“คุณตา”“พี่ราม”น้ำเสียงที่อุทานร้องเรียกชื่อกันและกันของคุณตาสุดเฟียร์สกับหลานชายสุดแสบทำให้เตยหอมที่กำลังนอนหลับฝันหวานถึงกับสะดุ้งตื่นผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ ในขณะที่หม่อนไหมนั้นรีบดึงเข็มน้ำเกลือบนมือออกทันทีโดยไม่สนใจหยดเลือดที่ไหลลงมาตามข้อมือและรีบลงจากเตียงตรงเข้าไปประคองรามสูรให้ลุกขึ้นยืนด้วยความเป็นห่วงทั้ง ๆที่เธอนั้นกำลังไม่สบายอยู่“พี่รามไม่เป็นอะไรนะคะ”น้ำเสียงที่ยังคงไพเราะน่าฟังเอ่ยถามรามสูรด้วยความห่วงใยก่อนที่คนเจ้าเล่ห์จะเริ่มทำการแสดงละครอ้อนสาวต่อหน้าต่อตาของผู้เป็นตาทันทีโดยที่ไม่สนใจใยดีดวงตาสีดำลุ่มลึกเกินที่เขาจะหยั่งถึงของผู้เป็นตาที่กำลังมองมาที่ตัวเองตาไม่กระพริบ“อูย เจ็บจังเลยค่ะหนูหม่อนดูนี่สิคะปากแตกหรือเปล่าก็ไม่รู้”รามสูรยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปแนบชิดแก้มเนียนของหม่อนไหมด้วยความตั้งใจทำให้หม่อนไหมถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเขาเล่นออดอ้อนเธอต่อหน้าเตยหอมที่กำลังเบิกตากว้างมองมาที่เธอด้วยความตกใจเมื่อเธอเพียงแค่เผลอหลับไปแต่กลับต้องตื่นขึ้นมาพบภาพที่บาดตาบาดใจเช่นนี้กฤษฎิ์ยกยิ้มมุมปากน้อยๆมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองกับการกระท
“หนูหม่อนอยากออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ”น้ำเสียงยามที่เอ่ยบอกคนที่กำลังป้อนอาหารมื้อเย็นเธอเต็มไปด้วยเสี้ยวของการเว้าวอนอย่างห้ามไม่อยู่ใบหน้าที่เริ่มสดใสมีชีวิตชีวามองรามสูรอย่างออดอ้อน แต่รามสูรกลับส่ายหน้าไปมาช้าๆเป็นเชิงปฏิเสธถึงแม้ว่าหม่อนไหมจะไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงถึงขั้นต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เขาก็อยากให้เธอนอนพักที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนแล้วพรุ่งนี้ถึงค่อยเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้าน“นอนพักที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านนะคะเด็กดี”เมื่อเธอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเขาให้เห็นใจรามสูรก็ขอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเธอกลับเพื่อให้เธอเชื่อฟังเขาเช่นกันซึ่งก็ได้ผลน้ำเสียงอ่อนโยนของรามสูรทำให้หม่อนไหมยอมพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังเขาแต่โดยดีทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอยืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาลให้ได้“พี่รามจะอยู่เฝ้าหนูหม่อนใช่ไหมคะ”“เมียไม่สบายทั้งคนผัวที่แสนดีคนนี้จะทิ้งให้เมียต้องนอนคนเดียวได้ยังไงคะ”ความเคอะเขินปรากฏขึ้นบนใบหน้าเนียนของหม่อนไหมทันทีก่อนที่เธอจะหลุบตาลงมองมือที่ประสานกันนิ่งอยู่บนตักเพื่อซ่อนรอยยิ้มที่เผยออกมาด้วยความดีใจ แต่ยังไม่ทันได้ยิ้มด้วยความสุขใจอย่างเต็มที่คางมนขอ
