ประเทศไทย
แว่นตาสีดำค่อยๆ ถูกดึงออกจากใบหน้าหล่อเหลาก่อนที่เกรย์ กันต์ณทีป์ จะยืนมองเจดีย์ที่บรรจุอัฐิของบุคคลสำคัญทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความหม่นเศร้า รูปถ่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคุณทวดทั้งสองทำเอาผู้ชายที่ยิ้มยากอย่างเกรย์ค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมาด้วยความคิดถึง
“คุณทวดครับ”
เสียงเล็กๆ ร้องเรียกชายชราที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานด้วยความขะมักเขม้นก่อนที่คุณทวดของเด็กชายเกรย์จะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้เหลนชายตัวน้อยอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน
“คิดถึงจังเลยหลานทวด”
เสียงนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเกรย์ก่อนที่น้ำตาลูกผู้ชายจะไหลออกมาด้วยความคิดถึงคุณทวดทั้งสองที่ถึงแม้คุณทวดที่รักจะจากไปแล้วแต่รอยยิ้มของท่านยังคงงดงามอยู่ในใจของเขาเสมอ เขายังจำได้ดีในวันที่คุณทวดที่รักจากไปใบหน้าของท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพึมพำบอกเขากับทุกคนว่าคุณทวดกฤษฎิ์มารับท่านแล้ว ก่อนที่ท่านจะสิ้นลมจากไปอย่างสงบท่ามกลางความเศร้าเสียใจของลูกหลานพิสิฐกุลวัตรดิลก
“น้องเกรย์กลับมาแล้วนะครับ”
เสียงนุ่มทุ้มบอกคุณทวดทั้งสองก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพบุคคลที่รักยิ่งทั้งสองคนที่บัดนี้ลาลับจากไปทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่ยังคงสวยงามเสมอ ร่างสูงค่อยๆ หันหลังเดินจากไปท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านมาต้องร่างเบาๆ ราวกับว่าคุณทวดทั้งสองรับรู้ถึงการมาของเหลนชายตัวน้อยที่บัดนี้เติบใหญ่และเดินตามรอยคุณปู่อย่างที่กฤษฎิ์เคยคาดหวังเอาไว้
Smokin’ Pub
“นี่มึงเสียใจที่โดนพี่คิมบอกเลิกขนาดนั้นเลยเหรอวะเพลง”
เจ้าเอยถามเพลงพิณด้วยความสงสัยเพราะตั้งแต่ที่พวกเธอมาถึงผับจนตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วเพื่อนรักของเธออย่างเพลงพิณยังคงไม่หยุดดื่ม ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเพลงพิณเป็นคนที่ดื่มแค่พอเป็นพิธีเท่านั้นเท่านั้นเพราะเพื่อนของเธอคนนี้ไม่ชอบการดื่มแอลกอฮอล์ที่รสชาติขมจนบาดคอสักเท่าไหร่
หากแต่วันนี้กลับแปลกไปจากทุกวันเพราะเพลงพิณยกแก้วขึ้นดื่มครั้งแล้วครั้งเล่าจนเธอกับเอวาหันมามองหน้ากันพร้อมกับพากันตั้งข้อสงสัย ว่าเพลงพิณอาจจะกำลังเสียใจที่โดนพี่คิมหันต์แฟนหนุ่มรุ่นพี่ปีสี่บอกเลิกอยู่หรือเปล่า
“เหอะ สวยๆ แบบกูทำไมต้องเสียใจให้กับผู้ชายที่คบกูหวังฟันด้วยว่ะ กูก็แค่เบื่ออะมึงเลิกกันไปแล้วทำไมไม่ยอมจบสักทียังคอยโทรมารังควานกูอยู่ได้ทุกวันทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน ถ้ากูรู้ว่าพี่คิมมันจะน่ารำคาญขนาดนี้กูเลิกกับมันนานล่ะไม่เสียเวลาทนคบนานถึงสามเดือนหรอก”
