4
คร่อมขี่
“ทำไมวันนี้มึงดูเนือยๆ จังวะ” ซาน เจ้าของร่างสูงโปร่งถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินตามพนักงานของรีสอร์ทไป เขาสังเกตมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้วว่าวันนี้เพื่อนสนิทของตนดูจะเงียบและใจลอยเป็นพิเศษ
“คงเพราะนอนน้อยล่ะมั้ง”
“นอนน้อยอะไร มึงเป็นคนหนีเข้าห้องไปนอนก่อนเราอีกไม่ใช่หรือไง”
“ช่างมันเถอะน่า” ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันจะชวนให้สับสนและน่าอึดอัดใจแค่ไหน แต่เขาไม่มีทางเอาเรื่องเหล่านี้ไปบอกกับเพื่อนของตนแน่
ให้บอกว่าตัวเองโดนตาลุงที่ไหนก็ไม่รู้ปล้นจูบเนี่ยนะ!? โคตรน่าขายหน้าเลย
“นี่ไม่ตื่นเต้นที่จะได้เล่นพาราเซลลิ่งเลยเหรอ”
“ก็ตื่นเต้นแหละ” แต่มันมีเรื่องอื่นคอยผุดขึ้นมารบกวนอยู่ตลอดนี่สิ
“ตื่นเต้นแต่ยังนิ่งอยู่ได้ โคตรน่านับถือเลยว่ะ โอ๊ะ! “ จู่ๆ ซานก็อุทานขึ้น “นั่นไง มีคนกำลังเล่นอยู่ด้วย โอ้ยยย ขนาดเห็นไกลๆ ยังหวาดเสียวแทนเลย มือเราสั่นไปหมดแล้วเนี่ยยย”
อบอุ่นมองตามสายตาของเพื่อนขึ้นไปยังท้องฟ้าเหนือน้ำทะเล เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งกำลังลอยอยู่บนฟ้าด้วยร่มชูชีพ ในขณะที่ปลายเชือกขนาดใหญ่ด้านหนึ่งถูกผูกติดไว้ระหว่างเชือกของร่มชูชีพและเรือ เพื่อที่เรือจะเป็นตัวคอยลากและนำทางร่มชูชีพ สมกับชื่อที่ว่า ‘เรือลากร่ม’ หรือ parasailing
“ผู้หญิงเขายังกล้ากว่าแกอีก”
“เราไม่ได้สั่นกลัวเฟ้ย แบบนี้เรียกว่าสั่นสู้ต่างหาก” ซานรีบแก้ตัว ปกป้องตัวเองเป็นการใหญ่
ในที่สุดพนักงานก็เดินพาพวกเขามาหยุดอยู่ตรงบริเวณหนึ่งของชายหาดซึ่งมีเรือสีขาวขนาดเล็กจอดอยู่สองลำ มีเจ้าหน้าที่อยู่ลำละสี่คน พร้อมกับอุปกรณ์การเล่นพาราเซลลิ่ง
“ไม่ทราบว่าคุณอบอุ่นกับคุณสรัณอยากเล่นพาราเซลลิ่งแบบคู่หรือแบบเดี่ยวครับ เรามีทุกแบบ” สรัณคือชื่อจริงของซาน ในขณะที่ชื่อจริงของอบอุ่นก็คืออบอุ่นนี่แหละ บางทีเขายังแอบรู้สึกรันทดเลยที่พ่อแม่ไม่ใส่ใจ ขนาดชื่อยังไม่คิดจะตั้งใจตั้งให้
แน่นอนว่าคำตอบของทั้งคู่คือเล่นทั้งสองแบบ เพื่อความสมบูรณ์แบบในการรีวิว อบอุ่นจะเป็นคนเล่นเดี่ยวก่อน โดยที่ตนถือไม้เซลฟี่ที่เหน็บกล้องโกโปรไว้ถ่ายวิวข้างบน ในขณะที่ซานเป็นคนคอยถ่ายคลิปจากข้างล่าง จากนั้นทั้งคู่ก็จะเล่นอีกทีพร้อมกัน โดยที่ซานบอกว่าขอเสียสละ ไม่เล่นเดี่ยว ซึ่งอบอุ่นคิดว่าเพื่อนตัวเองคงจะปอดแหกเสียมากกว่า
อบอุ่นตัดสินใจใช้การเล่นกีฬาทางน้ำในครั้งนี้เป็นการปลดปล่อยความสับสนวุ่นวายใจจากเหตุการณ์เมื่อวาน เหตุการณ์ที่สร้างความอัปยศอดสูให้กับลูกผู้ชายสายแทง (สาว) อย่างเขา! เหตุการณ์ที่เขาแก้ตัวว่า เป็นเพราะความไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย เป็นเพราะเสน่ห์ของหนุ่มใหญ่ที่ทำให้เขาเผลอปลดการระแวงออกไป...
