-มหาลัยวิทยาลัย-
“ฮาโหลว~ มินตราคนสวย” เสียงแมนนี่ที่เดินมากับมิลานตะโกนทักฉันที่นั่งรอพวกมันที่โต๊ะประจำของพวกเรา
“อื้อว่าไงพวกมึง มาช้าตลอดเลยนะ” ฉันยิ้มทักทายเพื่อนทั้งสองคนเหมือนอย่างเคย
“รถแม่งอย่างติดอ่ะ รู้งี้นะอยู่หอใกล้มอแบบมึงดีกว่า” มิลานนั่งลงแล้วบ่นตามประสามัน
“เออ ๆ อย่าบ่นน่าเดียวก็จบแล้ว อ่ะ กินซะกูซื้อไว้รอแล้ว” ฉันยื่นข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ้าประจำของพวกเราให้มันสองคน ฉันอยู่หอใกล้มหาลัยเลยมีหน้าเตรียมเสบียงตอนเช้าให้เพื่อน ๆ ไม่งั้นสองคนนี้ไม่ได้กินข้าวเช้าแน่
“เลิศมากลูกสาวแม่” แมนนี่มองข้าวเหนียวหมูปิ้งของโปรดมันด้วยความพอใจแล้วรีบกินทันที ก่อนที่พวกเราจะขึ้นเรียน
หลังเลิกเรียนพวกเราก็มานั่งที่โต๊ะประจำเพื่อนั่งเม้าท์นั่งเล่นกันตามประสา
“มึง ๆ ใกล้ปิดเทอมแล้วนะไปเที่ยวทะเลกันดีไหม” อีแมนนี่เอ่ยชวนเพราะนี่ก็ใกล้จะปิดเทอมกันแล้ว เทอมหน้าก็ขึ้นปี 4 คงต้องแยกย้ายกันไปฝึกงาน ชีวิตนักศึกษาเริ่มสั้นลงไปทุกที
“เออดี ๆ ว่าแต่ไปทะเลไหนดีวะ ไปกระบี่ไหม ญาติกูมีบ้านที่นั่นติดหาดเลยนะ” มิลานยิ้มร่ารีบเสนอ เรื่องเที่ยวขอให้บอกโดยเฉพาะเที่ยวทะเลมิลานมันชอบมาก
“จริงไหมมึง ไป ๆๆ กูไปค่ะ ไปสองเสียงเพราะฉะนั้นอีมินมึงไม่ต้องออกเสียงแล้ว คะแนนเป็นเอกฉันท์” อีแมนนี่รีบตัดบท ฉันล่ะอ่อนใจกับมันจริง ๆ แล้วพวกมันสองคนก็เริ่มปฏิบัติการเสิร์จหาที่เที่ยว หาชุดโน่นนี่นั่น โดยที่มีฉันนั่งอือออกับพวกมันบ้างเป็นครั้งคราว
“มิน มิน อีมิน!”
“ฮะ! ว่าไงมีไร” ฉันสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ แมนนี่ก็ตะโกนเรียกชื่อฉันเสียงดัง
“มึงเป็นไรมินนั่งเหม่อมาทั้งวันแล้วนะ” มิลานพูดขึ้นแล้วมันสองคนก็จ้องหน้าฉัน จ้องแบบที่ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเลยทีเดียว
“เปล่าไม่มีไร เครียดเรื่องฝึกงานเทอมหน้าน่ะ”
“เฮ้อ! พวกเราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้วมินตรา มึงคิดว่ากูจะเชื่อไหม คนเก่งแบบมึงเนี่ยนะจะเครียดเรื่องฝึกงาน” มิลานพูดขึ้น
“อืม มึงทุกข์ใจอะไรตั้งแต่เช้ามิน บอกพวกกูได้ไหม” แมนนี่พูดขึ้นบ้าง นี่แสดงว่าพวกมันสังเกตอาการฉันมาตั้งแต่เช้าแล้วใช่ไหม ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาพวกมันก็เห็นแววตาที่มีแต่ความห่วงใยของเพื่อนรักทั้งสองคนส่งมาให้ฉันทำให้น้ำตาที่พยายามกักเก็บไว้ทั้งวันไหลออกมาจนห้ามไม่อยู่
“เฮ้ย! มินมึงใจเย็นก่อน” มิลานรีบลุกมานั่งข้างฉันพร้อมกับแมนนี่ที่เอื้อมมือมาบีบมือฉันเหมือนกัน
พวกมันปลอบและปล่อยให้ฉันร้องไห้สักพักโดยที่ฉันไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว จนฉันควบคุมอารมณ์ได้เลยตัดสินใจเล่าเรื่องคืนนั้นให้พวกมันฟัง
“เลวฉิบหาย ไอ้เหี้ย!”
