"สวัสดีครับน้องเจ้าขา" มาร์คเอ่ยทักยิ้ม ๆ"ยาย ๆ หลบดิ๊ ป๋า ๆ ชิดในดิ๊" เด็กดื้อว่าพลางตบที่ไหล่โรมให้ขยับชิดด้านใน สาวสวยขยับชิดด้านนอก จับบ่าโรมแล้วก้าวขาข้ามพนักโซฟาจากด้านหลังปีนมาด้านหน้าทำท่าจะหัวทิ่มลงที่โต๊ะกลางโชคดีที่โรมคว้าเอวไว้ได้ทันแล้วรั้งลงมานั่งที่ตักตัวเองแล้วมองหน้าสวยดุ ๆ"ทำอะไรไม่ระวังเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก ทำไมเจ้าดื้อแบบนี้เนี่ย" ชายหนุ่มว่าพลางมองหน้าแล้วโอบเอวร่างบางไว้เบา ๆ *เฮ้อ...คิดจะกลัวใครมั่งมั้ยวะเนี่ย แล้วเสื้อนี่ออกจากบ้านมันใส่ไม่ได้หรือไงวะ ขอบจริง ๆ นะเกาะอกเนี่ย*"อ้าว? ก็เมื่อกี้ป๋าบอกเจ้าว่าให้มานั่งดี ๆ ก็มานั่งดี ๆ นี่ไง เจ้าดื้อตรงไหน พี่ว่าเจ้าดื้อมั้ยคะ" เด็กดื้อตอบตาใสพลางหันไปถามมาร์คที่นั่งอยู่โซฟาใกล้ ๆ"ไม่ดื้อเลยครับ เจ้าเชื่อฟังดีมาก" มาร์คตอบน้องสาวเพื่อนขำ ๆ"นั่นไง ใส่ร้ายเจ้าว่ะ" คนตัวเล็กบนตักว่าพลางจิ้มนิ้วเรียวที่สันจมูกโรมแรง ๆ จนหน้าหัน"คุณโรมคะ..." "นี่ชะนีป๋าเหรอ" เจ้าขาถามสวนขึ้นทันทีพลางชี้ไปที่สาวเซ็กซี่ที่นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน"รู้แล้วก็ลุกออกจากตักคุณโรมได้แล้ว ไม่มีมารยาทเอาซะเลย" หญิงสาวว่าเสียงดังอย่างไม่พอใจ พนั
"ไม่! เจ้าจะลงไปหาเพื่อน""ไปเปิดประตูห้องนั้นแล้วเข้าไปนอน" โรมออกคำสั่งพร้อมกับชี้ไปที่ประตูที่เชื่อมไปอีกห้อง ที่เป็นห้องนอนตัวเอง"ไม่นอน!" "หรือจะให้พี่พานอน" เสียงห้วนสวนขึ้นทันทีพร้อมกับจ้องตาเด็กดื้อนิ่ง ๆ "ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนให้ส่าง ค่อยกลับบ้านพร้อมพี่""ก็เจ้า..." "หรือจะให้พี่อาบน้ำให้ แล้วทีหลังถ้าเห็นใส่แบบนี้อีก พี่จะบอกลุงอัฐ" ชายหนุ่มเท้าเอวขู่คนตัวเล็กไม่หยุด"ฟ้องเลย กลัวที่ไหนล่ะ ดีซะอีกจะได้ขอพ่อไปอยู่ข้างนอก แล้วถ้ารู้ว่าพี่โรมอยู่นี่เจ้าไม่มาหรอก" คนตัวเล็กว่าหน้าบึ้งทั้งยังกอดอกหันหลังให้งอน ๆ*เฮ้อ... นั่นไง งอนกูไง สูตรสำเร็จจริง ๆ เดี๋ยวน้ำตาก็มาอีก 2 ตัวว่าหนักแล้วเจอเจ้าเข้าไปคูณ 10 ล่ะมั้งกูเนี่ย ...* ชายหนุ่มคิดในใจพลางถอนหายใจก่อนจะเดินไปลูบผมสลวยทางด้านหลัง"แล้วจะไม่เจอพี่ได้ไง นี่มันร้านพี่ พี่ก็ต้องอยู่ร้านอยู่แล้ว แล้วนี่ก็ห้องทำงานพี่ พี่ปิดร้านเสร็จพี่ก็นอนนี่ เข้าไปนอนรอนะครับเดี๋ยวปิดร้านแล้วพี่พากลับบ้าน" ชายหนุ่มพยายามอธิบายอย่างใจเย็นทั้งยังหลอกล่อให้คนตัวเล็กยอมเข้าไปนอนรอในห้อง เพื่อที่ตัวเองจะได้ทำงานโดยไม่ต้องระแวงว่าเจ้าขาจะแ
