"คุณอาใหญ่สวัสดีค่ะ" เสียงหวาน ๆ เรียกให้คนที่กำลังนั่งหันหลังอยู่หันขวับกลับไปมองทันที
ชายหนุ่มยอมรับทันทีที่เห็นหน้าว่าสาวน้อยคนนี้สวยและน่ารักแบบที่แม่ว่าจริง ๆ เธอใส่กางเกงยีนส์เอวต่ำสีดำรัดรูป สะโพกผาย เส้นร่องสิบเอ็ดที่หายเข้าไปในขอบกางเกงชัดเจนซิกแพคราง ๆ บ่งบอกว่าเธอเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นนิสัย ผิวสีแทนกรรมพันธุ์ของเธอแลดูสุขภาพดีเนียนละเอียดจนไร้ตำหนิ ไหล่กว้าง เสื้อกล้ามครอปสีขาวของเธอโชว์สัดส่วนที่ไม่ได้ใหญ่โตนักแต่สมส่วนอย่างน่ามอง ตากลมออกแววหวานประดับด้วยขนตางอนยาวเป็นแพรแทบจะจรดไรคิ้ว ปากนิดจมูกหน่อย แก้มป่อง ๆ ดูลงตัวไปทุกส่วน
"เฮ้ย...! น้องไหว้มึงน่ะ" สรัญตบไหล่น้องชายแรง ๆ เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่ยกมือไหว้ไปแล้ว 3 รอบแต่น้องชายยังนิ่งอยู่ จนชายหนุ่มสะดุ้งหลุดจากภวังค์
"อ๋อ... เอ่อ สวัสดีครับ" ชายหนุ่มกล่าวทักสาวสวยยิ้ม ๆ
"อือ... ไม่ไหว้แล้วนะ ไหว้เท่าพระแล้ว ทีแรกนึกว่าหูหนวกซะอีก" สาวสวยว่าพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว ทำชายหนุ่มอึ้งกับคำทักของเธอ
"โรม นี่น้องเจ้าขาลูกสาวบุญธรรมลุงอัฐ น้องจะมาเรียนที่มหาลัยเดียวกับโรม เจ้าลูกนี่พี่โรมลูกชายคนเล็กของอาเอง พี่เขาเรียน ป.โทที่ ม. B อยู่น่ะลูก" คุณหญิงรวิดาแนะนำทั้ง 2 รู้จักกันซึ่งเจ้าขาก็พยักหน้านิ่ง ๆ แล้วมองหน้าชายหนุ่ม
"เอ่อ... ขอโทษครับ พวกผมจะเอาของเจ้าไว้ที่ไหนได้ครับ" ชายร่างใหญ่ผิวคล้ำเอ่ยถามยิ้ม ๆ ก่อนจะยกมือไหว้ทุกคนในห้องชนิดที่ไหว้ทีเดียวรอบห้อง
"อ้าว ลืมเลย จากัวร์พาอา ๆ เอาของไปไว้ห้องอาเจ้าหน่อยลูก ข้างห้องอาโรมนะครับ" คุณหญิงรวิดาเอ่ยกับหลานชาย แล้วหันไปสั่ง 2 ผู้ติดตามของหลานสาวที่ท่านเคยเห็นอยู่ที่บ้านของพี่ชาย "ระ ราน ตามจากัวร์ไปเลยลูก แล้วเรา 2 คนก็นอนนี่นะคืนนี้"
"โธ่... คุณอาครับ เรียกว่าเล็กกับน้อยก็ได้ครับ หรือ สุระกับสราญเถอะ" ไอ้หนุ่มร่างใหญ่โอดครวญ เรียกรอยยิ้มขำ ๆ กันในห้อง
"ระ ราน คืนนี้นอนกับเจ้านะ" หญิงสาวหันมาบอกผู้ติดตามที่เป็นทั้งพี่เลี้ยงและเพื่อนยิ้ม ๆ
"จะดีหรือลูก ให้พี่ ๆ เขาไปนอนที่ห้องรับรองก็ได้จะเบียดกันทำไม" คุณอาว่ากับหลานสาวยิ้ม ๆ
"ไม่เบียดหรอกค่ะ ปกติเวลาไปไหนเราก็จะนอนห้องเดียวกันอยู่แล้วค่ะผิดที่เจ้าไม่นอนคนเดียว" หญิงสาวว่าและเป็นเรื่องธรรมดาของเธอเพราะทั้ง 3 คนโตมาด้วยกัน สุระกับสราญเป็นพี่น้องลูกของคนงานไซต์ก่อสร้างที่มาสร้างโรงพักใหม่ เด็กทั้ง 2 ไม่ได้เรียนหนังสือต้องตามพ่อกับแม่ไปตามไซต์งานเรื่อย ๆ ท่านอัฐสงสารเลยขอไว้แล้วส่งเสียให้เรียนหนังสือและช่วยดูแลงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูแลลูกสาวบุญธรรมของท่านด้วย ทั้ง 3 เลยค่อนข้างสนิทกัน 2 คนนี้รักเจ้าขาเหมือนนายน้อยคนหนึ่งส่วนหญิงสาวเองก็รักและไว้ใจทั้ง 2 เหมือนพี่ชายที่คลานตามกันมา
"ไปครับเดี๋ยวจาพาไป" เด็กน้อยว่าพลางเดินมาช่วยลากกระเป๋าใบโตอย่างแข็งขัน "คืนนี้ขอจานอนกับอาเจ้าด้วยนะครับ" เด็กน้อยว่าพลางยิ้มตาหยีส่งให้ 2 หนุ่มที่พากันเดินขึ้นไปบนบ้าน
"แล้วพรุ่งนี้น้องจากัวร์ไม่ไปโรงเรียนหรือครับ" น้อยเอ่ยถามขึ้น
"ไปครับ ให้อาเล็ก อาน้อยไปส่งก็ได้ในห้องคุณพ่อมีชุดนักเรียนด้วยครับ" เด็กน้อยว่าเสียงแจ๋ว ๆ เดินขึ้นไปบนบ้าน
"เฮ้อ...ได้เพื่อนเล่นเพิ่มล่ะสิไอ้ตัวแสบ ต่อไปคงมาสิงที่บ้านคุณปู่ประจำนั่นล่ะ" สรัญว่ายิ้ม ๆ ทั้งยังชำเลืองมองหน้าน้องชายที่ตอนนี้เขายังมองหน้าสาวน้อยผู้มาใหม่นิ่ง ๆ
*กูต้องทักยังไงวะ ตอนเจอไอ้ตัวเล็กนั่นไอ้มาร์คแนะนำแล้วมันเด็ก 12 แต่นี่เด็ก 19 ... คนไม่เคยมีน้องคิดในใจพลางขมวดคิ้ว*
