“มาทำไม?” ฉันถามคนที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนกับคนที่โดนถามนั่นแหละ แต่แตกต่างตรงที่ฉันใจเต้นแรง แต่อีกคนก็คงไม่คิดอะไรทั้งนั้น
“มานอนดิ ง่วงฉิบ” เสียงเข้ม ๆ พูดจบก็เดินเข้ามาในห้องฉันแล้วถอดเสื้อผ้าเหลือแต่บ็อกเซอร์ กระโจนลงไปนอนที่เตียงควีนไซต์ของฉันทันที โดยที่ไม่ได้สนใจเจ้าของห้องอย่างฉันแม้แต่นิดเดียว
...ให้มันได้อย่างนี้สิ
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมินตรา เป็นนักศึกษา ปี 3 ม. S มหาลัยไฮโซชื่อดัง ที่ค่าเทอมแพงมากกก แต่เรื่องการเรียนการสอนก็ดีเลิศมากเช่นกัน บ้านฉันอยู่ต่างจังหวัด ฐานะกลาง ๆ แต่ก็พอมีกินมีใช้ มาเรียนที่กรุงเทพฯ ฉันก็เลยพักอยู่หอพักเล็ก ๆ ใกล้มหาลัย อันที่จริงก็ไม่กล้าเรียนหรอกนะที่นี่ เพราะเป็นมหาลัยไฮโซแถมยังเป็นอินเตอร์อีกดังนั้นไม่ต้องเดาค่าเทอมหรอกค่ะ ฉันไม่กล้าเอาเงินพ่อแม่ที่หามาอย่างยากลำบากมาจ่ายแน่ ๆ ถึงแม้จะอยากเรียนมากแค่ไหนก็ตาม แต่บังเอิญฉันสอบชิงทุนจากมหาลัยได้ค่ะ เลยมีโอกาสได้เรียนที่ดี ๆ
ส่วนคนที่เข้ามายึดพื้นที่เตียงนอนของฉันเป็นเพื่อนของฉันเองค่ะ แค่เพื่อนไม่ใช่แฟน ชื่อ ออสติน เขาเป็นผู้ชายที่หล่อ ถึงขั้นหล่อมาก และรวย ถึงขั้นรวยล้นฟ้า แต่ดันมาคบเพื่อนจน ๆ อย่างฉัน ไม่รู้ว่าเพราะเขาสงสารหรือสมเพชฉันกันแน่นะ เพราะเพื่อนเขาทุกคนโปรไฟล์ดีมากจนถึงขั้นดีเวอร์กันทั้งนั้น จะมีแค่ฉันนี่แหละที่เป็นแกะดำอยู่คนเดียว
“จะยืนบื้ออีกนานไหมวะ ไม่นอนไง” ออสตินเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างไม่สบอารมณ์หลังจากที่ฉันเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่รู้ใครเป็นเจ้าของห้องกันแน่
ฉันได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วปิดไฟ ก้าวลงไปนอนข้าง ๆ เขา เพราะมันไม่ชิน ถึงแม้เขาจะมาเคาะห้องตอนดึก ๆ แล้วขอนอนด้วยแบบนี้เป็นประจำตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่มันไม่เคยชินเลยสักครั้ง มีแต่จะใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่อาบน้ำก่อนหรอ กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว” ฉันเอ่ยถามเขาในความมืด กลิ่นเหล้าจากตัวเขามันแรงจริง ๆ นี่นา
“หึ ง่วง” ออสตินตอบสั้น ๆ ด้วยเสียงอู้อี้ แล้วคว่ำหน้าลงไปกับหมอน
“คนอื่นล่ะ” ฉันถามหาเพื่อนสนิทในกลุ่มของเขาที่มักจะเที่ยวด้วยกันประจำ
“กลับไปนอนบ้านมันดิ”
“แล้วทำไมนายไม่กลับไปนอนคอนโดนายเหมือนคนอื่น” ฉันถามเขากลับด้วยความฉุน เพราะไม่อยากจะเข้าใกล้เขาให้มากไปกว่านี้อีกแล้ว มันเจ็บนะ ได้อยู่ข้างคนที่รักได้ใกล้ชิดเขามากแต่ต้องทนเก็บความรู้สึก
ใช่! ฉันแอบรักออสติน รักมาตลอด 3 ปีที่เป็นเพื่อนกัน ทั้งที่พยายามห้ามใจ เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าฉันกับเขายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เฮ้อ! ช่างมันเถอะอย่าให้ต้องพูดถึงความอัดอั้นนี้เลย
“ขี้เกียจ” ออสตินยังตอบเรียบ ๆ แต่เหมือนจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา ก็ฉันเอาแต่ถามในขณะที่เขากำลังง่วงนี่นา
“แล้ว...”
“จะเลิกถามได้ยังวะ ไปเอากับน้องแนนหอข้าง ๆ มา ขี้เกียจกลับคอนโด ไม่อยากนอนห้องยัยนั่นด้วย เคลียไหม ง่วง!”
