เสียงเพลงขับกล่อมเบา ๆ ภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรรูปร่างสูงโปร่งกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน ผมของเขาดำขลับเล็กน้อยดวงตาสีฟ้าใสแต่ดูเย็นชาเป็นนิจ
มือหนายกแก้วลวดลายหรูภายในแก้วมีน้ำเมาสีเข้มก่อนที่เขาจะยกมันเทลงลำคอเกร็ง แอ๊ด เสียงเปิดประตูของผู้ที่เข้ามาใหม่ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเหลือบขึ้นมองเล็กน้อย ใบหน้าที่นิ่งสนิทนี้ไม่ได้แสดงกิริยาใด ๆ ออกมา ทันทีที่แก้ววางลงที่เดิมเสียงเข้มนั้นก็โปร่งขึ้นถาม "มาแต่หัววันขนาดนี้ท่านประธานคงมีเรื่องเครียดสินะ" คนที่เอ่ยถามเสียงราบเรียบนี้คือเจ้าของเลานจ์แหล่งผ่อนคลายของนักธุรกิจหลายคน 'เควิน' "นิดหน่อย โครงการใหม่ค่อนข้างล่าช้า วิศวกรคุมงานก็เกิดป่วยกะทันหัน" น้ำเสียงห้วนห้าวพร้อมทั้งล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุด จนไฟสว่างโร่ เขาสูบมันเข้าไปจนเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันสีหม่นออกมา กิริยาเหล่านี้ทำเอาผู้ที่เป็นเจ้าของรวมทั้งเป็นเพื่อนสนิทต้องส่ายหัว ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดความผิดพลาดกับงานใหญ่มันมาคู่กันเสมอ เควิน เดินเข้าไปช้า ๆ ก่อนที่จะหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายพันล้านบาทและโครงการอีกหลายแห่งที่เขากำลังก่อสร้าง 'ออสติน' "มา วันนี้กูดื่มเป็นเพื่อนมึงเอง ปกติเห็นมีคนติดตามเป็นพรวนวันนี้ไม่มีแล้วหรือวะ" "พวกหุ้นส่วนวิศวกรน่ะเหรอ กูไม่ได้ชวนวันนี้อยากมานั่งเงียบ ๆ คนเดียว" "นั่งคนเดียว จะไปสนุกอะไร เอาเด็กมาบริการสักคนไหมล่ะ กูเรียกให้" "ไม่เอา กูรำคาญ" "แหม น้องๆ ที่ร้านกูสวยทุกคนบริการดี ยังมีหน้ามาบอกว่ารำคาญ มึงเนี่ยนะ" ชายหนุ่มไม่ได้สนคำพูดเพื่อนแถมไม่ตอบโต้ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมันดูเฉยชาเสียมากกว่าควันบุหรี่ที่พ่นออกไปหลายครั้งก่อนที่จะขยี้มันลงกับที่เขี่ยบุหรี่ ดวงตาที่เพ่งมองไปเบื้องหน้าก็ดูจะว่างเปล่าทำเอาเควินที่จ้องมองต้องพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ แมงเม่าเดินนำเปียโนมาที่ห้องผู้จัดการ ใบหน้าของเธอในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าแอบกังวลจนเม็ดเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย มือเรียวบีบกันแน่นพลางเดินก้มหน้า สถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่เธอเคยเข้ามาแสงไฟพอสลัวดวงไฟระยิบระยับหญิงสาวหลายคนสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเดินควักไขว้กันไปมา "ถึงแล้ว" เพียงแค่ได้ยินเสียงเพื่อน เปียโนก็เงยหน้าขึ้นมารีบคว้าไปที่แขนของแมงเม่าทันที "มีอะไรอีก" "แก ฉันกลัว" "กลัวอะไร ฉันไม่ได้พาแกมาฆ่าสักหน่อย อีกอย่างนะเราแค่มานั่งเอาใจพวกเศรษฐีชงเหล้าให้เขานั่งดื่มเป็นเพื่อนนิดหน่อย