มหาวิทยาลัย Mสายลมแผ่วพลิ้วพัดเส้นผมเล็กละเอียดดุจใยไหมของเด็กสาวให้พลิ้วไหวทำให้นักศึกษาหนุ่มๆที่กำลังนั่งสนทนาหยอกล้อกันอยู่ต่างเหลียวหลังมามองสาวงามแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เจ้าของฉายา สวยห้าวตีนที่หนุ่มๆพร้อมใจกันตั้งให้เพราะใบหน้ารูปไข่ที่สวยหวานราวกับภาพวาดนั้นกลับซ่อนความห้าวเอาไว้อย่างมิดชิด “สวยมาแต่ไกลเชียวนะเพื่อนรัก”เตยหอมเอ่ยแซวหม่อนไหมด้วยสายตาพราวระยับเมื่อเธอเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนในขณะที่คนถูกแซวยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสเพราะหม่อนไหมเคยชินเสียแล้วกับสายตาของใครหลายๆคนที่คอยจ้องมองเธอทุกครั้งที่เดินผ่าน“ก็สวยทุกวันอยู่แล้วไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”คำพูดชวนหมั่นไส้ของเพื่อนสนิททำให้เตยหอมได้แต่มองบนก่อนที่เธอจะขยับเข้ามาใกล้ๆหม่อนไหมที่กำลังเปิดขวดนมและเตรียมยกขึ้นดื่ม“ว่าแต่เมื่อวานแอบไปกินข้าวกับใครมานี่เห็นนะ”พรวดดดดดนมที่เพิ่งดื่มเข้าไปพุ่งตกลงบนโต๊ะม้านั่งทันทีด้วยความตกใจก่อนที่หม่อนไหมจะหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาเพื่อนสนิทอีกสี่คนที่อาจจะกำลังเดินมาที่ม้านั่งประจำของพวกเธอ แต่เมื่อไม่พบใครหม่อนไหมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมกับหันมามองเตยหอมที่ฉีกยิ้มหวานให้
“ใจสั่งให้มาเพราะคิดถึงใครบางคน”คำตอบของรามสูรทำให้ลมหายใจของหม่อนไหมสะดุดไปเฮือกหนึ่งสีหน้าตกตะลึงก่อนหน้านี้พลันเปลี่ยนเป็นดีใจแวบหนึ่งก่อนที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อสายตาของคนตรงหน้าเอาแต่จ้องหน้าเธอไม่หยุด“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญไปหาคนที่กำลังคิดถึงไม่ใช่มายืนขวางทางหนูหม่อนแบบนี้”“แล้วทำไมพี่จะต้องไปหาคนอื่นด้วยในเมื่อคนที่พี่กำลังคิดถึงยืนอยู่ตรงหน้าพี่แล้ว”แพขนตาดกหนาของเด็กสาวพลันกระพือเบาๆดุจปีกผีเสื้อด้วยความเขินอายเมื่อคนที่เขากำลังคิดถึงนั้นคือเธอก่อนที่หม่อนไหมจะก้มหน้าลงเมื่อรู้สึกร้อนที่แก้มจบแทบไหม้พร้อมกับเม้มริมฝีปากจนแทบห้อเลือดเมื่อไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรในยามที่เขาโปรยคำหวานใส่เธอแบบนี้“ไหนคะคนไหนหนูหม่อนมองไม่เห็นใครเลย”หม่อนไหมแกล้งเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองซ้ายมองขวาหาคนที่รามสูรกำลังคิดถึงเพื่อกลบเกลื่อนความเขินที่ทำให้เธอแทบอยากจะเดินหนีไปจากตรงนี้ติดตรงที่เขาไม่ยอมหลีกทางให้เธอหนีไปไหนได้น่ะสิ“หึ แต่พี่มองเห็นหนูหม่อนเต็มสองตาเลย”คำพูดที่มีผลกระทบต่อจังหวะและอัตราการเต้นของหัวใจเธอทำให้หม่อนไหมหยุดท่าทีเสแสร้งนั้นทันทีก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อ