และเป็นเพราะความเก่งกาจช่ำชองเกินเหตุของอีกฝ่ายที่ทำให้เขาเคลิ้มตาม!
แต่ยังไงก็ตาม เรื่องพวกนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่ๆ เพราะเย็นนี้เขาก็จะบินกลับกรุงเทพแล้ว เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะโรคจิตถึงขนาดตามสตอล์กเกอร์เขา! รีสอร์ทก็ออกจะกว้างใหญ่ ไม่มีทางที่จะบังเอิญเจอได้อีก
เมื่ออยู่บนเรือ สวมใส่อุปกรณ์ และถูกเจ้าหน้าที่ช่วยปล่อยตัวในการเริ่มเรียบร้อย อบอุ่นก็ถูกร่มยกตัวขึ้นสูง ทำให้เห็นวิวอันสวยงามของท้องทะเลและตึกรามบ้านช่องซึ่งอยู่ถัดจากตัวรีสอร์ทออกไป ไม่เพียงแค่น้ำทะเลสีฟ้าใส แต่เกาะขนาดเล็กที่อยู่ห่างสายตาออกไปยังปรากฏรูปทรงสวยงาม สีเขียวขจีของป่าไม้และหาดทรายสีขาว ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล จนเขาแอบเสียดายที่ไม่ได้อยู่ต่อเพื่อได้พักบนเกาะส่วนตัวซึ่งน้อยคนนักที่จะได้รับเชิญไปยังที่แห่งนั้น เกาะที่มีน้ำตก ถ้ำ และธรรมชาติอันสวยงามมากมาย รวมถึงสัตว์น้ำและปะการังหายาก
“วู้วววววว” เด็กหนุ่มตะโกนดังลั่นเพื่อปลดปล่อยความอัดอั้นที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อคืน เขาตะโกนและสนุกเต็มที่กับกิจกรรมที่ทางรีสอร์ทมอบให้
“ตาลุงโรคจิตตตตต! ตายไปซ้าาาา!! “
“อบอุ่น มึงเล่นไปก่อนเลยนะเว้ย เราปวดขี้อ่ะ ท่าทางจะนาน ไม่ต้องสนใจเรานะ เล่นไปเลย”
“อ้าว เฮ้ย! “
หลังจากที่เล่นพาราเซลลิ่งแบบคู่กันเสร็จเรียบร้อย ซานก็ลงมายืนบนผืนเรือด้วยหน้าตาพะอืดพะอม พอเรือจอดใกล้ชายหาดปั๊บ ก็รีบบอกลาอบอุ่น กระโดดลงเรืออย่างรวดเร็ว จนห้ามไม่ทัน
แม่งต้องไปอ้วกแน่ๆ หน้าเขียวซะขนาดนั้น
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเหลืออบอุ่นอยู่กับพนักงานคนเดิมที่นำทางมาเพียงสองคน พนักงานคนนั้นพาเขาไปนั่งพักที่เก้าอี้ริมชายหาด พร้อมกับเสิร์ฟน้ำมะพร้าวเย็นชื่นใจและของหวานให้ อบอุ่นสามารถพักได้นานเท่าที่ต้องการก่อนที่จะเล่นกิจกรรมต่อไป ซึ่งก็คือ การขี่เจ็ทสกี
เด็กหนุ่มเห็นว่านั่งรอไปก็เปล่าประโยชน์ ใช่ว่าซานกลับมาแล้วเขาจะเล่นต่อได้เสียทีไหน คาดว่าอีกฝ่ายคงหมดแรงข้าวต้มจนต้องใช้เวลาพักต่อไปอีกนานนั่นแหละ เขาเลยตัดสินใจขอเริ่มขี่เจ็ทสกีทันทีหลังจากดื่มน้ำมะพร้าวหมด แต่กลับกลายเป็นว่าพนักงานที่เพิ่งปลีกตัวไปรับโทรศัพท์และเดินกลับมาได้ไม่นาน ขอให้เขารออีกสักสิบนาทีซะงั้น ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าจะเริ่มเล่นเมื่อไหร่ก็ได้
หลังจากนั่งเช็คไลน์ ไอจี เฟซบุ๊ก ยูทูป รอได้สักพัก พนักงานคนเดิมก็ได้เชิญให้เขาไปที่ทะเลเพื่อขึ้นขี่เจ็ทสกีที่เตรียมไว้ให้ พร้อมกับอธิบายวิธีการใช้งานแบบคร่าวๆ เนื่องจากว่าอบอุ่นเคยขับมาแล้ว จึงสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
อบอุ่นหมุนกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ วอร์มเครื่องเล็กน้อย เตรียมจะขับออกไป แต่ทว่า...
