มหาวิทยาลัย S
เจ้าเอยกับเอวาหันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเมื่ออยู่ๆเพื่อนรักของเธอที่กำลังนั่งใจลอยก็ยื่นมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าจะแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุกเหมือนกับว่าเพลงพิณกำลังคิดเรื่องที่ทะลึ่งตึงตังอยู่ในหัวอย่างไรอย่างนั้นเลย
ปัง!!
“ว้าย”
เสียงตบโต๊ะทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับได้สติเพลงพิณสะดุ้งน้อยๆก่อนที่เธอจะมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองคนที่ยื่นหน้าเข้ามาหาเธอราวกับกำลังจับผิดกับพฤติกรรมแปลกๆของเธอ เพราะตั้งแต่ที่กลับมาจากไปเที่ยวในคืนนั้นเพลงพิณก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
ปกติแล้วเพื่อนของเธอคนนี้ถึงแม้จะมีเรื่องภายในใจมากมายแค่ไหนแต่เพลงพิณก็ไม่เคยนั่งเหม่อหรือใจลอยเลยสักครั้ง แต่สองสามวันที่ผ่านมาเพื่อนของพวกเธอเอาแต่นั่งเหม่อแล้วก็ยกมือขึ้นลูบที่ปากบ่อยครั้ง จนพวกเธอพากันตั้งข้อสันนิษฐานว่าวันนั้นที่เพื่อนเธอหายไปนานต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆเลยเพียงแต่เพลงพิณไม่ยอมปริปากบอกพวกเธอจะด้วยเหตุผลอันใดก็ไม่อาจจะล่วงรู้ได้
“มึงจะนั่งใจลอยไปถึงไหนคะเพื่อน นี่นั่งใจลอยมานานแล้วนะเดี๋ยวก็หน้าแดงเดี๋ยวก็ลูบปากสรุปมึงเป็นอะไรของมึงกันแน่เพลง”
เอวาที่ทนไม่ไหวตัดสินใจเอ่ยถามเพลงพิณตรงๆแต่คำถามของเพื่อนทำให้เหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นแวบเข้ามาในหัวของเธอจนเพลงพิณถึงกับเม้มปากด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็รู้สึกเสียใจที่เสียจูบแรกให้กับผู้ชายแปลกหน้าที่หน้าตาหล่อมากที่ไหนก็ไม่รู้
แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่จูบแรกของเธอคือเขาจูบที่แสนอ่อนโยนและเร่าร้อนจนเธอถึงกับเผลอยกมือขึ้นคล้องคอเขาเชียวน้า อ๊าย เพลงพิณเธอทำเรื่องที่น่าขายหน้าแบบนั้นลงไปได้ยังไง สองมือพลันยกขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินเมื่อคิดไปถึงตอนที่เธอตอบสนองจูบของเขาหรืออาจจะเป็นเพราะวันนั้นเธอเมามากก็ได้ก็เลยทำให้เธอเผลอทำตัวน่าอายแบบนั้น
“เพลงมึงเป็นไรมากปะเนี่ย กูแค่ถามยังไม่ได้ทำอะไรเลยมึงจะหน้าแดงแล้วแดงอีกแบบนี้ไม่ได้นะแปลกๆแบบนี้แปลว่าวันนั้นต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆจะบอกดีๆหรือต้องให้ใช้กำลัง”
เจ้าเอยถามเพื่อนบ้างก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปนั่งข้างๆเพลงพิณส่วนอีกด้านหนึ่งก็เป็นเอวาที่ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆเพลงพิณเช่นกัน กลายเป็นว่าตอนนี้สองสาวเพื่อนสนิทพร้อมแล้วที่จะหยุมหัวเพลงพิณเพื่อเค้นความจริงที่พวกเธออยากรู้แต่เพื่อนกลับปิดเป็นความลับออกมา
“ไม่ยอมบอกใช่ไหมได้เลยเดี๋ยวรู้กัน”
จบประโยคของเอวาทั้งสองสาวก็เตรียมจี้เอวเพื่อนเพื่อให้เพลงพิณคายความลับออกมาแต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองสาวจะได้ลงมือเพลงพิณก็ยกมือขึ้นเบรกพวกเธอทั้งสองคนเอาไว้ก่อน ทำให้มือที่เตรียมจะประทุษร้ายเพื่อนถึงกับหยุดชะงักค้างกลางอากาศ
“ยอมแล้ว ยอมแล้ว เล่าก็ได้”