"เฮ้ย! มองมีปัญหาอะไรเหรอ เห็นจ้องนานแล้วนะจะถามไรก็ถาม ไม่ถามจะได้ไปฉี่" คนสวยว่าขึ้นพลางมองหน้ากลับ ทำคนที่กำลังคิดหาคำพูดถึงกับหน้าม้าน เธอเห็นโรมจ้องเธอมาซักพักแล้วเลยรอว่าจะถามอะไรแต่ไม่ถามซักทีและตอนนี้เธอก็อยากเข้าห้องน้ำมากด้วย
"เอ่อ... ปะ ไปเข้าห้องน้ำเถอะ แค่คิดว่าคุ้นหน้าน่ะ" โรมว่าขึ้น คนตัวเล็กไม่รอให้บอกซ้ำรีบลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำเหมือนคุ้นชินกับที่นี่มานาน ทั้ง ๆ โรมเองก็ไม่เคยเห็นหน้าเธอเลยซักครั้ง
"ไง น่ารักใช่มั้ย แม่บอกแล้วน่ารักเหมือนน้องขวัญน้องหวาน" คุณหญิงรวิดาพูดกับลูกชายคนเล็กยิ้ม ๆ
"หึ น่ารักมั้งครับ แต่ผมว่าไม่ควรจับรวมกันที่สุด" โรมว่าพลางยกยิ้มที่มุมปาก *จากอาการกูว่าแม่งคงดื้อน่าดู แล้วถ้ารวมกับ 2 ตัวนั่น บรรลัยจุก ๆ*
"น่ารักจะตายไป แม่ว่านะพามากินข้าวด้วยกันซักมื้อก็น่าจะดี เออ...เดือนหน้างานเลี้ยงสโมสรภริยานักธุรกิจนี่เนาะ แม่พาน้องเจ้าไปออกงานดีกว่า คุณหญิงว่านต้องพาน้องขวัญน้องหวานมาแน่ ๆ จีว่ายังไงลูก" คุณแม่ว่าอย่างอารมณ์ดีทั้งยังหันไปถามความเห็นลูกสะใภ้ยิ้ม ๆ
"ก็ดีนะคะคุณแม่ น้องเจ้าน่ารักขนาดนี้ แล้วจีจะได้ไม่เหงาด้วยค่ะ" จีน่าสนับสนุนเต็มที่
"เตรียมบรรลัยแน่พี่รัน ไอ้มาร์คได้บินมาถล่มร้านผมเอาซักวันแน่" ชายหนุ่มหันไปพูดกับพี่ชายพลางกลืนน้ำลายลงคอ
"เออ... พรุ่งนี้พาน้องไปซื้อเสื้อผ้า แล้ววันจันทร์พาไปลงทะเบียนด้วยนะ" คุณพ่อเอ่ยสั่งลูกชายเสียงนิ่ง "แล้วจ่ายค่าเทอมให้น้องด้วยล่ะ"
"อ้าว...แล้วทำไมต้องผมล่ะพ่อ ลุงอัฐไม่ได้ให้เงินน้องมาเหรอ" โรมร้องอ้าวขึ้นมาทันที
"ให้มา แต่พ่อสั่งให้แกจ่ายแกต้องจ่าย ทำไม? ทีกับสาว ๆ เปย์ไม่อั้นทีกับน้องกับนุ่งมันจะกี่ตังค์กัน" คุณศาสตราว่ากับลูกชายเสียงดัง
"คร้าบบบ.... ได้ครับ ไม่เห็นต้องเสียงดังเลยนี่นา งั้นผมว่าเรากินข้าวกันดีกว่าเนาะ ผมจะได้ไปร้าน" โรมเปลี่ยนเรื่องพลางถอนหายใจแล้วหันมองร่างบางที่ตอนนี้กำลังช่วยแม่บ้านจัดโต๊ะอาหารอย่างแข็งขัน แม่บ้านที่นี่มีคนอีสานด้วยและหญิงสาวเองก็คนอีสานการสื่อสารภาษาเดียวกันเลยทำให้เธอร่าเริงขึ้น ในขณะที่ 3 หนุ่มที่เดินขึ้นไปเก็บของด้านบนกำลังพูดคุยกันลงมา โดยมีเสียงของหลานชายตัวเล็กของบ้านนำมาก่อน
"อ้าว... อาก็นึกว่าหายไปไหน มาช่วยเขาจัดโต๊ะนี่เอง" คุณหญิงรวิดาว่าอย่างเอ็นดู
"พอดีแม่เขาทำแกงไก่บ้านใบมะขามอ่อนมาให้อาใหญ่ด้วยค่ะเลยมาอุ่น แล้วก็มีลาบหมูของโปรดพี่รันด้วยนะคะ" หญิงสาวว่าพลางหันมายิ้มให้อย่างน่ารัก
"โอ้... อาต้องพุงกางแน่เลย ฝีมือกับข้าวแม่เราสุดยอด แล้วนี่เล็กน้อยจะไปไหนนั่นลูก" คุณศาตราหันไปถาม 2 ผู้ติดตามของหลานสาว
"เราไปกินพร้อมลุงนวยครับ" เล็กหันมาตอบยิ้ม ๆ ถึงพวกเขา 2 คนจะถูกเลี้ยงมาเหมือนลูกเลี้ยงของท่านอัฐแต่พวกเขาก็คิดเสมอว่าไม่ควรทำตัวเสมอท่านเลยเลือกที่จะเจียมตัวแบบนั้นแทน
"อาเจ้าวันนี้จาจะนอนกับอาเจ้าล่ะ เมื่อกี้อาเล็กอาน้อยจัดที่นอนเรียบร้อยแล้วด้วย" เด็กน้อยว่าอย่างตื่นเต้น
"ไม่กลับบ้าน?" สรัญเอ่ยถามลูกชายขำ ๆ
"ไม่ครับ พรุ่งนี้อาเล็กอาน้อยจะพาออกกำลังกายด้วย"
"ไอ้เห่อ..." โรมว่าพลางเดินไปเขกหัวหลานชายอย่างหมั่นไส้ พอมีคนใหม่มาหลานชายตัวดีก็ลืมเขาไปทันทีเลย
"ทำไมล่ะ ก็อาเจ้าเล่นสนุกกว่าอาโรมนี่ คืนนี้เราจะนอนด้วยกันเชิญอาโรมไปร้านของอาโรมเลยครับ" เด็กน้อยว่าพร้อมทั้งไล่อาให้ไปร้านหน้าตาเฉย
"ไม่ไปเว้ย ทำไม?"