“เออเลว แม่งมันอยู่ไหนวะกูจะไปต่อยมัน เอาให้แม่งอายเกย์แบบกูเลยไอ้เหี้ย ด่าเหี้ยก็สงสารเหี้ย แม่งเอ้ย!” แมนนี่พูดแล้วมองหาออสตินจนฉันต้องห้ามเพราะเพื่อนของฉันทั้งสองดูโกรธแค้นแทนฉันมาก ฉันกลัวพวกมันไปอาละวาดใส่ไอ้สารเลวคนนั้นจนคนอื่นรู้เรื่องอุบาทว์พวกนั้น
“ช่างเถอะมึง คิดซะว่าเป็นเวรกรรมของกูแล้วกัน”
“โดนฟันแล้วทิ้งเนี่ยนะเวรกรรม มึงบ้าเหรอมิน ถ้ามึงสมยอมก็ว่าไปอย่างแต่นี่มันมาข่มขืนมึงนะมินตรา” แมนนี่ตะคอกฉันแต่ก็ไม่ได้เสียงดังทำให้ไม่มีใครได้ยิน
“เออมิน กูแม่งเกลียดมันว่ะได้เพื่อนกูแล้วทิ้งไอ้เหี้ย”
“พวกมึงช่วยกูแค่นี้ก็พอแค่บอกกูว่ากูต้องทำยังไงดี กูอยากลืม กูเจ็บ” ฉันถามพวกมันขึ้นมา ฉันอยากลืมจริงๆ นะ อยากลืมทุกเรื่องเกี่ยวกับออสตินไปให้หมดเลย
“เดี๋ยว! ตอนนี้กูโมโหมาก ขอกูตั้งสติแป๊บ” แมนนี่ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ฉันพูดอะไรแล้วมันก็นั่งสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ พักใหญ่
“เอาล่ะ สติกูมาละ มึงฟังกู มึงไม่ต้องลืมอะไรทั้งนั้น มึงจะลืมให้มันได้ใจทำไม ต่อไปนี้มึงต้องทำให้มันเสียดาย ทำให้มันรักมึงหลงมึงอยากได้มึง แล้วก็อยากได้ไปเป็นเมียจริง ๆ ไม่ใช่คู่นอน”
“มึงจะให้มินมันทำแบบนั้นเพื่ออะไรวะ เพื่อให้ได้ผู้ชายเหี้ย ๆ แบบนั้นมาเป็นผัวแล้วมันก็ช้ำใจอีกเนี่ยนะ” มิลานเอ่ยแย้งขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ ซึ่งฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“เสือพอมันได้หยุดมันก็จะเป็นแมว ไอ้ตินมันไม่เคยนอนกับใครแล้วขอต่อ แต่มึงเป็นผู้หญิงคนแรกที่มันเอ่ยปากเองแสดงว่ามันติดใจมึง มึงมีอะไรที่แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น และมึงก็เคยบอกพวกกูแล้วว่าเป็นผู้หญิงต้องมีผัวคนเดียวอย่าได้แรดไปนอนกับใครไปทั่วมันไม่ดี เพราะฉะนั้นตอนนี้ถือว่ามึงมีผัวแล้วนะคะ ไปจับผัวมึงให้อยู่หมัด กูจะช่วยเอง” อีแมนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจทำเอาฉันงงเป็นไก่ตาแตกทั้งที่เมื่อกี้ยังอยากไปต่อยออสตินอยู่เลย
ถึงมันจะเป็นเกย์แต่มันเป็นเกย์ที่ห่วงเพื่อนผู้หญิงมากนะคะ มันจะคอยบอกคอยเตือนพวกฉันเสมอว่าเกิดเป็นหญิงอย่าได้ทำตัวเป็นดอกไม้ริมทาง ต้องรักนวลสงวนตัว เที่ยวได้แรดได้แต่พรหมจรรย์ต้องรักษาให้ดี กลุ่มฉันเลยถือคติต้องมีผัวคนเดียวไปเลย แอบกระซิบนิดนึงอีแมนนี้ก็ยังบริสุทธิ์นะคะ ฮ่าๆๆ
“มึงคิดดีแล้วใช่ไหมแมนนี่ถึงแนะนำมัน” มิลานถามย้ำอีกครั้ง
“เออสิ มินมันก็รักไอ้ห่านั่น แล้วมึงก็อยากเกิดมามีผัวแค่คนเดียวไม่ใช่เหรอ มันเหี้ยแค่ครั้งเดียวก็ปล่อย ๆ ไป มึงทำให้มันรักได้มึงเชื่อกู”
“แล้วกูต้องทำยังไง” ฉันถามมัน คล้อยตามแล้วจริง ๆ ไม่ปฏิเสธสิ่งที่มันเสนอเลยล่ะค่ะ ฮ่าๆๆ
“ทำตัวให้แซบค่ะลูกสาว อย่าชายตามองมันแค่นั้นก็พอ” แมนนี่ยิ้มอย่างมาดมั่นพร้อมกับเอ่ยออกมา
-หลายวันต่อมา-หลังจากวันนั้นผ่านมาเกือบอาทิตย์ฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยที่มีเพื่อนรักทั้งสองคนคอยช่วย จนตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปมาก จากผมที่เคยสีดำสนิทยัยสองคนนี้เปลี่ยนฉันให้มีผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าฉันขาวผุดผ่องขึ้นมาเป็นกอง ไหนจะลองให้ฉันเปลี่ยนโทนการแต่งหน้าแล้วก็ยกเซ็ตเสื้อผ้าให้ฉันแทบทั้งหมด จนตอนนี้ฉันกลายเป็นสาวสวย เฉี่ยว เปรี้ยว เผ็ดเป็นที่เรียบร้อยอ้อเรื่องเสื้อผ้าต้องยกให้เป็นความดีความชอบของมิลานค่ะ เพราะฉันคงไม่มีปัญญาหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดหรอก ถึงพ่อแม่จะส่งมาให้ใช้แต่ละเดือนไม่ได้น้อยหน้าใคร