มือที่ค้างอยู่กลางอากาศของสองสาวเปลี่ยนเป็นมาแตะมือกันด้วยความถูกใจก่อนที่สองสาวจะยื่นหน้ามาจนชิดแก้มเนียนของเพลงพิณที่ยังคงแดงไม่หยุดอย่างต้องการใส่ใจเรื่องที่เพื่อนจะเล่าอย่างใกล้ชิด
“เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
“อ๊ายยยย เพลงเรื่องฟินขนาดนี้ทำไมมึงไม่ยอมเล่าให้พวกกูฟังเลย นี่ขนาดกูไม่ได้โดนจูบเองยัง ฟินขนาดนี้เลยอะมึง”
เอาวายกมือขึ้นจับที่ใบหน้าด้วยความเขินเมื่อเพลงพิณเล่าเรื่องของเธอกับผู้ชายแปลกหน้าให้พวกเธอฟังถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เห็นหน้าตาของผู้ชายคนนั้นว่าหล่อแค่ไหน แต่เธอมั่นใจว่าเรดาร์ของเพลงพิณทำงานได้ดีแน่นอนเพราะน้อยมากที่เพลงพิณจะชมใครว่าหล่อ ขนาดพี่คิมหันต์ที่เพิ่งเลิกรากันไปหน้าตาก็เข้าขั้นหล่อแต่เพลงพิณใช้คำว่าหล่อมากแปลว่าผู้ชายคนนั้นต้องหน้าตาดีมากอย่างแน่นอน
“ใครจะกล้าเล่าให้ฟังว่ะ ขนาดแฟนตัวเองแท้ๆกูยังไม่เคยให้ใครกอดจูบเลยแล้วนี่เขาเป็นใครก็ไม่รู้แต่กูดันยอมให้เขาจูบเฉยเลย กูใจง่ายไปไหมอะพวกมึง”
เสียงอ่อยๆบอกเพื่อนอย่างรู้สึกผิดต่อปณิธานอันแน่วแน่ของตัวเองที่เคยตั้งใจว่าจะไม่มีจูบแรกหรือความสัมพันธ์ทางกายกับแฟนคนไหนทั้งนั้นจนกว่าเธอจะแต่งงาน แต่กับเขาคนนี้เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้สบตาเธอก็ราวกับต้องมนต์สะกด
ใบหน้าหล่อเหลาดูดีและมีเสน่ห์อย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อนทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะ ยิ่งยามที่เขายกยิ้มน้อยๆนั่นอีกมันดูดีเสียจนเธอแทบละลายความรู้สึกแบบนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับเธอเป็นครั้งแรกทั้งๆที่เธอผ่านการมีแฟนมาแล้วหลายคน
“ว้าย เพื่อนเพลงพูดแบบนี้กูชักจะอยากเห็นหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อคนนั้นซะแล้วสิ เสน่ห์อะไรในตัวของเขากันน้าที่ทำให้แม่ชีอย่างเพื่อนเพลงถึงกับเผลอใจยอมให้เขาจูบได้ง่ายๆแบบนี้”
คำพูดของเจ้าเอยยิ่งทำให้ใบหน้าสวยเฉี่ยวแดงก่ำด้วยความอายเกิดมาจนอายุ21ปีไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน แต่เขากลับเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่เธอยอมฉีกกฎเหล็กของตัวเองหรือเพราะว่าเธอเมามากกันแน่นะ
“แล้วจะรออะไรกันล่ะคืนนี้เลยเป็นไง กูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าหล่อมากของเพลงมันจะหล่อขนาดไหนเชียว”
คำพูดของเอวาทำเอาเจ้าเอยรีบยกมือขึ้นอย่างเห็นดีเห็นงามด้วยเพราะเธอเองก็อยากจะเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นเหมือนกันว่าจะหล่อสักแค่ไหน เพลงพิณเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคนต่างเห็นดีเห็นงามไปด้วยกันก็เตรียมอ้าปากจะท้วงติงแต่เอวากลับชี้หน้าเพลงพิณอย่างรู้ทัน
“หุบปากไปเลยจ้ะเพื่อนรัก เอยกับกูเห็นด้วยตรงกันเป็นสองต่อหนึ่งชนะหนึ่งเสียงเห็นๆ”
คำพูดที่เป็นมติเอกฉันท์ทำเอาปากที่อ้าค้างอยู่ได้แต่ค่อยๆหุบลงอย่างจำยอมเธอได้แต่หวังว่าคืนนี้เขาคงลาป่วยหรือไม่ก็ติดธุระจนไม่สามารถมาทำงานได้ แต่จะว่าไปแล้วเพลงพิณเป็นลูกค้าประจำของผับนี้มานานถึงสามปีเธอกลับไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยสักครั้ง หรือเขาจะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานกันนะเธอได้แต่คิดไปต่างๆนาๆก่อนที่จะโดนเพื่อนสาวทั้งสองคนลากกลับคอนโดเพื่อเตรียมตัวออกท่องราตรีในค่ำคืนนี้