"เจ้า! ถ้าดื้อพี่จะบอกคุณลุงกับคุณป้านะ" ชายหนุ่มขู่หวังว่าเธอจะกลัว แต่..."ก็บอกดิ มีเบอร์พ่อรึเปล่าล่ะหรือจะเอาไลน์ เบอร์แม่มีหรือยังเอามือถือมาดิเดี๋ยวเม็มให้" เด็กดื้อหันมาท้าพลางแบมือขอมือถือจะให้เบอร์พ่อเบอร์แม่ แล้วเบะปากเตรียมจะเดินออกจากห้องอีกรอบ"เจ้าขา! พี่บอกว่า หยุด! แล้วกลับมาใส่เสื้อก่อนเดี๋ยวนี้" ชายหนุ่มว่าพลางคว้าเอวบางแต่คว้าพลาดทำให้เจ้าขาเปิดประตูผัวะออกไปที่ห้องทำงานของชายหนุ่มด้านนอกทันที"อุ่ย... เพียบ" หญิงสาวอุทานพร้อมกับทำหน้าแหย ๆ ให้กับคนที่อยู่ในห้องนั้น แน่นอนว่าช่วงเกือบเที่ยงแบบนี้ผู้ช่วยและผู้จัดการร้านจะเข้ามาเคลียร์บัญชีประจำวันเป็นปกติ และวันนี้ผู้จัดการรีสอร์ตของเขาเอาเอกสารเรื่องทางมหาลัยขอใช้สถานที่ในการรับน้องของคณะบริหารมาให้พิจารณา ซึ่งเขาก็ยินดีและเป็นสปอนเซอร์ให้ในฐานะศิษย์เก่า คนตัวเล็กค่อย ๆ ถอยหลังมาพิงอกแกร่งของลูกชายคุณอาที่เดินไปยืนซ้อนหลังเธอก่อนจะค่อย ๆ ผลักประตูปิด แต่ก็โดนมือใหญ่เอื้อมมาจากทางด้านหลังผลักไว้ไม่ให้ปิด "ยังไงคราวนี้ จะออกไปชุดนี้หรือจะไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก"แล้วทำไมไม่
รีสอร์ตริมทะเล....รถบัสคันใหญ่ 3 คันวิ่งเข้ามาจอดที่ลานจอดรถด้านหน้ารีสอร์ต ที่นี่ถือว่าเป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่มีทั้งเป็นอาคาร 4 ชั้นหันหน้าออกหาชายทะเลสามารถมองวิวทะเลได้ทุกห้อง แบบบ้านพักส่วนตัวที่มีเป็นหลังนับสิบหลัง และมีลานกางเต็นท์ด้านข้างที่กว้างพอ ๆ กับพื้นที่ส่วนเป็นอาคาร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่าสามร้อยเต็นท์ช่วงเทศกาล มีหน้าหาดที่กว้างยาวเหมาะแก่การทำกิจกรรมเอาท์ดอร์เป็นอย่างมาก และยังมีบริการกีฬาทางน้ำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักได้เลือกเล่นหลายอย่างอีกด้วย"ว้าว... สวยมาก" วุ้นเส้นที่ลงรถมาคนแรกในกลุ่มพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น "เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าที่นี่มีลานกลางเต็นท์ด้วย เรามาตั้งหลายรอบไม่เห็นมีวะ" แมงปอที่ลงมาจากรถพูดขึ้นเหมือนพูดกับตัวเอง"แมงกับเจ้าเคยมาเหรอ" วุ้นเส้นถามขึ้นตาใสทันที"อือ... พ่อเคยพามาเที่ยวน่ะ" เจ้าขาตอบเพื่อนใหม่ยิ้ม ๆ"ทำเป็นอวดว่าเคยมา แค่ดูรูปในเพจก็รู้มะ ทุเรศ" สาวรุ่นพี่ที่เธอจำได้ว่าเคยนั่งอยู่กับโรมวันที่เธอไปร้าน ลงมาจากรถอีกคันว่าขึ้นพร้อมทั้งเบะปากใส่อย่างน่าหมั่นไส้"เอ๋า...อินี่แหม กูได้คุยกับมึงมั้ยคะ" เจ้าขาถามขึ้นพร้อมกับเท้าเอวมอง
