เช้าวันต่อครืด ครืด ครืดเสียงสั่นของนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงทำให้รามสูรที่กำลังนอนหลับสบายค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีด้วยความเคยชิน แรงโอบรัดที่ช่วงเอวทำให้รามสูรเหลือบมองใบหน้าเนียนสวยของหม่อนไหมที่กำลังนอนซบอยู่บนอกแกร่งของเขาใบหน้าหล่อเหลาพลันยิ้มออกมาน้อยๆพร้อมจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยนหวานละมุนหลังจากนั้นเขาจึงค่อยๆขยับตัวออกจากเรียวแขนที่โอบรัดเขาแน่นมากขึ้นคล้ายไม่ยินยอมที่จะปล่อยให้ความอบอุ่นที่เธออิงแนบแนบชิดมาทั้งคืนหายไปแต่ถึงอย่างนั้นรามสูรก็จำต้องตัดใจจับมือของเธอที่โอบเอวของเขาออกเพื่อที่จะลุกขึ้นไปทำมื้อเช้าให้เธอ“ไม่ต้องรีบตื่นนะคะเด็กดีพักผ่อนให้เยอะๆ”น้ำเสียงหวานละมุนเอ่ยบอกหม่อนไหมที่ยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงก่อนที่รามสูรจะก้มลงหอมแก้มเธอเบาๆและลุกขึ้นจากเตียงเพื่อออกไปเตรียมมื้อเช้าให้หม่อนไหม ที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าหม่อนไหมทานมื้อเช้าทุกวันหรือเปล่าแต่หลังจากวันนี้เป็นต้นไปเขาจะตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารให้เธอทานทุกวัน“หอมจังเลยค่ะ”หม่อนไหมเอ่ยขึ้นด้วยความหิวเมื่อกลิ่นหอมของน้ำซุปลอยมาแตะจมูกทำให้เธอเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนที่เด็กสาวจะนั่งลงบนเก้าอ
แสงแดดที่ส่องลงมากระทบใบหน้าด้านข้างของร่างสูงที่กำลังยืนพิงรถซุปเปอร์คาร์คันหรูชวนให้นักศึกษาสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมาเหลียวมองด้วยความสนใจ รูปโฉมที่หล่อเหลาราวกับประติมากรรมภาพวาดของจิตรกรชื่อดังทำให้สาวๆล้วนกลั้นหายใจด้วยความตกตะลึงกับเสน่ห์ที่แสนเย้ายวนของเขาหม่อนไหมที่กำลังเดินออกมาจากห้องสมุดพลันชะงักเท้าหยุดอยู่กับที่จนทำให้เตยหอมที่เดินตามหลังมาไม่ทันระวังชนเข้ากับแผ่นหลังของหม่อนไหมจนชะงักไปตามๆกัน ก่อนที่เด็กสาวจะเงยหน้าขึ้นมองไปยังด้านหน้าที่มีใครบางคนกำลังยืนพิงรถและกำลังมองมาที่พวกเธอเช่นกันริมฝีปากอวบอิ่มที่ให้ความรู้สึกหวานล้ำยามที่ได้เชยชมค่อยๆเผยรอยยิ้มหวานละมุนชวนให้หัวใจแข็งแกร่งของรามสูรสั่นสะท้านก่อนที่หม่อนไหมจะเดินตรงมาหารามสูรที่จ้องมองรอยยิ้มของเธอด้วยความเพลิดเพลิน ท่ามกลางสายตาของนักศึกษามากมายที่ต่างให้ความสนใจในตัวหนุ่มสาวเพราะหม่อนไหมคือดาวมหาวิทยาลัยที่ใครๆต่างรู้จักและรู้ดีว่าเธอนั้นหวงแหนความโสดมากเพียงใด“อ๊ะ พี่รามจะทำอะไรคะ”หม่อนไหมถามขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ รามสูรก็เดินมาหยุดลงตรงหน้าเธอก่อนที่เขาจะย่อตัวลงนั่งบนพื้นและค่อยๆบรรจงผูกเชือกรองเท้