เพลงพิณสาวสวยที่ถูกโหวตว่าหน้าตาดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังบ่นด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายและรำคาญแฟนหนุ่มคนล่าสุด ที่เป็นฝ่ายบอกเลิกเธอก่อนด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่าเธอให้ไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการซึ่งก็คือเรื่องของการมีความสัมพันธุ์ที่ลึกซึ้งตามประสาคนรักกันทั่วไป แต่มันต้องไม่ใช่กับเธอเพลงพิณคนนี้ที่ถึงแม้ว่าจะผ่านการมีแฟนมาแล้วหลายคนแต่ทุกคนนั้นกลับได้ใกล้ชิดเพลงพิณมากสุดคือการจับมือเท่านั้น
ซึ่งคิมหันต์แฟนคนล่าสุดไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่บอกเลิกเธอด้วยเหตุผลนี้เพราะแฟนทุกคนที่ผ่านมาของเธอต่างบอกเลิกเธอด้วยเหตุผลเดียวกับคิมหันต์ทั้งนั้น ซึ่งเพลงพิณก็ไม่เคยร้องไห้หรือตีโพยตีพายที่ถูกบอกเลิกด้วยเหตุผลที่เธอมองว่าไร้สาระมากให้เสียเวลาแต่เธอกลับดีใจที่ไม่ต้องทนคบกับพวกผู้ชายที่หวังเพียงอยากเชยชมร่างกายของเธอเท่านั้น
ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ขี้ยั่วมากแค่ไหน แต่เธอกลับไม่เคยปล่อยตัวให้ใครได้เชยชมง่ายๆ เพราะเธอเชื่อว่าถ้าผู้ชายพวกนั้นรักเธอจริงพวกเขาจะยอมอดทนจนถึงวันแต่งงาน จะมองว่าเธอหัวโบราณก็ได้ในเรื่องของเซ็กซ์ระหว่างชายหญิงแต่เธอแค่ต้องการมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้กับคนที่คู่ควรเท่านั้น
"กูถามจริงๆ เหอะเพลง มึงไม่อยากมีความรักที่ซาบซ่านซู่ซ่าบ้างเหรอวะ กูเห็นพวกคู่รักในมหาวิทยาลัยเขาก็คบกันแบบคู่ผัวเมียกันทั้งนั้น"
เอวาเพื่อนสนิทอีกคนถามเพลงพิณด้วยความสงสัยใคร่รู้ในคำตอบเพราะตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมาเพลงพิณมีแฟนมาทั้งหมดแล้วถึงห้าคนซึ่งแต่ละคนนั้นเพื่อนของเธอคบเพียงสามเดือนก็เลิกรากันไปด้วยเหตุผลเดิมๆ
ซึ่งสำหรับเอวากับเจ้าเอยแล้วการคบกันและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นคู่รักกันซึ่งทั้งสองคนต่างก็ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาก่อนมีเพียงเพลงพิณคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง
"ซาบซ่านซู่ซ่าบ้านมึงสิเอวา ถึงกูจะชอบแต่งตัวเซ็กซี่ดูเหมือนจะขี้ยั่วแต่กูก็รักตัวเองนะเว้ยถ้าไม่เจอผู้ชายที่รักกูจริงๆ กูไม่ยอมเสียซิงเด็ดขาด"
คำพูดที่เด็ดขาดของเพลงพิณทำเอาคนที่กำลังนั่งดื่มเงียบๆ อยู่คนเดียวถึงกับยกยิ้มมุมปากด้วยความนึกชอบใจในทัศนคติของสาวน้อยคนนี้ที่รักนวลสงวนตัวไม่ยอมยกสิ่งที่มีค่าของตัวเองให้ใครง่ายๆ
ซึ่งน้อยนักที่จะมีคนคิดแบบนี้คงต้องบอกว่ามีเพียงสาวหัวโบราณเท่านั้นที่ยังคงคิดแบบนี้อยู่ในสังคมที่คู่รักหลายคู่ต่างพากันเดินเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งทั้งกายและใจ แต่พอถึงวันหนึ่งที่ความสัมพันธ์มันไปต่อด้วยกันไม่ได้และจบลงด้วยการเลิกราส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายที่เสียใจและทำใจไม่ได้ส่วนหนึ่งมาจากความสัมพันธ์ทางกายที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะลืมได้ง่ายๆ นั่นเอง
"หึ แล้วผู้ชายแบบไหนกันนะที่เธอจะยอมเสียซิงให้"
