1
นายหัวเป็นอะไรไป
ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่
"โอ้โห ดูดีกว่าที่คิดว่ะ นึกว่าภาพจะหลอกลวงซะแล้ว" เสียงอุทานอย่างตื่นตาตื่นใจของชายหนุ่มร่างสูงดังขึ้นเมื่อพวกเขานั่งรถกอล์ฟเข้ามาถึงข้างในอาณาเขตรีสอร์ทขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ติดกับทะเล และเต็มไปด้วยบ้านพักมากมายที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่มีธีมต่างกันเล็กน้อย การใช้สีและตกแต่งก็เข้ากับธรรมชาติเป็นอย่างดีจนชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้แต่ละหลังยังอยู่ห่างกันพอสมควร ทำให้ผู้เข้าพักได้รับความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก
"บอกแล้วว่าเราเลือกไม่พลาด" เสียงที่สองดังมาจากชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน ความสูงมาตรฐานชายไทย ใบหน้าเรียบเนียนจัดได้ว่าพอดูดี ก่อนที่เขาจะยกกล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดของตนขึ้นมาบันทึกภาพบรรยากาศเผื่อได้นำไปใช้
ทั้งคู่คือนักศึกษาชั้นปีที่สองที่สนิทกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย และยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ท่องเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ
อบอุ่น คนที่จัดการจองที่พักแห่งนี้ไว้คือเจ้าของยูทูปแชนแนลยอดผู้ติดตามหลักหลายหมื่น ยอดวิวหลักแสนทุกคลิป เจ้าของคำเรียก 'น้องอบ' ของเหล่าป้าๆ และ 'พี่อบ' สุดหล่อของเด็กประถมที่ชอบเล่นยูทูป
ส่วน ซาน คือผู้ติดตาม คอยเที่ยวเป็นเพื่อน ช่วยถ่ายคลิปบางส่วน (เวลาอบอุ่นไม่ได้ถ่ายด้วยวิธีเซลฟี่) และตัดต่อวีดีโอ
ปกติช่องของพวกเขาจะเน้นการท่องเที่ยวแบบราคาเข้าถึงได้ รีวิวตามจริง ไม่มีการแต่งภาพเว่อร์จนสวยเกินเหตุ บางครั้งก็รีวิวสถานทีที่ไม่น่าจะมีคนสนใจกัน อย่างเช่น ห้องสมุด หรือหอศิลป์ มีช่วงหลังๆ ที่มีสปอนเซอร์เข้ามาบ้าง เขาก็จะไปรีวิวให้ แต่ในครั้งนี้ อบอุ่นเลือกที่จะให้รางวัลตัวเองโดยการจองที่พักสุดหรูด้วยเงินจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
และแน่นอนว่าการจ่ายเงินครั้งนี้ต้องเอาให้คุ้ม เขาจะต้องได้คลิปดีๆ กลับไปมากมาย ให้ตัดต่อได้สักหลายๆ ตอน!
หลังจากคนขับรถกอล์ฟพาทั้งคู่มาถึงบ้านพักหลังน้อยสำหรับสองคน และจัดการยกกระเป๋าเข้าที่พักให้เรียบร้อยก็ขับรถจากไป อบอุ่นเดินออกไปสำรวจรอบบ้านพักทันทีหลังจากที่เก็บความตื่นเต้นไว้นาน
รอบๆ บ้านพักรายล้อมไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้บางส่วนเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้ดูรกจนน่ากลัวว่าจะมีสัตว์เลื้อยคลานอะไรโผล่ออกมา แถมผืนหญ้ายังนุ่มขนาดที่ถอดรองเท้าเดินยังฟิน นอกจากนี้ หลังบ้านยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กและเก้าอี้ยาวสำหรับนอนอาบแดดอีกด้วย
