคดีที่ธันวาไม่อยู่ เพราะต้องกลับไปทำงานอะไรสักอย่าง เขาเลยมีโอกาสได้ดื่มอย่างเต็มที่ จริงๆ แล้วมันอาจจะถือว่าเป็นโชคร้ายก็ได้ เพราะพอธันวาไม่อยู่ เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารสุดรันทดตอนมื้อเย็นไปได้ ถึงเขาจะไม่ชอบการใช้สิทธิพิเศษใดๆ แต่ลึกๆ แล้วก็อดคิดถึงความสะดวกสบายเมื่อมีคนตัว
20อ้อน "คุณธันวาครับ" น้ำเสียงจริงจังของบอร์ดี้การ์ดคนสนิทเรียกให้เจ้านายที่กำลังยืนคิดอะไรบางอย่างอยู่หันไปมอง "หืม" ถึงแม้จะขับรถมาค่ายกันเพียงสองคน แต่ด้วยความที่สถานที่ในค่ายเป็นสถานที่เปิด ไม่มีการคุ้มกันหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยใดๆ บอร์ดี้การ์ดของธันวาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยตามอยู่ห่างๆ และในบางช่วง...อย่างเช่นตอนนี้ ธันวาเรียกมาร์คเพื่อให้มารายงานสถานการณ์หรืองานที่สั่งให้ไปทำ "เรื่องเอกสารที่จะต้องเซ็น..." "เดี๋ยวเย็นนี้ฉันกลับไปจัดการเอง" แค่แว๊บไปนิดเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะโรงแรมของเขาอยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น "เรื่องยาหยีที่ฉันให้นายคอยจัดการเป็นยังไงบ้าง" ธันวาหมายถึงคู่ขาคนล่าสุดของเขาที่ห่างหายกันไปนานเป็นเดือน จนคิดว่าน่าจะจบกันไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ก็ยาหยีก็กลับมาเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง ถึงจะเรียกว่าคู่ขา แต่ระดับความสัมพันธ์ของเขากับเธอค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว จนมาร์คเคยคิดว่ายาหยีจะได้ขึ้นเป็นตัวจริงของธันวาในเร็ววันนี้ แต่จู่ๆ คนทั้งคู่ก็ห่างเหินกัน จนในที่สุดธันวา
19ความผิดสามกระทง “เหล้าจะหมดแล้ว อบไปซื้อให้พวกพี่หน่อยนะ” ดินสั่งพร้อมกับยื่นแบงค์สีเทามาให้ ด้วยความที่ดื่มกันเพลินไปหน่อย ในที่สุดวิสกี้ขวดใหญ่ราคาเป็นหมื่นอีกขวดที่เพิ่งเปิดหลังจากอบอุ่นมานั่งก็หมดลงอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาพักกลางวัน “ไม่ต้อง พี่มีวอดก้าอยู่ในรถ เดี๋ยวไปเอาให้” ธันวารีบแทรกขึ้นมาก่อนที่คนข้างกายจะทันได้ขยับตัว ตั้งแต่ได้ฟังประโยคอันชวนน่ากังวลถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเขาเข้าไป อบอุ่นก็เก็บปากเก็บคอ นั่งขัดสมาธิคอยชงเหล้าให้เหล่าพี่ๆ ดื่มอย่างเรียบร้อย ไม่คิดจะดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มอีก ถึงแม้ว่ามันจะอร่อยสมกับราคาอันแพงหูฉี่แค่ไหนก็ตาม อบอุ่นเพิ่งจะรู้สึกตัว หลุดออกจากความคิดอันยุ่งเหยิงในหัว ก็เมื่อน้ำหนักของแขนใหญ่บนบ่าได้หายไป... เป็นธันวาที่ลุกขึ้นเดินไปเอาของในรถยนต์ที่จอดไว้หน้าอาคารนอน “พวกมิกซ์กับน้ำแข็งเหลือน้อยแล้ว เดี๋ยวผมไปซื้อให้ก็แล้วกันครับ” เขารีบอาสากับพวกพี่สองคนที่คนนึงเริ่มนอนเลื้อย ส่วนอีกคนนึงก็สับไพ่เล่นอย่างเบื่อๆ “เออ ดีเหมือนกัน เอารถพี่ไปเปล่า หรือว่าจะเดินไป?” ดินถาม