จู่ๆ ก็มีร่างของคนคนหนึ่งเข้ามานั่งซ้อนข้างหลัง!
ร่างกายของคนคนนั้นมีขนาดใหญ่เสียจนเมื่อวงแขนทั้งสองข้างโอบรอบตัวเขาเพื่ออ้อมมาจับแฮนด์ของเจ็ทสกี มันทำให้อบอุ่นดูตัวเล็กกระจ้อยไปโดยปริยาย
รอยสักบนแขนทั้งสองข้าง ทำให้อบอุ่นรู้ได้ในทันทีว่าชายคนนี้คือใคร!
“นี่ลุง! “ เขาหันหน้าไปขึ้นเสียงใส่อย่างหงุดหงิด แต่อีกฝ่ายกลับกระชากเครื่องให้ออกตัวอย่างแรงจนอบอุ่นต้องหาที่เกาะยึดอย่างเร่งด่วน ซึ่งก็คืออกเสื้อของคนข้างหลัง
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขาตกอยู่ในอ้อมแขนของหนุ่มใหญ่อย่างสมบูรณ์!
“เคยบอกแล้วนะว่าให้เรียกฉันว่าอะไร”
“หยุดเครื่องเดี๋ยวนี้นะ! “ เมื่อตั้งสติได้ อบอุ่นก็หมุนตัวกลับไปข้างหน้าเหมือนเดิม เอื้อมมือไปที่แฮนด์เพื่อที่จะยึดอำนาจในการควบคุมกลับคืนมา แต่คนข้างหลังกลับปล่อยมือข้างหนึ่งออกมารัดเอวเขาไว้ กระชากถอยให้เข้าไปชิดอกกว้าง จนร่างทั้งร่างแทบจะจมลงไปในอกนั้น เป็นผลให้มือของเขาไม่สามารถเอื้อมถึง
“เกาะไว้แน่นๆ ล่ะ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแนบใบหูจนเขารู้สึกสยิว ก่อนที่จะปล่อยมือจากเอวบาง ไปควบคุมเจ็ทสกีอีกครั้ง และเริ่มเร่งความเร็วท้าคลื่นทะเลจนก้นของทั้งคู่ยกขึ้นตามแรงกระแทก ไม่สามารถยึดติดเบาะนั่งได้อีกต่อไป
อบอุ่นที่กลัวจะตกลงไปบนผืนน้ำ รีบหันกลับไปเกาะเสื้ออีกฝ่ายแน่นด้วยความกลัว
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยเล่นเจ็ทสกีมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่ความเร็วระดับนี้โว้ย! หวาดเสียวเกินไปแล้ววว!!
หลังจากขยำเสื้ออีกฝ่ายจนยับไปหมด จู่ๆ คนขับก็ชะลอความเร็วลง ก่อนจะจับให้ร่างในอ้อมแขนหมุนตัวมาประจันหน้ากับเขาโดยสมบูรณ์ ไม่ใช่เพียงแค่หันข้างมาแบบตอนแรก
ให้ตายเหอะ! ทำไมเขาถึงจับเราขยับไปมาอย่างง่ายดายเหมือนกับเราเป็นตุ๊กตางั้นแหละ
“คุณธันวา...” อบอุ่นตัดสินใจใช้ไม้อ่อน
“ครับ” เสียงทุ้มตอบกลับ พร้อมกับตาคมที่จ้องลงมา ทำให้อบอุ่นแก้มร้อนผ่าว จนต้องเบือนสายตาหนีไปหยุดอยู่ที่แผ่นอกกว้างซึ่งมีเพียงเสื้อยืดสีขาวบางๆ ขวางกั้นจนแทบจะปกปิดอะไรไว้ไม่มิดแทน
“ชะ...ช่วยพาผมกลับไปที่หาดด้วยครับ” เสียงสั่นๆ ขอร้อง
“ได้สิ”
“จริงหรอครับ” ร่างเล็กที่ดีใจว่าแผนนี้ได้ผล รีบเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะพบกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีเสน่ห์เหลือล้นจนสาวๆ ที่ไหนเห็นเป็นต้องใจละลาย ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายอย่างอบอุ่น...คนที่ไม่เคยคิดจะสนใจผู้ชายด้วยกัน
“คนน่ารักขอทั้งที ผมก็ต้องทำตามอยู่แล้ว...” ธันวาส่งสายตาเปล่งประกายแพรวพราวให้ “แต่ว่าก่อนจะไปส่ง ผมขอค่าจ้างก่อนแล้วกัน”
พูดจบ เจ็ทสกีก็ถูกชะลอความเร็วลงกว่าเดิมจนแทบจะหยุดอยู่ท่ามกลางทะเล มือใหญ่โอบประคองหลังคอร่างบางให้แหงนรับสัมผัสร้อนจากริมฝีปากหนา ค่อยๆ แทะเล็มรอบๆ ปากสีสวยอย่างเชื่องช้า ชวนให้อีกฝ่ายเคลิบเคลิ้มจนเผลอเผยอปากเปิดรับเรียวลิ้นอุ่นๆ จากร่างหนาที่เข้าไปดูดกลืนน้ำอันหวานฉ่ำ เกี่ยวกวัดลิ้นเล็กช้าๆ แต่หนักหน่วง ก่อนจะเพิ่มความเร็วในการดูดดึงเกี่ยวรัดจนร่างเล็กแทบจะหายใจไม่ทัน
