"เรามาดูเสื้อนักศึกษา มีไซส์ s ให้ลองมั้ยคะ พอดีว่าร้านข้างล่างไม่สะดวก" เจ้าเขาถามยิ้ม ๆ
"มีน่ะมี แต่ลองแล้วต้องซื้อนะคะน้อง แล้วร้านเราของแบรนด์ไม่มีตัวละร้อยนะ" พนักงานสาวพูดเสียงนิ่ง แต่ไม่ยอมขยับตัวเดินไปหยิบเสื้อมาให้เธอลอง
"รู้ค่ะ อ่านออกแล้วตกลงว่าจะให้ลองให้ซื้อมั้ยคะถ้าไม่จะได้ไปร้านอื่น" แมงปอตอบอย่างอารมณ์เสีย "คนพวกนี้ยังไงนะแค่เสื้อตัวไม่กี่บาททำยังกับตัวละแสนงั้นแหละ"
"ก็ดูสภาพน้องแล้วไม่น่าจะมีจ่ายนี่คะ งานเซลล์ชั้นล่างก็มีนะ" พนักงานคนเดิมว่าสวนขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออกไปทางอื่น
"เอ่อ... สวัสดีค่ะ คุณหนูอยากได้อะไรพี่หาให้ค่ะ" ผู้ชายเรียบร้อยเดินออกมาจากด้านในแล้วกระวีกระวาดพุ่งมาทันที เมื่อเห็น 2 สาว ที่สาขาข้างล่างเพิ่งส่งรูปมาให้ดูเมื่อไม่ถึง 5 นาทีมายืนอยู่ที่ร้านตัวเอง
"เราอยากได้เสื้อนักศึกษาค่ะ พอดีว่าเห็นเนื้อผ้าที่ร้านข้างล่างแล้วแต่ยังไม่ได้ซื้อ เห็นว่าแบรนด์เดียวกันเลยคิดว่าผ้าไม่น่าจะต่างกัน" เจ้าขาว่าว่ายิ้ม ๆ จริง ๆ ทีแรกก็กะว่าจะไปซื้อเซลล์นั่นแหละแต่ตอนนี้โมโหแล้วเจอเด็กเจ้าของบัตรมากวนประสาท เลยกะจะรูดบัตรเล่นซะซักแสนครึ่งแสนเอาให้เหงื่อซึมกันไปเลย
"ได้สิคะ คุณหนูเดี๋ยวเชิญด้านในเลยค่ะ จะให้พนักงานเอามาให้นะคะ วรรณ วรรณ...." เธอรีบเชื้อเชิญ 2 สาวเข้าร้านนั่งโซฟารับแขกแล้วเรียกพนักงานคนเดิมเสียงดัง
"ขา... พี่โม้นา"
"คุณหนูอยากได้เสื้อไซส์ไหนนะคะ ให้น้องหยิบมาให้ค่ะ" โม้นาพูดอย่างนอบน้อม ทำเอาพนักงานที่เดินออกมาต้อนรับหน้าบึ้งตึงยืนมือไขว้หลังอยู่เบะปากอย่างไม่ชอบใจ แต่ไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าขาไปได้
"ปกติร้านพี่มีพนักงานแค่นี้หรือคะ" เจ้าขาถามยิ้ม ๆ แต่มือถือกดโทรออกหาคุณอาแม่ของโรมพร้อมกับคว่ำหน้าจอไว้บนโต๊ะ
"มีหลายคนเลยค่ะน้องวรรณเป็นนักศึกษาฝึกงานของร้านรับผิดชอบโซนนี้ค่ะ" โม้นาตอบยิ้ม ๆ
"งั้นจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าจะรบกวนคุณพี่โม้นาดูแลเรา 2 คนสักหน่อย แล้วบางทีเราอาจจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ เพราะจากสภาพการแต่งตัวของเราแล้วพี่คงดูออกว่าเราไม่มีเงินจ่ายค่าเสื้อตัวละพันละหมื่นแบบที่พนักงานของพี่ว่าจริง ๆ นั่นแหละ" เจ้าขาว่าเสียงดังต้องการให้ปลายสายได้ยิน ทำเอาโม้นาหันขวับมองหน้าพนักฝึกงานของตัวเองตาเขียวปั้ดขึ้นมาทันที
"แกพูดอะไรเนี่ยวรรณ อยากตกงานรึไง" โม้นาหันไปดุรุ่นน้องที่มาขอฝึกงานที่ร้านเสียงดัง
"วรรณก็พูดตามเห็นนี่คะ เข้ามาจับดูนั่นนี่แล้วลองไม่ซื้อก็กลายเป็นของเก่านะคะพี่โม้นา วรรณก็บอกน้องเขาไปแล้วว่าตรงนี้งานแบรนด์ งานเซลล์อยู่ชั้นล่าง วรรณหวังดีกับน้องเขานะคะ ไม่มีเงินจะมาลองเล่น ๆ ทำไม" พนักงานชื่อวรรณว่าพร้อมกับมองตั้งแต่หัวจรดเท้า 2 สาวเหยียด ๆ อย่างเปิดเผย
"นังวรรณ!" "ถามจริงเหอะ มึงคนที่ไหนวะ ทำงานบริการแบบนี้ทำไมมึงถึงเหยียดคนจัง เค้าจะซื้อไม่ซื้อ มันสิทธิ์ของเค้ามั้ย ไม่ใช่แค่ลองก็ยังไม่มีสิทธิ์เพราะคิดว่าเขาไม่มีเงินจ่าย" แมงปอว่าขึ้นเสียงดังจนคนในร้านหันมามอง
"อย่าอ้างสิทธิ์ค่ะ แค่ลองเล่น ๆ จะมาทำให้เสียเวลาทำไม แล้วเงินไม่มีสภาพแบบนี้ยังจะมาดูของแบรนด์ ไม่เจียมกะลาหัวเลยน้อง" วรรณปากไวตอบโต้ทำเอาโม้นาอ้าปากค้างอึ้ง
" แล้วตกลงว่าจะขายไม่ขาย พี่คะถ้าพนักงานร้านคนอื่นไม่ว่างรบกวนพี่เอามาให้ลองหน่อย เราไม่ได้จะมาแค่ร้านนี้ร้านเดียวนะคะ เรามีธุระต้องไปต่ออีก" แมงปอสวนขึ้นพร้อมกับออกคำสั่งเสียงดังอย่างเหลืออด
"ที่รัก... ใจเย็น นั่งลงก่อน" เจ้าขาว่าพรางกระตุกแขนเพื่อนรักนั่งลงข้าง ๆ แล้วเงยหน้ามองโม้นายิ้ม ๆ
"เดี๋ยวเราจะรอที่ห้องลองชุดเลยนะคะพี่โม้นา อ้อ รบกวนเป็นตัวยาวนะคะ" เจ้าขาบอกยิ้ม ๆ พร้อมกับลุกขึ้น
"ได้ค่ะคุณหนู แล้วกระโปรงด้วยมั้ยคะ" โม้นารีบรับคำพร้อมกับเอ่ยถามอย่างเอาใจ พรางมองหญิงสาวอย่างพิจารณา ถ้าข้างล่างไม่ส่งรูปขึ้นมาให้ดูเธอคงไม่รู้ว่านี่คือหลานสาวของคุณหญิงรวิดาเจ้าของแบรนด์นี้ เพราะถ้าดูจากเสื้อผ้าตลาดนัดทั่วไปที่เธอใส่กับรองเท้าผ้าใบหลักพัน ไม่บอกฐานะที่แท้จริงของเธอได้เลย ถ้าเธอไม่รู้ก่อนก็คงจะไล่ออกจากร้านเหมือนที่เด็กฝึกงานของร้านทำเหมือนกัน ต่อไปเธอต้องระวังให้ดีเพราะบางทีพวกลูกเศรษฐีก็ชอบทำอะไรแบบนี้โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง
"กระโปรงไม่ต้องค่ะ ปกติเราจะมีช่างประจำตัวอยู่แล้ว" เจ้าขาบอกยิ้ม ๆ แล้วเดินจูงมือเพื่อนเดินเข้าไปในห้องลองชุดแล้วยกมือถือขึ้นแนบหู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเธอโทรกดออกตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว วรรณถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อได้ฟังคำตอบ
"มีช่างส่วนตัวเลยเหรอ" วรรณถามรุ่นพี่ของตัวเองอึ้ง ๆ
"เตรียมชะตาขาดค่ะ นั่นน่ะหลานสาวคนเดียวของคุณหญิงรวิดาเจ้าของแบรนด์นี้ คุณหญิงน่าจะส่งมาตรวจร้าน" โม้นาว่าพลางรีบกระวีกระวาดเดินเข้าไปหาเสื้อนักศึกษามาให้ 2 สาวลองตามต้องการ
ทางฝั่งของเจ้าขาเมื่อเดินเข้ามาในห้องลองชุดแล้ว
"ขอโทษที่รบกวนนะคะคุณอา เจ้าไม่ได้เรื่องมากอะไรนะคะ แต่แค่รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ" หญิงสาวว่าเสียงอ่อยแต่ยิ้มเหยียดที่มุมปาก
(อาจะจัดการให้ลูก อาไม่เคยรู้เลยว่าที่หน้าร้านเป็นแบบนี้เห็นทีต้องอบรมกันใหม่ยกใหญ่)
"เจ้าคงผิดไปน่ะค่ะ ที่เสื้อผ้าไม่มียี่ห้อเข้าห้าง ก็ไม่รู้นี่คะว่าอยู่ในกรุงเทพต้องเจออะไรแบบนี้" คนสวยว่าเสียงอ่อย ๆ อย่างน่าสงสารแต่คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลับกลั้นขำสุดชีวิตกับละคร ดราม่าของเพื่อน
(เจ้าไม่ผิดอะไรเลยลูก โอ๋นะคะ เดี๋ยวอาให้พี่จีเรียกประชุมทุกสาขาวันนี้เลยค่ะ) คุณอาผู้แสนดีว่ามาเสียงหวานถ้าใครอยู่ใกล้จะเห็นสายตาละห้อยของคุณหญิงที่สงสารหลานสาวจับใจ
"ไม่เป็นไรค่ะคุณอา เจ้าคงต้องทำตัวให้ชินค่ะเพราะคงต้องเจอแบบนี้อีกนานเลย เดี๋ยวเราลองเสื้อกันแล้วว่าจะหากระเป๋าซักใบกันด้วยค่ะ อุตส่าห์มีป๋าให้แบล็คการ์ดมาจะจัดให้คุณเขาหน่อย " หญิงสาวว่าพลางหัวเราะทำเอาปลายสายหัวเราะชอบใจเสียงดัง
(ขึ้นไปชั้น 5 นะลูก ร้านขวามือหน้าลิฟต์กระเป๋าคอลเลคชันใหม่เพิ่งเข้า อยากได้ใบไหนก็เอาเลย ไม่ต้องดูราคา พี่โรมไม่จนลงหรอก อ้อ... เดี๋ยวอาฝากเอากระเป๋าที่อาสั่งไว้มาให้ด้วยนะคะ) คุณหญิงรวิดาบอกหลานสาวอย่างอารมณ์ดี
"ได้ค่ะคุณอา แค่นี้นะคะสวัสดีค่ะ" ว่าจบเธอก็วางสายพร้อมกับหันมายักคิ้วให้เพื่อน พอดีกับโม้นาเข็นราวเสื้อนักศึกษาเข้ามาให้ 2 สาวลองจนพอใจก่อนจะพากันกลับมานั่งที่โซฟาตามเดิม
"เอาตามที่เราแยกไว้ค่ะพี่โม้นา แยกเป็น 2 ถุง แต่คิดรวมเลยนะคะ นี่ค่ะ" เจ้าขาสั่งโม้นาพร้อมกับยื่นแบล็คการ์ดของโรมให้ยิ้ม ๆ ทำเอาวรรณที่ยืนอยู่ไม่ไกลอ้าปากค้างกับยอดที่สมควรจะเป็นของเธอแต่แรก แล้วที่สำคัญบัตรที่เธอยื่นมานั้นขัดกับการแต่งกายของเธอโดยสิ้นเชิง
"เฮ้ย เดี๋ยวกูจ่ายเองไม่กี่ตังค์" แมงปอว่าอย่างเกรงใจถึงเพื่อนจะสั่งหลายตัวตัวละเป็นพันแต่เธอก็มีเงินเก็บมากพอจะจ่ายได้อยู่
"ไม่เป็นไรแค่นี้ จิ๊บ ๆ วันนี้จะพารูดเล่นให้บัตรเปลี่ยนสีเลย" เจ้าขายักคิ้วให้เพื่อนซน ๆ ในขณะที่เล็กและน้อยพากันเดินเข้ามาในร้าน
"เสร็จยังเจ้า วันนี้พี่รันชวนกินข้าวเที่ยงที่นี่นะ" เล็กพูดขึ้นขณะที่วางถุงของลงที่โต๊ะ
"เสร็จแล้ว ๆ จ่ายเงินแป๊บดิ" เจ้าขาหันไปบอกเล็กยิ้ม ๆ
"ขอบคุณมากนะคะที่มาอุดหนุน โอกาสหน้ามาใหม่นะคะ...