แต่ฉันรู้ดีว่าครอบครัวฉันไม่ได้ร่ำรวยมากอย่างใครเขา เงินแต่ละบาทที่พ่อแม่ส่งมาให้แลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของท่านทั้งนั้น เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ยอมเอาเงินพ่อแม่มาใช้จ่ายด้วยเรื่องไร้สาระเด็ดขาดแต่เพราะมิลานมันมีแบรนด์เสื้อผ้าของมันเองแถมขายดิบขายดีซะด้วย มันยกมาให้ฉันทุกแบบเลยล่ะ ตอนแรกฉันก็ไม่รับหรอกนะของซื้อของขาย มันเลยยื่นข้อเสนอที่มันเสนอฉันมาหลายรอบแล้วว่าให้เป็นนางแบบเสื้อผ้าให้แต่ไม่เคยยอมเป็นให้สักทีรอบนี้ฉันเลยยอมรับข้อเสนอแลกกับเสื้อผ้าก็แฟร์ทั้งสองฝ่ายดี“
“หึ! มึงจะไม่เลือกหน่อยหรอวะ...จะจริงจังต้องเช็คตำหนิหน่อยนะ” อยู่ ๆ ออสตินที่ยืนนิ่งอยู่นานก็แค่นเสียงหัวเราะแล้วก็พูดประโยคนี้ออกมา อะไรนะ? เช็คตำหนิงั้นเหรอ เช็คตำหนิบ้าบออะไร!“มึงพูดเหี้ยไรวะไอ้ติน” เควินหันไปถามด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่ออสตินพูด“เมามั้งวินอย่าสนใจเลย ว่าแต่เมื่อกี้วินพูดจริงรึเปล่า ถ้าจริงจะได้ไปเช็คตำหนิกันก่อน” ฉันกอดแขนเควินแล้วหันไปพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เควิน รอยยิ้มที่ฉันมั่นใจว่ามันต้องเป็นรอยยิ้มที่ละลายใจแน่นอน เพราะใครต่อใครก็ชมว่าฉันยิ้มหวานยิ้มทีผู้ชายแทบละลาย แถมยังยื่นหน้าไปใกล้เควินจนฉันรู้สึกได้ว่าเควินถึงกับกลั้นหายใจเลยทีเดียว“เหอะ!” ออสตินปลายตามาฉันเหมือนอยากจะฆ่าให้ตาย คงโกรธที่ฉันต่อปากต่อคำสินะ แล้วนายนั่นก็ทำสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันด้วยการกระชากยัยน้องปอบปากอาบเลือดนั่นเข้าไปจูบด้วยความเร็วมาก จนพวกเราตาโตก็เล่นกระชากไปจูบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยทีแรกยัยน้องปอบปากอาบเลือดก็ตกใจหรอก แต่แค่ 2 วินาที ยัยนั่นก็ตั้งสติแล้วก็แลกลิ้นกับออสติน แถมยังเอามือปะป่ายไปทั่วตัวอีตานั่นอีก ไม่แก้ผ้าเอากันตรงนี้เลยล่ะ!“ว๊ายตายแล้ว~ ตาเถร คนจะเอากัน โอ้ยอีติน!”
“ทำไรกันสาว ๆ” พวกฉันนั่งคะยั้นคะยอให้อีแมนนี่เล่าแผนการพิสูจน์บ้าบออะไรนั่นของมันมาพักใหญ่มันก็ไม่ยอมเล่า จนกระทั่งเควินที่เหมือนจะเพิ่งเลิกเรียนเดินมาเจอพวกเราที่นั่งหน้าตึกคณะพอดี“ฮายเควินสุดหล่อ เลิกเรียนแล้วเหรอคะ” อีแมนนี่โบกมือทักทายเควินแล้วก็ส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้ ขนลุกแทนเควินชะมัด ส่วนฉันกับมิลานก็ยิ้มทักทายเขาไป“อื้อ แล้วพวกเธอล่ะ ไม่มีเรียนเหรอ” เควินตอบแล้วก็นั่งลงที่ม้านั่งข้างฉัน“อาจารย์ปล่อยก่อนเวลาน่ะ แล้วนายล่ะเพื่อน ๆ ไปไหนหมด” มิลานถาม เออจริงสิปกติแก๊งหล่อ รวยชั่วโฉดเวลาเลิกเรียนมันต้องเดินลงมาที่พร้อมกันแต่วันนี้แปลกแฮะ“ไอ้แอลไปคุยธุระกับอาจารย์ ส่วนไอ้เหี้ยตินขึ้นไปห้องน้ำชั้นบน เด็กมันรออยู่” เควินตอบแล้วยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจแต่ฉันนี่สิเจ็บจี้ดที่ใจเลย ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำกับเด็กของเขาที่รออยู่...สมสู่กันได้ทุกที่จริง ๆ“เออแล้วกินข้าวกันยังหิวว่ะไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ” เควินมองหน้าพวกฉันสลับกัน“หิวแต่แมนนี่ไม่ว่างน่ะสิคะวินขา ต้องรีบไปหาหมอฟีลเลอร์หมดพอดี” แมนนี่บอกด้วยท่าทางอาย ๆ“เอ้างั้นเหลือมิลานกับมินดิไปไหนกันไหมล่ะ”