Smokin’Pub
ร่างสูงภายใต้เสื้อยืดสีเทากับกางเกงยีนส์ธรรมดากลับไม่ได้ทำให้ออร่าความหล่อของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย วันนี้ก็เหมือนเฉกเช่นทุกวันที่เกรย์มานั่งดื่มเงียบๆคนเดียวหลังจากที่เขาเพิ่งเคลียร์งานเสร็จ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าไปรับตำแหน่งประธานโรงพยาบาล N อย่างเต็มตัวแต่ธุรกิจสีเทาของเขาที่อิตาลีก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปภายใต้การบริหารของเขา
“เฮีย เฮียเกรย์”
ร่างสูงที่วิ่งหน้าตั้งมาทางเขาทำให้เกรย์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเขากะจะนั่งดื่มชิวๆเจ้าอาร์มก็ดันวิ่งหน้าตั้งจนหอบขึ้นคอมาหาเขา สงสัยว่าคงจะอยากไปดูคอนเสิร์ตวงโปรดแน่นอนเลยเพราะวันนี้ที่ผับจ้างนักร้องชื่อดังมาเปิดมินิคอนเสิร์ตที่ร้านเลยทำให้วันนี้คนแน่นร้านกว่าปกติ
แต่นั่นมันก็คนละโซนกับโซนที่เขามานั่งดื่มเพราะส่วนใหญ่ที่ไปออกันอยู่หน้าเวทีมีแต่เด็กมหา’ลัยกันทั้งนั้น ส่วนโซนที่เขานั่งอยู่มีแต่วัยทำงานที่เน้นนั่งดื่มเงียบๆเพื่อต้องการดื่มด่ำกับรสชาติของเครื่องดื่มที่มีทั้งไวน์ชื่อดัง เหล้าราคาแพง และเบียร์สดรสชาติดี มากกว่าที่จะไปโยกตัวตามเสียงดนตรีเหมือนกับเด็กๆพวกนั้นที่นิยมชมชอบความสนุกสนานตามวัย
“จะไปดูคอนเสิร์ตล่ะสิ”
คำพูดที่รู้ทันของเกรย์ทำให้เด็กหนุ่มพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มอย่างยอมรับความจริง เพราะวงดนตรีที่มาวันนี้เป็นวงโปรดที่อาร์มชอบมากเพราะฉะนั้นวันนี้เด็กหนุ่มจะพลาดคอนเสิร์ตวันนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“เฮีย อาร์มอยากไปดู นานๆวงโปรดมาทีอาร์มจะได้มีกำลังใจทำงานหาเงินต่อ”
คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เกรย์ส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับหลุดยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้า แววตาที่เปล่งประกายทอแสงยามพูดถึงวงดนตรีโปรดของตัวเองมันทำให้เกรย์เข้าใจความรู้สึกของอาร์มได้เป็นอย่างดีว่าชื่นชอบวงดนตรีวงนี้มากแค่ไหน
ขนาดตัวเขาเองที่เป็นนักวาดชื่อดังระดับโลกที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้ามาก่อนคนที่ชื่นชอบในผลงานวาดรูปของเขายังอยากที่จะเจอกับเขาเลยสักครั้ง แต่เขากลับปฏิเสธที่จะพบเจอคนเหล่านั้นเพราะเขาไม่ชอบที่จะมีตัวตนในสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่พร้อมจะเข้าหาเขาด้วยความชื่นชมแต่กลับแฝงไปด้วยผลประโยชน์
“อืม ไปเถอะเดี๋ยวทางนี้เฮียดูแลให้”
จบประโยคของเกรย์อาร์มก็โถมตัวเข้ากอดเกรย์ราวกับเด็กน้อยอายุห้าขวบที่เก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่เมื่อพ่ออนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นอย่างอิสระ เกรย์ยกมือขึ้นลูบหัวอาร์มด้วยความเอ็นดูก่อนที่อาร์มจะผละออกและวิ่งหายลับไปท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนกันไปมา
“รับบทบาร์เทนเดอร์อีกวันก็แล้วกัน หวังว่าวันนี้คงไม่ต้องรับบทเป็นแฟนปลอมๆให้ใครอีกหรอกนะ”