"ขอบคุณมากนะคะที่มาอุดหนุน โอกาสหน้ามาใหม่นะคะ" โม้นาว่าเสียงหวานพร้อมกับคืนบัตรเครดิตให้หญิงสาวก่อนจะยื่นถุงเสื้อผ้ามาให้ยิ้ม ๆ"ขอบคุณมากค่ะ แล้วโอกาสหน้าไม่กลัวหนูมาไล่พนักงานพี่ออกหรือคะ ฮ่า ๆๆ" เจ้าขาว่าอย่างอารมณ์ดี "พวกเราไปแล้วค่ะขอบคุณนะคะ สวัสดีค่ะ" "สวัสดีค่ะ/ครับ" ว่าพลางยกมือไหว้ ก่อนที่ทั้ง 3 เพื่อนจะยกมือไหว้ตามอย่างนอบน้อมทำเอาโม้นาหน้าเหลอหลาเพราะไม่คิดว่าพวกเธอจะยกมือไหว้พนักงานกันแบบนี้ "สะ...สวัสดีค่ะ" โม้นาขานรับพรางไหว้ย่อเข่าอ่อน..."ระราน พวกแกซื้ออะไรเยอะแยะเนี่ย" แมงปอถามขึ้นทันทีที่พ้นร้าน เมื่อเห็น 2 ศรีพี่น้องซื้อของเต็มไม้เต็มมือ"ซื้อเสื้อผ้าไปให้พ่อกับแม่น่ะ กะว่าก่อนเปิดเทอมจะกลับบ้านแล้วก็ซื้อรองเท้าใหม่คนละคู่ เมื่อเช้ามีป๋าให้ตังค์มาต้องใช้ซะหน่อย" น้อยตอบยิ้ม ๆ"อ๋อ... งั้นเราไปชั้น 5 กันก่อน คุณอาฝากไปเอากระเป๋าที่สั่งไว้กลับบ้านด้วย" เจ้าขาพยักหน้าพร้อมทั้งบอกเพื่อนอย่างนึกได้"งั้น ปะ หวังว่าร้านนั้นคงไม่เหยียดเราอีกนะ ต่อไปกูจะมาห้างกูต้องบอกพ่อขายนาซื้อเบนซ์ล่ะ แล้วหาเกิบงาม ๆ ใส่แทนไอ้ผ้าใบตราดาวนี่" แมงปอว่าพลางยกรองเท้าให้เพื่อนดู"จะยากอะไ
"พี่จีน่าคะ คือว่า..." "เอาน่า นิ่งไว้ค่ะพี่จัดการเอง" จีน่าพูดสวนแมงปอขึ้นทันทีก่อนที่เธอจะพูดจบแล้วเดินมาลากแขนเจ้าขาไปอีกคน"เดี๋ยวค่ะพี่จีน่า เจ้าเห็นใบที่ชอบแล้วค่ะขอไปดูใบนั้นก่อนนะคะ" เจ้าขารีบเบรกเพราะกลัวว่าภรรยาพี่ชายจะพาไปเลือกใบที่แพงในร้าน เธอจึงมองใบที่ราคาไม่แพงมากและสามารถจ่ายเองได้ แล้วรีบเดินไปหยิบมาทาบกับตัวแล้วยิ้ม "เจ้าอยากได้ใบนี้ค่ะ มันเน้นใช้งานดี""โอเค เอาใบนี้ด้วยค่ะแล้วก็ใบนี้ด้วย อ้อ...ไปเรียนต้องบุก ๆ หน่อย เอาแบบนี้ 2 ใบค่ะพี่ผักกาด แล้ว...." จีน่าว่าพลางเดินไปที่โซนกระเป๋าสะพายของผู้ชายแล้วหันมามอง 2 หนุ่มหันไปมองกระเป๋า "เอากระเป๋าสะพายแบบนี้ดีกว่านะพี่ว่าดีกว่าครอสต์บอดี้เยอะเลยใส่ของได้เยอะด้วย ชอบสีอะไร" จีน่าเดินถือกระเป๋ามา 2 ใบคล้ายกันแต่ต่างสีเดินมาหา 2 หนุ่มพรางถามอย่างปรึกษาทำเอาทั้ง 2 มองหน้ากันกลืนน้ำลายลงคอฝืด ๆ"พวกผมไม่เอาหรอกครับพี่จี" น้อยว่าพลางเหลือบมองราคากระเป๋า ใบละเกือบแสน *แม่งเกิดมาแค่ใบละ ห้าพันกูก็หน้ามืดแล้ว นี่ 98,000 กูจะเป็นลม ...*"ไม่ได้ค่ะ เอาคนละใบนี่แหละ พี่คะ เอานี่ค่ะ" ว่าพรางยื่นกระเป๋า 2 ใบให้พนักงานอย่างถูกใจ "แล
15 นาทีผ่านไป...2 สาวเดินออกมาจากห้องลองชุดตามหลังพนักงานที่ถือถุงใส่ชุดเดิมของเธอมายิ้ม ๆ"เริดมากลูก แต่พี่ว่าหนูยังไม่ทำผมกันเลยนะ" จีน่าว่าพลางมองหน้า 2 สาว แมงปอรีบก้มหัวลงแล้วตลบผมขึ้นกลางหัวก่อนจะรัดด้วยยางรัดผมสีดำแล้วดึงเชือกที่ผูกอยู่ที่ข้อมือเจ้าขาที่พนักงานผูกให้มารัดเป็นโบง่าย ๆ แต่มองแล้วเหมาะกับชุดออกแนวเท่ ๆ ลุย ๆ ของเธอแล้วล้วงเอาลิปกลอสเปลี่ยนสีในกระเป๋ามาทา ก่อนจะหันมายิ้มให้จีน่า เธอเลือกใส่กางเกงพับชายเอวสูงกับเสื้อครอปปาดไหล่ที่แมตช์กับรองเท้ารัดข้อของเธออย่างลงตัว ส่วนเจ้าขานั้นอยู่ในชุดกางเกงขายาวทรงหลวมต่ำเกาะสะโพกมีสายยาวพาดเฉียงเส้นเดียวกับเกาะอกสีเดียวกันกับกางเกงโชว์ร่องสิบเอ็ดและเอว 22 นิ้วของเธออย่างน่ามอง ผมที่เธอถักเปียหลวม ๆ ไว้ในทีแรกแกะยางรัดผมออกแล้วสางเป็นหยักศกลอนใหญ่เงาสลวยเต็มหลัง หยิบเอาลิปกลอสในมือของแมงปอมาทาที่ริมฝีปากตัวเองแล้วทำท่าส่งจูบให้โม้นาขำ ๆ"สวยพอมั้ยแม่" เจ้าขาถามโม้นาที่ยืนมอง 2 สาวอึ้ง ๆ อยู่"เริดเว่อร์ค่ะลูก สวยหาจุดติไม่ได้เลยค่ะ ผิวดีเนียนไม่ขาวเว่อร์ หน้าไม่ต้องโบก ปากจาง ๆ ขนตาไม่ต้องดัด เด็ดคือผมไม่ต้องหวี โอ๊ะ... ง่าย