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามจบ ออสตินก็เงยหน้าตอบฉันด้วยความหงุดหงิดเเล้วฟุบหน้าลงไปนอนต่อ ทิ้งให้ฉันนิ่งอึ้งอยู่คนเดียว แถมใจยังเจ็บแปลบ ๆ ด้วย ทั้งที่รู้ว่าเขามีผู้หญิงตั้งมากมาย แต่เพื่อนอย่างฉันก็ไม่เคยชินสักครั้ง
“อื้ม” ฉันตอบแค่เพียงเท่านั้นก่อนจะค่อย ๆ ข่มตาให้หลับ
-เช้าวันต่อมา-
“ฮ้าว~” เช้าแล้วแต่เหมือนร่างกายฉันยังอยากให้มันเป็นเที่ยงคืนอยู่เลย แต่เอ้ะ! ทำไมมันรู้สึกแปลก ๆ กับร่างกายนะ ฉันค่อย ๆ ลืมตา อีกแล้ว...เป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ออสตินมานอนกับฉัน หมายถึง มานอนห้องฉันน่ะ
ตื่นมาทุกครั้งเราจะนอนกอดกันแน่น ออสตินจะชอบกอดฉันเอาไว้ ส่วนฉันก็นอนหนุนแขนเขา กอดเขาหลับเหมือนกัน ถ้าอ้อมกอดนี้มันเป็นของฉันจริง ๆ ก็คงดี แต่เขาก็คงนอนกอดผู้หญิงของเขาแบบนี้เหมือนกันแหละ
ฉันค่อย ๆ ขยับตัวช้า ๆ เหมือนออสตินจะรู้สึกตัวก็เลยขยับตัว แต่ก็หลับต่อ ฉันเลยลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปหาซื้ออาหารเช้าง่าย ๆ ขึ้นมากิน
แอด~
“ไปไหนมา” เสียงออสตินถามฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งไร้อารมณ์
“ไปซื้อข้าวเช้าไง นายหิวรึยัง” ฉันตอบคำถามของคนที่เพิ่งงัวเงียตื่น แล้วเดินไปหยิบถ้วยที่มุมครัวเล็ก ๆ ของห้องมาที่โต๊ะญี่ปุ่น
“แล้วทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยวะ เสื้อก็บางกางเกงก็สั้น ไม่สงสารคนที่เขาเห็นเธอบ้างไง” จู่ ๆ ออสตินก็วิจารณ์การแต่งตัวของฉันด้วยความหงุดหงิด
เออฉันก็เข้าใจแหละว่าเขาไม่ชอบ ฉันแต่งตัวแบบไหนเขาก็คงมองว่ามันน่าเกลียดเพราะเขาว่าฉันแบบนี้ประจำ นี่ขนาดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นนะ ทำไมวะฉันมันขี้เหร่อะไรมากมายรึไง เหอะ!
“จะกินไหม?” ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำน่ะ ชวนเปลี่ยนเรื่องดีกว่า
“กิน แกะให้ด้วย” ออสตินสั่งแล้วก็ก้าวลงมานั่งข้างฉันเพื่อรอกินข้าว แล้วก็นั่งกดโทรศัพท์
“ไปแปรงฟันก่อนสิ” ฉันร้องบอก เพราะหมอนี่กำลังจะตักข้าวต้มเข้าปาก โดยที่ยังไม่ล้างหน้าแปรงฟัน แต่ทำไมเขาถึงได้ดูดีแม้กระทั่งตอนตื่นแบบนี้นะ
“หึ ขี้เกียจ”
“ติน” ฉันเอ่ยชื่อเขาสั้นๆ ด้วยเสียงนิ่งซึ่งก็ได้ผล ออสตินหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจแต่ก็ยอมไปล้างหน้าแปรงฟัน
“มิน รีดเสื้อให้หน่อยดิ” พอกินข้าวอิ่มออสตินก็กระโดดไปนอนเล่นโทรศัพท์บนเตียงพร้อมกับใช้ฉันรีดชุดนักศึกษาให้
“รีดให้แล้วน่ะ” ฉันตอบเขาไป ออสตินมาค้างบ่อย ๆ เขาเลยเอาเสื้อผ้าบางส่วนมาไว้ที่ห้องฉัน
“เค ๆ จะเข้ามอกี่โมง”
“เที่ยง” ฉันตอบเขาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเพราะนี่ก็จะ 11 โมงแล้ว รีบแต่งตัวดีกว่า ฉันแต่งตัวนาน
-มหาลัย S-
“โหไอ้ตินมาพร้อมมินอีกแล้วนะมึง” เสียงไอ้เควิน หรือไอ้วินเพื่อนสนิทของผมดังขึ้นตอนผมเดินมาที่โต๊ะประจำกลุ่ม
“เสือก” ผมตอบกลับมันไปแล้วนั่งลง ส่วนมินตราเดินแยกไปหาเพื่อนของเธอแล้ว อ้อ ผมกับมินตราเป็นเพื่อนสนิทกันนะครับแต่อยู่มหาลัยเราก็มีเพื่อนสนิทคนละกลุ่มเพราะเรียนคนละสาขาแต่คณะเดียวกัน ผมกับเธอเราสนิทกันเพราะทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย ๆ ยัยนั่นเป็นดาวคณะส่วนผมเป็นเดือนน่ะ
“มึงทำแบบก็ไม่มีใครกล้ามาจีบมินดิวะ แม่งคิดว่ามึงเป็นผัวมินกันทั้งมหาลัยละ” ไอ้ห่าแอลฟ่าพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งของมัน
“หึ!” ผมกระตุกยิ้มนิดหน่อย ไม่ตอบอะไรมันทั้งนั้น ใครต่อใครก็ชอบคิดว่ามินตราเสร็จผมแล้ว แต่ก็ดีแล้วล่ะจะได้ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับยัยนั่น ผมไม่ได้จะเก็บไว้กินเองหรอกนะครับ แต่ผมกลัวยัยนั่นโดนผู้ชายหลอกเจาะไข่แดง มินตราเป็นเด็กดี บางครั้งก็เหมือนจะหัวอ่อนเกินไปจนผมกลัวจะโดนหลอกเข้าสักวัน
