ประเทศสหรัฐอเมริการูปถ่ายของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังเดินจับมือกันอย่างแนบแน่นพร้อมยิ้มให้กันอย่างมีความสุขทำให้สีหน้าที่กึ่งบึ้งกึ่งยิ้มนั้นดูเหี้ยมเกรี้ยมขึ้นหลายส่วนมือที่ถือรูปค่อยๆกำเข้าหากันแน่นจนรูปในมือยับยู่ยี่เพลิงโทสะที่สุมอยู่ในอกมานานพลันพลุ่งพล่านจนยากจะระงับ“นายจะเอายังไงต่อครับ”ไบรอันลูกน้องคนสนิทของครูซเอ่ยถามด้วยความคับแค้นใจไม่ต่างจากผู้เป็นนายที่กำลังนั่งมองใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่นลงบนพื้นด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าตอนนี้เจ้านายของเขารู้สึกอย่างไรที่เห็นศัตรูใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในขณะที่ตัวเองนั้นต้องใช้ชีวิตอยู่บนความทุกข์ใจกับความสูญเสียที่แทบจะเอากลับคืนมาไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อนๆยื่นมือเข้ามาช่วย“หึ ความสุขของมันฉันจะทำลายให้สิ้นซากบอกแม็กซ์ให้เตรียมคนและเครื่องบินให้พร้อมเราจะออกเดินทางไปประเทศไทยให้เร็วที่สุด”“นายคิดดีแล้วใช่ไหมครูซ”น้ำเสียงเย็นเยียบของใครบางคนที่เดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยแววตาล้ำลึกก่อนที่ครูซจะแสยะยิ้มร้ายพร้อมหัวเราะออกมาน้อยๆกับคำถามของอีธานที่รู้จักนิสัยของเขาดีเพราะทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ“ฉันตัดสินใจที่จะล้างแ
คฤหาสน์วายุ“มึงคิดอะไรของมึงถึงได้โดดเรียนมาหากูที่นี้เนี่ยไอ้เตย”หม่อนไหมเอ่ยถามเตยหอมที่มีสีหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัดโดยที่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพักหลังๆมานี้เพื่อนสนิทของเธอถึงดูไม่ค่อยสดใสร่าเริงเลยเวลาที่แวะมาเล่นกับเธอ“รู้สึกเซ็งนิดหน่อยอะ ก็เลยอยากมาหามึงเผื่อจะรู้สึกสบายใจขึ้น”“มาหากูแต่ไม่เคยเล่าอะไรให้กูฟังเลยเนี่ยนะแล้วจะสบายใจขึ้น เตยมึงกับกูสนิทกันมากแค่ไหนมึงรู้ดีเรื่องของกูๆไม่เคยปิดบังมึงเพราะฉะนั้นเรื่องของมึงๆก็ไม่ควรปิดบังกูเหมือนกัน”หม่อนไหมบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจังสีหน้าที่ห่วงใยของหม่อนไหมทำให้เตยหอมถึงกับพูดไม่ออกนี่เธอกำลังทำอะไรอยู่เธอแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งโดยที่ไม่ยอมเล่าให้เพื่อนๆฟัง พอรุ่นพี่คนนั้นเปิดตัวคบกับเน็ตไอดอลคนดังเธอก็อกหักดังเป๊าะเพียงลำพังและตอนนี้เธอกำลังทำให้หม่อนไหมเป็นห่วงเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ความเข้มแข็งที่พยายามแสดงออกมาตลอดเวลาก็พลันพังทลายลงน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้พลันไหลหยดลงบนแก้มเนียนไม่ขาดสายทำให้หม่อนไหมถึงกับเบิกตาน้อยๆด้วยความตกใจเมื่อเห็นเตยหอมร้องไห้“ไอ้เตยมึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย”“ฮึก ฮือ ไอ้หม่อนกูอกหัก ฮือ ฮือ
โกดังร้าง“ไอ้ธีร์ ไอ้นายน์” หม่อนไหมมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่ปวดร้าวราวกับถูกของมีคมทิ่มแทงหยดน้ำตาแห่งความเสียใจหลั่งรินลงมาอาบแก้มหยดแล้วหยดเล่าอย่างมิอาจห้ามเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองคนของเธอนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นส่วนคินน์กับเจย์ถูกจับมัดไว้ด้วยสภาพที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก“มึงต้องการอะไรทำไมต้องทำกับเพื่อนกูแบบนี้ด้วย”หม่อนไหมแผดเสียใส่ครูซด้วยความเจ็บปวดแทบขาดใจทำให้เตยหอมที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างๆรีบเข้ามาประคองเพื่อนเอาไว้ทันทีเมื่ออยู่ ๆหม่อนไหมก็ยกมือขึ้นมากุมที่ท้อง“ไอ้หม่อนใจเย็น ๆ ก่อนมึงใจเย็น ฮือ ฮือ มึงกำลังท้องอยู่นะ”เตยหอมเอ่ยเตือนสติหม่อนไหมด้วยน้ำเสียงสะอื้นยามที่ได้ยินเสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดของเพื่อนๆที่นอนอยู่พื้นเธอรู้สึกเจ็บจนเผลอร้องไห้ออกมาด้วยความเวทนา ก่อนที่เธอจะพยายามดึงสติกลับคืนมาและยกมือขึ้นลูบหลังหม่อนไหมที่กำลังหอบหายใจคล้ายทนรับความจริงอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของเธอไม่ได้“เสียใจเหรอที่เห็นเพื่อนถูกรุมซ้อมเจียนตายแบบนี้ หึ ก็สมควรแล้วนี่กับสิ่งที่คนรักของเธอทำเอาไว้กับพวกฉัน”เมือ่ได้ยินคำพูดของคนตรงหน้าหม่อนไหมราวกับถูกฟ้าผ่าลงบนหัวกลางวัน
“คนที่ตายคือมึงต่างหากไอ้เด็กเวรนรกส่งมาเกิดจริงๆ”ปังแก้มใสที่อดทนมองภาพลูกชายถูกซ้อมวิ่งออกมาจากที่ซ่อนเมื่อได้รับสัญญาณจากสามีเธอยกปืนขึ้นเล็งไปที่ครูซพร้อมลั่นไกทั้งน้ำตาอย่างไม่ลังเลกลิ่นอายสังหารจากตัวเธอค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วบริเวณคนของครูซถูกลูกน้องของวายุเข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว รวมถึงตัวครูซเองที่รีบกระโดดหลบกระสุนของแก้มใสแต่สุดท้ายก็ยังคงหลบไม่พ้นเมื่อกระสุนถากเข้าที่หัวไหล่ก่อนที่เขาจะล้มลงบนพื้นข้างๆหม่อนไหมที่ย่อตัวหลบลูกกระสุนด้วยความหวาดกลัว“พี่ราม”หม่อนไหมเงยหน้าขึ้นร้องเรียกหารามสูรที่อยู่อีกฝั่งก่อนที่เธอจะรีบลุกขึ้นเมื่อรามสูรพยักหน้าให้เธอวิ่งมาหาเขาแต่ก็ยังช้ากว่าครูซที่รีบยื่นมือมาจับข้อเท้าของหม่อนไหมเอาไว้ พร้อมกับตรงเข้าล็อกคอเธอเพื่อใช้เธอเป็นโล่บังกระสุนจากคนของแก้มใสที่ต่างพากันชะงักมือที่กำลังจะลั่นไกเมื่อหม่อนไหมตกเป็นตัวประกันของศัตรูอีกครั้ง“ยิงมาเลย ยิงมาสิ ถ้าพวกมึงยิงกูก็เท่ากับยิงมันด้วย”กริ๊กหม่อนไหมตัวแข็งทื่อทันทีที่ครูซหันปลายกระบอกปืนเข้าหาเธอดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาสบเข้ากับดวงตาที่ตื่นตระหนกของรามสูร หัวใจที่เย็นชาของเขาพลันหล่นวู