"พี่อัฐพี่เตือนสวัสดีค่ะ" คุณหญิงรวิดารีบเดินลงมาจากบ้านเมื่อแม่บ้านขึ้นไปตามว่าพี่ชายมาถึง"อืม...โทษทีมาถึงแต่เช้า คนบางคนเขาห่วงลูก ๆ เค้า แม่เจ้าปอก็อยากมาด้วยแต่ไม่ได้มา แต่ก็ฝากขนุนต้นหน้าบ้านมาซะหลายลูกเลย" ท่านอัฐว่ายิ้ม ๆ"ขนมาเยอะแยะ แล้วเล็กกับน้อยนี่ให้เรียนที่นี่เลยมั้ยคะ เด็ก ๆ จะได้อยู่ด้วยกัน" คุณหญิงรวิดาว่ายิ้ม ๆ พลางจูงมือพี่สะใภ้ไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น ส่วนเด็ก ๆ ทั้ง 4 ต่างพากันขึ้นห้องไปอาบน้ำเพื่อที่จะลงมาทานข้าวเช้าพร้อมกัน"ถามแล้วมันไม่มากันหรอก เจ้าน้องเขาอยากทำค่ายมวยต่อแล้วก็อยากจะทำเกษตรทฤษฎีใหม่ด้วย เจ้าคนพี่ก็อยากเปิดอู่ ตอนนี้พ่อกับแม่เขาก็กลับไปอยู่บ้านกันแล้วจะได้อยู่กันพร้อมหน้าซะที" ท่านอัฐว่ายิ้ม ๆ"ดีจังเลยนะคะ เด็ก ๆ เขามีแผนชีวิต แต่ตาโรมนี่สิจะเชิญท่านเข้ามาทำงานที่โรงทอก็ยากลำบากไม่สนใจอะไรเอาซะเลย แล้วเมื่อวานเห็นว่าไปคุยเรื่องรีสอร์ตน้าเพื่อนบอกว่าเขาจะขายไม่รู้ว่ายังไงเงียบไปเลย" คุณหญิงรวิดาว่าถึงลูกชายคนเล็กอย่างเอือมระอา โดยไม่ได้หันมองว่าคนโดนนินทากำลังเดินเข้ามาในบ้าน"นินทานะครับคุณหญิง" ชายหนุ่มว่าพลางก้มลงหอมแก้มคุณแม่ฟอดใหญ่ "คุณลุง
"โรมนี่ทำเหมือนเคยเลี้ยงน้องเลยนะเรา" ท่านอัฐว่ายิ้ม ๆ หลังจากคล้อยหลังลูกสาว"เลี้ยงน้องน่ะสิ ตามใจลูกเขาจนจะเสียคน สปอยล์จนพี่ ๆ เขาปวดหัว น้องเจ้านี่ก็อย่าเผลอได้เสียคนเพราะไอ้คนตามใจนี่แหละ" คุณหญิงรวิดาว่าลูกชายเสียงเขียว"ไม่หรอกครับ...ผมไม่ได้ตามใจไร้เหตุผลอะไรแบบนั้นหรอก แม่ก็ว่าไปเรื่อย" ชายหนุ่มตอบพลางถอนหายใจกับความเข้าใจของแม่ จริง ๆ เขาไม่ได้ตามใจเด็ก 2 คนนั้นมากขนาดนั้น แต่เป็นนิสัยของทั้งคู่มาก่อนที่พวกเขาจะรู้จักกัน เพราะพื้นฐานเด็ก 2 คนนั้นโดนเลี้ยงมาจากคนแก่ที่ใจเย็นและอีกคนก็ถูกเลี้ยงจากพี่เลี้ยงมืออาชีพมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทั้งคู่จึงไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจ แต่แค่กลัวคนเสียงดังใส่ยิ่งเสียงดุพวกเธอจะตกใจมาก เขาเลยต้องปรามเพื่อนตลอดเรื่องที่เสียงดังใส่เด็กทั้งคู่"แล้วคิดยังไง พ่อบอกให้เอาเงินไปให้น้องซื้อของ แต่ดันเอาแบล็คการ์ดให้น้องถือ เกิดน้องจะซื้อขนม 5 บาท 10 บาท จะให้จ่ายแบล็คการ์ดเลยหรือไง" คุณแม่แกล้งว่าลูกชายอย่างหมั่นไส้ที่เจอหน้าเจ้าขาไม่กี่ชั่วโมงก็ยื่นแบล็คการ์ดให้แล้ว ไม่รู้กับผู้หญิงคนอื่นเขาจะทำแบบนี้หรือเปล่า"แม่ครับ ก็ผมไม่รู้ว่าน้องขาดเหลืออะไรบ้างนี่ค
วันเปิดเทอมรถสปอร์ตสีขาวคันเล็กน่ารักทะเบียนสวยวิ่งเข้ามาจอดหน้าตึกคณะบริหาร สาวสวยร่างบาง 2 คนก้าวลงมาจากรถพร้อม ๆ กัน เช้านี้เจ้าขาออกจากบ้านของโรมมาแต่เช้าเพื่อรับแมงปอมามหาลัยด้วยกัน และที่นี่จะยังมีเพื่อนชายของเธออีกคนที่สอบติดด้วยแต่อยู่คนละคณะ ชื่ออาร์ต และอาร์ตก็เป็นลูกของนายตำรวจต่างอำเภอที่เข้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกัน พ่อของอาร์ตเลยนำอาร์ตมาฝากไว้ที่ค่ายมวยของท่านอัฐตั้งแต่ ม.4 อาร์ตเลยมีหน้าที่เหมือนพี่เลี้ยงคอยดูแลเจ้าขาไปด้วย (จะเรียกว่าพี่เลี้ยงก็ไม่น่าใช่ น่าจะเรียกว่าลูกไล่มากว่า)"โว้... เปลี่ยนรถอีกล่ะสู วันไปหาพวกกูเอาป้ายแดงไป วันนี้เอาป้ายขาวมา บ้านอามึงเป็นโชว์รูมรถติครับ" อาร์ตแซวเพื่อนที่กำลังเดินเข้ามาใต้อาคารที่เขานั่งรออยู่เสียงดัง วันนี้เขาได้รับข้อความจาก 2 สาวให้มารอที่ใต้ตึกคณะบริหาร ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน ถึงเขาจะมีรวมตอน 10 โมงตามที่รุ่นพี่นัดแต่เมื่อเพื่อนบอกว่าต้องมา 8.30 เขาก็เลยต้องฝืนพาสังขารตัวเองมาทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเขาก็ไปดื่มกับรุ่นพี่ที่พักอยู่หอเดียวกันกลับมาดึกพอสมควร"บ้านไม่ใช่โชว์รูมย่ะ แต่ลูกชายเจ้าของบ้านบ้ารถ กูเห็นจอดให้เกลื่อ
ค่ำคืนวันเสาร์ที่....Ro Me barสาวสวยในชุดกางเกงรัดรูปสีขาวเกาะอกสีดำสวมทับด้วยเสื้อแขนยาวรูดซิปปิดถึงคอ เดินกอดคอมากับสาวร่างบางหุ่นดีหน้าตาน่ารักอีกคนเข้ามาในร้านโดยที่ไม่ได้ตรวจบัตรเพียงแต่ยิ้มให้พนักงานหน้าร้านเท่านั้น"เฮ้! เจ้า ปอ ทางนี้" เสียงแบงก์เพื่อนชายคณะเดียวกันแต่ต่างมหาลัยร้องเรียกจากมุมนึงของร้านที่อยู่ไม่ไกลจากทางเข้ามากนัก ทำให้ 2 สาวหันมองแล้วยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปชนกำปั้นกับกลุ่มเพื่อนที่มารออยู่ก่อน"คือเข้าได้วะ อายุพวกมึงถึงกันแล้วนิ" แมงปอถามเพื่อนพร้อมกับยักคิ้ว"อ๊าว... พี่กูมาส่งค่ะ แกรู้จักผู้จัดการร้าน" ข้าวฟ่างเพื่อนสาวจากโรงเรียนเดียวกันว่าพลางยักคิ้ว"เบ๋ย... วะ แบบดี" แมงปอว่าพรางนั่งลงข้างเพื่อน"ทำไมมาช้าจังวะหรืออามึงห้าม โว้... สวยนะนี่ ใช้สูตรไหนถึงโกยไส้ไปไว้ตรงนมได้วะ" ข้าวฟ่างเอ่ยถามพร้อมกับเอ่ยแซวเมื่อเห็นเจ้าขารูดซิปเสื้อลงครึ่งหนึ่ง แล้วยื่นแก้วให้เพื่อนผู้มาใหม่ทั้ง 2 คนละแก้ว"กะว่าไป กูไปรับ อิปอมันนี่ไงกว่าจะเสด็จได้ โดนเจ้เปิ้ลบรรเลงมา 2 เพลงรวด หูยังวิ้ง ๆ อยู่เลยเดะสู" จันทร์เจ้าขานั่งลงข้างเพื่อนรับแก้วมากระดกทีเดียวหมดแก้วแล้ววางลงที
"สวัสดีครับน้องเจ้าขา" มาร์คเอ่ยทักยิ้ม ๆ"ยาย ๆ หลบดิ๊ ป๋า ๆ ชิดในดิ๊" เด็กดื้อว่าพลางตบที่ไหล่โรมให้ขยับชิดด้านใน สาวสวยขยับชิดด้านนอก จับบ่าโรมแล้วก้าวขาข้ามพนักโซฟาจากด้านหลังปีนมาด้านหน้าทำท่าจะหัวทิ่มลงที่โต๊ะกลางโชคดีที่โรมคว้าเอวไว้ได้ทันแล้วรั้งลงมานั่งที่ตักตัวเองแล้วมองหน้าสวยดุ ๆ"ทำอะไรไม่ระวังเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก ทำไมเจ้าดื้อแบบนี้เนี่ย" ชายหนุ่มว่าพลางมองหน้าแล้วโอบเอวร่างบางไว้เบา ๆ *เฮ้อ...คิดจะกลัวใครมั่งมั้ยวะเนี่ย แล้วเสื้อนี่ออกจากบ้านมันใส่ไม่ได้หรือไงวะ ขอบจริง ๆ นะเกาะอกเนี่ย*"อ้าว? ก็เมื่อกี้ป๋าบอกเจ้าว่าให้มานั่งดี ๆ ก็มานั่งดี ๆ นี่ไง เจ้าดื้อตรงไหน พี่ว่าเจ้าดื้อมั้ยคะ" เด็กดื้อตอบตาใสพลางหันไปถามมาร์คที่นั่งอยู่โซฟาใกล้ ๆ"ไม่ดื้อเลยครับ เจ้าเชื่อฟังดีมาก" มาร์คตอบน้องสาวเพื่อนขำ ๆ"นั่นไง ใส่ร้ายเจ้าว่ะ" คนตัวเล็กบนตักว่าพลางจิ้มนิ้วเรียวที่สันจมูกโรมแรง ๆ จนหน้าหัน"คุณโรมคะ..." "นี่ชะนีป๋าเหรอ" เจ้าขาถามสวนขึ้นทันทีพลางชี้ไปที่สาวเซ็กซี่ที่นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน"รู้แล้วก็ลุกออกจากตักคุณโรมได้แล้ว ไม่มีมารยาทเอาซะเลย" หญิงสาวว่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ พนั
มหาวิทยาลัยบีร่างบางลงมาจากรถสปอร์ตคันสวยเดินฉับ ๆ มานั่งกระแทกลงข้างเพื่อนแล้วจ้องหน้าอาร์ตอย่างเอาเรื่อง"จ้องคักแท้ มีไรโทรให้มาแต่เช้า" เพื่อนชายถามพร้อมกับจ้องหน้ากลับ"มึงบอกแม่บ่ เรื่องที่มีเรื่องที่รีสอร์ตเมื่อวานกูเกือบโดนคันเบ็ด ดีนะพี่โรมมาทันโดนแทนกูไปเต็ม ๆ เลย" เจ้าขาว่าพร้อมกับคว้าคอเสื้อเพื่อนง้างหมัดเต็มที่"เฮ้ย! โนครับ โน บอกก็โดนด้วยสิครับ ไม่ได้บอกล้านเปอร์ครับเพื่อน" อาร์ตรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันทีพร้อมกับมองหน้าแมงปอที่นั่งอยู่ตรงข้าม"อย่ามามองกูค่ะ บอกก็โดนหมู่ กูไม่ได้โง่นะอาร์ตจะได้ปากหาคันเบ็ดน่ะ" แมงปอปฏิเสธเสียงดังอีกคน"แล้วใครปากดีวะ จับได้นะแม่จะหักคอเลยคอยดู" ว่าพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโกรธเคือง"แล้วพี่โรมเป็นไงมั่ง" อาร์ตถามขึ้นอย่างนึกได้"เป็นไงก็ได้มา 1 ริ้วน่ะสิ ผิวพี่แกยิ่งขาว ๆ อยู่ เมื่อคืนกูขอดูขึ้นคูแดงอย่างใหญ่แบบน่ากลัวเลยมึง""แม่ใหญ่ก็โหดไป๊...เอะอะฟาด เอะอะฟาด ตีไม่ได้เกรงใจนักมวยเบอร์ต้นของค่ายอย่างพวกเราเลย" แมงปอว่าขึ้นพลางทำหน้ามุ่ย"จะเกรงเพื่อ? ขนาดพ่อให