เกรย์พึมพำเสียงเบาอยู่คนเดียวก่อนที่เขาจะยกแก้วเหล้าที่ควงเล่นนั่งฟังสาวๆ สนทนากันมาสักพักขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้วด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยถึงแม้ว่าเหล้าราคาแพงที่ไหลผ่านลำคอลงไปจะมีรสชาติที่คมจนบาดคอเพียงใดก็ตาม
นี่ก็เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์แล้วที่เกรย์มานั่งดื่มเงียบๆ ที่นี่คนเดียวหลังจากที่เขาย้ายกลับมาอยู่ที่เมืองไทยถาวรเพื่อรอเวลาที่พร้อมเข้ารับตำแหน่งประธานโรงพยาบาล N ที่คุณย่าแก้มใสยกให้เขารับช่วงต่อโดยที่ได้รับความเห็นชอบจากลูกหลานตระกูลพิสิฐกุลวัตรดิลกทุกคน
"เฮีย เฮียเกรย์ผมฝากบาร์ทีดิหน้าร้านคนเยอะมากเด็กเสิร์ฟไม่พอขอแวบไปช่วยเขารับทิปแป๊บ"
อาร์มบาร์เทนเดอร์หนุ่มประจำผับวิ่งมาร้องขอความช่วยเหลือจากเกรย์ลูกค้าประจำที่เขาเพิ่งรู้จักได้ไม่นานแต่กลับมีความสนิทสนมกันราวกับว่ารู้จักกันมานานนับสิบปี เพราะครั้งแรกที่เกรย์มาเที่ยวเขาสั่งเครื่องดื่ม Sex on the beach ค็อกเทลรสโปรดของเขาแต่อาร์มกลับทำออกมาได้รสชาติไม่ถูกปากเขาเลยสักนิด
เกรย์จึงลงมือชงเองอย่างชำนาญก่อนที่เขาจะเอาให้อาร์มลองชิมดูและเปรียบเทียบแก้วของเขากับแก้วที่อาร์มทำซึ่งรสชาติที่กลมกล่อมของ Sex on the beach ทำให้อาร์มยอมรับอย่างไม่อายเลยว่ารสชาติที่ตัวเองทำออกมานั่นห่วยแตกมาก
หลังจากวันนั้นอาร์มก็ขอร้องให้เกรย์สอนเขาชงค็อกเทลใหม่ซึ่งเกรย์ที่กำลังว่างงานก็ตอบตกลงในทันทีอย่างคนที่ไม่หวงวิชา เพราะคุณทวดมักจะสอนเขาอยู่เสมอว่าวิชาความรู้ที่มีหากมีประโยชน์ต่อผู้อื่นก็จงแบ่งปันสิ่งนั้นให้เขาโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เปลืองพื้นที่สมอง
ซึ่งที่ผ่านมาเกรย์ก็มักจะแบ่งปันความรู้ของตัวเองให้ผู้อื่นอยู่เสมอยกเว้นสิ่งเดียวที่เขาไม่สามารถแบ่งปันให้คนอื่นได้จริงๆ นั่นก็คือความสามารถทางด้านจิตรกรที่ลายเส้นของเขานั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของความเป็นศิลปินที่เขาไม่สามารถถ่ายทอดให้ใครได้
"อืม กำลังว่างจัดไปโกยทิปให้เต็มที่เลยเดี๋ยวเฮียดูแลบาร์ให้"
เกรย์รับปากอย่างว่าง่ายซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเฝ้าบาร์แทนอาร์มแต่มันคือครั้งที่ห้าแล้วที่เจ้าเด็กทะลึ่งทะเล้นคนนี้ฝากบาร์ให้เขาดูแลชั่วคราว ส่วนตัวเองก็วิ่งไปช่วยหน้าร้านเสิร์ฟเหล้าเพื่อโกยทิปที่ได้มากถึงสามพันในแต่ละครั้งที่อาร์มไปช่วย
"เฮียเกรย์ของอาร์มน่ารักที่สุดเลย"
อาร์มวิ่งเข้ามาสวมกอดเกรย์ด้วยความดีใจและซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเกรย์ที่ยอมอยู่เฝ้าบาร์เครื่องดื่มแทนเขาทั้งๆ ที่เกรย์ไม่ใช่พนักงานของที่นี่ แต่ทุกครั้งที่อาร์มมาขอความช่วยเหลือเกรย์กลับไม่เคยปฎิเสธเขาเลยสักครั้งมันทำให้อาร์มรู้สึกรักและเคารพในตัวเกรย์มากถึงแม้ว่าอาร์มจะเพิ่งรู้จักเกรย์ได้ไม่นานก็ตาม
"เอวา เจ้าเอยเดี๋ยวกูมานะขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บ"
