มือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์ค่อยๆหยุดความเคลื่อนไหวพร้อมกับดวงตาคู่งามที่ปิดลงช้าๆและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด ส่วนคนที่แกล้งหลับกลับค่อยๆลืมตาพร้อมกับหันมามองใบหน้าเนียนสวยที่ตอนนี้ฟุบหลับบนโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อยร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนหลับอยู่ก่อนที่เขาจะค่อยๆช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกและเดินหายเข้าไปในห้องนอนของเพลงพิณสักพักใหญ่ๆจึงกลับออกมานั่งแทนที่เธอ เกรย์หยิบกระดาษที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่ใช้ทำรายงานขึ้นมาอ่านคร่าวๆเพื่อศึกษาเนื้อหาของรายงานที่เพลงพิณกำลังทำอยู่จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักเกรย์ก็เข้าใจเนื้อหาของรายงานทั้งหมดสองมือค่อยๆวางลงบนแป้นพิมพ์และพิมพ์งานต่อส่วนที่เหลือให้เพลงพิณอย่างคล่องแคล่ว โดยที่เนื้อหาทั้งหมดนั้นออกมาจากสมองของเกรย์ล้วนๆและเกรย์ยังได้ปรับแก้เนื้อหาบางจุดของเพลงพิณให้มีความสมบูรณ์อีกด้วยเวลาผ่านไปเรื่อยๆจากสองนาฬิกาล่วงเลยเข้าสู่สามนาฬิกาและผ่านมาจนเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลขหกบ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเช้ารายงานของเพลงพิณก็เสร็จสมบูรณ์ เกรย์จัดการเก็บเอกสารทุกอย่างจัดให้เป็นระเบียบก่อนที่เขาจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆมาตวัดต
ใบหน้าสวยหวานค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายกับข้อความที่เกรย์ตอบกลับมาหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกับคำว่า แฟน ที่ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะไม่ใช่แฟนกันจริงๆก็ตามแต่ทุกครั้งที่เขาเผลอหลุดปากพูดหรือตอบกลับข้อความของเธอมาด้วยคำนี้มันทำให้เพลงพิณมีความสุขทุกครั้งความสุขที่เธอจะเก็บเอาไว้ในใจตลอดไปเก็บเป็นความทรงจำที่สวยงามว่าครั้งหนึ่งเธอได้รู้จักกับเขาผู้ชายที่แสนธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถทำให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างง่ายดาย ต่อจากนี้ไปไม่ว่าปลายทางข้างหน้าจะจบลงเช่นไรเธอจะไม่เสียใจเลยที่ได้แอบรักเขาข้างเดียวแบบนี้ แต่ถ้าหากกามเทพนั้นมีจริงเธออยากขอพรให้การแอบรักเขาของเธอในครั้งนี้สมหวังด้วยเถอะ“พี่เกรย์ไม่อยู่กินบัวลอยไข่หวานฝีมือของแม่ก่อนเหรอคะ”เจ้าขาเอ่ยถามลูกชายที่ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลองสบายๆอย่างเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกส่วนคนที่ถูกถามได้แต่ส่ายหน้าไปมาน้อยๆในใจก็นึกห่วงความรู้สึกของมารดาที่อาจจะน้อยใจที่เขาไม่ยอมอยู่กินขนมหวานที่มารดาตั้งใจทำให้เขา แต่อีกใจก็นึกห่วงเพลงพิณที่ต้องนั่งแท็กซี่กลับคอนโดคนเดียวเพราะเมื่อเช้าเอวาเป็นคนแวะไปส่
คอนโด K“เสื้อผ้าคุณเปียกหมดเลย เดี๋ยวเพลงหาชุดมาให้เปลี่ยนก่อนนะคะแล้วคุณค่อยกลับ”“เอ่อ ไม่เป็นไร...”“ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะ ขืนขับรถกลับบ้านทั้งๆที่ตัวเปียกแบบนี้ได้เป็นปอดบวมตายกันพอดี อีกอย่างเราสองคนตากฝนนานขนาดนั้นคืนนี้ต้องกินยาแก้ไข้กันไว้ก่อนเลยนะคะป่วยขึ้นมาเดี๋ยวจะยุ่ง”“ที่พูดนี่เป็นห่วงใช่ไหมครับ”“ไม่ห่วงได้ยังไงคะแฟนเพลงทั้งคน”คำตอบของเพลงพิณทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเกรย์ถึงกับเผลอยิ้มออกมาน้อยๆอย่างรู้สึกดีเมื่อเธอหลุดพูดออกมาว่าเป็นห่วงเขาในฐานะแฟน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่เพียงแฟนในนามแต่พอได้ยินคำว่าห่วงใยจากเธอหัวใจของเขาที่เคยเย็นชากลับเต้นแรงจนตัวเขาเองยังตกใจ ส่วนคนที่เผลอหลุดพูดคำว่าห่วงใยที่มาจากความรู้สึกในใจก็ได้แต่เขินจนแก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนที่เธอจะพูดแก้ตัวเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจที่นับวันก็ยิ่งเผยออกมาให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นชอบเขามากแค่ไหน“เอ่อ คือ เพลงหมายความว่าก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วนี่คะในเมื่อคุณอุตส่าห์ไปรับเพลงมาส่งที่ห้อง เดี๋ยวคุณรอเพลงแป๊บหนึ่งนะคะเพลงขอไปเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดมาให้คุณเปลี่ยนก่อน”จบประโยคเพลงพิณก็หันหน้าที่แดงราวกับลูกตำลึ
มหาวิทยาลัย Sภาพร่างสูงที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ๊กและมัดกล้ามทำให้เพลงพิณที่กำลังนั่งเหม่อมองไปข้างหน้าเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวกับภาพที่เธอไม่สามารถสลัดมันออกไปจากหัวได้ทำไมหุ่นของเขาถึงได้น่าลูบไล้ขนาดนั้นกันนะ? ท่าทางที่ดูเหม่อลอยราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ทำให้เอวากับเจ้าเอยที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัยระคนแปลกใจกับท่าที่แปลกๆของเพลงพิณ“มึงเป็นอะไรของมึงวะเพลงทำตัวแปลกๆมาสองวันล่ะ”“อืม น่ากินมาก”“ห๊ะ มึงว่าอะไรน่ากินนะ”คำถามของเอวาที่ระดับความดังไม่เบาเลยทำให้สติที่กำลังกระเจิดกระเจิงไปไกลของเพลงพิณกลับคืนมาในทันทีใบหน้าสวยหวานเลิ่กลั่กด้วยความตกใจกับคำถามของเพื่อนสนิทที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างรอคอยคำตอบเมื่อเธอเผลอหลุดคำพูดแปลกๆออกมา“สรุปที่น่ากินมากของมึงอะคืออะไร พวกกูงงไปหมดแล้วเนี่ย”เจ้าเอยถามย้ำเพลงพิณอีกครั้งอย่างรอคอยคำตอบเช่นกันส่วนคนที่ถูกถามได้แต่เงียบอย่างไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะสิ่งที่เธอบอกว่าน่ากินก็คือหุ่นที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ๊กของเกรย์อย่างไรเล่า คิดมาถึงตรงนี้แก้มเนียนก็ค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินนี่เธอกลายเป็นคนทะลึ่งตึง
Smokin’Pub “ห๊ะ เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะเพลง คะ คุณเกรย์น่ากิน นี่กูไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหมอีเอยมึงตบหน้ากูที”เพี๊ยะ!!ฝ่ามือของเจ้าเอยฟาดลงบนแก้มของเอวาทันทีตามคำขอของเพื่อนสาวที่ถึงกับหน้าหันเบาๆเมื่อเพื่อนเล่นฟาดลงมาเต็มแรงอย่างไม่ยั้งมือ“โอ๊ย เจ้าเอยมึงตบเบาๆไม่เป็นไงว่ะฟาดซะแรงเชียว พรุ่งนี้ถ้าตื่นขึ้นมาหน้ากูเป็นรอยมึงต้องรับผิดชอบด้วยการเลี้ยงข้าวกูหนึ่งอาทิตย์เลยนะ”เอวายกมือขึ้นกุมที่ข้างแก้มด้วยความเจ็บเมื่อเจ้าเอยจัดให้ตามคำขอของเธอด้วยการฟาดฝ่ามือลงมาบนแก้มข้างซ้ายของเธอเต็มแรงพร้อมกับคาดโทษเพื่อนสาวเอาไว้ล่วงหน้าเพราะเธอมั่นใจว่าหน้าของเธอต้องเป็นรอยแดงแน่ๆ“ไม่ดีไงมึงจะได้รู้ว่าที่มึงได้ยินคือเรื่องจริง เพลงพิณแม่ชีหวงซิงของแก๊งเราเขาบอกว่าคุณเกรย์น่ากินแหละ นี่มึงเลิกตายด้านแล้วใช่ปะเพลง”เจ้าเอยหันมามองเพลงพิณที่ตอนนี้หน้าแดงแล้วแดงอีกอย่างล้อเลียนเพื่อนสาวที่วันนี้ดูเหมือนจะเริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่จำศีลเป็นแม่ชีหวงซิงมาจนอายุ 21 ปี เพลงพิณที่เขินจนหน้าแทบไหม้ได้แต่ยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมากระดกทีเดียวจนหมดแก้วก่อนที่เธอจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ที่
