“อยากจะเป็นผัวของเพลงถามผัวตัวจริงของเขาหรือยังว่าเขายอมไหม”
น้ำเสียงเย็นชาถามคิมหันต์ที่ตอนนี้หัวแตกเลือดอาบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยผิดกับเพลงพิณที่ตอนนี้ตัวสั่นด้วยความกลัวและตกใจเพราะเลือดที่กำลังไหลหยดลงตามเสื้อผ้าของคิมหันต์ ส่วนเอวากับเจ้าเอยได้แต่อ้าปากค้างอย่างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าต้องตกใจที่คิมหันต์โดนตีหัวจนเลือดอาบหรือตกใจกับสถานะมีผัวของเพื่อนเธอดี
ส่วนคำพูดของเพลงพิณที่บอกกับพวกเธอว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีมากไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะผู้ชายที่กำลังโอบกอดเพื่อนรักของพวกเธออยู่นั้นหน้าตาดีเสียจนพวกเธอถึงกับหลงเคลิ้มไปชั่วขณะ พวกเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงพิณถึงยอมแหกกฎเหล็กของตัวเองด้วยการยอมให้ผู้ชายคนนี้จูบ เพราะถ้าเป็นพวกเธอเองก็คงไม่ต่างจากเพลงพิณ ใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตรทำให้พวกเธอไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลยจริงๆ
“แม่งเอ้ย มึงกล้าดียังไงมาตีหัวกูวะอยากตายหรือไง”
มืออีกข้างกุมหัวด้วยความเจ็บส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นชี้หน้าเกรย์ด้วยความโมโหจนแทบคลั่งเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายคิมหันต์ต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้มาก่อน แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับกล้าที่ฟาดเขาด้วยขวดแถมยังทำหน้านิ่งเฉยไร้ความหวาดกลัวเขาที่เป็นถึงลูกชายของท่านรัฐมนตรีแบบนี้มันหยามหน้ากันชัดๆ
“แล้วมึงกล้าดียังไงมาแตะเมียกู เป็นแค่แฟนเก่าก็อยู่ส่วนแฟนเก่าสิสะเหร่อมายุ่งกับเมียกูอยู่ได้หน้าตาก็เหมือนปลิงทะเลอยู่แล้วยังจะทำตัวเหมือนปลิงเข้าไปอีกทุเรศสิ้นดี”
คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าเกิดมาชาตินี้จะได้พูดแบบนี้กับใครหลุดออกมาจากปากของเกรย์ผู้ชายที่แทบจะพูดกับคนอื่นนับคำได้ อีกอย่างคำพูดพวกนี้เขาจำมาจากย่าแก้มที่ชอบโมโหเวลาดูละครนี่เขาไม่ได้อินเกินไปใช่ไหม? และถึงปากเขาจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ภายในใจของเขากลับรู้สึกตำหนิตัวเองเป็นครั้งแรกที่เอาตัวเข้ามาพัวพันกับผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง
และครั้งนี้เขาไม่ได้มาแค่ในสถานะแฟนแต่เขากลับเล่นใหญ่ด้วยการกลับมาในสถานะผัวที่คนพูดเองยังรู้สึกกระดากปากไม่น้อยผ ทีแรกเขาแค่เดินผ่านมาเจอเหตุการณ์นี้เข้าพอดีและคิดว่าจะแกล้งทำเป็นหูทวนลมเดินผ่านไป แต่คำพูดที่น่ารังเกียจของผู้ชายปากโสมมคนนี้มันทำให้เขาไม่สามารถที่จะเดินผ่านไปโดยที่ไม่สนใจเธอไม่ได้ ที่เคยเป็นแฟนกันแค่วันเดียวถ้าจะเพิ่มสถานะมาเป็นผัวเมียกันในวันที่สองมันจะเป็นไรไปจริงไหม