เกรย์พึมพำกับตัวเองอย่างติดตลกโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาได้พูดออกมานั้นกำลังจะเกิดขึ้นจริงในไม่ช้าขึ้นชื่อว่าบทละครเมื่อมีจุดเริ่มต้นก็ย่อมต้องมีบทต่อๆไปเสมอ
“วันนี้ทำไมคนเยอะจังว่ะ”
เมื่อเดินเข้ามาในผับเจ้าเอยก็พูดขึ้นด้วยความแปลกใจเพราะวันนี้ภายในผับหนาแน่นไปด้วยวัยรุ่นวัยว้าวุ่นที่พากันออกมาท่องราตรีหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการเรียนมาทั้งวัน
“อ้าวเอย นี่มึงอย่าบอกนะว่าไม่ได้ดูประกาศหน้าเพจของผับ วันนี้วงเซนส์เขามาเล่นที่นี่เว้ยมึง”
“คุยกับพี่เป้ทั้งวันเอาเวลาที่ไหนดู”
เจ้าเอยบอกเพื่อนรักทั้งสองคนที่พร้อมใจกันเบะปากมองบนด้วยความหมั่นไส้เจ้าเอยที่ชอบคุยกับผู้ชายทีละหลายๆคนโดยที่ไม่รู้จักเบื่อเลยสักนิด ในขณะที่เอวากับเพลงพิณขนาดพวกเธอมีแฟนแค่คนเดียวก็ปวดหัวจะแย่
“เอย พี่เป้มันไม่ได้โสดนะเว้ยมึงวงในกูบอกว่ามันมีเมียแล้ว”
เพลงพิณเอ่ยเตือนเพื่อนสาวคนสนิทด้วยความหวังดีเพราะพี่เป้ของเจ้าเอยนี่ขึ้นชื่อมากเรื่องความเจ้าชู้ที่สำคัญเพื่อนต่างสาขาของเธอต่างบอกว่าพี่เป้มันมีแฟนแล้ว แต่สถานะที่มันโปรโมตตัวเองคือโสดไงล่ะเพื่อนของเธอที่ไม่ชอบผูกมัดก็ดันเล่นด้วยเธอกับเอวาพยายามห้ามแล้วก็ไม่ฟัง
“เออน่าพวกมึงก็ กูไม่ได้จริงจังกับพี่มันสักหน่อย ไปๆกินเหล้ากันคอแห้งจะแย่แล้ว”
เจ้าเอยพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนักก่อนที่เธอจะคล้องแขนเพื่อนสาวทั้งสองคนและเตรียมพากันเดินเข้าไปภายในโซนที่พวกเธอจองเอาไว้ซึ่งโซนนี้อยู่ชั้นสองของร้าน เป็นโซนเงียบๆที่พวกเธอชอบมานั่งดื่มพร้อมกับเมาท์มอยกันซึ่งส่วนใหญ่แล้วโซนนี้จะมีแต่พวกวัยทำงานกันทั้งนั้นนานๆทีพวกเธอถึงจะลงมาโยกเอวที่ด้านล่าง
หมับ
“อ๊ะ”
ยังไม่ทันที่จะก้าวเดินแขนเล็กของเพลงพิณก็ถูกกระชากอย่างแรงจนเธอถึงกับเซถลาไปปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้างของผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่า ท่ามกลางความตกใจของเอวาและเจ้าเอยที่อยู่ๆพี่คิมหันต์ก็มาฉุดกระชากเพื่อนเธอกลางผับโดยที่ไม่แคร์สายตาผู้คนที่เดินสวนไปสวนมาเลยสักนิด
“เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะที่รัก ว่าไงเอ่ยทำไมวันนี้มากับเพื่อนแฟนที่แสนดีของเราไปไหนเสียล่ะหรือว่ากำลังชงเหล้าหาเงินมาเปย์เราอยู่”
คำพูดที่แสดงถึงนิสัยใจคอที่ชอบดูถูกคนของคิมหันต์ทำให้เพลงพิณรู้สึกไม่พอใจจนเผลอแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน ในขณะที่คิมหันต์ก้มหน้าลงมาหาเพลงพิณจนใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่ลมหายใจกั้นทำให้เพลงพิณรีบเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจทันที
“ปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะคะพี่คิม”
เอวาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดเธอพยายามจะเดินเข้ามาช่วยเพื่อนที่อยู่ในอ้อมแขนของคิมหันต์แต่กลับถูกคนของเขาเข้ามาขวางเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเอวากับเจ้าเอยก็พยายามที่จะเข้ามาช่วยเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เป็นแค่เพื่อนอย่าเสือก แฟนเก่าเขาจะคุยกัน”
