แชร์

บทที่ 5 แต่งงาน

ผู้เขียน: Mamaya Writer
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-16 16:24:08

Chapter 5

“ว่าไง” ถลัชนันท์พูดขึ้นทันทีที่กดรับสาย

[วันนี้จะไม่กลับบ้านหรือไง นี่จะสี่ทุ่มแล้วนะ ไปอยู่ไหนน่ะ...แล้วนี่เสียงอะไรดังน่ารำคาญ...]

“อยู่ที่ผับน่ะ วันนี้เครียดนิดหน่อย แกปิดบ้านเข้านอนไปก่อนเลย” หญิงสาวตอบก่อนกดวางสายทันที ดวงตากลมมองไปยังแสงสีเบื้องหน้าที่มีผู้คนมากมายต่างเต้นเย้าสะโพกส่ายไปมา แต่กับเธอเพียงแค่นั่งดื่มเหล้าให้เมาเพื่อลืมความเจ็บปวดนี้ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย การที่อยู่คนเดียวยิ่งทำให้เป็นบ้าตายเอาจริง ๆ

“มาคนเดียวหรือครับ” เสียงทุ้มของชายหนุ่มทำให้ถลัชนันท์หันไปมองใบหน้าเจ้าของเสียง ก่อนจะยิ้มหวานให้อย่างไม่เต็มใจนัก

“ค่ะ” เธอตอบแล้วหันหน้าหนี พลางยกเครื่องดื่มจิบไปเรื่อย ๆ ครั้นชายหนุ่มขยับตัวมาใกล้เธอจึงเหลือบมองและถอนหายใจออกมา “วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ ช่วยกรุณาไปไกล ๆ หน้าด้วยนะคะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หัวเสียมองด้วยสายตาไม่พอใจเมื่อหญิงสาวไม่เล่นด้วยเขาจึงขยับตัวลุกขึ้นและเดินจากไปทันที

ถลัชนันท์มองแล้วหันกลับมาอย่างไม่สนใจ ไม่นานนักก็มีชายหนุ่มอีกคนเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ และสั่งเครื่องดื่ม

“ผมเลี้ยงไหม ?” เขาเอ่ยขึ้นแล้วหันมองหญิงสาว

ถลัชนันท์จึงหันมองชายหนุ่มใบหน้าหวานที่ยิ้มให้ เขามีผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีดำ ใบหน้ารูปหัวใจ ริมฝีปากค่อนข้างหนาและตัวสูงกว่าเธอ

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“เตกีล่าให้เธอด้วยครับ” ศรันภัทรพูดก่อนจะส่งยิ้มให้กับหญิงสาว

“ฉันไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครค่ะ”

“ผมรู้ ผมก็เหมือนกัน...” เขาพูดขึ้นก่อนจะก้มหน้ามองแก้วที่ถือในมือด้วยแววตาเศร้า ที่เข้ามาทักเพราะเห็นว่าเธอน่าจะมีเรื่องผิดหวังมา

“เวลารักใครสักคนแล้วเจอสิ่งที่ผิดหวัง มันเจ็บปวดนะครับ เจ็บจนไม่อยากจะรักใครอีก”

ถลัชนันท์หันมองศรันภัทรก่อนยกวิสกี้ขึ้นดื่ม

“ความรักนี่เข้าใจยากนะครับ”

“เหรอคะ” ถลัชนันท์พูดขึ้นพลางหันมอง เขาหน้าตาดี อีกทั้งรูปร่างสูง ใบหน้าหวานราวกับผู้หญิง กิริยาการพูดจาไม่หยาบคายเหมือนคนอื่นที่เดินเข้ามาทักทาย จึงทำให้เธอรู้สึกถูกชะตาด้วย

“งั้นฉันไม่ปฏิเสธมิตรภาพของคุณละกัน” เมื่อพูดจบหญิงสาวก็ยกแก้วเตกีล่าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด ทำให้รู้สึกมึน ๆ อยู่เล็กน้อย

ถลัชนันท์ตั้งสติและรู้ว่าร่างกายยังไหวอยู่ แต่ถ้าหากดื่มมากกว่านี้เธออาจจะเมาไม่รู้เรื่อง

ระหว่างที่นั่งดื่มและมองไปเพลิน ๆ เขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยชวนพูดคุยไปหลายเรื่อง จนหญิงสาวลืมเรื่องของอรรถนนท์จนเกือบหมดสิ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้กลับเอาแต่คิดถึงเรื่องของอดีตแฟนหนุ่มอยู่ตลอดเวลา

ได้กลับมาใช้ชีวิตโสดแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน...

ถลัชนันท์รู้สึกถึงน้ำหนักแขนที่ทับอยู่บนตัว เธอลืมตาขึ้นมองกะพริบตาหลายต่อหลายครั้งเพื่อมองชายหนุ่ม จึงลุกขึ้นจากที่นอนและมองไปรอบ ๆ ทันที มือทั้งสองข้างยกขึ้นกุมศีรษะราวกับว่ากำลังนึกเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เมื่อยกผ้านวมออกก็เห็นว่าตัวนั้นเปล่าเปลือยอยู่ ดวงตากลมของเธอจึงหันไปมองชายหนุ่มที่ไม่แม้แต่รู้จักชื่อนอนอยู่ข้าง ๆ

ศรันภัทรรับรู้ถึงน้ำหนักของคนที่ขยับบนเตียงจึงลืมตาขึ้นมองแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ด้วยกายเปล่า มีเพียงผ้านวมที่ปกปิดกายของเธอเอาไว้

“ว้ากกกก...”

เดี๋ยวนะ...นั่นเธอต้องเป็นคนกรี๊ดไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมเขาถึงร้องอุทานออกมาแบบนั้นกันล่ะ !