วันต่อมา RM BIKE SHOP“เฮียราม”“ลูกพี่ของวัตร”“เฮียสุดที่รักของเป้”ทันทีที่สามหนุ่มเปิดประตูร้านเข้ามาเจอกับรามสูรที่กำลังนั่งทำงานอยู่ทุกคนก็พร้อมใจกันวิ่งเข้ามากอดรามสูรเอาไว้ด้วยความคิดถึงเพราะเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้วที่สามหนุ่มวัยว้าวุ่นไม่ได้เจอหน้ารามสูรอีกเลยหลังจากที่รู้ข่าวว่ารามสูรเดินทางไปต่างประเทศ“จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เป้คิดถึงเฮียที่สุดเลย”คนที่ดูจะคิดถึงรามสูรมากกว่าใครเพื่อนก็คงจะเป็นเป้ที่ทั้งกอดและหอมแก้มรามสูรฟอดใหญ่ทำเอารามสูรถึงกับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเพราะปกติแก้มหอมๆของเขานั้นมีไว้ให้หม่อนไหมเท่านั้นแต่วันนี้เจ้าเด็กดื้อกลับหอมแก้มเขาซ้ำๆย้ำๆไม่ยอมเลิกรา ส่วนอีกคนที่ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นกอดขาของเขาเอาไว้ก็ถูไถใบหน้าบนต้นขาของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ราวกับต้องการจะบอกเขาว่าตัวเองก็คิดถึงเขามากเช่นกัน ส่วนคนที่คิดถึงเขาไม่น้อยไปกว่าเพื่อนทั้งสองคนอย่างติณก็เข้ามากอดเอวรามสูรเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเช่นกันกลายเป็นว่าตอนนี้รามสูรถูกสามหนุ่มสามมุมมะรุมมะตุ้มราวกับลูกลิงน้อยกำลังอ้อนพ่ออย่างไรอย่างนั้นเลย“ถ้าหายคิดถึงแล้วก็ช่วยปล่อยเฮียสักทีพากันกอดจนเฮียหายใจแทบไม่ออกแ
คอนโด K“ไหวไหมครับนาย”ลุกซ์ที่รับหน้าที่คอยตามดูแลรามสูรเวลาที่เขาออกไปข้างนอกรีบเข้ามาช่วยประคองเขาทันทีเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายเดินลงจากรถมาด้วยอาการเซคล้ายคนเมา แต่รามสูรกลับผลักมือของลุกซ์ออกอย่างไม่ไยดีเพราะตอนนี้เขาไม่ได้เมาแต่เขากำลังรู้สึกกระหายในรสสัมผัสที่แสนอ่อนหวานของใครบางคนมากกว่า“นายกลับไปพักเถอะฉันไม่เป็นไรฉันโอเค”รามสูรโบกมือไล่ลูกน้องคู่ใจด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนที่เขาจะตั้งสติและเดินเข้าไปภายในอาคารท่ามกลางสายตาที่มองตามไปด้วยความเป็นห่วงของลุกซ์กับเดล เพราะปกติแล้วรามสูรเป็นคนที่คอแข็งมากไม่ว่าเขาจะดื่มหนักมากแค่ไหนเขาก็ยังคงมีสติและสามารถพาตัวเองกลับห้องได้อย่างปลอดภัย แต่วันนี้อาการของผู้เป็นเจ้านายน่าเป็นห่วงไม่น้อยเพราะระหว่างทางที่เดินทางกลับคอนโดรามสูรมีอาการกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลาแถมใบหน้ายังเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อจนเขารู้สึกแปลกใจ ซึ่งอาการแบบนี้ดูคล้ายคนที่กำลังโดนวางยาเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ทั้งคู่ก็พลันชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่ลุกซ์กับเดลจะโพล่งขึ้นมาพร้อมกันราวกับคิดออกแล้วว่าอาการที่ดูแปลกไปของรามสูรนั้นเกิดจากสาเหตุใด“เหล้าแก้วนั้น / เหล้าสูตรเด็ดของเจ้าเป
มหาวิทยาลัย Mห้องเรียน“นี่เฟิร์นแกว่าอาจารย์คนใหม่ที่มาแทนอาจารย์ดาหวันจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”ทับทิมนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่สองเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างใบเฟิร์นด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะวันนี้คือวันแรกที่เธอจะได้เรียนกับอาจารย์คนใหม่ที่มาแทนอาจารย์คนเก่าที่ลาคลอดเป็นเวลาสามเดือนโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