บ้านหลังนี้ไม่เชิงติดทะเลก็จริง แต่หากเดินตามทางเดินผ่านบ้านพักไปสักสองหลังก็จะเจอกับชายหาดแล้ว
อบอุ่นยกกล้องขึ้น เริ่มกดถ่ายวิดีโอบรรยากาศรอบๆ บ้าน ก่อนจะมีเสียงเรียกตะโกนของซานดังออกมาจากข้างในบ้าน
"ไอ้อบบบ มึงเข้าบ้านมานี่ดิ๊"
"อะไรวะ"
"ดูห้องน้ำดิ โคตรใหญ่ โคตรหรูเลย"
เออ ถูกของมัน... ห้องน้ำในบ้านพักหลังนี้ มีพื้นที่กว้างมากเกือบเท่าๆ กับห้องนอน เพดานเปิดโล่งครึ่งหนึ่งไว้ชมดาวชมธรรมชาติ และอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่แบบที่อาบพร้อมกันสองคนยังได้ นอกจากนี้ยังมีสบู่เหลวแบรนด์หรูเตรียมไว้ให้เลือกใช้หลากหลายชนิด
"โห มันดีมากเลยครับ ถ้านอนแช่น้ำจิบไวน์ คงจะฟินไม่น้อยเลยเนอะทุกคน" อบอุ่นพูดกับกล้องที่ยังคงบันทึกอยู่ "เมื่อกี้พาไปดูรอบๆ บ้านกันมาแล้ว เดี๋ยวผมเดินไปทะเลดีกว่า อยากรู้จังว่าหาดที่นี่จะสวยขนาดไหนกันน้าาา หุหุ สงสัยกันล่ะสิ ผมก็สงสัยเหมือนกันแหละ ไปกันเลยดีกว่าาา"
ทันทีที่ซานสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายกำลังอัดคลิปอยู่ เขาก็เลือกที่จะเงียบ เดินไปหยิบกล้อง DSLR ราคาแพง และเดินตามเพื่อนไปเก็บภาพบรรยากาศ
"คุณธันวาสนใจหรอครับ"
ไม่ไกลจากชายหาดที่เด็กหนุ่มพากันไปเดินเล่น มีบ้านพักตากอากาศสองชั้นทำจากไม้ตั้งอยู่ ที่ระเบียงหน้าบ้าน ปรากฎร่างของชายหนุ่มร่างใหญ่ มีรอยสักตามกล้ามแขนทั้งสองข้าง ถึงแม้ดวงตาจะถูกบดบังไว้ด้วยแว่นกันแดด แต่ก็ไม่อาจปกปิดความหล่อเหลาเอาไว้ได้ สันกรามได้รูป จมูกโด่ง คิ้วหนา ผิวสีแทน และกล้ามหนาใต้เสื้อยืดเนื้อบาง แสดงออกถึงฮอร์โมนเพศชายที่น่าดึงดูดจนยากที่ใครจะต้านทาน
"นิดหน่อย..." เขาตอบคำถามของบอดี้การ์ดคนสนิท
ถึงปากจะว่าอย่างนั้น แต่สายตาภายใต้แว่นกันแดดยังคอยจับจ้องเจ้าของร่างบางที่กำลังเดินถ่ายวีดีโอเซลฟี่ตัวเองอยู่ ในขณะที่ปากก็ยังคงเจื้อยจ้าวไม่หยุด ทั้งที่เป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่ดูตามกระแส ชอบออกเที่ยวเพื่อให้มีรูปอัพโหลดลงโซเชียลเน็ตเวิร์คทั่วๆ ไป หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก ทำไมถึงได้ดึงดูดความสนใจของเขานัก
ผ่านไปสักพัก เจ้าของความสนใจก็เลิกถ่ายรูป ทิ้งกล้องไว้กับเพื่อนตนเอง ก่อนจะกระโดดลงเล่นน้ำทะเลโดยไม่สนใจที่จะเตรียมตัวอะไรเลยทั้งสิ้น ผิวขาวๆ ที่ถูกแดดจ้าแผดเผาเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็กลายเป็นสีแดงสุก เนื้อตัวแดงเหมือนกุ้งต้ม น่าเอ็นดู
จู่ๆ คนที่อยู่ในทะเลก็สาดน้ำเข้าใส่เพื่อนซึ่งนั่งชิลล์อยู่บนผืนทรายไม่ห่างมากนัก ก่อนจะหัวเราะดังลั่นอย่างสะใจ รอยยิ้มและสายตาเป็นประกายที่ถึงจะมองจากไกลๆ ไม่ชัด แต่ก็ส่งอานุภาพแรงสูง ทำให้ธันวาถึงกับชะงัก จนต้องถอดแว่นกันแดดออก และจ้องมองรอยยิ้มนั้นอย่างเผลอไผล
จะเป็นยังไงหากคนที่ร่างเล็กยิ้มให้คือเขา...