นอกนั้นเราไม่รับแกเข้าใจหรือเปล่า" "แต่ว่า" "ฉันเข้าใจว่าแกไม่เคยอยู่สถานที่แบบนี้ พวกเศรษฐีพวกนั้นมันก็ได้แค่กอดนั่นแหละ ให้มันจับนิดจับหน่อยไม่สึกหรอก อีกอย่างนะหากเราบริการมันดีมันให้ทิป" หากไม่ใช่เพราะค่าผ่าตัด เปียโนเธอคงไม่ยอมมาที่นี่แน่นอน เมื่อตัดสินใจแล้ว เปียโนก็เข้าไปพบผู้จัดการพร้อมแมงเม่า ทันทีที่ผู้จัดการเห็นเธอก็รู้สึกพอใจในรูปร่างหน้าตาแถมยังให้เปียโนทดลองงานก่อนโดยมีแมงเม่าเป็นคนดูแลอีกต่างหาก "แกจะให้ฉันใส่ชุดนี้จริง ๆ นะเหรอ มัน รัดรูปร่างไปนิดนะ" "ชุดนี้แหละไม่ค่อยโป้มาก รัดแบบนี้จะได้เห็นสัดส่วน แกเนี่ยหุ้นดีมากเลยนะ" "ฉันกลัว" "เปีย แกเลิกกว่าได้แล้ว แกต้องคิดเสมอว่าค่าผ่าตัดมันจะช่วยให้แกเลิกกลัว" เปียโนยังคงหน้าบึ้งใบหน้าที่แฝงไปด้วยความเศร้า ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้ต้องมาทำอะไรแบบนี้โชคชะตาเหมือนกำลังเล่นตลกกับเธอแท้ ๆ หลังจากที่แมงเม่าพาเปียโนมาเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าไปที่ห้องส่วนตัวที่มีแต่เหล่านักธุรกิจมาสังสรรค์ ภายในห้องคลื่นเคลงเป็นอย่างมากเพราะมีคาราโอเกะ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันร้อง "แกจำไว้นะ หากพวกขี้เมาพวกนี้ลวนลามแกมากกว่าจับมือถือแขนละก็ แกบอกฉันได้เลยเพราะเราไม่ได้มาขายอย่างว่า" "อืม" เสียงกระซิบกันหลังจากนั้นพี่ผู้จัดการก็เดินมาสมทบ ก่อนที่จะปฏิบัติงานก็ต้องแจ้งให้แขกทราบก่อนว่าน้อง ๆ ที่จะเข้ามาให้บริการนี้เป็นน้องใหม่ และเป็นที่รู้กันว่าที่นี่ไม่ได้มีค้าประเวณี นอกเสียจากเด็กบางคนจะมีเสียรับเลี้ยงส่วนตัว "เปียโนมานี่ซิ" ผู้จัดการสาวกวักมือเรียกเปียโนที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตู ทันทีที่เธอเดินเข้ามาแล้วสายตาชายหนุ่มหลายคู่ก็จ้องมองเธอเป็นตาเดียว "เสี่ยโชค น้องเปียโนพึ่งมาทำงานฝากเสี่ยเอ็นดูน้องด้วยนะ อีกอย่างคนเนี่ยแก้วห่วงมาก เสี่ยอย่าทำให้เด็กแก้วตกใจล่ะ" "คุณแก้วพูดมาขนาดนี้ มีหรือผมจะกล้า มา ๆ นั่งตรงนี้ก็ได้" เสี่ยใหญ่วัยหกสิบขยับก้นเล็กน้อยพร้อมตบโซฟาเป็นเชิงเรียก รูปร่างของเสียท่วมใหญ่ทำเอาเปียโนยิ่งรู้สึกหวาดกลัวสองขาแทบก้าวไม่ออก แต่พอนึกถึงพ่อขึ้นมาก็พอที่จะฆ่าความกลัวได้บ้าง ร่างบางค่อย ๆ ขยับเท้าเข้าไปใกล้ ก่อนที่จะนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว "เธอสวยนะเนี่ย ไหนลองชงเหล้าให้เสี่ยสักแก้วสิ" ชงเหล้า เธอคิดในใจว่ามันคงยากตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแตะของพวกนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็เหมือนจะโชคดีเพราะแมงเม่าอาสาเข้ามาช่วยพร้อมเป็นการสอนไปในตัว จากแก้วแรกแก้วสองผ่านไปพอแก้วสามเปียโนเธอก็พอทำได้แต่สิ่งที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้คือ การดื่ม "สักแก้วสิ มาเป็นเด็กนั่งดริ้งไม่ดื่มไม่ได้นะ" หากจะบอกว่าดื่มไม่เป็นก็คงเป็นการแก้ตัว เพราะตอนนี้เธอเป็นเด็กชงเหล้า แถมสถานที่แบบนี้ก็เป็นแหล่งรวมของมึนเมาชั้นดีอีก "เปีย ค่อย ๆ จิบบาง ๆ "แมงเม่าโน้มลงมากระซิบเพื่อน ทว่าเธอก็ทำตามค่อย ๆ ลิ้มรสชาติแม้มันจะเฝื่อนจนบาดลิ้น แต่ก็พยายามเก็บอาการแสลงนั้นไว้ อีกทั้งไม่รู้ว่านั่งไปนานแค่ไหน คนที่ผลัดเปลี่ยนกันร้องเพลงดูเหมือนจะสนุกสนานส่วนเธอก็นั่งจิบเหล้าชงเหล้าให้เสี่ยโชคมีบ้างที่เสี่ยแอบถามเรื่องส่วนตัวแต่เปียโนเธอก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบ เวลาผ่านไปสักพัก แมงเม่าถูกเรียกไปอีกห้องตอนนี้เหลือเพียงเธอกับสาว ๆ อีกสองคนที่นั่งห่างกันออกไป "เสี่ยค่ะ คือหนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม" "ได้สิ" เธอลุกออกจากที่ แต่เสี่ยก็แอบเห็นแล้วว่าเปียโนมีอาการเดินเซเล็กน้อย เธอเดินมุ่งหน้ามาที่ห้องน้ำหญิงรู้สึกตัวเองว่ามันผิดปกติ ก็คงเพราะเธอไม่เคยดื่มมาก่อนแม้จะจิบแต่มันก็หลายครั้งคงรู้สึกเวียนหัวเป็นเรื่องปกติ "เธอกำลังทำอะไรเปียโน หากพ่อรู้พ่อคงไม่พอใจแน่" เปียโนมองตัวเองผ่านกระจกสะท้อนเงา พร้อมคำพูดที่ดูเหมือนจะตัดพ้อตัวเอง เมื่อได้สติก็รีบออกจากห้องน้ำ ทว่า พรึ่บ "เสี่ย" "เสี่ยรู้ว่าคุณแก้วหวงหนู แต่เสี่ยอยากดูแลหนู คืนนี้กลับบ้านกับเสี่ยนะหนูเปียโน" "ไม่นะคะ เสี่ย" ผลัก "ทำอะไรวะ" "........"ร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบกระโจนตัวไปผลักที่อกของชายร่างท้วมใหญ่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความน่ากลัวหนำซ้ำยังจ้องหน้าเสี่ยใหญ่เขม็ง"คะ คุณติน ไม่มีอะไรหรอกครับผมแค่เห็นว่าน้องเขาเมาเลยอยากช่วย"เสี่ยโชคโกหกหน้าตายพร้อมทั้งกวาดสายตามามองเปียโนที่ยืนตัวสั่นเทาเล็กน้อย "ไปได้แล้ว""ครับ" เสียงเข้มโพล่งบอกชายร่างท้วมตรงหน้า ออสตินเป็นที่รู้จักในวงการ อสังหา ฯ มากไม่ว่าจะรุ่นใหญ่รุ่นเล็กก็ต้องรู้จักเขา ไม่เพียงเท่านั้นอิทธิพลที่อยู่ในมือของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ก็พ่อของเขาเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่ไม่เพียงกิจการที่อยู่ในไทยยังมีกิจการร้านอาหารที่อยู่ต่างประเทศที่เป็นของครอบครัวฝั่งมารดาอีก"ขอบคุณมากนะคะ" เสียงหวานยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยท่าทีตื่นกลัวเล็กน้อย เปียโนกำลังจะสาวเท้าออกไปจากบริเวณนั้นด้วยซ้ำ แต่เสียงเข้มก็ต้องรั้งเธอไว้อีกครั้ง"เดี๋ยว!"เปียโนชะงักหยุดเท้านิ่ง ใบหน้าของเธอก้มต่ำจนแทบมองไม่เห็นความสวย"เธอพึ่งมาทำงานที่นี่เหรอ""คะ ค่ะ" ตอบเสียงสั่น จนออสตินต้องสาวเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก แต่เหตุนั้นทำให้เปียโนต้องถอยหลังอัตโนมัติ"เป็นเด็กนั่งดริ้งเหรอ แล้วอย่าง