ผมรู้สันดานผู้ชายดี ผมถึงได้ห่วงเพื่อนไง ผมก็เลวหรือเลวกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไรถึงได้คอยเป็นไม้กันหมา แต่ให้คิดเกินเลยกับมินตราผมคงไม่คิดหรอก ยัยนั่นไม่ได้เอ็กซ์ในแบบที่ผมชอบ ถึงจะสวยมากก็เถอะ แต่ให้เอาเป็นเมียคงไม่
...เพื่อนกับเมียมันไม่เหมือนกัน
“มึงไม่กลัวเขาจับมึงทำเมียเหรอวะ” มิลาน เพื่อนสนิทที่ฉันไว้ใจให้รู้ความลับทุกเรื่องถามฉันหลังจากที่ฉันเล่าให้มันฟังว่าออสตินมาค้างห้องฉันเมื่อคืน“ไม่หรอกมึง เค้าไม่คิดอะไรกับกูเกินเพื่อนหรอกน่า”“เออคิดหรือไม่คิดไม่รู้แต่เวลาเขามานอนห้องมึงเขามาด้วยสภาพเมา คนเมาไว้ใจได้เหรอ”“ไม่หรอกมึงปกติเขามาก็เมาตลอดเขาก็ไม่เคยทำอะไร สบายใจได้” ฉันบอกมิลานไปให้มันหมดห่วง ซึ่งมันก็เรื่องจริงนั่นแหละ ออสตินไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากแค่กอด ซึ่งก็คงแค่เผลอนึกว่าฉันเป็นหมอนเท่านั้น“อื้ม” มิลานรับคำแต่ฉันรู้ว่ามันก็ยังเป็นห่วงฉันอยู่ดี“ชานี~” เสียงแหลมๆ ของแมน หรือแมนนี่ เพื่อนเกย์รับ หุ่นล่ำ หน้าหล่อ อีกหนึ่งเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่องของฉันตะโกนเรียกพวกฉันมาแต่ไกล“ว่าไงตุ๊ด” มิลานเอ่ยทักอีแมนนี่ทันทีที่มันเดินมาถึง“วันนี้วันศุกร์ ไปล่าผู้กัน ห้ามเทกูจองโต๊ะละ” แมนนี่ชวนแกมบังคับให้ออกไปล่าผู้กับมันอีกแล้ว ฉันไม่ได้ชอบเที่ยวหรอกนะ แต่ก็ไปกับพวกเพื่อนไปงั้นแหละ แค่ไปนั่งเม้าท์กับเพื่อนเพลิน ๆ น่ะ“ที่?” มิลานถามแมนนี่ สองคนนี้มันสายเที่ยวน่ะ“The most”“เลิศมากค่า~” มิลานปรบมืออย่างถูกใจผับที่แมนนี
“ฮ่า ๆๆ จริงเหรอวิน เราไม่รู้เลยนะว่าวินเคยโดนเกย์วางยานอนหลับเนี่ย” ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะ VIP 1 เพื่อน ๆ ฉันก็ตามขึ้นมานั่งด้วย หลังจากที่ผละมาจากออสติน ไม่รู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรจู่ ๆ ก็มาหาเรื่องฉัน แต่ช่างมันเถอะคิดไปก็ปวดหัว เอาเวลามาสนุกกับเพื่อน ๆ ดีกว่า ส่วนออสตินน่ะหรอ นี่ครึ่งชั่วโมงแล้วเขายังไม่ลงมาเลย“เออดิ ตื่นมานะแม่งมันจับเราแก้ผ้าละ แล้วบอกว่าเราเป็นผัวมัน...” ฉันนั่งคุยกับเควินไปเรื่อย เขาอัธยาศัยดีนะคะคุยสนุกด้วย ส่วนชะนีกับกระเทยมันเดินไปแอ๊วผู้ที่ไหนก็ไม่รู้“เฮ้ย! เป็นเหี้ยไรของมึง” เสียงแอลฟ่าดังขึ้นฉันกับเควินก็รีบหันไปมอง จะใครล่ะ ออสตินไง เดินมาจากไหนก็ไม่รู้หน้าตาอย่างกับยักษ์กระชากตัวยัยนมโตที่นั่งป้อนนมแอลฟ่าอยู่ตั้งนานไปจูบ แถมจูบอย่างดูดดื่ม ยัยนั่นก็หน้าไม่อายนั่งอยู่กับแอลฟ่าแท้ ๆ พอออสตินกระชากไปจูบก็จูบตอบแบบถึงพริกถึงขิง เหอะ!ออสตินจูบกับยัยนมโตอยู่นานท่ามกลางสายตาของพวกเรา และผู้คนรอบ ๆ จนพอใจเขาก็ผละออก แล้วออสตินก็หันมามองฉันตาขวาง ก่อนที่จะเดินออกไป อะไรของหมอนี่กันนะ เข้าใจยากที่สุดเลย“มึง ๆ เกิดไรขึ้น ทำไมไอ้ตินมันจูบอีนมโตของแอล” แมนนี่รีบเ
“พูดบ้าอะไรของนาย!” ฉันตะโกนด่าออสตินทันทีหลังจากที่จับใจความคำพูดทุเรศ ๆ นั้นได้ ตอนนี้ตัวฉันสั่นไปหมดด้วยความโกรธ“หึ! ทำไม? แทงใจดำรึไง” ออสตินแค่นเสียงใส่ฉัน นี่เขาเมามากไปรึเปล่า“อย่ามาพูดมั่ว ๆ ทุเรศ ๆ แบบนี้ออสติน ถ้านายเมาก็กลับไปซะฉันจะนอน” ฉันพยายามข่มอารมณ์โกรธ เพราะกลัวว่าถ้าขึ้นเสียงใส่เขาจะรบกวนห้องอื่นที่เขาพักผ่อนกัน นี่มันตี 2 กว่า ๆ แล้วด้วย“มีผัวแล้วไม่อยากให้เพื่อนเข้าห้องหรอวะ” เฮ้ย! ฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ“ไอ้เชี่ย! ความคิดอุบาทว์ ฉันไม่ได้ง่ายเหมือนผู้หญิงของนายนะ!”“หึ! แน่ใจเหรอมินตรา เธอกับมันขึ้นห้องมาตั้งนานสองนาน คนอย่างไอ้เควินอยู่กับผู้หญิงสองต่อสอง มันคงยอมนั่งจ้องตากับเธอหรอกนะ เอากันจนเสร็จแล้วก็ยอมรับมา!” ออสตินปรี่เข้ามากระชากไหล่ฉันเขย่าแรง ๆ พร้อมกับใช้เท้าเตะประตูให้ปิดลงดังลั่นไปทั้งชั้นปัง!“นี่จะทำบ้าอะไรน่ะออสติน!”“ทำไม? ฉันจับนิดจับหน่อยไม่ได้เลยรึไง หวงตัวไว้ให้ผัวคนล่าสุดเหรอวะ!” ออสตินกระชากเสียงถาม คือตอนนี้ฉันกลัวเขามาก ออสตินตัวสั่น ตาแข็งกร้าว มือเขาบีบไหล่ฉันแรงจนฉันปวดไปถึงกระดูก“ออสติน นายเป็นบ้าไปแล้วรึไง ปล่อยฉันฉันเจ็บ!”