ถลัชนันท์หันมองชายหนุ่มที่ร้องเสียงหลงจนน่าตกใจ หญิงสาวอึ้งจนร้องไม่ออกได้แต่หัวเราะสมเพชตัวเอง ขณะที่ชายหนุ่มพยายามควานหาผ้าปิดบังร่างกายและขยับตัวลงจากเตียงทันที

“คุณ...ทำไมถึง มาอยู่ที่นี่ได้” ศรันภัทรถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

เธอยกมือขึ้นกุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา

“ฉะ...ฉันต่างหากที่ต้องถามคุณ...ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้”

ความทรงจำเมื่อคืนช่างเลือนรางนักแม้จะอยู่คุยด้วยกันเพราะรู้สึกถูกชะตาด้วยแต่ทำไมถึงมาลงเอยกันบนเตียงแบบนี้ล่ะ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าออกจากผับมาตอนไหน

...นี่มันบ้าชัดๆ เธอเสียครั้งแรกให้กับผู้ชายคนนี้อย่างนั้นน่ะเหรอ ?!

“ตาพี หลายวันแล้วไม่ยอมกลับบ้าน...” เสียงของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นขณะที่ประตูห้องเปิดออก หนุ่มสาวทั้งสองคนที่อยู่ในห้องหันมามองเป็นตาเดียวด้วยความตกใจ

“ว้าย ! ตายแล้ว คุณพระคุณเจ้า”

“คุณแม่...” ศรันภัทรทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกผู้เป็นแม่เปิดประตูเข้ามาเห็นอะไรที่ไม่ควร ชายหนุ่มก้มหน้าหลบหันไปทางอื่น เช่นเดียวกับที่ถลัชนันท์ยกผ้านวมคลุมศีรษะด้วยความอาย

ซวยโคตร ! นี่เธอเมาจนเสียตัวเลยหรือเนี่ย !

“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด...” ชายหนุ่มพูดเสียงแผ่ว ๆ เขาเหลือบมองใบหน้าของผู้เป็นแม่แล้วก็รีบก้มตาหลบลงทันที

“แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วออกมาหาแม่ที่ห้องรับแขก”

เมื่อพูดจบประตูก็ปิดลงทันที ศรันภัทรหันมามองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะทำหน้าไม่พอใจและเก็บเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที ส่วนถลัชนันท์นั้นขยับตัวลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าของเธอที่กระจายตามพื้นขึ้นมาสวมใส่ จัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อยและหยิบกระเป๋าเดินไปแง้มประตูเปิดออกเบา ๆ

ดวงตากลมมองไปยังโซฟาที่อยู่ห่างไม่ไกลนัก เห็นหญิงสาววัยกลางคนนั่งหันหลังอยู่ ถลัชนันท์จึงค่อย ๆ ย่องเดินด้วยเสียงฝีเท้าเบาที่สุดเพื่อตรงไปยังประตู ทว่า...

“เธอน่ะ...ก็ยังกลับไม่ได้”

เสียงของลภัสรดาเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่องเบาของหญิงสาว

ถลัชนันท์สะดุ้ง ยิ้มแห้งเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนหันมาเหล่มองด้วยสายตายากจะคาดเดา จึงได้แต่ก้มหน้าเดินมานั่งยังโซฟาตัวที่ห่างกันมากที่สุด

“เธอชื่ออะไร ?” ลภัสรดาถามพลางส่งสายตาพินิจหญิงสาว

“จงรักค่ะ เรียกว่ารักก็ได้” ถลัชนันท์ตอบไม่เต็มเสียงพลางก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมองอยู่ “คือว่า...หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ เราเมากันทั้งคู่ มันผิดพลาดจริง ๆ !”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเพื่ออธิบายความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เธอเกรงว่าฝ่ายผู้ใหญ่อาจจะมองในแง่ลบ

“เธออายุเท่าไหร่ ?” ลภัสรดายังคงถามต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“สามสิบสองค่ะ” ถลัชนันท์ตอบด้วยความงุนงงและแปลกใจ จนกระทั่งชายหนุ่มเดินเข้ามาหาและนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม

“แม่ครับ คือมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด...” ทันทีที่นั่งลงศรันภัทรก็รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

ลภัสรดาหันมองลูกชายก่อนจะเอื้อมมือไปตีที่ต้นแขนอย่างแรง “ผิดพลาดเหรอ ?!”

“เธอชื่อรักใช่ไหม ?”

ถลัชนันท์พยักหน้าแทนคำตอบ

“แต่งงานกับลูกชายฉันซะ !”

“หะ...หา ?!”

“แม่พูดอะไรนะ...ทำไมผมต้องแต่งงานกับเธอด้วย !”

ศรันภัทรลุกขึ้นทันที ส่งสายตามองไปที่หญิงสาวด้วยความไม่พอใจ ตรงข้ามกับถลัชนันท์ที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แต่ต้องดึงสติกลับมาและหันมองมารดาของชายหนุ่ม

“ไม่ต้องทำขนาดนั้นมั้งคะ คือหนูไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ อีกอย่าง...”

“แต่ฉันคิด...การที่ผู้หญิงอยู่กับผู้ชายในสภาพแบบนี้ คนอื่นเขาจะนินทายังไง”

ก็ยังไม่มีคนเห็นซะหน่อย ปล่อยเธอไปไม่ได้หรือไงกัน !

“คุณแม่ ผม...”