าอาจารย์คนใหม่เป็นใครเพราะทางคณะไม่ได้แจ้งให้พวกเธอทราบเลยถึงเรื่องนี้“ไม่รู้สิเฟิร์นไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่จะผู้หญิงหรือผู้ชายเราก็ต้องตั้งใจเรียนอยู่ดี”ใบเฟิร์นตอบกลับเพื่อนสนิทอย่างไม่ใส่ใจว่าอาจารย์คนใหม่ของพวกเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะหน้าที่ของเธอคือตั้งใจเรียนเท่านั้น“แล้วถ้าอาจารย์คนใหม่เป็นผู้ชายล่ะแกจะสนใจไหม”ลูกปัดเพื่อนสนิทอีกคนของใบเฟิร์นเอ่ยถามเพื่อนยิ้มๆราวกับรู้อะไรดีๆมาทำให้ทับทิมที่นั่งข้างๆรีบขยับตัวเข้ามาใกล้ๆและยื่นมือมาเขย่าแขนเพื่อนรักทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น“แกรู้อะไรดีๆมาใช่ไหมปัด”คำถามของทับทิมทำให้ลูกปัดเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังยอมรับว่าเธอรู้อะไรมาเหมือนที่ทับทิมถามจริงๆ“พอดีเมื่อวานเราไปส่งรายงานที่ห้องอาจารย์ชานนท์มาน่ะ เลยบังเอิญได้ยินอา
“นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของเรานี่คะ”หม่อนไหมเอ่ยถามรามสูรด้วยความสงสัยเมื่อทางที่เขาขับรถผ่านมาไม่ใช่เส้นทางออกไปนอกเมืองเหมือนทุกวันที่ผ่านมาในขณะที่รามสูรรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกกับคำว่า ทางกลับบ้านของเรา ใบหน้าหล่อเหลาพลันเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันมามองใบหน้าสวยหวานของคนข้างกายอย่างมีความหมายทำให้หม่อนไหมถึงกับเลิกคิ้วน้อยๆด้วยความแปลกใจระคนสงสัยที่เขามองเธอด้วยสายตาหวานเยิ้มแบบนี้“หนูหม่อนทานกับข้าวฝีมือพี่รามทุกวันคงจะเบื่อ วันนี้พี่รามก็เลยพาหนูหม่อนมาทานข้าวนอกบ้านเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศยังไงล่ะคะ” “หนูหม่อนไม่ได้เบื่อกับข้าวฝีมือพี่รามสักหน่อยทำกับข้าวอร่อยขนาดนั้นใครจะเบื่อได้ลง ถึงจะเป็นเมนูที่มีแต่โปรตีนแต่รสชาติอร่อยหนูหม่อนก็ไม่มีทางเบื่อง่ายๆหรอกค่ะ”หม่อนไหมเอ่ยบอกรามสูรจากใจเพราะอาหารฝีมือรามสูรนั้นอร่อยทุกอย่างไม่มีเมนูไหนเลยที่ไม่อร่อยแม้กระทั่งของหวานที่ขั้นตอนการทำค่อนข้างยุ่งยาก แต่รามสูรกลับทำออกมาได้อร่อยมากจนเธออยากจะอ้อนให้เขาทำให้กินทุกวันถ้าไม่ติดว่าเธอตั้งครรภ์ป่านนี้เธอคงอ้วนเป็นหมูเพราะขนมหวานฝีมือของรามสูรไปแล้ว“แล้วพี่ราม
“สะ สี่สิบล้าน”เตยหอมตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความตกใจทำให้หม่อนไหมต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อนสนิทเอาไว้ทันทีก่อนที่เธอจะพ่นความลับที่หม่อนไหมพยายามปิดบังเอาไว้ให้คนอื่นได้รับรู้“มึงจะตะโกนเสียงดังทำไมเนี่ยไอ้เตย”หม่อนไหมถลึงตาใส่เตยหอมพร้อมกับต่อว่าเพื่อนที่ยังคงอยู่ในอาการตกตะลึงกับราคาแหวนคู่ของหม่อนไหมและรามสูรที่ราคาสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ได้สบายๆแต่รามสูรกลับใช้เงินสี่สิบล้านซื้อแหวนคู่เพียงสองวงเท่านั้น“มึงแน่ใจนะเว้ยไอ้หม่อนว่าผัวมึงเป็นแค่เจ้าของร้านขายรถบิ๊กไบค์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”คำถามของเตยหอมทำให้หม่อนไหมส่ายหน้าไปมาช้าๆทันทีเพราะเธอเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีเงินมากมายขนาดนี้เจ้าของร้านขายและนำเข้ารถบิ๊กไบค์ที่ราคาหลักแสนถึงหลักล้านสามารถซื้อแหวนสองวงในราคาสี่สิบล้านบาทโดยที่ไม่นึกเสียดายเงินแม้แต่น้อย