-เวลาต่อมา-“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ! ซี๊ด~” ตอนนี้ผมกำลังกระแทกมินตราจากด้านหลัง ผมจับเธอคว่ำตัวในท่าคลานแล้วล็อกสะโพกให้ชูขึ้นรับท่อนเอ็นของผม มินตราแม่งครางโคตรเซ็กซี่แถมหัวไวอีกต่างหาก โดนครั้งแรกแต่รับผมได้ดีสุดยอด“โอ้ว~ อ่าส์ ตาเธอทำบ้างมิน” ผมจับเอวมินตราแล้วผมก็เอนหลังลงไปนอนทำให้เธอที่อยู่ในท่าคลานเปลี่ยนมาเป็นนั่งหันหลังอยู่บนตัวผมแทน“อ๊ะ ตะ แต่เราทำไม่เป็น” เสียงยัยนี่บอกผมเบา ๆ แต่แม่งเสียงตอนมีอารมณ์ของเธอโคตรเร้าอารมณ์ดิบผมเลย“อ่าส์ แบบนี้ไง อืม~ ช้า ๆ” ผมจับเอวเธอไว้แล้วจับมันกดขึ้นลงช้าเป็นจังหวะ พอเธอจับทางได้เท่านั้นก็ทำผมไม่อยากเอาใครอีกเลย อยากจะเอามินตราทั้งวันทั้งคืน“ซี๊ด~ ตะ ติน เราจะ อ๊ะ อ๊ะ อร้าย!” เสียงมินตราครางบอกผมแล้วก็ตัวกระตุกเกร็ง แถมยังตอดรัดลูกชายผมถี่รัว ผมเองก็จะเสร็จไปด้วยจนต้องกระแทกสวนขึ้นรัวเร็ว“อ่าส์~” ไม่นานผมก็เกร็งกระตุกฉีกน้ำรักอุ่น ๆ เข้าไปในตัวของมินตรา ลืมบอกไปผมเอาสดนะครับ ตั้งแต่ครั้งแรกเลย เกิดมายังไม่เคยเอาใครสดเลยสักครั้ง ยัยนี่เป็นคนแรกแล้วก็ไม่ได้ฉีดไปครั้งเดียวด้วย นี่รอบที่ 3 ที่ผมเสร็จส่วนมินตราเธอเสร็จนำผมเกินนั้นไปหลายรอบแล้ว“อื้
-มหาลัยวิทยาลัย-“ฮาโหลว~ มินตราคนสวย” เสียงแมนนี่ที่เดินมากับมิลานตะโกนทักฉันที่นั่งรอพวกมันที่โต๊ะประจำของพวกเรา“อื้อว่าไงพวกมึง มาช้าตลอดเลยนะ” ฉันยิ้มทักทายเพื่อนทั้งสองคนเหมือนอย่างเคย“รถแม่งอย่างติดอ่ะ รู้งี้นะอยู่หอใกล้มอแบบมึงดีกว่า” มิลานนั่งลงแล้วบ่นตามประสามัน“เออ ๆ อย่าบ่นน่าเดียวก็จบแล้ว อ่ะ กินซะกูซื้อไว้รอแล้ว” ฉันยื่นข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าประจำของพวกเราให้มันสองคน ฉันอยู่หอใกล้มหาลัยเลยมีหน้าเตรียมเสบียงตอนเช้าให้เพื่อน ๆ ไม่งั้นสองคนนี้ไม่ได้กินข้าวเช้าแน่“เลิศมากลูกสาวแม่” แมนนี่มองข้าวเหนียวหมูปิ้งของโปรดมันด้วยความพอใจแล้วรีบกินทันที ก่อนที่พวกเราจะขึ้นเรียนหลังเลิกเรียนพวกเราก็มานั่งที่โต๊ะประจำเพื่อนั่งเม้าท์นั่งเล่นกันตามประสา“มึง ๆ ใกล้ปิดเทอมแล้วนะไปเที่ยวทะเลกันดีไหม” อีแมนนี่เอ่ยชวนเพราะนี่ก็ใกล้จะปิดเทอมกันแล้ว เทอมหน้าก็ขึ้นปี 4 คงต้องแยกย้ายกันไปฝึกงาน ชีวิตนักศึกษาเริ่มสั้นลงไปทุกที“เออดี ๆ ว่าแต่ไปทะเลไหนดีวะ ไปกระบี่ไหม ญาติกูมีบ้านที่นั่นติดหาดเลยนะ” มิลานยิ้มร่ารีบเสนอ เรื่องเที่ยวขอให้บอกโดยเฉพาะเที่ยวทะเลมิลานมันชอบมาก“จริงไหมมึง ไป ๆๆ กูไปค
-หลายวันต่อมา-หลังจากวันนั้นผ่านมาเกือบอาทิตย์ฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยที่มีเพื่อนรักทั้งสองคนคอยช่วย จนตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปมาก จากผมที่เคยสีดำสนิทยัยสองคนนี้เปลี่ยนฉันให้มีผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าฉันขาวผุดผ่องขึ้นมาเป็นกอง ไหนจะลองให้ฉันเปลี่ยนโทนการแต่งหน้าแล้วก็ยกเซ็ตเสื้อผ้าให้ฉันแทบทั้งหมด จนตอนนี้ฉันกลายเป็นสาวสวย เฉี่ยว เปรี้ยว เผ็ดเป็นที่เรียบร้อยอ้อเรื่องเสื้อผ้าต้องยกให้เป็นความดีความชอบของมิลานค่ะ เพราะฉันคงไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดหรอก ถึงพ่อแม่จะส่งมาให้ใช้แต่ละเดือนไม่ได้น้อยหน้าใคร แต่ฉันรู้ดีว่าครอบครัวฉันไม่ได้ร่ำรวยมากอย่างใครเขา เงินแต่ละบาทที่พ่อแม่ส่งมาให้แลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของท่านทั้งนั้น เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ยอมเอาเงินพ่อแม่มาใช้จ่ายด้วยเรื่องไร้สาระเด็ดขาดแต่เพราะมิลานมันมีแบรนด์เสื้อผ้าของมันเองแถมขายดิบขายดีซะด้วย มันยกมาให้ฉันทุกแบบเลยล่ะ ตอนแรกฉันก็ไม่รับหรอกนะของซื้อของขาย มันเลยยื่นข้อเสนอที่มันเสนอฉันมาหลายรอบแล้วว่าให้เป็นนางแบบเสื้อผ้าให้แต่ไม่เคยยอมเป็นให้สักทีรอบนี้ฉันเลยยอมรับข้อเสนอแลกกับเสื้อผ้าก็แฟร์ทั้งสองฝ่ายดี“