หลังจากที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนเช้าวันต่อมารามสูรก็ทำเรื่องพาหม่อนไหมออกจากโรงพยาบาลทันทีโดยที่มีพยาบาลนำยาบำรุงครรภ์และใบนัดพบแพทย์มาให้หม่อนไหมที่ห้องพักผู้ป่วยตามคำสั่งของท่านประธานโรงพยาบาล N ที่ไม่อยากให้คนของวายุหรือแก้มใสที่แฝงตัวอยู่ในโรงพยาบาลนำเรื่องที่พบกับหลานชายของเขาไปบอกแก้มใสถึงแม้กฤษฎิ์จะรู้ดีว่าแก้มใสรู้อยู่แล้วเรื่องที่รามสูรบินกลับมาเมืองไทยก่อนกำหนดที่แจ้งไว้แต่ยังคงทำเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวเพื่อให้หลานชายตัวดีของเขาตายใจ แต่เขาก็ยังไม่อยากให้ลูกสาวของเขารู้เรื่องที่รามสูรกำลังจะมีลูกอยู่ดีเพราะถ้าขืนแก้มใสรู้รับรองว่างานนี้บันเทิงแน่นอน“พี่รามกำลังมองหาอะไรหรือเปล่าคะ”หม่อนไหมที่อยู่ในชุดเดรสสีหวานเอ่ยถามรามสูรด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเขาเอาแต่มองซ้ายมองขวาอยู่ตลอดเวลาราวกับกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้าอย่างไรอย่างนั้นเลย“เปล่าครับพี่รามก็แค่มองไปเรื่อยเปื่อย”รามสูรหันกลับมาตอบคำถามของหม่อนไหมด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติทั้ง ๆที่ในใจรู้สึกกังวลไม่น้อยลำพังเรื่องที่เขาแอบหนีมารดากลับเมืองไทยก่อนกำหนดก็โทษหนักอยู่แล้ว ถ้าเกิดมารดาของเขารู้ว่าเขากำลังจะ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเจ้าเล่ห์ของเขาหรือเป็นเธอเองที่ใจไม่แข็งพอถึงได้ยอมตอบตกลงย้ายมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างง่ายดายทั้ง ๆที่เขาเพิ่งอ้างเหตุผลเพียงแค่ไม่กี่คำหัวใจของหม่อนไหมที่หวั่นไหวเพราะเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เอ่ยปากตอบตกลงเขาไปในทันที ทำให้คำพูดมากมายที่รามสูรเตรียมไว้เพื่อที่จะโน้มน้าวให้หม่อนไหมยอมมาอยู่กับเขาหยุดลงเพียงแค่เหตุผลข้อที่สองเท่านั้น สำหรับหม่อนไหมแล้วเหตุผลที่รามสูรยกมาอ้างนั้นไม่ได้มีความสำคัญกับการตัดสินใจของเธอเลยแม้แต่น้อยเสียงเรียกร้องของหัวใจต่างหากที่ทำให้เธอตัดสินใจพูดคำว่า ตกลง ออกไปโดยที่ไม่ลังเลเลยสักนิด ที่ผ่านมาไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอมักจะเชื่อในความรู้สึกของตัวเองเสมอและครั้งนี้ก็เช่นกันเธอขอเชื่อใจในความรู้สึกของตัวเองอีกสักครั้งไม่ว่าผลของการเชื่อความรู้สึกตัวเองจะจบด้วยความหวานล้ำหรือขมจนแทบคายไม่ได้หม่อนไหมก็จะยินยอมรับผลนั้นแต่โดยดี คอนโด K เมื่อเหยียบย่างเข้ามาภายในห้องกว้างหม่อนไหมก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความเรียบหรูที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ให้รู้สึกสบายตาและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก จนกระทั่งสายตาของหม่อนไหมหยุดลงที่แผ่นหลังกว้างของรามสูรใบ
