“พะ พี่เข้ามาได้ยังไงนี่มันห้องเรียนของหนูหม่อนนะคะ” หม่อนไหมเอ่ยถามรามสูรด้วยความตกใจหัวใจดวงน้อยพลันเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่นก่อนที่เธอจะกวาดสายตามองไปรอบๆห้องด้วยความกังวลใจเพราะนี่คือวิชาหลักไม่ใช่วิชาเลือกนักศึกษาที่เข้ามาเรียนล้วนเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมสาขาคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น “ก็เดินเข้ามาทางประตูนั่นไงคะ” รามสูรไม่พูดเปล่าหากแต่เขายังยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูทางเข้าทำให้หม่อนไหมต้องรีบคว้าแขนของเขากลับลงมาคืนทันทีลำพังหน้าตาที่หล่อเหลาโดดเด่นเกินใครก็ทำให้เพื่อนนักศึกษาต่างพากันมองมาด้วยความสนใจแล้ว โดยเฉพาะสาวๆที่พากันส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้เขาทำให้หม่อนไหมรู้สึกไม่พอใจแต่ก็พยายามเก็บอาการสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้คนข้างๆจับได้ว่าเธอกำลังคิดไม่ซื่อกับเขาอยู่ “หนูหม่อนรู้แล้วค่ะว่าพี่รามเข้ามาทางประตูแต่นี่มันห้องเรียนของหนูหม่อนนะคะที่นั่งอยู่ก็มีแต่เพื่อนๆร่วมชั้นมีพี่รามคนเดียวที่เป็นคนแปลกหน้า” “คนแปลกหน้าที่ไหนจะนอน...อุ๊ปส์” หมับ หม่อนไหมยกมือขึ้นปิดปากรามสูรเอาไว้ทันทีเมื่อเขากำลังจะพูดถึงเรื่องระหว่างเขาและเธอในวันนั้น “พี่รามไม่ต้องย้ำหลายรอบก็ได้หนูห
“ตกลงพี่รามจะตามหม่อนทั้งวันเลยใช่ไหมคะ”หม่อนไหมหันมาถามร่างสูงที่เดินตามเธอต้อย ๆไม่หยุดตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเที่ยงซึ่งตอนนี้เธอกับเตยหอมกำลังเดินไปที่โรงอาหารของคณะเพื่อทานมื้อเที่ยงหลังจากที่วิชาสุดท้ายของภาคเช้าจบลงแล้ว“แน่นอนค่ะ หนูหม่อนไปไหนพี่รามไปด้วย”คำตอบของรามสูรทำให้คนที่แสร้งทำหน้าไม่พอใจในครั้งแรกได้แต่ก้มหน้าลงพร้อมกับอมยิ้มด้วยความดีใจเพราะลึกๆในใจเธอเองก็อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆกันแบบนี้ทั้งวัน แต่เธอจะทำให้เขารู้ไม่ได้ว่าความคิดของเธอและความต้องการของเขานั้นตรงกันเมื่อสมการ X และสมการ Y เป็นของคู่กันแล้วทำไมจะต้องแยกจากกันด้วยจริงไหมว้าย!!หม่อนไหมนี่เธอคิดกับพี่มันไปถึงขั้นไหนแล้วเนี่ยปากบอกว่าไม่แต่ทำไมใจถึงได้โหยหาเขามากขนาดนี้“แล้วงานล่ะคะทิ้งมาแบบนี้จะไม่ขาดทุนแย่เหรอคะ”หม่อนไหมเอ่ยถามรามสูรด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอเคยได้ยินคืนน์พูดให้เพื่อนๆฟังว่าเขาเปิดร้านนำเข้ารถบิ๊กไบค์จากต่างประเทศและรับซ่อมรถด้วยแต่เขากลับหนีงานมาตามติดเธอแบบนี้แล้วใครจะดูแลร้านกันล่ะ“ถ้าหนูหม่อนเป็นห่วงกลัวว่าพี่จะเสียการเสียงานสนใจไปเป็นเจ้ที่ร้านพี่ไหมคะตำแหน่งนี้พี่ยกให้หนูคนเดียวเลยน้