“นึกว่าตัวเองกำลังรับบทพระเอกอยู่หรือยังไงไอ้กระจอก มึงมันก็แค่เด็กบาร์น้ำส่วนกูน่ะลูกใครมึงคงไม่รู้ ทำตัวห้าวตีนแบบนี้ระวังจะหายไปจากโลกนี้แบบไม่ได้กลับมาอีก”
“อ้อเหรอ แต่ขอโทษทีว่ะที่กูไม่ใช่พระเอกแต่ดันเป็นผัวของเพลงตัวจริงเสียงจริงแสตนอินไม่ต้อง อีกอย่างมึงลูกใครมึงจำชื่อพ่อไม่ได้ไงหรือเกิดมาจากกอไผ่ถึงได้มาถามกูว่ามึงลูกใคร ส่วนเรื่องห้าวตีนก็พอตัวหายไม่กลัวกลัวไม่หายหรือมึงจะหายก่อนก็ไม่รู้สินะ อ๋อแล้วนี่คิดออกยังว่าพ่อมึงชื่ออะไร”
คำพูดที่สุดแสนจะกวนประสาทที่สุดเท่าที่เพลงพิณเคยได้ยินมาทำเอาคนที่อยู่ในอาการตกใจในทีแรกได้แต่พยายามกลั้นขำอย่างสุดฤทธิ์กับมุกตลกร้ายที่ตอนนี้ทุกคนต่างพากันหัวเราะด้วยความขำขัน รวมไปถึงเพื่อนของเธอทั้งสองคนที่กำลังอ้าปากหัวเราะอย่างไม่คีพลุคความสวยเลยสักนิด
“ปากดีนักนะมึงกูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าวันนี้มึงโดนกระทืบจนหมอบมึงยังจะปากเก่งอยู่ไหม พวกมึงจัดการ”
ถึงแม้จะเจ็บที่หัวจนแทบจะทนไม่ไหวแค่คิมหันต์ก็ขอจัดการกับแฟนใหม่ของเพลงพิณก่อนเขาไม่คิดเลยว่าเพลงพิณจะลดตัวลงไปคบกับผู้ชายกระจอกๆและนิสัยหยาบคายอย่างมัน ใบหน้าที่อาบด้วยเลือดพยักลงอย่างส่งสัญญาณให้ลูกน้องเพียงเท่านั้นคนของคิมหันต์ก็พากันกรูเข้ามาเพื่อที่จะรุมกระทืบเกรย์ที่ไม่ได้รู้สึกตกใจหรือหวาดกลัวคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
เวลาผ่านไปเพียงห้านาทีคนของคิมหันต์ก็ต่างพากันร่วงลงไปนอนหมอบอยู่บนพื้นพร้อมกับร้องโอดโอยด้วยความเจ็บเมื่อเจอกับฝีมือต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของเกรย์ที่เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วตามแบบฉบับมาเฟียพร้อมกับวิชาการต่อสู้ที่เกรย์มั่นใจว่าเขาไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
“จะจ้างบอดี้การ์ดทั้งทีก็เลือกพวกที่มันฝีมือดีกว่านี้หน่อยนะไม่ใช่พวกเก่งแต่ปากเหมือนมึง ไสหัวไปไกลๆแล้วอย่าเสนอหน้ามายุงกับเมียกูอีก ไป๊”
น้ำเสียงที่ทรงอำนาจและเด็ดขาดตะคอกใส่คิมหันต์กับพวกทำให้เพลงพิณถึงกับเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่กำลังโอบกอดเธออยู่ด้วยความแปลกใจ เป็นแค่เด็กบาร์น้ำแต่คำพูดและน้ำเสียงดูไม่เหมือนคนธรรมดาเลยสักนิด ไม่มีความลังเล ไม่มีความหวาดกลัว แต่กลับเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามที่ตัวเธอเองยังสัมผัสได้หรือเขาจะเคยแสดงละครเป็นสแตนอินมาก่อนนะแอคติ้งถึงได้เนียนแบบไม่ต้องเรียนมาใหม่แบบนี้