กลับเป็นเธอเองที่ได้แต่มองเงินสี่สิบล้านบาทหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาอย่างที่ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้แต่รามสูรกลับไม่ได้มีท่าทีวิตกกังวลหรือเสียดายเงินเลยสักนิด“กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ะเตย เพราะธุรกิจของเขาก็ดูเหมือนจะมีแค่ร้านขายรถเท่านั้น”หม่อนไหมเอ่ยบอกเตยหอมด้วยสีห
หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนหม่อนไหมรู้ซึ้งแล้วว่าถ้าหากเธอไม่เชื่อฟังรามสูรจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอผู้ชายที่ใบหน้าหล่อเหลาราวกับลูกรักพระเจ้ารอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา แววตาที่แสนอ่อนโยนของเขายามที่เธอเชื่อฟังแต่ถ้าเธอดื้อขึ้นมาเมื่อไหร่แววตาคู่นั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์และเย็นชาทันทีทำให้หม่อนไหมหวาดหวั่นไม่น้อยผู้ชายทั่วไปเวลาที่รู้สึกโกรธหรือโมโหคนที่เขามักจะเรียกติดปากอยู่เสมอว่า เมีย หรือภรรยา เขามักจะไม่พูดจาหรือรู้สึกโกรธเพื่อให้ผู้หญิงง้องอน แต่สำหรับผู้ชายที่ชื่อรามสูรแล้วหม่อนไหมไม่ต้องง้อเขาเลยสักนิดเพราะเขาใช้วิธีลงโทษเธอแทนเป็นการลงโทษที่ทำให้เธอรู้สึกหวาบหวามและขาดการควบคุมจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเองทุกพื้นที่ภายในคอนโดล้วนเป็นสถานที่ลงโทษเธอของเขาทั้งนั้นและวันนี้ก็เช่นกันหลังจากที่เธอแอบหนีไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆรามสูรก็จัดการตามไปลงโทษเธอถึงที่ผับ แต่เท่านั้นยังคงไม่เพียงพอสำหรับเขาเพราะหลังจากที่เธอนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มเช้านี้เธอก็กำลังจะถูกเขาลงโทษอีกครั้ง“มะ เมื่อคืนเฮียรามลงโทษหนูหม่อนที่ผับไปแล้วนะคะ”หม่อนไหมที่อยู่ในชุดนอนตั
เมื่อทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่เจ้าตัวก็ยังลากสังขารมาหาหม่อนไหมที่เพิ่งคลอดวายุก็ถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกในใจอยากจะต่อว่าและหยิบไม้เรียวขึ้นมาฟาดลูกชายหัวดื้อสักสิบครั้งให้หลาบจำแต่มือเจ้ากรรมกลับหยิบได้เพียงมีดและเข็มมือไม้พันกันระวิงด้วยความวุ่นวายเมื่อการผ่าตัดเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะความดื้อดึงของรามสูรทำให้เขาเสียเลือดมากการผ่าตัดจึงเข้าขั้นวิกฤติแต่วายุกลับไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใดเพราะคนที่เขากำลังใช้มีดกรีดลงไปบนผิวหนังสีขาวซีดคือลูกชายของเขาๆไม่มีวันปล่อยให้รามสูรเป็นอะไรแน่นอนต่อให้มัจจุราชที่อยู่ในนรกขุมที่สิบหกต้องการชีวิตของลูกชายเขามากแค่ไหนถ้าเขาไม่ยินยอมใครหน้าไหนก็พรากลูกชายไปจากอกเขาไม่ได้ทั้งนั้น“พ่อขาทำไมนานจังเลยคะ” แก้มใสเริ่มนั่งไม่ติดที่เมื่อการผ่าตัดยืดระยะเวลาออกไปจากเวลาที่บิดาบอกเธอบอกในครั้งแรกว่าเพียงสองชั่วโมงแต่นี่เกือบสามชั่วโมงแล้วไฟหน้าห้องผ่าตัดยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงเลย แก้มใสพลันก้มหน้าพลางวางมือเอาไว้บนหน้าอกราวกับความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วร่างอย่างมิอาจทานทนพร้อมกับความรู้สึกแสบท
เมื่อถึงกำหนดคลอดหม่อนไหมกลับไม่มีอาการปวดท้องหรือรู้สึกผิดปกติเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงกินอิ่มนอนหลับสบายทำให้รามสูรรู้สึกวิตกกังวลไม่น้อยตรงข้ามกับหม่อนไหมที่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอรู้สึกว่าลูกคนที่สองของเธอนั้นดื้อมากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ลูกของเธอเริ่มดิ้นเจ้าตัวน้อยในท้องแทบจะไม่ยอมให้เธอได้พักผ่อนเท้าน้อยๆพยายามถีบเธอทุกวันทั้งช่วงที่กำลังนอนหลับฝันดีจนน้ำลายแทบไหลยืดหรือจะเป็นช่วงพักสายตายามบ่ายเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแรงถีบมหาศาลจากเจ้าเด็กดื้อที่ไม่รู้ว่าเกิดอารมณ์ดีอะไรขึ้นมาถึงได้ชอบคึกคักยามบ่ายและยามดึกและอยู่แบบสุขสงบเพียงแค่ในยามเช้าเท่านั้น“พี่รามไปทำงานก่อนนะคะ”ยามเช้าที่อากาศสดใสรามสูรจำใจบอกลาภรรยาแสนรักที่กำลังนั่งทานผลไม้ที่สามีปอกให้ด้วยความเอร็ดอร่อยหม่อนไหมพยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างเข้าใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องการให้สามีอยู่ด้วยตลอดเวลาในช่วงที่เธอใกล้จะคลอดถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลยกำหนดมาแล้วสามวันก็ตาม“ตั้งใจทำงานนะคะแล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหม่อน หนูหม่อนโอเค”น้ำเสียงผ่อนคล้ายที่คล้ายกับเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งทำให้รามสูรอดใจไม่ไหวต้องยื่นมือไปบีบแ
“เอามือออกไปจากชุดตัวนี้เดี๋ยวนี้”น้ำเสียงดุดันที่ดูคล้ายคนที่มีนิสัยชอบวางอำนาจจนเคยชินดังขึ้นบอกหม่อนไหมแต่เธอที่วางมือลงไปก่อนคนมาทีหลังมีหรือจะยอมเอามือออกจากชุดที่เธอหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ในเมื่อเธอเป็นคนจับชุดก่อนนั่นก็หมายความว่าชุดตัวนี้ต้องเป็นของเธอไม่ใช่ของคนที่กำลังออกคำสั่งราวกับต้องการอวดอำนาจบาตรใหญ่คนนี้“ฉันวางมือลงไปบนชุดก่อนคุณนะคะไม่ได้วางทีหลังมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้คนที่จับชุดก่อนเอามือออก คุณต่างหากที่มาทีหลังตามมารยาทแล้วสมควรต้องเอามือออกค่ะไม่ใช่มาบอกฉัน”จบประโยคเสียงหอบหายใจเบาๆก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าผู้พูดกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เดือดดาลอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตที่เคยมองสามีด้วยสายตารักใคร่ก่อนหน้านี้พลันแปรเป็นเป็นดุดันเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังเช่นเดียวกันกับคนที่ออกคำสั่งให้หม่อนไหมปล่อยมือเธอก็กำลังใช้สายตาดุดันจ้องตอบกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน“แต่ฉันจะเอาชุดนี้และต้องได้ชุดนี้ด้วย”“ฉันก็ต้องการจะซื้อเหมือนกันค่ะและอีกอย่างฉันจับก่อนเพราะฉะนั้นกรุณาเอามือของคุณออกไปด้วยค่ะ”ดวงตาสีดำสนิทของหม่อนไหมหรี่ลงฉายประกายความเกรี้ยวกราดที่ใก