ยังคิดไปได้ไม่ถึงไหน จู่ๆ อบอุ่นก็ถอดเสื้อยืดที่ตัวเองสวมอยู่ออกอย่างไม่กลัวผิวขาวๆ นั่นจะโดนเผาจนเกรียมเลยสักนิด ด้วยความที่ยืนอยู่ตรงบริเวณที่น้ำไม่ลึก ทำให้ธันวาถูกความขาวเจิดจ้านั่นกระแทกตาจนแสบไปหมด
หยดน้ำที่เกาะพราวทั่วเส้นผม ใบหน้า และแผ่นอกนั้น เซ็กซี่เชื้อเชิญเสียจนชวนให้คนมองต้องกลืนน้ำลายเพราะคอแห้ง ไหนจะผิวกายที่เริ่มแดงจนน่าจับมาทำมิดีมิร้ายให้แดงยิ่งขึ้นไปอีก... เอาให้แดงไปทั้งตัว
ช่างยั่วเสียจริงนะ... ธันวาคิด พร้อมกับกัดฟันแน่น ข่มความร้อนกลางแก่นกายที่ถูกจุดขึ้นมา
"จะให้ผมทำอะไรให้หรือเปล่าครับ" บอร์ดี้การ์ดถามเมื่อจับสังเกตเจ้านายได้
"ไม่ล่ะ รับรองเขาเหมือนแขกปกติทั่วไปนั่นแหละ"
"อ่า..."
"อ้อ แต่ถ้าสองคนนั้นพบเจอปัญหาอะไรก็รีบแจ้งฉันได้ทันที"
สั่งการเสร็จ ร่างสูงก็ไล่บอดี้การ์ดให้ไปพักผ่อน ในขณะที่ตนเองเดินกลับเข้าไปในห้องนอนขนาดใหญ่ของตน ปล่อยให้คนสนิทสงสัยในความนิ่งสงบของเจ้านาย นิ่งผิดปกติต่างไปจากทุกที ดูไม่คิดสนใจที่จะรุกคืบ
แต่หารู้ไม่ว่า...ภายใต้ความนิ่งนั้น จะแฝงไว้ด้วยคลื่นใต้น้ำที่รอวันผุดขึ้นมา กลืนกินอีกฝ่ายโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว!
ร่างสูงจัดการปิดประตูห้องนอนชั้นสอง ล็อกอย่างแน่นหนา เดินแก้ผ้าโทงๆ ไปทางระเบียงห้อง นอนราบไปกับเก้าอี้ยาว นัยน์ตามืดครึ้มจับจ้องร่างแดงๆ ไม่วางตา ในขณะที่มือที่กอบกุมแก่นกายขนาดใหญ่ไว้ก็คอยขยับเพื่อบรรเทาอาการรุ่มร้อนของตน
ถึงสายตาจะจับจ้องบันทึกภาพอีกฝ่ายไว้ แต่ในหัวกลับจินตนาการเป็นฉากอันเร่าร้อนระหว่างอีกฝ่ายกับตน ฉากที่เขาสอนร่างเล็กให้ทำตามทุกอย่าง คอยชักใย คอยนำ ทำให้อีกฝ่ายต้องร้องครวญคราญภายใต้ร่างหนา ทำให้ร่างขาวๆ นั่นแดงไปหมดทั้งตัวจนไม่เหลือที่ว่าง ทำให้เจ้าของรอยยิ้มสดใสนั่นต้องกรีดร้องขอความเมตตาจากเขา ทำให้เสพติดเขาจนไม่อาจหยุดได้
ยิ่งจินตนาการภาพได้ชัดเจนเท่าใด มือหนาก็ขยับไวยิ่งขึ้น... ยิ่งขึ้น... จนในที่สุดระลอกน้ำสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากปลายยอด สาดกระจายบดบังภาพของอบอุ่นไปครู่หนึ่ง
ธันวาคำรามออกมาเบาๆ อย่างสุขสม ถึงร่างกายจะได้รับการปลดปล่อย แต่ในหัวก็ยังคงมีภาพอีกฝ่ายอยู่
ยังหรอก... มันยังไม่ถึงเวลา
ทำไมเขาถึงไม่ทำอะไรเลยน่ะเหรอ?