จังหวะที่เกรย์ลุกขึ้นเพื่อที่จะไปทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ชั่วคราวแทนอาร์มเพลงพิณที่รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำก็ลุกขึ้นพร้อมกับบอกเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พยักหน้าตอบรับคำพูดของเธอก่อนที่เพลงพิณจะหันหน้ามาสบตาเกรย์ด้วยความบังเอิญ
เกรย์มองผู้หญิงตรงหน้าที่เขายอมรับกับตัวเองในใจว่าสวยมากราวกับรูปปั้นเทพีวีนัสด้วยสายตาที่นิ่งเรียบแต่หัวใจเจ้ากรรมดันแอบเต้นแรงโดยที่ไม่รู้ตัว หึ ผู้หญิงคนนี้สินะแม่สาวหวงซิง
ส่วนเพลงพิณเองก็มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอกด้วยความตกตะลึงกับใบหน้าหล่อเหลาที่ดูดีไร้ที่ติไปหมดทุกส่วน
สองขาพลันก้าวไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่และมองเขาอย่างไม่สามารถที่จะดึงสายตาออกมาได้ราวกับว่าเธอกำลังต้องมนต์สะกด ยิ่งยามที่เขายกยิ้มมุมปากน้อยๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาดูดีมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
ก่อนที่เกรย์จะเป็นฝ่ายเดินผ่านเพลงพิณที่ยกมือขึ้นมาแตะหน้าอกข้างซ้ายที่หัวใจดวงน้อยยังคงเต้นแรงถึงแม้ว่าเขาคนนั้นจะเดินผ่านไปแล้วก็ตาม
“ขอ Pink แก้วหนึ่งค่ะ"เพลงพิณทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทรงสูงพร้อมกับร้องสั่งเครื่องดื่มค็อกเทลสุดโปรดก่อนที่เธอจะอยู่ในท่านั่งเท้าคางพร้อมกับจ้องมองร่างสูงที่ดูแปลกตาไปไม่เหมือนทุกวัน เพราะอาร์มเด็กประจำบาร์ที่เธอรู้จักนั้นค่อนข้างผอมบางและผิวสีแทนผิดกับคนตรงหน้าที่รูปร่างสมส่วนและผิวขาวจัดราวกับลูกคุณหนูเกรย์หยิบจับส่วนผสมของเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งอย่างคล่องแคล่วเขาใช้เวลาเพียงสามนาทีก็หันกลับมาพร้อมกับวางเครื่องดื่มลงตรงหน้าของผู้หญิงที่เขาไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกันอีกครั้ง แม่สาวหวงซิง ที่ตอนนี้ดวงตากลมโตของเธอกำลังจ้องมองมาที่เขา"หล่อจัง"คำพูดที่คิดอยู่ในใจเงียบๆกลับเล็ดลอดออกมาเป็นน้ำเสียงหวานรื่นหูที่คนพูดยังตกใจที่ตัวเองเผลอคิดเสียงดังจนหลุดออกมาทั้งเสียงและคำพูดให้ขายหน้าผู้ชายที่สบตาเธอเพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนที่เขาจะหันกลับไปชงเหล้าต่อเงียบๆโดยที่ไม่สนใจเพลงพิณที่กำลังรู้สึกหัวใจห่อเหี่ยวเมื่อโดนผู้ชายตรงหน้าเมินเป็นครั้งแรกและคนแรก ที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายเมินผู้ชายมาตลอดแต่มาวันนี้สาวสวยอย่างเธอกลับถูกผู้ชายที่หล่อมากคนนี้เมินอย่างไม่ไยดี เหอะ มันจะมากไปแล้วนะ"เชอะ คิดว่าตั
“หึ หน้าหล่อๆแบบมันเนี่ยนะจะรักเพลงจริง ดีไม่ดีมันอาจจะคบกับผู้หญิงหลายคนอยู่ก็ได้ซื่อๆแบบเพลงตามมันไม่ทันหรอก”คิมหันต์พูดอย่างดูถูกเกรย์เขาไม่วันเชื่อว่าผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาอย่างแฟนใหม่ของเพลงพิณจะรักเดียวใจเดียวหน้าตาดีมากขนาดนี้คงมีสาวๆแวะเวียนมาขายขนมจีบไม่ก็ชวนขึ้นเตียงไม่เว้นแต่ละวันขนาด