ครืน ครืนเปรี้ยง“กรี๊ด หนูหม่อนกลัว ฮือ ฮือ แม่ขาอยู่ที่ไหนหนูหม่อนกลัว”หมับ“ไม่ต้องกลัวนะคะเด็กดีพี่ชายอยู่ตรงนี้แล้ว”สองแขนของเด็กชายตรงเข้าสวมกอดร่างบางที่สั่นเทาด้วยความหวาดกลัวของเด็กสาวที่กำลังนั่งหลบฝนอยู่ในบ้านของเล่นท่ามกลางความเหน็บหนาวที่พัดเข้ามาปะทะร่างเล็กเป็นระลอก เม็ดฝนที่สาดกระเซ็นมาถูกเสื้อผ้าจนก่อให้เกิดความหนาวเหน็บถูกความอบอุ่นจากอ้อมกอดของใครบางคนโอบล้อมเอาไว้ทำให้ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาค่อยๆยิ้มออกมาด้วยความดีใจเด็กสาวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของคนที่เธอเรียกว่าพี่ชายก่อนที่เธอสวมกอดเขาเอาไว้ราวกับว่าเขาคือที่พึ่งพิงเพียงคนเดียวของเธอในยามนี้ รามสูรยกมือที่เย็นเฉียบเพราะอากาศที่หนาวเย็นขึ้นลูบหลังหม่อนไหมไปมาเบาๆพร้อมก้มลงจูบบนหน้าผากของเด็กสาวอย่างแผ่วเบาการกระทำที่แสนอ่อนโยนของเขาทำให้ความหวาดกลัวที่เกาะกินใจหม่อนไหมในทีแรกค่อยๆจางหายไปพร้อมกับเม็ดฝนที่เริ่มซาลง“ฝนหยุดตกแล้วค่ะ”เมื่อหยาดฝนจางหายไปจากท้องนภาแสงแดดก็เริ่มเข้ามาแทนที่กลิ่นอายของเม็ดฝนที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนพื้นหญ้าทำให้รามสูรอดไม่ได้ที่จะสูดอากาศสดชื่นเข้าไปเต็มปอด"หนูหม่อนกลัวฝนเ
ท่ามกลางความมืดมิดที่ไร้แสงสว่างรามสูรเดินอยู่บนทางเดินที่ทอดยาวไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพียงลำพังอากาศที่เย็นยะเยือกทำให้เขาต้องยกสองมือขึ้นโอบกอดตัวเองเอาไว้เพื่อให้คลายจากความหนาวเหน็บ ดวงตาสีดำดั่งรัตติกาลราตรีมองไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวังระยะทางไกลแสนไกลที่เขาเดินผ่านมาครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้จะจบลงเมื่อไรแสงสว่างที่เขาเฝ้ารอกลับห่างออกไปคล้ายต้องการฝังกลบเขาเอาไว้กับความมืดมิดเพียงลำพัง“มีใครอยู่แถวนี้ไหม ใครก็ได้ช่วยพาออกไปจากตรงนี้ที หนูหม่อนหนูอยู่ที่ไหน ฮึก พี่รามคิดถึงหนูหม่อนกับลูกเหลือเกิน แม่แก้มครับพ่อครับ ฮือ พี่รามหนาว พี่รามคิดถึงทุกคน คุณตาคุณยาย ช่วยพาพี่รามออกไปจากตรงนี้ที”ความอ้างว้างที่เกาะกินใจทำให้ของเหลวอุ่นร้อนไหลทะลักออกมาจากดวงตาคู่สวยที่เงยหน้ามองไปรอบๆด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวเขาคิดถึงครอบครัวของเขาเหลือเกินคิดถึงทุกคนใจจะขาดแล้ว“คุณพ่อขา”ในขณะที่รามสูรกำลังก้มหน้าร้องไห้เงียบๆเสียงเล็กๆที่ลอยมากับสายลมทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่รามสูรจะเงียบเพื่อตั้งใจฟังอีกครั้งแต่สิ่งที่ได้ยินมีเพียงความเงียบงันที่เริ่มเข้ามาเกาะกินใจของเขาอีกครา “หูแว่วไปเอ