...ก็เพราะลางสังหรณ์มันบอกเขาน่ะสิ ว่ายังไงก็จะได้เจอเจ้าของร่างขาวๆ นั่นอีกเป็นแน่
2สปอนเซอร์ใหญ่ “โคตรอายเลยว่ะ” ซานพูดกับอบอุ่นหลังจากเดินออกมาจากส่วนต้อนรับของโรงแรม “ก็บอกแล้วว่าอย่าทำๆ “ ชายร่างเล็กกว่าบ่นอุบ เมื่อสักครู่ พวกเขาได้เข้าไปพูดคุยแนะนำตัวกับพนักงานต้อนรับ โดยได้ฝากข้อมูลเกี่ยวกับ Blog, YouTube channel และประวัติการทำงานที่ผ่านมาคร่าวๆ ไว้ เผื่อทางโรงแรมจะสนใจให้พวกเขาช่วยประชาสัมพันธ์โดยการให้สิทธิ์ที่พักฟรีสำหรับเอาไปแจกแฟนคลับ หรืออาจจะให้สิทธิสำหรับใช้บริการอื่นๆ ของรีสอร์ทให้พวกเขาได้รีวิว จริงๆ แล้วอบอุ่นไม่อยากจะทำแบบนี้เลย แน่นอนล่ะว่าสมัยนี้พวกนักรีวิวมีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เยอะแยะยั้วเยี้ยยิ่งกว่ามด พวกที่ได้รับความนิยมเพราะมีเกมมาให้เล่น มีของมาแจกบ่อยๆ ก็เยอะ พวกที่ดังแล้วหายเงียบไปก็มี หรือพวกที่รีวิวอวยมากเกินเหตุก็เยอะ ไหนจะพวกที่หน้าด้านไปขอสนับสนุนที่พักจากคนอื่น แล้วรีวิวแบบขอไปทีบ้างล่ะ วงการนี้มันเริ่มเละเทะจนอบอุ่นตั้งปณิธานไว้ว่าเขาจะรับงานแค่เวลามีสปอนเซอร์ติดต่อมาเท่านั้น จะไม่หน้าด้านไปของานจากที่พักต่างๆ ด้วยตัวเองเด็ดขาด แต่สุดท้ายด้วยทนการรบเร้าจากซานไม่ได้ เลยต้อ
3ลงทัณฑ์เด็กดื้อ ขึ้นชื่อว่าทะเล กิจกรรมที่ให้ทำก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการล่องเรือ เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง กินอาหารทะเล หรือชมพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก แผนการท่องเที่ยวของอบอุ่นก็ไม่มีอะไรพิเศษไปจากนั้น เขาเพียงจอง One-day trip สำหรับล่องเรือชมเกาะเล็กๆ ทั้งสามเกาะ และดำน้ำชมปะการังเท่านั้น เป็นกิจกรรมที่เรียกได้ว่า หากจะเอาไปรีวิวก็ดูจะธรรมดาเกินไป แต่ด้วยคอนเซ็ปของ vlog คือท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ได้ตะบี้ตะบันสรรหาแหล่งท่องเที่ยวลับๆ หรือสถานที่ที่มันหายากอะไร เขาเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ โชคก้อนใหญ่ก็หล่นลงตรงหน้า ระหว่างที่กำลังกินอาหารเที่ยงบนเรือเฟอร์รี่กันอยู่ พวกเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของโรงแรม พร้อมกับข่าวดีน่าเหลือเชื่อมากมาย ทำเอารีบตอบรับไปอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น เพิ่งมานึกถึงปัญหาอื่นๆ ได้ก็เอาเมื่อวางสายไปแล้ว “ซาน เราลืมไปว่าเราอยู่ต่อไม่ได้อ่ะ มะรืนนี้ต้องไปค่ายอาสาของคณะวิศวะด้วยสิ” ถึงช่วงนี้จะปิดเทอมอยู่ก็จริง แต่แน่นอนว่านักกิจกรรมอย่างอบอุ่นไม่เคยปล่อยเวลาว่างให้เปล่าป
