โรสก้าวออกมาจากอาคารกระจกสูงของเอเจนซี่โมเดลลิ่งที่เธอทำงานอยู่ แสงอาทิตย์ยามเย็นที่ลอยต่ำอยู่บนท้องฟ้าตกกระทบผิวของเธอทำให้เธอต้องยกมือขึ้นบังตา เธอเพิ่งเสร็จจากการประชุมกับทีมสไตลิสต์ และตอนนี้เธอกำลังจะเดินกลับไปยังอพาร์ตเมนต์ของตัวเองในใจกลางเมือง
ตอนนี้เป็นเวลาที่คนส่วนมากเริ่มจะเลิกงานกัน ทำให้ท้องถนนเริ่มจะวุ่นวายไปด้วยผู้คนที่รีบเร่ง แต่สำหรับเธอแล้วเสียงเหล่านั้นดูเหมือนจะเบาลงกลายเป็นเสียงที่รบกวนความคิดอันหนักอึ้งของเธอ
โรส หญิงสาววัย 40 ปี เป็นสไตลิสต์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่น เธอได้รับการยกย่องในฐานะผู้หญิงที่มีทั้งความสามารถและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เธอเคยทำงานกับแบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งหลาย มีชื่อเสียงในฐานะนักจัดสไตล์ให้กับเหล่านายแบบและนางแบบชั้นนำ ภาพลักษณ์ของเธอเป็นที่ยอมรับ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตส่วนตัวของเธอง่ายขึ้น
สามเดือนที่ผ่านมาโรสเพิ่งหย่าจากสามี ชายที่เธอเคยคิดว่าเป็นคู่ชีวิตคนสุดท้ายของเธอ การแต่งงานที่ดำเนินมากว่าหลายปีจบลงอย่างรวดเร็วด้วยคำพูดสั้นๆ จากเขา
‘ฉันเบื่อแล้ว... เธอแก่เกินไปสำหรับฉัน’
คำนั้นเหมือนตะปูที่ปักลงในหัวใจเธอ ความเจ็บปวดที่รู้ว่าชีวิตคู่ของเธอพังลงไม่ใช่เพราะอะไรที่เธอทำผิด แต่เพราะเธอแก่เกินไปสำหรับเขา มันเป็นความจริงที่โหดร้าย สามีของเธอเลือกจะทิ้งเธอไปเพื่อผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า สดใหม่กว่า และแน่นอน... มีเสน่ห์ดึงดูดในแบบที่โรสเคยมีเมื่อหลายปีก่อน
และถึงแม้ว่าโรสจะอายุ 40 ปีแล้ว แต่เธอก็ดูแลตัวเองอย่างดีรูปลักษณ์ของเธอยังดูอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด เธอมีผิวพรรณที่นุ่มเนียน เส้นผมยาวสลวย ความสูงและรูปร่างเพรียวของเธอทำให้ผู้คนยังคงมองเธอด้วยความชื่นชม
แต่คำพูดของสามีที่บอกว่า ‘เธอแก่เกินไป’ ไม่ได้มาจากความจริง มันคือคำพูดที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำร้ายจิตใจเธอ เพื่อให้เธอรู้สึกแย่จนยอมถอยออกมาเอง เขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาคือคนเห็นแก่ตัว เขาต้องการปลดปล่อยตัวเองจากความสัมพันธ์ที่เขาเบื่อหน่ายด้วยการทำให้เธอรู้สึกด้อยค่า
คำเหล่านั้นเหมือนยาพิษที่กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเองของเธอ จากผู้หญิงที่เคยมั่นใจในความงามและความสามารถของตัวเอง โรสกลับกลายเป็นคนที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
หลังจากหย่าขาดจากสามี ชีวิตของโรสก็เหมือนกระจกร้าวที่พังทลายลงต่อหน้า ในช่วงแรกๆ เธอจมอยู่ในความเศร้าจนเหมือนหัวใจถูกบีบไว้แน่นทุกครั้งที่นึกถึงความเจ็บปวด แต่แม้จะอยู่ในจุดที่มืดมนที่สุด แต่เพื่อนๆ ของเธอก็คอยอยู่เคียงข้าง ช่วยฉุดดึงเธอให้กลับมายืนอย่างมั่นคงอีกครั้ง
เพื่อนๆ ของโรสคอยบอกเธอว่าเธอมีคุณค่ามากเกินกว่าจะเสียเวลาให้กับผู้ชายเลวๆ ที่เห็นแก่ตัว เมื่อเวลาผ่านไป น้ำตาก็ค่อยๆ เหือดหาย และในที่สุดเธอก็ได้กลับมามองตัวเอง และให้ความสำคัญกับตัวเองอีกครั้ง
โรสตัดสินใจอย่างชัดเจนว่าเธอจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหัวใจเธอได้อีก ชีวิตนี้จะไม่เสียเวลาให้กับผู้ชายเลวๆ อีกต่อไป มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะเป็นฝ่ายเลือก เธอรู้ว่าด้วยอายุของเธอ มันสายไปแล้วที่จะมีความรักอีกครั้ง เธอตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตแบบไม่แคร์โลก จะสนุกสุดเหวี่ยงไปกับทุกอย่างที่เธอต้องการ เติมเต็มความสุขที่เธอเคยพลาดไป
เธอตั้งใจจะเป็นคนใหม่ คนที่พร้อมจะใช้ชีวิตในแบบที่เธอเลือกเอง ชีวิตนี้มันสั้นเกินกว่าจะมาจมอยู่กับอดีต เธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขในแบบที่เธอเป็น ไม่จมอยู่กับความเศร้าอีก
และวันนี้ก็มีบางอย่างแตกต่างออกไป ความรู้สึกที่เธอพยายามเก็บซ่อนมันไว้ลึกๆ กำลังพลุ่งพล่าน ความห่างเหินจากสัมผัสทางกายตั้งแต่การหย่าร้างนั้นทำให้เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่ร้อนแรง เธอต้องการมัน ความรู้สึกที่เธอไม่เคยยอมรับมันอย่างเต็มปาก เธอรู้ดีว่าเธอคิดถึงมัน