บ้านหม่อนไหมหม่อนไหมเปิดประตูเข้ามาในบ้านด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อเธอเผลอพยักหน้าตอบตกลงอนุญาตให้รามสูรเข้ามาในบ้านเพื่อดื่มน้ำแก้วเดียวตามที่เขาร้องขอทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยเปิดบ้านต้อนรับใครมาก่อน นอกจากแก๊งเพื่อนสนิทที่มักจะมาทานมื้อเย็นฝีมือน้าสาวของเธอแต่ตอนนี้น้าเมษาไปดูงานที่ต่างประเทศกับเจ้านายทำให้เธอต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง“นั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะเดี๋ยวหนูหม่อนไปเอาน้ำมาให้”หม่อนไหมหันมาบอกรามสูรที่พยักหน้ารับด้วยแววตาทอแสงเป็นประกายก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งลงบนโซฟานุ่มด้วยท่าทีสบายๆพร้อมกับมองตามแผ่นหลังบอบบางของหม่อนไหมไปด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ หม่อนไหมเดินมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าออกมารินใส่แก้วก่อนที่เธอจะเดินกลับมาหารามสูรที่กำลังมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มที่ชวนให้ใจสั่น“น้ำค่ะ รีบดื่มแล้วก็รีบกลับไปได้แล้วค่ะ”หม่อนไหมวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะรับแขกพร้อมทั้งเอ่ยไล่เขาทันทีคล้ายกำลังรู้สึกรำคาญแต่รามสูรกลับยิ้มรับคำของเธออย่างไม่สะทกสะท้านราวกับว่าเขาไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูดอย่างไรอย่างนั้น“ฮ่า ชื่นใจจังเลยค่ะ”รามสูรวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะรับแขกพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้หม่อนไหมที่เริ
อากาศหนาวเย็นในยามเช้าทำให้หม่อนไหมค่อยๆขยับตัวไปด้านข้างเพื่อควานหาความอบอุ่นที่เธออิงแอบแนบชิดมาตลอดทั้งคืนแต่สัมผัสที่แสนเย็นเยียบทำให้เด็กสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะผุดลุกขึ้นนั่งและกวาดสายตาไปรอบๆห้องเพื่อมองหารามสูรที่อาจจะอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้องแต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมองหายังไงหม่อนไหมก็พบเพียงความว่างเปล่า “หรือว่าเขาจะอยู่ในห้องน้ำกันนะ” หม่อนไหมพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบแห้งก่อนที่เธอจะก้าวลงจากเตียงและเดินไปที่ห้องน้ำเมื่อคิดว่าเขาอาจจะอยู่ในนั้นแต่เมื่อเธอเดินไปถึงกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเด็กสาวขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจพร้อมกับรีบวิ่งไปที่หน้าต่างและมองลงไปยังด้านล่างทันทีรถของเขาที่จอดอยู่หน้าบ้านของเธอหายไปแล้วหัวใจดวงน้อยคล้ายกับถูกบีบรัดจนหดเกร็งให้รู้สึกเจ็บปวดอีกทั้งเธอยังสัมผัสได้ถึงเสี้ยวของความขมขื่นที่กำลังจู่โจมเข้าสู่หัวใจของเธออย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนที่หม่อนไหมจะค่อยๆทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องที่แสนเย็นเยียบอย่างหมดแรง“หม่อนไหมนะหม่อนไหม ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนี้”หม่อนไหมรำพึงขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่ฟังแล้วปวดร้าววังเวงสุดจะเปรียบหยาดน้ำ
