ติ้งเสียงข้อความที่เด้งเข้ามาในมือถือทำให้มุมปากของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าคมคลยคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี มือเรียวยาวดุจแท่งเทียนยื่นไปหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามาอ่านอย่างรวดเร็วราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดทั้งวัน “เหนื่อยจังเลย รายงานท่วมหัวใกล้จะเอาตัวไม่รอดแล้วค่า”รูปภาพของใครบางคนที่ส่งมาให้เกรย์นั้นดูแปลกตาไม่น้อยทรงผมที่เคยยาวสลวยมาตอนนี้ถูกรวบขึ้นอย่างเรียบง่ายใบหน้าที่เคยแต่งแต้มอย่างสวยงามกลับไร้สีสันแต่ดูน่ารักเสมอในสายตาของเขาเอ๊ะ? น่ารักอย่างนั้นเหรอตรงหน้าของเธอเต็มไปด้วยเอกสารมากมายแต่ใบหน้าที่สวมแว่นตาหนาเตอะของเธอกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มผิดกับข้อความที่เธอส่งมาหาเขาโดยสิ้นเชิงอยากอ้อนขอกำลังใจ? หรือ อยากบ่นให้เขาฟัง?สองคำถามแวบเข้ามาในหัวก่อนที่เขาจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ค่อยๆกว้างขึ้นแต่พอเขาจะกดส่งนิ้วเรียวกลับชะงักไปเล็กน้อย เมื่อตระหนักได้ว่าเขาเป็นเพียงแค่แฟนในนามเท่านั้นไม่ใช่แฟนตัวจริงของเธอสักหน่อยเพราะฉะนั้นข้อความหวานแหววที่เคยเห็นผ่านตามาจากพี่กูจึงถูกลบออกอย่างรวดเร็ว “สู้ๆนะครับ”เกรย์กดส่งข้อความที่พิมพ์ขึ
“หึ เหนือเจ้านายของพวกมึงก็คือกู เกรย์ กันต์ณทีป์ คนนี้ยังไงล่ะ”จบประโยคคิมหันต์ก็ได้แต่ขยับเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังบดินทร์ด้วยความหวาดกลัวเพราะแววตาของเกรย์ในยามที่จ้องมองเขานั้นมันช่างเย็นยะเยือกจนเขารู้สึกขนลุกไปทั้งตัว จากที่เคยคิดว่าคนตรงหน้าเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรสู้เขาได้เลยมาถึงวันนี้คิมหันต์กระจ่างแก่ใจแล้วที่ผ่านมาเขาพยายามให้ลูกน้องของบิดาตามสืบประวัติของเกรย์ทุกทางแต่กลับไม่พบข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เลยเพราะเกรย์ไม่ได้ทิ้งข้อมูลเอาไว้ให้ใครตามสืบหาตัวเขาได้ง่ายๆนั่นเอง คิมหันต์รู้แค่เพียงว่าผู้ชายคนนี้ชื่อเกรย์เพิ่งเข้ามาพาร์ทไทม์เป็นเด็กชงเหล้าที่นี่ได้เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนข้อมูลของคนตรงหน้ามีเพียงเท่านี้จริงๆ“ที่ผ่านมามึงอาจจะทำให้ใครต่อใครหายไปจากโลกนี้ได้เงียบๆหลายคน แต่กูไม่ใช่คนที่จะหายไปแบบนั้นแน่นอน”“หึ อย่าเพิ่งมั่นใจไปหน่อยเลยวันนี้อาจจะไม่หายไปแต่หลังจากนี้มึงอาจจะตายอยู่แถวพงหญ้าที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ก็ได้”คำพูดที่ราวกับกำลังขู่ให้เกรย์รู้สึกกลัวทำให้ผู้ชายที่ผ่านความเป็นความตายมานักต่อนักได้แต่หัวเราะด้วยความขบขันกับคำพูดของบดินทร์ ท
