เสียงเพลงขับกล่อมเบา ๆ ภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรรูปร่างสูงโปร่งกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน ผมของเขาดำขลับเล็กน้อยดวงตาสีฟ้าใสแต่ดูเย็นชาเป็นนิจ
มือหนายกแก้วลวดลายหรูภายในแก้วมีน้ำเมาสีเข้มก่อนที่เขาจะยกมันเทลงลำคอเกร็ง แอ๊ด เสียงเปิดประตูของผู้ที่เข้ามาใหม่ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเหลือบขึ้นมองเล็กน้อย ใบหน้าที่นิ่งสนิทนี้ไม่ได้แสดงกิริยาใด ๆ ออกมา ทันทีที่แก้ววางลงที่เดิมเสียงเข้มนั้นก็โปร่งขึ้นถาม "มาแต่หัววันขนาดนี้ท่านประธานคงมีเรื่องเครียดสินะ" คนที่เอ่ยถามเสียงราบเรียบนี้คือเจ้าของเลานจ์แหล่งผ่อนคลายของนักธุรกิจหลายคน 'เควิน' "นิดหน่อย โครงการใหม่ค่อนข้างล่าช้า วิศวกรคุมงานก็เกิดป่วยกะทันหัน" น้ำเสียงห้วนห้าวพร้อมทั้งล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุด จนไฟสว่างโร่ เขาสูบมันเข้าไปจนเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันสีหม่นออกมา กิริยาเหล่านี้ทำเอาผู้ที่เป็นเจ้าของรวมทั้งเป็นเพื่อนสนิทต้องส่ายหัว ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดความผิดพลาดกับงานใหญ่มันมาคู่กันเสมอ เควิน เดินเข้าไปช้า ๆ ก่อนที่จะหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายพันล้านบาทและโครงการอีกหลายแห่งที่เขากำลังก่อสร้าง 'ออสติน' "มา วันนี้กูดื่มเป็นเพื่อนมึงเอง ปกติเห็นมีคนติดตามเป็นพรวนวันนี้ไม่มีแล้วหรือวะ" "พวกหุ้นส่วนวิศวกรน่ะเหรอ กูไม่ได้ชวนวันนี้อยากมานั่งเงียบ ๆ คนเดียว" "นั่งคนเดียว จะไปสนุกอะไร เอาเด็กมาบริการสักคนไหมล่ะ กูเรียกให้" "ไม่เอา กูรำคาญ" "แหม น้องๆ ที่ร้านกูสวยทุกคนบริการดี ยังมีหน้ามาบอกว่ารำคาญ มึงเนี่ยนะ" ชายหนุ่มไม่ได้สนคำพูดเพื่อนแถมไม่ตอบโต้ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมันดูเฉยชาเสียมากกว่าควันบุหรี่ที่พ่นออกไปหลายครั้งก่อนที่จะขยี้มันลงกับที่เขี่ยบุหรี่ ดวงตาที่เพ่งมองไปเบื้องหน้าก็ดูจะว่างเปล่าทำเอาเควินที่จ้องมองต้องพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ แมงเม่าเดินนำเปียโนมาที่ห้องผู้จัดการ ใบหน้าของเธอในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าแอบกังวลจนเม็ดเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย มือเรียวบีบกันแน่นพลางเดินก้มหน้า สถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่เธอเคยเข้ามาแสงไฟพอสลัวดวงไฟระยิบระยับหญิงสาวหลายคนสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเดินควักไขว้กันไปมา "ถึงแล้ว" เพียงแค่ได้ยินเสียงเพื่อน เปียโนก็เงยหน้าขึ้นมารีบคว้าไปที่แขนของแมงเม่าทันที "มีอะไรอีก" "แก ฉันกลัว" "กลัวอะไร ฉันไม่ได้พาแกมาฆ่าสักหน่อย อีกอย่างนะเราแค่มานั่งเอาใจพวกเศรษฐีชงเหล้าให้เขานั่งดื่มเป็นเพื่อนนิดหน่อย นอกนั้นเราไม่รับแกเข้าใจหรือเปล่า" "แต่ว่า" "ฉันเข้าใจว่าแกไม่เคยอยู่สถานที่แบบนี้ พวกเศรษฐีพวกนั้นมันก็ได้แค่กอดนั่นแหละ ให้มันจับนิดจับหน่อยไม่สึกหรอก อีกอย่างนะหากเราบริการมันดีมันให้ทิป" หากไม่ใช่เพราะค่าผ่าตัด เปียโนเธอคงไม่ยอมมาที่นี่แน่นอน เมื่อตัดสินใจแล้ว เปียโนก็เข้าไปพบผู้จัดการพร้อมแมงเม่า ทันทีที่ผู้จัดการเห็นเธอก็รู้สึกพอใจในรูปร่างหน้าตาแถมยังให้เปียโนทดลองงานก่อนโดยมีแมงเม่าเป็นคนดูแลอีกต่างหาก "แกจะให้ฉันใส่ชุดนี้จริง ๆ นะเหรอ มัน รัดรูปร่างไปนิดนะ" "ชุดนี้แหละไม่ค่อยโป้มาก รัดแบบนี้จะได้เห็นสัดส่วน แกเนี่ยหุ้นดีมากเลยนะ" "ฉันกลัว" "เปีย แกเลิกกว่าได้แล้ว แกต้องคิดเสมอว่าค่าผ่าตัดมันจะช่วยให้แกเลิกกลัว" เปียโนยังคงหน้าบึ้งใบหน้าที่แฝงไปด้วยความเศร้า ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้ต้องมาทำอะไรแบบนี้โชคชะตาเหมือนกำลังเล่นตลกกับเธอแท้ ๆ หลังจากที่แมงเม่าพาเปียโนมาเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าไปที่ห้องส่วนตัวที่มีแต่เหล่านักธุรกิจมาสังสรรค์ ภายในห้องคลื่นเคลงเป็นอย่างมากเพราะมีคาราโอเกะ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันร้อง "แกจำไว้นะ หากพวกขี้เมาพวกนี้ลวนลามแกมากกว่าจับมือถือแขนละก็ แกบอกฉันได้เลยเพราะเราไม่ได้มาขายอย่างว่า" "อืม" เสียงกระซิบกันหลังจากนั้นพี่ผู้จัดการก็เดินมาสมทบ ก่อนที่จะปฏิบัติงานก็ต้องแจ้งให้แขกทราบก่อนว่าน้อง ๆ ที่จะเข้ามาให้บริการนี้เป็นน้องใหม่ และเป็นที่รู้กันว่าที่นี่ไม่ได้มีค้าประเวณี นอกเสียจากเด็กบางคนจะมีเสียรับเลี้ยงส่วนตัว "เปียโนมานี่ซิ" ผู้จัดการสาวกวักมือเรียกเปียโนที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตู ทันทีที่เธอเดินเข้ามาแล้วสายตาชายหนุ่มหลายคู่ก็จ้องมองเธอเป็นตาเดียว "เสี่ยโชค น้องเปียโนพึ่งมาทำงานฝากเสี่ยเอ็นดูน้องด้วยนะ อีกอย่างคนเนี่ยแก้วห่วงมาก เสี่ยอย่าทำให้เด็กแก้วตกใจล่ะ" "คุณแก้วพูดมาขนาดนี้ มีหรือผมจะกล้า มา ๆ นั่งตรงนี้ก็ได้" เสี่ยใหญ่วัยหกสิบขยับก้นเล็กน้อยพร้อมตบโซฟาเป็นเชิงเรียก รูปร่างของเสียท่วมใหญ่ทำเอาเปียโนยิ่งรู้สึกหวาดกลัวสองขาแทบก้าวไม่ออก แต่พอนึกถึงพ่อขึ้นมาก็พอที่จะฆ่าความกลัวได้บ้าง ร่างบางค่อย ๆ ขยับเท้าเข้าไปใกล้ ก่อนที่จะนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว "เธอสวยนะเนี่ย ไหนลองชงเหล้าให้เสี่ยสักแก้วสิ" ชงเหล้า เธอคิดในใจว่ามันคงยากตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแตะของพวกนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็เหมือนจะโชคดีเพราะแมงเม่าอาสาเข้ามาช่วยพร้อมเป็นการสอนไปในตัว จากแก้วแรกแก้วสองผ่านไปพอแก้วสามเปียโนเธอก็พอทำได้แต่สิ่งที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้คือ การดื่ม "สักแก้วสิ มาเป็นเด็กนั่งดริ้งไม่ดื่มไม่ได้นะ" หากจะบอกว่าดื่มไม่เป็นก็คงเป็นการแก้ตัว เพราะตอนนี้เธอเป็นเด็กชงเหล้า แถมสถานที่แบบนี้ก็เป็นแหล่งรวมของมึนเมาชั้นดีอีก "เปีย ค่อย ๆ จิบบาง ๆ "แมงเม่าโน้มลงมากระซิบเพื่อน ทว่าเธอก็ทำตามค่อย ๆ ลิ้มรสชาติแม้มันจะเฝื่อนจนบาดลิ้น แต่ก็พยายามเก็บอาการแสลงนั้นไว้ อีกทั้งไม่รู้ว่านั่งไปนานแค่ไหน คนที่ผลัดเปลี่ยนกันร้องเพลงดูเหมือนจะสนุกสนานส่วนเธอก็นั่งจิบเหล้าชงเหล้าให้เสี่ยโชคมีบ้างที่เสี่ยแอบถามเรื่องส่วนตัวแต่เปียโนเธอก็เลี่ยงที่จะไม่ตอบ เวลาผ่านไปสักพัก แมงเม่าถูกเรียกไปอีกห้องตอนนี้เหลือเพียงเธอกับสาว ๆ อีกสองคนที่นั่งห่างกันออกไป "เสี่ยค่ะ คือหนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม" "ได้สิ" เธอลุกออกจากที่ แต่เสี่ยก็แอบเห็นแล้วว่าเปียโนมีอาการเดินเซเล็กน้อย เธอเดินมุ่งหน้ามาที่ห้องน้ำหญิงรู้สึกตัวเองว่ามันผิดปกติ ก็คงเพราะเธอไม่เคยดื่มมาก่อนแม้จะจิบแต่มันก็หลายครั้งคงรู้สึกเวียนหัวเป็นเรื่องปกติ "เธอกำลังทำอะไรเปียโน หากพ่อรู้พ่อคงไม่พอใจแน่" เปียโนมองตัวเองผ่านกระจกสะท้อนเงา พร้อมคำพูดที่ดูเหมือนจะตัดพ้อตัวเอง เมื่อได้สติก็รีบออกจากห้องน้ำ ทว่า พรึ่บ "เสี่ย" "เสี่ยรู้ว่าคุณแก้วหวงหนู แต่เสี่ยอยากดูแลหนู คืนนี้กลับบ้านกับเสี่ยนะหนูเปียโน" "ไม่นะคะ เสี่ย" ผลัก "ทำอะไรวะ" "........"ร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบกระโจนตัวไปผลักที่อกของชายร่างท้วมใหญ่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความน่ากลัวหนำซ้ำยังจ้องหน้าเสี่ยใหญ่เขม็ง"คะ คุณติน ไม่มีอะไรหรอกครับผมแค่เห็นว่าน้องเขาเมาเลยอยากช่วย"เสี่ยโชคโกหกหน้าตายพร้อมทั้งกวาดสายตามามองเปียโนที่ยืนตัวสั่นเทาเล็กน้อย "ไปได้แล้ว""ครับ" เสียงเข้มโพล่งบอกชายร่างท้วมตรงหน้า ออสตินเป็นที่รู้จักในวงการ อสังหา ฯ มากไม่ว่าจะรุ่นใหญ่รุ่นเล็กก็ต้องรู้จักเขา ไม่เพียงเท่านั้นอิทธิพลที่อยู่ในมือของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ก็พ่อของเขาเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่ไม่เพียงกิจการที่อยู่ในไทยยังมีกิจการร้านอาหารที่อยู่ต่างประเทศที่เป็นของครอบครัวฝั่งมารดาอีก"ขอบคุณมากนะคะ" เสียงหวานยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยท่าทีตื่นกลัวเล็กน้อย เปียโนกำลังจะสาวเท้าออกไปจากบริเวณนั้นด้วยซ้ำ แต่เสียงเข้มก็ต้องรั้งเธอไว้อีกครั้ง"เดี๋ยว!"เปียโนชะงักหยุดเท้านิ่ง ใบหน้าของเธอก้มต่ำจนแทบมองไม่เห็นความสวย"เธอพึ่งมาทำงานที่นี่เหรอ""คะ ค่ะ" ตอบเสียงสั่น จนออสตินต้องสาวเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก แต่เหตุนั้นทำให้เปียโนต้องถอยหลังอัตโนมัติ"เป็นเด็กนั่งดริ้งเหรอ แล้วอย่าง