Red-Eye PUBกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นเหล้าที่ลอยมาแตะจมูกของหม่อนไหมยามที่เธอก้าวเข้ามาในผับทำให้เด็กสาวรู้สึกพะอืดพะอมจนแทบอยากจะอาเจียนออกมา สองมือที่แนบอยู่ข้างลำตัวพลันยกขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้สร้างความแปลกใจให้กับเตยหอมที่เดินอยู่ข้างๆกันเป็นอย่างมาก“ทำไมสาวๆที่นี่ถึงได้พากันฉีดน้ำหอมจนกลิ่นฉุนขนาดนี้นะ”หม่อนไหมพึมพำเสียงเบาเพียงลำพังก่อนที่เธอจะเดินต่อไปโดยที่มีเตยหอมเดินตามหลังมาติดๆจนกระทั่งสองสาวเดินมาถึงโต๊ะประจำที่มีเพื่อนซี้สี่เทพบุตรที่กำลังรอคอยการมาของเธออย่างใจจดใจจ่อเพราะนี่คือครั้งแรกที่หม่อนไหมออกมาเที่ยวกลางคืนหลังจากที่เธอเก็บตัวอยู่แต่ที่บ้านนานนับเดือนเพื่อรักษาแผลใจที่ไม่ว่าจะพยายามลบหรือลืมมากเท่าไหร่ใบหน้าของรามสูรก็ยังคงชัดเจนในความทรงจำมากขึ้นเท่านั้น“ฮาย เพื่อนรักในที่สุดมึงก็ยอมมาดื่มกับพวกกูแล้ว”คินน์เอ่ยทักหม่อนไหมด้วยความดีใจก่อนที่สองสาวจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มแก้วเหล้าที่เพื่อนๆเตรียมเอาไว้ให้หม่อนไหมก็ถูกวางลงตรงหน้าทันทีอย่างไม่รีรอ“นี่ใจคอพวกมึงกะจะให้กูดื่มตั้งแต่มาถึงเลยเหรอเพื่อนเวร”หม่อนไหมเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มที่แฝงแววเสียดสีอันคุ้นตาในขณ
เอี๊ยดตุ้บรถซุปเปอร์คาร์คันหรูที่แล่นมาด้วยความเร็วสูงหยุดลงห่างจากร่างบางของเด็กสาวเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นก่อนที่ร่างของหม่อนไหมจะค่อยๆเอนล้มไปด้านหน้าส่งผลให้ศีรษะของเด็กสาวกระแทกกับกระโปรงรถเต็มแรง เลือดสีแดงสดไหลหยดลงมาบนใบหน้าของหม่อนไหมที่ตอนนี้นอนหมดสติอยู่บนพื้นถนนก่อนที่เจ้าของรถซุปเปอร์คาร์คันหรูจะรีบเปิดประตูลงจากรถมาดูเธอด้วยความเป็นห่วง มือที่เตรียมจะแตะลงตรงจุดชีพจรของเด็กสาวพลันต้องชะงักไปเมื่อมีมือของใครบางคนยื่นมาขวางเอาไว้ทำให้เจ้าของมือใหญ่ถึงกับเงยหน้ามองผู้ที่ขัดขวางการตรวจดูอาการของเด็กสาวด้วยความรู้สึกไม่พอใจ“ผมโทรเรียกรถโรงพยาบาลแล้วครับอีกไม่กี่นาทีก็คงจะมาถึงแล้ว ระหว่างที่รอรบกวนไม่แตะต้องร่างกายของคู่กรณีนะครับ”เด็กหนุ่มนักศึกษาที่วิ่งเข้ามาดูหม่อนไหมเป็นคนแรกเอ่ยบอกเจ้าของรถคันหรูที่ยกยิ้มมุมปากน้อยๆอย่างไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับคำพูดของคนตรงหน้าแต่อย่างใดก่อนที่เขาจะปัดมือของเด็กหนุ่มทิ้งอย่างไม่ใยดี“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ผมคงจะทำตามคำสั่งของคุณไม่ได้เพราะผมเป็นหมอ”กฤษฎิ์เอ่ยบอกเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้มยียวนพร้อมกับหยิบบัตรประจำตัวที่อยู่ในประเป๋าเสื้อ