ตัวเขาเองหน้าตาอยู่ในขั้นที่จัดว่าหล่อถึงจะไม่เท่าแฟนใหม่ของเพลงพิณแต่สาวๆต่างก็พากันแวะเวียนมาทำความรู้จักกับเขาแทบทุกวันคำพูดจาดูถูกจากผู้ชายที่เกรย์คิดว่าหน้าตาดีไม่ได้ครึ่งของเขาเลยสักนิดทำเอาคนที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ถึงกับต้องกระโดดข้ามมาท่ามกลางความตกใจของเพลงพิณและคิมหันต์ที่ผงะถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้ เพราะฝ่าเท้าของเกรย์นั้นเหวี่ยงเฉียดใบหน้าของเขาเพียงนิดเดียวเท่านั้นก่อนที่เกรย์จะเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเพลงพิณและยกมือขึ้นโอบไหล่บอบบางของเธอเข้ามาแนบชิดทำเอาคนที่โดนโอบถึงกับใจเต้นแรงด้วยความหวั่นไหว กลิ่นหอมที่ชวนหลงใหลของคนข้างกายทำเอาเพลงพิณเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอดผู้ชายอะไรตัวหอมชะมัดหอมจนเธออยากจะเอนตัวลงไปซบอกให้มันรู้แล้วรู้รอด“อย่าดูถูกความรักของผมสิครับ ถึงผมจะหน้าตาดีมาก
มหาวิทยาลัย Sเจ้าเอยกับเอวาหันมามองหน้ากันด้วยความแปลกใจระคนสงสัยเมื่ออยู่ๆเพื่อนรักของเธอที่กำลังนั่งใจลอยก็ยื่นมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าจะแดงก่ำราวกับลูกตำลึงสุกเหมือนกับว่าเพลงพิณกำลังคิดเรื่องที่ทะลึ่งตึงตังอยู่ในหัวอย่างไรอย่างนั้นเลยปัง!!“ว้าย”เสียงตบโต๊ะทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับได้สติเพลงพิณสะดุ้งน้อยๆก่อนที่เธอจะมองหน้าเพื่อนสนิททั้งสองคนที่ยื่นหน้าเข้ามาหาเธอราวกับกำลังจับผิดกับพฤติกรรมแปลกๆของเธอ เพราะตั้งแต่ที่กลับมาจากไปเที่ยวในคืนนั้นเพลงพิณก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคนปกติแล้วเพื่อนของเธอคนนี้ถึงแม้จะมีเรื่องภายในใจมากมายแค่ไหนแต่เพลงพิณก็ไม่เคยนั่งเหม่อหรือใจลอยเลยสักครั้ง แต่สองสามวันที่ผ่านมาเพื่อนของพวกเธอเอาแต่นั่งเหม่อแล้วก็ยกมือขึ้นลูบที่ปากบ่อยครั้ง จนพวกเธอพากันตั้งข้อสันนิษฐานว่าวันนั้นที่เพื่อนเธอหายไปนานต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆเลยเพียงแต่เพลงพิณไม่ยอมปริปากบอกพวกเธอจะด้วยเหตุผลอันใดก็ไม่อาจจะล่วงรู้ได้“มึงจะนั่งใจลอยไปถึงไหนคะเพื่อน นี่นั่งใจลอยมานานแล้วนะเดี๋ยวก็หน้าแดงเดี๋ยวก็ลูบปากสรุปมึงเป็นอะไรของมึงกันแน่เพลง”เอวาที่ทนไม่ไหวตัดส
“อยากจะเป็นผัวของเพลงถามผัวตัวจริงของเขาหรือยังว่าเขายอมไหม”น้ำเสียงเย็นชาถามคิมหันต์ที่ตอนนี้หัวแตกเลือดอาบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยผิดกับเพลงพิณที่ตอนนี้ตัวสั่นด้วยความกลัวและตกใจเพราะเลือดที่กำลังไหลหยดลงตามเสื้อผ้าของคิมหันต์ ส่วนเอวากับเจ้าเอยได้แต่อ้าปากค้างอย่างตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าต้องตกใจที่คิมหันต์โดนตีหัวจนเลือดอาบหรือตกใจกับสถานะมีผัวของเพื่อนเธอดี ส่วนคำพูดของเพลงพิณที่บอกกับพวกเธอว่าผู้ชายคนนั้นหน้าตาดีมากไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อยเพราะผู้ชายที่กำลังโอบกอดเพื่อนรักของพวกเธออยู่นั้นหน้าตาดีเสียจนพวกเธอถึงกับหลงเคลิ้มไปชั่วขณะ พวกเธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพลงพิณถึงยอมแหกกฎเหล็กของตัวเองด้วยการยอมให้ผู้ชายคนนี้จูบ เพราะถ้าเป็นพวกเธอเองก็คงไม่ต่างจากเพลงพิณ ใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตรทำให้พวกเธอไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลยจริงๆ “แม่งเอ้ย มึงกล้าดียังไงมาตีหัวกูวะอยากตายหรือไง”มืออีกข้างกุมหัวด้วยความเจ็บส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นชี้หน้าเกรย์ด้วยความโมโหจนแทบคลั่งเพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายคิมหันต์ต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้มาก่อน แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับกล้
“ชื่ออะไรเหรอคะ”“อายุเท่าไหร่”“มีแฟนหรือยังคะ”“เรียนอยู่ปีไหน”คำถามของสองสาวที่รัวถามเกรย์ทำเอาเขาถึงกับต้องยกมือขึ้นเบรกสองสาวที่กำลังจะอ้าปากถามเขาต่อทั้งๆที่สี่คำถามแรกนั้นพวกเธอยังไม่ได้คำตอบจากเขาเลย ส่วนสองสาวเมื่อโดนเบรกกะทันหันก็ได้แต่ยักไหล่น้อยๆและยกเหล้าขึ้นดื่มแก้เก้อเมื่อแฟนปลอมๆของเพื่อนรักไม่ยอมตอบคำถามของพวกเธอเลยสักข้อ“นี่ถามเพราะอยากรู้หรือกะจะซักประวัติยันบรรพบุรุษครับ”พรวด!!แค่ก แค่ก แค่กเหล้าที่เพิ่งเข้าปากเอวาไปถึงกับพุ่งพรวดออกมาคืนด้วยความตกใจเมื่อเจอฝีปากที่แซบไม่เบาของผู้ชายที่หน้าตาต้องบอกว่าดีมาก แต่ใครเลยจะรู้ว่าจริงๆแล้ววาจาแซบราวกับยกพริกทั้งสวนมาสู้กลับพวกเธอแบบนี้ในขณะที่เพลงพิณได้แต่แอบยิ้มขำกับท่าทางของเพื่อนสาวทั้งสองคนที่หน้าเสียไปเลยเมื่อเจอเขาถามกลับที่ทำเอาไปไม่เป็นทั้งคู่“แหม สุดหล่อก็พวกเราไม่ได้กะจะซักยันบรรพบุรุษสักหน่อยก็แค่อยากรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิมแค่นั้นเองเนอะเอวาเนอะ”เจ้าเอยบอกเกรย์เสียงอ่อยๆส่วนเอวาก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเห็นดีเห็นงามกับคำพูดของเพื่อนสาวเพราะพวกเธอก็อยากรู้จักเขาให้มากขึ้นตามที่บอกไปจริงๆ แต่สำหรับ
เช้าวันต่อมา“อื้อ ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ”เพลงพิณลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิดเมื่อคืนเธอจำได้ว่าเธอดื่มเหล้าเข้าไปหลายแก้วมากก่อนที่ภาพจะตัดและมืดสนิทหลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ว่าแต่เมื่อคืนเธอได้ทำอะไรที่น่าอายลงไปบ้างไหมเนี่ยได้แต่คิดและตั้งคำถามกับตัวเองเพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆแต่เมื่อคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกก็ได้แต่ยกมือขึ้นจิกทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิดเพราะเธอกลัวว่าจะเผลอไปทำอะไรที่ไม่น่ารักต่อหน้าเขาเข้าน่ะสิ มือที่กำลังจิกทึ้งผมต้องชะงักไปเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นกลุ่มผมสีน้ำตาลของใครบางคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงของเธอ หัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความตกใจก่อนที่เธอจะเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อเช็กสภาพร่างกายของตัวเองก็พบว่าเธอยังคงอยู่ในชุดที่ใส่ออกไปเที่ยวเมื่อคืนและนี่ก็คือห้องนอนของเธอ แล้วคนที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของเธอคือใครกันล่ะ?นี่อย่าบอกนะว่าเธอเมามากจนเผลอคว้าใครไม่รู้มานอนด้วยที่ห้อง“หวังว่าคงไม่ใช่คุณเกรย์หรอกนะ”เพลงพิณพึมพำเสียงเบาอยู่คนเดียวก่อนที่เธอจะขยับเข้าไปใกล้ๆคนที่กำลังนอนหลับอยู่โดยที่เขานอนตะแคงหันหน้าไปอีกทาง เพลงพิณยื่นหน้
