สนามแข่ง PKเกรย์ขับรถเข้ามาจอดในมุมหนึ่งของสนามที่ค่อนข้างมืดซึ่งมีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์เท่านั้นที่สาดส่องลงมาให้เห็นสองข้างทางที่เต็มไปด้วยหญ้ารกทึบ ก่อนที่เขาจะลงจากรถและต่อสายหาใครบางคนที่กำลังเดินทางมายังจุดนัดพบด้วยการเหยียบคันเร่งจนมิดไมล์เพราะไม่อยากให้เกรย์ต้องรอเขานานส่วนเพลงพิณที่ยังคงนั่งอยู่บนรถค่อยๆหันไปมองรอบๆด้วยความแปลกใจระคนรู้สึกกลัวพร้อมกับเตรียมจะก้าวลงจากรถซึ่งไม่ถนัดเอาเสียเลยสำหรับเธอที่ใส่รองเท้าส้นสูง ก่อนที่เกรย์จะรีบเดินมาอุ้มเพลงพิณลงมาจากรถท่ามกลางความตกใจของเธอที่ตอนขึ้นก็ไม่ทันได้ตั้งตัว พอตอนจะลงจากรถก็ถูกอุ้มลงอย่างง่ายดายโดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน“ขอบคุณค่ะ แต่อันที่จริงเพลงลงเองก็ได้ค่ะ”เพลงพิณเอ่ยขอบคุณพร้อมกับบอกเกรย์ด้วยความเกรงใจที่เขาต้องมาคอยอุ้มเธอขึ้นลงรถทั้งๆที่เธอก็สามารถขึ้นลงเองได้ถึงแม้ว่าจะดูเก้ๆกังๆหรือไม่ค่อยถนัดสักท่าไหร่ก็ตาม“หึ ใส่ชุดแบบนั้นคงขึ้นลงง่ายหรอกนะแม่คุณ”คำพูดที่คล้ายจะแซวก็ไม่ใช่แดกดันเธอก็ไม่เชิงของเกรย์ทำให้ใบหน้าสวยงอง้ำลงทันตาก่อนที่เธอจะส่งค้อนวงใหญ่มาให้เขาที่ยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสกับท่าทีงอนๆขอ
เช้าวันต่อมาร่างบางที่กำลังเดินออกมาจากคอนโดถึงกับชะงักไปเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างสูงที่กำลังยืนพิงรถมอเตอร์ไซค์แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องลงมาต้องร่างสูงทำให้เพลงพิณรู้สึกตาพร่าเล็กน้อย ก่อนที่เกรย์จะถอดแว่นตาที่สวมอยู่ออกเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเพลงพิณทั้งยามหลับและยามตื่นเพียงได้เห็นหน้าเขารอยยิ้มก็พลันปรากฎขึ้นบนใบหน้างามก่อนที่เพลงพิณจะเดินเข้ามาหาเกรย์ช้าๆด้วยความดีใจและตื่นเต้นที่เธอพยายามซ่อนมันเอาไว้อย่างมิดชิด ยกเว้นเพียงรอยยิ้มที่เธอไม่สามารถที่จะซ่อนเอาไว้ได้จริงๆเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าโลกทั้งโลกของเธอก็พลันดูสดใสขึ้นมาทันตา“มาได้ยังไงคะเนี่ย”เพลงพิณเอ่ยถามคนที่กำลังยืนกอดอกแต่สายตากลับมองมาที่เธอก่อนที่เขาจะไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าพร้อมกับคิ้วที่เริ่มขมวดเข้าหากันด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ เมื่อรู้สึกว่ากระโปรงของเธอดูเหมือนว่าจะสั้นเกินไปจนเผยให้เห็นเรียวขาสวยที่ดูน่ามองสำหรับผู้ชาย แต่ในเมื่อตอนนี้เธออยู่ในสถานะแฟนของเขาผู้ชายหน้าไหนก็ไม่สมควรเห็นมันทั้งนั้นนี่เขาไม่ได้หึงนะเขาแค่กำลังทำตามหน้าที่เท่านั้นเอง“กระโปรงดูเหมือนจะสั้นไปหน่อย
รถมอเตอร์ไซค์ที่ค่อยๆแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคณะของเพลงพิณเรียกสายตาของผู้คนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นให้หันมามองด้วยความสนใจ จนกระทั่งรถดับสนิทเพลงพิณก็ค่อยๆก้าวลงจากรถด้วยความระมัดระวังเพราะเธอใส่ส้นสูงหากไม่ระวังอาจจะหกล้มหน้าฟาดพื้นให้ขายหน้าเขาเอาได้มือบางที่กำลังจะปลดหมวกกันน็อกออกเป็นอันต้องชะงักไปเมื่อเกรย์ยื่นมือมาปลดหมวกกันน็อกออกให้เธออย่างอ่อนโยนจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ปลดหมวกกันน็อกที่สวมอยู่ออก ซึ่งวินาทีที่เขาดึงหมวกกันน็อกออกสาวๆที่นั่งอยู่บริเวณนั้นต่างพากันหลุดเสียงกรี๊ดกราดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อใบหน้าที่อยู่ภายใต้หมวกใบใหญ่นั้นช่างหล่อเหลาคมคายเสียจนพวกเธอเกิดอาการใจสั่น“ขอบคุณนะคะที่มาส่งเพลง”ในขณะที่กำลังเอ่ยขอบคุณเกรย์ที่มาส่งเธอจู่ๆเสียงท้องร้องของเพลงพิณก็ดังขึ้นเสียงดังจนทำให้เกรย์ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนที่เขาจะหลุดขำออกมา ส่วนเพลงพิณนั้นได้แต่ส่งยิ้มแหยๆให้เขาพร้อมกับยกมือขึ้นลูบท้องน้อยที่ไร้ไขมันส่วนเกินของเธอด้วยความเขินอายเมื่อความหิวจนท้องร้องกำลังทำให้เธอขายหน้าเขา“ปกติไม่ทานมื้อเช้าก่อนมามหาวิทยาลัยเหรอครับ”เกรย์ถามเพลงพิณที่หน้าขึ้นสีแดงระ
“แหม แหม เป็นแค่แฟนในนามแต่ดูหวานกันเชียวนะจ๊ะเพื่อนเพลง”เจ้าเอยเอ่ยแซวเพลงพิณทันทีที่เธอเดินเข้ามานั่งลงข้างๆแต่คนถูกแซวกลับมีสีหน้าที่เรียบเฉยทั้งๆที่ในใจนั้นเขินจนแทบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ส่วนเอวานั้นได้แต่นั่งเท้าคางมองเพื่อนรักด้วยสายตาและรอยยิ้มล้อเลียนเมื่อเพจของมหาวิทยาลัยพากันลงข่าวเรื่องแฟนใหม่ของเพื่อนเธอ“กูนี่โคตรอิจฉามึงเลยอะเพลงที่มีแฟนหล่อแบบคุณเกรย์ ที่ไม่ว่าจะแอบถ่ายมุมไหนก็ดูดีไปหมด เฮ้อ เอวาล่ะอยากมีแฟนชื่อเกรย์จริงๆเลย”“กูขออิจฉาด้วยคนได้ไหม ผู้ชายอะไรเสน่ห์ช่างเหลือล้นเกินจะต้าน”เจ้าเอยเองก็เอ่ยขึ้นหยอกเพลงพิณอย่างนึกสนุกไปกับเอวาด้วยโดยที่ทุกอย่างที่พวกเธอพูดมาไม่ได้ดูเกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะแฟนในนามของเพื่อนรักเธอคนนี้หล่อมากจริงๆ “พวกมึงก็พูดเวอร์ไป แต่เขาก็หล่อจริงๆนั่นแหละหล่อจนกูใจสั่น”“มึงชอบเขาแล้วใช่ไหม”“มึงตกหลุมรักเขาแล้วใช่ไหม”ประโยคคำถามที่รูปประโยคนั้นแตกต่างกันแต่ความหมายกลับเหมือนกันของเจ้าเอยกับเอวาที่กระซิบถามเพื่อนรักอย่างรู้ทันทำเอาเพลงพิณถึงกับนิ่งไป ก่อนที่เรื่องราวระหว่างเธอกับเขาตั้งแต่แรกพบจนถึงวันนี้จะค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวเป
ติ้งเสียงข้อความที่เด้งเข้ามาในมือถือทำให้มุมปากของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคลยคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี มือเรียวยาวดุจแท่งเทียนยื่นไปหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาอ่านอย่างรวดเร็วราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดทั้งวัน “เหนื่อยจังเลย รายงานท่วมหัวใกล้จะเอาตัวไม่รอดแล้วค่า”รูปภาพของใครบางคนที่ส่งมาให้เกรย์นั้นดูแปลกตาไม่น้อยทรงผมที่เคยยาวสลวยมาตอนนี้ถูกรวบขึ้นอย่างเรียบง่ายใบหน้าที่เคยแต่งแต้มอย่างสวยงามกลับไร้สีสันแต่ดูน่ารักเสมอในสายตาของเขาเอ๊ะ? น่ารักอย่างนั้นเหรอตรงหน้าของเธอเต็มไปด้วยเอกสารมากมายแต่ใบหน้าที่สวมแว่นตาหนาเตอะของเธอกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มผิดกับข้อความที่เธอส่งมาหาเขาโดยสิ้นเชิงอยากอ้อนขอกำลังใจ? หรือ อยากบ่นให้เขาฟัง?สองคำถามแวบเข้ามาในหัวก่อนที่เขาจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ค่อยๆกว้างขึ้นแต่พอเขาจะกดส่งนิ้วเรียวกลับชะงักไปเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าเขาเป็นเพียงแค่แฟนในนามเท่านั้นไม่ใช่แฟนตัวจริงของเธอสักหน่อยเพราะฉะนั้นข้อความหวานแหววที่เคยเห็นผ่านตามาจากพี่กูจึงถูกลบออกอย่างรวดเร็ว “สู้ๆนะครับ”เกรย์กดส่งข้อความที่พิมพ์ขึ
“หึ เหนือเจ้านายของพวกมึงก็คือกู เกรย์ กันต์ณทีป์ คนนี้ยังไงล่ะ”จบประโยคคิมหันต์ก็ได้แต่ขยับเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังบดินทร์ด้วยความหวาดกลัวเพราะแววตาของเกรย์ในยามที่จ้องมองเขานั้นมันช่างเย็นยะเยือกจนเขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว จากที่เคยคิดว่าคนตรงหน้าเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรสู้เขาได้เลยมาถึงวันนี้คิมหันต์กระจ่างแก่ใจแล้วที่ผ่านมาเขาพยายามให้ลูกน้องของบิดาตามสืบประวัติของเกรย์ทุกทางแต่กลับไม่พบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลยเพราะเกรย์ไม่ได้ทิ้งข้อมูลเอาไว้ให้ใครตามสืบหาตัวเขาได้ง่ายๆนั่นเอง คิมหันต์รู้แค่เพียงว่าผู้ชายคนนี้ชื่อเกรย์เพิ่งเข้ามาพาร์ทไทม์เป็นเด็กชงเหล้าที่นี่ได้เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนข้อมูลของคนตรงหน้ามีเพียงเท่านี้จริงๆ“ที่ผ่านมามึงอาจจะทำให้ใครต่อใครหายไปจากโลกนี้ได้เงียบๆหลายคน แต่กูไม่ใช่คนที่จะหายไปแบบนั้นแน่นอน”“หึ อย่าเพิ่งมั่นใจไปหน่อยเลยวันนี้อาจจะไม่หายไปแต่หลังจากนี้มึงอาจจะตายอยู่แถวพงหญ้าที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ก็ได้”คำพูดที่ราวกับกำลังขู่ให้เกรย์รู้สึกกลัวทำให้ผู้ชายที่ผ่านความเป็นความตายมานักต่อนักได้แต่หัวเราะด้วยความขบขันกับคำพูดของบดินทร์ ท
มือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์ค่อยๆหยุดความเคลื่อนไหวพร้อมกับดวงตาคู่งามที่ปิดลงช้าๆและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด ส่วนคนที่แกล้งหลับกลับค่อยๆลืมตาพร้อมกับหันมามองใบหน้าเนียนสวยที่ตอนนี้ฟุบหลับบนโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อยร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนหลับอยู่ก่อนที่เขาจะค่อยๆช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกและเดินหายเข้าไปในห้องนอนของเพลงพิณสักพักใหญ่ๆจึงกลับออกมานั่งแทนที่เธอ เกรย์หยิบกระดาษที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่ใช้ทำรายงานขึ้นมาอ่านคร่าวๆเพื่อศึกษาเนื้อหาของรายงานที่เพลงพิณกำลังทำอยู่จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักเกรย์ก็เข้าใจเนื้อหาของรายงานทั้งหมดสองมือค่อยๆวางลงบนแป้นพิมพ์และพิมพ์งานต่อส่วนที่เหลือให้เพลงพิณอย่างคล่องแคล่ว โดยที่เนื้อหาทั้งหมดนั้นออกมาจากสมองของเกรย์ล้วนๆและเกรย์ยังได้ปรับแก้เนื้อหาบางจุดของเพลงพิณให้มีความสมบูรณ์อีกด้วยเวลาผ่านไปเรื่อยๆจากสองนาฬิกาล่วงเลยเข้าสู่สามนาฬิกาและผ่านมาจนเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลขหกบ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเช้ารายงานของเพลงพิณก็เสร็จสมบูรณ์ เกรย์จัดการเก็บเอกสารทุกอย่างจัดให้เป็นระเบียบก่อนที่เขาจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆมาตวัดต
ใบหน้าสวยหวานค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายกับข้อความที่เกรย์ตอบกลับมาหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกับคำว่า แฟน ที่ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะไม่ใช่แฟนกันจริงๆก็ตามแต่ทุกครั้งที่เขาเผลอหลุดปากพูดหรือตอบกลับข้อความของเธอมาด้วยคำนี้มันทำให้เพลงพิณมีความสุขทุกครั้งความสุขที่เธอจะเก็บเอาไว้ในใจตลอดไปเก็บเป็นความทรงจำที่สวยงามว่าครั้งหนึ่งเธอได้รู้จักกับเขาผู้ชายที่แสนธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถทำให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างง่ายดาย ต่อจากนี้ไปไม่ว่าปลายทางข้างหน้าจะจบลงเช่นไรเธอจะไม่เสียใจเลยที่ได้แอบรักเขาข้างเดียวแบบนี้ แต่ถ้าหากกามเทพนั้นมีจริงเธออยากขอพรให้การแอบรักเขาของเธอในครั้งนี้สมหวังด้วยเถอะ“พี่เกรย์ไม่อยู่กินบัวลอยไข่หวานฝีมือของแม่ก่อนเหรอคะ”เจ้าขาเอ่ยถามลูกชายที่ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลองสบายๆอย่างเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกส่วนคนที่ถูกถามได้แต่ส่ายหน้าไปมาน้อยๆในใจก็นึกห่วงความรู้สึกของมารดาที่อาจจะน้อยใจที่เขาไม่ยอมอยู่กินขนมหวานที่มารดาตั้งใจทำให้เขา แต่อีกใจก็นึกห่วงเพลงพิณที่ต้องนั่งแท็กซี่กลับคอนโดคนเดียวเพราะเมื่อเช้าเอวาเป็นคนแวะไปส่