คฤหาสน์คุณหญิงรวิดารถครอบครัวคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของบ้าน ซึ่งมีรถคันสีดำยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่นจอดอยู่ก่อน คนตัวเล็กยิ้มแป้นลืมวีรกรรมของตัวเองเมื่อเช้าเสียสนิท"พ่อกับแม่มาล่ะ คิดถึงอยู่พอดี ไม่ได้เจอหน้าตั้งเป็นเดือน" ว่าพลางเปิดประตูลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านอย่างดีใจ"แม่จ๋า พ่อจ๋า เจ้ามาแล้วจ้า..." เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับเสียงก้าวฉับ ๆ เข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนที่นั่งสนทนากับน้องสาวและน้องเขยสามีอยู่ในห้องนั่งเล่นถึงกับเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มเป็นบึ้งตึงขึ้นมาทันที "อุ่ย!" เด็กดื้ออุทานเมื่อเห็นหน้าแม่แล้วหันไปทักคุณอาทั้ง 2 เสียงหวาน "คุณอาใหญ่ อาหญิงสวัสดีค่ะ" ยกมือไหว้แล้วโผเข้ากอดรวบแขนคุณแม่ทั้ง 2 ข้างแน่น ๆ กดหอมที่แก้มฟอดใหญ่ก่อนจะซบหน้าลงที่บ่าอย่างออดอ้อน "คิดถึงแม่ใหญ่เตือนจังเยย...มาคนเดียวหรือคะ""มากับพ่อ พ่อเข้าประชุมด่วน ปล่อยกอดแม่แล้วลุกขึ้น" คำตอบและคำสั่งของคุณแม่ทำเอาสาวสวยถึงกับเสียวสันหลังขึ้นมาทันที"ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะคะ ไม่คิดถึงเจ้าแบบที่เจ้าคิดถึงแม่บ้างเลยเหรอ?" เสียงอ้อนของลูกสาวทำเอา
"รับจ็อบเหรอ มึงรึปล่าวที่รับจ็อบ กูอยู่ของกูดี ๆ แล้วนะ หิวตีนแต่เช้าว่างั้น" ว่าพลางเดินเข้าหาแล้วคว้าคอเสื้อรุ่นพี่กระชากเข้าหาตัวอย่างแรง"ว้าย!!" มิลลี่อุทานอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่ารุ่นน้องจะกล้าทำอะไรตนต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น (มากมายก็คือเด็กที่มารับน้องนั่นแหละเพราะคุณพี่เขาปิดรีสอร์ตให้เลยจ้า)"ทำเป็นวี้ดว้าย คิดว่าคนเยอะแล้วกูไม่กล้ารึไง?" ว่าพลางมองหน้าอย่างเอาเรื่อง"ปล่อยนะ กูจะฟ้องคุณโรม""กูต่อให้มึงฟ้องพ่อคุณโรมนู่น คนในนี้เขาเห็นกันหมดว่ากูทำอะไรอยู่ มึงมาหาเรื่องกูก่อน กูต้องเกรงใจมั้ย" เจ้าขาว่าเสียงดังไม่ได้สนใจ รปภ. และผู้จัดการรีสอร์ตที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา"ปล่อยกูนะ!" มิลลี่ตะคอกใส่หน้าทั้งยังมองหาคนช่วยสีหน้าเลิ่กลั่ก แต่เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเพื่อนรักของเจ้าขาทั้ง 2 คนและผู้จัดการรีสอร์ตที่เมื่อวันก่อนเพิ่งฉีกหน้าคู่นอนของเธอไป เธอเลยเลือกที่จะเงียบไว้ก่อน"กูจะบอกให้ นอกจากบนเวทีแล้วคนอย่างกูไม่ปล่อยใครระรานกูได้ ถึง 2รอบแบบนี้หรอก นี่กูใจเย็นที่สุดแล้ว" ว่าพลางเงื้อกำปั้นสุดแขน ในขณะที่โรมที่ลูกน้อง