คำพูดของคิมหันต์ทำเอาเอวากับเจ้าเอยถึงกับโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเพราะที่ผ่านมาคิมหันต์ไม่เคยพูดจาหยาบคายใส่พวกเธอเลยสักครั้งนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เลิกรากับเพื่อนของเธอไป
“เป็นแค่แฟนเก่าก็ควรอยู่ส่วนแฟนเก่าสิ ไม่ใช่มาทำตัวเหมือนหมาคอยมาระรานเพลงแบบนี้ ปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะถ้าไม่ปล่อยเอยโทรแจ้งตำรวจจริงๆด้วย”
เจ้าเอยตะโกนใส่คนตรงหน้าด้วยความโมโหในขณะที่เพลงพิณเบะหน้าด้วยความเจ็บ เมื่อคิมหันต์เผลอบีบมือของเธออย่างแรงด้วยความโกรธที่โดนเจ้าเอยด่าแสกหน้าแบบนั้น
“ปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะพี่คิม เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วพี่คิมไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับเพลงนะ”
เพลงพิณกดเสียงต่ำบอกคิมหันต์ด้วยความรู้สึกที่ทั้งเจ็บใจและโมโห เพราะตอนนี้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างเริ่มหันมาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่กลับไม่มีใครมีน้ำใจเข้ามาช่วยเหลือพวกเธอสักคน
“ต้องเป็นผัวก่อนหรือยังไงถึงจะทำแบบนี้กับเพลงได้”
เพล้ง
“อ๊าก”
“กรี๊ดดดดด”
เสียงขวดเหล้าที่ฟาดลงมาบนหัวของคิมหันต์เต็มแรงจนเขาเผลอปล่อยมือของเพลงพิณให้เป็นอิสระพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของสามสาว ก่อนที่ร่างบางจะถูกใครบางคนกระชากเข้ามาอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่เธอคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะเคยได้กลิ่นเพียงครั้งเดียวก็ตาม
“อยากจะเป็นผัวของเพลงถามผัวตัวจริงของเขาหรือยังว่าเขายอมไหม”
“อยากจะเป็นผัวของเพลงถามผัวตัวจริงของเขาหรือยังว่าเขายอมไหม”น้ำเสียงเย็นชาถามคิมหันต์ที่ตอนนี้หัวแตกเลือดอาบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยผิดกับเพลงพิณที่ตอนนี้ตัวสั่นด้วยความกลัวและตกใจเพราะเลือดที่กำลังไหลหยดลงตามเสื้อผ้าของคิมหันต์ ส่วนเอวากับเจ้าเอยได้แต่อ้าปากค้างอย่างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าต้องตกใจที่คิมหันต์โดนตีหัวจนเลือดอาบหรือตกใจกับสถานะมีผัวของเพื่อนเธอดี ส่วนคำพูดของเพลงพิณที่บอกกับพวกเธอว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีมากไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะผู้ชายที่กำลังโอบกอดเพื่อนรักของพวกเธออยู่นั้นหน้าตาดีเสียจนพวกเธอถึงกับหลงเคลิ้มไปชั่วขณะ พวกเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงพิณถึงยอมแหกกฎเหล็กของตัวเองด้วยการยอมให้ผู้ชายคนนี้จูบ เพราะถ้าเป็นพวกเธอเองก็คงไม่ต่างจากเพลงพิณ ใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตรทำให้พวกเธอไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลยจริงๆ “แม่งเอ้ย มึงกล้าดียังไงมาตีหัวกูวะอยากตายหรือไง”มืออีกข้างกุมหัวด้วยความเจ็บส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นชี้หน้าเกรย์ด้วยความโมโหจนแทบคลั่งเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายคิมหันต์ต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้มาก่อน แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับกล้