“ไม่หรอกฉันยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งที่นายว่าเลย แต่นี่เพราะเควินเขาดีจริง ๆ ฉันก็เลยติดใจ” ฉันพูดประโยคสุดท้ายช้า ๆ แล้วก็ยิ้มเพื่อสื่อความหมายให้ออสตินเข้าใจว่าฉันติดใจคือเรื่องไหน แล้วก็ดูจะได้ผลเพราะคนอย่างออสตินไม่ชอบโดนหยามอยู่แล้ว หมอนั่นกำหมัดแน่นจนมือสั่น“ดี! ร่านมากใช่ไหม กูจะเอาให้ไม่กล้าเดินไปร่านกับตัวผู้ที่ไหนเลย!”ฟุบ!ออสตินพูดจบก็จับฉันเหวี่ยงลงไปที่เตียงเต็มแรงจนจุกแล้วก็เจ็บร้าวไปทั้งหลัง นี่ฉันต้องโดนไอ้สารเลวนี่ข่มขืนเป็นครั้งที่สองใช่ไหม“โอ้ย! ไอ้เชี่ยทำบ้าอะไรฮะ!” ฉันร้องออกมาสุดแรง เวลานี้ฉันไม่กลัวมันเลยสักนิด ครั้งนี้ขอสู้แบบยอมตาย ถ้าลองมาเป็นฉันเชื่อเถอะว่าการโดนข่มขืนไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยสักนิดต่อให้เรารักคนตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม!“ทำหน้าที่ผัวไง มีเมียร่านไปนอนถ่างขาให้เพื่อนผัวเอาแบบนี้ต้องจัดหนัก ๆ ให้หายร่าน!” ออสตินตอบเสียงดุดันแล้วก็ก้มตัวลงมาฉีกกระชากเสื้อผ้าฉันจนขาดวิ่นไปทั้งชุดฉันใช้แรงทั้งหมดปัดป้องแต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิด ฉันไม่สามารถสู้แรงเขาได้เลย“กรี๊ด! ช่วยดะ...อ๊ะ!” ฉันกรี๊ดเสียงดังแล้วก็เปล่งเสียงออกมาได้เท่านี้ เพราะออสตินเอานิ้วของเขาที่
ผมผละจากมินตราที่นอนหลับไปแล้วก็รีบไปเข้าห้องน้ำ คงไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าผมเข้าไปทำอะไร อันที่จริงที่หยุดก็ไม่ใช่เพราะผมรักมินตราจนไม่กล้าทำร้ายเธอต่อหรอกนะแต่มันก็มีบ้างที่สงสารเลยไม่ทำต่อ“อ่าส์~” ผมตัวกระตุกแล้วก็จับท่อนเอ็นตัวเองเอาไว้หลวม ๆ ปล่อยให้น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเปรอะเปื้อนพื้นในห้องน้ำอ่าส์~ โล่งฉิบ ความจริงคงโล่งสบายตัวมากกว่านี้ถ้าไปปลดปล่อยในตัวมินตรา แต่ไม่เป็นไรวันนี้เธอไม่ไหววันหน้าก็ยังมีหลังจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกจากห้องของมินตราไปทันที ที่จริงก็อยากสนุกต่ออยู่หรอกแต่บังเอิญมีนัดกับมิกกิเด็กคนปัจจุบันของผมไว้นี่ก็จะเลยเวลานัดแล้ว ถ้าไปไม่ทันเดี๋ยวมีปัญหาอีก ผมไม่ได้รักแต่ผมขี้เกียจง้อ เพราะถ้าให้ง้อมากเข้าผมจะไม่สามารถอ่อนโยนได้แล้วสุดท้ายมันก็พัง#AUSTIN END#MINTRA TALK“ซี๊ด~” ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยร่างกายที่ เหอะ! ไม่อยากจะบรรยาย เจ็บช้ำไปทั้งตัวโดยเฉพาะตรงน้องสาว ปวดแทบจะก้าวขาเดินไม่ไหว ออสตินไม่อยู่ในห้องแล้วล่ะ ก็ดีไปซะก็ดี ไปตายเลยจะยิ่งขอบคุณมาก“กรี๊ด!” ฉันกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจสภาพของตัวเองในกระจก ฉันเหมือนผีตายซากที่โดนรุมโทรมมา 3 วันต
ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ฉันยืนกดกริ่งหน้าห้องไอ้ชั่วนรกส่งมาเกิดคนนั้นรัว ๆ มาจะสิบนาทีแล้ว แต่ก็ไร้การตอบรับจากคนในห้อง ออสตินอยู่ในนั้นแน่นอนฉันมั่นใจเพราะคอนโดของเขาหรูมาก คนข้างนอกจะขึ้นมาได้ต้องเป็นเจ้าของห้องลงไปรับหรือมีพนักงานโทรขึ้นมาแจ้งให้เจ้าของห้องรู้ถึงจะอนุญาตให้ขึ้นมาแล้วก็มันนั่นแหละที่บอกนิติบุคคลให้ฉันขึ้นมาได้แต่ไอ้เวรนี่มันดันไม่ยอมเปิดประตูให้ฉัน!“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะออสติน! ฉันรู้ว่านายอยู่ในห้อง เปิดสิ!” ฉันตะโกนพร้อมกับกดกริ่งรัว ๆ แม่งเอ้ย! พอเริ่มเหนื่อยฉันถึงได้นึกได้ว่าหน้าห้องมันมีตาแมวดิจิตอล ป่านนี้เขาคงยืนมองท่าทีร้อนรนของฉันด้วยความสะใจแล้วมั้งฉันเหลือบไปมองกล้องที่ติดตรงประตูแล้วก็ชูนิ้วกลางใส่กล้อง ค้างมันไว้แบบนี้แหละกริ๊ก!ได้ผลแฮะประตูเปิดรวดเร็วทันใจดี รู้งี้ชูมันทั้งสองมือตั้งแต่แรกแล้ว“กวนตีน” ออสตินเปิดประตูมาแล้วก็ทำหน้านิ่งด่าฉัน หึ! ไอ้สาระเลวฉันรักมันเข้าไปได้ไงกันนะฉันไม่ตอบแค่ใช้มือทั้งสองข้างผลักอกเขาเข้าไปในห้องจนออสตินที่ไม่ทันได้ตั้งตัวแทบจะหงายหลัง พอเขาอ้าปากจะด่าฉันมั้งนะฉันก็พ