เช้าวันต่อครืด ครืด ครืดเสียงสั่นของนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงทำให้รามสูรที่กำลังนอนหลับสบายค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีด้วยความเคยชิน แรงโอบรัดที่ช่วงเอวทำให้รามสูรเหลือบมองใบหน้าเนียนสวยของหม่อนไหมที่กำลังนอนซบอยู่บนอกแกร่งของเขาใบหน้าหล่อเหลาพลันยิ้มออกมาน้อยๆพร้อมจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนหวานละมุนหลังจากนั้นเขาจึงค่อยๆขยับตัวออกจากเรียวแขนที่โอบรัดเขาแน่นมากขึ้นคล้ายไม่ยินยอมที่จะปล่อยให้ความอบอุ่นที่เธออิงแนบแนบชิดมาทั้งคืนหายไปแต่ถึงอย่างนั้นรามสูรก็จำต้องตัดใจจับมือของเธอที่โอบเอวของเขาออกเพื่อที่จะลุกขึ้นไปทำมื้อเช้าให้เธอ“ไม่ต้องรีบตื่นนะคะเด็กดีพักผ่อนให้เยอะๆ”น้ำเสียงหวานละมุนเอ่ยบอกหม่อนไหมที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงก่อนที่รามสูรจะก้มลงหอมแก้มเธอเบาๆและลุกขึ้นจากเตียงเพื่อออกไปเตรียมมื้อเช้าให้หม่อนไหม ที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าหม่อนไหมทานมื้อเช้าทุกวันหรือเปล่าแต่หลังจากวันนี้เป็นต้นไปเขาจะตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้เธอทานทุกวัน“หอมจังเลยค่ะ”หม่อนไหมเอ่ยขึ้นด้วยความหิวเมื่อกลิ่นหอมของน้ำซุปลอยมาแตะจมูกทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนที่เด็กสาวจะนั่งลงบนเก้าอ
แสงแดดที่ส่องลงมากระทบใบหน้าด้านข้างของร่างสูงที่กำลังยืนพิงรถซุปเปอร์คาร์คันหรูชวนให้นักศึกษาสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลียวมองด้วยความสนใจ รูปโฉมที่หล่อเหลาราวกับประติมากรรมภาพวาดของจิตรกรชื่อดังทำให้สาวๆล้วนกลั้นหายใจด้วยความตกตะลึงกับเสน่ห์ที่แสนเย้ายวนของเขาหม่อนไหมที่กำลังเดินออกมาจากห้องสมุดพลันชะงักเท้าหยุดอยู่กับที่จนทำให้เตยหอมที่เดินตามหลังมาไม่ทันระวังชนเข้ากับแผ่นหลังของหม่อนไหมจนชะงักไปตามๆกัน ก่อนที่เด็กสาวจะเงยหน้าขึ้นมองไปยังด้านหน้าที่มีใครบางคนกำลังยืนพิงรถและกำลังมองมาที่พวกเธอเช่นกันริมฝีปากอวบอิ่มที่ให้ความรู้สึกหวานล้ำยามที่ได้เชยชมค่อยๆเผยรอยยิ้มหวานละมุนชวนให้หัวใจแข็งแกร่งของรามสูรสั่นสะท้านก่อนที่หม่อนไหมจะเดินตรงมาหารามสูรที่จ้องมองรอยยิ้มของเธอด้วยความเพลิดเพลิน ท่ามกลางสายตาของนักศึกษามากมายที่ต่างให้ความสนใจในตัวหนุ่มสาวเพราะหม่อนไหมคือดาวมหาวิทยาลัยที่ใครๆต่างรู้จักและรู้ดีว่าเธอนั้นหวงแหนความโสดมากเพียงใด“อ๊ะ พี่รามจะทำอะไรคะ”หม่อนไหมถามขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ รามสูรก็เดินมาหยุดลงตรงหน้าเธอก่อนที่เขาจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นและค่อยๆบรรจงผูกเชือกรองเท้
