เช้าวันต่อมากริ๊ง กริ๊งเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังอยู่บนหัวเตียงทำให้รามสูรที่เพิ่งล้มตัวลงนอนได้ไม่ถึงห้าชั่วโมงพลันลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีแรงขยับตัวแม้เพียงเล็กน้อยของรามสูรทำให้หม่อนไหมสะดุ้งน้อยๆพร้อมกับขยับตัวตามเขาแต่ยังคงไม่ลืมตาตื่นใบหน้าเนียนใสยับย่นเล็กน้อยคล้ายกำลังรู้สึกโมโหที่ถูกรบกวนการนอนหลับพักผ่อน“จุ๊ จุ๊ จุ๊ นอนต่อนะคะเด็กดี”น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยบอกหม่อนไหมที่ซบใบหน้าอยู่บนอกแกร่งก่อนที่รามสูรจะยื่นมือไปตบเบาๆที่แผ่นหลังของเธอทำให้หม่อนไหมที่ขยับตัวไปมายุกยิกหยุดการเคลื่อนไหวและหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอก่อนที่รามสูรจะจัดท่านอนให้เธอใหม่โดยหยิบหมอนข้างมาให้เธอกอดแทนเขา“ได้เวลาทำมื้อเช้าให้ครอบครัวแล้วสินะเรา”เมื่อลงมาจากเตียงนอนรามสูรก็บิดตัวไปมาเบาๆพร้อมพึมพำถึงสิ่งที่จะต้องทำในวันนี้ซึ่งความจริงแล้วรามสูรไม่ได้ตั้งใจที่จะตื่นเช้าขนาดนี้ แต่เนื่องจากเมื่อวานบิดาของเขาส่งข้อความมาบอกว่ามารดาของเขานั้นน้อยใจเรื่องที่เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์และไม่ยอมกลับมาทานมื้อเย็นที่บ้านทำให้รามสูรรู้สึกร้อนใจเขาจึงทำได้แค่เพียงรีบตื่นขึ้นมาทำมื้อเช้าให้มารดาเพื่อไถ่โทษตามคำแนะนำของบิดาเท่านั้
วันหยุดสุดสัปดาห์หลังจากที่รามสูรย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านกับบิดามารดาเขาก็เริ่มต้นทำงานอย่างจริงจังทันทีตามที่เคยได้ลั่นวาจาเอาไว้กับมารดาถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มทำงานก่อนเวลาที่กำหนดเอาไว้ก็ตาม ในส่วนของการเรียนการการสอนที่มหาวิทยาลัยรามสูรยังคงต้องรับหน้าที่สอนนักศึกษาตามปกติโดยที่แบ่งเวลาการทำหน้าที่ท่านประธานบริษัทกับอาจารย์ได้อย่างลงตัวส่วนหม่อนไหมหลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของรามสูรแล้วเธอพบว่าครอบครัวของรามสูรนั้นดีกับเธอมากทุกคนต่างรักและเอ็นดูเธอโดยเฉพาะแก้มใสที่มักจะชวนเธอทำกิจกรรมหลังเลิกเรียนอย่างเช่นการเล่นโยคะ ว่ายน้ำ และเรียนถักโครเชต์ไปจนถึงการชวนเธอเล่นไพ่ที่หม่อนไหมแพ้ให้แม่สามีทุกตาจนกระทั่งมาจบที่การชวนเธอมาปีนต้นมะม่วงในสวนหลังบ้านเมื่อเธอรู้สึกอยากจะทานผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อแก้อาการคลื่นไส้ที่อยู่ๆก็มาเยือนอย่างไม่ทันตั้งตัว“แม่แก้มคะ ลูกนั้นค่ะลูกนั้น”หม่อนไหมชี้มือไปที่ผลมะม่วงลูกอวบใหญ่ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของแก้มใสก่อนที่แขนเรียวยาวจะยื่นมือไปจัดการกับมะม่วงลูกนั้นและโยนลงมาให้หม่อนไหมที่เตรียมรับได้อย่างแม่นยำ“แม่แก้มคะ อีกลูกค่ะ อีกลูก”หม่อนไหมชี้มือไปทางขวาของ