ลภัสรดาลุกขึ้นพร้อมกับมองลูกชายที่ทำหน้าไม่พอใจ “แกจะไม่แต่งก็ได้ แต่อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

เป็นคำขาดที่ทำให้ศรันภัทรถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มรู้ดีว่าหากมารดายื่นคำขาดแล้ว คงจะมีแผนการอะไรบางอย่างในใจแล้วแน่นอน และถ้าหากเขาหลีกหนีมันอาจจะไม่เป็นผลดี

“ส่วนเธอ ตามฉันออกมา”

ลภัสรดาพูดเสียงเข้มขณะที่หันหลังหมุนตัวออกไป แล้วเปิดยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทีแรกคิดว่าจะพาลูกชายไปดูตัวอีกครั้งแต่คงไม่จำเป็นแล้ว...ตลอดที่ผ่านมาหล่อนคิดว่าชาตินี้ลูกชายจะไม่ได้แต่งงานเสียแล้ว เพราะรู้ดีว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั้นนิสัย ชายไม่เชิง หญิงไม่ใช่ ไม่สนใจผู้หญิงคนไหน ไม่มีแม้กระทั่งการเดตกัน จะมีก็เพียงแค่เพื่อนสนิทที่คุยด้วย ซึ่งหล่อนไม่ต้องการแบบนั้น ! กลัวผู้สืบทอดเพียงคนเดียวจะเปลี่ยนใจไปเป็นหญิงหรือชอบเพศเดียวกันซะก่อน

นี่เป็นโอกาสที่ดี...อีกทั้งหญิงสาวคนนี้ก็ดูดี กิริยาวาจานั้นก็ทำให้รู้สึกต้องชะตาด้วย แม้หน้าตาจะบ้าน ๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไรก็ตาม แต่เชื่อว่าสายตาหล่อนมองคนไม่ผิด คนที่จะมาเป็นสะใภ้ของ ‘ธนาชโยชา’

ทางด้านถลัชนันท์ได้แต่ลุกและเดินตามลภัสรดาออกไป เธอยกมือขึ้นกุมศีรษะราวกับว่าสมองจะระเบิดออกมา แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นสิ่งที่เธอหวังมาตลอด ทว่าจะต้องแต่งกับผู้ชายที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเนี่ยนะ

มันไม่ตลกสักนิด !

บทที่เกี่ยวข้อง

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 6 อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง

    Chapter 6ผ่านมาแล้วหนึ่งวันกับการพยายามโทร. เข้าเครื่องของเธอเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายที่เก็บเครื่องไปนั้นจะยอมรับสายและยังไม่นำเครื่องของเธอไปขายทิ้งก่อน สุดท้ายแล้วก็เริ่มตัดใจเมื่อไม่มีคนรับ อีกทั้งยังถูกปิดเครื่องไปดื้อ ๆ อีกลฎาภานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก พลางเอื้อมมือกดรีโมตโทรทัศน์เปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ ในช่วงที่ต้องรอผลการสัมภาษณ์อย่างไร้ความหวังนั้น ทำให้รู้สึกแย่เช่นกัน แม้ว่าจะติดต่อไปหลายบริษัท ทว่าช่วงนี้ยังไม่มีการรับพนักงานใหม่บ้าง หรือบางบริษัทก็มีพนักงานเต็มอัตราอยู่แล้ว เหมือนแสงที่ริบหรี่มากกริ๊ง—กริ๊ง เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น หญิงสาวจึงขยับตัวเอื้อมมือไปหยิบหูโทรศัพท์ยกขึ้น[ทำไมพี่โทร. เข้าเครื่องแล้วไม่รับล่ะ]“โทรศัพท์หาย แล้วนี่ไม่คิดจะกลับบ้านเลยหรือไง วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ ?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความแปลกใจที่ไม่เห็นพี่สาวกลับบ้านมาตั้งแต่เมื่อคืน อันที่จริงเมื่อก่อนที่จะคบกับแฟนหนุ่มก็เคยเป็นอยู่บ้าง จนไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่ ทว่า...นั่นก็หลายปีผ่านมาแล้ว[เออน่า...วันนี้พี่ลางาน กำลังจะกลับบ้าน เมื่อวานเมามาก]“เมาแล้วไปนอนที่ไหนมาอะ”[เรื่องนั้นไม่ต้องยุ่งหรอกน่า.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 7 ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นนั่นเอง

    Chapter 7 “คือว่า...” ลฎาภาอ้ำอึ้งอยู่นานเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร “คือว่า...มีคนหยิบของฉันไปผิดน่ะค่ะ” หญิงสาวแต่งเรื่องโกหกทั้งที่ในใจก็กล่าวขอโทษหลายครั้ง ถ้าจะให้พูดความจริงที่ว่าเข้าห้องน้ำผิดแล้วล่ะก็...น่าอายจะตายไป “เป็นแบบนี้เอง ดีนะครับที่ไปเจอซะก่อน” “ค่ะ” ลฎาภาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่เขาไม่ได้ถามหรือสงสัยต่อ หากเป็นคนอื่นอาจจะถามว่าใครจะหยิบผิดไป หรือไม่คนนั้นอาจจะเป็นคนที่เดินสวนกับเธอก็ได้ “เออ...แล้วเย็นนี้คุณพอจะว่างไหมคะ ? ฉันอยากเลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณ” ชายหนุ่มยิ้มและยกมือขึ้นมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือเป็นเชิงบอก อันที่จริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่เก็บได้แต่เป็นเจ้านายต่างหาก และนี่ก็คือคำสั่งที่ให้นำของมาคืนให้ “วันนี้ผมมีธุระต่อ ไว้วันหลังแทนนะครับ” “ได้ค่ะ ๆ” หญิงสาวตอบกลับในทันที “ถ้างั้นเรามาแลกเบอร์กันนะครับ” เจตนิพัทธ์พูดขึ้นพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้หญิงสาวกดเบอร์ ลฎาภาพยักหน้ารับและกดเบอร์ไปอย่างไม่คิดอะไร เมื่อเสร็จแล้วก็ยื่นส่งให้เขา ไม่นานนักชายหนุ่มก็กดโทร. ออก “นั่นเบอร์ของผม หากวันไหนว่างผมจะโทร. นัดคุณ” เจตนิพัทธ์ยิ้มให้เธอพลางขยับตัวลุกขึ้น “งั้นผมขอต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 8 เจ้าตัวกลมผู้โดดเดียว