"พี่ตัดสินใจแทนเจ้าของเขาไม่ได้หรอก เขามีสิทธิ์ที่จะให้ใครเข้าหรือออกก็ได้ การที่ไม่มีเต็นท์ซัก 3-4 หลังมันไม่ได้ทำให้ครอบครัวของเจ้าจนลงหรอก ขนาดให้ใช้สถานที่ฟรีเขายังไม่สะเทือนเลย น้องมันไม่แสดงตัวเพราะไม่อยากอยู่เหนือคนอื่น ไม่อยากใช้สิทธิ์ทั้ง ๆ ที่มันทำได้ แล้วไอ้เชี้ยนี่ล่ะ (ชี้ไปที่วัตร) อ้างว่าเป็นหลานผู้จัดการ หลอกแดกเหล้าเพื่อนมาบนรถบอกจะให้เข้าพักในบ้านมีส่วนลดให้ เรื่องนี้ทำให้มหาลัยเสื่อมเสีย ยังไงกูต้องแจ้งทางมหาลัยให้ปรับตกกิจกรรมมึง" โฟกัสว่าขึ้นยืดยาวพร้อมทั้งยิ้มเย็นใส่หน้ารุ่นน้อง"วันนี้พี่โรมจะมามั้ยครับพี่ยะ" โฟกัสหันไปถามปิยะ 4 สาวที่ได้ยินถึงกับหูผึ่งทันที"ถ้ารู้ว่าน้องมีเรื่องต้องมาแน่ครับ คุณโรมทั้งรักทั้งห่วงน้องมาก" ปิยะเอ่ยตอบยิ้ม ๆ"แกได้ยินมั้ยคุณโรมจะมา เราขอคุณโรมเข้าพักก็ได้" 1ในเพื่อนของมิลลี่ว่าอย่างมีความหวัง "ลี่แกออกไปก่อนเถอะนะ วันนี้พวกเราจะรอคุณโรมที่นี่""ผมว่าอย่ารอเลยดีกว่าครับ ถ้าน้องว่าไงคุณโรมก็ไม่เคยขัด เชิญครับ" ปิยะหันไปพูดกับกลุ่มสาวแล้วผายมืออีกครั้งก่อนที่จะพยักหน้าเรียกการ์ดที่อยู่บริเวณนั้นให้มาจัดก
รุ่งเช้า"เฮ้ย! อิป๋าตื่น..." เจ้าขาลืมตาตื่นแล้วต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังกอดชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ ไว้แน่น แล้วลุกขึ้นนั่งเขย่าตัวคนข้าง ๆ ให้ตื่นตาม"อะไรเนี่ยเจ้า พี่เพิ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมง จะปลุกทำไมเนี่ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามแล้วยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ลืมตามองหน้าคนนั่งข้าง ๆ"เจ้ามานอนห้องได้ไง?""อ้าว? ...ก็เมื่อคืนพี่ถามว่าจะมานอนที่บ้านมั้ย เจ้าบอกว่ามาพี่ก็พามาไง นี่เมาจนลืมเลยเหรอ" คนตัวโตเอ่ยถามพร้อมกับจ้องหน้าเด็กขี้เมานิ่ง ๆ"อ้าว เหรอ แหะ เจ้าคงลืมแหละ" คนตัวเล็กว่าพร้อมกับยิ้มแหย ๆ ก่อนจะก้มมองชุดที่ตัวเองใส่ ซึ่งก็คือเสื้อยืดตัวใหญ่แค่ตัวเดียวและมันก็ไม่ใช่เสื้อเธอ "เฮ้ย! หยะ...อย่าบอกนะว่า ป๋าเปลี่ยนชุดให้เจ้าน่ะ อี๋...อิป๋า อิคนลามก อิคนฉวยโอกาส อิคน..." ว่าไปจับหมอนพาดไปแบบไม่ยั้ง"โอ๋ย... จะตีให้ตายก่อนค่อยฟังรึปล่าวเนี่ย พี่ให้แม่บ้านมาเปลี่ยนให้เว้ย ไม่ได้เปลี่ยนเอง โวยวายไปได้" ชายหนุ่มว่าพลางจับหมอนที่กำลังจะทุบลงมาอีกรอบไว้แน่น"อ๋อ...เหรอ" ว่าเสียงอ่อย ๆ "แล้วเพื่อนเจ้าล่ะ นอนที
"รับจ็อบเหรอ มึงรึปล่าวที่รับจ็อบ กูอยู่ของกูดี ๆ แล้วนะ หิวตีนแต่เช้าว่างั้น" ว่าพลางเดินเข้าหาแล้วคว้าคอเสื้อรุ่นพี่กระชากเข้าหาตัวอย่างแรง"ว้าย!!" มิลลี่อุทานอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่ารุ่นน้องจะกล้าทำอะไรตนต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น (มากมายก็คือเด็กที่มารับน้องนั่นแหละเพราะคุณพี่เขาปิดรีสอร์ตให้เลยจ้า)"ทำเป็นวี้ดว้าย คิดว่าคนเยอะแล้วกูไม่กล้ารึไง?" ว่าพลางมองหน้าอย่างเอาเรื่อง"ปล่อยนะ กูจะฟ้องคุณโรม""กูต่อให้มึงฟ้องพ่อคุณโรมนู่น คนในนี้เขาเห็นกันหมดว่ากูทำอะไรอยู่ มึงมาหาเรื่องกูก่อน