-The most-ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่ผับของผมเอง ไม่ได้กินเหล้าหรอกแค่มาดูผับเท่านั้น ไม่ได้เข้ามาเช็คบัญชีผับสักทีเดี๋ยวเจ๊งตายห่า“เฮีย เฮียเควินเฮียแอลมา” ไอ้เจสลูกน้องผมเปิดประตูห้องเข้ามาเรียกผมที่กำลังดูบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่“มึงไม่เคาะ?” ผมไม่เงยหน้าขึ้นไปมองมันแต่ถามถึงความมารยาททรามที่มันเพิ่งทำเมื่อกี้“โถ่เฮีย หยวนๆ น่า ว่าแต่เฮียจะลงไปเลยไหม” มันไม่ยอมขอโทษที่มันไม่เคาะประตูไอ้เวรนี่แม่งน่าถีบจริง ๆ เลยว่ะ“เสือก” ผมเงยหน้าตอบมันแค่นั้นแล้วก้มลงทำงานต่อ เลยได้ยินเสียงบ่นพึมพำของไอ้เจสก่อนที่มันออกจากห้องผมไปผมเช็คบัญชีเสร็จก็เดินลงมาที่โซน VIP ก็เจอกับไอ้เพื่อนรักสองคนที่กำลังนั่งดื่มแถมมีสาว ๆ นั่งขนาบข้างอีก ยอมใจพวกมันจริง ๆ“ว่าไงไอ้ออสติน ทำหน้าเบื่อโลกลงมาเลยนะมึง” ไอ้แอลฟ่าทักผมด้วยเสียงกวนตีนเชี่ย ๆ แต่มันก็ไม่ได้รอคำตอบจากผมหรอกเพราะทันทีที่มันถามผมเสร็จมันก็หันไปจูบซอกคอผู้หญิงข้างกายมันทันที“ถามกูแล้วไม่รอคำตอบไอ้ห่า” ผมนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามเด็กในร้านก็ยื่นแก้วเหล้าให้ผมทันที“กูถามตามมารยาท” มันตอบเสียงอู้อี้แต่ก็ยังคงไม่ยอมผละจากผู้หญิงคนนั้น ไอ้ห่าหื่นฉิบหาย อ
“อื้อ~” ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากที่รู้สึกได้ว่ามีอะไรมาหยุกหยิกอยู่แถวคอแล้วก็เอว พอตั้งสติได้ก็ถึงได้รู้ว่าเป็นออสตินที่กำลัง เอ่อ...ช่างมันเถอะ สงสัยฉันเผลอหลับไปแน่เลย“อืม~ อย่าดิ้น” เสียงออสตินบอกฉันเสียงอู้อี้ เพราะตอนนี้เขากำลังซุกไซ้ซอกคอฉันอยู่ ส่วนมือก็กำลังลูบคลำไปตามสะโพกของฉัน อื้อ~ ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว“ติน อื้อ~” ฉันพยายามจะบอกเขาให้หยุดก่อน ฉันยังไม่ได้ตั้งตัวค่ะอีกอย่างก็กลัวมากไม่อยากเจ็บแบบทุกครั้งอีก แต่พอเอี้ยวตัวไปเพื่อจะคุยกับเขาหมอนั่นกลับจูบฉันแบบร้อนแรง ช่วยด้วยพี่จ๋าตอนนี้มือของออสตินกำลังเลื้อยไปตามเอว สะโพก แล้วก็ไปหยุดที่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวใหญ่ของเขาที่ฉันใส่นอนก่อนที่มันจะหลุดไปจากขาฉันตอนไหนก็ไม่รู้ มินตราไม่รู้ตัวสักนิดรู้อีกทีข้างล่างโล่งโจ้งไปหมดแล้วออสตินจูบปากฉันแล้วก็สอดลิ้นเข้ามาด้วยความร้อนแรงมาก ให้ตายเถอะไม่รู้จะหื่นอะไรนักหนา ส่วนฉันก็ทำได้แค่พยายามดันเขาให้ออกห่าง แถมตอนนี้ตัวฉันก็เริ่มสั่นมาก ๆ ด้วยเพราะเขาเอาไอ้นั่นของเขามาบดคลึงกับน้องสาวฉัน ถึงจะรู้ว่าตอนนี้ฉันเป็นรองเพราะเขามีคลิปแบล็คเมล์แต่ฉันกลัวไง สัญชาตญาณมันก็เลยสั่งให้ฉันดิ้น
“ทำไมทำหน้ามุ่ยแบบนั้นเดี๋ยวแขกก็นึกว่าเจ้าบ่าวโดนบังคับให้แต่งงานหรอก” ฉันหันไปกระซิบถามออสตินที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่หน้างานด้วยความสงสัยลืมบอกไปสินะคะว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของฉันกับออสติน เขินจังเลยวันนี้จะมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว อ้อ! ก่อนหน้านั้นออสตินเซอร์ไพรส์ขอฉันแต่งงานอีกรอบด้วยนะคะ ซึ่งลงทุนอลังการมากด้วยการซุกตัวเองลงในกล่องใบใหญ่ที่ฉันไม่มีทางรู้เลยจริงๆ ให้ตายเหอะ กล่องใหญ่ขนาดนั้นใครจะไม่รู้ถามจริง พอเปิดมาก็เจอผู้ชายผูกโบว์ยื่นกุหลาบดอกสวยที่สลักคำว่า Will You Marry Me เอาไว้พร้อมกับประดับเพชรเม็ดเล็ก ๆ ที่กลีบดอกเอาเป็นว่าถึงมันเหมือนไม่มีอะไรเป็นการขอแต่งงานที่โคตรอนุบาลแต่มันทำให้ประทับใจฉันมาก ถึงแม้จะไม่มีดนตรี ไม่มีพลุ ไม่มีดอกไม้ประดับเต็มห้อง ไม่มีลูกโป่ง ไม่มีเพื่อน ๆ ไม่มีกล้องหรือทีมงานมาเตรียมเซอร์ไพรส์เหมือนที่เคยเห็นบ่อย ๆ อย่างคู่อื่นแต่แค่มีเขาที่อยากจะดูแลฉันอยู่เคียงข้างกันและกันตลอดไปก็เพียงพอแล้ว“ว่าไงคะ ทำหน้ามุ่ยทำไม” ฉันถามออสตินอีกครั้งเพราะเขายังคงทำหน้าแบบนั้นไม่หยุด“เกลียดไอ้พวกนั้น” ออสตินบอกแล้วก็ชี้ไปทางกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวที่ยืนคุยก
