รถมอเตอร์ไซค์ที่ค่อยๆแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคณะของเพลงพิณเรียกสายตาของผู้คนที่นั่งอยู่บริเวณนั้นให้หันมามองด้วยความสนใจ จนกระทั่งรถดับสนิทเพลงพิณก็ค่อยๆก้าวลงจากรถด้วยความระมัดระวังเพราะเธอใส่ส้นสูงหากไม่ระวังอาจจะหกล้มหน้าฟาดพื้นให้ขายหน้าเขาเอาได้มือบางที่กำลังจะปลดหมวกกันน็อกออกเป็นอันต้องชะงักไปเมื่อเกรย์ยื่นมือมาปลดหมวกกันน็อกออกให้เธออย่างอ่อนโยนจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ปลดหมวกกันน็อกที่สวมอยู่ออก ซึ่งวินาทีที่เขาดึงหมวกกันน็อกออกสาวๆที่นั่งอยู่บริเวณนั้นต่างพากันหลุดเสียงกรี๊ดกราดออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อใบหน้าที่อยู่ภายใต้หมวกใบใหญ่นั้นช่างหล่อเหลาคมคายเสียจนพวกเธอเกิดอาการใจสั่น“ขอบคุณนะคะที่มาส่งเพลง”ในขณะที่กำลังเอ่ยขอบคุณเกรย์ที่มาส่งเธอจู่ๆเสียงท้องร้องของเพลงพิณก็ดังขึ้นเสียงดังจนทำให้เกรย์ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนที่เขาจะหลุดขำออกมา ส่วนเพลงพิณนั้นได้แต่ส่งยิ้มแหยๆให้เขาพร้อมกับยกมือขึ้นลูบท้องน้อยที่ไร้ไขมันส่วนเกินของเธอด้วยความเขินอายเมื่อความหิวจนท้องร้องกำลังทำให้เธอขายหน้าเขา“ปกติไม่ทานมื้อเช้าก่อนมามหาวิทยาลัยเหรอครับ”เกรย์ถามเพลงพิณที่หน้าขึ้นสีแดงระ
“แหม แหม เป็นแค่แฟนในนามแต่ดูหวานกันเชียวนะจ๊ะเพื่อนเพลง”เจ้าเอยเอ่ยแซวเพลงพิณทันทีที่เธอเดินเข้ามานั่งลงข้างๆแต่คนถูกแซวกลับมีสีหน้าที่เรียบเฉยทั้งๆที่ในใจนั้นเขินจนแทบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ส่วนเอวานั้นได้แต่นั่งเท้าคางมองเพื่อนรักด้วยสายตาและรอยยิ้มล้อเลียนเมื่อเพจของมหาวิทยาลัยพากันลงข่าวเรื่องแฟนใหม่ของเพื่อนเธอ“กูนี่โคตรอิจฉามึงเลยอะเพลงที่มีแฟนหล่อแบบคุณเกรย์ ที่ไม่ว่าจะแอบถ่ายมุมไหนก็ดูดีไปหมด เฮ้อ เอวาล่ะอยากมีแฟนชื่อเกรย์จริงๆเลย”“กูขออิจฉาด้วยคนได้ไหม ผู้ชายอะไรเสน่ห์ช่างเหลือล้นเกินจะต้าน”เจ้าเอยเองก็เอ่ยขึ้นหยอกเพลงพิณอย่างนึกสนุกไปกับเอวาด้วยโดยที่ทุกอย่างที่พวกเธอพูดมาไม่ได้ดูเกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะแฟนในนามของเพื่อนรักเธอคนนี้หล่อมากจริงๆ “พวกมึงก็พูดเวอร์ไป แต่เขาก็หล่อจริงๆนั่นแหละหล่อจนกูใจสั่น”“มึงชอบเขาแล้วใช่ไหม”“มึงตกหลุมรักเขาแล้วใช่ไหม”ประโยคคำถามที่รูปประโยคนั้นแตกต่างกันแต่ความหมายกลับเหมือนกันของเจ้าเอยกับเอวาที่กระซิบถามเพื่อนรักอย่างรู้ทันทำเอาเพลงพิณถึงกับนิ่งไป ก่อนที่เรื่องราวระหว่างเธอกับเขาตั้งแต่แรกพบจนถึงวันนี้จะค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวเป
ติ้งเสียงข้อความที่เด้งเข้ามาในมือถือทำให้มุมปากของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคลยคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี มือเรียวยาวดุจแท่งเทียนยื่นไปหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาอ่านอย่างรวดเร็วราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดทั้งวัน “เหนื่อยจังเลย รายงานท่วมหัวใกล้จะเอาตัวไม่รอดแล้วค่า”รูปภาพของใครบางคนที่ส่งมาให้เกรย์นั้นดูแปลกตาไม่น้อยทรงผมที่เคยยาวสลวยมาตอนนี้ถูกรวบขึ้นอย่างเรียบง่ายใบหน้าที่เคยแต่งแต้มอย่างสวยงามกลับไร้สีสันแต่ดูน่ารักเสมอในสายตาของเขาเอ๊ะ? น่ารักอย่างนั้นเหรอตรงหน้าของเธอเต็มไปด้วยเอกสารมากมายแต่ใบหน้าที่สวมแว่นตาหนาเตอะของเธอกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มผิดกับข้อความที่เธอส่งมาหาเขาโดยสิ้นเชิงอยากอ้อนขอกำลังใจ? หรือ อยากบ่นให้เขาฟัง?สองคำถามแวบเข้ามาในหัวก่อนที่เขาจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ค่อยๆกว้างขึ้นแต่พอเขาจะกดส่งนิ้วเรียวกลับชะงักไปเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าเขาเป็นเพียงแค่แฟนในนามเท่านั้นไม่ใช่แฟนตัวจริงของเธอสักหน่อยเพราะฉะนั้นข้อความหวานแหววที่เคยเห็นผ่านตามาจากพี่กูจึงถูกลบออกอย่างรวดเร็ว “สู้ๆนะครับ”เกรย์กดส่งข้อความที่พิมพ์ขึ
“หึ เหนือเจ้านายของพวกมึงก็คือกู เกรย์ กันต์ณทีป์ คนนี้ยังไงล่ะ”จบประโยคคิมหันต์ก็ได้แต่ขยับเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังบดินทร์ด้วยความหวาดกลัวเพราะแววตาของเกรย์ในยามที่จ้องมองเขานั้นมันช่างเย็นยะเยือกจนเขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว จากที่เคยคิดว่าคนตรงหน้าเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรสู้เขาได้เลยมาถึงวันนี้คิมหันต์กระจ่างแก่ใจแล้วที่ผ่านมาเขาพยายามให้ลูกน้องของบิดาตามสืบประวัติของเกรย์ทุกทางแต่กลับไม่พบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลยเพราะเกรย์ไม่ได้ทิ้งข้อมูลเอาไว้ให้ใครตามสืบหาตัวเขาได้ง่ายๆนั่นเอง คิมหันต์รู้แค่เพียงว่าผู้ชายคนนี้ชื่อเกรย์เพิ่งเข้ามาพาร์ทไทม์เป็นเด็กชงเหล้าที่นี่ได้เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนข้อมูลของคนตรงหน้ามีเพียงเท่านี้จริงๆ“ที่ผ่านมามึงอาจจะทำให้ใครต่อใครหายไปจากโลกนี้ได้เงียบๆหลายคน แต่กูไม่ใช่คนที่จะหายไปแบบนั้นแน่นอน”“หึ อย่าเพิ่งมั่นใจไปหน่อยเลยวันนี้อาจจะไม่หายไปแต่หลังจากนี้มึงอาจจะตายอยู่แถวพงหญ้าที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ก็ได้”คำพูดที่ราวกับกำลังขู่ให้เกรย์รู้สึกกลัวทำให้ผู้ชายที่ผ่านความเป็นความตายมานักต่อนักได้แต่หัวเราะด้วยความขบขันกับคำพูดของบดินทร์ ท
มือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์ค่อยๆหยุดความเคลื่อนไหวพร้อมกับดวงตาคู่งามที่ปิดลงช้าๆและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด ส่วนคนที่แกล้งหลับกลับค่อยๆลืมตาพร้อมกับหันมามองใบหน้าเนียนสวยที่ตอนนี้ฟุบหลับบนโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อยร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนหลับอยู่ก่อนที่เขาจะค่อยๆช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกและเดินหายเข้าไปในห้องนอนของเพลงพิณสักพักใหญ่ๆจึงกลับออกมานั่งแทนที่เธอ เกรย์หยิบกระดาษที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่ใช้ทำรายงานขึ้นมาอ่านคร่าวๆเพื่อศึกษาเนื้อหาของรายงานที่เพลงพิณกำลังทำอยู่จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักเกรย์ก็เข้าใจเนื้อหาของรายงานทั้งหมดสองมือค่อยๆวางลงบนแป้นพิมพ์และพิมพ์งานต่อส่วนที่เหลือให้เพลงพิณอย่างคล่องแคล่ว โดยที่เนื้อหาทั้งหมดนั้นออกมาจากสมองของเกรย์ล้วนๆและเกรย์ยังได้ปรับแก้เนื้อหาบางจุดของเพลงพิณให้มีความสมบูรณ์อีกด้วยเวลาผ่านไปเรื่อยๆจากสองนาฬิกาล่วงเลยเข้าสู่สามนาฬิกาและผ่านมาจนเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลขหกบ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเช้ารายงานของเพลงพิณก็เสร็จสมบูรณ์ เกรย์จัดการเก็บเอกสารทุกอย่างจัดให้เป็นระเบียบก่อนที่เขาจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆมาตวัดต
ใบหน้าสวยหวานค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายกับข้อความที่เกรย์ตอบกลับมาหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกับคำว่า แฟน ที่ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะไม่ใช่แฟนกันจริงๆก็ตามแต่ทุกครั้งที่เขาเผลอหลุดปากพูดหรือตอบกลับข้อความของเธอมาด้วยคำนี้มันทำให้เพลงพิณมีความสุขทุกครั้งความสุขที่เธอจะเก็บเอาไว้ในใจตลอดไปเก็บเป็นความทรงจำที่สวยงามว่าครั้งหนึ่งเธอได้รู้จักกับเขาผู้ชายที่แสนธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถทำให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างง่ายดาย ต่อจากนี้ไปไม่ว่าปลายทางข้างหน้าจะจบลงเช่นไรเธอจะไม่เสียใจเลยที่ได้แอบรักเขาข้างเดียวแบบนี้ แต่ถ้าหากกามเทพนั้นมีจริงเธออยากขอพรให้การแอบรักเขาของเธอในครั้งนี้สมหวังด้วยเถอะ“พี่เกรย์ไม่อยู่กินบัวลอยไข่หวานฝีมือของแม่ก่อนเหรอคะ”เจ้าขาเอ่ยถามลูกชายที่ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลองสบายๆอย่างเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกส่วนคนที่ถูกถามได้แต่ส่ายหน้าไปมาน้อยๆในใจก็นึกห่วงความรู้สึกของมารดาที่อาจจะน้อยใจที่เขาไม่ยอมอยู่กินขนมหวานที่มารดาตั้งใจทำให้เขา แต่อีกใจก็นึกห่วงเพลงพิณที่ต้องนั่งแท็กซี่กลับคอนโดคนเดียวเพราะเมื่อเช้าเอวาเป็นคนแวะไปส่
คอนโด K“เสื้อผ้าคุณเปียกหมดเลย เดี๋ยวเพลงหาชุดมาให้เปลี่ยนก่อนนะคะแล้วคุณค่อยกลับ”“เอ่อ ไม่เป็นไร...”“ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะ ขืนขับรถกลับบ้านทั้งๆที่ตัวเปียกแบบนี้ได้เป็นปอดบวมตายกันพอดี อีกอย่างเราสองคนตากฝนนานขนาดนั้นคืนนี้ต้องกินยาแก้ไข้กันไว้ก่อนเลยนะคะป่วยขึ้นมาเดี๋ยวจะยุ่ง”“ที่พูดนี่เป็นห่วงใช่ไหมครับ”“ไม่ห่วงได้ยังไงคะแฟนเพลงทั้งคน”คำตอบของเพลงพิณทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเกรย์ถึงกับเผลอยิ้มออกมาน้อยๆอย่างรู้สึกดีเมื่อเธอหลุดพูดออกมาว่าเป็นห่วงเขาในฐานะแฟน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่เพียงแฟนในนามแต่พอได้ยินคำว่าห่วงใยจากเธอหัวใจของเขาที่เคยเย็นชากลับเต้นแรงจนตัวเขาเองยังตกใจ ส่วนคนที่เผลอหลุดพูดคำว่าห่วงใยที่มาจากความรู้สึกในใจก็ได้แต่เขินจนแก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนที่เธอจะพูดแก้ตัวเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจที่นับวันก็ยิ่งเผยออกมาให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นชอบเขามากแค่ไหน“เอ่อ คือ เพลงหมายความว่าก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วนี่คะในเมื่อคุณอุตส่าห์ไปรับเพลงมาส่งที่ห้อง เดี๋ยวคุณรอเพลงแป๊บหนึ่งนะคะเพลงขอไปเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดมาให้คุณเปลี่ยนก่อน”จบประโยคเพลงพิณก็หันหน้าที่แดงราวกับลูกตำลึ
มหาวิทยาลัย Sภาพร่างสูงที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ๊กและมัดกล้ามทำให้เพลงพิณที่กำลังนั่งเหม่อมองไปข้างหน้าเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวกับภาพที่เธอไม่สามารถสลัดมันออกไปจากหัวได้ทำไมหุ่นของเขาถึงได้น่าลูบไล้ขนาดนั้นกันนะ? ท่าทางที่ดูเหม่อลอยราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ทำให้เอวากับเจ้าเอยที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัยระคนแปลกใจกับท่าที่แปลกๆของเพลงพิณ“มึงเป็นอะไรของมึงวะเพลงทำตัวแปลกๆมาสองวันล่ะ”“อืม น่ากินมาก”“ห๊ะ มึงว่าอะไรน่ากินนะ”คำถามของเอวาที่ระดับความดังไม่เบาเลยทำให้สติที่กำลังกระเจิดกระเจิงไปไกลของเพลงพิณกลับคืนมาในทันทีใบหน้าสวยหวานเลิ่กลั่กด้วยความตกใจกับคำถามของเพื่อนสนิทที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างรอคอยคำตอบเมื่อเธอเผลอหลุดคำพูดแปลกๆออกมา“สรุปที่น่ากินมากของมึงอะคืออะไร พวกกูงงไปหมดแล้วเนี่ย”เจ้าเอยถามย้ำเพลงพิณอีกครั้งอย่างรอคอยคำตอบเช่นกันส่วนคนที่ถูกถามได้แต่เงียบอย่างไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะสิ่งที่เธอบอกว่าน่ากินก็คือหุ่นที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ๊กของเกรย์อย่างไรเล่า คิดมาถึงตรงนี้แก้มเนียนก็ค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินนี่เธอกลายเป็นคนทะลึ่งตึง
5 ปีผ่านไปร่างของเด็กชายตัวเล็กที่กำลังเดินตรงมาที่ร้านไอศกรีมกะทิข้างโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดังทำให้ปริญญ์ที่กำลังยืนรอไอศกรีมอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความเอ็นดู เพราะเด็กชายตัวน้อยไม่ได้มาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ข้างกายของเขายังมีเพื่อนๆที่เดินมาด้วยกันถึงห้าคนเสียงหัวเราะด้วยความสดใสของเด็กน้อยอนุบาลที่มีทั้งชายและหญิงทำให้มาเฟียหนุ่มที่แวะมาซื้อไอศกรีมร้านประจำที่เขาเคยกินมาตั้งแต่เด็กรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าเล็กที่โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มเพื่อนทำให้ปริญญ์เผลอจ้องมองจนเด็กน้อยรู้สึกได้ดวงตากลมโตสดใสจึงเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ด้วยความใสซื่อพร้อมกับเท้าที่หยุดลงที่ร้านไอศกรีม“ทุกคนอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะวันนี้พอร์ชเลี้ยงเอง”คำพูดของเด็กชายตัวน้อยทำให้ปริญญ์ถึงกับหูผึ่งทันทีอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กตัวแค่นี้จะมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงไอศกรีมเพื่อนๆที่ต่างชี้ไปที่ไอศกรีมแบบถ้วยที่ราคาถ้วยล่ะยี่สิบบาท