“หึ! มึงจะไม่เลือกหน่อยหรอวะ...จะจริงจังต้องเช็คตำหนิหน่อยนะ” อยู่ ๆ ออสตินที่ยืนนิ่งอยู่นานก็แค่นเสียงหัวเราะแล้วก็พูดประโยคนี้ออกมา อะไรนะ? เช็คตำหนิงั้นเหรอ เช็คตำหนิบ้าบออะไร!“มึงพูดเหี้ยไรวะไอ้ติน” เควินหันไปถามด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่ออสตินพูด“เมามั้งวินอย่าสนใจเลย ว่าแต่เมื่อกี้วินพูดจริงรึเปล่า ถ้าจริงจะได้ไปเช็คตำหนิกันก่อน” ฉันกอดแขนเควินแล้วหันไปพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เควิน รอยยิ้มที่ฉันมั่นใจว่ามันต้องเป็นรอยยิ้มที่ละลายใจแน่นอน เพราะใครต่อใครก็ชมว่าฉันยิ้มหวานยิ้มทีผู้ชายแทบละลาย แถมยังยื่นหน้าไปใกล้เควินจนฉันรู้สึกได้ว่าเควินถึงกับกลั้นหายใจเลยทีเดียว“เหอะ!” ออสตินปลายตามาฉันเหมือนอยากจะฆ่าให้ตาย คงโกรธที่ฉันต่อปากต่อคำสินะ แล้วนายนั่นก็ทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันด้วยการกระชากยัยน้องปอบปากอาบเลือดนั่นเข้าไปจูบด้วยความเร็วมาก จนพวกเราตาโตก็เล่นกระชากไปจูบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทีแรกยัยน้องปอบปากอาบเลือดก็ตกใจหรอก แต่แค่ 2 วินาที ยัยนั่นก็ตั้งสติแล้วก็แลกลิ้นกับออสติน แถมยังเอามือปะป่ายไปทั่วตัวอีตานั่นอีก ไม่แก้ผ้าเอากันตรงนี้เลยล่ะ!“ว๊ายตายแล้ว~ ตาเถร คนจะเอากัน โอ้ยอีติน!”
“ทำไรกันสาว ๆ” พวกฉันนั่งคะยั้นคะยอให้อีแมนนี่เล่าแผนการพิสูจน์บ้าบออะไรนั่นของมันมาพักใหญ่มันก็ไม่ยอมเล่า จนกระทั่งเควินที่เหมือนจะเพิ่งเลิกเรียนเดินมาเจอพวกเราที่นั่งหน้าตึกคณะพอดี“ฮายเควินสุดหล่อ เลิกเรียนแล้วเหรอคะ” อีแมนนี่โบกมือทักทายเควินแล้วก็ส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้ ขนลุกแทนเควินชะมัด ส่วนฉันกับมิลานก็ยิ้มทักทายเขาไป“อื้อ แล้วพวกเธอล่ะ ไม่มีเรียนเหรอ” เควินตอบแล้วก็นั่งลงที่ม้านั่งข้างฉัน“อาจารย์ปล่อยก่อนเวลาน่ะ แล้วนายล่ะเพื่อน ๆ ไปไหนหมด” มิลานถาม เออจริงสิปกติแก๊งหล่อ รวยชั่วโฉดเวลาเลิกเรียนมันต้องเดินลงมาที่พร้อมกันแต่วันนี้แปลกแฮะ“ไอ้แอลไปคุยธุระกับอาจารย์ ส่วนไอ้เหี้ยตินขึ้นไปห้องน้ำชั้นบน เด็กมันรออยู่” เควินตอบแล้วยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจแต่ฉันนี่สิเจ็บจี้ดที่ใจเลย ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำกับเด็กของเขาที่รออยู่...สมสู่กันได้ทุกที่จริง ๆ“เออแล้วกินข้าวกันยังหิวว่ะไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ” เควินมองหน้าพวกฉันสลับกัน“หิวแต่แมนนี่ไม่ว่างน่ะสิคะวินขา ต้องรีบไปหาหมอฟีลเลอร์หมดพอดี” แมนนี่บอกด้วยท่าทางอาย ๆ“เอ้างั้นเหลือมิลานกับมินดิไปไหนกันไหมล่ะ”
“ทำไมทำหน้ามุ่ยแบบนั้นเดี๋ยวแขกก็นึกว่าเจ้าบ่าวโดนบังคับให้แต่งงานหรอก” ฉันหันไปกระซิบถามออสตินที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่หน้างานด้วยความสงสัยลืมบอกไปสินะคะว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันกับออสติน เขินจังเลยวันนี้จะมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว อ้อ! ก่อนหน้านั้นออสตินเซอร์ไพรส์ขอฉันแต่งงานอีกรอบด้วยนะคะ ซึ่งลงทุนอลังการมากด้วยการซุกตัวเองลงในกล่องใบใหญ่ที่ฉันไม่มีทางรู้เลยจริงๆ ให้ตายเหอะ กล่องใหญ่ขนาดนั้นใครจะไม่รู้ถามจริง พอเปิดมาก็เจอผู้ชายผูกโบว์ยื่นกุหลาบดอกสวยที่สลักคำว่า Will You Marry Me เอาไว้พร้อมกับประดับเพชรเม็ดเล็ก ๆ ที่กลีบดอกเอาเป็นว่าถึงมันเหมือนไม่มีอะไรเป็นการขอแต่งงานที่โคตรอนุบาลแต่มันทำให้ประทับใจฉันมาก ถึงแม้จะไม่มีดนตรี ไม่มีพลุ ไม่มีดอกไม้ประดับเต็มห้อง ไม่มีลูกโป่ง ไม่มีเพื่อน ๆ ไม่มีกล้องหรือทีมงานมาเตรียมเซอร์ไพรส์เหมือนที่เคยเห็นบ่อย ๆ อย่างคู่อื่นแต่แค่มีเขาที่อยากจะดูแลฉันอยู่เคียงข้างกันและกันตลอดไปก็เพียงพอแล้ว“ว่าไงคะ ทำหน้ามุ่ยทำไม” ฉันถามออสตินอีกครั้งเพราะเขายังคงทำหน้าแบบนั้นไม่หยุด“เกลียดไอ้พวกนั้น” ออสตินบอกแล้วก็ชี้ไปทางกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวที่ยืนคุยก