"ไม่ไปเว้ย ทำไม?" คนตัวโตยืนหาเรื่องหลานชายที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ หญิงสาวไม่หยุด"ถอยห่างไปเลย (ว่าพลางผลักอาตัวเองออกห่างอาสาวคนสวย) อย่ามาใกล้อาเจ้าเลย" เด็กน้อยว่าพลางทำสีหน้าจริงจัง"ง่อ...หวงเฉย ไม่รักอาโรมแล้วงี้" อาหนุ่มเลิกคิ้วถามพลางใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มรอคำตอบ"ไม่!" "หมื่นนึง" คนตัวโตเริ่มให้ราคาความรักกับหลานชาย"ก็งั้น ๆ" "สองหมื่น" โรมเพิ่มราคานิ่ง ๆ ทำเอาคนฟัง 2 คู่ปรับคุยกันถึงกับกลั้นขำ โรมมักจะหาเรื่องเปย์หลานชายแบบนี้เสมอแทนที่จะให้เป็นของเล่นแต่จะให้เป็นเงินเก็บแทนโดยให้เหตุผลว่าของเล่น เล่นแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เบื่อแต่มีเงินในบัญชีโตขึ้นจะได้มีเงินไปเรียนต่อเมืองนอกเหมือนอามาร์ค (จากัวร์เคยร้องไห้ตามมาร์คเพื่อนของโรมตอนที่มาร์คกลับมาไทยแล้วโรมพาหลานไปส่งเพื่อนที่สนามบิน)"นิดนึงก็ได้" คนตัวเล็กว่าพลางเหล่ตามองรอราคาเพิ่ม"สามหมื่น เต็มที่" "สี่หมื่นจะยอมนอนด้วยเลยคืนนี้" หลานชายว่าพลางยักคิ้วอย่างเหนือกว่า"แหม... ไอ้งก อามีแค่สามหมื่นจะรักไม่รัก" "อย่ามาพูด พ่อบอกว่าอาโรมมีตังค์เยอะ นี่น้อยแล้วนะถ้าไม่โอเค จาขึ้นราคาได้อีกนะ" คนตัวเล็กกอดอกว่าสีหน้าจริงจัง"เค สี่หมื่นก็
ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำเอา 2 หนุ่มที่นั่งอยู่ที่ที่นอนปิคนิคมองหน้ากัน เล็กลุกเดินมาเปิดประตูพร้อม ๆ เจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี"ไผมา?" เสียงหญิงสาวเอ่ยถามพลางนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเพียงครีมบำรุงวางอยู่แค่กระปุกเดียว"พี่โรม" เล็กตอบสั้น ๆ พร้อมกับเปิดประตูออกกว้างให้ชายหนุ่มเดินเข้ามา โรมมองที่นอนที่ 2 พี่น้องปูนอนฝั่งข้างหน้าต่างแล้วหันมองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังทาครีมบำรุง ในแบบที่ทำเอาอึ้งเพราะไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรง่ายขนาดนั้น คือกดครีมใส่มือแล้วลูบตั้งแต่หน้า ขาแขนตัวด้วยครีมกระบุกเดียวครั้งเดียวครบเรียบร้อย ขนาดเขาเป็นผู้ชายเขายังมีครีมมากกว่าเธอและยังแยกหน้ากับตัวเองออกจากกัน แต่เธอไม่! หญิงสาวปล่อยผมยาวสยายเต็มหลัง แล้วนั่งใช้แปรงหวีอันใหญ่สางเบา ๆ ก่อนจะใช้มือสางจนฟูสะบัดซ้ายขวาแล้วตลบจากด้านหลังไปด้านหน้าเปิดพัดลมจ่อแทนการใช้ไดร์ซึ่งไม่มั่นใจว่าเธอมีหรือเปล่า และเขาเองก็เป็นคนผมค่อนข้างยาวเหมือนกัน จึงคิดว่าถ้าน้องไม่มีเขาน่าจะหาให้เธอไว้ใช้บ้างเพราะถ้าผมไม่แห้งแล้วนอนโอกาสที่จะเป็นหวัดในตอนเช้าจะมีมาก"ไม่มีไดร์เหรอ?" ชายหนุ่มขมวดคิ้วถาม "พี่ให้ยืมได้นะ"
"แบบนี้ก็แสบน่าดูสิครับแม่" นายหนุ่มว่าพลางเหลือบมองขึ้นไปบนห้องที่ตอนนี้ได้ยินเสียงเจ้าขาหัวเราะร่วนไม่หยุด"ไม่หรอก แกก็เป็นไปตามวัยนั่นแหละแล้วอีกอย่างอยู่นั่นก็ไม่ค่อยมีเด็กผู้หญิงให้เล่นด้วยเด็ก ๆ มาซ้อมมวยก็มีแต่ผู้ชายซะส่วนใหญ่ เลยออกจะห้าว ๆ ไปนิดนึง แต่บทจะหวานน้องก็หวานมากนะ น่ารักแบบนี้แม่ชอบ" คุณหญิงรวิดาพูดกับลูกชายพลางตักข้าวเข้าปากแล้วชำเลืองมองสามีอย่างมีเลศนัย ขณะที่ได้ยินเสียงของเล็กกับน้อยเดินคุยกันลงมาด้านล่าง"เล็ก น้อย มากินข้าวด้วยกันสิลูก" คุณหญิงรวิดาเอ่ยเรียกกันเอง"พวกผมไปกินในครัวกับป้าแม่บ้านสะดวกกว่าครับ มีข้าวเหนียวด้วยเมื่อเช้าผมลุกขึ้นมาหุงไว้แล้วครับ" เล็กหันมาตอบยิ้ม ๆ "แล้วเจ้าล่ะ" โรมเอ่ยถามคนที่ยังไม่ลงมา"กำลังอาบน้ำครับ เพิ่งคุยกับพ่อใหญ่เสร็จครับ" น้อยหันมาตอบชายหนุ่มยิ้ม ๆ ซึ่งพ่อใหญ่ที่เขาเรียกก็คือท่านอัฐลุงของชายหนุ่มนั่นเอง แต่เด็ก ๆ ที่ท่านดูแลสอนมวยให้จะเรียกท่านว่าพ่อใหญ่กันหมดยกเว้น เจ้าขาที่ท่านให้เรียกว่าพ่อหรือพ่ออัฐมาตั้งแต่เด็ก ๆ "คุณอาขา วันนี้เจ้ากับระรานจะไปหาเพื่อนกันนะคะ คงจะกลับเย็น ๆ หรือดึก ๆ เลยค่ะ" เด็กสาวสะพายกระเป๋าใ