รุ่งเช้า"เฮ้ย! อิป๋าตื่น..." เจ้าขาลืมตาตื่นแล้วต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังกอดชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ ไว้แน่น แล้วลุกขึ้นนั่งเขย่าตัวคนข้าง ๆ ให้ตื่นตาม"อะไรเนี่ยเจ้า พี่เพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมง จะปลุกทำไมเนี่ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามแล้วยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ลืมตามองหน้าคนนั่งข้าง ๆ"เจ้ามานอนห้องได้ไง?""อ้าว? ...ก็เมื่อคืนพี่ถามว่าจะมานอนที่บ้านมั้ย เจ้าบอกว่ามาพี่ก็พามาไง นี่เมาจนลืมเลยเหรอ" คนตัวโตเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าเด็กขี้เมานิ่ง ๆ"อ้าว เหรอ แหะ เจ้าคงลืมแหละ" คนตัวเล็กว่าพร้อมกับยิ้มแหย ๆ ก่อนจะก้มมองชุดที่ตัวเองใส่ ซึ่งก็คือเสื้อยืดตัวใหญ่แค่ตัวเดียวและมันก็ไม่ใช่เสื้อเธอ "เฮ้ย! หยะ...อย่าบอกนะว่า ป๋าเปลี่ยนชุดให้เจ้าน่ะ อี๋...อิป๋า อิคนลามก อิคนฉวยโอกาส อิคน..." ว่าไปจับหมอนพาดไปแบบไม่ยั้ง"โอ๋ย... จะตีให้ตายก่อนค่อยฟังรึปล่าวเนี่ย พี่ให้แม่บ้านมาเปลี่ยนให้เว้ย ไม่ได้เปลี่ยนเอง โวยวายไปได้" ชายหนุ่มว่าพลางจับหมอนที่กำลังจะทุบลงมาอีกรอบไว้แน่น"อ๋อ...เหรอ" ว่าเสียงอ่อย ๆ "แล้วเพื่อนเจ้าล่ะ นอนที
"พี่ตัดสินใจแทนเจ้าของเขาไม่ได้หรอก เขามีสิทธิ์ที่จะให้ใครเข้าหรือออกก็ได้ การที่ไม่มีเต็นท์ซัก 3-4 หลังมันไม่ได้ทำให้ครอบครัวของเจ้าจนลงหรอก ขนาดให้ใช้สถานที่ฟรีเขายังไม่สะเทือนเลย น้องมันไม่แสดงตัวเพราะไม่อยากอยู่เหนือคนอื่น ไม่อยากใช้สิทธิ์ทั้ง ๆ ที่มันทำได้ แล้วไอ้เชี้ยนี่ล่ะ (ชี้ไปที่วัตร) อ้างว่าเป็นหลานผู้จัดการ หลอกแดกเหล้าเพื่อนมาบนรถบอกจะให้เข้าพักในบ้านมีส่วนลดให้ เรื่องนี้ทำให้มหาลัยเสื่อมเสีย ยังไงกูต้องแจ้งทางมหาลัยให้ปรับตกกิจกรรมมึง" โฟกัสว่าขึ้นยืดยาวพร้อมทั้งยิ้มเย็นใส่หน้ารุ่นน้อง"วันนี้พี่โรมจะมามั้ยครับพี่ยะ" โฟกัสหันไปถามปิยะ 4 สาวที่ได้ยินถึงกับหูผึ่งทันที"ถ้ารู้ว่าน้องมีเรื่องต้องมาแน่ครับ คุณโรมทั้งรักทั้งห่วงน้องมาก" ปิยะเอ่ยตอบยิ้ม ๆ"แกได้ยินมั้ยคุณโรมจะมา เราขอคุณโรมเข้าพักก็ได้" 1ในเพื่อนของมิลลี่ว่าอย่างมีความหวัง "ลี่แกออกไปก่อนเถอะนะ วันนี้พวกเราจะรอคุณโรมที่นี่""ผมว่าอย่ารอเลยดีกว่าครับ ถ้าน้องว่าไงคุณโรมก็ไม่เคยขัด เชิญครับ" ปิยะหันไปพูดกับกลุ่มสาวแล้วผายมืออีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าเรียกการ์ดที่อยู่บริเวณนั้นให้มาจัดก
รีสอร์ตริมทะเล....รถบัสคันใหญ่ 3 คันวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ต ที่นี่ถือว่าเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่มีทั้งเป็นอาคาร 4 ชั้นหันหน้าออกหาชายทะเลสามารถมองวิวทะเลได้ทุกห้อง แบบบ้านพักส่วนตัวที่มีเป็นหลังนับสิบหลัง และมีลานกางเต็นท์ด้านข้างที่กว้างพอ ๆ กับพื้นที่ส่วนเป็นอาคาร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่าสามร้อยเต็นท์ช่วงเทศกาล มีหน้าหาดที่กว้างยาวเหมาะแก่การทำกิจกรรมเอาท์ดอร์เป็นอย่างมาก และยังมีบริการกีฬาทางน้ำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักได้เลือกเล่นหลายอย่างอีกด้วย"ว้าว... สวยมาก" วุ้นเส้นที่ลงรถมาคนแรกในกลุ่มพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น "เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าที่นี่มีลานกลางเต็นท์ด้วย เรามาตั้งหลายรอบไม่เห็นมีวะ" แมงปอที่ลงมาจากรถพูดขึ้นเหมือนพูดกับตัวเอง"แมงกับเจ้าเคยมาเหรอ" วุ้นเส้นถามขึ้นตาใสทันที"อือ... พ่อเคยพามาเที่ยวน่ะ" เจ้าขาตอบเพื่อนใหม่ยิ้ม ๆ"ทำเป็นอวดว่าเคยมา แค่ดูรูปในเพจก็รู้มะ ทุเรศ" สาวรุ่นพี่ที่เธอจำได้ว่าเคยนั่งอยู่กับโรมวันที่เธอไปร้าน ลงมาจากรถอีกคันว่าขึ้นพร้อมทั้งเบะปากใส่อย่างน่าหมั่นไส้"เอ๋า...อินี่แหม กูได้คุยกับมึงมั้ยคะ" เจ้าขาถามขึ้นพร้อมกับเท้าเอวมอง