“ชื่ออะไรเหรอคะ”“อายุเท่าไหร่”“มีแฟนหรือยังคะ”“เรียนอยู่ปีไหน”คำถามของสองสาวที่รัวถามเกรย์ทำเอาเขาถึงกับต้องยกมือขึ้นเบรกสองสาวที่กำลังจะอ้าปากถามเขาต่อทั้งๆที่สี่คำถามแรกนั้นพวกเธอยังไม่ได้คำตอบจากเขาเลย ส่วนสองสาวเมื่อโดนเบรกกะทันหันก็ได้แต่ยักไหล่น้อยๆและยกเหล้าขึ้นดื่มแก้เก้อเมื่อแฟนปลอมๆของเพื่อนรักไม่ยอมตอบคำถามของพวกเธอเลยสักข้อ“นี่ถามเพราะอยากรู้หรือกะจะซักประวัติยันบรรพบุรุษครับ”พรวด!!แค่ก แค่ก แค่กเหล้าที่เพิ่งเข้าปากเอวาไปถึงกับพุ่งพรวดออกมาคืนด้วยความตกใจเมื่อเจอฝีปากที่แซบไม่เบาของผู้ชายที่หน้าตาต้องบอกว่าดีมาก แต่ใครเลยจะรู้ว่าจริงๆแล้ววาจาแซบราวกับยกพริกทั้งสวนมาสู้กลับพวกเธอแบบนี้ในขณะที่เพลงพิณได้แต่แอบยิ้มขำกับท่าทางของเพื่อนสาวทั้งสองคนที่หน้าเสียไปเลยเมื่อเจอเขาถามกลับที่ทำเอาไปไม่เป็นทั้งคู่“แหม สุดหล่อก็พวกเราไม่ได้กะจะซักยันบรรพบุรุษสักหน่อยก็แค่อยากรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิมแค่นั้นเองเนอะเอวาเนอะ”เจ้าเอยบอกเกรย์เสียงอ่อยๆส่วนเอวาก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของเพื่อนสาวเพราะพวกเธอก็อยากรู้จักเขาให้มากขึ้นตามที่บอกไปจริงๆ แต่สำหรับ
เช้าวันต่อมา“อื้อ ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ”เพลงพิณลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิดเมื่อคืนเธอจำได้ว่าเธอดื่มเหล้าเข้าไปหลายแก้วมากก่อนที่ภาพจะตัดและมืดสนิทหลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ว่าแต่เมื่อคืนเธอได้ทำอะไรที่น่าอายลงไปบ้างไหมเนี่ยได้แต่คิดและตั้งคำถามกับตัวเองเพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆแต่เมื่อคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกก็ได้แต่ยกมือขึ้นจิกทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดเพราะเธอกลัวว่าจะเผลอไปทำอะไรที่ไม่น่ารักต่อหน้าเขาเข้าน่ะสิ มือที่กำลังจิกทึ้งผมต้องชะงักไปเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลของใครบางคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเธอ หัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อเช็กสภาพร่างกายของตัวเองก็พบว่าเธอยังคงอยู่ในชุดที่ใส่ออกไปเที่ยวเมื่อคืนและนี่ก็คือห้องนอนของเธอ แล้วคนที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของเธอคือใครกันล่ะ?นี่อย่าบอกนะว่าเธอเมามากจนเผลอคว้าใครไม่รู้มานอนด้วยที่ห้อง“หวังว่าคงไม่ใช่คุณเกรย์หรอกนะ”เพลงพิณพึมพำเสียงเบาอยู่คนเดียวก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปใกล้ๆคนที่กำลังนอนหลับอยู่โดยที่เขานอนตะแคงหันหน้าไปอีกทาง เพลงพิณยื่นหน้