4คร่อมขี่ “ทำไมวันนี้มึงดูเนือยๆ จังวะ” ซาน เจ้าของร่างสูงโปร่งถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินตามพนักงานของรีสอร์ทไป เขาสังเกตมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้วว่าวันนี้เพื่อนสนิทของตนดูจะเงียบและใจลอยเป็นพิเศษ “คงเพราะนอนน้อยล่ะมั้ง” “นอนน้อยอะไร มึงเป็นคนหนีเข้าห้องไปนอนก่อนเราอีกไม่ใช่หรือไง” “ช่างมันเถอะน่า” ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันจะชวนให้สับสนและน่าอึดอัดใจแค่ไหน แต่เขาไม่มีทางเอาเรื่องเหล่านี้ไปบอกกับเพื่อนของตนแน่ ให้บอกว่าตัวเองโดนตาลุงที่ไหนก็ไม่รู้ปล้นจูบเนี่ยนะ!? โคตรน่าขายหน้าเลย “นี่ไม่ตื่นเต้นที่จะได้เล่นพาราเซลลิ่งเลยเหรอ” “ก็ตื่นเต้นแหละ” แต่มันมีเรื่องอื่นคอยผุดขึ้นมารบกวนอยู่ตลอดนี่สิ “ตื่นเต้นแต่ยังนิ่งอยู่ได้ โคตรน่านับถือเลยว่ะ โอ๊ะ! “ จู่ๆ ซานก็อุทานขึ้น “นั่นไง มีคนกำลังเล่นอยู่ด้วย โอ้ยยย ขนาดเห็นไกลๆ ยังหวาดเสียวแทนเลย มือเราสั่นไปหมดแล้วเนี่ยยย” อบอุ่นมองตามสายตาของเพื่อนขึ้นไปยังท้องฟ้าเหนือน้ำทะเล เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังลอยอยู่บนฟ้าด้วยร่มชูชีพ ในขณะที่ปลายเชือกขนาด
5นวด ตอนนี้ซานกำลังเผชิญอยู่กับอาการโกรธเงียบของอบอุ่น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาแอบไปอ้วกกันแน่ พอกลับมาเจอกันที่ที่พักใหม่ ดันเจออีกฝ่ายทำท่าทางปั้นปึ่งใส่ซะงั้น หรือว่ามันจะเซ็งที่ไม่ได้อยู่เอ็นจอยกับวิลล่าขนาดใหญ่นี้กันฟระ? "เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เราไปห้องน้ำกันแน่วะ" ในที่สุดก็ทนความอึดอัดไม่ไหวจนต้องทำลายความเงียบออกไป แต่ปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่ายกลับเป็นเพียงแค่การถอนหายใจยาว และสะพายกระเป๋าเป้ที่จัดไว้เรียบร้อยตั้งแต่เช้า เตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง "ไม่ถามแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งรีบกลับดิ อยู่สปาเป็นเพื่อนกันก๊อนนน" ซานฉุดแขนเพื่อนไว้แทบจะไม่ทัน "เราอยากรีบไปรอที่สนามบินน่ะ ถ้าออกเย็นเดี๋ยวรถติด" ฟังดูก็รู้ว่ามันเป็นข้อแก้ตัว อบอุ่นต้องมีเรื่องอะไรที่บอกเขาไม่ได้แน่ๆ สงสัยคงจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายน่าดู "ไหนๆ มึงก็จะทิ้งเราให้นอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจแล้ว ช่วยอยู่เป็นเพื่อนกันอีกสักหน่อยไม่ได้เหรอวะ" ชายหนุ่มทำท่าทางออดอ้อน ดูน่าขนลุกขนพองซะจนอบอุ่นต้องรีบสะบัดแขนหนีก่อนที่มันจะลวนลามตนไปมากกว่
6นาบ "ลุงอีกแล้วเหรอ! " อุทานอย่างตกใจเสร็จ ก็พยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอีกฝ่าย แต่ลำขาใหญ่ที่กดทับขาทั้งสองข้างของเขาไว้ ทำให้ร่างเล็กถูกกักขังโดยสมบูรณ์ "พูดจาได้น่าขัดใจอีกแล้วนะ" ธันวาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะปิดปากเล็กๆ นั่นลงด้วยปากของตน ขบเม้มแรงๆ เป็นการลงโทษเสียหนึ่งที "ทีนี้จะเรียกให้ถูกได้หรือยัง" "แกมัน! ฮึ่ย! " อบอุ่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขัดใจที่ทำอะไรร่างใหญ่ข้างบนไม่ได้ ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งเจ็บไปหมด "อ๊ะๆ ไม่สุภาพเลยนะ" สายตาคมปลาบที่จ้องมาทำให้อบอุ่นรู้สึกเย็นยะเยือก เมื่อเห็นว่าอบอุ่นเงียบลง ธันวาก็เริ่มใช้สายตาโลมเลียไปทั่วร่างข้างใต้ พลอยให้อบอุ่นสำนึกได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยกายอยู่ นอกจากนี้สายตาอันแผดเผานั่นยังทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนแทบไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป "คุณธันวา..." เสียงสั่นๆ เอ่ยออกไป แต่มันเบาซะจนแทบไม่ได้ยิน "หืม..." "ปล่อยผมเถอะนะ... นะครับ" สายตาออดอ้อนที่ใช้เป็นประจำกับคุณแม่ถูกขุดขึ้นมาใช้ แต่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่ามันกลับเป็นตัวเร่งเชื้อเพลิงให้โหมกระหน่ำยิ่งข
7ค่ำคืนอันเงียบงัน “เฮ้ย! นี่มึงจะกลับแล้วเหรอวะ” ซานถามอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนกำลังหยิบคีย์การ์ดห้อง กระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือออกจากล็อกเกอร์ โดยที่ผมยังคงเปียกอยู่เหมือนคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในขณะที่เขาเพิ่งจะนวดเสร็จเรียบร้อย เตรียมจะไปสครับผิวต่อ “อือ เราต้องกลับแล้วว่ะ ไว้เจอกันที่กรุงเทพนะเว้ย” อบอุ่นที่อยู่ในชุดลำลองแบบเดิมกับตอนแรกที่เข้ามารีบบอกลาเพื่อน ก่อนจะเดินหนีจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ซักต่อ ความจริงแล้วเขาไม่ได้อาบน้ำหรอก แค่ล้างตัวลวกๆ กะจะไปอาบน้ำอีกทีที่วิลล่า แล้วก็ไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าด้วย ชายหนุ่มเดินเข้าไปในวิลล่าแฝดขนาดใหญ่ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองหลัง แต่มีส่วนเชื่อมติดกันด้วยห้องทำงานที่อยู่ตรงกลาง เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้จัดการฝ่ายการตลาดถึงได้ให้ที่พักที่ใหญ่ขนาดนี้กับพวกเขา แถมยังให้คีย์การ์ดมาครบทั้งสองหลังอีก ทั้งที่คืนนี้จะมีคนที่มานอนพักเพียงคนเดียวก็คือไอ้ซาน ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องอาบน้้ำซึ่งเป็นกระจกขนาดใหญ่ และรู้ว่ามีเทคโนโลยีที่สามารถกด
8มอบความอบอุ่น "มาร์ค" "ครับ คุณธันวา" ร่างสูงใหญ่ของบอร์ดี้การ์ดโผล่ออกมาจากมุมมืดหลังจากที่เขาคอยเดินตามคุ้มกันเจ้านายอยู่ห่างๆ เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ห้องอาหารจนกระทั่งคุณธันวาเดินมาส่งคุณอบอุ่นถึงที่พัก ถึงแม้มันจะมืดมาก แต่แว่นตามองกลางคืนที่เขาสวมอยู่ ทำให้เห็นฉากที่น่าเหลือเชื่อนั่นอย่างชัดเจน มันน่าเหลือเชื่อมากที่เจ้านายตนจะมีมุมอบอุ่นแบบนี้ อืม... จริงๆ เขาก็เคยเห็นเจ้านายเทคแคร์สาวๆ บ้างเป็นบางครั้งแหละนะ แต่ส่วนใหญ่สาวๆ เหล่านั้นจะเป็นคนที่ทำให้เจ้านายพอใจ (เรื่องบนเตียง) จนยอมเทคแคร์ ตรงข้ามกับคนที่คอยหาเรื่องหนีเจ้านายตลอดเวลาแบบคุณอบอุ่นนี่สิ "นายแน่ใจนะว่ามันจะได้ผลจริงๆ" ธันวาที่กำลังเดินกลับไปยังที่พักของตนถามขึ้น "ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่หรอกครับ แหะๆ" เรื่องที่เจ้านายพูดถึงคงไม่พ้นเรื่องคุณอบอุ่นนั่นแหละ แต่เขาไม่ชัวร์ว่าคำถามของเจ้านายหมายถึงอะไรกันแน่ เลยต้องตอบแบบปลอดภัยไว้ก่อน "นายบอกให้ฉันเข้าหาเด็กนั่นแบบคนปกติ ฉันก็ทำแล้ว" "..." อ้อ... ที่เจ้านายทำตัวอ่อนโยนนี่เป็นเพราะคำแ
9เนื้อแนบเนื้อ กระป๋องน้ำอัดลมเย็นเฉียบถูกแนบเข้ากับข้างแก้มของชายหนุ่มซึ่งกำลังยืนเกาะขอบเรือเฟอร์รี่ขนาดเล็กอยู่ ทำให้ชายคนนั้นสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิดของตน พอหันไปเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็รับน้ำกระป๋องนั้นมาอย่างเต็มใจ แต่ไม่ลืมที่จะเอาคืนโดยการแตะกระป๋องเย็นๆ ลงบนแขนอีกฝ่ายแรงๆ เรียกเสียงร้องโอดโอยอย่างโอเวอร์จนทำให้คนแก้แค้นหลุดหัวเราะ “สมน้ำหน้า!” “โห คนเขาอุตส่าห์เอาน้ำมาให้ ใจร้ายว่ะ” อบอุ่นไม่สนเสียงโวยวายของซาน เปิดฝากระป๋อง ยกขึ้นกระดก และเอี้ยวตัวกลับไปชมวิวทะเลเหมือนเดิม ขณะนี้พวกเขากำลังเดินทางไปยังเกาะขนาดเล็ก เพื่อไปดำน้ำดูปะการังและสัตว์ทะเลตรงจุดที่เขาว่ากันว่าสวยที่สุดในย่านนี้ แถมเมื่อเช้ายังมีข่าวชาวประมงหลายคนเจอฝูงปลาโลมาว่ายอยู่แถวๆ ทางที่จะไปเกาะด้วย หากโชคดีจริง พวกเขาคงจะได้เจอ จริงๆ เกาะนั้นอยู่ไม่ห่างจากเกาะส่วนตัวมากนัก จะนั่งเรือหางยาวลำใหญ่ไปแทนยังได้เลย แต่ด้วยความที่มีตาลุงมหาเศรษฐีอย่างธันวาไปด้วย ก็เลยต้องใช้เรือเฟอร์รี่โดยสารเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย “มึงสนิทกับคุณธันวาได้ไง
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว
21ท่ามกลางแสงจันทร์ “พอได้แล้วมึง จะรีบดื่มทำไมวะ” โอ๊ตเป็นคนเดียวที่พยายามจะห้ามอบอุ่นในเวลานี้ ในขณะที่คนอื่นเอาแต่ชวนให้เพื่อนตนดื่มจนตัวแดงไปหมด “ของอร่อยก็ต้องกินเยอะๆ ดิวะ” อบอุ่นปฏิเสธความหวังดีนั้น คำพูดของเด็กหนุ่มตรงกับความจริงเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น จริงอยู่ที่ว่าเหล้าในวงเหล้าคืนนี้อร่อยเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นเหล้าขาวที่ผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลมจนอร่อยเหมือนค็อกเทล แต่เพราะการพ่ายแพ้จากงานกีฬาสีในช่วงบ่ายจนเขาได้กินแต่เพียงข้าวกับผัก ประจวบกับวล๊อกที่เพิ่งอัพลงยูทูปโดยต้นกล้า คนที่ตัดต่อวีดีโอให้เขา แล้วปรากฏว่าผลตอบรับไม่ดีเท่าเมื่อก่อน อีกทั้งเพจเฟซบุ๊กก็โดนลดการเข้าถึง ทำให้อบอุ่นต้องดื่มเหล้าแก้อาการหงุดหงิดใจที่กำลังเป็นอยู่ โชคดีที่ธันวาไม่อยู่ เพราะต้องกลับไปทำงานอะไรสักอย่าง เขาเลยมีโอกาสได้ดื่มอย่างเต็มที่ จริงๆ แล้วมันอาจจะถือว่าเป็นโชคร้ายก็ได้ เพราะพอธันวาไม่อยู่ เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารสุดรันทดตอนมื้อเย็นไปได้ ถึงเขาจะไม่ชอบการใช้สิทธิพิเศษใดๆ แต่ลึกๆ แล้วก็อดคิดถึงความสะดวกสบายเมื่อมีคนตัว