กูต้องเกรงใจมั้ย" เจ้าขาว่าเสียงดังไม่ได้สนใจ รปภ. และผู้จัดการรีสอร์ตที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา"ปล่อยกูนะ!" มิลลี่ตะคอกใส่หน้าทั้งยังมองหาคนช่วยสีหน้าเลิ่กลั่ก แต่เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเพื่อนรักของเจ้าขาทั้ง 2 คนและผู้จัดการรีสอร์ตที่เมื่อวันก่อนเพิ่งฉีกหน้าคู่นอนของเธอไป เธอเลยเลือกที่จะเงียบไว้ก่อน"กูจะบอกให้ นอกจากบนเวทีแล้วคนอย่างกูไม่ปล่อยใครระรานกูได้ ถึง 2รอบแบบนี้หรอก นี่กูใจเย็นที่สุดแล้ว" ว่าพลางเงื้อกำปั้นสุดแขน ในขณะที่โรมที่ลูกน้อง
คฤหาสน์คุณหญิงรวิดารถครอบครัวคันใหญ่วิ่งเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของบ้าน ซึ่งมีรถคันสีดำยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่นจอดอยู่ก่อน คนตัวเล็กยิ้มแป้นลืมวีรกรรมของตัวเองเมื่อเช้าเสียสนิท"พ่อกับแม่มาล่ะ คิดถึงอยู่พอดี ไม่ได้เจอหน้าตั้งเป็นเดือน" ว่าพลางเปิดประตูลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านอย่างดีใจ"แม่จ๋า พ่อจ๋า เจ้ามาแล้วจ้า..." เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับเสียงก้าวฉับ ๆ เข้าไปในบ้านอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนที่นั่งสนทนากับน้องสาวและน้องเขยสามีอยู่ในห้องนั่งเล่นถึงกับเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มเป็นบึ้งตึงขึ้นมาทันที "อุ่ย!" เด็กดื้ออุทานเมื่อเห็นหน้าแม่แล้วหันไปทักคุณอาทั้ง 2 เสียงหวาน "คุณอาใหญ่ อาหญิงสวัสดีค่ะ" ยกมือไหว้แล้วโผเข้ากอดรวบแขนคุณแม่ทั้ง 2 ข้างแน่น ๆ กดหอมที่แก้มฟอดใหญ่ก่อนจะซบหน้าลงที่บ่าอย่างออดอ้อน "คิดถึงแม่ใหญ่เตือนจังเยย...มาคนเดียวหรือคะ""มากับพ่อ พ่อเข้าประชุมด่วน ปล่อยกอดแม่แล้วลุกขึ้น" คำตอบและคำสั่งของคุณแม่ทำเอาสาวสวยถึงกับเสียวสันหลังขึ้นมาทันที"ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะคะ ไม่คิดถึงเจ้าแบบที่เจ้าคิดถึงแม่บ้างเลยเหรอ?" เสียงอ้อนของลูกสาวทำเอา
โรม หรือ รวัช ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารแทนผู้เป็นพ่อด้วยการขอร้องของครอบครัวในอีก 3 ปีหลังจากที่เขาจบดอกเตอร์ และหลังจากนั้นอีก 5 ปีเขาและเพื่อน ๆ ได้ตกลงกันที่จะปิดบริษัทที่ต่างประเทศ เพราะศิลาและมาร์คย้ายกลับมาไทยถาวร ศิลาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แห่ง เคเอส กรุ๊ป มีรองประธานฝ่ายบริหารผู้มากความสามารถอย่างมาร์คหรือมนัสพงษ์ 1 ในเพื่อนรักเคียงข้าง โดยที่คุณปู่ของศิลาให้มาร์คถือหุ้นในบริษัทถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบแทนความดีและความซื่อสัตย์ที่เขามีให้คุณหญิงรวิดาวางมือจากร้านเสื้อผ้าของตัวเองให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 