หลังจากที่เคล้าคลอแนบชิดกันมาทั้งคืนเช้านี้รามสูรกลับทำตัวงอแงราวกับเด็กน้อยที่หาข้ออ้างมาบอกกับภรรยาว่าเมื่อวานเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงวันนี้เขาจึงขออนุญาตตัวเองลางานหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนทำเอาหม่อนไหมถึงกับหัวเราะด้วยความขบขันกับเหตุผลหยุดงานของสามีที่เธอรู้ดีว่าเป็นข้ออ้างแต่กลับไม่ได้ตำหนิหรือเอ่ยห้ามแต่อย่างใดเพราะที่ผ่านมาสามีของเธอก็มักจะหาเหตุผลไร้สาระมาหยุดงานเพื่ออยู่ดูแลเธอที่กำลังตั้งครรภ์กับลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัดพลิกตัวอยู่บ่อยๆจนบางครั้งแม่แก้มใสต้องมาลากสามีเธอให้กลับไปทำงานรามสูรถึงได้ยอมกลับไปรับบทเป็นท่านประธานบริษัทเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าแม่แก้มใสเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไรสามีของเธอก็จะกลับมารับบทผู้ชายที่คลั่งรักภรรยาและลูกสาวทันทีเช่นกันทำเอาแม่แก้มใสถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเลยทีเดียว“อู้งานอีกแล้วนะคะ”หม่อนไหมยื่นมือมาบีบจมูกรามสูรเบาๆอย่างมันเขี้ยวในขณะที่คนถูกต่อว่าได้แต่ซุกใบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นของภรรยาสาวสวยอย่างออดอ้อน“ก็พี่รามเหนื่อยนี่คะเมื่อคืนออกแรงมากไปหน่อยวันนี้เลยปวดเหมื่อยไปทั้งตัว อูย ตรงนี้ก็เจ็บ ตรงนั้นก็ช้ำไม่เชื่อหนูหม่อนมาดูสิคะ”ร
เมื่อกลับมาถึงบ้านหม่อนไหมกับรามสูรก็ตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันทีเพื่อดูว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอหลับหรือยังเพราะปกติเวลานี้แพรไหมจะยังคงเล่นสนุกกับพี่สาลี่ไม่ยอมนอนเป็นประจำแต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อคุณพ่อยังหนุ่มคุณแม่ยังสาวเปิดประตูเข้ามากลับพบว่าดวงใจของทั้งคู่นั้นนอนหลับสนิทเรียบร้อยแล้วแถมน้ำลายยังไหลยืดจนเปรอะเต็มสองแก้ม“วันนี้เล่นซนเยอะไปหน่อยเลยหลับเร็วใช่ไหมคะลูกสาว”หม่อนไหมค่อยๆใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำลายที่เปรอะบนแก้มออกให้ลูกสาวอย่างเบามือในขณะที่รามสูรยื่นนิ้วของตนเองไปเกี่ยวนิ้วลูกสาวเอาไว้เบาๆเมื่อถูกสัมผัสอย่างอบอุ่นเด็กน้อยก็ขยับตัวไปมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดบนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาบางเบาคล้ายกำลังฝันดี“ไม่เจอกันแค่วันเดียวลูกสาวของพ่อจ้ำม่ำขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”เพี๊ยะ“อูยเมียจ๋าพี่รามแค่แซวเล่นลูกไม่รู้เรื่องหรอกคนที่ถูกเมียฟาดจนขึ้นรอยแดงยื่นมือมาลูบแขนตัวเองปอยๆอย่างน่าสงสารในขณะที่หม่อนไหมถลึงตาใส่สามีที่บังอาจมาว่าลูกสาวของเธออ้วนขึ้นเป็นเพราะเขาไม่ใช่เหรอที่ขยันซื้ออาหารบำรุงร่างกายและสมองสำหรับเด็กมาฝากลูกเป็นประจำจนอ้วนจ้ำหม่ำขนาดนี้“แล้วใคร