เมื่อได้ยินแบบนั้นคนของคิมหันต์ก็รีบลุกขึ้นมาพยุงนายตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนที่จะรีบพากันเดินหนีไปจากตรงนี้ด้วยความอับอาย เมื่อห้าคนแพ้ให้หนึ่งคนอย่างราบคาบในขณะที่อีกคนกลับไม่มีบาดแผลหรือรอยข่วนแม้แต่นิดเดียวหลังจากที่คิมหันต์กับพวกจากไปแล้วเจ้าเอยกับเอวาก็รีบถลาเข้ามาหาเพื่อนด้วยความเป็นห่วงและตื่นเต้น ในขณะที่เกรย์ค่อยๆปล่อยเพลงพิณออกจากอ้อมแขนด้วยความรู้สึกเสียดายซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเสียดายไปทำไมในเมื่อเขาไม่ได้เป็นแฟนกับเธอจริงๆสักหน่อย
“วันนั้นฉันแค่แอบอ้างว่าคุณเป็นแฟนแต่วันนี้คุณเล่นใหญ่กว่าฉันอีกนะคะ เราสองคนไปเป็นผัวเมียกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
เพลงพิณถามเกรย์ด้วยน้ำเสียงงอนๆเพราะเธอยังไม่เคยมีผัวมาก่อนแต่เขากลับประกาศไปทั่วทั้งผับว่าเธอเป็นเมียเขาแล้วแบบนี้ใครจะกล้าเข้ามาจีบเธอกันล่ะ ที่สำคัญกว่านั้นคือไม่กล้าจีบเธอยังไม่พอคงเอาเธอไปลือกันให้แซ่ดว่าผัวของเธอดุมากมันก็แน่นอนล่ะเล่นฟาดหัวคนจนอาบเลือดซะขนาดนี้
“วันนั้นคุณบอกมันแค่แฟน แต่ว่าวันนี้ผมยกระดับความสัมพันธ์จอมปลอมของเราให้ไง แฟนก็เท่ากับเมีย เมียก็เท่ากับแฟน มันก็ความหมายเดียวกันไม่ใช่เหรอครับแค่ต่างกันตรงที่ว่าเป็นแฟนกันแค่จูบเบบี้ส่วนผัวคนดีก็มากกว่าจูบแต่สรุปโดยรวมแล้วก็แฟนกันอยู่ดี”
คำพูดของเกรย์ทำเอาเอวากับเจ้าเอยถึงกับหลุดขำออกมากับความขี้เล่นกวนประสาทของผู้ชายหน้าหล่อที่ถ้ามาบอกว่าพวกเธอเป็นเมียจะไม่ปฏิเสธเลยสักนิด หล่อจนอยากพกกลับไปนอนกอดที่บ้านด้วยขนาดนี้ใครบ้างจะไม่อยากได้เป็นผัว
ปึก ปึก ปึก
“ไอ้คนทะลึ่ง ไอ้คนลามก”
เพลงพิณฟาดมือลงบนท่อนแขนแกร่งของเกรย์เต็มแรงก่อนที่เกรย์จะกระชากเพลงพิณเข้าสู่อ้อมแขนอีกครั้งทำเอาคนที่กำลังรัวฟาดคนข้างกายถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับความใกล้ชิดที่เขาเสิร์ฟให้เธอโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวอีกแล้ว
ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้เจอกับเขาหัวใจของเธอก็ทำงานหนักมากมันเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอกทุกครั้งที่เขาใกล้ชิดกับเธอ ส่วนเพื่อนทั้งสองคนของเพลงพิณได้แต่ยกมือขึ้นทาบอกเมื่อผู้ชายที่อยู่ในสถานะผัวใหม่ของเพื่อนเธอร้ายไม่ใช่เล่น
“ทะลึ่งยังไงก็ผัวคุณ ลามกยังไงก็ยังคงเป็นผัวคุณเหมือนเดิมครับที่รักหรือจะเถียงคนเห็นกันทั้งผับ”
ถึงแม้ประโยคของผู้ชายที่กำลังกอดเธออยู่จะยียวนชวนให้ตบไม่น้อยแต่มันกลับทำให้เพลงพิณใจเต้นแรงกับประโยคสุดท้ายของเขาที่เรียกเธอว่าที่รักอย่างไม่กระดากปากเลยสักนิด แถมยังลอยหน้าลอยตายักคิ้วให้เธออย่างกวนๆ
ทำเอาเพลงพิณอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงเพื่อซ่อนรอยยิ้มยิ่งเขาทำหน้าตาแบบนี้มันยิ่งดูน่ารักมากในสายตาของเพลงพิณมันดูหนึบหนับไปหมดเลย อ๊าย อยากจับแก้มเขาบีบให้ช้ำไปทั้งแก้มเลย แง ไม่นะเพลงพิณเธอจะคิดกับเขาแบบนี้ไม่ได้นะ
“ใจคอจะสวีตกันสองคนไม่สนใจพวกเราสักนิดเลยเหรอคะ”
เอวาท้วงสองหนุ่มสาวที่กำลังเล่นบทพ่อแง่แม่งอนโดยที่ไม่สนใจพวกเธอทั้งสองคนเลยสักนิดก่อนที่เพลงพิณจะค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดของคนเจ้าเล่ห์ ที่ตีเนียนกอดเอวของเธอซะแนบแน่นซึ่งเกรย์เองก็ยอมปล่อยเพลงพิณแต่โดยดี
“หมดหน้าที่ของผัวจำเป็นแบบผมแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”
เกรย์ชิงบอกลาทั้งสามสาวก่อนที่เขาจะหันหลังและเตรียมเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์แต่สองมือที่เข้ามาควงแขนเขาคนละข้างทำเอาเกรย์ถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจ
“จะรีบไปไหนกันล่ะจ๊ะพ่อหนุ่ม เราสองคนยังไม่ได้ทำความรู้จักกับคุณเลยนะ ปะไปดื่มด้วยกันสักสองสามแก้วเดี๋ยวพวกเราเลี้ยงเอง”
เจ้าเอยบอกเกรย์ด้วยรอยยิ้มในขณะที่เพลงพิณได้แต่มองเพื่อนสนิททั้งสองด้วยความตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะกล้าเข้าไปควงแขนเกรย์แบบนี้ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน ส่วนคนที่ถูกควงแขนโดยไม่ทันตั้งตัวถึงกับเตรียมตั้งท่าสะบัดแขนออก แต่พอคิดได้ว่าสองสาวเป็นเพื่อนของเพลงพิณเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งๆให้สองสาวควงแขนโดยไม่ขัดขืนเพราะถ้าทำแบบนั้นมันก็ดูไม่เป็นสุภาพบุรุษเกินไป
“ไม่จำเป็นหรอกมั้งครับ ผมไม่ใช่แฟนจริงๆของเพื่อนคุณสักหน่อยแค่บังเอิญผ่านมาเจอเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นผมขอตัว”
จบประโยคร่างสูงก็ก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อที่จะรีบไปประจำเคาน์เตอร์บาร์แทนอาร์มที่อาจจะถูกหักเงินเพราะไม่มีใครไปทำหน้าที่แทน แต่สุดท้ายแล้วเกรย์กลับต้องก้าวเดินถอยหลังเพราะแรงลากของสองสาวที่ดูจะไม่ฟังคำพูดของเขาเลยสักนิด
“จะบังเอิญผ่านมาเจอหรือตั้งใจก็ไม่เป็นไรค่ะ ไปนั่งดื่มทำความรู้จักกันไว้ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายเผื่ออนาคตเราจะได้นั่งดื่มด้วยกันบ่อยๆ”
เอวาแย้งเกรย์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มระรื่นก่อนที่สองสาวจะออกแรงลากเกรย์ให้เดินตามพวกเธอไปในขณะที่เพลงพิณได้แต่พยายามจะห้ามเพื่อนๆ รวมถึงเกรย์เองที่ก็ยื่นมือมาหาเพลงพิณอย่างต้องการความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายแล้วความต้องการที่อยากจะทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ทำให้เพลงพิณเลือกที่จะเดินตามเพื่อนสาวทั้งสองคนไปเงียบๆด้วยหัวใจที่แอบพองโต