“คุณตา”“พี่ราม”น้ำเสียงที่อุทานร้องเรียกชื่อกันและกันของคุณตาสุดเฟียร์สกับหลานชายสุดแสบทำให้เตยหอมที่กำลังนอนหลับฝันหวานถึงกับสะดุ้งตื่นผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ ในขณะที่หม่อนไหมนั้นรีบดึงเข็มน้ำเกลือบนมือออกทันทีโดยไม่สนใจหยดเลือดที่ไหลลงมาตามข้อมือและรีบลงจากเตียงตรงเข้าไปประคองรามสูรให้ลุกขึ้นยืนด้วยความเป็นห่วงทั้ง ๆที่เธอนั้นกำลังไม่สบายอยู่“พี่รามไม่เป็นอะไรนะคะ”น้ำเสียงที่ยังคงไพเราะน่าฟังเอ่ยถามรามสูรด้วยความห่วงใยก่อนที่คนเจ้าเล่ห์จะเริ่มทำการแสดงละครอ้อนสาวต่อหน้าต่อตาของผู้เป็นตาทันทีโดยที่ไม่สนใจใยดีดวงตาสีดำลุ่มลึกเกินที่เขาจะหยั่งถึงของผู้เป็นตาที่กำลังมองมาที่ตัวเองตาไม่กระพริบ“อูย เจ็บจังเลยค่ะหนูหม่อนดูนี่สิคะปากแตกหรือเปล่าก็ไม่รู้”รามสูรยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปแนบชิดแก้มเนียนของหม่อนไหมด้วยความตั้งใจทำให้หม่อนไหมถึงกับทำตัวไม่ถูกเมื่อเขาเล่นออดอ้อนเธอต่อหน้าเตยหอมที่กำลังเบิกตากว้างมองมาที่เธอด้วยความตกใจเมื่อเธอเพียงแค่เผลอหลับไปแต่กลับต้องตื่นขึ้นมาพบภาพที่บาดตาบาดใจเช่นนี้กฤษฎิ์ยกยิ้มมุมปากน้อยๆมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองกับการกระท
“หนูหม่อนอยากออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ”น้ำเสียงยามที่เอ่ยบอกคนที่กำลังป้อนอาหารมื้อเย็นเธอเต็มไปด้วยเสี้ยวของการเว้าวอนอย่างห้ามไม่อยู่ใบหน้าที่เริ่มสดใสมีชีวิตชีวามองรามสูรอย่างออดอ้อน แต่รามสูรกลับส่ายหน้าไปมาช้าๆเป็นเชิงปฏิเสธถึงแม้ว่าหม่อนไหมจะไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงถึงขั้นต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่เขาก็อยากให้เธอนอนพักที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนแล้วพรุ่งนี้ถึงค่อยเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้าน“นอนพักที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านนะคะเด็กดี”เมื่อเธอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเขาให้เห็นใจรามสูรก็ขอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเธอกลับเพื่อให้เธอเชื่อฟังเขาเช่นกันซึ่งก็ได้ผลน้ำเสียงอ่อนโยนของรามสูรทำให้หม่อนไหมยอมพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังเขาแต่โดยดีทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอยืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาลให้ได้“พี่รามจะอยู่เฝ้าหนูหม่อนใช่ไหมคะ”“เมียไม่สบายทั้งคนผัวที่แสนดีคนนี้จะทิ้งให้เมียต้องนอนคนเดียวได้ยังไงคะ”ความเคอะเขินปรากฏขึ้นบนใบหน้าเนียนของหม่อนไหมทันทีก่อนที่เธอจะหลุบตาลงมองมือที่ประสานกันนิ่งอยู่บนตักเพื่อซ่อนรอยยิ้มที่เผยออกมาด้วยความดีใจ แต่ยังไม่ทันได้ยิ้มด้วยความสุขใจอย่างเต็มที่คางมนขอ