เด็กหนุ่มร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกขัดใจที่ร่างตรงหน้าถอนลิ้นออกไป จนเผลอสอดลิ้นของตนเข้าไปเรียกร้องอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ใจ จนหนุ่มใหญ่ถึงกับต้องครางกระหึ่ม
ริมฝีปากและลิ้นของทั้งคู่โรมรันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ธันวากระชับเอวบางให้เข้ามาชิดกับตนมากขึ้นจนอบอุ่นรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงซึ่งเสียดสีอยู่กับต้นขาเขา และนั่นทำให้สติของเขากลับคืนมา ถอนริมฝีปากของตนออกอย่างรู้สึกละอายใจ ซึ่งธันวาก็ยอมอย่างง่ายดาย แต่ทว่า!
…เขากลับเคลื่อนริมฝีปากหนามาที่ข้างลำคอเรียว ขบเม้มลงไปอย่างแรง ประทับรอยตีตราความเป็นเจ้าของจนเป็นสีแดงก่ำ
“อ้ะ! “ อบอุ่นสะดุ้งตกใจ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย สบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มซึ่งทอดมองมาที่เขาเหมือนอยากจะกลืนกินไปทั้งตัว ชวนให้รู้สึกใจเต้นรัว ร้อนผ่าวไปหมด จนต้องเบือนหน้าหนีจากสายตามัจจุราชนั้น แล้วพลิกตัวกลับไปยังด้านที่ควรจะเป็น
ธันวาไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการคุกคามร่างเล็กต่อ เขาเพียงกระชับเอวอีกฝ่ายที่พยายามจะถอยห่างจากเขาให้มากที่สุดให้เอนลงมาพิงอกหนั่นแน่น ก่อนจะขับเจ็ทสกีด้วยความเร็วปานกลาง ให้คนในอ้อมแขนได้สนุกกับการกินลมชมบรรยากาศ
แต่หารู้ไม่ว่าอบอุ่นใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนพลาดความเอาใจใส่เหล่านี้ไป
5นวด ตอนนี้ซานกำลังเผชิญอยู่กับอาการโกรธเงียบของอบอุ่น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาแอบไปอ้วกกันแน่ พอกลับมาเจอกันที่ที่พักใหม่ ดันเจออีกฝ่ายทำท่าทางปั้นปึ่งใส่ซะงั้น หรือว่ามันจะเซ็งที่ไม่ได้อยู่เอ็นจอยกับวิลล่าขนาดใหญ่นี้กันฟระ? "เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เราไปห้องน้ำกันแน่วะ" ในที่สุดก็ทนความอึดอัดไม่ไหวจนต้องทำลายความเงียบออกไป แต่ปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่ายกลับเป็นเพียงแค่การถอนหายใจยาว และสะพายกระเป๋าเป้ที่จัดไว้เรียบร้อยตั้งแต่เช้า เตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง "ไม่ถามแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งรีบกลับดิ อยู่สปาเป็นเพื่อนกันก๊อนนน" ซานฉุดแขนเพื่อนไว้แทบจะไม่ทัน "เราอยากรีบไปรอที่สนามบินน่ะ ถ้าออกเย็นเดี๋ยวรถติด" ฟังดูก็รู้ว่ามันเป็นข้อแก้ตัว อบอุ่นต้องมีเรื่องอะไรที่บอกเขาไม่ได้แน่ๆ สงสัยคงจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายน่าดู "ไหนๆ มึงก็จะทิ้งเราให้นอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจแล้ว ช่วยอยู่เป็นเพื่อนกันอีกสักหน่อยไม่ได้เหรอวะ" ชายหนุ่มทำท่าทางออดอ้อน ดูน่าขนลุกขนพองซะจนอบอุ่นต้องรีบสะบัดแขนหนีก่อนที่มันจะลวนลามตนไปมากกว่