“ชื่ออะไรเหรอคะ”“อายุเท่าไหร่”“มีแฟนหรือยังคะ”“เรียนอยู่ปีไหน”คำถามของสองสาวที่รัวถามเกรย์ทำเอาเขาถึงกับต้องยกมือขึ้นเบรกสองสาวที่กำลังจะอ้าปากถามเขาต่อทั้งๆที่สี่คำถามแรกนั้นพวกเธอยังไม่ได้คำตอบจากเขาเลย ส่วนสองสาวเมื่อโดนเบรกกะทันหันก็ได้แต่ยักไหล่น้อยๆและยกเหล้าขึ้นดื่มแก้เก้อเมื่อแฟนปลอมๆของเพื่อนรักไม่ยอมตอบคำถามของพวกเธอเลยสักข้อ“นี่ถามเพราะอยากรู้หรือกะจะซักประวัติยันบรรพบุรุษครับ”พรวด!!แค่ก แค่ก แค่กเหล้าที่เพิ่งเข้าปากเอวาไปถึงกับพุ่งพรวดออกมาคืนด้วยความตกใจเมื่อเจอฝีปากที่แซบไม่เบาของผู้ชายที่หน้าตาต้องบอกว่าดีมาก แต่ใครเลยจะรู้ว่าจริงๆแล้ววาจาแซบราวกับยกพริกทั้งสวนมาสู้กลับพวกเธอแบบนี้ในขณะที่เพลงพิณได้แต่แอบยิ้มขำกับท่าทางของเพื่อนสาวทั้งสองคนที่หน้าเสียไปเลยเมื่อเจอเขาถามกลับที่ทำเอาไปไม่เป็นทั้งคู่“แหม สุดหล่อก็พวกเราไม่ได้กะจะซักยันบรรพบุรุษสักหน่อยก็แค่อยากรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิมแค่นั้นเองเนอะเอวาเนอะ”เจ้าเอยบอกเกรย์เสียงอ่อยๆส่วนเอวาก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของเพื่อนสาวเพราะพวกเธอก็อยากรู้จักเขาให้มากขึ้นตามที่บอกไปจริงๆ แต่สำหรับ
เช้าวันต่อมา“อื้อ ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ”เพลงพิณลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิดเมื่อคืนเธอจำได้ว่าเธอดื่มเหล้าเข้าไปหลายแก้วมากก่อนที่ภาพจะตัดและมืดสนิทหลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ว่าแต่เมื่อคืนเธอได้ทำอะไรที่น่าอายลงไปบ้างไหมเนี่ยได้แต่คิดและตั้งคำถามกับตัวเองเพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆแต่เมื่อคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกก็ได้แต่ยกมือขึ้นจิกทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดเพราะเธอกลัวว่าจะเผลอไปทำอะไรที่ไม่น่ารักต่อหน้าเขาเข้าน่ะสิ มือที่กำลังจิกทึ้งผมต้องชะงักไปเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลของใครบางคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเธอ หัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อเช็กสภาพร่างกายของตัวเองก็พบว่าเธอยังคงอยู่ในชุดที่ใส่ออกไปเที่ยวเมื่อคืนและนี่ก็คือห้องนอนของเธอ แล้วคนที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของเธอคือใครกันล่ะ?นี่อย่าบอกนะว่าเธอเมามากจนเผลอคว้าใครไม่รู้มานอนด้วยที่ห้อง“หวังว่าคงไม่ใช่คุณเกรย์หรอกนะ”เพลงพิณพึมพำเสียงเบาอยู่คนเดียวก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปใกล้ๆคนที่กำลังนอนหลับอยู่โดยที่เขานอนตะแคงหันหน้าไปอีกทาง เพลงพิณยื่นหน้