“มึงจะนั่งซึมทำห่าไรไอ้ติน” เสียงไอ้เควินดังเข้ามาในสมองผมทำให้ผมถอนหายใจด้วยความรำคาญ“เออ มึงเรียกพวกกูมานั่งดูมึงถอนหายใจรึไง” ไอ้แอลถามขึ้นบ้าง แล้วพวกมันสองคนก็นั่งมองหน้าผมด้วยสายตากดดัน“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วก็ยกเหล้าขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้ว“เอา เอาไปอีก แดกเยอะๆ เลยมึง เมาแล้วจะได้พูด” ไอ้เควินยื่นแก้วของมันมาให้ผมอีกแก้ว ผมเลยปัดมือมันออกเบา ๆ“กูไม่เข้าใจว่ะทำไมผู้หญิงไม่ชอบพูดตรง ๆ วะ กูไม่ใช้ผู้วิเศษที่จะรู้ทุกความคิดนะเว้ย”“เออ ผู้หญิงก็แบบนี้แหละมึงต้องเข้าใจเขา” ไอ้เควินปรมาจารย์ด้านการเอาใจผู้หญิงตอบผมมา ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยครับ“มีคำแนะนำอื่นไหม” ผมถามออกไปทันที“ไม่ว่ะ กูไม่เคยมีเมีย ไม่รู้จะหาวิธีเข้าใจผู้หญิงไปทำไม มึงถามไอ้แอลดิ” ไอ้เควินยักไหล่ให้ผม“ไม่รู้ว่ะ ปกติงี่เง่าเมื่อไหร่กูก็จัดให้ดอกใหญ่ ๆ ตื่นมาก็หาย” ไอ้เชี่ยแอลตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อย ๆ ของมัน แต่ผมแทบอยากกระโดนถีบปากมัน แม่งไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย“พวกมึงแม่งไร้ประโยชน์ฉิบหาย”“ไอ้ห่าผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกันมึงจะง้อเหมือนกันได้ไงวะ นั่นเมียมึงมึงต้องรู้จักดีกว่าพวกกู” ไอ้แอลพูดขึ้นมา มันท
ฉันกลับมาถึงกรุงเทพในคืนวันอาทิตย์ด้วยสภาพ...โทรม! โทรมและไม่ได้เจอทะเลเลยเพราะวันเสาร์ทั้งวันออสตินไม่ยอมให้ฉันออกจากห้องพอวันอาทิตย์ฉันก็เลยนอนหมดสภาพในโรงแรม ยังดีที่ลากสังขารมาสนามบินได้“หน้ามุ่ยเชียว ไม่สนุกเหรอที่รัก” ออสตินเดินข้างฉันแล้วก็ถามหลังจากที่เราเอากระเป๋าเรียบร้อยแล้ว“สนุกกับผีน่ะสิ” ฉันตอบเขาไปแต่ไม่มองหน้า เกลียดมัน เกลียดไอ้หื่นนี่ แยกกันกลับตรงนี้เลยได้ไหม“เดี๋ยวพาไปใหม่น่า” ออสตินเดินมาโอบไหล่ฉันไว้แล้วบอกออกมา เหอะ! ไปก็เหมือนเดิมเชื่อเถอะตื๊ดดดดด ตื๊ดดดดเสียงโทรศัพท์ของออสตินดังขึ้น เขาหันมามองหน้าฉันเล็กน้อยแล้วยิ้มให้“ที่รักไปรอบนรถก่อนนะ สตาร์ทรถรอเลย คุยธุระแป๊บนึงเดี๋ยวตามไป” เขาบอกให้ฉันขึ้นไปรอบนรถแล้วก็เลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์ทิ้งให้ฉันมองตามด้วยความสงสัยว่าเบอร์ที่โทรมาเป็นใคร2 วันที่ไปเที่ยวจะมีคนโทรหาเขาบ่อยแถมยังคุยกันเป็นเวลานาน และทุกครั้งออสตินก็จะเลี่ยงออกไปคุยที่อื่นเพื่อไม่ให้ฉันได้ยินตลอด บางเวลาก็หันมามองที่ฉันเหมือนกลัวว่าฉันจะเดินเข้าไปใกล้แล้วได้ยินสิ่งที่เขากำลังคุยอ้อ! มันมีครั้งหนึ่งที่มีคนส่งข้อความเข้ามาฉันเห็นเขานั่งตอบอยู่รา