"ป๋าจริงเว้ย พ่อไม่สงสัยแล้วทำไมเงินเก็บแกถึงไม่เยอะ ก็เอ็งเล่นแจกแบบนี้นี่เอง" คุณศาสตราขำกับความใจป้ำของลูกชาย"ใช่ที่ไหนล่ะครับพ่อ เงินเก็บผมก็ลงทุนมั้ยครับ แล้วเงินหุ้นที่บริษัทปันให้แต่ละปีผมก็ให้แม่จัดการมาตลอดไม่เคยยุ่งเกี่ยวนะ ผมก็แค่เสนอสิ่งที่ดี ๆ ให้เท่านั้น น้องเป็นผู้หญิงมันต้องดูแลมั้ย จะมอเตอร์ไซค์ไปมหาลัยงี้ จะออกไปอยู่ข้างนอกงี้ แต่ละอย่างมันปลอดภัยที่ไหน ขนาดไอ้ 2 แสบ แค่ขี่จักรยานยังพากันเทกระจาดศอกแตกให้ไอ้เทนบินด่วนจากเชียงใหม่ได้เลยนะครับ แล้วเกิดเจ้าขาเป็นอะไรไปลุงอัฐไม่บินด่วนมาเหยียบคอหอยเอาหรือไง" ชายหนุ่มให้เหตุผลยาวเหยียด ซึ่งพอดีกับเทนขับรถเข้ามาจอดในบ้าน"คุณพ่อคุณแม่ สวัสดีครับ" เทนเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เพื่อน"มาเทนกินข้าวด้วยกันลูก" คุณศาสตราทักเพื่อนลูกชายยิ้ม ๆ"ผมเรียบร้อยมาแล้วครับพ่อ แล้วนี่มึงคุยกับคุณพ่อยังเรื่องรีสอร์ตตกลงว่าเอาไง" เทนตอบพ่อเพื่อนแล้วหันมาถามเพื่อน"ยังว่ะ แต่ไปดูก่อนถ้าราคาตามที่พูดก็ไม่มีปัญหานี่ กูพอมีเงินเก็บอยู่ไม่รบกวนพ่อกับแม่กูหรอก" โรมหันไปพูดกับเพื่อนพร้อมกับยกน้ำขึ้นดื่ม"รีสอร์ตอะไรหรือลูก" ค
"เฮ้ย! ได้ไงวะ นี่เราเจอก่อนนะ" แมงปอว่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ"ราคาเป็นหมื่น สภาพบ้านนอกแบบนี้คงมีปัญญาจ่ายหรอก นู่น...งานเซลล์อยู่หน้าร้านนู่น อย่ามาสะเออะในร้าน" สาวสวยว่าพลางเบะปากมองเจ้าขาและเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าเหยียด ๆ"ก็ราคาแค่หมื่นมั้ยวะ บ้านนอกแล้วไง ปากแบบนี้อยากกราบตีนบ้านนอกมั้ยล่ะ" แมงปอว่าอย่างเหลืออดถึงพวกเธอจะเด็กบ้านนอกแต่เรื่องเงินแมงปอไม่เคยขัดสนเพราะเธอก็เป็นลูกสาวคนเล็กของกำนันดัง มีที่มรดกให้เช่าเป็นพันไร่ ถึงไม่ทำงานก็มีกินแถมเธอยังเป็นนักมวยค่าตัวแพงพอ ๆ กับเจ้าขาอีกด้วย"เฮ้ยมึง ใจเย็น..." เจ้าขาพูดกับเพื่อนรักเสียงหวานแล้วมองหน้าพนักงานและลูกค้าสาวสวยตัวแสบนิ่ง ๆ"ชุดนั้นเมื่อกี้มันอยู่ในมือเราแล้วเรากำลังจะลอง มีอีกชุดไซส์ s มั้ย" เจ้าขาชี้ไปที่ชุดที่หญิงสาวหยิบไปวางบนเคาน์เตอร์"มีค่ะ สักครู่ค่ะลูกค้า" พนักงานของร้านว่าขึ้นยิ้ม ๆ เตรียมจะเดินเลี่ยงไปหยิบอีกชุดมาให้"ชั้นไม่ใส่ชุดซ้ำกับอีบ้านนอกนี่นะ ถ้าแกเอามาให้มันลองฉันจะไม่ซื้อร้านแกอีก" หญิงสาวว่าขึ้นเสียงดังจนพนักงานชะงัก เพราะสาวคนนี้เคยมากับลูกชายคนเล็กของร้านและมาซื้อร้านนี้ประจำ (แต่ใช้ส่วนลดนะ)
"สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะคุณโรม แอลี่ไปลองนะคะ" สาวสวยว่าพลางทำท่าจะลุกขึ้นจากพนักเก้าอี้ไปลอง ทำให้คนตัวเล็กที่ไม่ได้เดินมานั่งตวัดตามองหน้าโรมอย่างเอาเรื่องทันที"ผมเปลี่ยนใจ ผู้จัดการเอาชุดพวกนี้ส่งที่บ้านผม บอกว่าของคุณเจ้าขา " โรมบอกผู้จัดการแล้วลุกขึ้นยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองหน้าคนตัวเล็กนิ่ง ๆ"บ้านคุณโรม? หรือคะ" ผู้จัดการสาขาทวนพลางหันไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่สลับกันไปมาอึ้ง ๆ"ครับ บ้านผม แล้วนี่คือคุณเจ้าขา ต่อไปเธอมาก็ให้เกียรติเธอด้วย แล้วอย่าให้ผมได้ยินอีกว่าที่ร้านนี้เลือกปฏิบัติ" ชายหนุ่มว่าเสียงนิ่งแล้วกวาดตามองรอบร้านก่อนจะสบตากลมโตของคนที่กำลังมองเขาอยู่"แล้วบอกทุกสาขาว่าต่อไปไม่มีใครมีส่วนลดอะไรในชื่อผมถ้าผมไม่ได้มา แล้วห้ามผู้หญิงคนนี้เข้ามาระรานอะไรในร้านผมอีก" ว่าพลางตวัดตามองสาวสวยที่นั่งข้าง ๆ เมื่อครู่เหยียด ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตัวเองเรียกว่าน้องยิ้ม ๆ "พอใจมั้ยครับ""ยัง! ทีหลังก็สอนกีให้ดี ๆ ระวังจะเจ็บตัวโดยใช่เหตุ" หญิงสาวออกคำสั่งแล้วจับมือเพื่อนเตรียมจะเดินออกนอกร้าน เมื่อเห็น 2 หนุ่มเล็กน้อยเดินถือของเข้ามา"เดี๋ยว... (โรมว่าพลางคว้าข้อมือบางเอาไว้จ
"เรามาดูเสื้อนักศึกษา มีไซส์ s ให้ลองมั้ยคะ พอดีว่าร้านข้างล่างไม่สะดวก" เจ้าเขาถามยิ้ม ๆ"มีน่ะมี แต่ลองแล้วต้องซื้อนะคะน้อง แล้วร้านเราของแบรนด์ไม่มีตัวละร้อยนะ" พนักงานสาวพูดเสียงนิ่ง แต่ไม่ยอมขยับตัวเดินไปหยิบเสื้อมาให้เธอลอง"รู้ค่ะ อ่านออกแล้วตกลงว่าจะให้ลองให้ซื้อมั้ยคะถ้าไม่จะได้ไปร้านอื่น" แมงปอตอบอย่างอารมณ์เสีย "คนพวกนี้ยังไงนะแค่เสื้อตัวไม่กี่บาททำยังกับตัวละแสนงั้นแหละ""ก็ดูสภาพน้องแล้วไม่น่าจะมีจ่ายนี่คะ งานเซลล์ชั้นล่างก็มีนะ" พนักงานคนเดิมว่าสวนขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออกไปทางอื่น"เอ่อ... สวัสดีค่ะ คุณหนูอยากได้อะไรพี่หาให้ค่ะ" ผู้ชายเรียบร้อยเดินออกมาจากด้านในแล้วกระวีกระวาดพุ่งมาทันที เมื่อเห็น 2 สาว ที่สาขาข้างล่างเพิ่งส่งรูปมาให้ดูเมื่อไม่ถึง 5 นาทีมายืนอยู่ที่ร้านตัวเอง"เราอยากได้เสื้อนักศึกษาค่ะ พอดีว่าเห็นเนื้อผ้าที่ร้านข้างล่างแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อ เห็นว่าแบรนด์เดียวกันเลยคิดว่าผ้าไม่น่าจะต่างกัน" เจ้าขาว่าว่ายิ้ม ๆ จริง ๆ ทีแรกก็กะว่าจะไปซื้อเซลล์นั่นแหละแต่ตอนนี้โมโหแล้วเจอเด็กเจ้าของบัตรมากวนประสาท เลยกะจะรูดบัตรเล่นซะซักแสนครึ่งแสนเอาให้เหงื่อซึมกันไปเลย"ได้ส
"ขอบคุณมากนะคะที่มาอุดหนุน โอกาสหน้ามาใหม่นะคะ" โม้นาว่าเสียงหวานพร้อมกับคืนบัตรเครดิตให้หญิงสาวก่อนจะยื่นถุงเสื้อผ้ามาให้ยิ้ม ๆ"ขอบคุณมากค่ะ แล้วโอกาสหน้าไม่กลัวหนูมาไล่พนักงานพี่ออกหรือคะ ฮ่า ๆๆ" เจ้าขาว่าอย่างอารมณ์ดี "พวกเราไปแล้วค่ะขอบคุณนะคะ สวัสดีค่ะ" "สวัสดีค่ะ/ครับ" ว่าพลางยกมือไหว้ ก่อนที่ทั้ง 3 เพื่อนจะยกมือไหว้ตามอย่างนอบน้อมทำเอาโม้นาหน้าเหลอหลาเพราะไม่คิดว่าพวกเธอจะยกมือไหว้พนักงานกันแบบนี้ "สะ...สวัสดีค่ะ" โม้นาขานรับพรางไหว้ย่อเข่าอ่อน..."ระราน พวกแกซื้ออะไรเยอะแยะเนี่ย" แมงปอถามขึ้นทันทีที่พ้นร้าน เมื่อเห็น 2 ศรีพี่น้องซื้อของเต็มไม้เต็มมือ"ซื้อเสื้อผ้าไปให้พ่อกับแม่น่ะ กะว่าก่อนเปิดเทอมจะกลับบ้านแล้วก็ซื้อรองเท้าใหม่คนละคู่ เมื่อเช้ามีป๋าให้ตังค์มาต้องใช้ซะหน่อย" น้อยตอบยิ้ม ๆ"อ๋อ... งั้นเราไปชั้น 5 กันก่อน คุณอาฝากไปเอากระเป๋าที่สั่งไว้กลับบ้านด้วย" เจ้าขาพยักหน้าพร้อมทั้งบอกเพื่อนอย่างนึกได้"งั้น ปะ หวังว่าร้านนั้นคงไม่เหยียดเราอีกนะ ต่อไปกูจะมาห้างกูต้องบอกพ่อขายนาซื้อเบนซ์ล่ะ แล้วหาเกิบงาม ๆ ใส่แทนไอ้ผ้าใบตราดาวนี่" แมงปอว่าพลางยกรองเท้าให้เพื่อนดู"จะยากอะไ
โรม หรือ รวัช ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารแทนผู้เป็นพ่อด้วยการขอร้องของครอบครัวในอีก 3 ปีหลังจากที่เขาจบดอกเตอร์ และหลังจากนั้นอีก 5 ปีเขาและเพื่อน ๆ ได้ตกลงกันที่จะปิดบริษัทที่ต่างประเทศ เพราะศิลาและมาร์คย้ายกลับมาไทยถาวร ศิลาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แห่ง เคเอส กรุ๊ป มีรองประธานฝ่ายบริหารผู้มากความสามารถอย่างมาร์คหรือมนัสพงษ์ 1 ในเพื่อนรักเคียงข้าง โดยที่คุณปู่ของศิลาให้มาร์คถือหุ้นในบริษัทถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบแทนความดีและความซื่อสัตย์ที่เขามีให้คุณหญิงรวิดาวางมือจากร้านเสื้อผ้าของตัวเองให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 ร่วมกันบริหารและถือหุ้นร่วมกันคนละครึ่ง