คอนโด Kเมื่อเกรย์เปิดประตูเข้ามาภายในห้องพักเขาก็พบกับรองเท้าสองคู่ที่จอดเคียงคู่เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาก่อนที่เกรย์จะรีบเดินเข้าไปในห้องทันที ภาพของมารดาที่กำลังเติมเครื่องปรุงลงในอาหารกับบิดาที่กำลังคนอาหารในหม้อให้เข้ากันทำให้เกรย์ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดทั้งคู่เอาไว้ด้วยความรักและคิดถึงสุดหัวใจหมับ“กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับทำไมไม่เห็นโทรมาบอกพี่เกรย์เลย พี่เกรย์คิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยครับ”ถึงแม้จะโตเป็นหนุ่มแล้วแต่เวลาที่เขาอยู่กับบิดามารดาเกรย์ก็ยังคงอ้อนท่านทั้งสองเหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กเหมือนเดิม เจ้าขาค่อยๆหันหน้ามาหาลูกชายคนโตที่เพิ่งกลับห้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักก่อนที่เธอจะโอบกอดลูกชายเอาไว้ด้วยความคิดถึงเช่นกัน“พ่อกับแม่ก็คิดถึงพี่เกรย์มากๆค่ะถึงได้รีบเดินทางกลับมาเมืองไทย”น้ำเสียงอ่อนโยนบอกลูกชายก่อนที่กองทัพจะปิดแก๊สและหันมากอดลูกชายบ้างซึ่งเกรย์เองก็กอดตอบบิดาอย่างแนบแน่นเช่นกัน สองมือใหญ่ของกองทัพลูบหลังลูกชายไปเบาๆมาราวกับว่าเกรย์ยังคงเป็นเด็กชายตัวน้อยอายุเพียงสิบขวบซึ่งในสายตาของกองทัพลูกๆของเขาก็ยังคงเป็นเด็กเสมอ“แอบไป
Smok’in Pubมือบางค่อยๆควงแก้วเหล้าเล่นไปมาท่ามกลางเสียงเพลงที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแต่คนที่กำลังควงแก้วเหล้าเล่นกลับถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ เพราะนี่ก็เป็นเวลาสามวันแล้วที่เกรย์หายตัวไปโดยที่ไม่ยอมมาทำงานเธอพยายามสอบถามเด็กเสิร์ฟที่นี่แต่ก็ไม่มีใครพบเจอกับเขาเลย แม้กระทั่งอาร์มเด็กชงเหล้าประจำเคาน์เตอร์บาร์ก็ไม่รู้ว่าเกรย์หายไปไหนเพราะบางวันที่เธอเห็นเขานั้นเขาเพียงมาช่วยอาร์มทำงานเท่านั้นเขาไม่ใช่พนักงานประจำของที่นี่“เจ้าเอย เอวา กูจะทำยังไงดีอีกสองวันก็วันเกิดนังหอมมันแล้วถ้ากูไม่ควงแฟนไปงานพวกน้ำพิ้งค์มันต้องหาว่ากูโกหกมันแน่นอนเลย”“ก็มึงโกหกพวกมันจริงๆนี่หว่า คุณเกรย์เขาไม่ได้เป็นแฟนมึงจริงๆสักหน่อย”คำพูดของเอวาทำเอาคนที่กำลังทุกข์ใจอย่างหนักถึงกับหันมาส่งค้อนให้เพื่อนอย่างแรงจนคอแทบเคล็ดด้วยความหมั่นไส้ที่เพื่อนชอบพูดดักคอเธอ ก่อนที่เพลงพิณจะยกแก้วที่ควงเล่นในครั้งแรกขึ้นกระดกรวดเดียวน้ำสีอำพันก็ไหลลงสู่ลำคอจนหมดแก้ว“เบาได้เบาเว้ยเพลงแก้วที่ห้าแล้วนะมึง อีกอย่างมึงแดกเหล้าแทนข้าวเย็นมาสามวันล่ะ”เจ้าเอยท้วงเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพราะนี่ก็เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่เพลงพิณม