ร่วมกันบริหารและถือหุ้นร่วมกันคนละครึ่ง โรมตัดสินใจขายผับให้กับรุ่นน้อง แต่สร้างรีสอร์ตริมทะเลเพิ่มขยายพื้นที่จนใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยให้ปิยะเป็นผู้ดูแลและให้แฮคกับอาร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองที่บริษัทส่วน สรัญ เขาประสบความสำเร็จกับบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เริ่มก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาทและมีพนักงานแค่เขากับภรรยาในช่วงเริ่มแรกด้วยการช่วยวางแผนของน้องชาย ตอนนี้กิจการก้าวหน้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ และเขาก็ปฏิเสธหุ้นของโรงทอที่พ่อจ
งานฉลองบัณฑิตจบใหม่ถูกจัดขึ้นที่ผับชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ รถสปอร์ตเปิดประทุนคันสวยวิ่งเข้ามาจอดด้านหน้า พร้อมกับการปรากฎกายของสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่วันนี้เธอจัดเต็มมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นภรรยาเจ้าของผับ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะแต่งกายด้วยชุดอะไรหรือเทศกาลอะไรนั่นก็คือสร้อยคอเส้นเล็กจี้พระจันทร์เสี้ยวกับตัวอาร์ที่ใส่ติดคอเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่โรมใส่ให้เมื่อ 4 ปีก่อน เจ้าขาในวันนี้แขวนนวมนักมวยขึ้นเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังร่วมกับแม่สามีหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น แต่ต้องหยุดชะงักกับภาพเห็นตรงหน้า กับไอ้หนุ่มผมยาวคุ้นตาที่กำลังนั่งดื่มกินและหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับสาวสวยคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในร้าน"อิป๋า! เมียมายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่คิดจะเชิญนั่งรึไง" เสียงหวานปนเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันขวับกลับมามองก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบเอวหญิงสาวไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม"ฟาง นี่เจ้าขา ภรรยาไอ...เจ้า นี่พี่ฟางฉีเพื่อนร่วมคณะพี่ แล้วนี่ก็พี่จิ๊กหรือพี่แจ็คแฟนพี่ฟาง" ชายหนุ่มแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเพื่อนผ