6นาบ "ลุงอีกแล้วเหรอ! " อุทานอย่างตกใจเสร็จ ก็พยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอีกฝ่าย แต่ลำขาใหญ่ที่กดทับขาทั้งสองข้างของเขาไว้ ทำให้ร่างเล็กถูกกักขังโดยสมบูรณ์ "พูดจาได้น่าขัดใจอีกแล้วนะ" ธันวาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะปิดปากเล็กๆ นั่นลงด้วยปากของตน ขบเม้มแรงๆ เป็นการลงโทษเสียหนึ่งที "ทีนี้จะเรียกให้ถูกได้หรือยัง" "แกมัน! ฮึ่ย! " อบอุ่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขัดใจที่ทำอะไรร่างใหญ่ข้างบนไม่ได้ ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งเจ็บไปหมด "อ๊ะๆ ไม่สุภาพเลยนะ" สายตาคมปลาบที่จ้องมาทำให้อบอุ่นรู้สึกเย็นยะเยือก เมื่อเห็นว่าอบอุ่นเงียบลง ธันวาก็เริ่มใช้สายตาโลมเลียไปทั่วร่างข้างใต้ พลอยให้อบอุ่นสำนึกได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยกายอยู่ นอกจากนี้สายตาอันแผดเผานั่นยังทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนแทบไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป "คุณธันวา..." เสียงสั่นๆ เอ่ยออกไป แต่มันเบาซะจนแทบไม่ได้ยิน "หืม..." "ปล่อยผมเถอะนะ... นะครับ" สายตาออดอ้อนที่ใช้เป็นประจำกับคุณแม่ถูกขุดขึ้นมาใช้ แต่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่ามันกลับเป็นตัวเร่งเชื้อเพลิงให้โหมกระหน่ำยิ่งข
7ค่ำคืนอันเงียบงัน “เฮ้ย! นี่มึงจะกลับแล้วเหรอวะ” ซานถามอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนกำลังหยิบคีย์การ์ดห้อง กระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือออกจากล็อกเกอร์ โดยที่ผมยังคงเปียกอยู่เหมือนคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในขณะที่เขาเพิ่งจะนวดเสร็จเรียบร้อย เตรียมจะไปสครับผิวต่อ “อือ เราต้องกลับแล้วว่ะ ไว้เจอกันที่กรุงเทพนะเว้ย” อบอุ่นที่อยู่ในชุดลำลองแบบเดิมกับตอนแรกที่เข้ามารีบบอกลาเพื่อน ก่อนจะเดินหนีจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ซักต่อ ความจริงแล้วเขาไม่ได้อาบน้ำหรอก แค่ล้างตัวลวกๆ กะจะไปอาบน้ำอีกทีที่วิลล่า แล้วก็ไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าด้วย ชายหนุ่มเดินเข้าไปในวิลล่าแฝดขนาดใหญ่ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองหลัง แต่มีส่วนเชื่อมติดกันด้วยห้องทำงานที่อยู่ตรงกลาง เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้จัดการฝ่ายการตลาดถึงได้ให้ที่พักที่ใหญ่ขนาดนี้กับพวกเขา แถมยังให้คีย์การ์ดมาครบทั้งสองหลังอีก ทั้งที่คืนนี้จะมีคนที่มานอนพักเพียงคนเดียวก็คือไอ้ซาน ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในห้องอาบน้้ำซึ่งเป็นกระจกขนาดใหญ่ และรู้ว่ามีเทคโนโลยีที่สามารถกด