“รบกวนช่วยมาเป็นแฟนกันจริงๆได้ไหมคะ”คำขอร้องของเพลงพิณทำเอาคนที่ไม่เคยสะทกสะท้านกับคำพูดของใครมาก่อนหรือแม้แต่แสดงท่าทีตกใจกับเรื่องใดกลับมีสีหน้าที่เรียกได้ว่านิ่งไปราวกับว่ากำลังช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน ส่วนเพลงพิณเมื่อหลุดพูดออกไปแล้วเธอก็เพิ่งนึกได้ว่าคำพูดของเธอดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง เพราะจุดประสงค์ที่เธอตามหาเขาคือต้องการให้เขามาแกล้งเป็นแฟนของเธอไม่ใช่แฟนจริงๆของเธอดังเช่นที่ได้เอ่ยปากขอร้องเขาไป“เอ่อ ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่าที่จริงแล้วเพลงแค่ต้องการขอร้องให้คุณแกล้งมาเป็นแฟนปลอมๆให้เพลงเท่านั้นน่ะค่ะ ที่พูดไปก่อนหน้านั้นเพลงพูดผิดค่ะขอโทษจริงๆถ้าทำให้คุณเข้าใจผิด”เพราะความรู้สึกที่อยู่ในใจทำให้เธอพลั้งปากพูดออกไปแบบนั้นส่วนคนที่ได้ฟังคำอธิบายของเพลงพิณก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจเพราะที่จริงแล้วคำพูดของเธอทำให้เขาตกใจมาก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีคนที่แอบชอบเขาหลายคนขอเขาคบเป็นแฟนแต่ผู้ชายที่เย็นชาอย่างเขาก็เมินเฉยกับผู้หญิงเหล่านั้นเสมอมาแต่พอเป็นเธอคนนี้เมื่อได้ฟังคำขอเป็นแฟนหัวใจของเขากลับแอบเต้นแรงราวกับคลื่นลมพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่กลางทะเล แต่พอเธอบอกว่าสิ่งที่เธอพ
คอนโด K“สวยมากเพลง เพื่อนกูสวยที่สุด”เอวาเอ่ยชมเพื่อนสาวด้วยดวงตาที่เป็นทอประกายอย่างชื่นชมเพลงพิณที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ผ่าสูงโชว์เรียวขางามส่วนด้านบนก็เว้าหลังโชว์แผ่นหลังเนียนสวย เพลงพิณเป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็เข้ากับเธอไปเสียทุกชุด เพราะหุ่นที่ผอมบางแต่กลับมีหน้าอกที่อวบอิ่มและหน้าตาที่ใครๆต่างก็ชื่นชมว่าเธอสวยมากต่อให้ชุดที่เธอใส่จะหรูดูแพงหรือแสนธรรมดาแต่เพลงพิณก็เอาอยู่ทุกชุด“มึงก็ชมเวอร์เกินไปนะเอวา คนอื่นในงานเขาสวยกว่ากูก็มีอย่างมิ้งดาวนิเทศไงนังหอมก็ชวนนางมาด้วยนี่”เพลงพิณตอบกลับเพื่อนอย่างถ่อมตัวตามนิสัยเพราะถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองในระดับหนึ่งแต่ยังมีอีกหลายคนที่สวยและน่ารักกว่าเธอมาก เธอจึงไม่เคยทำตัวหยิ่งหรืออวดอ้างความสวยเหนือใครเหมือนที่น้ำพิ้งค์ชอบทำเสมอเวลาที่อยู่ในที่สาธารณะ“สวยศัลปะวะมึง ส่วนมึงธรรมชาติสรรค์สร้าง”“จะสวยด้วยอะไรก็ช่างเขาเถอะไปกันได้แล้ว”เพลงพิณเอ่ยชวนเพื่อนรักพร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าใบเล็กและพากันเดินออกไปจากห้องทันทีเพื่อที่จะไปรอเกรย์ที่ล็อบบี้ด้านล่าง เพราะเธอนัดกับเขาที่คอนโดของเธอเพื่อเดินทางไปที่งานวัน