“อื้อ~” มินตราครางออกมาเพราะทันทีที่ผมพูดจบก็ดึงมือเธอไปจับที่กระบี่ของผม อ่าส์~ พอโดนมือนิ่ม ๆ ของเมียกระบี่ของผมก็ยิ่งแข็งสู้มือเธอในทันทีดูเหมือนเธอจะมีอารมณ์มาก พอผมชักนำคนสวยของผมก็เลยไม่ปฏิเสธแถมยังบีบกระบี่ผมเบา ๆ อ่าส์~ แค่คิดว่าจะโดนเมียเล่นกระบี่ก็ทำผมฟินจนน้ำแทบทะลักออกมาท่วมกระบี่เองแล้วครับ#AUSTIN END#MINTRA TALKฉันรู้สึกขัดใจนิดหน่อยที่ออสตินลีลาท่ามากไม่ยอมเข้ามาในตัวฉันเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้ว แต่ก็พอจะดูออกว่าเขาอยากให้ฉันเป็นฝ่ายรุกบ้าง ในเมื่อที่รักแซบขนาดนี้อีมินจะขัดใจได้ไงฉันพยายามข่มความอายเอาไว้แล้วก็จับท่อนเอ็นของเขาที่ทั้งแข็ง ทั้งยาว ทั้งใหญ่ >//////ฉันจับแล้วก็บีบมันเบา ๆ เพื่อหยอกล้อ แล้วมันก็ดันสู้มือฉันด้วยสิ พอบีบเบา ๆ มันก็เกร็งตัวแล้วก็แข็งมากกว่าเดิมอีก ยังแข็งได้อีกเหรอเมื่อกี้ก็แข็งมากแล้วนะ“อ่าส์~” ออสตินปล่อยมือจากมือฉันทันทีที่ฉันเริ่มบีบมังกรเขาแล้วก็สูดปากครางออกมา ทำไมเร่าร้อนเซ็กซี่แบบนี้ที่รัก หน้าตาออสตินเวลามีอารมณ์มันเร่าร้อนมากทำเอาฉันแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่
ตอนนี้เราสองคนมาถึงกระบี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ มาถึงในช่วงค่ำของวันเลยยังไม่ได้ไปเที่ยวไหน นอกจากนั่งโง่ ๆ อยู่ที่ห้องพัก แล้วไอ้คนหื่นก็ไม่คิดที่จะพาออกไปไหนด้วยพอเท้าแตะสนามบินเขาก็ตรงดิ่งไปเอารถที่เช่าไว้แล้วพาขับมาเช็คอินที่โรงแรมทันที“ทำไมนั่งหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ” ออสตินเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่เขาออกไปคุยโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง ไม่รู้ว่าสำคัญอะไรนักหนาถึงได้ต้องออกไปคุยลับตาฉัน“ไม่ต้องพามาก็ได้นะออสตินถ้ามาแล้วต้องมานั่งอยู่แค่ในห้องเนี่ยอยู่ที่กรุงเทพก็ได้”“ฮ่า ๆๆ อยากไปไหนครับเดี๋ยวพาไป” ออสตินหัวเราะขำท่าทางงอนของฉัน ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งลงข้างฉัน มันน่าขำตรงไหนวะการที่อีกคนงอนเนี่ย“อยากออกไปหาไรกิน” ฉันบอกเขาเพราะเริ่มรู้สึกหิวแล้ว ตอนนั่งเครื่องมาฉันไม่ได้สั่งอะไรกินไม่ชอบอาหารบนเครื่องเท่าไหร่“อ๋อ หมูมินโมโหหิวนี่เอง”“ติน!” ฉันทุบเขาไปทีหนึ่ง ชอบล้อฉันแบบนี้ประจำเลย หมูที่ไหนจะหุ่นดีขนาดนี้กัน!#MINTRA END#AUSTIN TALKผมมองท่าทางแสนงอนของมินตราแล้วรู้สึกกระชุ่มกระชวย เวลายัยนี่งอนจากหน้าสวยของเธอจะเปลี่ยนเป็นเด็กน้อยหน้ายู่ปากจู๋เหมือนตูดเด็กเลยครับ ฮ่า ๆ แต่ถึงจะ
ฉันตื่นมาด้วยความระบม ระบมไปทั้งร่าง! หน้าเน่อไม่ได้ล้างตั้งแต่เมื่อคืนเพราะไอ้จอมหื่นจับกินทั้งคืนจนฉันสลบคาอก พอตื่นมาฉันก็พบว่าฉันนอนอยู่คนเดียวบนเตียงที่ว่างข้าง ๆ ก็เย็นจัดแสดงว่าคนที่นอนข้างฉันตื่นไปตั้งนานแล้ว พอคิดได้แบบนั้นฉันก็ลืมตาตื่นทันที อย่าบอกนะว่าออสตินฟันฉันแล้วทิ้งอีกแล้ว!ซวยซ้ำซวยซ้อนต้องเจ็บอีกกี่ครั้งวะมินตรา ไม่อยากจะเสียน้ำตาแล้วจริง ๆ ขอให้สิ่งที่ฉันคิดเป็นแค่ความเพ้อเจ้อบ้าบอไปเองของฉันเถอะนะ บางทีเขาอาจจะอยู่ในห้องน้ำหรือตื่นมาทำอาหารรอคนรักแบบที่พระเอกในนิยายเขาชอบทำก็ได้พอคิดได้แบบนั้นฉันเลยฝืนกายพยุงร่างที่โคตรจะปวดตรงน้องสาวเดินไปดูที่ห้องน้ำ“...”แห้ง! พื้นห้องน้ำแห้งสนิท แต่ผ้าเช็ดตัวยังคงชื้นอยู่นิดหน่อยแสดงว่าเขาอาบน้ำออกไปนานแล้ว แต่เดี๋ยว ๆ ทำไมฉันต้องสันนิษฐานอะไรยังกับตัวเองเป็นโคนัน ฮ่า ๆๆ เป็นการขำตัวเองที่โคตรฝืนให้ขำเลยให้ตายเหอะหลังจากนั้นก็เลยเดินออกมาดูที่โซนด้านนอกแล้วก็พบกับความว่างเปล่า...ไร้สิ่งมีชีวิตที่ชื่อ...ออสตินนี่เขาจะทำให้ฉันใจเสียอีกแล้วรึเปล่า ไปไหนทำไมไม่บอกกันนะหรือเขาจะทิ้งฉันแล้ว ได้กูครั้งเดียวจะทิ้งกูเลยเหรอ!ฉั