โรสเดินไปตามทางเดินท่ามกลางบรรยากาศที่เหน็บหนาว โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่จากอีกฟากของถนน
ใต้ร่มเงาไม้ต้นหนึ่ง สายตาคู่นั้นติดตามทุกก้าวย่างของเธอ คอยเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของเธออย่างเงียบเชียบ มันเป็นความเงียบที่ชวนให้รู้สึกอึดอัด แต่โรสกลับไม่ได้รู้ตัวถึงการมีอยู่ของชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในเงามืด ภายใต้ไฟถนนที่สลัว เขามองดูเธอด้วยความเยือกเย็น แต่แฝงไปด้วยแรงปรารถนาบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในแววตาสีฟ้าหม่นของเขา
เขายืนอยู่ตรงนั้น สังเกตทุกท่าทาง ทุกอิริยาบถ รอยยิ้มที่โรสไม่อาจมองเห็นปรากฏบนใบหน้าของเขา มันเป็นรอยยิ้มที่แฝงความหมายบางอย่าง มันดูลึกลับและคาดเดาไม่ได้
โรสเดินต่อไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกจับตามอง ลมพัดผ่านตัวเธอ ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่ารอบกาย ทว่ามันไม่ได้หยุดชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองเธออยู่ เขาไม่เคลื่อนไหว เพียงแค่รอ รอจังหวะที่เหมาะสม
เมื่อโรสเดินไปได้ไม่ไกลจากตรงนั้น เขาก็เริ่มเคลื่อนตัว ก้าวเดินอย่างใจเย็นมุ่งตรงเข้าหาเธอจากด้านหลัง เสียงฝีเท้าของเขาเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่เมื่อเขาใกล้พอ เขาก็เอ่ยทักทายเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่มีเสน่ห์
“สวัสดีครับ...”
โรสหันขวับกลับไป เธอจำเสียงนี้ได้ทันที เธอมองเห็นลูคัส
เขาเป็นหนึ่งในนายแบบชื่อดังที่อยู่ร่วมบริษัทด้านแฟชั่นและโมเดลลิ่งเดียวกัน แต่เธอไม่เคยได้ร่วมงานกับเขา ร่างสูงใหญ่และผมบลอนด์ของเขายิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูสมบูรณ์แบบ ท่ามกลางผู้คนมากมาย ลูคัสโดดเด่นราวกับเป็นสิ่งเดียวที่ดึงดูดสายตาของทุกคน
“ลูคัส?” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงพยายามควบคุมไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไป มันน่าอายเกินไปที่ผู้หญิงวัย 40 จะมาใจเต้นกับผู้ชายที่อ่อนกว่าแบบนี้ และอายุของเขาก็อ่อนกว่าเธอถึง 10 ปี โรสรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เห่อร้อนขึ้นมาบนใบหน้า เธอพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแม้ภายในใจจะสั่นไหวไม่หยุด เธอเคยเห็นเขาผ่านๆ ในบริษัทหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันต่อหน้าแบบใกล้ชิดขนาดนี้ ลูคัสหล่อเกินไปสำหรับเธอ... หล่ออย่างไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง
เขาพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้มออกมาให้เธอ โดยที่แววตายังคงจับจ้องเธออยู่
“ผมเคยเห็นคุณหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทักทายเลย วันนี้... คุณดูสวยมากนะครับ”
คำชมเชยของเขาแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง และโรสรับรู้ได้ว่ามันมีเจตนาแอบแฝงที่ชัดเจน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยกับวิธีการเข้าหาผู้หญิงของเขา แต่ลึกๆ แล้วเธอรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอกำลังรอคอย และเธอไม่คิดว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้
"คุณกำลังจะไปไหนเหรอครับ?" ลูคัสถามพร้อมกับยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยรอฟังคำตอบของเธอ
“ก็กลับบ้านน่ะ...” เธอตอบเขา แต่ความคิดในหัวกลับสับสน เธอรู้สึกว่าคำพูดนั้นไม่ตรงกับสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ
รอยยิ้มที่อ่านไม่ออกปรากฎบนริมฝีปากของเขาเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนไร้พิษภัย จากนั้นเขาก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เล็กน้อยพอให้เธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ติดตัวเขามา
"ดื่มอะไรหน่อยไหมครับ? ผมรู้จักบาร์ดีๆ แถวนี้..."