"พ่ออย่าเป็นอะไรนะคะ ฮือ..ฮึก"หญิงสาวในชุดลำลองสบายสวมกางเกงวอร์มและเสื้อยืดวิ่งตามเปลพยาบาลที่กำลังเข็นพ่อของเธอเข้าห้องฉุกเฉินนิลภพวัยห้าสิบหกปีอดีตนักธุรกิจอสังหาฯ ที่เคยร่ำรวยอู้ฟู่ต้องประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักหลังจากที่กลับมาจากคุยธุระเรื่องคดีของเขาหากจะย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน นิลภพเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างแต่ด้วยเหตุผิดพลาดทางหน้าที่การงานจึงทำให้เขากลายเป็นบุคคลล้มละลายแถมยังมีหนี้สินจนท่วมหัวส่วนลูกสาวเพียงคนเดียวก็กำลังศึกษาระดับมหาวิทยาลัยปีสาม ด้านภรรยานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กด้วยโรคประจำตัว'เปียโน' ลูกสาวอันเป็นที่รักและยังเป็นทุกอย่างของนิลภพเขายอมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกอยากให้ลูกสาวสุขสบายเพราะเขาคิดว่าลูกขาดแม่จึงอยากเติมเต็มให้ทุกอย่าง แต่ใครจะไปคิดละว่าบริษัทจะถึงคราวเคราะห์เพียงแค่มีคนลักลอบข้อมูลให้คู่แข่งนิลวรรณหรือ เปียโน เธอค่อนข้างบอบบางคงเพราะผู้เป็นบิดาเลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน และตั้งแต่เกิดเรื่องกับครอบครัวเธอ เธอก็พยายามช่วยพ่อทุกอย่างจากที่ไม่เคยทำอะไรก็หันมารับงานร้านกาแฟ ร้านขนมช่วงวันหยุดหญิงสาวใบหน้าสะสวยดวง
หลังจากที่เปียโนกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวจากอุบัติเหตุ "พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ""มาแล้วเหรอลูก"เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาถามลูกสาว ในสายตาของนิลภพเปียโนยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอรอยยิ้มของเปียโนฉีกขึ้นกว้างเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ เตียงผู้ป่วย นิลภพไม่ได้นอนพักที่ห้องพิเศษแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ตัวเขาไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนการรักษาตัวทำได้เพียงนอนพักที่ห้องผู้ป่วยรวมเท่านั้น"หนูรีบกลับมากลัวพ่อจะเหงา""เหงาที่ไหนล่ะ ดูสิข้าง ๆ ก็มีแต่เพื่อน"ชายวัยเกือบหกสิบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าตามร่างกายจะมีแต่รอยฟกช้ำก็ตามที"แล้วคุณหมอบอกหรือเปล่าคะว่าจะให้พ่อกลับบ้านวันไหน""พ่อก็ไม่รู้แต่เห็นว่าพ่อต้อง x-ray อีกรอบ"" x-ray ??"คำพูดของพ่อทำเอาเปียโนชะงักเล็กน้อย เธอรู้ได้เลยว่าต้อง x-ray ส่วนไหนทว่าตอนนี้เธอยังไม่มีแม้เงินที่ต้องเตรียมผ่าตัด"พ่อค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ"เปียโนสาวเท้าออกจากเตียงผู้ป่วยมุ่งหน้าออกไปที่แผนกอายุรกรรมระบบประสาทและสมองเธออยากจะขอคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดหากจะผ่าตัดตอนนี้เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้นใบหน้าสวยคมดวงต