หมับแรงปะทะเบาๆจากทางด้านหลังมาพร้อมกับสองแขนที่โอบกอดรามสูรอย่างแนบแน่นกลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยลอยเข้ามาแตะจมูกทำให้คนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงคนไข้ค่อยๆหันหน้ามาหาใครบางคนที่ร้องไห้ออกมาเงียบๆจนชุดผู้ป่วยของรามสูรเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา“คนใจร้าย ทิ้งให้น้องรอตั้งนานกว่าจะยอมฟื้นขึ้นมา ที่ผ่านมากอหญ้าไม่เคยทิ้งพี่รามไปไหนเลยสักครั้งแล้วทำไมพี่รามถึงได้ทิ้งให้น้องรอนานขนาดนี้”หลังจากที่ร้องไห้เงียบๆจนพอใจกอหญ้าก็ต่อว่ารามสูรด้วยความน้อยอกน้อยใจทันทีซึ่งเพียงเท่านั้นยังคงไม่พอเธอยังยกมือขึ้นหมายจะทุบพี่ชายให้สาแก่ใจที่ทำให้เธอต้องนอนร้องไห้ทุกคืนหลังจากที่ได้รับข่าวร้ายจากมารดาแต่ถึงเธอจะรู้ว่าพี่ชายฝาแฝดยังไม่ฟื้นกอหญ้าก็ไม่เคยโผล่หน้ามาเยี่ยมพี่ชายเลยสักครั้งจนถึงวันนี้ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะตอนเด็กๆทั้งคู่เคยตกลงกันว่าถ้าหากวันหนึ่งใครคนใดคนหนึ่งเกิดเป็นอะไรขึ้นมาขอให้อีกคนไม่ต้องมาเยี่ยม คนที่กำลังป่วยจะได้รู้ว่ายังมีคนๆหนึ่งที่กำลังรอคอยการกลับมาของเขาอยู่ซึ่งคนๆนั้นในตอนนี้ก็คือน้องสาวอย่างเธอนั่นเองที่เฝ้านับวันรอให้พี่ชายของเธอฟื้นขึ้นมาเสียที ตอนที่รามสูรพูดขึ้นม
“คุณปู่”หม่อนไหมเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงหัวใจของเธอพลันเต้นรัวเร็วจนขบคิดอะไรไม่ออกในขณะที่พ่อเลี้ยงแสงหล้ามองภาพครอบครัวสุขสันต์ตรงหน้าด้วยสีหน้าดำคล้ำขึงขังสะท้อนความเจ็บปวดออกมาทางแววตาอย่างไม่ปิดบัง“นี่มันเรื่องอะไรกันหม่อนไหม” พ่อเลี้ยงแสงหล้าเอ่ยถามหลานสาวด้วยน้ำเสียงดุดันสายตาที่มองสบกับหลานสาวเต็มไปด้วยคำถามในขณะที่แม่เลี้ยงเอื้องคำได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าหลานสาวที่เธอรักและทะนุถนอมราวกับไข่ในหินจะทำตัวให้เธอรู้สึกผิดหวังถึงเพียงนี้“นี่คือ...”รามสูรหันไปถามหม่อนไหมที่น้ำตาไหลร่วงลงมาเป็นหยดๆก่อนที่เขาจะรีบยื่นมือไปปาดน้ำตาอุ่นๆหยาดเล็กออกจากแก้มเนียนให้เธออย่างอ่อนโยนในใจพลันนึกถึงเหตุผลที่หม่อนไหมเคยบอกเขาตอนที่ตั้งครรภ์ช่วงแรก ๆว่ารอให้เธอคลอดก่อนเธอถึงจะบอกความจริงกับคุณปู่คุณย่าถ้าอย่างนั้นทั้งสองท่านที่อยู่ตรงหน้านี้ก็คือ...“พ่อคะใจเย็นๆก่อน”หม่อนไหมยังไม่ทันตอบคำถามของแสงหล้าเมษาที่วิ่งตามมาทีหลังๆจากที่วนหาที่จอดรถอยู่นานสองนานก็รีบเข้ามาจับมือของพ่อเลี้ยงแสงหล้าเอาไว้ทันที เธอกลัวว่าท่านจะโมโหจนอาละวาดใส่หม่อนไหมที่คงตกใจและทำตัวไม่