    Chapter 8ผ่านมาแล้วไม่รู้กี่วันที่ชีวิตของลฎาภายังคงว่างงาน แม้จะลองหางานที่อื่นๆ ดูระหว่างรอผลสัมภาษณ์แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อาจเป็นเพราะเธอเลือกสถานที่ทำงานที่เดินทางสะดวกด้วยก็เป็นได้จึงทำให้ยังไม่ได้งานสักทีครืด—ครืดแรงสั่นจากโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ลฎาภาเอื้อมมือหยิบดูก่อนกดรับทันทีที่รู้ว่าคนที่โทร. มาคือเพื่อนสนิทสมัยมัธยม“ว่าไงจ๊ะ คุณครูคนสวย” หญิงสาวเอ่ยทักทาย[ยัยจอม โทษทีนะ ฉันเพิ่งหาเวลาว่างได้]“แล้ว...”[แกว่างไหม ช่วงนี้น่ะ]“ก็ว่างอยู่หรอก แต่จะไปไหนเหรอ ?” ลฎาภาเอ่ยถามขึ้นเพื่อรอคำตอบของอีกฝ่ายก่อนตกลง[ไปกินบุฟเฟต์ไหม ? วันนี้มีโปรโมชั่นลดอยู่ มีเรื่องอยากคุยเยอะเลย]ถ้าแค่กินก็โอเคเพราะเดินช็อปปิ้งด้วยเธอคงไม่ไหวอย่างแน่นอน อีกอย่างช่วงนี้ต้องใช้เงินเก็บอย่างประหยัด ทั้งที่ไม่อยากนำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายเลยแท้ ๆ จนกว่าจะหางานใหม่ได้ก็คงต้องตัดรายจ่ายไม่จำเป็นออกไป“ถ้าแค่บุฟเฟต์ก็ได้อยู่นะ แต่เรื่องช็อปปิ้งฉันขอบาย” หญิงสาวพูดขึ้นทันที เพราะเกรงว่าถ้าหากไปเดินด้วยกันแล้วอาจจะอดใจไม่ไหว “แกไม่ได้จะไปเดินช็อปปิ้งด้วยใช่ไหม ?”อาจจะเป็นการปฏิเสธแบบแล้งน้ำใจไปเสียห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 9 ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นนั่นเอง

    Chapter 7“คือว่า...” ลฎาภาอ้ำอึ้งอยู่นานเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร “คือว่า...มีคนหยิบของฉันไปผิดน่ะค่ะ” หญิงสาวแต่งเรื่องโกหกทั้งที่ในใจก็กล่าวขอโทษหลายครั้ง ถ้าจะให้พูดความจริงที่ว่าเข้าห้องน้ำผิดแล้วล่ะก็...น่าอายจะตายไป“เป็นแบบนี้เอง ดีนะครับที่ไปเจอซะก่อน”“ค่ะ”ลฎาภาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่เขาไม่ได้ถามหรือสงสัยต่อ หากเป็นคนอื่นอาจจะถามว่าใครจะหยิบผิดไป หรือไม่คนนั้นอาจจะเป็นคนที่เดินสวนกับเธอก็ได้ “เออ...แล้วเย็นนี้คุณพอจะว่างไหมคะ ? ฉันอยากเลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณ”ชายหนุ่มยิ้มและยกมือขึ้นมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือเป็นเชิงบอก อันที่จริงแล้วเขาไม่ใช่คนที่เก็บได้แต่เป็นเจ้านายต่างหาก และนี่ก็คือคำสั่งที่ให้นำของมาคืนให้“วันนี้ผมมีธุระต่อ ไว้วันหลังแทนนะครับ”“ได้ค่ะ ๆ” หญิงสาวตอบกลับในทันที“ถ้างั้นเรามาแลกเบอร์กันนะครับ” เจตนิพัทธ์พูดขึ้นพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้หญิงสาวกดเบอร์ลฎาภาพยักหน้ารับและกดเบอร์ไปอย่างไม่คิดอะไร เมื่อเสร็จแล้วก็ยื่นส่งให้เขา ไม่นานนักชายหนุ่มก็กดโทร. ออก“นั่นเบอร์ของผม หากวันไหนว่างผมจะโทร. นัดคุณ” เจตนิพัทธ์ยิ้มให้เธอพลางขยับตัวลุกขึ้น “งั้นผมขอตัวก่อนนะคร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 10 งานแต่งที่(ผู้ชาย)ไม่อยากได้

    Chapter 10 ลฎาภาชะเง้อคอมองเข้าไปในงานแต่งของพี่สาวที่ถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา มีคนมากมายต่างเดินเข้าไปในงานกัน หญิงสาวขยับตัวเดินถอยออกห่างมาช่างใจคิดอย่างหนัก ถ้าจะไม่มาเลยในฐานะน้องสาวก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีเอามาก ๆ แต่ทว่าเธอไม่ชินกับการออกงานโดยมีคนมากหน้าหลายตาเยอะไปหมดขนาดนี้ ภายในงานที่เมื่อครู่มองดูถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามสมกับฐานะของฝ่ายชาย แต่ทว่า...จะให้เธอเดินเข้าไปจริง ๆ น่ะหรือ สุดท้ายแล้วก็เดินเข้าไปในงานจนได้ เธอถอนหายใจออกมา เป็นงานแต่งที่รู้สึกอึดอัดแท้ ทั้งที่ควรจะไปดูพี่สาวแต่งตัวแต่ไม่ได้ไปหา เพราะดูเหมือนว่าพี่เธอต้องการแบบนั้นเหมือนกัน ดวงตากลมกวาดสายตามองไปยังอาหารที่ถูกจัดวางแบบบุฟเฟต์และค็อกเทลผสมกัน มีโต๊ะนั่งจำนวนหนึ่งแต่ไม่ใช่แขกทุกคนที่จะนั่งสนทนากัน บ้างก็ยืนคุย บ้างก็เดินมาตักอาหาร ทว่าสำหรับเธอแล้วคงยืนร่วมงานเงียบ ๆ จนจบละมั้ง ลฎาภายืนอยู่ราว ๆ สิบนาทีก็มีเสียงดังขึ้น ทำให้หันไปมองแล้วก็เห็นเจ้าสาวเจ้าบ่าวเดินเข้ามาพร้อมกัน เธอหันไปมองแม้จะอยู่ในระยะที่มองเห็นถลัชนันท์ได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปทักทาย เพราะว่ามีคนมากมายต่างเดินเข้าไปทักทายเจ้าบ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 11 หาที่อยู่ใหม่