เด็กมีทั้งหมดหกคนก็เท่ากับว่าเด็กชายตัวน้อยที่น่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งจะต้องจ่ายเงินถึงหนึ่งร้อยบาทเพื่อเลี้ยงไอศกรีมเพื่อนๆ“วันนี้พ่อกับแม่ให้เงินมาเท่าไหร่ถึงจ
วันหยุดสุดสัปดาห์เพลงพิณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นก่อนที่ร่างอวบอิ่มที่กำลังตั้งครรภ์ได้แปดเดือนเศษจะเดินลงมาจากชั้นล่างเพื่อมองหาสามีที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าและไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เพราะปกติแล้วเกรย์จะอยู่ในห้องรอจนกว่าเธอจะตื่นขึ้นมาและลงมาข้างล่างพร้อมกันเสมอแต่วันนี้ในห้องนอนใหญ่กลับไร้เงาของสามีสุดที่รักดวงตากลมโตของคุณแม่กวาดมองไปรอบๆคฤหาสน์หลังใหญ่ก่อนที่เธอจะเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องครัวสองเท้าที่กำลังจะเดินผ่านไปถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่ เมื่อแผ่นหลังที่คุ้นเคยของใครบางคนกำลังยืนอยู่หน้าเตาแก๊สพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆอย่างมีความสุขเพลงพิณไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้ทันทีด้วยความรักหมับ“แอบลงมาอยู่ที่ห้องครัวนี่เองเพลงเดินหาจนทั่วแหนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความสดใสก่อนที่เกรย์จะค่อยๆหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับภรรยาที่ท้องโตใกล้คลอดพร้อมกับก้มลงจูบหน้าผากมนอย่างแสนรักมือก็ยกขึ้นมาจับจมูกของภรรยาบีบไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดูที่เธอลงมาตามหาเขา“วันหยุดทั้งทีเฮียก็อยากเข้าครัวทำมื้อเช้าให้เพลงด้วยตัวเองก็เลยรีบตื่นแต่เช้า วันนี้มีแกงจืดตำลึง แกงเลียง ผัดผักรวม ไข่ตุ๋น
ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลรอยยิ้มก็ไม่เคยจางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเพลงพิณเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับลูบหน้าท้องที่แบนราบด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อร่างกายของเธอในตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอที่เป็นเจ้าของอีกต่อไปแล้วเด็กน้อยที่เธอกำลังคิดจินตนาการไปถึงหน้าตาว่าเขาจะหน้าเหมือนแม่แบบเธอหรือหน้าตาดีเหมือนพ่อคือเจ้าของคนใหม่ที่เธอจะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงเพื่อเขา คนที่เธอไม่เคยเห็นหน้าแต่กลับรู้สึกหลงรักอย่างหมดใจตั้งแต่ที่ได้ยินคุณหมอบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์สายใยความรักระหว่างแม่กับลูกมันเป็นแบบนี้เองสินะ รักทั้งๆที่ยังไม่เคยเห็นหน้าเมื่อคิดมาถึงตรงนี้เพลงพิณก็ยกมือขึ้นมาลูบที่หน้าท้องอีกครั้งพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยความสดใส“พวกกูล่ะดีใจกับมึงมากจริงๆในที่สุดวันที่มึงรอคอยก็มาถึงสักที”เอวาที่นั่งมองรอยยิ้มของเพื่อนอยู่นานสองนานเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกมีความสุขไปกับเพลงพิณด้วยเพราะต่อจากนี้ไปครอบครัวของเพื่อนรักก็จะสมบูรณ์มากขึ้นเมื่อมีลูกน้อยเข้ามาเติมเต็ม“กูต้องขอบใจมึงทั้งสองคนมากๆเลยนะที่มาเยี่ยมและพากูส่งโรงพยาบาลจนทำให้ได้รับข่าวดีที่สุดในชีว
เช้าวันหนึ่ง“อุ๊ป”เพลงพิณลืมตาตื่นขึ้นจากความรู้สึกง่วงทันทีเมื่อความรู้สึกพะอืดพะอมอยากจะอาเจียนชวนให้เธอรีบผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทั้งๆที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือแต่เพลงพิณก็พาตัวเองเข้ามาโก่งคออาเจียนที่ชักโครกในห้องน้ำจนได้“อ้วก แหวะ”เป็นการอาเจียนที่ไม่มีสิ่งใดออกมานอกจากน้ำเหนียวขมฝืดที่ลำคอจนทำให้เพลงพิณรู้สึกพะอืดพะอมมากกว่าเดิม ใบหน้าเนียนสวยที่ไร้เครื่องสำอางในยามนี้แดงก่ำเพราะแรงอาเจียนที่ไม่มีสิ่งใดเล็ดรอดออกมาจากลำคอเลยแม้แต่น้อยนอกจากน้ำใสๆ ก่อนที่เธอจะฟุบใบหน้าลงบนฝาชักโครกด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อนิทราที่แสนหวานถูกปลุกขึ้นมาด้วยความผิดปกติของร่างกายที่เธอไม่รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในตอนนี้เพลงพิณค่อยๆพยุงร่างกายที่เต็มไปด้วยความอ่อนเพลียของตนเองให้ลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดคราบอาเจียน จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็พาตัวเองออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะเดินไปไม่ถึงเตียงนอนใหญ่ด้วยซ้ำ“เอวานัดกินข้าววันนี้ขอยกเลิกไปก่อนได้ไหมวะกูรู้สึกเวียนหัวยังไงไม่รู้”เมื่อเหลือบไปเห็นเข็มนาฬิกาบนผนังห้องหมุนวนไปจน
ความรักของเพลงพิณและเกรย์เต็มไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ทั้งคู่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาน้อยนักที่ทั้งสองคนจะมีเรื่องให้ต้องทะเลาะหรือผิดใจกัน เพราะเพลงพิณกับเกรย์ต่างเอาใจใส่ซึ่งกันและกันและคอยคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมแบ่งปันคำสอนของคุณย่าแก้มใสทั้งคู่นั้นปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเพลงพิณรู้ว่าสามีของเธอนั้นงานยุ่งมากในแต่ละวันซึ่งเธอก็เข้าใจและไม่เคยรู้สึกน้อยใจหรือเรียกร้องให้เขามีเวลาให้เธอเลยแม้แต่น้อย เพราะวันไหนที่เกรย์ว่างเขาก็มักจะชวนเธอไปออกเดทเหมือนตอนที่คบกันใหม่ๆซึ่งเพียงแค่นั้นก็เป็นการเติมเต็มความรู้สึกให้เพลงพิณรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากพอแล้ว“เฮ้อ กูคิดว่าเฮียเกรย์จะบินกลับมาทันวันงานรับปริญญาของมึงซะอีกที่ไหนได้กลับติดงานยาวจนถึงอาทิตย์หน้าเลย”เจ้าเอยบ่นขึ้นด้วยความรู้สึกน้อยใจระคนสงสารเพลงพิณที่ในวันนี้ที่พวกเธอประสบความสำเร็จทางการศึกษาแต่ข้างกายของเพื่อนสาวกลับไร้เงาของสามีสุดที่รัก ส่วนเพลงพิณเมื่อได้ยินคำบ่นของเพื่อนเธอก็ทำเพียงยิ้มน้อยๆเท่านั้น เพราะเธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจสามีเลยแม้แต่น้อยที่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอใ
หลังจากที่แต่งงานกับเกรย์ได้หนึ่งเดือนเพลงพิณก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่องซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเธอจึงมีเวลาไปเรียนทำอาหารกับพ่อสามีอย่างกองทัพ ที่ยอมเสียสละเวลามาสอนลูกสะใภ้ทำอาหารซึ่งเมนูส่วนใหญ่ที่กองทัพสอนให้เพลงพิณทำล้วนเป็นเมนูของโปรดของเกรย์ทั้งนั้น“วันนี้เดี๋ยวทำมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แวะเอาไปให้พี่เกรย์ที่โรงพยาบาลเลยนะหนูเพลง”เจ้าขาที่มาเป็นลูกมือช่วยเพลงพิณเตรียมเครื่องปรุงสำหรับเมนูมื้อเที่ยงวันนี้ซึ่งได้แก่เมนู ปูผัดผงกะหรี่ ต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อน ซุปไก่มันฝรั่ง ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำผึ้ง กุ้งผัดพริกเกลือ เอ่ยบอกลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนทำให้เพลงพิณที่กำลังปรุงรสอาหารตามที่กองทัพบอกรีบหันมาขานรับคำเจ้าขาทันที“รับทราบค่ะคุณแม่”เพลงพิณตอบกลับแม่สามีด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะปรุงรสชาติอาหารด้วยความคล่องแคล่วจนกระทั่งเมนูต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อนของเธอเสร็จเรียบร้อยส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งครัว ทำเอาอาจารย์กิตติมศักดิ์ที่ยืนอยู่ข้างๆลูกสะใภ้ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจที่เสน่ห์ปลายจวักของเพลงพิณนั้นพัฒนาขึ้นมาก“กะปริมาณเครื่องปรุงได้พอดีและปรุงรสชาติได้ก
“เหนื่อยไหมคะ”เกรย์เอ่ยถามเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพราะพิธีการตั้งแต่ช่วงเช้ามาจนถึงช่วงเย็นนั้นมีเยอะมากซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็แทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามีขั้นตอนใดบ้าง เมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยจากสามีเพลงพิณก็รู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อยที่เขานึกห่วงเธอทั้งๆที่ตัวเขาเองก็เหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าสวยหวานละมุนก็ส่ายหน้าไปมาช้าๆก่อนที่เพลงพิณจะขยับเข้าไปใกล้ๆเขาและเอนใบหน้าซบลงบนอกแกร่งของเกรย์อย่างรักใคร่“ไม่เหนื่อยเลยสักนิดค่ะเพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของเราสองคนเพลงดีใจมากจนไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด”คำหวานของเพลงพิณทำให้เกรย์ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะค่อยๆดึงเพลงพิณที่กำลังซบใบหน้าอยู่บนอกแกร่งให้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบแววตาที่หวานล้ำเต็มไปด้วยความเสน่หาในตัวเธอของเขา“เฮียก็ตื่นเต้นจนไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันค่ะให้แต่งงานกับเพลงใหม่อีกสิบรอบยังก็ยังไหว”คำพูดของสามีหมาดๆทำให้เพลงพิณถึงกับหลุดขำพรืดออกมาก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นโอบรอบคอของเกรย์เอาไว้หลวมๆพร้อมกับขยับเข้าไปแนบชิดกับเกรย์มากยิ่งขึ้นอย่างต้องยั่วยวนสามีที่ตอนนี้กำลังมองดวงหน้างามของภรรยาตัวน้อยด