ร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบกระโจนตัวไปผลักที่อกของชายร่างท้วมใหญ่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความน่ากลัวหนำซ้ำยังจ้องหน้าเสี่ยใหญ่เขม็ง"คะ คุณติน ไม่มีอะไรหรอกครับผมแค่เห็นว่าน้องเขาเมาเลยอยากช่วย"เสี่ยโชคโกหกหน้าตายพร้อมทั้งกวาดสายตามามองเปียโนที่ยืนตัวสั่นเทาเล็กน้อย "ไปได้แล้ว""ครับ" เสียงเข้มโพล่งบอกชายร่างท้วมตรงหน้า ออสตินเป็นที่รู้จักในวงการ อสังหา ฯ มากไม่ว่าจะรุ่นใหญ่รุ่นเล็กก็ต้องรู้จักเขา ไม่เพียงเท่านั้นอิทธิพลที่อยู่ในมือของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ก็พ่อของเขาเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่ไม่เพียงกิจการที่อยู่ในไทยยังมีกิจการร้านอาหารที่อยู่ต่างประเทศที่เป็นของครอบครัวฝั่งมารดาอีก"ขอบคุณมากนะคะ" เสียงหวานยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยท่าทีตื่นกลัวเล็กน้อย เปียโนกำลังจะสาวเท้าออกไปจากบริเวณนั้นด้วยซ้ำ แต่เสียงเข้มก็ต้องรั้งเธอไว้อีกครั้ง"เดี๋ยว!"เปียโนชะงักหยุดเท้านิ่ง ใบหน้าของเธอก้มต่ำจนแทบมองไม่เห็นความสวย"เธอพึ่งมาทำงานที่นี่เหรอ""คะ ค่ะ" ตอบเสียงสั่น จนออสตินต้องสาวเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก แต่เหตุนั้นทำให้เปียโนต้องถอยหลังอัตโนมัติ"เป็นเด็กนั่งดริ้งเหรอ แล้วอย่าง
เสียงเพลงขับกล่อมเบา ๆ ภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรรูปร่างสูงโปร่งกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน ผมของเขาดำขลับเล็กน้อยดวงตาสีฟ้าใสแต่ดูเย็นชาเป็นนิจมือหนายกแก้วลวดลายหรูภายในแก้วมีน้ำเมาสีเข้มก่อนที่เขาจะยกมันเทลงลำคอเกร็งแอ๊ดเสียงเปิดประตูของผู้ที่เข้ามาใหม่ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเหลือบขึ้นมองเล็กน้อย ใบหน้าที่นิ่งสนิทนี้ไม่ได้แสดงกิริยาใด ๆ ออกมา ทันทีที่แก้ววางลงที่เดิมเสียงเข้มนั้นก็โปร่งขึ้นถาม"มาแต่หัววันขนาดนี้ท่านประธานคงมีเรื่องเครียดสินะ" คนที่เอ่ยถามเสียงราบเรียบนี้คือเจ้าของเลานจ์แหล่งผ่อนคลายของนักธุรกิจหลายคน 'เควิน'"นิดหน่อย โครงการใหม่ค่อนข้างล่าช้า วิศวกรคุมงานก็เกิดป่วยกะทันหัน"น้ำเสียงห้วนห้าวพร้อมทั้งล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุด จนไฟสว่างโร่ เขาสูบมันเข้าไปจนเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันสีหม่นออกมา กิริยาเหล่านี้ทำเอาผู้ที่เป็นเจ้าของรวมทั้งเป็นเพื่อนสนิทต้องส่ายหัว ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดความผิดพลาดกับงานใหญ่มันมาคู่กันเสมอเควิน เดินเข้าไปช้า ๆ ก่อนที่จะหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายพันล้านบาทและโครงการอ