    Chapter 11 ‘ยัยจอมบ้านที่เช่าจะหมดสัญญาแล้ว โทษทีพี่ลืมบอกไป สิ้นเดือนจะหมดสัญญาแล้ว ถ้าจะต่อก็รีบไปต่อเองนะ ถ้าไม่ก็ย้ายออกเดี๋ยวเจ้าของจะปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ ป.ล. ดูแลตัวเองดี ๆ นะ’ ทันทีที่ตื่นขึ้นมาช่วงสาย เปิดอ่านข้อความจากพี่สาวแล้วก็ยิ้มหัวเราะให้กับตัวเองเพราะไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือโวยวายออกมาดี สิ้นเดือนนี้ต้องย้ายออก แน่นอนว่าปกติแล้วพี่สาวเธอจะเป็นคนจ่ายค่าเช่าบ้านรายเดือน ส่วนเธอเมื่อมาอยู่ก็จะช่วยเรื่องค่าไฟ ค่าน้ำ หรือการซื้อของใช้ กลับมา ตอนนี้เหลือเพียงเธอ ถ้าหากเช่าต่อคงไม่ไหวแน่นอนกับเงินเก็บที่สะสมอยู่ตอนนี้ อีกทั้งถึงแม้ว่าจะได้งานแล้วแต่บริษัทยังไม่เรียกเข้าทำงาน กว่าจะเริ่มงานก็เดือนหน้าโน้น สรุปแล้วยังว่างงานอีกหนึ่งเดือนเต็ม ลฎาภาแทบทรุดเพราะนอกจากต้องหางานพาร์ตไทม์ทำแล้วยังต้องหาที่อยู่ใหม่อีก “เรา...จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไมได้ !” หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงนอนหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปห้องน้ำทันที ตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออีกสิบสองวันที่จะหาห้องเช่าและหางานทำไปก่อนถูกเรียกตัว ก็ยังดีกว่านั่งเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไร หลังจากแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาแต่สิ่งหนึ่งที่ลืมไปคือรถ ซึ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 12 พบเจ้านาย

    Chapter 12 ผ่านมาสองวันแล้วที่ลฎาภาไม่ได้นั่งอยู่เฉยในบ้านเช่นเดิม หลังรับประทานอาหารมื้อเช้าช่วงสายเสร็จก็รีบจัดเก็บของใช้ส่วนตัวภายในห้องใส่กล่องไว้เพื่อสะดวกต่อการขนย้ายในอีกไม่กี่วันที่จะถึง จากนั้นช่วงบ่าย หญิงสาวจึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปหางานพาร์ตไทม์ทำ “ขอชื่อและเบอร์ติดต่อไว้ก่อนนะคะ วันนี้ผู้จัดการร้านไม่เข้าค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับและรับกระดาษโน้ตมาเขียนข้อมูลลงไปก่อนจะส่งยื่นให้อีกฝ่ายแล้วเดินออกจากร้านมา วันนี้ก็เป็นเหมือนเดิมคือรอการติดต่อกลับไป เฮ้อ...บางทีอาจจะต้องกลับไปใช้เงินเก่าที่เก็บออมมาประทังชีวิตไปก่อนช่วงที่ยังว่างงาน “ร้านตรงนั้นก็ปิดรับสมัครพนักงานพาร์ตไทม์ ตรงนี้ก็ด้วย จะไปหาที่ไหนดีล่ะ แถวนี้ก็ถามเกือบทุกร้านแล้วด้วย” ลฎาภาบ่นพึมพำเพียงลำพังขณะที่เดินหันมองไปยังร้านค้าด้วยสีหน้าสุดผิดหวัง ทั้งที่อุตส่าห์หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมาก่อนแล้วแท้ ๆ “งานก็หายาก เงินก็ต้องใช้ กลับบ้านไปดีไหมช่วงนี้น่ะ !” ลฎาภานิ่งค้างท่าที่ยืนตะโกนพูดออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว เธอหันมองรอบ ๆ แล้วรีบเดินออกมาโดยไวทันที แต่ทว่ามีหญิงวัยกลางคนได้เดินเข้ามาหา กล่าวทักทาย อย่างเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16
  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 13 คาดเดาไม่ได้

    Chapter 13 ห้องทำงานบนชั้นสอง ภายในห้องเรียกว่าเป็นโทนน้ำตาลดำทั้งหมดจนดูน่าหม่นหมอง แต่ก็เหมาะกับเขาดีเหมือนกัน ลฎาภาเดินเข้ามาวางของว่างบนโต๊ะทำงาน ครั้นเงยหน้าหันตัวก็พบกับตู้หนังสือจึงเดินเข้าไปหา แต่ละเล่มดูแล้วเป็นหนังสือกวีนิพนธ์ ส่วนใหญ่เป็นของของวิลเลียม เชกสเปียร์ ดวงตากลมมองหนังสืออย่างหลงใหล ถึงแม้เธอจะไม่ใช่พวกหนอนหนังสือมากก็จริง แต่สมัยเรียนก็ชอบยืมหนังสืออ่านจากหอสมุดมาบ่อย ๆ “The Tempest” เธอพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นกับหนังสือตรงหน้าจำได้ว่าสมัยเรียนเคยจะยืมมาอ่านแต่ที่หอสมุดนั้นไม่มี และเธอก็ไม่อยากซื้อหนังสือเก็บจะลำบากตอนย้ายหอถ้าหากของเยอะ สายตามองอย่างอดใจ แม้จะเอื้อมมือแตะสันหนังสือที่วางอยู่โดยไม่หยิบออกมา “เฮ้อ...ตัดใจซะยัยจอม” ลฎาภาถอนหายใจออกมาก่อนที่จะหันตัวออก “อุ๊ย !” หญิงสาวเผลอหลุดคำอุทานออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนจ้องมองอยู่ เธอยิ้มออกมาเจื่อน ๆ แล้วก้มหน้าลงก่อนจะเดินขยับข้างไปทีละนิด “ฉันนำอาหารว่างมาให้ค่ะ” เธอพูดขึ้นโดยไม่กล้าสบตามองเขาเพราะอีกฝ่ายเงียบนิ่งจนเดาไม่ออกว่าโกรธ ไม่พอใจ หรืออะไรกันแน่ “วันนี้ป้าผ่องจะกลับบ้าน ช่วงเย็นหลังอาหย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-16