คอนโด Kเมื่อเกรย์เปิดประตูเข้ามาภายในห้องพักเขาก็พบกับรองเท้าสองคู่ที่จอดเคียงคู่เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาก่อนที่เกรย์จะรีบเดินเข้าไปในห้องทันที ภาพของมารดาที่กำลังเติมเครื่องปรุงลงในอาหารกับบิดาที่กำลังคนอาหารในหม้อให้เข้ากันทำให้เกรย์ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดทั้งคู่เอาไว้ด้วยความรักและคิดถึงสุดหัวใจหมับ“กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับทำไมไม่เห็นโทรมาบอกพี่เกรย์เลย พี่เกรย์คิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยครับ”ถึงแม้จะโตเป็นหนุ่มแล้วแต่เวลาที่เขาอยู่กับบิดามารดาเกรย์ก็ยังคงอ้อนท่านทั้งสองเหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กเหมือนเดิม เจ้าขาค่อยๆหันหน้ามาหาลูกชายคนโตที่เพิ่งกลับห้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักก่อนที่เธอจะโอบกอดลูกชายเอาไว้ด้วยความคิดถึงเช่นกัน“พ่อกับแม่ก็คิดถึงพี่เกรย์มากๆค่ะถึงได้รีบเดินทางกลับมาเมืองไทย”น้ำเสียงอ่อนโยนบอกลูกชายก่อนที่กองทัพจะปิดแก๊สและหันมากอดลูกชายบ้างซึ่งเกรย์เองก็กอดตอบบิดาอย่างแนบแน่นเช่นกัน สองมือใหญ่ของกองทัพลูบหลังลูกชายไปเบาๆมาราวกับว่าเกรย์ยังคงเป็นเด็กชายตัวน้อยอายุเพียงสิบขวบซึ่งในสายตาของกองทัพลูกๆของเขาก็ยังคงเป็นเด็กเสมอ“แอบไป
Smok’in Pubมือบางค่อยๆควงแก้วเหล้าเล่นไปมาท่ามกลางเสียงเพลงที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแต่คนที่กำลังควงแก้วเหล้าเล่นกลับถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ เพราะนี่ก็เป็นเวลาสามวันแล้วที่เกรย์หายตัวไปโดยที่ไม่ยอมมาทำงานเธอพยายามสอบถามเด็กเสิร์ฟที่นี่แต่ก็ไม่มีใครพบเจอกับเขาเลย แม้กระทั่งอาร์มเด็กชงเหล้าประจำเคาน์เตอร์บาร์ก็ไม่รู้ว่าเกรย์หายไปไหนเพราะบางวันที่เธอเห็นเขานั้นเขาเพียงมาช่วยอาร์มทำงานเท่านั้นเขาไม่ใช่พนักงานประจำของที่นี่“เจ้าเอย เอวา กูจะทำยังไงดีอีกสองวันก็วันเกิดนังหอมมันแล้วถ้ากูไม่ควงแฟนไปงานพวกน้ำพิ้งค์มันต้องหาว่ากูโกหกมันแน่นอนเลย”“ก็มึงโกหกพวกมันจริงๆนี่หว่า คุณเกรย์เขาไม่ได้เป็นแฟนมึงจริงๆสักหน่อย”คำพูดของเอวาทำเอาคนที่กำลังทุกข์ใจอย่างหนักถึงกับหันมาส่งค้อนให้เพื่อนอย่างแรงจนคอแทบเคล็ดด้วยความหมั่นไส้ที่เพื่อนชอบพูดดักคอเธอ ก่อนที่เพลงพิณจะยกแก้วที่ควงเล่นในครั้งแรกขึ้นกระดกรวดเดียวน้ำสีอำพันก็ไหลลงสู่ลำคอจนหมดแก้ว“เบาได้เบาเว้ยเพลงแก้วที่ห้าแล้วนะมึง อีกอย่างมึงแดกเหล้าแทนข้าวเย็นมาสามวันล่ะ”เจ้าเอยท้วงเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพราะนี่ก็เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่เพลงพิณม
“รบกวนช่วยมาเป็นแฟนกันจริงๆได้ไหมคะ”คำขอร้องของเพลงพิณทำเอาคนที่ไม่เคยสะทกสะท้านกับคำพูดของใครมาก่อนหรือแม้แต่แสดงท่าทีตกใจกับเรื่องใดกลับมีสีหน้าที่เรียกได้ว่านิ่งไปราวกับว่ากำลังช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน ส่วนเพลงพิณเมื่อหลุดพูดออกไปแล้วเธอก็เพิ่งนึกได้ว่าคำพูดของเธอดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง เพราะจุดประสงค์ที่เธอตามหาเขาคือต้องการให้เขามาแกล้งเป็นแฟนของเธอไม่ใช่แฟนจริงๆของเธอดังเช่นที่ได้เอ่ยปากขอร้องเขาไป“เอ่อ ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่าที่จริงแล้วเพลงแค่ต้องการขอร้องให้คุณแกล้งมาเป็นแฟนปลอมๆให้เพลงเท่านั้นน่ะค่ะ ที่พูดไปก่อนหน้านั้นเพลงพูดผิดค่ะขอโทษจริงๆถ้าทำให้คุณเข้าใจผิด”เพราะความรู้สึกที่อยู่ในใจทำให้เธอพลั้งปากพูดออกไปแบบนั้นส่วนคนที่ได้ฟังคำอธิบายของเพลงพิณก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจเพราะที่จริงแล้วคำพูดของเธอทำให้เขาตกใจมาก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีคนที่แอบชอบเขาหลายคนขอเขาคบเป็นแฟนแต่ผู้ชายที่เย็นชาอย่างเขาก็เมินเฉยกับผู้หญิงเหล่านั้นเสมอมาแต่พอเป็นเธอคนนี้เมื่อได้ฟังคำขอเป็นแฟนหัวใจของเขากลับแอบเต้นแรงราวกับคลื่นลมพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่กลางทะเล แต่พอเธอบอกว่าสิ่งที่เธอพ