เวลาที่เดินผ่านไปเรื่อยๆมาพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เริ่มเต้นช้าลงไปด้วยเมื่อความสัมพันธ์ของเธอกับเกรย์ใกล้จะสิ้นสุดลงตามสัญญาแล้ว จังหวะหัวใจที่เคยเต้นแรงกลับหน่วงลงทุกขณะแต่ใบหน้าของเธอกลับแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเสมอเวลาที่ได้พบเขาเพราะเพลงพิณอยากให้เขาจดจำเธอคนนี้ที่มีรอยยิ้มที่สดใสให้เขาเสมอ“ยิ้มบ้างก็ได้นะเว้ยเพลง หลายวันมานี่หน้ามึงเหมือนคนอกหักเข้าไปทุกทีไหนอาการมันเป็นยังไงเล่าให้หมอเอวาคนนี้ฟังหน่อยสิ”เอวาขยับเข้ามาใกล้ๆเพลงพิณอย่างรอฟังคำบอกเล่าของเพื่อนที่มีสีหน้าหม่นเศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพลงพิณค่อยๆเอนศีรษะซบลงบนไหล่เอวาด้วยความรู้สึกเจ็บที่หัวใจยิ่งคิดว่าอีกไม่กี่วันเธอกับเขาก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่เคยรู้จักกันกระบอกตาก็รู้สึกร้อนผ่าวจนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่“กูว่ากูไม่ได้แค่ชอบเขาแล้วว่ะเอวา แต่กูรักเขาไปแล้วต่างหาก”คำตอบของเพลงพิณทำให้เอวาที่นั่งนิ่งๆให้เพื่อนซบไหล่ถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อคำตอบของเพลงพิณนั้นไม่ได้ผิดไปจากสิ่งที่เธอกับเจ้าเอยคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกที่เพลงพิณจะตกหลุมรักเกรย์ได้ง่ายดายเช่นนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่ร
รถมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่แล่นไปตามท้องถนนในมหาวิทยาลัยด้วยความเร็วที่พอดีและเต็มไปด้วยความระมัดระวังเพื่อให้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังรู้สึกปลอดภัยและวางใจ ลมเย็นๆพัดมาต้องใบหน้าเนียนที่หลับตาลงช้าๆและสูดเอาความสดชื่นเข้าไปเต็มปอดราวกับว่ามันคือความสุขอย่างหนึ่งที่เธอต้องรีบไขว่คว้าเอาไว้ดวงตากลมโตจ้องมองแผ่นหลังกว้างของคนที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ด้วยแววตาที่ทอแสงเป็นประกายยามที่แสงแดดยามเย็นอาบไล้ใบหน้านวลให้สว่างสดใส เพลงพิณค่อยๆซบใบหน้าลงแผ่นหลังกว้างของเกรย์พร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวของเขาที่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิดรอยยิ้มพลันผุดขึ้นในหน้าพร้อมกับมือที่กระชับกอดเอวของเขาให้แน่นขึ้นราวกับว่าหากเธอไม่รีบกอดเขาให้แนบแน่นในวันนี้วันหน้าเธออาจจะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว มอเตอร์ไซค์แล่นมาสักพักก็หยุดลงหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างๆมหาวิทยาลัยของเธอก่อนที่เกรย์จะดับเครื่องและเพลงพิณกระโดดลงจากรถ“ร้านก๋วยเตี๋ยวป้ามะลินี่น้า คุณเคยมาทานที่นี่ด้วยเหรอคะ?”เพลงพิณถามเกรย์ด้วยความแปลกใจสายตาก็มองเข้าไปในร้านที่เต็มไปด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัยของเธอและน
เหลือเวลาแค่เพียงหนึ่งอาทิตย์เกรย์ก็ต้องเข้ารับการสืบทอดตำแหน่งประธานโรงพยาบาล N อย่างเต็มตัวทำให้หลังจากที่แยกกับเพลงพิณในวันนั้นเขาก็ต้องจัดการเคลียร์ธุรกิจสีเทาของตัวเองให้เรียบร้อยจนเขาแทบไม่มีเวลาตอบข้อความของเธอ จะมีเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้นที่เขาสามารถตอบกลับข้อความของเธอได้ซึ่งก็เป็นเพียงคำทักทายสั้นๆที่ทำให้ผู้รับถึงกับซึมจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอนเมื่ออยู่ๆเขาก็เริ่มห่างหายไปจากชีวิตของเธอทีละนิด และวันนี้อยู่ๆเกรย์ก็ถูกแก้มใสเรียกตัวให้มาพบที่คฤหาสน์อย่างกะทันหันเนื่องจากเธอต้องการให้เกรย์ออกงานสังคมในวันนี้แทนเธอที่เบื่อหน่ายการพบปะสังสรรค์กับผู้คน“ย่าแก้มครับ นี่ไม่สบายจริงๆหรือแกล้งไม่สบายกันแน่ครับ”เกรย์ถามผู้เป็นย่าที่กำลังนั่งกินผลไม้พร้อมกับดูซีรีส์เรื่องโปรดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างที่เกรย์ไม่เห็นว่าผู้เป็นย่าจะมีอาการไม่สบายตามที่บิดาบอกเขาเลยสักนิด คนป่วยที่ไหนจะนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาและดูซีรีส์ด้วยรอยยิ้มเพ้อฝันแบบนี้“ป่วยการเมืองไม่ได้ไงย่าแก้มขี้เกียจไปออกงานสังคมนี่นา ให้ออกงานสังคมที่มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายย่าแก้มสู้ไปนั่งดูเขาต่อยมวยยังสนุกกว่าตั้งเยอ