“สวัสดีค่ะทุกคนกอหญ้ากลับมาแล้ว”น้ำเสียงสดใสตะโกนขึ้นเสียงดังลั่นห้องรับแขกทำให้ภีมวัจน์ที่เดินจูงมือลูกชายฝาแฝดสองคนเดินตามหลังมาได้แต่ส่ายหน้าไปมาช้าๆด้วยความเอ็นดูภรรยาตัวน้อย ที่ตอนนี้หันกลับมามองเขาด้วยสีหน้างุนงงเมื่อไร้การตอบกลับจากคนภายในบ้านหรือว่าวันนี้มารดาของเธอจะไม่อยู่กันน้า“ทุกคนหายไปไหนกันหมดคะเฮีย ไหนพ่อบอกว่าแม่แก้มอยู่บ้านแล้วทำไมบ้านถึงได้เงียบเหมือนป่าช้าแบบนี้นะ”กอหญ้าเอ่ยถามสามีที่หลุดหัวเราะออกมาน้อยๆด้วยความขบขันเมื่อได้ยินคำเปรียบเทียบบรรยากาศความเงียบภายในบ้านของภรรยาก่อนที่เขาจะเดินจูงมือลูกชายฝาแฝดเดินมาหยุดลงตรงหน้ากอหญ้าที่ย่อตัวลงและหอมแก้มลูกชายทั้งสองคนฟอดใหญ่ด้วยความชื่นใจ“คุณยายของพี่พีร์หายไปไหนแล้วน้า”กอหญ้าเอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่หันไปมองทางด้านซ้ายทีทางด้านขวาทีก่อนที่เด็กชายรณพีร์จะเอียงคอน้อยๆคล้ายกำลังใช้ความคิดทำให้กอหญ้าอดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มลูกชายอีกครั้งด้วยความเอ็นดูเจ้าก้อนของเธอน่ารักมากๆจนอยากจะกอดจะหอมทั้งวันเชียวล่ะ“คุณแม่ลองไปดูที่ห้องครัวไหมครับ เผื่อว่าคุณยายแก้มใสจะอยู่ที่นั่น”ภาคย์ ภูบดินทร์ ลูกชายฝาแฝดคนโตของกอหญ้าชี้มือไ
วันเวลาที่เดินผ่านไปเรื่อย ๆในที่สุดการเรียนการสอนของนักศึกษาเทอมหนึ่งก็จบลงซึ่งวันนี้คือวันสุดท้ายของการเรียนการสอนในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยของรามสูร นิ้วเรียวยาวดุจแท่งเทียนบรรจงเขียนเนื้อหาใจความสำคัญของการสอนลงบนกระดาน ริมฝีปากสีไวน์ก็พูดบรรยายถึงเนื้อหาที่ไม่มีในหนังสือไปด้วยท่ามกลางสายตาของนักศึกษาทุกคนที่ต่างพากันจ้องมองตัวหนังสือภาษาอังกฤษบนกระดานด้วยความตั้งใจเพราะสิ่งที่อาจารยามสูรกำลังสอนคือสิ่งที่หาไม่ได้จากหนังสือแต่มันคือประสบการณ์จริงที่สั่งสมมานานของเขาในฐานะหมอต่างหากกริ๊กเมื่อตัวหนังสือตัวสุดท้ายจบลงรามสูรก็หันหน้ามาหานักศึกษาที่นั่งเรียงหน้ากระดานอยู่ข้างหน้าเขาความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของรามสูรสำหรับการเป็นอาจารย์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆคือนักศึกษาทุกคนต่างเป็นนักเรียนหน้าห้องที่ตั้งใจเรียนวิชาของเขา ซึ่งแรกๆก็มีบ้างที่บ่นว่าไม่เข้าใจแต่พอเขาพลิกแพลงเนื้อหาการสอนให้เข้าใจมากขึ้นนักศึกษาที่นั่งเรียนหลังห้องก็เริ่มทยอยพากันย้ายมานั่งเรียนหน้าห้องจนเต็มสร้างความพึงพอใจให้กับรามสูรเป็นอย่างมาก“มีใครไม่เข้าใจตรงไหนไหมครับสำหรับบทเรียนสุดท้ายของภาคเรียนที่ 1”จบคำถามรามสูรยก