โรสชะงักไปเล็กน้อย ใจของเธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้แค่ชวนไปดื่มธรรมดา การได้เห็นนายแบบหนุ่มหล่อเหลามาทักทายเธอแล้วเสนอให้ไปดื่มด้วยกัน มันเก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามันจะไม่ได้จบลงเพียงแค่การดื่มแน่นอน เธอรู้สึกได้ถึงบางอย่างในตัวลูคัสที่กำลังดึงดูดเธอเข้าสู่ความปรารถนาอันเย้ายวนแต่เธอก็รู้ดีว่าการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายแบบชื่อดังที่ทำงานในบริษัทเดียวกันนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาได้ มันไม่ใช่สิ่งที่มืออาชีพควรทำ เธอควรจะปฏิเสธ... ควรจะตั้งสติและเดินออกจากสถานการณ์นี้ แต่แววตาสีฟ้าของเขาที่จ้องตรงมา เหมือนกับมีอำนาจบางอย่างที่ทำให้เธอตัดสินใจลำบาก"ผ่อนคลายบ้างก็ดีนะครับ" ลูคัสเอ่ยพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ น้ำเสียงนุ่มๆ ของเขาทำให้โรสรู้สึกสบายใจ "หรือคุณกลัวว่าไปกับผมแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?" นายแบบหนุ่มเย้าแหย่เธอเล็กน้อยคำถามนั้นทำให้เธอชะงัก ลูคัสเอียงศีรษะเล็กน้อย ขยับโน้มเข้ามาใกล้เธอ รอยยิ้มของเขาดูเหมือนจะหยอกล้อ แต่ก็ซ่อนอะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจคาดเดาได้ "บางที... เราอาจจะสนุกด้วยกันนะครับ โรส… "หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นทุกขณะเมื่อได้ยินเสียงที่เรียกชื่อเธอ ราวกับเสียงของเขาได้แทรกซึมเข้าไปในควา
"เธอหว่านเสน่ห์แบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ?" โรสถาม พลางจิบไวน์ต่อ เธอไม่ปล่อยให้เขาเห็นความอ่อนไหวในตัวของเธอ "เปล่าครับ แค่กับคนที่ผมสนใจจริงๆ" ลูคัสตอบตรงๆ น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงจังมากขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเจือด้วยเสน่ห์ที่ยากจะปฏิเสธ โรสหลุดหัวเราะเล็กน้อยอย่างไม่ตั้งใจ เธอยกแก้วไวน์ขึ้นจิบต่อ ความร้อนแรงจากแอลกอฮอล์และสายตาแหลมคมของเขาทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองถูกปลุกเร้าในทางที่เธอไม่ได้คาดคิดมาก่อน “เธอแน่ใจแล้วเหรอว่าตัวเองไม่กลัว?” เธอถามต่อ น้ำเสียงของเธอคงความเป็นธรรมชาติ แต่ในใจนั้นตรงกันข้ามกันเลย เธอเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว “คุณคิดว่าผมควรกลัวอะไรล่ะครับ?” ลูคัสถามกลับ สายตายังคงจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ โรสยิ้มและยักไหล่เล็กน้อย “ก็ไม่รู้สินะ...” เธอตอบส่งๆ ไปแบบนั้นและเสมองไปทางอื่นแก้เขิน เธอรู้สึกเสียฟอร์มที่โดนแหย่แบบนี้ ลูคัสขยับตัวเล็กน้อย เอนตัวเข้ามาใกล้เธอขึ้นอีก ราวกับกำลังหยั่งเชิงเธออยู่ตลอดเวลา “ผมว่า...คุณรู้ดีว่าคุณมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมสนใจ” เขากล่าว น้ำเสียงทุ้มลึกของเขาราวกับเสียงกระซิบที่ยั่วเย้า โรสรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่ค่อยๆ ทวีความรุนแรงข
โรสแกล้งยิ้มยั่วออกมาและพยายามทำเป็นไม่สะท้านกับคำพูดนั้นของเขา เธอช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างช้าก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่เย้ายวนและท้าทาย “ทำเหมือนว่าฉันจะกลัวไปได้? ”สายตาของลูคัสเป็นประกายด้วยความขบขัน ผสมกับความปรารถนาที่เก็บไว้ไม่มิด เขาจึงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น มือข้างหนึ่งของเขายังคงประคองข้อมือของเธอไว้ ขณะที่อีกมือหนึ่งเลื่อนไปแตะเอวของเธออย่างอ่อนโยนแต่มั่นคงความร้อนรุ่มในร่างกายของโรสยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อมือหนาสัมผัสเธอ มือของเธอสั่นเล็กน้อย แต่เธอพยายามควบคุมความตื่นเต้น เธอผลักลูคัสเบาและขยับออกห่างไปเล็กน้อยเพื่อเล่นเกมนี้ให้ยาวนานขึ้นริมฝีปากบางประดับด้วยรอยยิ้มยั่วเย้า เธอค่อยๆ ปลดตะขอบราของตัวเองออก และสิ่งที่ปกปิดร่างกายชิ้นสุดท้ายถูกถอดออก สายตาของลูคัสจับจ้องเธออย่างไม่วางตา“แล้วเธอแน่ใจหรือเปล่าว่าจะทำให้ฉันพอใจได้?” โรสยั่วยวนเขาอีกครั้งลูคัสหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา “ผมไม่เคยปล่อยให้ใครผิดหวังครับ…” เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วโน้มตัวลงอุ้มเธอขึ้นอย่างคล่องแคล่ว ทำเอาโรสถึงกับตกใจทันทีที่ร่างของเธอข