คฤหาสน์วายุ“ว่ายังไงจ๊ะลูกรักทำไมวันนี้โทรมาหาแม่แก้มแต่เช้าเลย”น้ำเสียงหวานใสของคนปลายสายทำให้รามสูรยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความคิดถึงมารดาที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบสองเดือนหลังจากที่เขาโกหกว่าช่วงนี้กำลังยุ่งอยู่กับการทำงานวิจัยส่งอาจารย์ก่อนที่จะเรียนจบทำให้แก้มใสลดการโทรหาลูกชายลงเหลือเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพราะไม่อยากรบกวนเวลาทำงานวิจัยของลูกชาย“ไม่ได้ยินเสียงแม่แก้มหลายวันแล้วคิดถึงจังเลยครับ”คำตอบของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทำให้ใบหน้าที่ยังคงความอ่อนเยาว์ของแก้มใสค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเพราะเธอเองก็คิดถึงลูกชายไม่ต่างกัน“แม่แก้มก็คิดถึงพี่รามมากๆครับเมื่อไหร่คนเก่งของแม่แก้มจะกลับเมืองไทยสักทีน้า”คำถามของมารดาทำให้รามสูรเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความรู้สึกเสียวสันหลังอย่างไรไม่รู้ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะโกหกมารดาหลายครั้งแต่มารดาก็มักจะรู้ทันเขาเสมอ ยกเว้นครั้งนี้ที่มารดาไม่ระแคะระคายหรือสงสัยเขาเลยสักนิดหรือมารดากำลังเล่นละครตบตาเขาอยู่นะชื่อเสียงเรื่องการละครของมารดาคุณตาเคยบอกว่าถ้าแม่แก้มใสเลือกเดินสายนักแสดงคงดังเป็นพลุแตก“เดี๋ยวพี่รามก็กลับแล้วครับอีกแค่สองเดือนเอง”
“พะ พี่เข้ามาได้ยังไงนี่มันห้องเรียนของหนูหม่อนนะคะ” หม่อนไหมเอ่ยถามรามสูรด้วยความตกใจหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่นก่อนที่เธอจะกวาดสายตามองไปรอบๆห้องด้วยความกังวลใจเพราะนี่คือวิชาหลักไม่ใช่วิชาเลือกนักศึกษาที่เข้ามาเรียนล้วนเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมสาขาคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น “ก็เดินเข้ามาทางประตูนั่นไงคะ” รามสูรไม่พูดเปล่าหากแต่เขายังยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูทางเข้าทำให้หม่อนไหมต้องรีบคว้าแขนของเขากลับลงมาคืนทันทีลำพังหน้าตาที่หล่อเหลาโดดเด่นเกินใครก็ทำให้เพื่อนนักศึกษาต่างพากันมองมาด้วยความสนใจแล้ว โดยเฉพาะสาวๆที่พากันส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้เขาทำให้หม่อนไหมรู้สึกไม่พอใจแต่ก็พยายามเก็บอาการสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้คนข้างๆจับได้ว่าเธอกำลังคิดไม่ซื่อกับเขาอยู่ “หนูหม่อนรู้แล้วค่ะว่าพี่รามเข้ามาทางประตูแต่นี่มันห้องเรียนของหนูหม่อนนะคะที่นั่งอยู่ก็มีแต่เพื่อนๆร่วมชั้นมีพี่รามคนเดียวที่เป็นคนแปลกหน้า” “คนแปลกหน้าที่ไหนจะนอน...อุ๊ปส์” หมับ หม่อนไหมยกมือขึ้นปิดปากรามสูรเอาไว้ทันทีเมื่อเขากำลังจะพูดถึงเรื่องระหว่างเขาและเธอในวันนั้น “พี่รามไม่ต้องย้ำหลายรอบก็ได้หนูห