20อ้อน "คุณธันวาครับ" น้ำเสียงจริงจังของบอร์ดี้การ์ดคนสนิทเรียกให้เจ้านายที่กำลังยืนคิดอะไรบางอย่างอยู่หันไปมอง "หืม" ถึงแม้จะขับรถมาค่ายกันเพียงสองคน แต่ด้วยความที่สถานที่ในค่ายเป็นสถานที่เปิด ไม่มีการคุ้มกันหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยใดๆ บอร์ดี้การ์ดของธันวาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยตามอยู่ห่างๆ และในบางช่วง...อย่างเช่นตอนนี้ ธันวาเรียกมาร์คเพื่อให้มารายงานสถานการณ์หรืองานที่สั่งให้ไปทำ "เรื่องเอกสารที่จะต้องเซ็น..." "เดี๋ยวเย็นนี้ฉันกลับไปจัดการเอง" แค่แว๊บไปนิดเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะโรงแรมของเขาอยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น "เรื่องยาหยีที่ฉันให้นายคอยจัดการเป็นยังไงบ้าง" ธันวาหมายถึงคู่ขาคนล่าสุดของเขาที่ห่างหายกันไปนานเป็นเดือน จนคิดว่าน่าจะจบกันไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ก็ยาหยีก็กลับมาเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง ถึงจะเรียกว่าคู่ขา แต่ระดับความสัมพันธ์ของเขากับเธอค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว จนมาร์คเคยคิดว่ายาหยีจะได้ขึ้นเป็นตัวจริงของธันวาในเร็ววันนี้ แต่จู่ๆ คนทั้งคู่ก็ห่างเหินกัน จนในที่สุดธันวา
19ความผิดสามกระทง “เหล้าจะหมดแล้ว อบไปซื้อให้พวกพี่หน่อยนะ” ดินสั่งพร้อมกับยื่นแบงค์สีเทามาให้ ด้วยความที่ดื่มกันเพลินไปหน่อย ในที่สุดวิสกี้ขวดใหญ่ราคาเป็นหมื่นอีกขวดที่เพิ่งเปิดหลังจากอบอุ่นมานั่งก็หมดลงอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาพักกลางวัน “ไม่ต้อง พี่มีวอดก้าอยู่ในรถ เดี๋ยวไปเอาให้” ธันวารีบแทรกขึ้นมาก่อนที่คนข้างกายจะทันได้ขยับตัว ตั้งแต่ได้ฟังประโยคอันชวนน่ากังวลถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเขาเข้าไป อบอุ่นก็เก็บปากเก็บคอ นั่งขัดสมาธิคอยชงเหล้าให้เหล่าพี่ๆ ดื่มอย่างเรียบร้อย ไม่คิดจะดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มอีก ถึงแม้ว่ามันจะอร่อยสมกับราคาอันแพงหูฉี่แค่ไหนก็ตาม อบอุ่นเพิ่งจะรู้สึกตัว หลุดออกจากความคิดอันยุ่งเหยิงในหัว ก็เมื่อน้ำหนักของแขนใหญ่บนบ่าได้หายไป... เป็นธันวาที่ลุกขึ้นเดินไปเอาของในรถยนต์ที่จอดไว้หน้าอาคารนอน “พวกมิกซ์กับน้ำแข็งเหลือน้อยแล้ว เดี๋ยวผมไปซื้อให้ก็แล้วกันครับ” เขารีบอาสากับพวกพี่สองคนที่คนนึงเริ่มนอนเลื้อย ส่วนอีกคนนึงก็สับไพ่เล่นอย่างเบื่อๆ “เออ ดีเหมือนกัน เอารถพี่ไปเปล่า หรือว่าจะเดินไป?” ดินถาม