มือที่เคาะลงบนแป้นพิมพ์ค่อยๆหยุดความเคลื่อนไหวพร้อมกับดวงตาคู่งามที่ปิดลงช้าๆและเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด ส่วนคนที่แกล้งหลับกลับค่อยๆลืมตาพร้อมกับหันมามองใบหน้าเนียนสวยที่ตอนนี้ฟุบหลับบนโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อยร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างบางที่นอนหลับอยู่ก่อนที่เขาจะค่อยๆช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกและเดินหายเข้าไปในห้องนอนของเพลงพิณสักพักใหญ่ๆจึงกลับออกมานั่งแทนที่เธอ เกรย์หยิบกระดาษที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่ใช้ทำรายงานขึ้นมาอ่านคร่าวๆเพื่อศึกษาเนื้อหาของรายงานที่เพลงพิณกำลังทำอยู่จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักเกรย์ก็เข้าใจเนื้อหาของรายงานทั้งหมดสองมือค่อยๆวางลงบนแป้นพิมพ์และพิมพ์งานต่อส่วนที่เหลือให้เพลงพิณอย่างคล่องแคล่ว โดยที่เนื้อหาทั้งหมดนั้นออกมาจากสมองของเกรย์ล้วนๆและเกรย์ยังได้ปรับแก้เนื้อหาบางจุดของเพลงพิณให้มีความสมบูรณ์อีกด้วยเวลาผ่านไปเรื่อยๆจากสองนาฬิกาล่วงเลยเข้าสู่สามนาฬิกาและผ่านมาจนเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่เลขหกบ่งบอกว่าขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเช้ารายงานของเพลงพิณก็เสร็จสมบูรณ์ เกรย์จัดการเก็บเอกสารทุกอย่างจัดให้เป็นระเบียบก่อนที่เขาจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆมาตวัดต
ใบหน้าสวยหวานค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายกับข้อความที่เกรย์ตอบกลับมาหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกับคำว่า แฟน ที่ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะไม่ใช่แฟนกันจริงๆก็ตามแต่ทุกครั้งที่เขาเผลอหลุดปากพูดหรือตอบกลับข้อความของเธอมาด้วยคำนี้มันทำให้เพลงพิณมีความสุขทุกครั้งความสุขที่เธอจะเก็บเอาไว้ในใจตลอดไปเก็บเป็นความทรงจำที่สวยงามว่าครั้งหนึ่งเธอได้รู้จักกับเขาผู้ชายที่แสนธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถทำให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างง่ายดาย ต่อจากนี้ไปไม่ว่าปลายทางข้างหน้าจะจบลงเช่นไรเธอจะไม่เสียใจเลยที่ได้แอบรักเขาข้างเดียวแบบนี้ แต่ถ้าหากกามเทพนั้นมีจริงเธออยากขอพรให้การแอบรักเขาของเธอในครั้งนี้สมหวังด้วยเถอะ“พี่เกรย์ไม่อยู่กินบัวลอยไข่หวานฝีมือของแม่ก่อนเหรอคะ”เจ้าขาเอ่ยถามลูกชายที่ออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลองสบายๆอย่างเตรียมพร้อมที่จะออกไปข้างนอกส่วนคนที่ถูกถามได้แต่ส่ายหน้าไปมาน้อยๆในใจก็นึกห่วงความรู้สึกของมารดาที่อาจจะน้อยใจที่เขาไม่ยอมอยู่กินขนมหวานที่มารดาตั้งใจทำให้เขา แต่อีกใจก็นึกห่วงเพลงพิณที่ต้องนั่งแท็กซี่กลับคอนโดคนเดียวเพราะเมื่อเช้าเอวาเป็นคนแวะไปส่