“อึก!!! ” โรสหลับตาแน่น เธอรู้สึกเสียวซ่านจนแทบจะขาดใจในทุกจังหวะที่เขาขยับกระแทกเข้ามา เธอกัดริมฝีปากพยายามเก็บเสียงครางในขณะที่ร่างกายเธอเผลอเคลื่อนไหวตอบรับเขาโรสพยายามปกปิดความรู้สึกเสียวซ่านที่เกิดขึ้น แต่สัมผัสจากลูคัสก็เหมือนกับไฟที่ค่อยๆเผาผลาญเกราะป้องกันของเธอจนแทบละลายไปหมด เขาจ้องมองเธอไม่ละสายตาในขณะที่ขยับเข้าออกอย่างรุนแรง สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา มันทำให้เธอยิ่งควบคุมตัวเองได้ยาก"คุณบอกว่าให้ผมทำให้คุณพอใจ แต่ตอนนี้...คุณดูจะพอใจมากแล้วนะครับ" ลูคัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเย้าแหย่ขณะที่เพิ่มการขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้น ริมฝีปากของเขาประทับลงที่ข้างแก้มเธอ แกล้งหายใจรดเบาๆที่ข้างหู มันทำเอาเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่างโรสกัดริมฝีปากพยายามไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา แต่ก็กลั้นเอาไว้ไม่ได้เมื่อความต้องการของเธอค่อยๆปะทุขึ้นอย่างยับยั้งไม่อยู่ เธอยกสะโพกรับทุกครั้งที่ลูคัสขยับเข้าออก ร่างกายเธอกระเด้งเข้าหาสัมผัสนั้นอย่างลืมตัว ก่อนจะหันไปมองเขา แกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ"ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักหรอก..." โรสตอบเสียงสั่น พร้อมยิ้มที่มุมปากอย่างท้าทาย แต่เธอก็ยังขยับตัวกระเด้ง
ลูคัสหรี่ตานิดหนึ่งก่อนที่เผยรอยยิ้มชอบใจออกมา แล้วในชั่วพริบตา จับข้อเท้าของเธอไว้แน่นไม่ปล่อย เขากดปลายเท้าของเธอให้สัมผัสอยู่ตรงนั้นนานขึ้นราวกับจะบอกให้รู้ว่าเกมนี้เธออาจไม่ได้คุมทุกอย่างอย่างที่เธอคิดไว้“ยั่วเก่งจังเลยนะครับ?” เขาเลิกคิ้วมองเธอด้วยแววตาที่แสนเจ้าเล่ห์ มือที่จับข้อเท้าของเธอแน่นขึ้นเหมือนกำลังปราบให้อยู่ในอำนาจ โรสรู้สึกถึงแรงกดดัน แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ให้เขาง่ายๆเช่นกัน“ทำไม? กลัวฉันจะทำให้เธอเสร็จหรือไง?” เธอกล่าวเย้าด้วยเสียงแหบพร่า ทำเป็นไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่ใจเต้นแรงจนแทบหยุดหายใจลูคัสได้ยินก็ยิ้มที่มุมปากพร้อมกับยกข้อเท้าเธอขึ้นจรดริมฝีปากแล้วจูบไล้จากข้อเท้าไต่ขึ้นมาถึงหน้าแข้งอย่างจงใจ จูบที่อ้อยอิ่งทว่าร้อนแรงของเขาทำให้เธอเผลอสะดุ้ง จนเธอเผลอชักเท้ากลับแต่ลูคัสก็ยังยึดไว้ไม่ปล่อย“หืม?…เมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลยนี่ครับ...” ลูคัสเย้าหยอกเธอ ดวงตาคู่นั้นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธออย่างท้าทาย “ตอนนี้หน้าแดงทำไมล่ะครับ หรือยั่วคนอื่นเก่งแต่พอโดนบ้างกลับเขิน?”โรสกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ แต่ยังฝืนยิ้ม เชิดหน้ามองเขาอย่างท้าทาย “ฉันไม่ได้เขินหรอก…ก็แค่สงสัยว่าเธอจะทำอะไ
“อึก!!! ” โรสหลับตาแน่น เธอรู้สึกเสียวซ่านจนแทบจะขาดใจในทุกจังหวะที่เขาขยับกระแทกเข้ามา เธอกัดริมฝีปากพยายามเก็บเสียงครางในขณะที่ร่างกายเธอเผลอเคลื่อนไหวตอบรับเขาโรสพยายามปกปิดความรู้สึกเสียวซ่านที่เกิดขึ้น แต่สัมผัสจากลูคัสก็เหมือนกับไฟที่ค่อยๆเผาผลาญเกราะป้องกันของเธอจนแทบละลายไปหมด เขาจ้องมองเธอไม่ละสายตาในขณะที่ขยับเข้าออกอย่างรุนแรง สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความปรารถนา มันทำให้เธอยิ่งควบคุมตัวเองได้ยาก"คุณบอกว่าให้ผมทำให้คุณพอใจ แต่ตอนนี้...คุณดูจะพอใจมากแล้วนะครับ" ลูคัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเย้าแหย่ขณะที่เพิ่มการขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้น ริมฝีปากของเขาประทับลงที่ข้างแก้มเธอ แกล้งหายใจรดเบาๆที่ข้างหู มันทำเอาเธอสั่นสะท้านไปทั้งร่างโรสกัดริมฝีปากพยายามไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา แต่ก็กลั้นเอาไว้ไม่ได้เมื่อความต้องการของเธอค่อยๆปะทุขึ้นอย่างยับยั้งไม่อยู่ เธอยกสะโพกรับทุกครั้งที่ลูคัสขยับเข้าออก ร่างกายเธอกระเด้งเข้าหาสัมผัสนั้นอย่างลืมตัว ก่อนจะหันไปมองเขา แกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ"ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักหรอก..." โรสตอบเสียงสั่น พร้อมยิ้มที่มุมปากอย่างท้าทาย แต่เธอก็ยังขยับตัวกระเด้ง
