หลังจากวันนั้นธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ของรามสูรก็เป็นที่รู้จักในหมู่ของนักศึกษาที่พากันแห่มาใช้บริการและสั่งซื้อรถกับรามสูรเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงอะไหล่สำหรับแต่งรถที่รามสูรนำเข้ามาขายล้วนเป็นอะไหล่ที่มีคุณภาพแต่ราคาเป็นมิตรภาพกับนักศึกษามาก“นี่เรากำลังพักผ่อนกันจริงๆใช่ไหมครับ”ลุกซ์ที่กำลังซ่อมรถหันมาถามผู้เป็นนายด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดูมอมแมมไปหมดซึ่งไม่ต่างกับรามสูรเลยแม้แต่น้อยที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเลอะไปด้วยคราบน้ำมัน ใบหน้าหล่อเหลาในยามนี้มีคราบเขม่ารถสีดำติดอยู่ที่ข้างแก้มโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดเมื่อวันนี้ทั้งวันเขากับลูกน้องทั้งสองคนนั้นพากันต้อนรับลูกค้าที่ทยอยกันเข้ามาใช้บริการตั้งแต่เช้าจนแทบไม่ได้หยุดพักร้านขายรถอุปโลกน์ที่กะจะพังเมื่อเล่นละครจบกลับปังแบบงงๆอย่างไม่ทันตั้งตัวเสียอย่างนั้น“ก็ใช่ไงพักผ่อนไปด้วยหาเงินไปด้วยสนุกดีออก”รามสูรเอ่ยขึ้นอย่างไม่อนาทรร้อนใจในขณะที่เดลยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างหมดแรงเมื่อวันพักผ่อนที่แสนสุขสบายกลับกลายเป็นวันทำงานที่แสนทรหดเสียยิ่งกว่าการยกปืนเล็งเป้าแล้วลั่นกระสุนปลิดชีพคนเสียอีก“เฮียราม”เสียงเรียกรามสูรที่
ร่างสูงของรามสูรที่เดินตามหลังโอมไปเงียบๆเรียกสายตาของหม่อนไหมที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนให้มองตามไปด้วยความสนใจมุมปากของสาวน้อยพลันคลี่ยิ้มละมุนตาพร้อมกับจ้องมองแผ่นหลังกว้างของรามสูรอย่างเบิกบานใจเมื่อเธอได้พบกับเขาอีกครั้งที่นี่ด้วยความบังเอิญ“มึงยิ้มอะไรของมึงว่ะไอ้หม่อน กูเห็นมึงเอาแต่มองไอ้โอมแล้วก็นั่งยิ้มเหมือนคนบ้า ฮันแน่ หรือว่ามึงแอบชอบไอ้โอมอยู่สารภาพออกมาเดี๋ยวนี้นะ”คำแซวของเจย์ทำให้อารมณ์สุนทรีของหม่อนไหมหายไปในชั่วพริบตารอยยิ้มหวานละมุนตาที่น้อยคนนักจะได้เห็นหุบยิ้มลงทันทีอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเพื่อนสนิทของเธอเอ่ยถึงโอมที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาตลอดทุกครั้งที่เจอหน้ากัน“กูขอคนที่หล่อกว่านี้ได้ไหมวะไอ้เจย์หน้ากวนตีนอย่างไอ้โอมกูชอบไม่ลงจริงๆ”หม่อนไหมหันมาบอกเจย์ที่เอาแต่ยิ้มล้อเลียนเมื่อเห็นเธอจ้องมองโอมไม่วางตา“หล่อกว่าไอ้โอมก็ผู้ชายที่เดินตามหลังมันไงลูกพี่ใหญ่ของพวกไอ้วัตร เอ๊ะ หรือจริง ๆแล้วคนที่มึงแอบมองจะเป็นผู้ชายคนนั้นว่ะ นี่อย่าบอกนะว่ามึงแอบชอบลูกพี่ใหญ่ของศัตรูคู่อริพวกเราอยู่”คำพูดของคินน์ทำให้เพื่อนทุกคนต่างจ้องมองมาที่หม่อนไหมเป็นตาเดียวก่อนที่แก้
Red-Eye PUBหลังจากเคลียร์งานที่ร้านเสร็จเรียบร้อยแล้วรามสูรก็เดินทางมาที่ผับประจำทันทีโดยที่ไม่ได้บอกสามหนุ่มเพราะวันนี้เขาตั้งใจจะมาทวงสัญญาเดิมพันที่ได้ตกลงกับหม่อนไหมเอาไว้ ซึ่งเขามั่นใจว่าผู้หญิงที่นิสัยแมนๆอย่างหม่อนไหมไม่มีทางผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเขาอย่างแน่นอนและก็เป็นจริงดังคาดเมื่อเขาเดินเข้ามาถึงโต๊ะประจำสายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างโต๊ะประจำของเขาเพียงลำพังความไม่พอใจฉายชัดอยู่ในดวงตาของรามสูรเพียงชั่วครู่เท่านั้นก่อนที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อวันนี้เด็กสาวแต่งกายด้วยชุดสายเดี่ยวที่เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มและกระโปรงยีนส์สั้นที่โชว์เรียวขาเนียนขาวชวนให้ผู้ชายทั้งผับมองตามจนคอแทบหักทีเดียว“พี่นึกว่าหนูหม่อนคนแมนจะไม่มาแล้วซะอีก”รามสูรเอ่ยขึ้นอย่างต้องการยั่วโมโหสาวน้อยที่ยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้วด้วยความหมั่นไส้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอ“คนอย่างหม่อนไหมพูดคำไหนคำนั้นไม่เคยผิดสัญญา”ชื่อเรียกแทนตัวเองที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มทำให้รามสูรที่กำลังจะยกวิสกี้ขึ้นดื่มถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจใบหน้าของใครบางคนที่อยู่ในค
เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมนะหม่อนไหมได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นดวงตากลมโตเอาแต่จ้องมองความใหญ่โตของเขาไม่วางตาเธอตื่นเต้นจนไหล่เกร็งริมฝีปากเม้มแน่นขึ้นเรื่อย ๆขนสันหลังพลันลุกเกรียวอย่างไม่มีสาเหตุ ในขณะที่สายตาวาววับของรามสูรตรึงอยู่ที่นัยน์ตาคู่งามที่ใสซื่อและตื่นกลัวรอยยิ้มมาดมั่นค่อยๆผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้หัวใจดวงน้อยของหม่อนไหมยิ่งเต้นระรัว“อื้อ”เสียงครางเบาหวิวหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มเมื่อรามสูรถูไถส่วนหัวเห็ดไปมากับร่องรักสีหวานส่งผลให้น้ำหวานจากดอกไม้งามค่อยๆไหลออกมาชโลมความใหญ่โตจนชุ่มฉ่ำ ก่อนที่รามสูรจะก้มลงจูบกลีบปากจิ้มลิ้มของหม่อนไหมอีกครั้งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอที่กำลังรู้สึกตื่นกลัวให้รู้สึกผ่อนคลาย เพราะตอนนี้เขามาไกลเกินกว่าที่จะถอยหลังกลับได้แล้วเมื่อร่างนุ่มนิ่มหอมหวานละมุนขนาดนี้คนที่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนแบบเขาความอดทนอดกลั้นย่อมเท่าศูนย์ปลายลิ้นเร่าร้อนเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นเล็กของหม่อนไหมอย่างหยอกเย้าจนทำให้เธอหลงเคลิ้มไปกับจุมพิตที่ดูดดื่มจนลืมความตื่นกลัวไปจนหมดสิ้นกว่าจะรู้ตัวความใหญ่โตที่เธอนึกกลัวในทีแรกก็กระแทกเข้ามาภายในค
เช้าวันต่อมาอากาศเย็นสบายในยามเช้าทำให้ร่างบางของหม่อนไหมซุกใบหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้างของรามสูรอย่างต้องการความอบอุ่นส่งผลให้ร่างสูงที่กำลังนอนหลับสบายรู้สึกตัวตื่นขึ้นทันที ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองใบหน้าเนียนของเด็กสาวที่หลับตาพริ้มพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆราวกับว่าเธอกำลังนอนหลับฝันดีอยู่ ความน่ารักเย้ายวนที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของความไร้เดียงสาชวนให้รามสูรยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดูทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับแก้มขาวซีดของหม่อนไหมรามสูรก็รีบชักมือกลับทันทีด้วยความตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงไอความร้อนที่แผ่มายังมือใหญ่ของเขา“นี่เรามือหนักขนาดนี้เลยเหรอวะ”รามสูรพึมพำเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิดก่อนที่เขาจะรีบลงจากเตียงไปเตรียมน้ำอุ่นเพื่อมาเช็ดตัวลดไข้ให้หม่อนไหมหลังจากที่เตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วรามสูรก็ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดไปตามผิวขาวเนียนละเอียดที่เต็มไปด้วยรอยแดงจากฝีมือของเขาอย่างเบามือ ยามที่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กลากผ่านรอยแดงช้ำรามสูรจะเบามือเป็นพิเศษในใจนึกตำหนิตนเองที่เผลอรุนแรงกับหม่อนไหมจนผิวเนื้อขาวเนียนของเธอเต็มไปด้วยรอยช้ำ ส่วนคนป่วยที่กำลังนอนหลับสนิทเม
ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูสงบและอ่อนโยนราวกับเด็กน้อยที่กำลังนอนหลับฝันดีดึงดูดให้หม่อนไหมที่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นยื่นหน้าไปมองใกล้ๆพร้อมระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากเชิญชวนให้มือเรียวบางของเด็กสาวยื่นไปใกล้ๆเพื่อที่จะปัดเส้นผมออกให้แต่ในขณะที่มือของหม่อนไหมกำลังจะแตะลงบนหน้าผากของรามสูรฝ่ามือใหญ่ของคนที่หม่อนไหมคิดว่ากำลังนอนหลับสนิทพลันยกขึ้นกุมมือของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว“คิดจะลักหลับกันหรือไงเด็กดื้อ”คำพูดหยอกเหย้าของคนข้างกายทำให้หม่อนไหมหน้าง้ำอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่เธอจะพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของคนข้างกายที่จับมือเธอไม่ยอมปล่อย ถ้าหากเขาคิดว่าเธอกำลังจะลักหลับเขาตอนนี้เขาก็กำลังแต๊ะอั๋งเธออยู่ด้วยการไม่ยอมปล่อยมือเช่นกัน“แล้วนี่คิดจะแต๊ะอั๋งหนูหม่อนหรือไง”“หึ แล้วทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วยในเมื่อมากกว่าแต๊ะอั๋งเราสองคนก็ทำด้วยกันมาแล้ว”คำพูดชวนโมโหของรามสูรทำให้หม่อนไหมยกมืออีกข้างทุบลงบนแผงอกกว้างของคนข้างกายเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ซึ่งรามสูรก็ยอมให้หม่อนไหมทุบแต่โดยดีแถมใบหน้าของเขายังพราวระยับไปด้วยรอยยิ้มทั้ง ๆที่กำลังถูกเธอประทุษร้ายอยู่
“นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของหนูหม่อนนี่คะ”หม่อนไหมเอ่ยท้วงรามสูรที่กำลังตั้งใจขับรถด้วยความแปลกใจพร้อมกับหันมามองคนข้างกายที่กำลังส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เธอเมื่อสองข้างทางที่รถกำลังวิ่งผ่านมาไม่ใช่ทางกลับบ้านของเธอ“นี่ก็เที่ยงแล้วหนูไม่หิวข้าวเหรอคะ”เสียงทุ้มของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นนุ่มนวลแต่หม่อนไหมกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่เขามักจะบอกเธออีกอย่างและทำอีกอย่างเสมอนี่เธอจะกลับไม่ถึงบ้านจริงๆใช่ไหม“ไม่หิวค่ะ หนูหม่อนอยากกลับบ้าน”“อ้อ ไม่หิวเพราะว่ากินพี่จนอิ่มแล้วใช่ไหมคะ”รามสูรจงใจลากเสียงยาวอย่างล้อเลียนหม่อนไหมที่พวงแก้มแดงวาบทันตาเห็นเมื่อนึกถึงเซ็กซ์ที่เร่าร้อนระหว่างเธอและเขาที่กว่าจะจบลงก็เกือบรุ่งสางของเช้าวันนี้แต่เธอจำได้ว่าก่อนที่เธอจะหลับไปเขาดึงเธอเข้าไปกอดเอาไว้อย่างแนบแน่นทำให้เธอนอนหลับฝันดีจนแทบไม่อยากตื่น“พี่เป็นคนนะคะไม่ใช่อาหารหนูหม่อนจะอิ่มได้ไง อีกอย่างหนูหม่อนไม่ชอบกินคนค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าตอนนี้หนูหม่อนกำลังหิวเหมือนกันใช่ไหมคะ”“ไม่ได้หิว...สักหน่อย”จ๊อก จ๊อก จ๊อกประโยคสุดท้ายของหม่อนไหมนั้นแผ่วเบาราวกับสายลมเมื่อจู่ ๆท้องเจ้ากรรมดันไม่รักดีร้องขึ้นมาเ
มหาวิทยาลัย Mสายลมแผ่วพลิ้วพัดเส้นผมเล็กละเอียดดุจใยไหมของเด็กสาวให้พลิ้วไหวทำให้นักศึกษาหนุ่มๆที่กำลังนั่งสนทนาหยอกล้อกันอยู่ต่างเหลียวหลังมามองสาวงามแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เจ้าของฉายา สวยห้าวตีนที่หนุ่มๆพร้อมใจกันตั้งให้เพราะใบหน้ารูปไข่ที่สวยหวานราวกับภาพวาดนั้นกลับซ่อนความห้าวเอาไว้อย่างมิดชิด “สวยมาแต่ไกลเชียวนะเพื่อนรัก”เตยหอมเอ่ยแซวหม่อนไหมด้วยสายตาพราวระยับเมื่อเธอเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนในขณะที่คนถูกแซวยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสเพราะหม่อนไหมเคยชินเสียแล้วกับสายตาของใครหลายๆคนที่คอยจ้องมองเธอทุกครั้งที่เดินผ่าน“ก็สวยทุกวันอยู่แล้วไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”คำพูดชวนหมั่นไส้ของเพื่อนสนิททำให้เตยหอมได้แต่มองบนก่อนที่เธอจะขยับเข้ามาใกล้ๆหม่อนไหมที่กำลังเปิดขวดนมและเตรียมยกขึ้นดื่ม“ว่าแต่เมื่อวานแอบไปกินข้าวกับใครมานี่เห็นนะ”พรวดดดดดนมที่เพิ่งดื่มเข้าไปพุ่งตกลงบนโต๊ะม้านั่งทันทีด้วยความตกใจก่อนที่หม่อนไหมจะหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาเพื่อนสนิทอีกสี่คนที่อาจจะกำลังเดินมาที่ม้านั่งประจำของพวกเธอ แต่เมื่อไม่พบใครหม่อนไหมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกับหันมามองเตยหอมที่ฉีกยิ้มหวานให้