“Stop Stop พอแล้วเหนื่อยแล้วไม่ไหวแล้วครับ”คนที่เต้นจนเหนื่อยหอบกว่าใครขึ้นยกมือขึ้นห้ามพี่ชายฝาแฝดกับพี่เขยที่ตอนแรกยังเต้นด้วยท่าทางแปลกๆแต่ดูเหมือนตอนนี้ทั้งสองคนจะพัฒนาขึ้นท่าเต้นจึงดูสมูทชวนให้สาวๆที่อยู่ด้านหลังจ้องมองด้วยความแววตาเคลิบเคลิ้ม ซึ่งพอน้องชายคนเล็กบอกแบบนั้นออกมาเกรย์กับพันไมล์ก็หยุดการเคลื่อนไหวทันทีก่อนที่เขาจะรับขวดน้ำจากลูกน้องมาดื่มแก้กระหายด้วยความเหน็ดเหนื่อยไม่ต่างกับน้องชาย“หึ เต้นแค่นี้ทำเป็นเหนื่อยทีออกแรงทำเรื่องอื่นนี่ยันหว่าง”หลังจากที่ดื่มน้ำแก้กระหายเรียบร้อยแล้วพันไมล์ก็อดไม่ได้ที่จะค่อนแขะน้องเมียที่หันมามองพันไมล์ตาเขียวปั๊ดด้วยความหมั่นไส้แต่สุดท้ายแล้วกรรฐ์ก็ยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสและยื่นซองแดงให้เจ้าเอยกับเอวาที่พากันยิ้มหวานรับซองด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ“เจ้าเอยกับเอวาต้องขอบคุณเฮียเกรย์มากนะคะที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถ้าเพลงได้เห็นคลิปนี้และรู้ว่าเฮียพยายามทำเพื่อเพลงมากแค่ไหนเพลงต้องดีใจมากแน่นอนค่ะ”เจ้าเอยเอ่ยขอบคุณเกรย์จากใจจริงก่อนที่เธอกับเอวาจะยอมหลีกทางให้ว่าที่เจ้าบ่าวเดินผ่านไปสู่ประตูเงินประตูทองด่านที่สองซึ่งด่านนี้เป็นห
คืนก่อนวันแต่งงานเพลงพิณเงยหน้าขึ้นมองแสงจันทร์นวลผ่องที่สาดส่องมายังระเบียงห้องนอนของเธอด้วยรอยยิ้มในยามนี้เธอมีความสุขจนแทบไม่สามารถที่จะหุบยิ้มได้เลยแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาที่เธอต้องรีบเข้านอนแล้วก็ตาม ภาพความทรงจำตั้งแต่วันแรกที่เธอได้พบกับเกรย์ผู้ชายที่เธอเลือกจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับเขาจนแก่เฒ่าค่อยๆผุดขึ้นมาในหัวทีละน้อยใบหน้าหล่อเหลาแต่ทว่าเย็นชาเวลาที่เขาแย้มยิ้มช่างมีเสน่ห์ชวนมองจนทำให้เพลงพิณไม่อาจที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว คำพูดที่ได้ยินในครั้งแรกดูแข็งกระด้างจนเธอมองว่าเขาช่างเป็นคนหยาบคายเสียจริงแต่เมื่อเธอได้รู้จักเขาอย่างจริงๆจังๆนานวันเข้าคำพูดของเขากลับค่อยๆอ่อนโยนขึ้นคล้ายไม่รู้ตัวแต่เพลงพิณกลับชื่นชอบน้ำเสียงที่แสนอบอุ่นละมุนของเขาเป็นที่สุด“ทำหน้าเคลิ้มแบบนี้หนูเพลงกำลังคิดถึงเฮียอยู่เหรอคะ”“เฮียรู้ได้ยังไงคะ”เมื่อเผลอตอบคำถามออกไปเพลงพิณก็ถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อใบหน้าของคนรักอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงแค่คืบ อารามตกใจทำให้เพลงพิณเตรียมที่จะขยับถอยหลังแต่เกรย์กลับใช้มือใหญ่รวบเอวบางของเธอเข้ามาในอ้