8มอบความอบอุ่น "มาร์ค" "ครับ คุณธันวา" ร่างสูงใหญ่ของบอร์ดี้การ์ดโผล่ออกมาจากมุมมืดหลังจากที่เขาคอยเดินตามคุ้มกันเจ้านายอยู่ห่างๆ เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ห้องอาหารจนกระทั่งคุณธันวาเดินมาส่งคุณอบอุ่นถึงที่พัก ถึงแม้มันจะมืดมาก แต่แว่นตามองกลางคืนที่เขาสวมอยู่ ทำให้เห็นฉากที่น่าเหลือเชื่อนั่นอย่างชัดเจน มันน่าเหลือเชื่อมากที่เจ้านายตนจะมีมุมอบอุ่นแบบนี้ อืม... จริงๆ เขาก็เคยเห็นเจ้านายเทคแคร์สาวๆ บ้างเป็นบางครั้งแหละนะ แต่ส่วนใหญ่สาวๆ เหล่านั้นจะเป็นคนที่ทำให้เจ้านายพอใจ (เรื่องบนเตียง) จนยอมเทคแคร์ ตรงข้ามกับคนที่คอยหาเรื่องหนีเจ้านายตลอดเวลาแบบคุณอบอุ่นนี่สิ "นายแน่ใจนะว่ามันจะได้ผลจริงๆ" ธันวาที่กำลังเดินกลับไปยังที่พักของตนถามขึ้น "ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่หรอกครับ แหะๆ" เรื่องที่เจ้านายพูดถึงคงไม่พ้นเรื่องคุณอบอุ่นนั่นแหละ แต่เขาไม่ชัวร์ว่าคำถามของเจ้านายหมายถึงอะไรกันแน่ เลยต้องตอบแบบปลอดภัยไว้ก่อน "นายบอกให้ฉันเข้าหาเด็กนั่นแบบคนปกติ ฉันก็ทำแล้ว" "..." อ้อ... ที่เจ้านายทำตัวอ่อนโยนนี่เป็นเพราะคำแ
9เนื้อแนบเนื้อ กระป๋องน้ำอัดลมเย็นเฉียบถูกแนบเข้ากับข้างแก้มของชายหนุ่มซึ่งกำลังยืนเกาะขอบเรือเฟอร์รี่ขนาดเล็กอยู่ ทำให้ชายคนนั้นสะดุ้งหลุดจากภวังค์ความคิดของตน พอหันไปเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็รับน้ำกระป๋องนั้นมาอย่างเต็มใจ แต่ไม่ลืมที่จะเอาคืนโดยการแตะกระป๋องเย็นๆ ลงบนแขนอีกฝ่ายแรงๆ เรียกเสียงร้องโอดโอยอย่างโอเวอร์จนทำให้คนแก้แค้นหลุดหัวเราะ “สมน้ำหน้า!” “โห คนเขาอุตส่าห์เอาน้ำมาให้ ใจร้ายว่ะ” อบอุ่นไม่สนเสียงโวยวายของซาน เปิดฝากระป๋อง ยกขึ้นกระดก และเอี้ยวตัวกลับไปชมวิวทะเลเหมือนเดิม ขณะนี้พวกเขากำลังเดินทางไปยังเกาะขนาดเล็ก เพื่อไปดำน้ำดูปะการังและสัตว์ทะเลตรงจุดที่เขาว่ากันว่าสวยที่สุดในย่านนี้ แถมเมื่อเช้ายังมีข่าวชาวประมงหลายคนเจอฝูงปลาโลมาว่ายอยู่แถวๆ ทางที่จะไปเกาะด้วย หากโชคดีจริง พวกเขาคงจะได้เจอ จริงๆ เกาะนั้นอยู่ไม่ห่างจากเกาะส่วนตัวมากนัก จะนั่งเรือหางยาวลำใหญ่ไปแทนยังได้เลย แต่ด้วยความที่มีตาลุงมหาเศรษฐีอย่างธันวาไปด้วย ก็เลยต้องใช้เรือเฟอร์รี่โดยสารเพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย “มึงสนิทกับคุณธันวาได้ไง
10เกินทน บรรยากาศอันเงียบผิดปกติทำให้ธันวาต้องขยับตัวเพื่อให้สามารถมองเห็นใบหน้าของคนในอ้อมกอดได้ และเปลือกตาที่ปิดสนิทเผยให้เห็นขนตายาวคือคำตอบของความเงียบนั้น ท่าทางจะเพลียจัดถึงได้หลับไปทั้งแบบนี้ ธันวายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว พิศดูใบหน้าแสนธรรมดาแต่สามารถมองได้ไม่รู้เบื่อนั้นอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเนิ่นนานเพียงใดที่เขาเอาแต่จ้องมองใบหน้านั่น “อบ” รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงเรียกหาอบอุ่นของซานที่ดังเข้ามาในห้องโดยสารเพียงหนึ่งเดียวของเรือ ทำให้ธันวาต้องรีบกดสัญญาณบนนาฬิกาข้อมือเพื่อเรียกบอร์ดี้การ์ดของตนมาสั่งงาน “สั่งให้เรือกลับเข้าฝั่งเลย ไม่ต้องไปที่ไหนต่อ แล้วก็จัดการเรื่องซานให้ด้วยล่ะ” ร่างเปลือยท่อนบนของผู้ชายสองคนที่กำลังกอดกันอยู่ และเสียงกระซิบสั่งการเบาซะจนแทบจะไม่ได้ยินเหมือนไม่อยากให้คนในอ้อมกอดตื่นขึ้นมา ประกอบกับการเกร็งตัว ไม่กล้าขยับของเจ้านาย ทำให้มาร์ครีบพยักหน้ารับคำ ก่อนจะออกไปทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว เปลือกตาของชายหนุ่มบนเตียงกว้างเปิดขึ้นนิดหนึ่งอย่างงัวเงีย มือบางควานหา