โรสที่กำลังหอบหายใจและมึนงงเพราะความสุขสมที่ได้รับมากเกินไป แทบไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด เธอเพียงแค่เงยหน้ามองเขาอย่างสงสัย ในขณะที่ลูคัสก็รีบปรับสีหน้าเป็นปกติ พลางเอียงคอยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนายแบบหนุ่มถอนตัวออกจากช่องทางของเธออย่างช้าๆราวกับไม่อยากแยกจาก ถุงยางเต็มไปด้วยหยาดน้ำแห่งความต้องการของเขา แก่นกายของลูคัสหลุดออกมาพร้อมกับความชุ่มชื้นที่เกาะอยู่ตามลำของเขา ช่องทางรักของโรสมีสีที่แดงเข้มขึ้นและบานเล็กน้อยจากแรงกระแทกที่หนักหน่วง น้ำหล่อลื่นผสมกับหยดของความต้องการยังไหลออกมาช้าๆทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นที่ยังหลงเหลือเธอมองไปยังลูคัสที่อยู่ระหว่างขาของเธอ และได้เห็นว่าเขายังคงแข็งขึงเต็มที่ คล้ายกับว่าเขาไม่แม้แต่จะคิดหยุดเพียงเท่านี้ เธอหอบหายใจหนัก มองเขาด้วยสายตาตกใจระคนประหลาดใจ ขณะที่ลูคัสค่อยๆดึงถุงยางออก แล้วหยิบอันใหม่ขึ้นมาใส่โดยไม่พูดอะไร“เธอจะทำอะไรน่ะ?” โรสเอ่ยเสียงหลง แฝงด้วยเหนื่อยล้า “ช่วยดูอายุของฉันด้วย…”ลูคัสเพียงแค่ยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง รอยยิ้มนั้นแฝงนัยบางอย่างที่ทำให้โรสใจเต้นเร็วขึ้นอีกครั้งแล้วก้มลงกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่ข้างหูของเธอ “ผม
ร่างสูงใช้มือประคองใบหน้าเธออย่างเบามือ ส่วนมืออีกข้างลูบไล้ไปตามร่องรอยที่เขาทิ้งไว้บนร่างกายเธอ เธอไร้ซึ่งการตอบสนอง จมลงไปในห้วงนิทราอย่างลึกล้ำ ลูคัสยังคงจ้องใบหน้าเธออย่างหิวกระหายดวงตาของเขาดูดำมืดและเย็นชา ราวกับกำลังพิจารณาสิ่งที่อยู่ มือของเขาค่อยๆขยับไปยังแท่งเนื้อของตัวเอง กำมันแน่นและเริ่มรูดขึ้นลง ทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นเต็มไปด้วยความตั้งใจ เขามองเธอที่นอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ดวงตายังคงจับจ้องเธออย่างไม่วางตาเมื่อลูคัสถึงจุดที่ไม่อาจหยุดยั้ง เขาปลดปล่อยหยดสีขาวขุ่นออกมา หยดน้ำรักกระจายไปทั่วใบหน้าของโรส รอยยิ้มมุมปากของลูคัสขยับขึ้นเล็กน้อย เขามองผลงานที่ตนเองฝากไว้บนใบหน้าเธออย่างพอใจ ความเย็นยะเยือกในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความครอบครองลูคัสหัวเราะออกมาด้วยความสุข เสียงนั้นแหบแห้งและเย็นชา เขาค่อยๆใช้ปาดคราบน้ำรักบางส่วนบนใบหน้าของเธอไปที่มุมปากสีสวยแล้วไล้มันไปตามริมฝีปากก่อนที่จะขยับนิ้วอย่างแผ่วเบา ระมัดระวังทุกการสัมผัสเหมือนกับกลัวว่าเธอจะรู้สึกถึงสิ่งที่เขากำลังทำ"ในที่สุด... คุณก็เป็นของผมแล้ว..."ท่ามกลางความเงียบงันที่แปลกประหลาด ขาแข็งแรงของเขายังคงอยู่ในท่าท
โรสยังคงขยับสะโพกรับการกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมให้เขาหยุด เธอรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไป“อ๊า... ลูคัส... ไม่ไหวแล้ว... ฉันจะเสร็จแล้ว!” โรสบอกเสียงกระเส่า ขาของเธอสั่นระริก มือของเธอยังบีบยอดอกของตัวเองเพื่อระบายความเสียวซ่านไปพร้อมๆกับสะโพกที่ขยับรับการกระแทกจากเขาลูคัสมองดูร่างของเธอด้วยสายตาที่มืดลง พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้จนแทบจะทนไม่ไหว “คุณไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” เขาพูดเสียงต่ำ ขยับสะโพกเข้าไปลึกและแรงขึ้น “ผมไม่อยากหยุดเลย โรส...”แต่เขารู้ดีว่าโรสต้องการอะไร และเขาก็รู้ว่าต้องการทำให้เธอถึงจุดสูงสุดก่อนถึงเวลาของเขา เขาหลับตาลงก่อนจะกระแทกอีกครั้งด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้น “ปล่อยออกมาเลยครับ เสร็จออกมาเลย”ทันใดนั้นโรสก็ปล่อยเสียงครางออกมาในลำคออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายของเธอกระตุกไปตามจังหวะที่เขากระแทกเข้าออก ความเสียวที่พุ่งเข้ามาทำให้เธอหลุดเสียงร้อง "อ๊า... ลูคัส... ฉัน... ฉันเสร็จแล้ว!" ร่างของเธอสั่นระริก ขาเกร็งจนเกือบจะล้มแต่ยังคงยืนอยู่ได้เพราะลูคัสยังคอยจับเธอไว้แน่นลูคัสกระแทกเข้าไปอีกครั้ง เขาครางเสียงแหบพร่า ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อ