"ซี๊ด~ ที่รักพอก่อนครับ ผัวอยากเสร็จในตัวเมีย"ออสตินบอกฉันแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง ฉันมองการกระทำของเขาด้วยความอยากรู้ พอมองเห็นแผงอกที่มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบหน้าท้องที่มีซิกแพ็คเป็นลอนสวยรับกับแขนที่มีกล้ามพอดีตัวมันยิ่ง อือ~ นี่คนของฉันจริง ๆ เหรอ เขินเป็นบ้า >///ออสตินจับขาฉันให้แยกกว้างขึ้น รู้สึกสยิวไปทั่วร่างเพราะตอนนี้สายตาของเขากำลังจ้องมองตรงนั้นของฉันด้วยความหื่นแล้วสูดปากออกมาเบา ๆออสตินจับท่อนรักของเขามาสาว 2-3 ครั้งแล้วก็เอามันมาจ่อที่น้องสาวฉัน จังหวะนี้ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ รู้สึกขนลุกสยิวไปทั้งตัวเริ่มตั้งแต่ศีรษะไล่ลงไปจนถึงปลายเท้า#MINTRA END#AUSTIN TALKผมจับท่อนเอ็นของตัวเองมาจ่อที่น้องสาวของมินตรา โคตรรู้สึกดีขนาดยังไม่ได้เข้าไปยังรู้สึกดีมาก ร่องรักเปียกเยิ้มของคนตรงหน้าเรียกให้มังกรยักษ์ของผมเข้าไปทักทาย ผมเองก็แทบอดใจไม่ไหวยิ่งมองหน้าของเธอผมยิ่งมีอารมณ์ เมียผมหน้าตาเซ็กซี่โคตร ๆ เลยครับผมจับมันถูวนช้า ๆ ที่ร่องรักกับติ่งสวาทเพื่อให้มินตราคุ้นเคยเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ผมคงต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะถ้าพลาดขึ้นมาอีกครั้งเมียอาจจะไม่ยอมให้น
"เฮ้ยพวกมึงเดี๋ยวกูขอพามินกลับก่อนนะ" ผมมองเวลาที่ตอนนี้เที่ยงคืนแล้วก็เลยได้โอกาสลาเพื่อน"ไรวะ รีบกลับเพื่อ ปกติมึงอยู่จนผับเลิกนี่" ไอ้เควินถามด้วยความสงสัย"นั่นสิตินตินขา ทำไมรีบจังเลยคะ" แมนนี่ถามขึ้นอีกคน ไอ้เพื่อนพวกนี้มันจะอยากรู้อะไรนักหนาวะ"ดึกแล้ว" ผมตอบพวกมันเท่านั้น ขี้เกียจพูดเยอะ"โธ่ไอ้ห่า กูยังไม่รีบเลยมึงอ่อนว่ะ" ไอ้แอลฟ่าพูดขึ้นบ้าง ไอ้นี่ตั้งแต่มีเมียเหมือนมันจะเริ่มพูดเยอะขึ้นนิดหน่อยแล้วนะ"หึ! กูไม่ได้อ่อนแต่กู...แข็งว่ะ" ผมตอบมันเท่านั้นเพื่อนทุกคนก็ทำตาโต โดยเฉพาะคนข้างตัวที่ทั้งตาโตทั้งแก้มแดงน่ารักเป็นบ้า พอผมพูดจบก็ไม่ได้สนใจเสียงโห่แซวของเพื่อนอีกเพราะผมรีบจูงมินตราออกมาทันที"ตินจะไปไหน ไหนบอกจะกลับคอนโดไง" มินตราถามผมทันที่ทีผมจูงมือเธอขึ้นมาที่ชั้น 4 ของผับผมไม่ตอบแต่จูงมือเธอเข้ามาในห้อง พอปิดประตูเสร็จผมก็หันไปคว้าเธอมากอดแล้วก็จูบปากบางด้วยความรีบร้อน"อื้อ~" มินตราดูเหมือนจะตกใจมากที่ผมบุ่มบ่ามทำโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว มือเล็กก็เลยดันตัวผมออก"ทำอะไร" มินตราถามผมหน้าแดง คงเป็นเพราะสบตาแล้วเห็นแต่แววตาหื่นของผม ก็จะให้ทำยังไงวะในเมื่อตอนนี้ผมเก
“ที่รัก...ขอได้ไหม” ออสตินถามฉันเสียงเบาแต่เสียงของเขาเซ็กซี่มาก นอกจากลีลาการเล้าโลมที่สุดจะบรรยายเมื่อกี้อีมินก็จะตายเพราะน้ำเสียงและแววตาของเขานี่แหละ“ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ” ฉันถามเขาเสียงเบาแล้วหลบตา อันที่จริงตอนนี้ก็พร้อมนะคะฉันไม่เคยโดนเขาเล้าโลมแบบนี้สักครั้งเลยทำให้ฉันเคลิ้มไม่ยากเพราะที่ผ่านมาโดนบังคับตลอด แต่ก็อยากขอเวลาอีกนิดขอลองใจออสตินอีกหน่อยออสตินมองหน้าฉันนิดหน่อยทำให้เห็นแววตาผิดหวังของเขา เพราะตอนนี้ดูท่าทางเขาจะต้องการมาก ก็เอ่อ...มันแข็งอยู่ข้างล่างแล้ว แล้วก็กดลงกดน้องสาวฉันอยู่ด้วย“ครับ” ออสตินตอบแล้วฟุบหน้าลงที่คอฉัน ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ หมุนตัวหันหลังให้ฉัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะยอมทำตามที่ฉันต้องการแต่โดยดี แต่เขาหันหลังให้เลยไม่รู้ว่าจะโกรธฉันรึเปล่า“ใส่เสื้อผ้าซะมิน” ออสตินบอกแล้วเขาก็ลุกขึ้นนั่งหันหลังให้ฉัน ทเอาฉันใจไม่ดีไม่อยากทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้“โกรธเหรอ” ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วแตะที่ไหล่เขาเบา ๆ“เปล่า”“แล้วทำไมหันหลังให้กันแบบนี้” ฉันถามเขาแล้วเสียงก็เริ่มสั่นแล้วด้วย ฉันนึกว่าเขาจะเข้าใจแล้วก็รอฉันได้ซะอีกแต่ออสตินก็ยังคงเป็นออสตินอยู่วันยังค่ำสินะ พอฉ