โรมตัดสินใจขายผับให้กับรุ่นน้อง แต่สร้างรีสอร์ตริมทะเลเพิ่มขยายพื้นที่จนใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยให้ปิยะเป็นผู้ดูแลและให้แฮคกับอาร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองที่บริษัทส่วน สรัญ เขาประสบความสำเร็จกับบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เริ่มก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาทและมีพนักงานแค่เขากับภรรยาในช่วงเริ่มแรกด้วยการช่วยวางแผนของน้องชาย ตอนนี้กิจการก้าวหน้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ และเขาก็ปฏิเสธหุ้นของโรงทอที่พ่อจ
งานฉลองบัณฑิตจบใหม่ถูกจัดขึ้นที่ผับชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ รถสปอร์ตเปิดประทุนคันสวยวิ่งเข้ามาจอดด้านหน้า พร้อมกับการปรากฎกายของสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่วันนี้เธอจัดเต็มมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นภรรยาเจ้าของผับ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะแต่งกายด้วยชุดอะไรหรือเทศกาลอะไรนั่นก็คือสร้อยคอเส้นเล็กจี้พระจันทร์เสี้ยวกับตัวอาร์ที่ใส่ติดคอเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่โรมใส่ให้เมื่อ 4 ปีก่อน เจ้าขาในวันนี้แขวนนวมนักมวยขึ้นเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังร่วมกับแม่สามีหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น แต่ต้องหยุดชะงักกับภาพเห็นตรงหน้า กับไอ้หนุ่มผมยาวคุ้นตาที่กำลังนั่งดื่มกินและหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับสาวสวยคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในร้าน"อิป๋า! เมียมายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่คิดจะเชิญนั่งรึไง" เสียงหวานปนเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันขวับกลับมามองก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบเอวหญิงสาวไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม"ฟาง นี่เจ้าขา ภรรยาไอ...เจ้า นี่พี่ฟางฉีเพื่อนร่วมคณะพี่ แล้วนี่ก็พี่จิ๊กหรือพี่แจ็คแฟนพี่ฟาง" ชายหนุ่มแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเพื่อนผ
2 ปีต่อมาอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษโรมเดินขึ้นบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แล้วหยุดยืนเคาะประตูหน้าห้องที่ติดบันไดทางเดิน ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ รอคนที่อยู่ข้างในมาเปิดให้ ชายร่างผอมสวมแว่นสายตาค่อนข้างหนาเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองหน้าผู้มาเยือนเป็นคำถาม กว่า 2 ปีแล้วที่สรัญพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่ โดยการช่วยเหลือของโรมและเพื่อน ๆ โดยที่พ่อเขาไม่ทราบมาก่อน ทั้งเขาและภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากที่พักมากนักและให้ลูกชายคนเดียวเข้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกภาษาไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะตอนที่เกิดเรื่องบัญชีของเขาที่รับโอนเงินจากบัญชีหุ้นของโรมถูกทางธนาคารสำนักงานใหญ่อายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและโยงไปถึงบัญชีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันด้วย ทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก การมาที่นี่ในตอนแรกนั้นได้ความช่วยเหลือจากศิลาให้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของทางบริษัทที่ศิลากับมาร์คพักอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่ได้งานจึงขอย้ายออกมาอยู่ที่นี่ และเพราะตอนที่ออกมาจากไทยทั้งคู่ไม่ได้นำเอกสารใด ๆ ติดตัวมาด้วย จึงทำงานได้เพียงพนักงาน