วันถัดมาเปียโนตัดสินใจแล้วว่าข้อเสนอของออสตินนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่พอจะช่วยพ่อของเธอได้รับการผ่าตัด ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ที่เขาเสนอมาแบบนั้นต้องการอะไรถึงแม้ว่าเธอจะถูกเลี้ยงมาราวกับคุณหนูสุขสบายก็ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของคนรวย ๆ เสียเมื่อไหร่ร่างเล็กนั่งชั่งใจอยู่สักพักก่อนที่เธอจะยกมือถือขึ้นมาแนบที่ใบหู เบอร์โทรที่ต่อสายออกไปนั้น แน่นอนว่าเป็นเบอร์ของหนุ่มหล่อร่างสูงตืด ตืด รอสัญญาณอยู่สักพักทันทีที่ปลายสายกดรับพร้อมเสียงเข้มก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น"สวัสดีครับ""......""ฮัลโหล"ดูเหมือนความกลัวจะวิ่งแทรกเข้ามาทำให้เปียโนแทบจะเปล่งเสียงไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดคำไหนก่อนดีทว่าระหว่างนั้นปลายสายเองก็ทำท่าเหมือนจะว่างเสียด้วยซ้ำ"สะ สวัสดีค่ะ""ครับ""เอ่อ คือจำหนูได้ไหมคนที่คุณช่วยในเลานจ์วันนั้น"ปลายสายเงียบไปสักพักเหมือนเป็นช่วงต่อลมหายใจให้เธอ เปียโนเองก็เริ่มผ่อนลมออกจากปากช้า ๆ "อ้อ.....""คือหนูอยากจะฟังข้อเสนออีกครั้งค่ะ""ข้อเสนองั้นเหรอ ฉันคิดว่าเธอจะไม่สนใจมันเสียอีก""คือ......""เอาเถอะ หากเธอสนใจละก็เย็นนี้มาเจอฉันที่เลานจ์""คะค่ะ"ปลายสายว่างกะทันหัน ท
เสียงที่ถามมันแผ่วเบาอยู่ข้างหูลมหายใจผ่าวร้อนที่รดต้นคอเธออยู่เธอสัมผัสมันได้ดี ทำเอาขนอ่อน ๆ ตามร่างกายลุกซู่"คุณออสตินค่ะ""เรียกฉันคุณตินก็พอ""คะ คือ หนูมีข้อตกลงที่มากกว่านั้น"คราวนี้ชายหนุ่มต้องผละร่างกายที่เคยชิดใกล้ให้ถอยห่างออกไปเล็กน้อย ดวงตาคมของเขาจ้องมองใบหน้าเนียนด้วยความสงสัยข้อตกลงที่มากกว่านั้น"ว่ามาสิ""คือ หนูพูดอย่างไม่อายก็ได้ หนูต้องการเงิน!""ต้องการเงินงั้นเหรอ?""หนูจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก""เท่าไร่?"เขาไม่ถามถึงเหตุผลที่เปียโนต้องใช้ด้วยซ้ำ ทำเอาหญิงสาวใบหน้าสวยต้องสบตาคู่คมของเขาพร้อมความคิดในใจเหมือนมันจะง่ายหรือว่านี่เป็นการลองใจเธอ"หนูไม่รู้ว่ามันจะมากไปไหม หากคุณตินต้องการ เอ่อ.....""ฉันอยากรู้แค่จำนวนเงินไม่ต้องพล่ามอะไรมากมาย""อ้อ ค่ะ....." คำพูดที่แสนเยือกเย็นนั้นทำเอาเปียโนชะงักไปสักพักแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะตอบเขา "ห้าแสนค่ะ"ริมฝีปากของเขาเหยียดเป็นเส้นตรงสีหน้าไม่แสดงอาการใด ๆ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ ทุกการกระทำนั้นมันอยู่ในสายตาของเปียโนเป็นอย่างดี ร่างเล็กเดาไม่ออกเลยว่าตอนนี้หนุ่มหล่อตรงหน้าเธอคิดอะไรอยู่ หรือเขาอาจจ
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักของสองพ่อลูก นานมากแล้วที่ไม่ได้ออกมาทานข้าวนอกบ้านนับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวของเธอ"อร่อยไหมคะพ่อ" เปียโนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มสดใสของเธอ ส่วนนิลภพเขาก็พยักหน้าตอบรับลูกสาว หากจะถามว่าอร่อยไหมในเวลานี้มันไม่มีรสชาติเสียมากกว่าแต่ที่ต้องยอมมาทานเพราะไม่อยากทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวต้องเสียความรู้สึก ในเวลานี้ใครจะกินข้าวได้คล่องคอทั้งหนี้สินรัดตัวไหนจะมีเรื่องสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง หากไม่ยอมรับการผ่าตัดเปียโนก็ไม่สบายใจกลัวว่าจะเป็นอันตรายมากไปกว่านี้ครืด ครืด ในขณะที่ความสุขกำลังวิ่งวนอยู่ในหัวใจของคนตัวเล็ก เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นทำเอารอยยิ้มที่มีก่อนหน้าต้องหุบลงก็เบอร์ที่เธอบันทึกไว้ในนามบัตรมันขึ้นชื่ออย่างชัดเจน ออสติน"พ่อค่ะ หนูขอไปรับสายก่อนนะ สงสัยเพื่อนที่มหาลัยโทรมา""จ้ะ"หลังจากที่ลุกออกจากโต๊ะอาหาร เปียโนก็หลบมาคุยโทรศัพท์ด้านนอก"สวัสดีค่ะ"(เห็นเธอเงียบไปหลายวัน ไม่เห็นจะโทรหาฉันเลย หรือว่าเงินที่ได้ไปมันคุ้มแล้ว)"คือหนูติดธุระ ว่าแต่คุณตินมีอะไรหรือเปล่าคะ"(วันนี้ฉันอยากจะเจอเธอหน่อย)"วันนี้หรือคะ"(ทำไม เธอติดปัญหาอะไร)"คือ.