คอนโด Kเมื่อเกรย์เปิดประตูเข้ามาภายในห้องพักเขาก็พบกับรองเท้าสองคู่ที่จอดเคียงคู่เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาก่อนที่เกรย์จะรีบเดินเข้าไปในห้องทันที ภาพของมารดาที่กำลังเติมเครื่องปรุงลงในอาหารกับบิดาที่กำลังคนอาหารในหม้อให้เข้ากันทำให้เกรย์ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดทั้งคู่เอาไว้ด้วยความรักและคิดถึงสุดหัวใจหมับ“กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับทำไมไม่เห็นโทรมาบอกพี่เกรย์เลย พี่เกรย์คิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยครับ”ถึงแม้จะโตเป็นหนุ่มแล้วแต่เวลาที่เขาอยู่กับบิดามารดาเกรย์ก็ยังคงอ้อนท่านทั้งสองเหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กเหมือนเดิม เจ้าขาค่อยๆหันหน้ามาหาลูกชายคนโตที่เพิ่งกลับห้องด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักก่อนที่เธอจะโอบกอดลูกชายเอาไว้ด้วยความคิดถึงเช่นกัน“พ่อกับแม่ก็คิดถึงพี่เกรย์มากๆค่ะถึงได้รีบเดินทางกลับมาเมืองไทย”น้ำเสียงอ่อนโยนบอกลูกชายก่อนที่กองทัพจะปิดแก๊สและหันมากอดลูกชายบ้างซึ่งเกรย์เองก็กอดตอบบิดาอย่างแนบแน่นเช่นกัน สองมือใหญ่ของกองทัพลูบหลังลูกชายไปเบาๆมาราวกับว่าเกรย์ยังคงเป็นเด็กชายตัวน้อยอายุเพียงสิบขวบซึ่งในสายตาของกองทัพลูกๆของเขาก็ยังคงเป็นเด็กเสมอ“แอบไป
Smok’in Pubมือบางค่อยๆควงแก้วเหล้าเล่นไปมาท่ามกลางเสียงเพลงที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแต่คนที่กำลังควงแก้วเหล้าเล่นกลับถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ เพราะนี่ก็เป็นเวลาสามวันแล้วที่เกรย์หายตัวไปโดยที่ไม่ยอมมาทำงานเธอพยายามสอบถามเด็กเสิร์ฟที่นี่แต่ก็ไม่มีใครพบเจอกับเขาเลย แม้กระทั่งอาร์มเด็กชงเหล้าประจำเคาน์เตอร์บาร์ก็ไม่รู้ว่าเกรย์หายไปไหนเพราะบางวันที่เธอเห็นเขานั้นเขาเพียงมาช่วยอาร์มทำงานเท่านั้นเขาไม่ใช่พนักงานประจำของที่นี่“เจ้าเอย เอวา กูจะทำยังไงดีอีกสองวันก็วันเกิดนังหอมมันแล้วถ้ากูไม่ควงแฟนไปงานพวกน้ำพิ้งค์มันต้องหาว่ากูโกหกมันแน่นอนเลย”“ก็มึงโกหกพวกมันจริงๆนี่หว่า คุณเกรย์เขาไม่ได้เป็นแฟนมึงจริงๆสักหน่อย”คำพูดของเอวาทำเอาคนที่กำลังทุกข์ใจอย่างหนักถึงกับหันมาส่งค้อนให้เพื่อนอย่างแรงจนคอแทบเคล็ดด้วยความหมั่นไส้ที่เพื่อนชอบพูดดักคอเธอ ก่อนที่เพลงพิณจะยกแก้วที่ควงเล่นในครั้งแรกขึ้นกระดกรวดเดียวน้ำสีอำพันก็ไหลลงสู่ลำคอจนหมดแก้ว“เบาได้เบาเว้ยเพลงแก้วที่ห้าแล้วนะมึง อีกอย่างมึงแดกเหล้าแทนข้าวเย็นมาสามวันล่ะ”เจ้าเอยท้วงเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพราะนี่ก็เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่เพลงพิณม