11ได้โปรด “เป็นของฉันเถอะนะ...” ร่างข้างใต้ที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับการปลุกเร้าของเจ้าของเสียงกระซิบแหบพร่าลืมตาขึ้นอย่างงงงวย นัยน์ตาที่หยาดเยิ้มไปด้วยไฟราคะที่ถูกจุดขึ้นมาจ้องมองสันกรามแกร่ง เลยผ่านไปสบยังสายตาแน่วแน่จริงจัง “ทำไมถึงเป็นผม” ทำไมถึงไม่ใช่คนอื่น... “บางอย่างบอกกับฉันว่าต้องเป็นเธอเท่านั้น” ขณะที่ตอบ ฝ่ามือร้อนก็ไม่หยุดเคลื่อนไหว ลูบไล้วนเวียนอยู่ข้างเอวบาง ลากขึ้นผ่านยอดอกจนเจ้าของสยิว แววตาลังเล สีหน้าไม่มั่นใจของลูกแกะน้อย ปลุกสัญชาตญาณเจ้าป่าให้ลุกโชนขึ้น เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ธันวาอยากจะรุกไล่กลืนกินเจ้าแกะทั้งตัว สายตาร้อนแรงแผดเผาจนอบอุ่นสั่นสะท้าน รู้สึกเหมือนเป็นเหยื่อตัวเล็กจ้อยในอุ้งเท้าเสือ ความเงียบคือการตอบรับกลายๆ ธันวาไม่รอช้า เข้าคลุกคลีบดจูบ ปิดกั้นความคิด ยับยั้งอาการลังเลและการปฏิเสธจากอีกฝ่าย เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของตนบนร่างบางที่ยังติดกระดุมไม่เรียบร้อยดีถูกปลดออกอย่างง่ายดาย ริมฝีปากหนาผละออกเพียงครู่เดียว เพื่อกระชากเสื้อของตนเองทิ้งบ้าง ก่อนจะประกบปาก
12ฟองสบู่ในกระจก ความสุขเปี่ยมล้นที่กระจายไปทั่วทั้งร่างแทบจะทำให้อบอุ่นสำลัก เขากอดตอบอีกฝ่ายแน่น หลับตาซึมซับมันไว้ ไม่อยากจะให้ความรู้สึกเหล่านี้จางหายไป แต่ในที่สุดความคับแน่นเบื้องล่างที่ได้ถูกถอดถอนไป ผนวกกับอ้อมกอดที่ถูกปลดออก ปล่อยให้สายลมของเครื่องปรับอากาศลามเลียผิวกายอันเปลือยเปล่าเรียกสติของร่างบาง เขาปรือตาขึ้นอย่างงวยงง สบตาเข้ากับร่างหนาที่ยันตัวขึ้นนั่ง เรือนร่างอันเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายเรียกสีแดงระเรื่อขึ้นบนแก้มขาว จนต้องเบือนหน้าหลบ ธันวาที่เห็นภาพแกะน้อยกำลังเขินอาย รู้สึกอยากจะปลอมประโลมร่างบางอย่างร้อนแรง...อีกสักครั้ง แต่ทว่าต้องข่มใจไว้ด้วยไม่ต้องการให้ส่วนนั้นต้องปริขาดจากขนาดอันเกินมาตรฐานของเขา แขนแกร่งที่เข้าช้อนใต้ข้อพับขาและหลังของอบอุ่นขึ้นเพื่ออุ้ม ทำให้คนที่กำลังอายอยู่ร้องเสียงหลง “ทำอะไรน่ะคุณ!” “พานายไปอาบน้ำไง” “ไม่ต้องอุ้ม ผมไม่ใช่ผู้หญิง” เจ้าแกะน้อยกลายเป็นลูกแมวขู่ฟ่อ พยายามดิ้นลงจากอ้อมแขนนั้น ทำให้ผิวกายของทั้งคู่เสียดสีกันมากยิ่งขึ้น จนร่างบางต้องชะงักเมื่อรู้สึก
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว
21ท่ามกลางแสงจันทร์ “พอได้แล้วมึง จะรีบดื่มทำไมวะ” โอ๊ตเป็นคนเดียวที่พยายามจะห้ามอบอุ่นในเวลานี้ ในขณะที่คนอื่นเอาแต่ชวนให้เพื่อนตนดื่มจนตัวแดงไปหมด “ของอร่อยก็ต้องกินเยอะๆ ดิวะ” อบอุ่นปฏิเสธความหวังดีนั้น คำพูดของเด็กหนุ่มตรงกับความจริงเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น จริงอยู่ที่ว่าเหล้าในวงเหล้าคืนนี้อร่อยเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นเหล้าขาวที่ผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลมจนอร่อยเหมือนค็อกเทล แต่เพราะการพ่ายแพ้จากงานกีฬาสีในช่วงบ่ายจนเขาได้กินแต่เพียงข้าวกับผัก