หลังจากที่เปียโนกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวจากอุบัติเหตุ "พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ""มาแล้วเหรอลูก"เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาถามลูกสาว ในสายตาของนิลภพเปียโนยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอรอยยิ้มของเปียโนฉีกขึ้นกว้างเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ เตียงผู้ป่วย นิลภพไม่ได้นอนพักที่ห้องพิเศษแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ตัวเขาไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนการรักษาตัวทำได้เพียงนอนพักที่ห้องผู้ป่วยรวมเท่านั้น"หนูรีบกลับมากลัวพ่อจะเหงา""เหงาที่ไหนล่ะ ดูสิข้าง ๆ ก็มีแต่เพื่อน"ชายวัยเกือบหกสิบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าตามร่างกายจะมีแต่รอยฟกช้ำก็ตามที"แล้วคุณหมอบอกหรือเปล่าคะว่าจะให้พ่อกลับบ้านวันไหน""พ่อก็ไม่รู้แต่เห็นว่าพ่อต้อง x-ray อีกรอบ"" x-ray ??"คำพูดของพ่อทำเอาเปียโนชะงักเล็กน้อย เธอรู้ได้เลยว่าต้อง x-ray ส่วนไหนทว่าตอนนี้เธอยังไม่มีแม้เงินที่ต้องเตรียมผ่าตัด"พ่อค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ"เปียโนสาวเท้าออกจากเตียงผู้ป่วยมุ่งหน้าออกไปที่แผนกอายุรกรรมระบบประสาทและสมองเธออยากจะขอคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดหากจะผ่าตัดตอนนี้เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้นใบหน้าสวยคมดวงต
"พ่ออย่าเป็นอะไรนะคะ ฮือ..ฮึก"หญิงสาวในชุดลำลองสบายสวมกางเกงวอร์มและเสื้อยืดวิ่งตามเปลพยาบาลที่กำลังเข็นพ่อของเธอเข้าห้องฉุกเฉินนิลภพวัยห้าสิบหกปีอดีตนักธุรกิจอสังหาฯ ที่เคยร่ำรวยอู้ฟู่ต้องประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักหลังจากที่กลับมาจากคุยธุระเรื่องคดีของเขาหากจะย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน นิลภพเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างแต่ด้วยเหตุผิดพลาดทางหน้าที่การงานจึงทำให้เขากลายเป็นบุคคลล้มละลายแถมยังมีหนี้สินจนท่วมหัวส่วนลูกสาวเพียงคนเดียวก็กำลังศึกษาระดับมหาวิทยาลัยปีสาม ด้านภรรยานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กด้วยโรคประจำตัว'เปียโน' ลูกสาวอันเป็นที่รักและยังเป็นทุกอย่างของนิลภพเขายอมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกอยากให้ลูกสาวสุขสบายเพราะเขาคิดว่าลูกขาดแม่จึงอยากเติมเต็มให้ทุกอย่าง แต่ใครจะไปคิดละว่าบริษัทจะถึงคราวเคราะห์เพียงแค่มีคนลักลอบข้อมูลให้คู่แข่งนิลวรรณหรือ เปียโน เธอค่อนข้างบอบบางคงเพราะผู้เป็นบิดาเลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน และตั้งแต่เกิดเรื่องกับครอบครัวเธอ เธอก็พยายามช่วยพ่อทุกอย่างจากที่ไม่เคยทำอะไรก็หันมารับงานร้านกาแฟ ร้านขนมช่วงวันหยุดหญิงสาวใบหน้าสะสวยดวง