“มึงจะนั่งซึมทำห่าไรไอ้ติน” เสียงไอ้เควินดังเข้ามาในสมองผมทำให้ผมถอนหายใจด้วยความรำคาญ“เออ มึงเรียกพวกกูมานั่งดูมึงถอนหายใจรึไง” ไอ้แอลถามขึ้นบ้าง แล้วพวกมันสองคนก็นั่งมองหน้าผมด้วยสายตากดดัน“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วก็ยกเหล้าขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้ว“เอา เอาไปอีก แดกเยอะๆ เลยมึง เมาแล้วจะได้พูด” ไอ้เควินยื่นแก้วของมันมาให้ผมอีกแก้ว ผมเลยปัดมือมันออกเบา ๆ“กูไม่เข้าใจว่ะทำไมผู้หญิงไม่ชอบพูดตรง ๆ วะ กูไม่ใช้ผู้วิเศษที่จะรู้ทุกความคิดนะเว้ย”“เออ ผู้หญิงก็แบบนี้แหละมึงต้องเข้าใจเขา” ไอ้เควินปรมาจารย์ด้านการเอาใจผู้หญิงตอบผมมา ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยครับ“มีคำแนะนำอื่นไหม” ผมถามออกไปทันที“ไม่ว่ะ กูไม่เคยมีเมีย ไม่รู้จะหาวิธีเข้าใจผู้หญิงไปทำไม มึงถามไอ้แอลดิ” ไอ้เควินยักไหล่ให้ผม“ไม่รู้ว่ะ ปกติงี่เง่าเมื่อไหร่กูก็จัดให้ดอกใหญ่ ๆ ตื่นมาก็หาย” ไอ้เชี่ยแอลตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อย ๆ ของมัน แต่ผมแทบอยากกระโดนถีบปากมัน แม่งไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย“พวกมึงแม่งไร้ประโยชน์ฉิบหาย”“ไอ้ห่าผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกันมึงจะง้อเหมือนกันได้ไงวะ นั่นเมียมึงมึงต้องรู้จักดีกว่าพวกกู” ไอ้แอลพูดขึ้นมา มันท
ฉันกลับมาถึงกรุงเทพในคืนวันอาทิตย์ด้วยสภาพ...โทรม! โทรมและไม่ได้เจอทะเลเลยเพราะวันเสาร์ทั้งวันออสตินไม่ยอมให้ฉันออกจากห้องพอวันอาทิตย์ฉันก็เลยนอนหมดสภาพในโรงแรม ยังดีที่ลากสังขารมาสนามบินได้“หน้ามุ่ยเชียว ไม่สนุกเหรอที่รัก” ออสตินเดินข้างฉันแล้วก็ถามหลังจากที่เราเอากระเป๋าเรียบร้อยแล้ว“สนุกกับผีน่ะสิ” ฉันตอบเขาไปแต่ไม่มองหน้า เกลียดมัน เกลียดไอ้หื่นนี่ แยกกันกลับตรงนี้เลยได้ไหม“เดี๋ยวพาไปใหม่น่า” ออสตินเดินมาโอบไหล่ฉันไว้แล้วบอกออกมา เหอะ! ไปก็เหมือนเดิมเชื่อเถอะตื๊ดดดดด ตื๊ดดดดเสียงโทรศัพท์ของออสตินดังขึ้น เขาหันมามองหน้าฉันเล็กน้อยแล้วยิ้มให้“ที่รักไปรอบนรถก่อนนะ สตาร์ทรถรอเลย คุยธุระแป๊บนึงเดี๋ยวตามไป” เขาบอกให้ฉันขึ้นไปรอบนรถแล้วก็เลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์ทิ้งให้ฉันมองตามด้วยความสงสัยว่าเบอร์ที่โทรมาเป็นใคร2 วันที่ไปเที่ยวจะมีคนโทรหาเขาบ่อยแถมยังคุยกันเป็นเวลานาน และทุกครั้งออสตินก็จะเลี่ยงออกไปคุยที่อื่นเพื่อไม่ให้ฉันได้ยินตลอด บางเวลาก็หันมามองที่ฉันเหมือนกลัวว่าฉันจะเดินเข้าไปใกล้แล้วได้ยินสิ่งที่เขากำลังคุยอ้อ! มันมีครั้งหนึ่งที่มีคนส่งข้อความเข้ามาฉันเห็นเขานั่งตอบอยู่รา