ประจวบกับวล๊อกที่เพิ่งอัพลงยูทูปโดยต้นกล้า คนที่ตัดต่อวีดีโอให้เขา แล้วปรากฏว่าผลตอบรับไม่ดีเท่าเมื่อก่อน อีกทั้งเพจเฟซบุ๊กก็โดนลดการเข้าถึง ทำให้อบอุ่นต้องดื่มเหล้าแก้อาการหงุดหงิดใจที่กำลังเป็นอยู่ โชคดีที่ธันวาไม่อยู่ เพราะต้องกลับไปทำงานอะไรสักอย่าง เขาเลยมีโอกาสได้ดื่มอย่างเต็มที่ จริงๆ แล้วมันอาจจะถือว่าเป็นโชคร้ายก็ได้ เพราะพอธันวาไม่อยู่ เขาก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาหารสุดรันทดตอนมื้อเย็นไปได้ ถึงเขาจะไม่ชอบการใช้สิทธิพิเศษใดๆ แต่ลึกๆ แล้วก็อดคิดถึงความสะดวกสบายเมื่อมีคนตัว
20อ้อน "คุณธันวาครับ" น้ำเสียงจริงจังของบอร์ดี้การ์ดคนสนิทเรียกให้เจ้านายที่กำลังยืนคิดอะไรบางอย่างอยู่หันไปมอง "หืม" ถึงแม้จะขับรถมาค่ายกันเพียงสองคน แต่ด้วยความที่สถานที่ในค่ายเป็นสถานที่เปิด ไม่มีการคุ้มกันหรือหน่วยรักษาความปลอดภัยใดๆ บอร์ดี้การ์ดของธันวาจึงจำเป็นที่จะต้องคอยตามอยู่ห่างๆ และในบางช่วง...อย่างเช่นตอนนี้ ธันวาเรียกมาร์คเพื่อให้มารายงานสถานการณ์หรืองานที่สั่งให้ไปทำ "เรื่องเอกสารที่จะต้องเซ็น..." "เดี๋ยวเย็นนี้ฉันกลับไปจัดการเอง" แค่แว๊บไปนิดเดียวไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะโรงแรมของเขาอยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น "เรื่องยาหยีที่ฉันให้นายคอยจัดการเป็นยังไงบ้าง" ธันวาหมายถึงคู่ขาคนล่าสุดของเขาที่ห่างหายกันไปนานเป็นเดือน จนคิดว่าน่าจะจบกันไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ก็ยาหยีก็กลับมาเรียกร้องความสนใจอีกครั้ง ถึงจะเรียกว่าคู่ขา แต่ระดับความสัมพันธ์ของเขากับเธอค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว จนมาร์คเคยคิดว่ายาหยีจะได้ขึ้นเป็นตัวจริงของธันวาในเร็ววันนี้ แต่จู่ๆ คนทั้งคู่ก็ห่างเหินกัน จนในที่สุดธันวา
19ความผิดสามกระทง “เหล้าจะหมดแล้ว อบไปซื้อให้พวกพี่หน่อยนะ” ดินสั่งพร้อมกับยื่นแบงค์สีเทามาให้ ด้วยความที่ดื่มกันเพลินไปหน่อย ในที่สุดวิสกี้ขวดใหญ่ราคาเป็นหมื่นอีกขวดที่เพิ่งเปิดหลังจากอบอุ่นมานั่งก็หมดลงอย่างรวดเร็วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาพักกลางวัน “ไม่ต้อง พี่มีวอดก้าอยู่ในรถ เดี๋ยวไปเอาให้” ธันวารีบแทรกขึ้นมาก่อนที่คนข้างกายจะทันได้ขยับตัว ตั้งแต่ได้ฟังประโยคอันชวนน่ากังวลถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเขาเข้าไป อบอุ่นก็เก็บปากเก็บคอ นั่งขัดสมาธิคอยชงเหล้าให้เหล่าพี่ๆ ดื่มอย่างเรียบร้อย ไม่คิดจะดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มอีก ถึงแม้ว่ามันจะอร่อยสมกับราคาอันแพงหูฉี่แค่ไหนก็ตาม อบอุ่นเพิ่งจะรู้สึกตัว หลุดออกจากความคิดอันยุ่งเหยิงในหัว ก็เมื่อน้ำหนักของแขนใหญ่บนบ่าได้หายไป... เป็นธันวาที่ลุกขึ้นเดินไปเอาของในรถยนต์ที่จอดไว้หน้าอาคารนอน “พวกมิกซ์กับน้ำแข็งเหลือน้อยแล้ว เดี๋ยวผมไปซื้อให้ก็แล้วกันครับ” เขารีบอาสากับพวกพี่สองคนที่คนนึงเริ่มนอนเลื้อย ส่วนอีกคนนึงก็สับไพ่เล่นอย่างเบื่อๆ “เออ ดีเหมือนกัน เอารถพี่ไปเปล่า หรือว่าจะเดินไป?” ดินถาม