ร่างเล็กสวมชุดคลุมสีขาวสะอาดตา ยืนส่องตัวเองในกระจกเงาภายในห้องน้ำ พลางถอนหายใจดังเฮือก ๆ อยู่หลายครั้ง "เธอไม่มีทางเลือกนี่ อย่าคิดมากสิ เปียโน" คนตัวเล็กยังคงปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้นก๊อก ก๊อก"เธอถ่วงเวลาอยู่หรือเปล่า"เปียโนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เสียงเข้มที่ดังอยู่หน้าห้องน้ำมันบ่งบอกอารมณ์ที่มีอยู่ตอนนี้ น้ำเสียงของเขาค่อนข้างจะหงุดหงิด เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหมุนตัวออกจากหน้ากระจกแล้วเปิดประตูห้องน้ำออกกว้าง พรึ่บทันทีที่ร่างเล็กปรากฏตัว เขาก็ดันเธอจนติดผนังลมหายใจผ่าวร้อนระยะประชิดจนเธอได้กลิ่นเหล้าจาง ๆ ออกมา ดวงตาของเขาที่มองต่ำมาที่ริมฝีปากมันทำเอาเปียโนหายใจแทบลำบากอย่าว่าแต่จ้องมองเขาคงอดไม่ได้ที่จะแนบริมฝีปากหยักลงมาที่เรียวปากเธอจนเปียโนต้องผลักเขาถอยออกไปด้วยความเผลอตัวผลัก !"เออ คุณตินไปที่เตียงก่อนไม่ได้หรือคะ""ทำไม จะที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละที่นี่ห้องของฉัน ฉันอยากทำตรงไหนมันก็ยอมได้""แต่.....""ฉันรู้สึกว่าเธอค่อนข้างจะเรื่องมาก... ก็ได้!"สิ้นสุดคำพูดห้วน ๆ แบบนั้นร่างของเปียโนก็ถูกช้อนขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว
สีหน้าของเปียโนบ่งบอกอารมณ์ของความเจ็บปวด เธอรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายจะฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทุกครั้งที่ออสตินพยายามดันท่อนเอ็นที่แข็งขืนเข้ามาด้านในตัวเธอ"หนูเจ็บ พอเถอะค่ะ ไม่เอาแล้ว""ก็บอกว่าอย่าเกร็งไง" เขาใช้น้ำเสียงเข้มเปล่งออกมาเป็นคำสั่ง จนเปียโนต้องเงียบปาก เธอหวาดกลัวพร้อมเนื้อตัวสั่นเทาไปหมดชายหนุ่มกัดฟันจนสันกรามนูนเด่น สายตาคมจ้องส่วนนั้นอย่างโมโห "แม่ง!"เขาสบถถ้อยคำหยาบคายออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงด้วยท่าทีหัวเสีย เท้าหนักเดินไปที่หัวเตียงอีกครั้งก่อนจะหยิบเจลชนิดหล่อลื่นขึ้นมาชโลมไปที่ถุงยางอนามัย คราวนี้มั่นใจแล้วว่ายังไงต้องดันมันเข้าไปให้ได้เปียโนยังนอนอยู่ท่าเดิมสองขาของเธอสั่นเทาไปหมดเพราะเกร็งกับความเจ็บเมื่อครู่ ยังไม่ทันได้ผ่อนคลายด้วยซ้ำ ร่างสูงก็เข้าประชิดตัวเธออีกครั้ง"หนูไม่ไหวแล้ว พอเถอะค่ะ" เพราะรู้สึกเหมือนทางเข้ามันจะฉีกขาดเธอเจ็บจนแทบทนไม่ไหวแต่นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่ออสตินจะหยุด เขาจ่อแท่งร้อนเข้าไปอีกครั้งพร้อมกับดันขาเรียวของเปียโนแยกออก"อ้ายย อื้อ เจ็บบ""หุบปากสักทีได้ไหม เธอจะงอแงอะไรตอนนี้" ที่งอแงเพราะความเป็นชายของเขามันใหญ่มโหฬารต่างหา
23.20 โดยประมาณเปียโนเดินทางกลับมาที่ห้องพัก เวลาในตอนนี้ค่อนข้างดึกพอสมควรเธอคิดว่าพ่อน่าจะหลับไปแล้ว เมื่อมาถึงหน้าห้องสิ่งที่เธอแปลกใจคือ ประตูห้องไม่ได้ปิดสนิทแถมด้านในห้องยังคงมีดวงไฟสว่างอยู่"อย่าบอกนะว่าพ่อยังไม่หลับ"เธอค่อย ๆ ย่างเท้าน้อย ๆ เข้าไปมืออีกข้างก็ใช้ดันประตู ทว่า สิ่งที่เห็นตรงหน้า"พ่อค่ะ!!!"ร่างของนิลภพล้มคว่ำหน้าอยู่ที่พื้น เธอรีบโผตัวเข้าไปพยุงร่างพ่อให้หงายขึ้นมา ร่างนั้นนอนนิ่งสนิทแต่ก็ยังมีลมหายใจอยู่"พ่อ พ่อเป็นอะไรไปค่ะ" เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเธอ สิ่งที่พอตั้งสติได้ก็คือการโทรเรียกรถโรงพยาบาลโรงพยาบาลเปียโนยังคงอยู่ในอาการที่เรียกว่าตื่นตระหนกสุดขีดเธอกลัวว่าพ่อของเธอจะเป็นอะไรที่ร้ายแรงมากกว่านั้น ทันทีที่รถจอดเปลพยาบาลก็วิ่งมารับร่างที่ไม่มีสติเข็นส่งห้องฉุกเฉินเมื่อร่างของนิลภพถูกเข็นเข้าไปแล้ว เปียโนก็ยื่นตัวสั่นพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาอาบที่แก้มขาว ๆ ของเธอ สองมือบีมกันแน่นเธอคิดอะไรไม่ออก ญาติสักคนก็ไม่มีไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครได้ในตอนนี้ร่างเล็กยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินสักพักใหญ่ คุณหมอที่อยู่เวรในห้องก็ออกมาแจ้งให้เธอได้ทราบถึง
ความสงสัยของเปียโนพลันเกิดขึ้นในตอนนั้น ทำไมรุ่นพี่ถึงอยากให้เธอไปทำงานที่บริษัทของเขา ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ยังไม่จบหลักสูตรด้วยซ้ำ"งานที่บริษัทพี่เหรอคะ เปียเรียนไม่จบใบประกาศก็ไม่มีใครจะรับเข้าทำงาน""ก็พี่นี่ไง พี่รู้ว่ามันอาจจะไม่เหมาะสมหากจะฝากเปียเข้าไปทำงาน แต่อนาคตข้างหน้าพี่ต้องเข้าไปบริหารส่วนเรื่องการเรียนก็ย้ายมาเรียนเป็นภาคสมทบแบบนี้พี่ว่ามันน่าจะดีกว่า"อย่าว่าแต่เปียโนที่คิดตามคนที่นั่งข้างเธออย่างแมงเม่าก็แอบแปลกใจมาก จริงอยู่ว่าเธอรู้ โอโซนชอบเพื่อนของเธอแต่ไม่คิดว่าเขาจะจริงจังจนอยากให้เปียโนเข้าไปทำงานที่บริษัท"ว่าไง อยากไปไหม""เปียขอคิดดูก่อนแล้วกันค่ะ" ที่ต้องบอกว่าขอคิดเพราะเธอเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปแล้วเขาจะให้เธอทำแผนกอะไร เงินเดือนเท่าไร เธอเรียนยังไม่จบ วุฒิการศึกษาก็ไม่มีแม้ว่ารุ่นพี่จะยืนกรานช่วยให้เธอเข้าทำงานได้แต่คนที่บริษัทอาจจะมองเธอไม่ดีอยู่ "เอาละ ๆ เปียที่แกเรียกฉันมาวันนี้มีอะไรหรือเปล่า"เปียโนนึกขึ้นได้ว่าอยากจะคุยเรื่องงานกับเพื่อน แต่ดูเหมือนมันจะยากไปเสียแล้วก็รุ่นพี่ที่เธอไม่อยากให้เขารู้ดันอยู่ด้วย เปียโนทำหน้าตาเลิ่กลั่กมองโอโซนแว็บแรก เพียง
สวนดอกไม้กว้างใหญ่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณนั้น เปียโนเข้ามาอยู่ที่บ้านของออสตินได้สองวันแล้ว ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งไม่ให้เธอไปทำงานที่เลานจ์ ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเป็นบุคคลว่างงาน ไม่รู้ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนร่างเล็กยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในบ้านของเขา ส่วนเจ้าของคฤหาสน์หรูก็คงออกไปทำงานที่เขาต้องรับผิดชอบ ส่วนนิลภพพ่อของเธอก็ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลคนที่ทำหน้าที่แวะเวียนไปดูแลก็คือแมงเม่าและโอโซนระหว่างที่ยืนเหม่ออยู่นั้น เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืด มือเล็กล้วงมือถือที่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นว่าเบอร์ที่ต่อสายเข้ามาเป็นเบอร์ของโอโซน เปียโนเลยรีบตัดสินใจรับ"สวัสดีค่ะ"(เปียยุ่งอยู่หรือเปล่า พี่โทรหาเปียก็ไม่ค่อยรับสาย แล้วนี่ทำงานอยู่ที่ไหน)"ก็ แถว ๆ พุทธมณฑลค่ะ"(แล้วพรุ่งนี้จะได้มารับคุณลุงออกจากโรงพยาบาลไหม)"พ่อออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้เหรอคะ เมื่อวานหนูก็โทรถามทางโรงพยาบาลทำไมคุณหมอไม่เห็นบอกอะไร"(เขาพึ่งจะบอกพี่เมื่อเช้าเหมือนกัน)"พี่โซนคะ หากเปียไม่ได้ไปฝากพี่เป็นธุระด้วยนะคะ"(งานยุ่งมากเลยเหรอ พี่ว่ามาทำงานกับพี่ไม่ดีกว่าหรือไง อีกอย่างจะได้อยู่ใกล้พ่