บทล่าสุด

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 63 สัมพันธ์สามีภรรยา (จบ)

    Chapter 61 (special III)“นี่...” เธอเรียกเขาด้วยเสียงสะอื้นก่อนจะใช้มือดึงเสื้อจากทางด้านหลัง “ทำไมถึงยอมมารับฉันล่ะ”“ไม่รู้สิ” ศรันภัทรตอบโดยไม่หันหลังกลับไปงั้นเหรอ...?ถลัชนันท์ปล่อยมือออกจากเสื้อของเขา ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มทางด้านหลัง นั่นไม่ใช่ความรู้สึกที่รักเลยเพียงแต่ว่าอยากทำยังไงก็ได้ให้ความเจ็บปวดนี้หายไป“มีอะไรกับฉันได้ไหม” เป็นคำพูดสิ้นคิดหรือความต้องการในส่วนลึกกันแน่ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพียงแต่ถ้ามันปลอบใจจากความเจ็บปวดได้แล้วล่ะก็... “แค่ครั้งนี้ แล้วพรุ่งนี้ฉันสัญญาว่าจะหย่ากับคุณ ขอร้องละ”ศรันภัทรยืนอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้ยินคำพูดจากปากหญิงสาว เขาเองตอนนี้ยังสับสนมากที่จะบอกว่ารู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้แบบคนรักจริง ๆรู้ดีว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้น...ถลัชนันท์คลายมือออกจากชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดน้ำตา บางทีก็คิดว่าพอแล้วกับความรักที่เข้ามา“ขอโทษค่ะ ฉันคงบ้าไปหน่อย” เธอพูดเสียงสั่นพลางหัวเราะ “ถ้ายังไงพรุ่งนี้เราไปหย่ากันนะค

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 62 สัมพันธ์ลับในอดีต

    (special I)เวลาทำงานผ่านไปจวบจนกระทั่งหมดวันแล้ว ถลัชนันท์ขยับตัวเก็บกองเอกสารบนโต๊ะให้เข้าที่ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเช็กชื่อออกจากบริษัทไป แต่ละวันผ่านไปก็ช่างยาวนานซะเหลือเกิน และก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก ตื่นเช้าออกไปทำงานกลับมาบ้านกินข้าวและเข้านอน ถึงแม้ว่าช่วงเดือนนี้จะเริ่มสนทนากับสามีที่แต่งงานด้วยมากขึ้นก็ตาม ทว่าความสัมพันธ์รักใคร่ก็ไม่ได้พัฒนาตามไปด้วยเลยหญิงสาวเดินออกจากลิฟต์แล้วหยุดชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปหยิบขึ้นมาดูปลายสายที่โทร. เข้ามา“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถลัชนันท์เอ่ยถามอย่างทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่โทร.มาคือสามีนั่นเอง น้อยครั้งที่เขาจะติดต่อมาหาหรือยอมพูดคุยด้วย[เปล่า คุณแม่บอกวันนี้คุณจะไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน เลยให้ผมโทร.มาถามว่ากลับดึกไหม ?]พอได้ฟังก็รู้สึกสมเพชตัวเองมานิดหนึ่ง ทว่าเรื่องนี้ก็เริ่มชินไปซะแล้ว อีกอย่างแม่สามีไม่ได้ใจร้ายเหมือนในละครหลังข่าว ตรงข้ามกันกลับทำดีกับเธอด้วยซ้ำไป“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันมีนักเดตกับเพื่อนสมัยเรียน” เธอตอบกลับไปแล้วพูดต่อไปว่า &ld

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 61 ความรู้สึกที่คุ้นเคย

    ค่ำคืนแสนหวานอันยาวนานได้ผ่านพ้นไปเข้าสู่เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ ร่างเล็กบนเตียงขยับตัวปรือตาด้วยความหนักอึ้ง หันมองพื้นที่เตียงว่างเปล่าก่อนใช้แรงที่เหลืออยู่น้อยนิดพยุงร่างกายขึ้นนั่ง สะโพกปวดร้าวระบมไปหมดจนไม่มีแรงจะขยับ ดวงตากลมมองรอบห้องที่เงียบสนิทไร้วี่แววของชายหนุ่มประตูห้องถูกเปิดออกหญิงสาวรีบยกผ้านวมขึ้นปิดบังร่างกาย พลางส่งสายตามองอวิ่นเยว่เดินเข้ามาหา“คุณตื่นแล้วหรือ” เขาเดินเข้ามาหาลฎาภาพยักหน้าแทนคำตอบด้วยความเขินอายพลางขยับตัวลงจากเตียงแต่ว่าขาสั่นจนแทบไม่มีแรง ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนเดินเข้ามาอุ้มเธอขึ้น นัยน์ตาคมมองร่างเปลือยที่เชยชมมาทั้งคืนมีร่องรอยตีตราจนนับไม่ถ้วน“ฉันเดินเองได้ค่ะ”อวิ่นเยว่หัวเราะในลำคอ “แสดงว่ายังมีแรงเหลือสินะ”“คุณเผิง !” เธอแก้มแดงผ่าวร้อนขึ้นมาทันทีชายหนุ่มยิ้มขำก่อนจะอุ้มหญิงสาวมายังห้องน้ำ เขาวางเธอลงบนขอบอ่างอาบน้ำก่อนเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณอาบน้ำไหวไหม ?”“ไหวค่ะ คุณออกไปเลยนะคะ” ลฎาภาตอบกลับในทันทีอวิ่นเยว่ยิ้มข