ไนท์คลับ“อาการแพ้ท้องเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง?”ธีร์เอ่ยถามหม่อนไหมที่นั่งตรงกันข้ามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลังจากที่เพื่อนๆทุกคนทราบข่าวว่าหม่อนไหมตั้งครรภ์ลูกคนที่สองทุกคนก็พากันแห่ไปเยี่ยมเธอถึงที่บ้านคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับสภาพของเพื่อนที่แพ้ท้องจนแทบหมดแรงทำเอาทุกคนทั้งเป็นห่วงทั้งสงสารจนพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว“ถ้าไม่ดีขึ้นมึงจะเห็นกูมานั่งอยู่ตรงนี้ไหม?”“ลูกสองแล้วยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะมึง”ธีร์ส่งค้อนให้หม่อนไหมพร้อมตอกกลับเพื่อไปหนึ่งกรุบอย่างอารมณ์ดีทำเอาคุณแม่ลูกสองหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจก่อนที่หม่อนไหมจะหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่มด้วยความคิดถึงรสชาติและบรรยากาศคุ้นเคยที่เธอห่างหายไปนานถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ผับที่เธอมาเที่ยวเป็นประจำแต่พวกเธอก็ชอบมาเที่ยวบ่อยๆไม่แพ้ร้านโปรดเลยอาจจะเป็นเพราะว่าเธอกำลังตั้งครรภ์เพื่อนๆจึงเลือกเป็นที่นี่แทนผับที่ค่อนข้างวุ่นวาย“แล้วออกมาเที่ยวผัวไม่ว่าไง”เจย์ที่เพิ่งชงเหล้าให้นายน์เสร็จเอ่ยถามด้วยความแปลกใจที่รามสูรยอมอนุญาตให้หม่อนไหมมาเที่ยวคลับได้ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วรามสูรที่พวกเขารู้จักนั้นแทบจะไม่อนุญาตให้หม่อนไหมออกไปไหนมาไหนเลยด้วยซ้ำตั้งแต
วันเวลาผ่านไปช้าๆอย่างไม่เร่งรีบชีวิตคู่ของรามสูรและหม่อนไหมนั้นถือได้ว่าเต็มไปด้วยความสุขและความเข้าใจซึ่งกันและกันของสองสามีภรรยาหม่อนไหมถึงแม้จะยังเป็นเด็กที่เพิ่งย่างก้าวเข้าสู่วัยยี่สิบเอ็ดปีแต่การอบรมเลี้ยงดูของพ่อเลี้ยงแสงหล้าและแม่ลี้ยงเอื้องคำนั้นไม่ได้เปล่าประโยชน์เลยแม้แต่น้อยดรุณีน้อยซุกซนในวันวานเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักนิ่งและสงบใจตัวเองเมื่อก้าวเข้าสู่คำว่าครอบครัวและคู่ชีวิตการกระทำที่หุนหันพลันแล่นในอดีตนั้นหม่อนไหมล้วนเก็บใส่กล่องไว้เป็นความทรงจำและบทเรียนเตือนใจตนเองตอนนี้จึงมีเพียงสาวน้อยน่ารักที่มักจะชอบพูดจาอ่อนหวานออดอ้อนสามีในยามที่ทั้งคู่อยู่กันเพียงลำพังตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยของทั้งคู่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ หม่อนไหมวางแผนเอาไว้ว่ารอให้แพรไหมอายุครบหนึ่งขวบเธอก็จะกลับไปเรียนต่อให้จบมหาวิทยาลัยซึ่งรามสูรก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวบางอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้วแผนการที่วางเอาไว้ต่อให้ตั้งใจและเตรียมตัวพร้อมแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องพับเก็บเอาไว้ชั่วคราวตามลำดับความสำคัญของเรื่องนั้น“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณหม่อนไหมตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์แล้ว” คำพูดแสด