วันต่อมา RM BIKE SHOP“เฮียราม”“ลูกพี่ของวัตร”“เฮียสุดที่รักของเป้”ทันทีที่สามหนุ่มเปิดประตูร้านเข้ามาเจอกับรามสูรที่กำลังนั่งทำงานอยู่ทุกคนก็พร้อมใจกันวิ่งเข้ามากอดรามสูรเอาไว้ด้วยความคิดถึงเพราะเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่สามหนุ่มวัยว้าวุ่นไม่ได้เจอหน้ารามสูรอีกเลยหลังจากที่รู้ข่าวว่ารามสูรเดินทางไปต่างประเทศ“จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เป้คิดถึงเฮียที่สุดเลย”คนที่ดูจะคิดถึงรามสูรมากกว่าใครเพื่อนก็คงจะเป็นเป้ที่ทั้งกอดและหอมแก้มรามสูรฟอดใหญ่ทำเอารามสูรถึงกับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเพราะปกติแก้มหอมๆของเขานั้นมีไว้ให้หม่อนไหมเท่านั้นแต่วันนี้เจ้าเด็กดื้อกลับหอมแก้มเขาซ้ำๆย้ำๆไม่ยอมเลิกรา ส่วนอีกคนที่ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นกอดขาของเขาเอาไว้ก็ถูไถใบหน้าบนต้นขาของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ราวกับต้องการจะบอกเขาว่าตัวเองก็คิดถึงเขามากเช่นกัน ส่วนคนที่คิดถึงเขาไม่น้อยไปกว่าเพื่อนทั้งสองคนอย่างติณก็เข้ามากอดเอวรามสูรเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเช่นกันกลายเป็นว่าตอนนี้รามสูรถูกสามหนุ่มสามมุมมะรุมมะตุ้มราวกับลูกลิงน้อยกำลังอ้อนพ่ออย่างไรอย่างนั้นเลย“ถ้าหายคิดถึงแล้วก็ช่วยปล่อยเฮียสักทีพากันกอดจนเฮียหายใจแทบไม่ออกแ
คอนโด K“ไหวไหมครับนาย”ลุกซ์ที่รับหน้าที่คอยตามดูแลรามสูรเวลาที่เขาออกไปข้างนอกรีบเข้ามาช่วยประคองเขาทันทีเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายเดินลงจากรถมาด้วยอาการเซคล้ายคนเมา แต่รามสูรกลับผลักมือของลุกซ์ออกอย่างไม่ไยดีเพราะตอนนี้เขาไม่ได้เมาแต่เขากำลังรู้สึกกระหายในรสสัมผัสที่แสนอ่อนหวานของใครบางคนมากกว่า“นายกลับไปพักเถอะฉันไม่เป็นไรฉันโอเค”รามสูรโบกมือไล่ลูกน้องคู่ใจด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนที่เขาจะตั้งสติและเดินเข้าไปภายในอาคารท่ามกลางสายตาที่มองตามไปด้วยความเป็นห่วงของลุกซ์กับเดล เพราะปกติแล้วรามสูรเป็นคนที่คอแข็งมากไม่ว่าเขาจะดื่มหนักมากแค่ไหนเขาก็ยังคงมีสติและสามารถพาตัวเองกลับห้องได้อย่างปลอดภัย แต่วันนี้อาการของผู้เป็นเจ้านายน่าเป็นห่วงไม่น้อยเพราะระหว่างทางที่เดินทางกลับคอนโดรามสูรมีอาการกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลาแถมใบหน้ายังเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อจนเขารู้สึกแปลกใจ ซึ่งอาการแบบนี้ดูคล้ายคนที่กำลังโดนวางยาเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ทั้งคู่ก็พลันชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่ลุกซ์กับเดลจะโพล่งขึ้นมาพร้อมกันราวกับคิดออกแล้วว่าอาการที่ดูแปลกไปของรามสูรนั้นเกิดจากสาเหตุใด“เหล้าแก้วนั้น / เหล้าสูตรเด็ดของเจ้าเป