“ตกลงพี่รามจะตามหม่อนทั้งวันเลยใช่ไหมคะ”หม่อนไหมหันมาถามร่างสูงที่เดินตามเธอต้อย ๆไม่หยุดตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเที่ยงซึ่งตอนนี้เธอกับเตยหอมกำลังเดินไปที่โรงอาหารของคณะเพื่อทานมื้อเที่ยงหลังจากที่วิชาสุดท้ายของภาคเช้าจบลงแล้ว“แน่นอนค่ะ หนูหม่อนไปไหนพี่รามไปด้วย”คำตอบของรามสูรทำให้คนที่แสร้งทำหน้าไม่พอใจในครั้งแรกได้แต่ก้มหน้าลงพร้อมกับอมยิ้มด้วยความดีใจเพราะลึกๆในใจเธอเองก็อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆกันแบบนี้ทั้งวัน แต่เธอจะทำให้เขารู้ไม่ได้ว่าความคิดของเธอและความต้องการของเขานั้นตรงกันเมื่อสมการ X และสมการ Y เป็นของคู่กันแล้วทำไมจะต้องแยกจากกันด้วยจริงไหมว้าย!!หม่อนไหมนี่เธอคิดกับพี่มันไปถึงขั้นไหนแล้วเนี่ยปากบอกว่าไม่แต่ทำไมใจถึงได้โหยหาเขามากขนาดนี้“แล้วงานล่ะคะทิ้งมาแบบนี้จะไม่ขาดทุนแย่เหรอคะ”หม่อนไหมเอ่ยถามรามสูรด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอเคยได้ยินคืนน์พูดให้เพื่อนๆฟังว่าเขาเปิดร้านนำเข้ารถบิ๊กไบค์จากต่างประเทศและรับซ่อมรถด้วยแต่เขากลับหนีงานมาตามติดเธอแบบนี้แล้วใครจะดูแลร้านกันล่ะ“ถ้าหนูหม่อนเป็นห่วงกลัวว่าพี่จะเสียการเสียงานสนใจไปเป็นเจ้ที่ร้านพี่ไหมคะตำแหน่งนี้พี่ยกให้หนูคนเดียวเลยน้
บ้านหม่อนไหมหม่อนไหมเปิดประตูเข้ามาในบ้านด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อเธอเผลอพยักหน้าตอบตกลงอนุญาตให้รามสูรเข้ามาในบ้านเพื่อดื่มน้ำแก้วเดียวตามที่เขาร้องขอทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยเปิดบ้านต้อนรับใครมาก่อน นอกจากแก๊งเพื่อนสนิทที่มักจะมาทานมื้อเย็นฝีมือน้าสาวของเธอแต่ตอนนี้น้าเมษาไปดูงานที่ต่างประเทศกับเจ้านายทำให้เธอต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง“นั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะเดี๋ยวหนูหม่อนไปเอาน้ำมาให้”หม่อนไหมหันมาบอกรามสูรที่พยักหน้ารับด้วยแววตาทอแสงเป็นประกายก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งลงบนโซฟานุ่มด้วยท่าทีสบายๆพร้อมกับมองตามแผ่นหลังบอบบางของหม่อนไหมไปด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ หม่อนไหมเดินมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าออกมารินใส่แก้วก่อนที่เธอจะเดินกลับมาหารามสูรที่กำลังมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มที่ชวนให้ใจสั่น“น้ำค่ะ รีบดื่มแล้วก็รีบกลับไปได้แล้วค่ะ”หม่อนไหมวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะรับแขกพร้อมทั้งเอ่ยไล่เขาทันทีคล้ายกำลังรู้สึกรำคาญแต่รามสูรกลับยิ้มรับคำของเธออย่างไม่สะทกสะท้านราวกับว่าเขาไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูดอย่างไรอย่างนั้น“ฮ่า ชื่นใจจังเลยค่ะ”รามสูรวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะรับแขกพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้หม่อนไหมที่เริ