2 ปีต่อมาอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษโรมเดินขึ้นบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แล้วหยุดยืนเคาะประตูหน้าห้องที่ติดบันไดทางเดิน ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ รอคนที่อยู่ข้างในมาเปิดให้ ชายร่างผอมสวมแว่นสายตาค่อนข้างหนาเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองหน้าผู้มาเยือนเป็นคำถาม กว่า 2 ปีแล้วที่สรัญพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่ โดยการช่วยเหลือของโรมและเพื่อน ๆ โดยที่พ่อเขาไม่ทราบมาก่อน ทั้งเขาและภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากที่พักมากนักและให้ลูกชายคนเดียวเข้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกภาษาไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะตอนที่เกิดเรื่องบัญชีของเขาที่รับโอนเงินจากบัญชีหุ้นของโรมถูกทางธนาคารสำนักงานใหญ่อายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและโยงไปถึงบัญชีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันด้วย ทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก การมาที่นี่ในตอนแรกนั้นได้ความช่วยเหลือจากศิลาให้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของทางบริษัทที่ศิลากับมาร์คพักอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่ได้งานจึงขอย้ายออกมาอยู่ที่นี่ และเพราะตอนที่ออกมาจากไทยทั้งคู่ไม่ได้นำเอกสารใด ๆ ติดตัวมาด้วย จึงทำงานได้เพียงพนักงาน
"โอ๊ย! เจ้าลูก หล่อขนาดนี้ รวยก็ปานนี้ แถมรับความมึนของเราได้ขนาดนี้ เป็นแม่นะ แม่พยักหน้าตั้งแต่เกริ่น 3 ประโยคแรกแล้วลูก หรือยังไง อึกอักนี่คือพี่เขาไม่แซบว่างั้น" คุณนายเตือนตาว่ากับลูกสาวพร้อมกับเอ่ยแซวในตอนท้ายทำเอาคนโดนถามถึงกับอายม้วนก้มหลบตาประชาชนแทบมุดม้าหินอ่อนหนี"ก็แซบอยู่" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ๆ อาย ๆ"ถ้าแซบก็เก็บไว้กินเองค่ะลูก รีบรับก่อนผู้ชายจะเปลี่ยนใจค่า" คุณแม่บอกลูกสาวเสียงประชด เจ้าขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ ตอนนี้ทั้งลานเงียบรอฟังผลตอบรับเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนรอคำตอบซะเอง"ว่าไง เป็นแฟนกับพี่มั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ"เป็นแค่แฟนนะ" "อืม...ตอนนี้เป็นแค่แฟนก่อน" ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ *ตอนนี้เป็นแฟนถึงห้องนอนแล้วค่อยเป็นเมียพี่ก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ"ก็ได้" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบอาย ๆ"อะไรนะ!!" คำถามพร้อมเพรียงเสียงดังขึ้นทันที หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองพี่น้องนักมวยรอบลานแล้วมองหน้าพ่อกับแม่ พี่สาวคนสนิทก่อนจะหันมาตอบชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเสียงดังและฟังชัด"เออ...เป็นแฟนกับพ