“เพลงนึกว่าคุณจะไม่มาแล้วซะอีก”เพลงพิณกระซิบถามเกรย์เสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคนก่อนที่เกรย์จะก้มหน้าลงมาพร้อมกับยกยิ้มมุมปากน้อยๆยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นน่าดูมากยิ่งขึ้นไปอีกในสายตาของเพลงพิณ ทำไมเขาถึงหล่อได้ขนาดนี้นะปกติแค่เขาทำหน้านิ่งๆก็หล่อมากพอแล้วนี่เขาเล่นยิ้มให้เธอแบบนี้หัวใจของเธอจะไม่ไหวแล้วนะ“ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำครับ”น้ำเสียงละมุนกระซิบบอกเพลงพิณข้างๆใบหูหอมกรุ่นก่อนที่เพลงพิณจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจและค่อยๆผละออกมาจากอ้อมกอดของเกรย์และเดินมายืนเคียงข้างเขาแทน มือบางค่อยๆยื่นมาควงแขนเขาซึ่งเกรย์ก็ยอมให้เธอควงแต่โดยดีเพราะเขาเลือกที่จะช่วยเธอแล้วเขาก็ต้องทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุดถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยก็ตาม “หน้าตาก็ดีแต่ไม่ควรที่จะแกล้งเพื่อนแบบนี้นะครับ ถึงผมอาจจะไม่ใช่ลูกคนรวยอย่างที่คุณชอบดูถูกแต่ผมก็ไม่เคยทำตัวหยาบช้าด้วยการคิดที่จะผลักใครตกน้ำนะครับ”คำพูดที่เรียบๆนิ่งๆแต่กลับบาดลึกเข้าไปในใจคนฟังให้รู้สึกร้อนรนจนแทบทนไม่ไหวที่แฟนใหม่ของเพลงพิณตำหนิเธอต่อหน้าเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่พากันเอามือปิดปากหัวเราะเมื่อน้ำพิ้งค์โดนตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ส่ว
สนามแข่ง PKเกรย์ขับรถเข้ามาจอดในมุมหนึ่งของสนามที่ค่อนข้างมืดซึ่งมีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์เท่านั้นที่สาดส่องลงมาให้เห็นสองข้างทางที่เต็มไปด้วยหญ้ารกทึบ ก่อนที่เขาจะลงจากรถและต่อสายหาใครบางคนที่กำลังเดินทางมายังจุดนัดพบด้วยการเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์เพราะไม่อยากให้เกรย์ต้องรอเขานานส่วนเพลงพิณที่ยังคงนั่งอยู่บนรถค่อยๆหันไปมองรอบๆด้วยความแปลกใจระคนรู้สึกกลัวพร้อมกับเตรียมจะก้าวลงจากรถซึ่งไม่ถนัดเอาเสียเลยสำหรับเธอที่ใส่รองเท้าส้นสูง ก่อนที่เกรย์จะรีบเดินมาอุ้มเพลงพิณลงมาจากรถท่ามกลางความตกใจของเธอที่ตอนขึ้นก็ไม่ทันได้ตั้งตัว พอตอนจะลงจากรถก็ถูกอุ้มลงอย่างง่ายดายโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน“ขอบคุณค่ะ แต่อันที่จริงเพลงลงเองก็ได้ค่ะ”เพลงพิณเอ่ยขอบคุณพร้อมกับบอกเกรย์ด้วยความเกรงใจที่เขาต้องมาคอยอุ้มเธอขึ้นลงรถทั้งๆที่เธอก็สามารถขึ้นลงเองได้ถึงแม้ว่าจะดูเก้ๆกังๆหรือไม่ค่อยถนัดสักท่าไหร่ก็ตาม“หึ ใส่ชุดแบบนั้นคงขึ้นลงง่ายหรอกนะแม่คุณ”คำพูดที่คล้ายจะแซวก็ไม่ใช่แดกดันเธอก็ไม่เชิงของเกรย์ทำให้ใบหน้าสวยงอง้ำลงทันตาก่อนที่เธอจะส่งค้อนวงใหญ่มาให้เขาที่ยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสกับท่าทีงอนๆขอ