อากาศหนาวเย็นในยามเช้าทำให้หม่อนไหมค่อยๆขยับตัวไปด้านข้างเพื่อควานหาความอบอุ่นที่เธออิงแอบแนบชิดมาตลอดทั้งคืนแต่สัมผัสที่แสนเย็นเยียบทำให้เด็กสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะผุดลุกขึ้นนั่งและกวาดสายตาไปรอบๆห้องเพื่อมองหารามสูรที่อาจจะอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้องแต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมองหายังไงหม่อนไหมก็พบเพียงความว่างเปล่า “หรือว่าเขาจะอยู่ในห้องน้ำกันนะ” หม่อนไหมพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบแห้งก่อนที่เธอจะก้าวลงจากเตียงและเดินไปที่ห้องน้ำเมื่อคิดว่าเขาอาจจะอยู่ในนั้นแต่เมื่อเธอเดินไปถึงกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเด็กสาวขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจพร้อมกับรีบวิ่งไปที่หน้าต่างและมองลงไปยังด้านล่างทันทีรถของเขาที่จอดอยู่หน้าบ้านของเธอหายไปแล้วหัวใจดวงน้อยคล้ายกับถูกบีบรัดจนหดเกร็งให้รู้สึกเจ็บปวดอีกทั้งเธอยังสัมผัสได้ถึงเสี้ยวของความขมขื่นที่กำลังจู่โจมเข้าสู่หัวใจของเธออย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนที่หม่อนไหมจะค่อยๆทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องที่แสนเย็นเยียบอย่างหมดแรง“หม่อนไหมนะหม่อนไหม ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้”หม่อนไหมรำพึงขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่ฟังแล้วปวดร้าววังเวงสุดจะเปรียบหยาดน้ำ
Red-Eye PUBกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นเหล้าที่ลอยมาแตะจมูกของหม่อนไหมยามที่เธอก้าวเข้ามาในผับทำให้เด็กสาวรู้สึกพะอืดพะอมจนแทบอยากจะอาเจียนออกมา สองมือที่แนบอยู่ข้างลำตัวพลันยกขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้สร้างความแปลกใจให้กับเตยหอมที่เดินอยู่ข้างๆกันเป็นอย่างมาก“ทำไมสาวๆที่นี่ถึงได้พากันฉีดน้ำหอมจนกลิ่นฉุนขนาดนี้นะ”หม่อนไหมพึมพำเสียงเบาเพียงลำพังก่อนที่เธอจะเดินต่อไปโดยที่มีเตยหอมเดินตามหลังมาติดๆจนกระทั่งสองสาวเดินมาถึงโต๊ะประจำที่มีเพื่อนซี้สี่เทพบุตรที่กำลังรอคอยการมาของเธออย่างใจจดใจจ่อเพราะนี่คือครั้งแรกที่หม่อนไหมออกมาเที่ยวกลางคืนหลังจากที่เธอเก็บตัวอยู่แต่ที่บ้านนานนับเดือนเพื่อรักษาแผลใจที่ไม่ว่าจะพยายามลบหรือลืมมากเท่าไหร่ใบหน้าของรามสูรก็ยังคงชัดเจนในความทรงจำมากขึ้นเท่านั้น“ฮาย เพื่อนรักในที่สุดมึงก็ยอมมาดื่มกับพวกกูแล้ว”คินน์เอ่ยทักหม่อนไหมด้วยความดีใจก่อนที่สองสาวจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มแก้วเหล้าที่เพื่อนๆเตรียมเอาไว้ให้หม่อนไหมก็ถูกวางลงตรงหน้าทันทีอย่างไม่รีรอ“นี่ใจคอพวกมึงกะจะให้กูดื่มตั้งแต่มาถึงเลยเหรอเพื่อนเวร”หม่อนไหมเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มที่แฝงแววเสียดสีอันคุ้นตาในขณ