วันต่อมาแมงเม่านั่งอุ้มน้องแมวตัวสีขาวอยู่ที่ม้านั่งภายในรั่วมหาลัย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่เธอก็จำเป็นต้องนัดโอโซนออกมาพบเพราะต้องการให้เขาช่วยเหลือเรื่องการเลี้ยงดูสำลี ไม่นานนักร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาดูสะอาดเกลี้ยงเกลาก็เดินเข้ามาที่โต๊ะของแมงเม่า"นัดพี่มามีอะไร" เขาถามก็จริงแต่สายตามองไปที่แมวตัวสีขาวที่อยู่ในอ้อมกอดของแมงเม่า"พี่เห็นแล้วใช่ไหมว่านี่คือแมว คือหนูจะบอกว่าแมวตัวนี้เป็นแมวของเปียโน ตอนนี้คุณลุงก็ป่วยเปียโนก็ต้องทำงานยัยเปียไม่กล้ารบกวนพี่ หนูเลยอาสาเอามาฝากพี่เลี้ยงไว้ก่อนได้ไหม หากคุณลุงดีขึ้น เดี๋ยวหนูจะเอาไปคืนเปียเอง"โอโซนไม่ได้พูดโต้ตอบแต่ก็อุตส่าห์เอื้อมมือมาอุ้มสำลีไปอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง (เหมียว)"น่ารักดี น่ารักเหมือนเจ้าของ" สิ่งที่แมงเม่าได้ยินทำเอาเธอต้องเบ้ปากแต่ก็ไม่ได้พูดแทรกปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงได้เชยชมแมวน้อยน่ารัก"ว่าแต่ เปียเขาไม่อยากไปทำงานที่อื่นบ้างหรือไง พี่ก็เสนอไปแล้วแท้ ๆ ""ขอเวลาให้มันหน่อยแล้วกัน อีกอย่างมันคงไม่ได้ไปทำที่เลานจ์แล้วละ ป่านนี้ก็คงมีงานที่ใหม่""งานที่ใหม่อย่างนั้นเหรอ ทำไมเขาไม่บอกพี่สักคำ""ก็คงไม่อยากให้พี่เสียใจม
ณ โรงพยาบาลคนที่มาถึงก่อนเป็นคนแรกคือรุ่นพี่ที่มหาลัยโอโซนนั่งจ้องหน้าของเปียโนเขม็งสิ่งที่เขาอยากถามมากที่สุดคือการหายตัวไปของสาวตรงหน้า แต่พอปากจะขยับเอ่ยถามเปียโนก็ตัดบทลงเสียก่อน"ขอบคุณพี่โซนมากนะคะที่เป็นธุระจัดการห้องพักให้พ่อ และขอบคุณพี่อีกครั้งเรื่องพยาบาลพิเศษเอาไว้เปียมีเงินเมื่อไหร่จะใช้พี่คืน"คำพูดของเธอทำเอาหนุ่มหล่อทายาทนักธุรกิจต้องพ่นลมร้อนออกจากปาก เขาไม่ได้ต้องการเงินคืนแม้แต่น้อยแต่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดน่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเธอและเขามากกว่า"เปีย พี่รู้เรื่องแล้วนะที่เปียไปทำงานที่เลานจ์""ค่ะ?""พี่บอกตามตรงว่าพี่ไม่โอเคสักนิด พี่ไม่ชอบให้เปียไปอยู่ในสถานที่แบบนั้น พี่เคยเสนอไปแล้วเรื่องงานหากอยากทำงานทำไมไม่บอกพี่ละ""เอ่อ คือเปียเกรงใจพี่""และอีกอย่าง พี่ไม่รู้ว่าเปียเอาเงินค่าผ่าตัดมากมายมาจากไหน หากเปียไปกู้มาละก็ พี่ยินดีใช้หนี้แทน ส่วนงานก็เข้าไปทำที่บริษัทพี่ได้เลย"สิ่งที่โอโซนไม่รู้คือจำนวนเงินมากมายนั้นเปียโนเธอได้มาจากที่ไหน แต่สิ่งที่เขาคิดคือเปียโนน่าจะกู้มา ส่วนหญิงสาวเธอไม่ได้พูดอะไรมากมายกลัวว่าคนที่นั่งตรงหน้าจะจับพิรุธเธอได้"เปียต้องข
ทนทุกข์กับสภาพจิตใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ หลังจากที่ตอบสนองตัณหาเขาแล้วออสตินก็ไม่ลืมข้อแลกเปลี่ยนนั้น ยอมคืนมือถือให้เธอโดยง่ายหลังจากที่ได้มือถือคืนมาแล้วในช่วงเช้าของอีกวันเปียโนก็รีบเปิดเครื่องและติดต่อกับทางโรงพยาบาลในทันที"ว่าไงนะคะมีคนย้ายพ่อไปที่ห้องพิเศษ ว่าแต่รู้ไหมคะว่าเขาเป็นใคร"(คนที่เป็นธุระจัดการ ชื่อ อนันต์ธวัช ค่ะ)หญิงสาวนิ่งอึ้งไปหลายวินาที เพราะชื่อที่หลุดออกมาจากปากนางพยาบาลคือรุ่นพี่ของเธอ(เขายังจ้างพยาบาลพิเศษให้ด้วยนะคะ เห็นบอกว่าคุณไม่สบาย)"อ้อ ค่ะ"หลังจากที่เปียโนวางสายความรู้สึกเธอในตอนนี้เอ่อล้นปลื้มปริ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ขณะเธอทุกข์ใจก็ยังมีรุ่นพี่ที่เป็นเหมือนญาติอีกคนด้านมาเฟียหนุ่มเจ้าของโครงการหรู เขานั่งจิบกาแฟยามเช้าอย่างใจเย็น ใบหน้าคมเหมือนจะไร้ความกังวลใด ๆ แถมในตอนนี้ดูเหมือนจะมีความสุขด้วยซ้ำ"นายครับ""มีอะไร" น้ำเสียงเยือกเย็นเปล่งถามกลับมาแต่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองธนาด้วยซ้ำ"เรื่องที่นายให้ผมไปตามสืบ เรื่องพ่อของเด็กเปียโน เธอไม่ได้โกหกครับนายตอนนี้พ่อของเธอป่วยนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล"ใบหน้านิ่งเยือกเย็นดุจน้ำแข็งค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นม
เมื่อเห็นว่าร่างนั้นเริ่มหน้าแดงขึ้นถนัดตาชายหนุ่มร่างสูงก็คลายมือออกมาจากลำคอของเธอ แต่อย่างนั้นยังอุตส่าห์ยกนิ้วมือมาเกลี่ยข้างแก้ม พร้อมเสียงที่พูดออกมาเบา ๆ"ไม่ต้องห่วงหรอกเธออยู่กับฉัน ทำให้ฉันพอใจก็พอหากฉันเบื่อที่จะเล่นกับเธอเมื่อไหร่ฉันจะปล่อยเธอไปเอง"เปียโนสะบัดใบหน้าสวยหลบนี้นิ้วเรียวยาวของเขา ยิ่งความรู้สึกเธอตอนนี้มันบ่งบอกได้ว่าเธอเริ่มรังเกียจเขาเข้าไส้"อยากได้มือถืองั้นเหรอ ได้สิแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ" ประโยคนั้นทำเอาเธอต้องหันมาสบตาเขา รอยยิ้มที่เขาส่งมาให้เธอ เปียโนพอรู้ว่าสิ่งที่เขาอยากแลกก็คือตัวเธอนั่นเองเปียโนหลับตาลงชั่วขณะเมื่อลืมตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนร่างสูง เธอก็ฝืนทำตามข้อแลกเปลี่ยนบ้า ๆ เพื่อต้องการมือถือคืนท่อนแขนเรียวยาวคล่องไปที่ลำคอเกร็งของชายร่างสูงตรงหน้า เธอเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อยหมายจะจูบที่ริมฝีปาก การกระทำที่เก้ ๆ กัง ๆ นั้นมันทำให้ออสตินรู้สึกอึดอัดจนเขาต้องช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้ม"คุณ""ชักช้าไม่ได้ดั่งใจ"ร่างของเปียโนโดนเขาอุ้มมาว่างลงที่เตียงนอนกว้าง รอยยิ้มของเขาเหยียดยิ้มฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาจูบ เขาดูดดื่มปลายลิ้นและร
ดูท่าว่าคนตัวสูงจะไม่ฟังด้วยซ้ำว่าเปียโนเธอมีเหตุจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องไปแต่สิ่งที่เขาทำนั้น คือการดึงตัวเธอกลับมาที่เตียงนอนอีกครั้ง พร้อมออกคำสั่ง"ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปไหน เธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น""คุณติน แต่นี่มันเป็นเรื่องสำคัญนะคะ""แล้ว?"เปียโนอดกลั้นพร้อมทั้งกัดฟันแน่นรู้สึกว่าเขาไม่เห็นคนอื่นสำคัญเท่าตัวเองจริง ๆ พอเขาพูดจบก็สั่งให้แม่บ้านเฝ้าเปียโนเอาไว้ส่วนตัวเขาก็เดินออกมาข้างนอกห้อง"ไอ้ธนา!!!""ครับนาย" เสียงที่แผดดังลั่นคฤหาสน์หลังใหญ่ทำให้ธนาต้องรีบวิ่งเข้ามาหาเจ้านายตนเอง"มึงไปสืบเรื่องของเธอดูสิว่า สิ่งที่เธอพูดมาจริงหรือเปล่า""ครับ"เมื่อธนาเร่งออกจากตัวบ้านหลังใหญ่ ออสตินก็เอี้ยวตัวกลับไปมองที่ห้องที่เขาพึ่งจะออกมาเมื่อครู่ พร้อมน้ำเสียงที่เอ่ยพูดกับตัวเองเบา ๆ "หากเธอโกหกฉันละก็ฉันเอาเธอตายแน่"มหาวิทยาลัย"อะไรนะคะ เปียโนติดต่อไม่ได้และไม่ได้ไปเฝ้าพ่องั้นเหรอ"แมงเม่านิ่งอึ้งไปหลายวินาที โดยปกติแล้วเพื่อนของเธอจะไม่ไปไหนยิ่งพ่อป่วยแบบนี้เปียโนไม่น่าจะทิ้งให้อยู่คนเดียวด้วยซ้ำ นอกเสียจากจะมีเรื่องกับเพื่อนสาวเธอ"เมื่อวานทั้งวันหนูก็ไม่ได้โทรหาเปียโนเลย เอ้...