หลังจากกิจกรรมอันเร่าร้อนหลังโขดหินนั้นจบลง ลูคัสพาเธอกลับมาที่ห้องเพื่อทำความสะอาดและพักผ่อนเมื่อถึงห้องพัก ลูคัสกุมมือโรสแน่น รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดสามารถกั้นเขาไม่ให้เข้าใกล้เธอได้อีกแล้ว เมื่อประตูปิดลง เขาจูงเธอตรงไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำอุ่นที่กระทบพื้นดังแว่วเป็นจังหวะ แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในใจเขาเป็นเพียงเสียงหายใจของเธอ ที่แผ่วเบาแต่สะกดเขาไว้จนไม่อาจหันเหสายตาไปทางอื่นได้ในแสงสลัวจากไฟในห้องน้ำ ลูคัสมองโรสอย่างที่เขาทำไม่ได้ในที่แจ้ง ร่างกายที่ยังมีละอองน้ำทะเลเคลือบผิวดูเย้ายวนจนเขาต้องเผลอกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว มือหนาเอื้อมไปปลดปมบิกินี่ของเธอออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่ปิดบังความรู้สึก“คุณสวย...จนผมไม่อยากละสายตาเลย” ลูคัสเอ่ยเสียงพร่า เขาโน้มตัวเข้าใกล้ ปลายจมูกแตะหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่แก้ม โรสหลับตา ปล่อยให้เขาละเลียดจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“พอเถอะลูคัส...” โรสพูดเสียงกระเส่า แต่มือของเธอกลับเผลอเกาะต้นแขนเขาแน่นลูคัสยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าเธอกำลังสู้กับตัวเอง “คุณพูดให้ผมหยุด...แต่ร่างกายคุณบอกให้ผมไปต่อ คุณจะเอายังไงดีครับ คุณโรส” น้ำเสียงแฝง
อีกภาพที่เขาจับได้คือตอนที่เธอก้มลงเก็บลิปสติกที่ตกอยู่บนพื้น ผมของเธอปรกลงมาบังใบหน้า เธอปัดมันไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางธรรมดานั้นกลับดูดึงดูดจนเขารู้สึกว่ามือที่จับกล้องสั่นเล็กน้อย แล้วก็มีภาพหนึ่ง เป็นช่วงที่โรสหัวเราะพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน แสงสะท้อนจากรอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นจนทำให้ห้องทั้งห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้น ลูคัสมองผ่านเลนส์ เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นภาพถ่ายที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ เป็นชั่วขณะที่เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นลูคัสรู้ดีว่าการกระทำแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว กล้องในมือก็เหมือนเป็นเพียงทางเดียวที่เขาจะยึดโยงเธอไว้ได้ในโลกของเขาเองเขาเริ่มสะสมภาพของเธอไว้ในแฟ้มส่วนตัวอย่างเงียบๆแต่ความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขารู้ว่าโรสทำงานที่ไหน และพักอาศัยอยู่ที่ใด ลูคัสก็เริ่มสะกดรอยตามเธอในวันหยุดที่เขาควรจะพักผ่อน ลูคัสกลับขับรถไปจอดอยู่ใกล้คาเฟ่ที่โรสชอบแวะไป เขานั่งอยู่ในมุมร้านที่เธอไม่สังเกตเห็น มองดูเธอจิบกาแฟและอ่านหนังสือ บางครั้ง เขาเดินตามเธอไปในห้างสรรพสินค้า จับภาพเธอผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะเธอเลือกซื้อของใช้เ
บ้านหลังเล็กในเขตชานเมืองยามค่ำคืน เงาของแสงไฟจากหลอดไฟเก่าๆกระพริบอยู่เหมือนมันกำลังจะดับ ลูคัสในวัยเด็กนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมมืดของห้องเก็บของเล็กๆ ซึ่งเป็นที่เดียวที่เขารู้สึกปลอดภัย ตุ๊กตาเก่าๆที่มีรอยเย็บซ่อมเต็มตัวอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆของเขาราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องเขาได้ เสียงทะเลาะวิวาทดังระงมมาจากห้องนั่งเล่น เป็นเสียงของผู้ชายตะคอกด่าทอผสมกับเสียงผู้หญิงที่พยายามห้ามปรามแล้วเสียงขวดแก้วก็แตกกระจายดังสนั่น เศษแก้วปลิวกระจายไปทั่วพื้น ทำให้ลูคัสสะดุ้งเฮือก น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลรินออกมา เขากดหน้าซุกกับตุ๊กตาและเอามือน้อยๆปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ เพื่อปิดกั้นเสียงเอาไว้ แต่เสียงที่น่าสะพรึงนั้นยังดังอยู่ เสียงแห่งความเจ็บปวด เสียงแห่งความโกรธที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด"ลูคัส!" เสียงกระซิบดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่พี่สาวของเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธอพุ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะกอดเขาไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นระริกไม่ต่างจากเขา "ไม่ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง"ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองพี่สาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความความอ่อนโยน เธอพยายามจะปลอบเขาทั้ง
โรสถอยเท้าหนี ความรู้สึกสงสารและโกรธแค้นประดังเข้ามาในใจ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด แต่ก็ยังสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ความรักของเธอมันหนักเกินไปสำหรับฉัน ลูคัส ฉันไม่สามารถทนรับมันได้อีกแล้ว ฉันแค่...อยากให้ทุกอย่างจบ...”เขาทรุดลงไปอีกครั้ง หมอบกราบแทบเท้าของเธอ ร่างสูงใหญ่ดูอ่อนแอและสิ้นหวังอย่างน่าเวทนา “ได้โปรด...อย่าพูดแบบนั้น ผมขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ”โรสมองเขาด้วยสายตาเปื้อนน้ำตา หัวใจเธอเจ็บปวดเหมือนโดนบีบให้แตกสลาย แต่เธอก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งไว้ เธอไม่สามารถให้ตัวเองใจอ่อนได้อีกแล้วเอมี่ขยับมายืนข้างๆ สายตาจ้องมองลูคัสอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับโรส “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังอะไรแบบนี้แล้ว ไปจากที่นี่กันเถอะโรส”ลูคัสเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำตาอาบแก้ม เขาดูเหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่ง “โรส...ได้โปรด...ผมไม่มีคุณไม่ได้...”โรสหลับตาลง พยายามสะกดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เธอรู้ดีว่าการกลับไปหาลูคัสไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แม้หัวใจของเธอจะเจ็บปวดกับสภาพของเขา แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสิ่งที่เขาเคยทำได้...โรสทรุดตัวลงนั่
เมื่อโรสย้ายเข้าไปอยู่กับเอมี่ เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของลูคัสจนถึงเอเดน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อเล่าถึงช่วงเวลาที่เธอถูกหักหลัง ความรู้สึกอับอายและเจ็บปวดผสมปนเปจนแทบพูดไม่ออก แต่เอมี่ฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ขัดอะไร จนกระทั่งทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกไปจนหมด"แล้วทำไมเธอไม่บอกฉันตั้งแต่แรก?!" เอมี่พูดขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ถ้าเธอเล่าให้ฉันฟัง บางทีเรื่องมันอาจจะไม่บานปลายแบบนี้ก็ได้"โรสก้มหน้าลง น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอพึมพำด้วยความรู้สึกผิด "ฉันไม่กล้าเล่า... ฉันอาย"เอมี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "อายเรื่องอะไร? เรื่องแบบนี้เธอต้องบอกฉันสิ ฉันคือเพื่อนของเธอนะ""ฉันรู้สึกอายที่จะบอกว่าฉันคบกับคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองมากขนาดนั้น ตอนแรกมันเหมือนแค่เรื่องสนุก ฉันไม่คิดว่ามันจะลากยาวมาจนถึงจุดนี้... ฉันไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนและเลวร้ายแบบนี้เลย"เอมี่ถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลง "ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง เธอไม่ควรเก็บไว้คนเดียวแบบนี้อีก เข้าใจไหม? ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องบอกฉันทันที เราจะหาทางแก้ไปด้วยกัน"โรสพยักห