"โอ๊ย! เจ้าลูก หล่อขนาดนี้ รวยก็ปานนี้ แถมรับความมึนของเราได้ขนาดนี้ เป็นแม่นะ แม่พยักหน้าตั้งแต่เกริ่น 3 ประโยคแรกแล้วลูก หรือยังไง อึกอักนี่คือพี่เขาไม่แซบว่างั้น" คุณนายเตือนตาว่ากับลูกสาวพร้อมกับเอ่ยแซวในตอนท้ายทำเอาคนโดนถามถึงกับอายม้วนก้มหลบตาประชาชนแทบมุดม้าหินอ่อนหนี"ก็แซบอยู่" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ๆ อาย ๆ"ถ้าแซบก็เก็บไว้กินเองค่ะลูก รีบรับก่อนผู้ชายจะเปลี่ยนใจค่า" คุณแม่บอกลูกสาวเสียงประชด เจ้าขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ ตอนนี้ทั้งลานเงียบรอฟังผลตอบรับเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนรอคำตอบซะเอง"ว่าไง เป็นแฟนกับพี่มั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ"เป็นแค่แฟนนะ" "อืม...ตอนนี้เป็นแค่แฟนก่อน" ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ *ตอนนี้เป็นแฟนถึงห้องนอนแล้วค่อยเป็นเมียพี่ก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ"ก็ได้" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบอาย ๆ"อะไรนะ!!" คำถามพร้อมเพรียงเสียงดังขึ้นทันที หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองพี่น้องนักมวยรอบลานแล้วมองหน้าพ่อกับแม่ พี่สาวคนสนิทก่อนจะหันมาตอบชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเสียงดังและฟังชัด"เออ...เป็นแฟนกับพ
ตกเย็น ร้านหมูกระทะที่โรมให้น้อยไปสั่งขับรถขนหมูกระทะและอุปกรณ์มาส่งที่โรงซ้อม ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มเป็นอัดลมและน้ำผลไม้ให้อย่างไม่อั้น ท่านอัฐยืนมองความสนุกสนานของเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ในการปาร์ตี้กันคืนนี้ยิ้ม ๆ"คิดยังไงมาเลี้ยงหมูกระทะเด็ก ๆ" ท่านอัฐเอ่ยถามหลานชาย"ก็เห็นบ่นอยากกินกันครับแล้วอีกอย่างพวกไปเรียนกรุงเทพก็มากันหมดแล้วเลยเลี้ยงซะหน่อย พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้ากรุงเทพด้วยครับลุงว่าจะไปดูคุณพ่อหน่อยครับ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถอนหายใจภายหลัง"แล้วไอ้เจ้าว่าไงล่ะ น้องมาเราจะกลับ""ก็...ยังไม่คุยเลยครับ ช่วงนี้น้องต้องซ้อมผมไม่อยากทำให้เจ้าเสียสมาธิ เอาจริง ๆ ที่ผมหนีมานี่ช่วงน้องสอบก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรน้องอีก ไม่อยากให้น้องเสียสมาธิครับลุง" ชายหนุ่มตอบแบบตรงไปตรงมา"แล้ววันนี้ก็หน้าบึ้งทั้งวันทะเลาะกันอีกหรือไง" ท่านอัฐเอ่ยถามพลางปรายตามองชายหนุ่ม"หึ! เปล่าหรอกครับแค่โดนกวนเมื่อคืนแล้วเมื่อเช้าไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนแล้วงอแงใส่แค่นั้นครับ แต่เห็นบอกว่าจะออกไปรับแฟนเขาไม่ใช่หรือครับลุง" ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอตอบผู้เป
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก
โรมเดินออกมาจากหลังม่านพร้อมกับส่งไลน์ไปบอกผู้เป็นลุงว่าเจ้าขากลับมาถึงบ้านแล้ว ก่อนจะยืนขำกับความไม่สังเกตสังกาของหญิงสาว ที่ข้าวของของเขาบางส่วนก็ยังวางอยู่ในห้อง โดยที่เขาไม่คิดจะเก็บ ครู่ต่อมาเจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันตัวแค่ผืนเดียว ผมยาวสลวยของเธอถูกรวบและหนีบด้วยกิ๊บตัวใหญ่อยู่กลางหัว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองบรรดาครีมต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ "หรือว่าแม่ทะเลาะกับพ่อแยกห้องนอนอีกแล้ววะ แล้วครีมเพียบไม่รู้อะไรเป็นอะไรเยอะแยะเป็นโต๊ะอิป๋าเลย" ว่าพลางหยิบครีมคุ้นตาที่เธอเคยเห็นบนโต๊ะของโรมในห้องนอนที่ร้านมาดู "ผู้หญิงก็ใช้ได้ผู้ชายก็ใช้ได้งั้นเหรอ (เปิดออกดม) ก็หอมดีหรอกแต่ทาตรงไหนล่ะนี่ เฟช??...ช่างแม่งเหอะ" ว่าพลางวางลงแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้โรมแอบมองเธออยู่ในนั้น "เชี้ย! หลอนเหรอวะเนี่ย" หญิงสาวอุทานเสียงดังเมื่อเปิดตู้แล้วเจอหน้าโรมยิ้มอยู่ในนั้นก่อนจะปิดตู้ทันทีอย่างตกใจแล้วตั้งสติค่อย ๆ เปิดประตูตู้อีกรอบ"ไง คิดถึงผัวจนหลอนเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับก้าวออกมาจากตู้แล้วสวมกอดคนตัวเล็กอย่างคิดถึงก่อนจะกดหอมแก้มป่
"อืม... ก็ตามใจแล้วกัน แล้วรถนี่ซื้อมาทำไมล่ะจะเอามาจอดทิ้งไว้นี่?" ท่านอัฐเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะเห็นว่าโรมมีรถหลายคัน แต่ทำไมถึงซื้อกระบะเพิ่มแล้วบอกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ขับกระบะเลยจะทิ้งไว้ให้ใช้งานที่นี่"ใครว่าผมอยากซื้อล่ะครับ โดนเอามาประเคนถึงร้านเลยต่างหาก พอดีน้องรหัสไอ้เทนมันจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการศูนย์แต่ขาดยอด 2 คัน พวกผมเลยโดนบังคับซื้อกันคนละคัน ไอ้เทนมันเอารถเก๋งให้เมียมันขับ ส่วนผมไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรเลยบอกมันว่าเอาราคาถูก ๆ มันเลยเลือกคันนี้มาให้" ชายหนุ่มตอบที่มาของรถขำ ๆ "เออ... แล้ววันนี้เจ้าตัวแสบเขาจะกลับมาแล้วนะ เห็นว่าสอบเสร็จเที่ยงก็จะพากันออกมาเลย แวะส่งเจ้าปอก่อนถึงจะกลับบ้านจะได้ไม่ดึกว่างั้น เห็นโทรมาบอกแม่เขาเมื่อเช้า" ท่านอัฐบอกหลานชายยิ้ม ๆ "งั้นคืนนี้ผมก็ต้องลงมานอนห้องข้างล่างแล้วสิครับ เจ้าของห้องจะมาแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับถอนหายใจ เพราะเมื่อเช้าเขาไปที่ตลาดกับบอยนักมวยในค่าย เขาเห็นผู้หญิงที่เจ้าขาหอมแก้มกลางห้างเดินอยู่กับแม่ของเธอที่ตลาด"เฮ้ย! แม่เขาไม่ได้สั่งก็นอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่อยากรู้เหรอว่าปลาไหลอย่างไอ้ตัวแสบเจ้าลูกสาวคุณนายเตือนตา
"พี่อัฐครับ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดจริง ๆ ครับ ที่ผมมานี่ผมไม่ได้มาเพราะอยากให้โรมช่วยโรงทอหรอกครับ ผมแค่อยากขอโทษลูกจริง ๆ ส่วนโรงทอมันจะเจ้งมันจะล่มก็แล้วแต่บุญกรรม เพราะผมถือว่าผมไว้ใจคนผิด ผมทำเรื่องโอนหุ้นที่ผมถือทั้งหมดของโรงทอให้เจ้าโรมวันนั้น ผมเพิ่งเห็นเอกสารที่เลขาเจ้ารันลืมวางไว้ในห้องประชุมว่าเจ้ารันมันเปลี่ยนเอกสารโอนให้เจ้าโรมแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกใบเป็นชื่อของมันรอแต่ตราประทับกับลายเซ็นผมมันก็จะถือหุ้นได้ใหญ่ที่สุดในบริษัท พี่อัฐ... ผมสาบานว่าผมต้องการมาขอโทษลูกแค่นั้นจริง ๆ ครับ สิ่งที่หญิงทำกับลูกผมไม่เคยได้สนับสนุนแต่ยอมรับว่าไม่ได้ขัดเพราะไม่อยากมีปัญหา ผมกลับมาจากทำงานก็อยากได้ยินคำพูดดี ๆ จากที่บ้าน อยากเห็นครอบครัวอบอุ่น" คุณศาสตรานั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งพนมมือไหว้พี่ชายภรรยาอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต ซึ่งคนที่ยืนฟังอยู่ด้านนอก ล้วงมือถือออกมากดส่งอีเมล์ออกไปแล้วยืนฟังคำพูดของพ่อกับแม่ต่ออย่างใจเย็น"หึ! ตลก ครอบครัวอบอุ่นเหรอ แล้วเจ้าโรมมันได้เคยได้อุ่นมั่งมั้ยล่ะ กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงประชดประชันกระแนะกระแหนนี่มันอบอุ่นมั้ย คิดถึงจิตใจลูกบ้างหรือเปล่า" ท่านอัฐพูด