คอนโด K“เสื้อผ้าคุณเปียกหมดเลย เดี๋ยวเพลงหาชุดมาให้เปลี่ยนก่อนนะคะแล้วคุณค่อยกลับ”“เอ่อ ไม่เป็นไร...”“ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะ ขืนขับรถกลับบ้านทั้งๆที่ตัวเปียกแบบนี้ได้เป็นปอดบวมตายกันพอดี อีกอย่างเราสองคนตากฝนนานขนาดนั้นคืนนี้ต้องกินยาแก้ไข้กันไว้ก่อนเลยนะคะป่วยขึ้นมาเดี๋ยวจะยุ่ง”“ที่พูดนี่เป็นห่วงใช่ไหมครับ”“ไม่ห่วงได้ยังไงคะแฟนเพลงทั้งคน”คำตอบของเพลงพิณทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเกรย์ถึงกับเผลอยิ้มออกมาน้อยๆอย่างรู้สึกดีเมื่อเธอหลุดพูดออกมาว่าเป็นห่วงเขาในฐานะแฟน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่เพียงแฟนในนามแต่พอได้ยินคำว่าห่วงใยจากเธอหัวใจของเขาที่เคยเย็นชากลับเต้นแรงจนตัวเขาเองยังตกใจ ส่วนคนที่เผลอหลุดพูดคำว่าห่วงใยที่มาจากความรู้สึกในใจก็ได้แต่เขินจนแก้มเนียนขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนที่เธอจะพูดแก้ตัวเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจที่นับวันก็ยิ่งเผยออกมาให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นชอบเขามากแค่ไหน“เอ่อ คือ เพลงหมายความว่าก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วนี่คะในเมื่อคุณอุตส่าห์ไปรับเพลงมาส่งที่ห้อง เดี๋ยวคุณรอเพลงแป๊บหนึ่งนะคะเพลงขอไปเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดมาให้คุณเปลี่ยนก่อน”จบประโยคเพลงพิณก็หันหน้าที่แดงราวกับลูกตำลึ
มหาวิทยาลัย Sภาพร่างสูงที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ๊กและมัดกล้ามทำให้เพลงพิณที่กำลังนั่งเหม่อมองไปข้างหน้าเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวกับภาพที่เธอไม่สามารถสลัดมันออกไปจากหัวได้ทำไมหุ่นของเขาถึงได้น่าลูบไล้ขนาดนั้นกันนะ? ท่าทางที่ดูเหม่อลอยราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ทำให้เอวากับเจ้าเอยที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัยระคนแปลกใจกับท่าที่แปลกๆของเพลงพิณ“มึงเป็นอะไรของมึงวะเพลงทำตัวแปลกๆมาสองวันล่ะ”“อืม น่ากินมาก”“ห๊ะ มึงว่าอะไรน่ากินนะ”คำถามของเอวาที่ระดับความดังไม่เบาเลยทำให้สติที่กำลังกระเจิดกระเจิงไปไกลของเพลงพิณกลับคืนมาในทันทีใบหน้าสวยหวานเลิ่กลั่กด้วยความตกใจกับคำถามของเพื่อนสนิทที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างรอคอยคำตอบเมื่อเธอเผลอหลุดคำพูดแปลกๆออกมา“สรุปที่น่ากินมากของมึงอะคืออะไร พวกกูงงไปหมดแล้วเนี่ย”เจ้าเอยถามย้ำเพลงพิณอีกครั้งอย่างรอคอยคำตอบเช่นกันส่วนคนที่ถูกถามได้แต่เงียบอย่างไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะสิ่งที่เธอบอกว่าน่ากินก็คือหุ่นที่เต็มไปด้วยซิกซ์แพ๊กของเกรย์อย่างไรเล่า คิดมาถึงตรงนี้แก้มเนียนก็ค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินนี่เธอกลายเป็นคนทะลึ่งตึง