แม้ว่าลูคัสอาจมีปัญหาในจิตใจของเขาเอง แต่เธอก็ไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่เขาทำได้ ความเจ็บปวดจากการถูกล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจยังคงหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่หลับตา แต่เมื่อมองเรื่องราวของตัวเองกับสามี มันยิ่งเห็นชัดเจนขึ้น การที่เธอเลิกกับสามีมันไม่ใช่ความผิดของลูคัสอย่างที่เขาพูด แม้ว่าลูคัสจะจ้างผู้หญิงคนนั้นเพื่อเข้าไปใกล้สามีของเธอ แต่สุดท้ายการที่สามีของเธอนอกใจมันก็คือการตัดสินใจของเขาเอง ลูคัสอาจเป็นตัวกระตุ้น แต่เขาไม่ได้เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานของเธอความคิดนี้ทำให้เธอเริ่มสงบลง เธอหยุดกล่าวโทษทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูคัสหรือใครก็ตาม เธอเริ่มยอมรับความจริงว่าชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ และบางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ต้องเดินผ่านแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับเธอในตอนนี้คือเธอไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใดๆอีกแล้ว ความรักที่เคยทำให้เธอมีความสุข ตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่เธอเข็ดหลาบที่สุด เธอไม่อยากเสี่ยงเปิดใจให้ใครอีก ไม่อยากแบกรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆในสองวันนั้น โรสพยายามฝึกที่จะเริ่มต้นดูแลตัวเอง เธอเปิดหน้าต่างให้ลมเย็นๆ ของช่วงเช
"ลูคัส ฟังฉันนะ..." เสียงของเธอสั่นไหว แต่แฝงด้วยความหนักแน่น “ทุกอย่างมันจบแล้ว ฉัน... ฉันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอกับฉัน มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย ปล่อยฉันไปเถอะ”น้ำตาของลูคัสไหลลงมาอีกเป็นสายเขาส่ายหัวไปมาอย่างแรง “ไม่! คุณยังรักผมอยู่ ผมรู้!” เขาพุ่งเข้าไปกอดขาของเธอแน่นจนโรสต้องเซถอยหลังเล็กน้อย“ปล่อยฉัน ลูคัส!” โรสร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว เธอ... เธอทำลายทุกอย่างในชีวิตฉัน เธอไม่เข้าใจเหรอ?”ลูคัสกลับยิ่งกอดขาเธอแน่น เขาสะอื้นเหมือนเด็กที่กำลังหวาดกลัวการถูกทอดทิ้ง “ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิด แต่ผมทำไปเพราะผมรักคุณ... โรส ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม...ขอร้อง...”โรสมองลงไปที่เขา ภาพของลูคัส นายแบบชื่อดังที่ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความมั่นใจในตัวเอง ดูดีและสมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคน บัดนี้เขากลับกลายเป็นเพียงชายที่ดูไม่ได้ แตกสลายและหมดสภาพ เธอรู้สึกสมเพชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่แค่กับเขา... แต่กับตัวเธอเองที่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนนี้นานเกินไปโรสพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่ก่อนจะพูด "ฉันไม่เหลืออะไรให้เธอแล้วลูคัส ไม่แม้แต่ความเกลียดชัง ฉันแค่...
ในขณะที่เอเดนกำลังพยายามดึงเสื้อผ้าของโรสออก เสียงประตูที่เปิดออกอย่างแรงทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก่อนที่โรสจะทันได้ประมวลผล คนที่เข้ามาก็ถีบเอเดนออกจากตัวเธออย่างรุนแรง ร่างของเอเดนกระเด็นไปกระแทกกับพื้นเสียงดัง ลูคัสยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะที่แทบจะเผาผลาญทุกสิ่งรอบตัว“แกทำอะไรลงไป เอเดน!” ลูคัสคำราม ก่อนพุ่งเข้าไปกระชากตัวเอเดนขึ้นจากพื้นและเหวี่ยงหมัดใส่เขาอย่างไร้ความปรานี เอเดนล้มลงไปอีกครั้ง แต่ลูคัสไม่หยุด เขาใช้เข่าคร่อมร่างของเอเดนไว้ แล้วปล่อยหมัดตามมาอย่างต่อเนื่องลูคัสจมอยู่ในความโกรธแค้น และเอเดนที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ไร้ความสามารถที่จะตอบโต้ สภาพเขาเละเทะและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างของเอเดนก็แน่นิ่งไปโรสนั่งอยู่บนเตียง สภาพของเธอดูอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และเส้นผมยุ่งเหยิง เธอกอดตัวเองแน่น ร่างกายสั่นสะท้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความหนาวเหน็บของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือความกลัวที่เริ่มครอบงำเธอมองลูคัสที่ค่อยๆลุกขึ้นจากร่างของเอเดนด้วยสายตาที่เธออ่านไม่ออก เขาเพิ่งช่วยเธอจากเอเดน แต่แววตาที่เขาหันมาหาเ