“อื้อ~” มินตราครางออกมาเพราะทันทีที่ผมพูดจบก็ดึงมือเธอไปจับที่กระบี่ของผม อ่าส์~ พอโดนมือนิ่ม ๆ ของเมียกระบี่ของผมก็ยิ่งแข็งสู้มือเธอในทันทีดูเหมือนเธอจะมีอารมณ์มาก พอผมชักนำคนสวยของผมก็เลยไม่ปฏิเสธแถมยังบีบกระบี่ผมเบา ๆ อ่าส์~ แค่คิดว่าจะโดนเมียเล่นกระบี่ก็ทำผมฟินจนน้ำแทบทะลักออกมาท่วมกระบี่เองแล้วครับ#AUSTIN END#MINTRA TALKฉันรู้สึกขัดใจนิดหน่อยที่ออสตินลีลาท่ามากไม่ยอมเข้ามาในตัวฉันเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้ว แต่ก็พอจะดูออกว่าเขาอยากให้ฉันเป็นฝ่ายรุกบ้าง ในเมื่อที่รักแซบขนาดนี้อีมินจะขัดใจได้ไงฉันพยายามข่มความอายเอาไว้แล้วก็จับท่อนเอ็นของเขาที่ทั้งแข็ง ทั้งยาว ทั้งใหญ่ >//////ฉันจับแล้วก็บีบมันเบา ๆ เพื่อหยอกล้อ แล้วมันก็ดันสู้มือฉันด้วยสิ พอบีบเบา ๆ มันก็เกร็งตัวแล้วก็แข็งมากกว่าเดิมอีก ยังแข็งได้อีกเหรอเมื่อกี้ก็แข็งมากแล้วนะ“อ่าส์~” ออสตินปล่อยมือจากมือฉันทันทีที่ฉันเริ่มบีบมังกรเขาแล้วก็สูดปากครางออกมา ทำไมเร่าร้อนเซ็กซี่แบบนี้ที่รัก หน้าตาออสตินเวลามีอารมณ์มันเร่าร้อนมากทำเอาฉันแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่
ตอนนี้เราสองคนมาถึงกระบี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ มาถึงในช่วงค่ำของวันเลยยังไม่ได้ไปเที่ยวไหน นอกจากนั่งโง่ ๆ อยู่ที่ห้องพัก แล้วไอ้คนหื่นก็ไม่คิดที่จะพาออกไปไหนด้วยพอเท้าแตะสนามบินเขาก็ตรงดิ่งไปเอารถที่เช่าไว้แล้วพาขับมาเช็คอินที่โรงแรมทันที“ทำไมนั่งหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ” ออสตินเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่เขาออกไปคุยโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง ไม่รู้ว่าสำคัญอะไรนักหนาถึงได้ต้องออกไปคุยลับตาฉัน“ไม่ต้องพามาก็ได้นะออสตินถ้ามาแล้วต้องมานั่งอยู่แค่ในห้องเนี่ยอยู่ที่กรุงเทพก็ได้”“ฮ่า ๆๆ อยากไปไหนครับเดี๋ยวพาไป” ออสตินหัวเราะขำท่าทางงอนของฉัน ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งลงข้างฉัน มันน่าขำตรงไหนวะการที่อีกคนงอนเนี่ย“อยากออกไปหาไรกิน” ฉันบอกเขาเพราะเริ่มรู้สึกหิวแล้ว ตอนนั่งเครื่องมาฉันไม่ได้สั่งอะไรกินไม่ชอบอาหารบนเครื่องเท่าไหร่“อ๋อ หมูมินโมโหหิวนี่เอง”“ติน!” ฉันทุบเขาไปทีหนึ่ง ชอบล้อฉันแบบนี้ประจำเลย หมูที่ไหนจะหุ่นดีขนาดนี้กัน!#MINTRA END#AUSTIN TALKผมมองท่าทางแสนงอนของมินตราแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวย เวลายัยนี่งอนจากหน้าสวยของเธอจะเปลี่ยนเป็นเด็กน้อยหน้ายู่ปากจู๋เหมือนตูดเด็กเลยครับ ฮ่า ๆ แต่ถึงจะ
ฉันตื่นมาด้วยความระบม ระบมไปทั้งร่าง! หน้าเน่อไม่ได้ล้างตั้งแต่เมื่อคืนเพราะไอ้จอมหื่นจับกินทั้งคืนจนฉันสลบคาอก พอตื่นมาฉันก็พบว่าฉันนอนอยู่คนเดียวบนเตียงที่ว่างข้าง ๆ ก็เย็นจัดแสดงว่าคนที่นอนข้างฉันตื่นไปตั้งนานแล้ว พอคิดได้แบบนั้นฉันก็ลืมตาตื่นทันที อย่าบอกนะว่าออสตินฟันฉันแล้วทิ้งอีกแล้ว!ซวยซ้ำซวยซ้อนต้องเจ็บอีกกี่ครั้งวะมินตรา ไม่อยากจะเสียน้ำตาแล้วจริง ๆ ขอให้สิ่งที่ฉันคิดเป็นแค่ความเพ้อเจ้อบ้าบอไปเองของฉันเถอะนะ บางทีเขาอาจจะอยู่ในห้องน้ำหรือตื่นมาทำอาหารรอคนรักแบบที่พระเอกในนิยายเขาชอบทำก็ได้พอคิดได้แบบนั้นฉันเลยฝืนกายพยุงร่างที่โคตรจะปวดตรงน้องสาวเดินไปดูที่ห้องน้ำ“...”แห้ง! พื้นห้องน้ำแห้งสนิท แต่ผ้าเช็ดตัวยังคงชื้นอยู่นิดหน่อยแสดงว่าเขาอาบน้ำออกไปนานแล้ว แต่เดี๋ยว ๆ ทำไมฉันต้องสันนิษฐานอะไรยังกับตัวเองเป็นโคนัน ฮ่า ๆๆ เป็นการขำตัวเองที่โคตรฝืนให้ขำเลยให้ตายเหอะหลังจากนั้นก็เลยเดินออกมาดูที่โซนด้านนอกแล้วก็พบกับความว่างเปล่า...ไร้สิ่งมีชีวิตที่ชื่อ...ออสตินนี่เขาจะทำให้ฉันใจเสียอีกแล้วรึเปล่า ไปไหนทำไมไม่บอกกันนะหรือเขาจะทิ้งฉันแล้ว ได้กูครั้งเดียวจะทิ้งกูเลยเหรอ!ฉั