Smokin’Pub “ห๊ะ เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะเพลง คะ คุณเกรย์น่ากิน นี่กูไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหมอีเอยมึงตบหน้ากูที”เพี๊ยะ!!ฝ่ามือของเจ้าเอยฟาดลงบนแก้มของเอวาทันทีตามคำขอของเพื่อนสาวที่ถึงกับหน้าหันเบาๆเมื่อเพื่อนเล่นฟาดลงมาเต็มแรงอย่างไม่ยั้งมือ“โอ๊ย เจ้าเอยมึงตบเบาๆไม่เป็นไงว่ะฟาดซะแรงเชียว พรุ่งนี้ถ้าตื่นขึ้นมาหน้ากูเป็นรอยมึงต้องรับผิดชอบด้วยการเลี้ยงข้าวกูหนึ่งอาทิตย์เลยนะ”เอวายกมือขึ้นกุมที่ข้างแก้มด้วยความเจ็บเมื่อเจ้าเอยจัดให้ตามคำขอของเธอด้วยการฟาดฝ่ามือลงมาบนแก้มข้างซ้ายของเธอเต็มแรงพร้อมกับคาดโทษเพื่อนสาวเอาไว้ล่วงหน้าเพราะเธอมั่นใจว่าหน้าของเธอต้องเป็นรอยแดงแน่ๆ“ไม่ดีไงมึงจะได้รู้ว่าที่มึงได้ยินคือเรื่องจริง เพลงพิณแม่ชีหวงซิงของแก๊งเราเขาบอกว่าคุณเกรย์น่ากินแหละ นี่มึงเลิกตายด้านแล้วใช่ปะเพลง”เจ้าเอยหันมามองเพลงพิณที่ตอนนี้หน้าแดงแล้วแดงอีกอย่างล้อเลียนเพื่อนสาวที่วันนี้ดูเหมือนจะเริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่จำศีลเป็นแม่ชีหวงซิงมาจนอายุ 21 ปี เพลงพิณที่เขินจนหน้าแทบไหม้ได้แต่ยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมากระดกทีเดียวจนหมดแก้วก่อนที่เธอจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ที่
เวลาที่เดินผ่านไปเรื่อยๆมาพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เริ่มเต้นช้าลงไปด้วยเมื่อความสัมพันธ์ของเธอกับเกรย์ใกล้จะสิ้นสุดลงตามสัญญาแล้ว จังหวะหัวใจที่เคยเต้นแรงกลับหน่วงลงทุกขณะแต่ใบหน้าของเธอกลับแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเสมอเวลาที่ได้พบเขาเพราะเพลงพิณอยากให้เขาจดจำเธอคนนี้ที่มีรอยยิ้มที่สดใสให้เขาเสมอ“ยิ้มบ้างก็ได้นะเว้ยเพลง หลายวันมานี่หน้ามึงเหมือนคนอกหักเข้าไปทุกทีไหนอาการมันเป็นยังไงเล่าให้หมอเอวาคนนี้ฟังหน่อยสิ”เอวาขยับเข้ามาใกล้ๆเพลงพิณอย่างรอฟังคำบอกเล่าของเพื่อนที่มีสีหน้าหม่นเศร้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพลงพิณค่อยๆเอนศีรษะซบลงบนไหล่เอวาด้วยความรู้สึกเจ็บที่หัวใจยิ่งคิดว่าอีกไม่กี่วันเธอกับเขาก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่เคยรู้จักกันกระบอกตาก็รู้สึกร้อนผ่าวจนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่“กูว่ากูไม่ได้แค่ชอบเขาแล้วว่ะเอวา แต่กูรักเขาไปแล้วต่างหาก”คำตอบของเพลงพิณทำให้เอวาที่นั่งนิ่งๆให้เพื่อนซบไหล่ถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อคำตอบของเพลงพิณนั้นไม่ได้ผิดไปจากสิ่งที่เธอกับเจ้าเอยคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกที่เพลงพิณจะตกหลุมรักเกรย์ได้ง่ายดายเช่นนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่ร