"เจ้า! ถ้าดื้อพี่จะบอกคุณลุงกับคุณป้านะ" ชายหนุ่มขู่หวังว่าเธอจะกลัว แต่..."ก็บอกดิ มีเบอร์พ่อรึเปล่าล่ะหรือจะเอาไลน์ เบอร์แม่มีหรือยังเอามือถือมาดิเดี๋ยวเม็มให้" เด็กดื้อหันมาท้าพลางแบมือขอมือถือจะให้เบอร์พ่อเบอร์แม่ แล้วเบะปากเตรียมจะเดินออกจากห้องอีกรอบ"เจ้าขา! พี่บอกว่า หยุด! แล้วกลับมาใส่เสื้อก่อนเดี๋ยวนี้" ชายหนุ่มว่าพลางคว้าเอวบางแต่คว้าพลาดทำให้เจ้าขาเปิดประตูผัวะออกไปที่ห้องทำงานของชายหนุ่มด้านนอกทันที"อุ่ย... เพียบ" หญิงสาวอุทานพร้อมกับทำหน้าแหย ๆ ให้กับคนที่อยู่ในห้องนั้น แน่นอนว่าช่วงเกือบเที่ยงแบบนี้ผู้ช่วยและผู้จัดการร้านจะเข้ามาเคลียร์บัญชีประจำวันเป็นปกติ และวันนี้ผู้จัดการรีสอร์ตของเขาเอาเอกสารเรื่องทางมหาลัยขอใช้สถานที่ในการรับน้องของคณะบริหารมาให้พิจารณา ซึ่งเขาก็ยินดีและเป็นสปอนเซอร์ให้ในฐานะศิษย์เก่า คนตัวเล็กค่อย ๆ ถอยหลังมาพิงอกแกร่งของลูกชายคุณอาที่เดินไปยืนซ้อนหลังเธอก่อนจะค่อย ๆ ผลักประตูปิด แต่ก็โดนมือใหญ่เอื้อมมาจากทางด้านหลังผลักไว้ไม่ให้ปิด "ยังไงคราวนี้ จะออกไปชุดนี้หรือจะไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก"แล้วทำไมไม่
"ไม่! เจ้าจะลงไปหาเพื่อน""ไปเปิดประตูห้องนั้นแล้วเข้าไปนอน" โรมออกคำสั่งพร้อมกับชี้ไปที่ประตูที่เชื่อมไปอีกห้อง ที่เป็นห้องนอนตัวเอง"ไม่นอน!" "หรือจะให้พี่พานอน" เสียงห้วนสวนขึ้นทันทีพร้อมกับจ้องตาเด็กดื้อนิ่ง ๆ "ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนให้ส่าง ค่อยกลับบ้านพร้อมพี่""ก็เจ้า..." "หรือจะให้พี่อาบน้ำให้ แล้วทีหลังถ้าเห็นใส่แบบนี้อีก พี่จะบอกลุงอัฐ" ชายหนุ่มเท้าเอวขู่คนตัวเล็กไม่หยุด"ฟ้องเลย กลัวที่ไหนล่ะ ดีซะอีกจะได้ขอพ่อไปอยู่ข้างนอก แล้วถ้ารู้ว่าพี่โรมอยู่นี่เจ้าไม่มาหรอก" คนตัวเล็กว่าหน้าบึ้งทั้งยังกอดอกหันหลังให้งอน ๆ*เฮ้อ... นั่นไง งอนกูไง สูตรสำเร็จจริง ๆ เดี๋ยวน้ำตาก็มาอีก 2 ตัวว่าหนักแล้วเจอเจ้าเข้าไปคูณ 10 ล่ะมั้งกูเนี่ย ...* ชายหนุ่มคิดในใจพลางถอนหายใจก่อนจะเดินไปลูบผมสลวยทางด้านหลัง"แล้วจะไม่เจอพี่ได้ไง นี่มันร้านพี่ พี่ก็ต้องอยู่ร้านอยู่แล้ว แล้วนี่ก็ห้องทำงานพี่ พี่ปิดร้านเสร็จพี่ก็นอนนี่ เข้าไปนอนรอนะครับเดี๋ยวปิดร้านแล้วพี่พากลับบ้าน" ชายหนุ่มพยายามอธิบายอย่างใจเย็นทั้งยังหลอกล่อให้คนตัวเล็กยอมเข้าไปนอนรอในห้อง เพื่อที่ตัวเองจะได้ทำงานโดยไม่ต้องระแวงว่าเจ้าขาจะแ
"สวัสดีครับน้องเจ้าขา" มาร์คเอ่ยทักยิ้ม ๆ"ยาย ๆ หลบดิ๊ ป๋า ๆ ชิดในดิ๊" เด็กดื้อว่าพลางตบที่ไหล่โรมให้ขยับชิดด้านใน สาวสวยขยับชิดด้านนอก จับบ่าโรมแล้วก้าวขาข้ามพนักโซฟาจากด้านหลังปีนมาด้านหน้าทำท่าจะหัวทิ่มลงที่โต๊ะกลางโชคดีที่โรมคว้าเอวไว้ได้ทันแล้วรั้งลงมานั่งที่ตักตัวเองแล้วมองหน้าสวยดุ ๆ"ทำอะไรไม่ระวังเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก ทำไมเจ้าดื้อแบบนี้เนี่ย" ชายหนุ่มว่าพลางมองหน้าแล้วโอบเอวร่างบางไว้เบา ๆ *เฮ้อ...คิดจะกลัวใครมั่งมั้ยวะเนี่ย แล้วเสื้อนี่ออกจากบ้านมันใส่ไม่ได้หรือไงวะ ขอบจริง ๆ นะเกาะอกเนี่ย*"อ้าว? ก็เมื่อกี้ป๋าบอกเจ้าว่าให้มานั่งดี ๆ ก็มานั่งดี ๆ นี่ไง เจ้าดื้อตรงไหน พี่ว่าเจ้าดื้อมั้ยคะ" เด็กดื้อตอบตาใสพลางหันไปถามมาร์คที่นั่งอยู่โซฟาใกล้ ๆ"ไม่ดื้อเลยครับ เจ้าเชื่อฟังดีมาก" มาร์คตอบน้องสาวเพื่อนขำ ๆ"นั่นไง ใส่ร้ายเจ้าว่ะ" คนตัวเล็กบนตักว่าพลางจิ้มนิ้วเรียวที่สันจมูกโรมแรง ๆ จนหน้าหัน"คุณโรมคะ..." "นี่ชะนีป๋าเหรอ" เจ้าขาถามสวนขึ้นทันทีพลางชี้ไปที่สาวเซ็กซี่ที่นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน"รู้แล้วก็ลุกออกจากตักคุณโรมได้แล้ว ไม่มีมารยาทเอาซะเลย" หญิงสาวว่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ พนั