คอนโด K“สวยมากเพลง เพื่อนกูสวยที่สุด”เอวาเอ่ยชมเพื่อนสาวด้วยดวงตาที่เป็นทอประกายอย่างชื่นชมเพลงพิณที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ผ่าสูงโชว์เรียวขางามส่วนด้านบนก็เว้าหลังโชว์แผ่นหลังเนียนสวย เพลงพิณเป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าจะใส่ชุดไหนก็เข้ากับเธอไปเสียทุกชุด เพราะหุ่นที่ผอมบางแต่กลับมีหน้าอกที่อวบอิ่มและหน้าตาที่ใครๆต่างก็ชื่นชมว่าเธอสวยมากต่อให้ชุดที่เธอใส่จะหรูดูแพงหรือแสนธรรมดาแต่เพลงพิณก็เอาอยู่ทุกชุด“มึงก็ชมเวอร์เกินไปนะเอวา คนอื่นในงานเขาสวยกว่ากูก็มีอย่างมิ้งดาวนิเทศไงนังหอมก็ชวนนางมาด้วยนี่”เพลงพิณตอบกลับเพื่อนอย่างถ่อมตัวตามนิสัยเพราะถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองในระดับหนึ่งแต่ยังมีอีกหลายคนที่สวยและน่ารักกว่าเธอมาก เธอจึงไม่เคยทำตัวหยิ่งหรืออวดอ้างความสวยเหนือใครเหมือนที่น้ำพิ้งค์ชอบทำเสมอเวลาที่อยู่ในที่สาธารณะ“สวยศัลปะวะมึง ส่วนมึงธรรมชาติสรรค์สร้าง”“จะสวยด้วยอะไรก็ช่างเขาเถอะไปกันได้แล้ว”เพลงพิณเอ่ยชวนเพื่อนรักพร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าใบเล็กและพากันเดินออกไปจากห้องทันทีเพื่อที่จะไปรอเกรย์ที่ล็อบบี้ด้านล่าง เพราะเธอนัดกับเขาที่คอนโดของเธอเพื่อเดินทางไปที่งานวัน
“เพลงนึกว่าคุณจะไม่มาแล้วซะอีก”เพลงพิณกระซิบถามเกรย์เสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคนก่อนที่เกรย์จะก้มหน้าลงมาพร้อมกับยกยิ้มมุมปากน้อยๆยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นน่าดูมากยิ่งขึ้นไปอีกในสายตาของเพลงพิณ ทำไมเขาถึงหล่อได้ขนาดนี้นะปกติแค่เขาทำหน้านิ่งๆก็หล่อมากพอแล้วนี่เขาเล่นยิ้มให้เธอแบบนี้หัวใจของเธอจะไม่ไหวแล้วนะ“ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำครับ”น้ำเสียงละมุนกระซิบบอกเพลงพิณข้างๆใบหูหอมกรุ่นก่อนที่เพลงพิณจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจและค่อยๆผละออกมาจากอ้อมกอดของเกรย์และเดินมายืนเคียงข้างเขาแทน มือบางค่อยๆยื่นมาควงแขนเขาซึ่งเกรย์ก็ยอมให้เธอควงแต่โดยดีเพราะเขาเลือกที่จะช่วยเธอแล้วเขาก็ต้องทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุดถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยก็ตาม “หน้าตาก็ดีแต่ไม่ควรที่จะแกล้งเพื่อนแบบนี้นะครับ ถึงผมอาจจะไม่ใช่ลูกคนรวยอย่างที่คุณชอบดูถูกแต่ผมก็ไม่เคยทำตัวหยาบช้าด้วยการคิดที่จะผลักใครตกน้ำนะครับ”คำพูดที่เรียบๆนิ่งๆแต่กลับบาดลึกเข้าไปในใจคนฟังให้รู้สึกร้อนรนจนแทบทนไม่ไหวที่แฟนใหม่ของเพลงพิณตำหนิเธอต่อหน้าเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่พากันเอามือปิดปากหัวเราะเมื่อน้ำพิ้งค์โดนตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ส่ว