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 60 ขั้นตอนฟื้นความจำ

    Chapter 57การเคลื่อนไหวของร่างกายรุกล้ำเข้ามาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิด อวิ่นเยว่ดันร่างเล็กให้ชนชิดกับผนังกำแพง บดจูบขยี้ริมฝีปากด้วยความโหยหา คราวนี้ทำเธอหายใจลำบากจึงต้องดันเขาออกห่าง แต่กลายเป็นว่าการพักนั้นทำให้ชายหนุ่มรุกล้ำลิ้นเข้ามาได้สำเร็จ“อื้อ” เสียงร้องครางดังประท้วงบอกจนต้องถอนจูบออกด้วยความเสียดาย อวิ่นเยว่จ้องมองใบหน้าเนียนสวยแดงก่ำก้มหลบเขินอาย มือข้างหนึ่งเชยขึ้นให้สบตาอีกครั้งและจูบหยอกเย้าเบา ๆ จนสติสัมปชัญญะของหญิงสาวหลุดล่องลอยไปลฎาภาควบคุมความต้องการของร่างกายไม่ได้ราวกับว่าไม่ฟังสิ่งที่สมองสั่งการสักนิด เธอเผลอให้ความปรารถนาที่อยู่ภายในจิตใจเข้าครอบงำจนหมดสิ้น จูบเร่าร้อนอ่อนโยนจนแทบระทวยนี้กลับรู้สึกคุ้นเคยโหยหามากที่สุดแต่...ที่บ้าที่สุดคือการตอบสนองเผลอไปกับคารมของเขา !อวิ่นเยว่จูบซับไปตามใบหน้าไล่จนมาถึงต้นคอของหญิงสาว มือที่เคยรั้งเอวไว้คลายออกล้วงเข้าไปในสาบเสื้ออย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าที่จะใช้มือปลดเสื้อผ้าส่วนบนออกโยนทิ้งลงพื้นในขณะที่สติของเธอกำลังหลุดลอย“คุณเผิง” เธอเอ่ยเรียกชื่อเขา ทั้งที่ยิ่งเร

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 59 วิธีฟื้นความจำ

    Chapter 56อวิ่นเยว่ผ่อนลมหายใจซุกที่หัวไหล่ของเธอ “นะ”เพียงคำเดียวก็รู้ถึงความหมายที่เขาต้องการบอกว่า ‘ขอซุกหน้าอกแบบอาหยูด้วยคน’“ทำไมอาหยูถึงได้ แล้วผมไม่ ?”ไม่น่าถามนะคำถามนี้ คุณเผิง !“ไม่ค่ะ” เธอตอบกลับเสียงเข้มพลางจ้องหน้าเขาเขม็ง“อาหยูเป็นเด็ก”“เหรอ” เขาขานรับอย่างจำใจก่อนจะขยับตัวหันมา นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า เขาต้องใช้ความอดกลั้นอย่างมากที่จะไม่คิดอะไรเกินเลยตอนนี้ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าหลบยกมือขึ้นปิดปากด้วยความเขินอาย ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้นานแค่ไหนกัน“เราขึ้นกันเถอะ อาหยูกำลังรออยู่”อวิ่นเยว่พูดพลางขยับตัวออกห่างจากหญิงสาว ก่อนจะลุกขึ้นโดยลืมไปว่าร่างเปลือยของเขานั้นเธอได้เห็นเต็มสองตา !ลฎาภาอึ้งนิ่งค้างจนทำอะไรไม่ถูก เขาลืมไปไหมว่าเธอยังอยู่ตรงนี้ “คุณเผิงรีบออกไปเลยนะคะ !”อวิ่นเยว่หันมองและเพิ่งคิดได้ว่าตอนนี้โชว์กายให้หญิงสาวมองอยู่นั่นเอง เขาทำหน้านิ่งรีบเดินไปหยิบผ้าขนหนูและเสื้อคลุมเดินออกจากห้องน้ำไปอย่าง

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 58 อาหยูขออ้อน

    Chapter 55หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ป้าผ่องจึงจัดการเก็บครัวและกลับบ้านไป ทางด้านลฎาภาที่ไม่รู้สึกคุ้นชินบ้านหลังใหญ่จึงทำตัวไม่ค่อยถูก ทั้งยังไม่รู้ว่าควรจะไปตรงไหนต่อดี จึงได้แต่ยืนงงอยู่หน้าบันไดเป็นเวลานาน“หม่าม้า” เจ้าตัวกลมเดินเข้ามาดึงชายเสื้อของเธอและออกแรงลาก“อาหยู...”เธอเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “มีอะไรเหรอจ๊ะ”“อาบน้ำกับอาหยูได้ไหม” น้ำเสียงออดอ้อนและแววตาของ เจ้าตัวกลมทำให้ลฎาภานิ่งเงียบไปชั่วขณะ ไม่ใช่ว่าจะปฏิเสธหรอกนะ เพียงแต่ว่าสภาพร่างกายที่ยังพักฟื้นไม่สมบูรณ์ ก็ไม่อยากจะใช้แรงดูแลเด็กมากนัก แต่ถ้าหากปฏิเสธไปจะเป็นการทำร้ายจิตใจหรือเปล่านี่สิ“ไม่ได้เหรอ” เสียงอู้อี้ในปากและท่าทางออดอ้อนของเจ้าตัวกลมทำให้หญิงสาวรู้สึกลำบากใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน อาจเป็นเพราะว่าพ่ายแพ้ต่อเด็กผู้ชายน่ารัก ๆ ทว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้แตกต่างจากการพบกับเด็กคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก“แต่ว่านะ...”“ได้สิ” เสียงของอวิ่น