หลังจากการสอบปลายภาคสิ้นสุดลงหม่อนไหมก็ทำเรื่องพักการเรียนทันทีเพราะอายุครรภ์ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เธอรู้สึกอึดอัดที่ต้องใส่ชุดนักศึกษา อีกทั้งเวลาเรียนเธอต้องเปลี่ยนห้องเรียนบ่อยครั้งทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียไม่น้อยหม่อนไหมจึงเลือกที่จะพักการเรียนเพื่อพักผ่อนรอกำหนดคลอดโดยที่มีครอบครัวของรามสูรคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง“ว้าว สวยมากๆเลยจ้ะลูกสะใภ้สวยกว่าของแม่แก้มอีก”แก้มใสเอ่ยชมหม่อนไหมพร้อมก้มลงมองเสื้อถักไหมพรมที่ค่อนข้างบิดเบี้ยวของตัวเองเล็กน้อยก่อนที่เธอจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เธอไม่น่าเสนอตัวเป็นครูสอนหม่อนไหมถักไหมพรมเลย ทั้ง ๆที่ฝีมือของเธอนั้นพัฒนาได้ไกลสุดก็แค่ปากซอยส่วนลูกสะใภ้ของเธอที่เรียนแค่ไม่กี่วันฝีมือกลับพัฒนาไปถึงขั้นวางขายที่ห้างได้อย่างสบายสงสัยงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนแบบนี้คงไม่เหมาะกับเธอจริงๆ“ทำหน้าแบบนั้นไม่อยากถักไหมพรมแล้วล่ะสิ”สีหน้าสิ้นหวังของแก้มใสที่แสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังทำให้ที่รักที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆทั้งสองคนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนในขณะที่คนถูกถามได้แต่พยักหน้าตอบมารดาตามความเป็นจริง“ค่อยๆหัดทำไปเดี๋ยวก็สวยเอง ไม่มีอะไรที่ลูกสาวของแม่ขาทำไม่ได้ห
สนามแข่งรถรถซุปเปอร์คาร์คันสีแดงราคาแพงที่กำลังแล่นเข้ามาภายในสนามด้วยความเร็วสูงดึงดูดสายตาของผู้คนภายในสนามได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะดาร์กกับเดลสองพี่น้องลูกพี่ของเปรมที่วันนี้ตั้งใจพาทั้งคู่มาที่สนามเพื่อท้าแข่งรถกับหม่อนไหมที่ทำให้เขาได้รับความอับอายกลางห้างชื่อดังเมื่อหลายเดือนก่อน“สวยดีนี่ รุ่นนี้รู้สึกว่าจะนำเข้ามาแค่ 5 คันคนที่ได้ไปนี่ต้องเส้นใหญ่พอสมควร”คำพูดของพี่ชายทำให้ดาร์กที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มมองไปที่รถคันหรูอีกครั้งด้วยแววตาฉงนสงสัยว่าใครกันคือผู้ที่ครอบครองรถราคาแพงคันนี้เพราะบ้านของเขาที่ถือว่าร่ำรวยเข้าขั้นอภิมหาเศรษฐีก็ยังไม่สามารถจองรถรุ่นนี้ได้เลย“อยากเห็นหน้าเจ้าของรถคันนี้จริงๆมีเงินซื้อรถแพงขนาดนี้ดูท่าจะซิ่งไม่เบา”ทันทีที่ดาร์กพูดจบประตูรถซุปเปอร์คาร์ก็ถูกเปิดออกมาทำให้ดาร์กรีบลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งและเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อเพ่งมองหน้าเจ้าของรถที่อยู่ในชุดกางเกงยีนส์เสื้อยืดธรรมดาตามมาด้วยใครบางคนที่ดาร์กรู้สึกคุ้นหน้าเพียงแต่เขาคิดไม่ออกว่าเคยเห็นหน้าที่ไหน“คะ คุณแม่สวัสดีครับ”เมื่อเห็นคนที่ลงมาจากรถชัดเต็มสองตาธีร์กับเพื่อนๆก็รีบยกมือขึ้นไหว้แก้มใสทันทีด้วยคว