"ซี๊ด~ ที่รักพอก่อนครับ ผัวอยากเสร็จในตัวเมีย"ออสตินบอกฉันแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง ฉันมองการกระทำของเขาด้วยความอยากรู้ พอมองเห็นแผงอกที่มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบหน้าท้องที่มีซิกแพ็คเป็นลอนสวยรับกับแขนที่มีกล้ามพอดีตัวมันยิ่ง อือ~ นี่คนของฉันจริง ๆ เหรอ เขินเป็นบ้า >///ออสตินจับขาฉันให้แยกกว้างขึ้น รู้สึกสยิวไปทั่วร่างเพราะตอนนี้สายตาของเขากำลังจ้องมองตรงนั้นของฉันด้วยความหื่นแล้วสูดปากออกมาเบา ๆออสตินจับท่อนรักของเขามาสาว 2-3 ครั้งแล้วก็เอามันมาจ่อที่น้องสาวฉัน จังหวะนี้ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ รู้สึกขนลุกสยิวไปทั้งตัวเริ่มตั้งแต่ศีรษะไล่ลงไปจนถึงปลายเท้า#MINTRA END#AUSTIN TALKผมจับท่อนเอ็นของตัวเองมาจ่อที่น้องสาวของมินตรา โคตรรู้สึกดีขนาดยังไม่ได้เข้าไปยังรู้สึกดีมาก ร่องรักเปียกเยิ้มของคนตรงหน้าเรียกให้มังกรยักษ์ของผมเข้าไปทักทาย ผมเองก็แทบอดใจไม่ไหวยิ่งมองหน้าของเธอผมยิ่งมีอารมณ์ เมียผมหน้าตาเซ็กซี่โคตร ๆ เลยครับผมจับมันถูวนช้า ๆ ที่ร่องรักกับติ่งสวาทเพื่อให้มินตราคุ้นเคยเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ผมคงต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะถ้าพลาดขึ้นมาอีกครั้งเมียอาจจะไม่ยอมให้น
"เฮ้ยพวกมึงเดี๋ยวกูขอพามินกลับก่อนนะ" ผมมองเวลาที่ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วก็เลยได้โอกาสลาเพื่อน"ไรวะ รีบกลับเพื่อ ปกติมึงอยู่จนผับเลิกนี่" ไอ้เควินถามด้วยความสงสัย"นั่นสิตินตินขา ทำไมรีบจังเลยคะ" แมนนี่ถามขึ้นอีกคน ไอ้เพื่อนพวกนี้มันจะอยากรู้อะไรนักหนาวะ"ดึกแล้ว" ผมตอบพวกมันเท่านั้น ขี้เกียจพูดเยอะ"โธ่ไอ้ห่า กูยังไม่รีบเลยมึงอ่อนว่ะ" ไอ้แอลฟ่าพูดขึ้นบ้าง ไอ้นี่ตั้งแต่มีเมียเหมือนมันจะเริ่มพูดเยอะขึ้นนิดหน่อยแล้วนะ"หึ! กูไม่ได้อ่อนแต่กู...แข็งว่ะ" ผมตอบมันเท่านั้นเพื่อนทุกคนก็ทำตาโต โดยเฉพาะคนข้างตัวที่ทั้งตาโตทั้งแก้มแดงน่ารักเป็นบ้า พอผมพูดจบก็ไม่ได้สนใจเสียงโห่แซวของเพื่อนอีกเพราะผมรีบจูงมินตราออกมาทันที"ตินจะไปไหน ไหนบอกจะกลับคอนโดไง" มินตราถามผมทันที่ทีผมจูงมือเธอขึ้นมาที่ชั้น 4 ของผับผมไม่ตอบแต่จูงมือเธอเข้ามาในห้อง พอปิดประตูเสร็จผมก็หันไปคว้าเธอมากอดแล้วก็จูบปากบางด้วยความรีบร้อน"อื้อ~" มินตราดูเหมือนจะตกใจมากที่ผมบุ่มบ่ามทำโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว มือเล็กก็เลยดันตัวผมออก"ทำอะไร" มินตราถามผมหน้าแดง คงเป็นเพราะสบตาแล้วเห็นแต่แววตาหื่นของผม ก็จะให้ทำยังไงวะในเมื่อตอนนี้ผมเก
“ที่รัก...ขอได้ไหม” ออสตินถามฉันเสียงเบาแต่เสียงของเขาเซ็กซี่มาก นอกจากลีลาการเล้าโลมที่สุดจะบรรยายเมื่อกี้อีมินก็จะตายเพราะน้ำเสียงและแววตาของเขานี่แหละ“ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ” ฉันถามเขาเสียงเบาแล้วหลบตา อันที่จริงตอนนี้ก็พร้อมนะคะฉันไม่เคยโดนเขาเล้าโลมแบบนี้สักครั้งเลยทำให้ฉันเคลิ้มไม่ยากเพราะที่ผ่านมาโดนบังคับตลอด แต่ก็อยากขอเวลาอีกนิดขอลองใจออสตินอีกหน่อยออสตินมองหน้าฉันนิดหน่อยทำให้เห็นแววตาผิดหวังของเขา เพราะตอนนี้ดูท่าทางเขาจะต้องการมาก ก็เอ่อ...มันแข็งอยู่ข้างล่างแล้ว แล้วก็กดลงกดน้องสาวฉันอยู่ด้วย“ครับ” ออสตินตอบแล้วฟุบหน้าลงที่คอฉัน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ หมุนตัวหันหลังให้ฉัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะยอมทำตามที่ฉันต้องการแต่โดยดี แต่เขาหันหลังให้เลยไม่รู้ว่าจะโกรธฉันรึเปล่า“ใส่เสื้อผ้าซะมิน” ออสตินบอกแล้วเขาก็ลุกขึ้นนั่งหันหลังให้ฉัน ทเอาฉันใจไม่ดีไม่อยากทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้“โกรธเหรอ” ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วแตะที่ไหล่เขาเบา ๆ“เปล่า”“แล้วทำไมหันหลังให้กันแบบนี้” ฉันถามเขาแล้วเสียงก็เริ่มสั่นแล้วด้วย ฉันนึกว่าเขาจะเข้าใจแล้วก็รอฉันได้ซะอีกแต่ออสตินก็ยังคงเป็นออสตินอยู่วันยังค่ำสินะ พอฉ