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 57 ความทรงจำที่หายไป II

    Chapter 54“บางทีฉันอาจจะยังไม่เคยพบเขาเลยก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็คงจำได้สิ แม่ พ่อ พี่และเพื่อนฉันก็ยังจำได้เลย” เธอพูดขึ้น เพราะครั้งแรกที่พบกันก็ไม่ได้รู้สึกว่าคุ้นเคยหรือรู้จักกันเลยสักนิด“แต่ว่านะ...” ถลัชนันท์หยิบโทรศัพท์มือถือของน้องสาวส่งคืนให้ “แกกับเขาเคยคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ และก่อนเกิดอุบัติเหตุแกก็บอกเลิกเขาอยู่เลย นี่ดูสิ...”ลฎาภาเปิดข้อความที่คุยกันแล้วอ่านอย่างไม่เชื่อสายตา ทุกอย่างเป็นไปตามที่พี่สาวบอก ทว่าทำไมกลับรู้สึกจำอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ทำงานที่นี่นี่นา “แต่ว่านะ ตอนฉันทำงานพาร์ตไทม์ เป็นพี่เลี้ยงเด็กกับคนใช้น่ะ ก็ไม่มีอะไรไม่มีใครจีบนะ และอีกอย่างถ้าเป็นความจริงในแชทนี้ ฉันเลิกกับเขาแล้วนะ”เธอพูดเสียงแผ่วลงเรื่อย ๆ เพราะความทรงจำที่จำได้ก็คือการจำได้ แต่ถ้าจะถามหน้าตาของเจ้านายด้วยแล้ว...ทำไมกลับนึกไม่ออก รู้แค่ว่าเคยทำ หลังจากนั้นก็เข้าไปทำงานในบริษัทเมื่อถึงเวลาเริ่มงานวันแรก หรืออาจเพราะเจอคนเยอะแยะก็มีลืมบ้างนะอวิ่นเยว่ที่กินข้าวและเอี้ยวหูฟังอยู่ก็หรี่ตามองด้วย

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 53 ความทรงจำที่หายไป

    Chapter 53ภายในห้องพักของโรงแรม ทันทีที่อวี้หลันเดินเข้ามาในห้องก็หยิบกระเป๋าเดินทางออกมาด้วยสีหน้าขุ่นเคืองเพราะไม่เคยคิดเลยว่าอวิ่นเยว่จะติดต่อเว่ยเหยียนเมิ่งให้มาหาด้วยแบบนี้ หากรู้ตั้งแต่แรกว่าตอนนั้นเหยียนเมิ่งยังไม่มีอำนาจใด ๆ ในมือของบริษัทเธอก็ไม่แต่งงานด้วยหรอก ต่อให้จะเป็นตระกูลที่ร่ำรวยแต่ว่าต่างคนนำเงินก้อนไปลงทุนและสร้างความมั่งมีเอง ไม่ก็ใช้ความสามารถบริหารงานจนก้าวหน้า แต่ไม่ใช่กับเขาที่กลัวจนทำอะไรไม่เป็นเป็นคุณชายที่ไม่มีอะไรดีนอกจากใช้เงินของตระกูล จนหลายครั้งที่เธอก็ต้องทนคนในบ้านหัวเราะเยาะสมเพช ! ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของลูกชายคนโต คนเล็ก หรือญาติในตระกูลพอกันทีกับความน่าสมเพชนี้...!หญิงสาวเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้และของใช้ส่วนตัวที่วางอยู่ยัดใส่ลงในกระเป๋าเดินทางอย่างไว มีทางเดียวคือการรีบกลับไปหย่าให้เสร็จเพื่อคืนชีวิตอิสระของเธออวี้หลันหันมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋าสะพายก่อนจะหยิบออกมาดูและกดรับ[อวี้หลัน ผมรักคุณนะ เรากลับมาคุยกันก่อน]เธอทำสีหน้าเบื่อที่อีกฝ่ายพยายามโทร. ตามตื๊อ แน่นอนว่าหลายปีที่พยายามรักและแสร้งทำดีด้วยเพ

  • SWEET SITUATION หนีรักมาพบคุณ   บทที่ 52 คุณเผิงของคุณ

    Chapter 52“คะ...คุณเป็นใคร ?”“ผมเผิงอวิ่นเยว่ สามีเก่าของเจ้าอวี้หลัน”ชายหนุ่มแนะนำตัวอย่างเป็นทางการพลางหันไปเหลือบมองสีหน้า ของอวี้หลันที่ดูลนลาน“เธอ...แต่งงานแล้ว ?” เหยียนเมิ่งมีท่าทีตกใจสุด ๆ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายแนะนำตัว “ทำไมผมถึงไม่เคยรู้...”ไม่แปลกใจที่ไม่รู้เพราะงานแต่งของอวิ่นเยว่จัดเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มากนักแขกที่เชิญมาก็ไม่มากมายล้วนเป็นแขกสำคัญเท่านั้น ตรงข้ามกับงานแต่งของ ‘เว่ยเหยียนเมิ่ง’ ที่ถูกจัดขึ้นหรูหราจนในต่างประเทศคนส่วนใหญ่รับรู้กัน ว่าลูกชายคนรองของประธานเว่ย เจ้าของกิจการโรงแรม RX ที่มีสาขาหลายประเทศแต่งงานแล้วอวี้หลันรีบลุกขึ้นและดันอวิ่นเยว่ออกห่างจากเหยียนเมิ่งทันที“เหยียนเมิ่งเรากลับไปคุยกันทีหลัง...”“เธอบอกว่าอยากกลับมาอยู่กับผม” อวิ่นเยว่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “และจะทิ้งคุณไป”อวี้หลันเบิกตากว้างด้วยความตกใจและขุ่นเคืองกับคำพูดและน้ำเสียงของอวิ่นเยว่“ไม่จริง...ใช่ไหม ?” เหยียนเมิ่งมีน้ำเสียงผิด

DMCA.com Protection Status