ดวงตาเรียวเล็กของทารกน้อยวัยสามเดือนเศษที่ค่อยๆปิดสนิทพร้อมเสียงหายใจแผ่วเบาที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้หม่อนไหมเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความเอ็นดู ก่อนที่เธอจะยื่นมือนุ่มนิ่มไปเช็ดคราบน้ำนมตรงมุมปากออกให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยนส่งผลให้ดวงตาสุกสกาวของรามสูรที่กำลังแอบมองเธออยู่พลันฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามก่อนที่จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อแน่ใจว่าแพรไหมหลับสนิทแล้วหม่อนไหมจึงค่อยๆวางลูกสาวลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือก่อนที่เธอจะหันกลับมาแล้วพบว่าร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานก่อนหน้านี้กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนกระทั่งถึงเม็ดสุดท้ายสาบเสื้อจึงค่อยๆแยกออกจากกันเผยให้เห็นมัดกล้ามท้องเป็นลอนสวยที่ตรึงสายตาของหม่อนไหมเอาไว้ไม่ให้เธอหันหน้าจากไปไหนอึกหม่อนไหมลอบกลืนน้ำลายดังอึกด้วยความลืมตัวดวงตากลมโตของเธอจ้องมองกล้ามท้องที่เรียงตัวสวยตาไม่กระพริบด้วยความรู้สึกที่ได้แต่รำพึงรำพันอยู่ในใจว่าเธออยากจะยื่นมือไปลูบบริเวณนั้นเหลือเกิน“หนูหม่อนคะ”รามสูรส่งเสียงเรียกหม่อนไหมที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดที่ว้าวุ่นจนทำให้ประสาทการรับรู้ของเธอนั้นหยุดทำงานไปชั่วขณะท่าทีขอ
หลังจากที่รามสูรและหม่อนไหมย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะรามสูรลืมดูโหงวเฮ้งตอนซื้อหรืออย่างไรเพราะตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งเดือนหัวกระไดบ้านของรามสูรไม่เคยแห้งเลยสักครั้ง เมื่อในแต่ะละวันจะมีแขกแวะเวียนมาที่บ้านของเขาเสมอไม่ว่าจะเป็นแก๊งเพื่อนๆของหม่อนไหมที่เห็นบ้านของเขาเหมือนร้านเหล้าและร้านเกมส์หลังจากที่เลิกเรียนแล้วเด็กๆพวกนั้นก็มักจะแวะมาเล่นกับแพรไหมเป็นประจำก่อนที่จะพากันนั่งดื่มที่ริมสระน้ำบ้าง ในสวนบ้างและในบางวันเจ้าเด็กโข่งพวกนี้ก็พากันนั่งเล่นเกมส์ในห้องนั่งเล่นจนกระทั่งดึกดื่นค่อนคืนก็ไม่มียอมกลับบ้านสภาพที่รามสูรตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้าจึงเป็นภาพเด็กหนุ่มเจ็ดคนที่นอนเรียงรายกันอยู่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ใช่แล้วเด็กหนุ่ม 7 คน ทุกคนได้ยินไม่ผิดหรอกเพราะถ้าเปรียบเพื่อนของหม่อนไหมคือเด็กโข่งเพื่อนวัยว้าวุ่นของรามสูรก็คือเด็กดื้อที่จากหลังรามสูรและหม่อนไหมแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เด็กสองกลุ่มที่เคยตั้งแง่และมักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำกลับคืนดีรักใคร่กลมเกลียวประหนึ่งพี่น้องที่พลัดพรากจากกันเมื่อทุกคนชี้นกก็เป็นนกชี้ไม้ก็เป็นไม้ราวกั