เขาไม่ฟังเสียงร้องห้ามใด ๆ จากคนตัวเล็กแต่สิ่งที่ออสตินทำคือฉีกเสื้อยืดที่เธอสวมใส่จนขาดวิ่นแคว๊ก"กรี๊ดดด คุณติน" มิหนำซ้ำเขายังกดจมูกโด่งลั่นลงที่ซอกคอของเปียโน เรียวปากหยักได้รูปดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเต็มไปหมด"ฮื้อ ปล่อยนะ" เธอทั้งร้องขอและร้องไห้ในคราวเดียวกัน แต่เพราะช่วงนี้คนตัวเล็กพักผ่อนน้อยจึงทำให้เธอเกิดหมดสติในอ้อมกอดเขาพรึ่บเมื่อเห็นว่าร่างเล็กหยุดนิ่งไม่ขัดขืนต่อสู้ ออสตินจึงละใบหน้าคมนั้นขึ้นมอง "เปียโน อย่ามาแกล้งสลบแถวนี้"แต่เธอก็ไม่ได้ตอบโต้ หญิงสาวหลับตานิ่ง ร่างกายของเธอค่อนข้างที่จะอ่อนเพลีย ออสตินช้อนเธอขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว ก่อนที่เขาจะพาเธอมาที่เตียงกว้าง จากนั้นก็เรียกธนาคนสนิทเขามาพบ"ไปตามหมอมา""ครับนาย" กลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย ออสตินเลยสั่งลูกน้องให้ตามหมอมาตรวจอาการของเปียโนเวลาผ่านไปสักพักหมอก็ถูกพาตัวเข้ามาในห้องหรูของออสติน "อยู่ ๆ เธอก็เป็นลม"เป็นประโยคบอกเล่าของออสติน เมื่อบอกหมอแบบนั้นเขาก็เดินออกไปรอข้างนอกปล่อยให้หมอได้ตรวจเปียโนโดยละเอียด ทว่า เพียงแค่หมอเห็นเสื้อผ้าของเธอที่ขาดวิ่นรอยจ้ำแดงที่คอก็พอรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าพูดเพ
รถหรูเคลื่อนตัวมาได้ไกลพอสมควร อยู่ ๆ เขาก็สั่งให้ลูกน้องจอดสนิท"จอด! มึงลงไปได้แล้ว" เสียงเข้มดุดันสั่งให้ธนาลงจากรถคำสั่งนั้นมันทำให้เปียโนต้องมองตามร่างของคนสนิมเขา"จอดทำไมค่ะ?" หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะงวยงงอยู่สักนิดเพราะเห็นว่าถนนเส้นนี้ท่าทางจะเปลี่ยว หรือเพราะว่าเธอเอาเงินเขามาแล้วขาดการติดต่อเขาเลยอยากจะทำร้ายเธอแววตาหวาดกลัวเริ่มแสดงออกชัดเจน เปียโนเริ่มมองฝั่งถนนทั้งสองข้าง ด้านนอกมีคนของเขายืนคุมอยู่"เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเสียเวลาตามหาเธอนานเท่าไร""คือ หนูมีเหตุผล พอดี.....ฮีบ" ชายหนุ่มไม่รอให้เธอได้พูดอะไรมาก เขาเอื้อมมือมาบีมที่คางของเธอแน่นขึ้นจนคนตัวเล็กรู้สึกถึงความเจ็บ"หนูเจ็บ""อย่ามาเล่นลิ้น ตอนที่ฉันให้เงินเธอฉันเคยบอกเธอว่ายังไงจำไม่ได้หรือเธอแกล้งลืม"ใบหน้าของเปียโนเริ่มบิดเบี้ยวเพราะแรงบีบของฝ่ามือชาย ปากเล็กเริ่มห่อขึ้นรูปจนเธอต้องรีบยกมือมาแกะมือเขาแต่มันก็ไม่เป็นผล เขายังบีบแน่นแต่พอเห็นว่าเธอน่าจะเจ็บจนมีน้ำตาเขาก็เริ่มปล่อยมือออกฮึก!น้ำตาของเปียโนไหลออกมาอาบแก้มแต่เธอก็พยายามอดกลั้นไม่ให้มีเสียงสะอื้นร่ำไห้ เธอรู้สึกเจ็บบริเวณข้างแก้มรู้สึกเหมือนกรามมันจ
วันเวลาผ่านไปจากสองวันก็เป็นหนึ่งอาทิตย์การตอบสนองด้านการผ่าตัดของนิลภพดีขึ้นตามลำดับจนได้ออกจากห้องไอซียูมาพักฟื้นที่ห้องธรรมดาได้ปกติ ส่วนเปียโนก็มีหน้าที่เฝ้าไข้พ่อไม่ห่างกาย และยังคงเดินทางกลับไปที่ห้องเพื่อให้อาหารสำลีทุกวันห้องพัก(อพาร์ตเมนต์)"สำลีช่วงนี้แกต้องอยู่คนเดียวก่อนรู้ไหม พ่อยังต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล แกอาจจะเหงาหน่อยนะแต่ไม่ต้องห่วงฉันไม่ทิ้งแกแน่นอน"เหมียวพูดจบก็ยิ้มให้แมวสีขาวขนฟูเธอมองมันด้วยความรักเจ้าสำลีกำลังก้มหน้ากินอาหารจากในถาด ส่วนเปียโนเธอก็มองอยู่อย่างนั้นรู้สึกว่าการเกิดเป็นสัตว์ก็น่าจะดีเหมือนกันไม่ต้องรับรู้อะไรมาก ไม่ต้องแบกรับสภาพหนี้สินที่มากมายระหว่างที่ใช้ความคิดเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นก๊อก ก๊อกร่างเล็กหันไปมองตามเสียงเธอย่นคิ้วเรียวลงเล็กน้อยไม่รู้ว่าใครที่มาเคาะเรียกตอนนี้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูห้องแอ๊ดด"มาหาใครคะ" เมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ที่หน้าห้องเธอก็รีบเอ่ยถามตามมารยาทกลัวว่าจะมีคนเคาะห้องผิด"เธอใช่ไหมลูกสาว นิลภพ""ใช่ค่ะ""เราสองคนมาตามสัญญาที่เขียนไว้ในใบเงินกู้ ครบสัญญาที่ต้องใช้ดอกใช้ต้นแต่เห็