ประเทศสหรัฐอเมริการูปถ่ายของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังเดินจับมือกันอย่างแนบแน่นพร้อมยิ้มให้กันอย่างมีความสุขทำให้สีหน้าที่กึ่งบึ้งกึ่งยิ้มนั้นดูเหี้ยมเกรี้ยมขึ้นหลายส่วนมือที่ถือรูปค่อยๆกำเข้าหากันแน่นจนรูปในมือยับยู่ยี่เพลิงโทสะที่สุมอยู่ในอกมานานพลันพลุ่งพล่านจนยากจะระงับ“นายจะเอายังไงต่อครับ”ไบรอันลูกน้องคนสนิทของครูซเอ่ยถามด้วยความคับแค้นใจไม่ต่างจากผู้เป็นนายที่กำลังนั่งมองใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่นลงบนพื้นด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าตอนนี้เจ้านายของเขารู้สึกอย่างไรที่เห็นศัตรูใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในขณะที่ตัวเองนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่บนความทุกข์ใจกับความสูญเสียที่แทบจะเอากลับคืนมาไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อนๆยื่นมือเข้ามาช่วย“หึ ความสุขของมันฉันจะทำลายให้สิ้นซากบอกแม็กซ์ให้เตรียมคนและเครื่องบินให้พร้อมเราจะออกเดินทางไปประเทศไทยให้เร็วที่สุด”“นายคิดดีแล้วใช่ไหมครูซ”น้ำเสียงเย็นเยียบของใครบางคนที่เดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยแววตาล้ำลึกก่อนที่ครูซจะแสยะยิ้มร้ายพร้อมหัวเราะออกมาน้อยๆกับคำถามของอีธานที่รู้จักนิสัยของเขาดีเพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ“ฉันตัดสินใจที่จะล้างแ
คฤหาสน์วายุ“มึงคิดอะไรของมึงถึงได้โดดเรียนมาหากูที่นี้เนี่ยไอ้เตย”หม่อนไหมเอ่ยถามเตยหอมที่มีสีหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัดโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพักหลังๆมานี้เพื่อนสนิทของเธอถึงดูไม่ค่อยสดใสร่าเริงเลยเวลาที่แวะมาเล่นกับเธอ“รู้สึกเซ็งนิดหน่อยอะ ก็เลยอยากมาหามึงเผื่อจะรู้สึกสบายใจขึ้น”“มาหากูแต่ไม่เคยเล่าอะไรให้กูฟังเลยเนี่ยนะแล้วจะสบายใจขึ้น เตยมึงกับกูสนิทกันมากแค่ไหนมึงรู้ดีเรื่องของกูๆไม่เคยปิดบังมึงเพราะฉะนั้นเรื่องของมึงๆก็ไม่ควรปิดบังกูเหมือนกัน”หม่อนไหมบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจังสีหน้าที่ห่วงใยของหม่อนไหมทำให้เตยหอมถึงกับพูดไม่ออกนี่เธอกำลังทำอะไรอยู่เธอแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งโดยที่ไม่ยอมเล่าให้เพื่อนๆฟัง พอรุ่นพี่คนนั้นเปิดตัวคบกับเน็ตไอดอลคนดังเธอก็อกหักดังเป๊าะเพียงลำพังและตอนนี้เธอกำลังทำให้หม่อนไหมเป็นห่วงเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ความเข้มแข็งที่พยายามแสดงออกมาตลอดเวลาก็พลันพังทลายลงน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้พลันไหลหยดลงบนแก้มเนียนไม่ขาดสายทำให้หม่อนไหมถึงกับเบิกตาน้อยๆด้วยความตกใจเมื่อเห็นเตยหอมร้องไห้“ไอ้เตยมึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย”“ฮึก ฮือ ไอ้หม่อนกูอกหัก ฮือ ฮือ