ตกเย็น ร้านหมูกระทะที่โรมให้น้อยไปสั่งขับรถขนหมูกระทะและอุปกรณ์มาส่งที่โรงซ้อม ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มเป็นอัดลมและน้ำผลไม้ให้อย่างไม่อั้น ท่านอัฐยืนมองความสนุกสนานของเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ในการปาร์ตี้กันคืนนี้ยิ้ม ๆ"คิดยังไงมาเลี้ยงหมูกระทะเด็ก ๆ" ท่านอัฐเอ่ยถามหลานชาย"ก็เห็นบ่นอยากกินกันครับแล้วอีกอย่างพวกไปเรียนกรุงเทพก็มากันหมดแล้วเลยเลี้ยงซะหน่อย พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้ากรุงเทพด้วยครับลุงว่าจะไปดูคุณพ่อหน่อยครับ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถอนหายใจภายหลัง"แล้วไอ้เจ้าว่าไงล่ะ น้องมาเราจะกลับ""ก็...ยังไม่คุยเลยครับ ช่วงนี้น้องต้องซ้อมผมไม่อยากทำให้เจ้าเสียสมาธิ เอาจริง ๆ ที่ผมหนีมานี่ช่วงน้องสอบก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรน้องอีก ไม่อยากให้น้องเสียสมาธิครับลุง" ชายหนุ่มตอบแบบตรงไปตรงมา"แล้ววันนี้ก็หน้าบึ้งทั้งวันทะเลาะกันอีกหรือไง" ท่านอัฐเอ่ยถามพลางปรายตามองชายหนุ่ม"หึ! เปล่าหรอกครับแค่โดนกวนเมื่อคืนแล้วเมื่อเช้าไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนแล้วงอแงใส่แค่นั้นครับ แต่เห็นบอกว่าจะออกไปรับแฟนเขาไม่ใช่หรือครับลุง" ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอตอบผู้เป
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก
โรมเดินออกมาจากหลังม่านพร้อมกับส่งไลน์ไปบอกผู้เป็นลุงว่าเจ้าขากลับมาถึงบ้านแล้ว ก่อนจะยืนขำกับความไม่สังเกตสังกาของหญิงสาว ที่ข้าวของของเขาบางส่วนก็ยังวางอยู่ในห้อง โดยที่เขาไม่คิดจะเก็บ ครู่ต่อมาเจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันตัวแค่ผืนเดียว ผมยาวสลวยของเธอถูกรวบและหนีบด้วยกิ๊บตัวใหญ่อยู่กลางหัว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองบรรดาครีมต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ "หรือว่าแม่ทะเลาะกับพ่อแยกห้องนอนอีกแล้ววะ แล้วครีมเพียบไม่รู้อะไรเป็นอะไรเยอะแยะเป็นโต๊ะอิป๋าเลย" ว่าพลางหยิบครีมคุ้นตาที่เธอเคยเห็นบนโต๊ะของโรมในห้องนอนที่ร้านมาดู "ผู้หญิงก็ใช้ได้ผู้ชายก็ใช้ได้งั้นเหรอ (เปิดออกดม) ก็หอมดีหรอกแต่ทาตรงไหนล่ะนี่ เฟช??...ช่างแม่งเหอะ" ว่าพลางวางลงแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้โรมแอบมองเธออยู่ในนั้น "เชี้ย! หลอนเหรอวะเนี่ย" หญิงสาวอุทานเสียงดังเมื่อเปิดตู้แล้วเจอหน้าโรมยิ้มอยู่ในนั้นก่อนจะปิดตู้ทันทีอย่างตกใจแล้วตั้งสติค่อย ๆ เปิดประตูตู้อีกรอบ"ไง คิดถึงผัวจนหลอนเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับก้าวออกมาจากตู้แล้วสวมกอดคนตัวเล็กอย่างคิดถึงก่อนจะกดหอมแก้มป่
"อืม... ก็ตามใจแล้วกัน แล้วรถนี่ซื้อมาทำไมล่ะจะเอามาจอดทิ้งไว้นี่?" ท่านอัฐเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะเห็นว่าโรมมีรถหลายคัน แต่ทำไมถึงซื้อกระบะเพิ่มแล้วบอกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ขับกระบะเลยจะทิ้งไว้ให้ใช้งานที่นี่"ใครว่าผมอยากซื้อล่ะครับ โดนเอามาประเคนถึงร้านเลยต่างหาก พอดีน้องรหัสไอ้เทนมันจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการศูนย์แต่ขาดยอด 2 คัน พวกผมเลยโดนบังคับซื้อกันคนละคัน ไอ้เทนมันเอารถเก๋งให้เมียมันขับ ส่วนผมไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรเลยบอกมันว่าเอาราคาถูก ๆ มันเลยเลือกคันนี้มาให้" ชายหนุ่มตอบที่มาของรถขำ ๆ "เออ... แล้ววันนี้เจ้าตัวแสบเขาจะกลับมาแล้วนะ เห็นว่าสอบเสร็จเที่ยงก็จะพากันออกมาเลย แวะส่งเจ้าปอก่อนถึงจะกลับบ้านจะได้ไม่ดึกว่างั้น เห็นโทรมาบอกแม่เขาเมื่อเช้า" ท่านอัฐบอกหลานชายยิ้ม ๆ "งั้นคืนนี้ผมก็ต้องลงมานอนห้องข้างล่างแล้วสิครับ เจ้าของห้องจะมาแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับถอนหายใจ เพราะเมื่อเช้าเขาไปที่ตลาดกับบอยนักมวยในค่าย เขาเห็นผู้หญิงที่เจ้าขาหอมแก้มกลางห้างเดินอยู่กับแม่ของเธอที่ตลาด"เฮ้ย! แม่เขาไม่ได้สั่งก็นอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่อยากรู้เหรอว่าปลาไหลอย่างไอ้ตัวแสบเจ้าลูกสาวคุณนายเตือนตา
"พี่อัฐครับ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดจริง ๆ ครับ ที่ผมมานี่ผมไม่ได้มาเพราะอยากให้โรมช่วยโรงทอหรอกครับ ผมแค่อยากขอโทษลูกจริง ๆ ส่วนโรงทอมันจะเจ้งมันจะล่มก็แล้วแต่บุญกรรม เพราะผมถือว่าผมไว้ใจคนผิด ผมทำเรื่องโอนหุ้นที่ผมถือทั้งหมดของโรงทอให้เจ้าโรมวันนั้น ผมเพิ่งเห็นเอกสารที่เลขาเจ้ารันลืมวางไว้ในห้องประชุมว่าเจ้ารันมันเปลี่ยนเอกสารโอนให้เจ้าโรมแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกใบเป็นชื่อของมันรอแต่ตราประทับกับลายเซ็นผมมันก็จะถือหุ้นได้ใหญ่ที่สุดในบริษัท พี่อัฐ... ผมสาบานว่าผมต้องการมาขอโทษลูกแค่นั้นจริง ๆ ครับ สิ่งที่หญิงทำกับลูกผมไม่เคยได้สนับสนุนแต่ยอมรับว่าไม่ได้ขัดเพราะไม่อยากมีปัญหา ผมกลับมาจากทำงานก็อยากได้ยินคำพูดดี ๆ จากที่บ้าน อยากเห็นครอบครัวอบอุ่น" คุณศาสตรานั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งพนมมือไหว้พี่ชายภรรยาอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต ซึ่งคนที่ยืนฟังอยู่ด้านนอก ล้วงมือถือออกมากดส่งอีเมล์ออกไปแล้วยืนฟังคำพูดของพ่อกับแม่ต่ออย่างใจเย็น"หึ! ตลก ครอบครัวอบอุ่นเหรอ แล้วเจ้าโรมมันได้เคยได้อุ่นมั่งมั้ยล่ะ กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงประชดประชันกระแนะกระแหนนี่มันอบอุ่นมั้ย คิดถึงจิตใจลูกบ้างหรือเปล่า" ท่านอัฐพูด